ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปาฏิหารแห่งรัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ความห่วงใย

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 48


    ตอนที่ 3

    “คุณธงชัย มาเยี่ยมฉันเหรอค่ะ มีธุระอะไรหรือ ปล่าว” ยุพาถามสามี

    “ยุพา คุณเป็นไงบ้าง สบายดีรึเปล่า ดูคุณซูบไปเยอะเลยนะ”ธงชัยพูดขึ้น

    “ฉันคิดถึงลูก หนึ่งเป็นไงบ้างค่ะ”ยุพาถามด้วยน้ำตา

    “คุณอย่าคิดมากนะ หนึ่งสบายดี เค้ายังฝากผมมาบอกคุณว่าเค้ารักคุณและจะตั้งใจเรียนเพื่อคุณ วันนี้หนึ่งเปิดเทอมวันแรกแล้วนะ ลูกเรียนรัฐศาสตร์ คุณพ่อคุณแม่ผมเค้ารักหลานคนนี้มากเลยคุณรู้รึเปล่า คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ”ธงชัยพูดกับยุพา

    “จริงเหรอค่ะ”ยุพายิ้มขึ้นท่ามกลางน้ำตาที่อาบแก้ม

    “คุณก็เหมือนกัน ทำความดีให้เยอะๆ คุณจะได้ลดโทษ ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีนะ”ธงชัยปลอบภรรยา

    “หมดเวลาเยี่ยมแล้วครับ คุณยุพาเชิญครับ”ราชทัณฑ์เรียกเตือน

    “ผมไปก่อนนะ แล้วปิดเทอมผมจะพาลูกมาหาคุณ”ธงชัยพูดพร้อมจับมือภรรยาตน

    “ค่ะ ฝากบอกหนึ่งด้วยนะค่ะว่าฉันคิดถึง บอกให้เค้าตั้งใจเรียนให้มาก ฉันไปแล้วนะค่ะ”ยุพาฝากทิ้งท้ายก่อนที่ราชทัณฑ์จะพาตัวเข้าไป

    ................................................................................

        หนึ่งเมื่อมาถึงมหาวิทยาลัยก็รีบเดินเข้าห้องเรียน ระหว่างทางก็เดินไปชนเข้ากับนักศึกษาผู้หญิงคนหนึ่ง

    “โอ๊ย! อะไรกันเนี่ยคนยิ่งรีบๆ อยู่”หนึ่งบ่น

    “ขอโทษนะค่ะคือ ฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะ”เสียงเอื่อยๆตอบขึ้น

    “ไม่เป็นไรหรอกแล้วเธอเป็นอะไรมากมั๊ย”หนึ่งถามพร้อมฉุดนักศึกษานั้นขึ้นมา

    “ขาฉัน มันเจ็บสงสัยจะแพลง”เสียงตอบกลับ

    “มะ เดี๋ยวฉันช่วย”หนึ่งประคองนักศึกษาสาวคนนี้ขึ้นมา

    “แล้วเธอเรียนอยู่คณะไหนหล่ะ”หนึ่งถาม

    “รัฐศาสตร์”หญิงสาวตอบ

    “จริงเหรอ ฉันก็เรียนรัฐศาสตร์ ฉันชื่อหนึ่งนะ”หนึ่งแนะนำตัว

    “ฉันชื่อแพม ดีใจที่ได้รู้จักนะ”แพมพูดด้วยสีหน้าแจ่มใส

    “งั้นเดี๋ยวเรารีบเข้าห้องเรียนกันดีกว่า เดี๋ยวฉันช่วยประคองก็แล้วกัน”หนึ่งประคองแพมเดินเข้าไปในห้องเรียน

    “ขอโทษนะค่ะ ตรงนี้มีคนหนึ่งรึเปล่าค่ะ”เสียง2เสียงดังขึ้นข้างๆหนึ่ง

    “ไม่มีค่ะ ”หนึ่งตอบ

    และในขณะที่2สาวกำลังจะนั่งอยู่นั้นก็มีเสียงหนึ่งตวาดขึ้นมา

    “มี ฉันเอาไว้แล้ว” “ใช่พวกเราจองเอาไว้แล้ว”เสียงหนึ่งดังขึ้นตามมาด้วยอีกสองเสียง

    “แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรวางไว้นี่”หญิงสาวสองคนตอบ

    “ก็ฉันใช้สายตาของฉันจองไงรู้อย่างงี้ ยั้งไม่รีบลุกขึ้นมาอีก”เสียงที่แสบแก้วหูดังขึ้น

    “นี่แล้วพวกเธอเป็นใครกันหะ”หนึ่งลุกขึ้นถาม

    “ฉันชื่อแพ็ตตี้และ 2 คนนี้เป็นเพื่อนสนิทของฉันแนะนะตัวซิจ๊ะ”แพ็ตตี้บอกเพื่อนสาวสองคน

    “ฉันน้ำผึ้ง” “ส่วนฉันน้ำค้าง”หญิงสาวทั้ง2คนแนะนำตัว

    “ฉันไม่ได้สนใจชื่อของพวกเธอเลยนะแต่พวกเธอควรจะมีน้ำใจมากกว่านี้นะสองคนนี่เค้ามาก่อนที่ตรงนี้เค้าต้องได้นั่ง”หนึ่งพูด

