พี่ชายที่แสนดี
โปรยปราย ธารนที : ตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เธอเป็นน้องสาวของพี่ชายมาตลอด แม้ว่าในใจจะรักพี่ชายมากเหลือเกิน ทั้งรักทั้งศรัทธาโดยเฉพาะพี่วุฒิ พี่ชายที่แสนดีที่สุดในหัวใจของเธอ เอกวุฒิ : รักน้องสาวที่สุด ทั้งรักทั้งห่วง และหวงอย่างรุนแรง แต่เข้าใจว่า น้อ
ผู้เข้าชมรวม
1,455
ผู้เข้าชมเดือนนี้
10
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทที่ 1 พี่ชายของน้อง
“พี่คะ พี่วุฒิ”
ร่างสูงบึกบึน ผิวสีแทนจากแดดลมในทะเลเป็นเวลานานหยุดชะงักลง หันมองตามเสียงเรียก คิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากันคลายออก เมื่อเห็นร่างโปร่งบาง ผิวขาวผ่องอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นและเสื้อแขนในตัวสีชมพูอ่อน วิ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว ผมยาวปลิวสยาย น้องสาวของเขา น้องสาวตัวน้อย ๆ คนเดียว เอกวุฒิอ้าแขนออกรับร่างบอบบางที่โถมมาหาอย่างแสนรัก กี่ปี ๆ กี่ครั้งที่พบกันน้องสาวมักต้อนรับเขาด้วยอ้อมกอดแห่งความรัก และสีหน้าที่บ่งบอกถึงความยินดีอย่างสุดแสนที่ได้เจอกัน เอกวุฒิรัดร่างหอมกรุ่นด้วยแป้งเด็กของเจ้าร่างบางอย่างแนบแน่นเหมือนจะกลืนร่างบางให้หายเข้าไปในอกล่ำ ๆ ก่อนคลายออกจูบหน้าผากเนียนสวยอย่างเอ็นดูสุดหัวใจ
แล้วดันร่างเจ้าหล่อนสุดแขน มองสำรวจร่างตรงหน้าเหมือนที่เขาปฏิบัติเสมอเวลาเจอกัน น้องสาวของเขาเติบโตขึ้นอีกแล้ว ไม่ได้เจอกันแปดเดือน ดูเหมือนน้องจะเป็นสาวขึ้นจนผิดตา ใบหน้างดงามรูปไข่ ผิดไปจารูปหน้าของพี่ ๆ และวงศ์ญาติ ผิวขาวผ่องอยู่คนเดียวท่ามกลางคนผิวสองสีในครอบครัว เจ้าหล่อนยิ้มจนตาหยีเห็นฟันเรียบขาวสวยเหมือนไข่มุกชั้นดี ริมฝีปากแดงระเรื่อด้วยเลือดฝาดน้องสาวของเขาอีกไม่กี่วันก็จะสิบแปดแล้วเป็นนิสิตมหาวิทยาลัย
“พี่วุฒิคะ นุชดีใจที่สุดเลย เป็นไงบ้างคะเที่ยวนี้สินค้า”
ธารนทีซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนของพี่ชายลึกเข้าไป เอกวุฒิรู้สึกไม่ค่อยดีเพราะน้องเป็นสาวแล้ว อกนุ่ม ๆ ของหล่อนเบียดชิดหน้าอกของเขา ซึ่งอาจเป็นกริยาที่ไม่ค่อยน่าดูในสายตาคนภายนอก แต่เห็นจะต้องว่ากล่าวสั่งสอนกันตอนหลัง
“หนูนุช โตขึ้นแยะนะจ๊ะน้อง”
ธารนทียิ้มกับสีหน้าเหมือนบิดาที่ยอมรับไม่ได้ว่าบุตรของตนเองเติบใหญ่แล้ว เจ้าหล่อนย่นจมูกให้ใบหน้าคมเข้มของผู้เป็นพี่พร้อมกอดแขนแข็งแรงแนบอก
“แน่สิคะ...ใครจะเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ได้ตลอดไปละคะ”
เจ้าหล่อนจับมือของเขาเดินแกว่งกลับบ้าน ด้วยท่าทางเริงร่าเหมือนนกตัวน้อย ๆ ปากสวยขยับเป็นคำพูดชวนคุยซักถามไปตลอดทาง
“มีอะไรมาฝากนุชบ้างละคะ”
เอกวุฒิยิ้มใส่ศีรษะที่ปกคลุมด้วยผมดำขลับอย่างเอ็นดู
“เยอะมากเลยละคนขี้งก”
สาวน้อยแหงนหน้าขึ้นหัวเราะให้เขาก่อนกอดแขนล่ำ ๆ ของพี่ชายแนบอกมากขึ้น พร้อมอิงศีรษะกับต้นแขนแข็งแรงอย่างประจบ เสียงหวานกล่าวว่า
“พี่วุฒิขา เที่ยวนี้อยู่นาน ๆ นะคะ จนกว่าจะถึงวันเกิดของนุชนะคะ ปีนี้นุชอายุสิบแปดปีแล้ว โอ้...”