    “นี่หล่อน หล่อนเป็นใครยะมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินฉัน”แพ็ตตี้พูดแบบไม่พอใจ

    “สงสัยนังนี่ มันต้องบ้าวิชาแน่ๆเลย ขนาดยังไม่ได้เรียนนะเนี่ยแพ็ตตี้”น้ำผึ้งพูด

    “ใช่ บ้าแน่นอนของจริง”น้ำค้างเสริม

    “เธอซิบ้า คนอะไรตัวก็ดำแถมใจยังดำอีก”แพมพูดเพราะทนฟังไม่ไหวแล้ว

    “นี่เธอสองคนนั่งเลยไม่ต้องไปสนใจเสียงนกเสียงกาเสียงหมาเสียงแมว”หนึ่งพูดแบบเยาะๆ 3 สาว

    2สาวไม่รอช้ารีบนั่งทันที

    “นี่เธอฉันบอกให้ลุกไง”แพ็ตตี้รีบโวยวายขึ้น

    “นี่พวกเธอทั้ง 3 คน เมื่อไหร่จะนั่งถ้าไม่มีที่นั่งก็มานั่งตรงนี้ under floor”อาจารย์ผู้สอนพูดขึ้น

    “อะไรค่ะอาจารย์ under ฟง under floor เนี่ย”แพ็ตตี้ย้อนถาม

    “อ้าว! นี่พวกเธอจบม.6มาจากที่ไหนจ๊ะและจบมาได้ยังไงเนี่ย under floor ก็พื้นไงจ๊ะ เชิญ!” อาจารย้ำ

    “อาจารย์”สามสาวพูดขึ้นพร้อมกัน

    ทุกคนในห้องต่างพากันหัวเราะชอบใจทำให้ทั้งสามสาวอายมาก

    “ไม่ได้ยินอาจารย์พูดเหรอจ๊ะ ว่าให้นั่งบนพื้น เชิญซิจ๊ะ”หนึ่งเย้ย

    “ฝากไว้ก่อนเถอะอีนังบ้า”แพ็ตตึ้Weenใส่

    “แกซิบ้า อ๋อ! ฉันไม่ใช่ธนาคารเพราะฉะนั้นฉันไม่รับฝากยะ”หนึ่งตรอกกลับทันที

    “กรี๊ด! นี่แก แกย้อนฉันเหรอ”แพ็ตตี้โวยวาย

    “นี่เธอจะเรียนกันรึเปล่า ถ้าไม่อยากเรียน กรุณาออกไปข้างนอก”อาจารย์พูด

    “ขอโทษค่ะอาจารย์ น้ำผึ้งน้ำค้าง go”แพ็ตตี้พูดแล้วก็เดินออกไป

    “ขอบใจเธอมากนะเธอชื่ออะไรเหรอ”หญิงสาวคนหนึ่งถามขึ้น

    “เราชื่อหนึ่งส่วนนี่แพม”หนึ่งแนะนำ

    “เราชื่อแพร แล้วนี่ไหม”แพรแนะนำ

    “ยินดีที่ได้รู้จักนะ แพรไหม เธอ 2 คนเป็นแฝดกันเหรอ”หนึ่งถาม

    “ใช่จ๊ะ”แพรไหมตอบพร้อมกัน

    “งั้นเดี๋ยวตอนกลางวันเราไปทานข้าวด้วยกันนะ”แพมเสริม

    “ได้เลย”หนึ่ง แพร ไหม ตอบพร้อมกัน

    ............................................................................

    “วันนี้เราจะทานข้าวกับอะไรดีเนี่ย”หนึ่งถาม

    “ฉันจะกินเย็นตาโฟ”แพมพูด

    “เราสองเอาด้วย”แพรไหมพูด

    “พวกเธอกินเย็นตาโฟกันหมดเลยเหรองั้นฉันเอาด้วยดีกว่า”หนึ่งพูด

    “จะรออะไรอีกหล่ะ ไปกันเลยดิ๊”แพมพูดขึ้น ทั้ง 4 วิ่งกันไปที่โรงอาหาร

    “นั่งตรงนี้ดีกว่า”แพรชวน

    ทั้งสี่ทานข้าวพร้อมกัน

    “นี่เธอเราขอนั่งด้วยคนได้ไหม”หญิงสาวคนหนึ่งถามแบบยิ้มแย้ม

    “ได้ซิ ทานเย็นตาโฟเหมือนพวกเราเลยเนอะ”ไหมพูด

    “ใช่เราชอบ เราชื่อบัวบงกชหรือจะเรียกสั้นๆว่าบัวก็ได้นะ”บัวแนะนำ

    “เราชื่อหนึ่ง แล้วนี่ก็แพม ส่วนสองคนนี่ แพรกับไหม”หนึ่งแนะนำ

    “ยินดีที่ได้รู้จักนะ”บัวกล่าวขึ้น

    “เช่นกันจ๊ะ”ทั้งสี่พูดพร้อมกัน

    “จะว่าอะไรไหม ถ้าฉันอยากจะขอเป็นเพื่อนกับพวกเธอด้วยคนหนะ”บัวถามขึ้น

    “ไม่”ทุกคนหันไปมองหน้าหนึ่งพร้อมกัน

    “มองอะไร ฉันยังพูดไม่จบ ไม่ปฏิเสธไงหล่ะ แหมทำเป็นลุ้น ล้อเล่นหน่า ขำขำ”หนึ่งพูดทุกคนหัวเราะพร้อมกัน

    “นี่แพ็ตตี้ นั่นมันยัยพวกนั้นนี่”น้ำผึ้งสะกิดแพ็ตตี้

    “ไหน มันอยู่ไหน”แพ็ตตี้เริ่มฉุน

    “นั่นไง มันอยู่นั่น แต่เอะดูเหมือนว่ามันจะมีสมาชิกใหม่เพิ่มมาอีกหนึ่งนะ”น้ำค้างพูดสมทบ

    “มันจะมากันกี่คนก็ชั่ง ฉันขอตบนังหนึ่งสักทีโทษฐานที่มันหักหน้าฉันต่อหน้าเพื่อนๆ ฉันก็พอใจแล้วปะพวกเราบุก”แพ็ตตี้สั่ง

    “นี่น้ำค้าง น้ำผึ้ง คนบ้านนอกดูยังไง๊ยังไงก็บ้านนอกอยู่วันยังค่ำนะ แม้กระทั่งตอนกินข้าว”แพ็ตตี้พูดหาเรื่อง

    “ใช่จ๊ะ ผิดกับพวกเรานะไฮโช๊ ไฮโซ ฉันรู้สึกว่าถ้าอยู่ตรงนี้นานๆแล้วฉันจะถูกฉุด”น้ำผึ้งพูดตาม

    “ฉุดอะไรเหรอจ๊ะน้ำผึ้ง”น้ำค้างถามแบบสงสัย

    “ก็ฉุด degreeของพวกเราให้ low classลงไงจ๊ะน้ำค้าง”น้ำผึ้งพูดทั้งสามหัวเราะพร้อมกัน

    “นี่แพม บัว แพร ไหมจ๊ะ พวกเธอได้กลิ่นเหม็นเน่ารึเปล่าอะ”หนึ่งเริ่มพูดยั่วทั้งเจ็ดทำท่าสูดดมเพื่อหากลิ่นนั้น

    “กลิ่นมันเหมือนหมาเน่า นี่พวกเธอใครต้องกินหมาเน่าเข้าไปในปากแน่เลย ถึงได้ส่งกลิ่นอบอวลอย่างนี้หนะ”หนึ่งพูดทำให้แพร ไหม แพม และบัวหัวเราะพร้อมกัน

    “นี่แก แกหลอกด่าพวกฉันเหรอ”แพ็ตตี้โวยวาย

    “ฉันไม่ได้เอ่ยชื่อเธอนะ แต่ถ้าเธออยากจะรับก็รับไปซิ”หนึ่งพูดแบบยั่ว

    “ฉันขอเอาเลือดปากแกออกสักฉาดเถอะอีนังหนึ่ง”แพ็ตตี้ยกมือขึ้นและตบมาที่หนึ่งอย่างแรงแต่หนึ่งหลบทันและผลักแพ็ตตี้หัวขมำกับชามเย็นตาโฟ

    “แพ็ตตี้”น้ำผึ้งน้ำค้างอุทานขึ้นมาพร้อมกัน

    “นี่นังหนึ่งแก แกทำฉัน อย่าอยู่เลยแก”แพ็ตตี้วิ่งโล่หาหนึ่งทั้งคู่ตบตีกันพัลวันหนึ่งทั้งเตะ ทั้งต่อยแพ็ตตี้

    “น้ำผึ้ง น้ำค้างยืนมองอะไรหล่ะ เข้ามาช่วยชั้นซิ”แพ็ตตี้สั่ง

    น้ำผึ้งน้ำค้างทำท่าจะเข้าไป

    “นี่ถ้าเธอสองคนเข้าไปนะเธอเจอฉันสี่คนแน่”แพมพูด

    “ฉันไม่กลัวพวกแกหรอกไอ้พวกหมาหมู่”น้ำผึ้งพูด

    “ไม่กลัวก็เข้ามาดิ๊”บัวกวน

    ทั้งแปดตะลุมบอลกันวุ่นวาย แต่ก็ต้องหยุดเพราะมีเสียงหนึ่งดังขึ้น

    “หยุด! ผมบอกให้หยุด ไม่ได้ยินรึไง”เสียงที่พูดทำให้ทั้งหมดหยุดแล้วหันหน้าไปตามเสียง

    “พี่พี”แพ็ตตี้ น้ำค้างและน้ำผึ้งอุทาน

    “นี่ใช่พี่พี ที่เป็นเดือนมหาลัยรึเปล่าค่ะ อุ๊ย! หล่อจังเลย”แพ็ตตี้รีบวิ่งไปแสดงความใกล้ชิด