น้ำเสียงและท่าทางที่เจ้าหล่อนเดินดักหน้าเขาพร้อมส่งยิ้มสดใสที่ทำให้หัวใจของเขาอ่อนลงด้วยความรักเอ็นดู แขนเรียวสวยประสานไปด้านหลัง ทำให้เขาขมวดคิ้วเล็ก ๆ เมื่อสังเกตว่าทรวงอกของสาวน้อยใหญ่ตามตัว ครั้งต่อไปเขาจะสั่งไม่ให้สวมเสื้อกางเกงที่โชว์เนื้อหนังแบบนี้ น้ำเสียงของสาวน้อยบ่งบอกถึงความภาคภูมิใจที่ตนเองอายุสิบแปด เห็นสีหน้าฝัน ๆ ของน้องสาวแล้วเอกวุฒิต้องจับศีรษะของหล่อนเขย่าอย่างหมั่นไส้ เจ้าหล่อนหัวเราะหน้าเป็น ทำตาหยีล้อเลียนเขา
“ดูสิคะ ดูสิ พี่วุฒิผิวเข้มขึ้นอีกแล้วนะคะ”
สาวน้อยเทียบแขนเรียวขาวผ่องกับแขนล่ำสันของพี่ชายยิ่งเหมือนข่มให้หล่อนดูบอบบางเหมือนกลึงเกลาจากสิ่งที่บอบบางที่สุด น้องสาวที่แสนบอบบางน่าทะนุถนอมของเขา
“ทำไมน๊า ทุกคนผิวเข้มสวย มีแต่นุชคนเดียวที่มีผิวซีด ๆ ขาวจั๊วะน่าเกลียดแบบนี้”
ธารนที ปรารภพลางขมวดคิ้วมองผิวขาวผ่องของแขนตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์ ปากสวยยื่นยาว เอกวุฒิยิ้ม คว้าคอของน้องสาวมากอดอย่างแสนรัก รู้ว่าเรื่องสีผิวทำให้น้องสาวกังวลมาตลอดโดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีการพบปะญาติพี่น้องและมีคนกล่าวขึ้นมาว่าสาวน้อยไม่เหมือนสมาชิกคนไหนในครอบครัว น้องสาวจะหน้าเสียไปหลายวัน
“นุชก็เหมือนคุณแม่ไงจ๊ะสาวน้อย”
เสียงหัวเราะหวานใสเหมือนระฆังแก้วดังมาจากปากเรียวสวย
“ไม่ยุติธรรมเลยบ้านเรามีผู้หญิงสองคนผู้ชายตั้งสี่คน ขาดทุนที่สุด”
เอกวุฒิหัวเราะชอบใจ ครอบครัวของเขาเมื่อมีการโต้แย้งและเรียกร้องการลงคะแนนเสียง(ครอบครัวประชาธิปไตย ทันสมัยเสียด้วย) ผู้เป็นบิดามักบอกว่าฝ่ายตนชนะเพราะมีถึงสี่คนทำให้ผู้เป็นมารดาและน้องสาวโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงทุกครั้ง สาวน้อยมักถูกพี่ชายคนที่สองล้อเสมอว่าเป็นเด็กที่หยิบมาผิด ด้วยหากจะหาความเหมือนของรูปร่างหน้าตาแล้ว ไม่มีแม้กระทั่งความคล้ายคลึงกับใครสักคนในครอบครัว
***เรื่องแรกของนินีในเด็กดีนะคะ ฝากด้วยคะ
ผลงานอื่นๆ ของ ชลชินี นักเขียน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ชลชินี นักเขียน
ความคิดเห็น