    “คุณไม่ต้องสนว่าผมเป็นใคร ผมเป็นรุ่นพี่ของพวกคุณ ที่นี่มันคือโรงอาหารไม่ใช่เวทีมวยถ้าอยากจะชกต่อยกันก็ไปเวทีมวยนู้น ไม่ใช่ที่นี่ กัดกันเหมือนหมา”พีระพลหันมาทางหนึ่ง

    “นี่ รุ่นพี่ทำไมพูดหมาหมาแบบนี้หล่ะ พูดให้มันเหมาะสมกับเป็นรุ่นพี่หน่อยซิ”หนึ่งพูดด้วยความไม่พอใจ

    “พี่พีค่ะ ช่วยแพ็ตตี้ด้วยค่ะ นัง เอ้ย! หนึ่งตบและตีแพ็ตตี้จนเจ็บไปหมดแล้วค่ะ”แพ็ตตี้ฟ้อง

    “ใช่ค่ะ มันสั่งพวกมันรุมต่อยน้ำผึ้งกับน้ำค้างด้วยนะค่ะ”น้ำผึ้งออเซาะ

    “ใครเป็นพี่ของพวกคุณ ผมเป็นรุ่นพี่ก็จริงแต่ผมยังไม่ได้รับพวกคุณเป็นน้องพวกคุณรู้ไหม พวกคุณทำแบบนี้ทำให้เสียชื่อเสียงของคณะมากแค่ไหน”     พีระพลหันมาทางหนึ่ง

    “นี่นาย พวกฉันก็ไม่อยากจะมีเรื่องหรอกนะถ้ายัยสามตัวนี่ไม่มายุ่งกับฉันก่อน”หนึ่งเถียงกับ

    “เห็นไหมค่ะนังเนี่ยมันปากร้ายมากแค่ไหน”แพ็ตตี้ออเซาะอีก

    “คุณควรจะรักษามารยาทมากกว่านี้นะให้สมกับเป็นชั้นปัญญาชนหน่อยพวกคุณเรียนถึงมหาวิทยาลัยแล้วไม่ใช่เด็กอนุบาล ทำไมไม่คุยกันด้วยเหตุผลชอบใช้แต่กำลังตัดสิน”พีระพลว่าให้หนึ่ง

    “นี่นาย นายอย่าถือว่านายเป็นรุ่นพี่แล้วจะมาว่ามาด่าอะไรก็ได้นะนายนั่นแหละไม่มีเหตุผล ใครเค้าก็เห็นว่าสามคนเนี่ย มาหาเรื่องพวกเราก่อน ทำอย่างนี้มันลำเอียงนี่หว่า”หนึ่งขึ้นเสียง

    “นี่น้อง กรุณาเปลี่ยนคำพูดเดี๋ยวนี้นะ รู้ไหมว่าพูดอยู่กับใคร”วีระวัฒน์พูดขึ้น

    “เรื่องของนายเหรอ”แพมตรอกกลับ

    ทั้งสองจ้องหน้ากันอยู่นาน

    “เฮ้ย! กูว่านะเราไปกันเถอะไอ้วัฒน์ ไอ้พี คนเค้ามองกันใหญ่แล้วหล่ะ”วิสุทธิ์ดึงแขน

    “ตอนเย็นกรุณาไปประชุมด้วยก็แล้วกันนะพวกเธอ”วิสุทธิ์หันมาสั่งบัว

    “ทำไมพวกฉันต้องไปด้วยหล่ะ”บัวพูด

    “ใช่มีเหตุจำเป็นอะไรที่พวกฉันจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของพวกนาย”หนึ่งเถียง

    “ก็ลองไม่ไปดูซิ ผมจะเอาเรื่องทั้งหมดไปฟ้องคณบดีคุณคงจะพอรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ”พีระพลพูดขึ้นทั้งสองมองหน้ากันด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่

    “แต่พวกเราสามคนจะไปนะค่ะ ใช่ไหม”แพ็ตตี้พูดพร้อมสะกิดน้ำผึ้งน้ำค้าง

    “ใช่ ใช่ค่ะ”น้ำผึ้งน้ำค้างตอบพร้อมกัน



    พีระพล วีระวัฒน์และวิสุทธิ์ เดินออกไป ทั้งสามเป็นนักศึกษาปีที่3ที่หลายคนให้ความสนใจ พีระพลเป็นประธานนักศึกษาและเป็นประธานว๊ากเกอร์แถมยังเป็นเดือนมหาวิทยาลัยด้วย วีระวัฒน์เป็นประธานชมรมดนตรีสากล และวิสุทธิ์ก็เป็นประธานชมรมคณะรัฐศาสตร์

    “พี่ พีขารอแพ็ตตี้ด้วยค่ะ”แพ็ตตี้รีบวิ่งไปประกบ

    “พี่วัฒน์ขารอน้ำผึ้งด้วยค่ะ”น้ำผึ้งไปบ้าง

    “พี่วิสุทธิ์ขารอน้ำค้างด้วยนะค่ะ”น้ำค้างวิ่งตาม

    “ยัยสามคนนี้ บ้าผู้ชายจริงๆ พวกเธอว่าไหม”แพรพูดขึ้น

    “เฮ้ย! หนึ่งเป็นอะไรไปว่ะ”ไหมถาม

    “เปล่า ฉันเกลียดนายพีระพลอะไรนั่นจังเลย”หนึ่งพูด

    “ใช่ ฉันก็เกลียดอีตาวีระวัฒน์เหมือนกัน”แพมพูดบ้าง

    “อย่าว่าแต่พวกเธอสองคนเลยฉันก็หมั่นไส้นายวิสุทธิ์นั่นเหมือนกันชอบใช้คำสั่ง”บัวพูด

    “นี่พวกเธอทั้งสามคนเป็นอะไรกันเนี่ย พี่ทั้งสามเค้าเป็นคนเด่นในมหาวิทยาลัยนะใครๆก็ชอบ”ไหมพูด

    “ใครจะชอบก็ชอบไปเถอะแต่ชั้นสามคนขอ บาย”หนึ่งพูด

    “นี่ระวังไว้นะ โบราณเค้าว่า เกลียดอะไรมักจะได้อย่างนั้นนะ”แพรยั่ว

    “ฉันขอตายดีกว่า” “ชั้นด้วย” “ใช่ฉันก็ด้วย”หนึ่งแพมและบัวพูดขึ้นมาพร้อมๆกัน

    “แล้วพวกเธอจะไปประชุมที่คณะมั๊ยหล่ะ”ไหมถาม

    “ไม่ไปได้ไง ก็นายพีขู่ซะขนาดนั้นหนะ”แพมพูด

    “เราจะไป ถ้าไม่ไปพวกนั้นก็นึกว่าเราไม่แน่จริงนะซิ”หนึ่งพูด

    ................................................................................

    “เฮ้ย! พวกเธอคนรอกันเต็มแล้วอ่ะ เราจะทำไงดี เราจะโดนลงโทษกันรึเปล่า”แพรถาม

    “ไม่หรอก” หนึ่งพูดแบบมั่นใจและเดินนำหน้าไป

    “อ้าว! มากันแล้วเหรอพวกเจ้าปัญหา”พีระพลพูดเยาะ

    “ใช่ค่ะ ชอบทำตัว เป็นพวกเจ้าปัญหา”แพ็ตตี้เสริม

    “ใครพูดกับเธอ เงียบแล้วนั่งลงเดี๋ยวนี้”พีระพลหันมาตวาดแพ็ตตี้

    “ทำไมมาสาย รู้ไหมว่า เล็ท ไปกี่นาที”พีระพลเริ่มซัก

    “15 นาที”หนึ่งตอบ

    “พวกเธอต้องถูกทำโทษ”พีระพลพูดต่อ

    “นี่นายพวกฉันก็มาแล้วนะ ถึงมันจะเล็ทไปหน่อยก็ชั่งเถอะแต่พวกเราก็รีบมาอยู่แล้ว”หนึ่งตอบ

    “เธอพูดคำว่ารีบเหรอ เธอเห็นคนที่มารอเธอไหม ทั้ง75คน รุ่นพี่ เพื่อนของพวกเธอ เค้ารอพวกเธอ 5 คนเนี่ยตั้ง 15 นาที จำไว้นะเวลาทุกนาทีสำหรับคนคณะนี้มีคุณค่าจำไว้”พีระพลเริ่มขึ้นเสียง

    “พวกเราขอโทษ”หนึ่งพูด

    “ทำไม น้องมีปากคนเดียวรึไง แล้วยัยนี่หล่ะยืนเป็นท่อนไม้อยู่ได้”วีระวัฒน์ว่าให้แพม

    “นี่นายมีสิทธิ์อะไรมาวิพากวิจารณ์ฉันยะ”แพมตอบกลับ

    “อ้อ! พูดเป็นเหมือนกันนี่ ปากดีซะด้วย”วีระวัฒน์แหย่

    “ใช่ นอกจากปากดีแล้ว มือยังดีอีกด้วยนะพร้อมจะตบคนได้สบายเลยหล่ะจะลองไหม”แพมเถียง

    “น้องแฝดสองคน เข้าไปนั่งได้ เราเพราะดูแล้วไม่ม่พิษมีภัยอะไร แต่คนนี่เข้าไปไม่ได้”วิสุทธิ์พูดขึ้นต่อ

    “ได้ไง นายหาเรื่องฉันรึไง ฉันไปยืนทับเท้านายอยู่เหรอไง ถึงได้”บัวพูดไม่ทันขาดคำ

    “นี่พูดให้มันดีๆหน่อยนะ เดี๋ยวก็โดนอีกคนหล่ะ สองคนนั่นจะเข้าไปนั่งดีดีหรืออยากจะถูกลงโทษ”วิสุทธิ์หันไปถามแพรไหม

    “ไม่ค่ะเราสองคนไม่เข้าไป”แพรตอบ

    “พวกเธอเข้าไปนั่งก่อนก็ได้นะ แพร ไหม”หนึ่งหันมาบอกเพื่อน

    “ไม่ ฉันไม่ไป” “ฉันก็ไม่ไปเหมือนกัน” แพรไหมตอบพร้อมกัน

    “ดี รักเพื่อนดี งั้นก็ลงโทษทั้ง5คนเลยก็แล้วกัน”วีระวัฒน์พูด

    “นี่นายจะลงโทษอะไรก็รีบบอกมา ทำเก็กอยู่นั่นแหล่ะ”หนึ่งพูด

    “นี่เธอ เมื่อกี้เธอว่าใครเก็ก เธอมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน”พีระพลโมโห

    “แล้วนายมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน”หนึ่งย้อน

    “น้องค่ะ น้องยังคงไม่รู้มั้งค่ะว่า นี่ พี่พีเป็นประธานนักศึกษาและเป็นประธานว๊ากเกอร์ของเรา ส่วนนี่พี่วัฒน์เป็นประธานชมรมดนตรี และเป็นกรรมการนักศึกษา และสุดท้ายพี่วิสุทธิ์เป็นประธานชมรมรัฐศาสตร์ของเราจ๊ะ”พี่รุ้งพูด

    “อะไรนะค่ะพี่ ทำไมพวกเราไม่รู้หล่ะค่ะ”แพมพูดพร้อมกับบัว

    “ถึงว่า นึกว่าตัวเองใหญ่คับซอยซิ ถึงชอบใช้อำนาจบังคับคนอื่น พวกคนใช้อำนาจบังหน้า”หนึ่งยังต่อว่าต่อขานอีก

    “นี่เธอ” พีระพลพูดยังไม่ทันจบ ก็มีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมา

    “นี่พี เราว่าน่าจะเริ่มประชุมกันได้แล้วนะ อย่าเคร่งครัดอะไรนักเลย น้องเค้ายังไม่ค่อยรู้อะไรหรอก น้องจ๊ะขอโทษพี่เค้าซะ แล้วเข้ามานั่งกับเพื่อนๆ”พี่รุ้งพูด

    “ก็ได้ แต่พวกเธอต้องขอโทษพวกผมก่อนตัวต่อตัว”พีระพลพูดแบบมีเลศนัย

    “นี่นาย ทำไมเรื่องมากอย่างนี้นะ  พี่ค่ะ”หนึ่งว่าให้พีระพลแล้วหันมาฟ้องพี่รุ้ง

    “ทำๆไปเถอะน้อง เราจะได้เริ่มประชุมกันเสียที”รุ่นพี่บอก

    “อ้าว! น้องแฝดมาก่อน ขอโทษเพื่อนก่อนที่ให้รอนาน”วิสุทธิ์พูด

    “เพื่อนๆค่ะ เรา สองคนขอโทษนะค่ะที่ทำให้รอนาน”แพรไหมพูดพร้อมกัน และก็จูงมือกันเข้าไปในแถว

    “นี่เธอสองคน มานั่งตรงนี้ซิ ตรงนี้ว่าง”เสียงของชายหนุ่มวัยเดียวกันดังขึ้น

    “ขอบใจนะ เราชื่อแพร ส่วนนี่ไหม”แพรแนะนำ

    “ยินดีที่ได้รู้จักนะ เรา กนพ และนี่นิพนธ์”กนพแนะนำ

    “เช่นกันนะ กนพ นิพนธ์”แพร ไหมพูดแบบยิ้มแย้ม

    “นี่เธอทั้งสามจะไปไหนอีกหล่ะ”พีระพลถาม

    “ก็จะขอโทษเพื่อนและก็เข้าไปในแถวเหมือนแพรกับไหมไง”หนึ่งตอบ

    “ใครว่า แพรกับไหมเค้าไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนพวกเธอสามคน ทำผิดต้องลงโทษตัวต่อตัว”พีระพลพูด

    “นี่มันแกล้งกันนี่นา”แพมบอก

    “ก็ใครเจาะปากให้เธอมาพูดหล่ะ”วีระวัฒน์เย้ย

    “พูดมาก เดี๋ยวก็เจาะปากให้จริงๆนี่”แพมตอบต่อ

    “แล้วนี่พวกนายจะทำอะไรกับพวกฉันเนี่ย”บัวเริ่มยัวะ

    “อยากรู้เหรอ เดี๋ยวคอยดู มานี่”วิสุทธิ์ดึงแขนบัวไปข้างหน้า

    “เพื่อนๆทุกคนครับ และน้องๆทุกคน ต่อไปคือบทลงโทษของคนผิดนะครับ”วิสุทธิ์พูดพร้อมดูหน้าบัว

    “นี่นายเพื่อนนายจะทำอะไรเพื่อนชั้น”หนึ่งถามพีระพล

    “ไม่รู้ แต่อย่าสนใจคนอื่นเลย เตรียมตัว เตรียมใจรับบทลงโทษของเธอดีกว่า”พีระพลพูดต่อ

    “หนึ่ง บัวจะเป็นไงบ้างเนี่ย”แพมถามหนึ่ง

    “ฉันก็ไม่รู้ คงไม่มีอะไรมากมั้ง”หนึ่งปลอบใจ

    “บัวบงกช หันหน้ามาทางผม”วิสุทธิ์สั่งบัว

    “หันไปทำไม”บัวถาม

    “ก็บอกให้หันก็หันมาซิ”วิสุทธิ์จับต้นแขนสองข้างของบัวหันมาทางตน

    “ว๊าย! พี่วิสุทธิ์ของฉัน เสร็จนังบัวใต้บกแน่นอนเลยอ่ะ”น้ำค้างบ่นพรึมพรำ

    “และบอกผมว่า ดิฉันนางสาว บัวบงกช รักพี่วิสุทธิ์มากเลยค่ะ และขอโทษที่ว่าให้พี่วิสุทธิ์นะค่ะ ต่อไปบัวจะทำตัวให้พี่วิสุทธิ์ชื่นใจค่ะ”วิสุทธิ์พูดด้วยหน้าตาชื่นบาน

    “เฮ้ย!” ทุกคนพากันพูดเสียงเดียวกันและจ้องมาทางบัวที่ยืนอึ้งอยู่

    “นี่นายจะบ้ารึไง ให้ฉันพูดอย่างนี้นะ”บัวย้อนคำ

    “หรือว่าเธออยากจะให้พวกเรา เสนอชื่อเธอเข้าคณบดี”วิสุทธิ์กวน

    “ก็ได้ ดิฉันนางสาวบัวบงกช”บัวพูดแบบไม่เต็มใจ

    “เดี๋ยวๆ ทำหน้าให้มันจริงจังหน่อย เวลาพูดจับมือด้วย”วิสุทธิ์กำชับ

    “อะไรนะ ไอ้บ้า”บัวโมโห

    “แล้วจะทำรึเปล่าหล่ะ”วิสุทธิ์ย้อน

    “ดิฉัน นางสาวบัวบงกช รักพี่วิสุทธิ์มากเลยค่ะ และขอโทษที่ว่าให้พี่วิสุทธิ์นะค่ะ ต่อไปบัวจะทำตัวให้พี่วิสุทธิ์ชื่นใจค่ะ”บัวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง จนดูเหมือนว่าเป็นเรื่องจริง วิสุทธิ์ยืนอึ้งกับคำพูดของบัว เพราะเป็นส่งที่ตนเองไขว่คว้าค้นหามาเนิ่นนาน

    “นี่นาย เป็นอะไร พอใจรึยัง”บัวถาม แต่ใจบัวตอนนี้ มันกำลังจะทะลักออกมาด้วยอาการตื่นเต้นกับคำพูดของตัวเอง

    “พอใจ พอใจมากเลยด้วย”คำพูดคำนี้ทำให้ทุกคนอึ้ง

    “ฉันเข้าไปในแถวได้รึยังหล่ะค่ะ รุ่นพี่ขา”บัวเริ่มกวน

    “เชิญ เข้าไปได้” วิสุทธิ์รู้สึกตัวแล้วแกล้งทำเสียงแข็ง

    “เป็นอะไรของเค้านะ”แพมบ่น

    บัวเดินเข้าไปในแถวด้วยอาการเขินอายและไปนั่งลงข้างๆ แพรกับไหม

    “ธิดารัตน์ถึงคิวเธอแล้วหล่ะ”วีระวัฒน์ดึงแขน    แพมออกมา

    “เฮ้ย! จะทำอะไรฉันไอ้บ้า”แพมต่อว่า

    “รับรองไม่เหมือนเมื่อกี้แน่”วีระวัฒน์พูด

    “ดี เหมือนหล่ะน่าดู”แพมบ่น

    “ดูนะทำอย่างนี้ music บาทเดียวดูเพลิน อะไรไม่เกินเมียงู.......”วีระวัฒน์เต้นให้ดู

    “นี่นาย นายจะให้ฉันเต้นเมียงูเนียนะ”แพมทวนคำ

    “ใช่ ทำไม่ได้รึไง ตั้งท่าซิ”วีระวัฒน์บังคับ

    แพมกับวีระวัฒน์เต้นเมียงูจนจบเพลง

    “ฉันเข้าไปได้รึยัง”แพมถามแบบอายมากที่ต้องมาเต้นอะไรแบบนี้

    “ยัง เธอต้องบอกฉันก่อนว่า ผัวขา เมียเหนื่อยแล้วขอเข้าไปนั่งก่อนนะค่ะ”วีระวัฒน์เริ่มกวน

    “ฮือ! อีนังบ้านี่ไม่เหมาะสมจะเป็นเมียพี่วัฒน์ของน้ำผึ้งเลยนะ”น้ำผึ้งคร่ำครวญ

    “นี่นายจะบ้าเหรอ ฉันไปเป็นเมียนายตั้งแต่เมื่อไหร่”แพมทำท่าไม่พอใจ

    “ก็เมื่อกี้ไง ฉันเป็นงู ส่วนเธอก็เป็นเมียงูและจะนั่งไหม”วีระวัฒน์สวนกลับ

    “ก็ได้ ฝากไว้ก่อนนะนาย ผัวขา เมียเหนื่อยแล้ว ขอเข้าไปนั่งก่อนนะค่ำ”แพมพูด

    “ได้จ๊ะเมียจ๋า เดี๋ยวผัวตามไป”วีระวัฒน์ยั่วต่อแต่แพมเดินกระทืบเท้าเข้าแถวไป

    “นี่พวกนายมันโรคจิตขนานแท้จริงๆนะเนี่ย”หนึ่งว่าให้พีระพล

    “เดี๋ยวก็รู้ว่าโรคจิตไม่โรคจิต”พีระพลเริ่มคิดแผนการออก

    “นายจะทำอะไรฉันนะ”หนึ่งถามแบบกังวล

    “มานี่ แล้วบอกทุกคนว่า เธอรักฉัน บอกอยางไรก็ได้ให้หวานๆ ซึ้งๆ ดอกกุหลายเอามาให้ฉันด้วย คุกเข่าอ้อนวอนด้วยนะ”พีระพลยิ้มกริ่ม

    “นี่นายมันจะมากเกินไปแล้วนะ”หนึ่งไม่พอใจและฉุนเป็นอย่างมาก

    “อย่าบอกนะว่าคนเก่งอย่างเธอทำไม่ได้ หนึ่งฤทัย”พีระพลยั่ว

    หนึ่งเดินไปหยิบดอกกุหลาบมาคลุกเข่าพร้อมยื่นให้พีระพล

    “พูดด้วยซิ ซึ้งๆนะ”พีระพลบอก

    หนึ่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะพูด

    “พี่พีค่ะ หนึ่งรักพี่พีค่ะ ได้โปรพรับรักจากหนึ่งนะค่ะ รับดอกกุหลาบไปที”หนึ่งพูด

    “ไม่ ฉันไม่รับ ตอนกลางวันเธอด่าฉันแสบมาก แต่มีสิ่งหนึ่งไถ่โทษได้นะ”พีระพลบอกต่อ

    “นี่นาย อะไรอีกหล่ะ ว่ามา”หนึ่งไม่พอใจมาและอายที่โดนหักหน้า

    “หอมแก้มฉัน แล้วฉันจะยกโทษให้”พีระพลพูด

    “นี่นาย”หนึ่งพูด แต่ตาเหลือบไปเห็นลูกสุนัขตัวหนึ่งเดินมา

    “ก็ได้ ฉันจะหอมแก้มนาน แต่นายต้องหลับตาก่อนนะ”หนึ่งพูดทำให้ทุกคนถึงกับอึ้งตาค้าง

    “อีนังหนึ่ง แก แกมันเป็นมารหัวใจของฉันตลอดเลย”แพ็ตตี้หน้าเสีย

    ส่วนพีระพลไม่รอช้ารีบหลับตาทันที หนึ่งได้ทีอุ้มหมาขึ้นมา

    “อย่าพึ่งลืมตานะค่ะ หนึ่งจะหอมแล้วนะ”พูดไม่ทันขาดคำลิ้นสากๆ ก็ประทับตรงหน้าของพีระพล

    พีระพลรีบลืมตาขึ้นมาดูทันที

    “นี่เธอ”พีชี้หน้าหนึ่ง

    “อ้าว! ฝากด้วยนะค่ะ”หนึ่งหัวเราะชอบใจเดินเข้าแถวไป

    “หนึ่งแกเยี่ยมมากเลยว่ะ สะใจจัง”แพมพูด

    “เอาหล่ะเสียเวลามากแล้ว เข้าเรื่องกันเลยนะ คือวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ทางคณะเราได้ประชุมและลงมติกันว่าจะรับน้องนอกสถานที่กัน พี่จึงเรียกน้องๆมาประชุมกันวันนี้”พี่รุ้ง รุ่นพี่ที่เป็นเลขาคณะกรรมการนักศึกษาพูดขึ้น

    “ที่ไหนหล่ะค่ะ”แพ็ตตี้แทรก

    “ทะเลจ๊ะ”พี่รุ้งตอบทันที

    “ทะเล”ทุกคนพูดมาเป็นเสียงเดียวกัน

    “พี่จะถามว่าน้องๆคนไหนไปได้หรือไม่ได้นะจ๊ะ จะได้คำนวณถูก”พี่รุ้งชี้แนะ

    “พวกเราสามคน ไปแน่ค่ะ”แพ็ตตี้ขึ้นต้น

    “นี่พวกเธอจะไปรึเปล่า”กนพถาม

    “เราอยากไปเที่ยวทะเล ตั้งแต่เกิดมาเรายังไม่เคยเห็นทะเลเลย”แพรไหมพูด

    “ใช่ชั้นก็เหมือนกัน”แพมพูด

    “งั้นฉันไปด้วย”บัวพูดด้วย

    “แล้วเธอหล่ะหนึ่ง”กนพถาม

    “ไม่รู้ ดิ๊ ต้องถามคุณปู่คุณย่าดูก่อนหนะ”หนึ่งตอบ

    ทุกคนในที่นี้ไปหมด

    “พวกน้องทั้งเจ็ดหละค่ะไปรึเปล่า”พี่รุ้งย้ำ

    “พวกเรา6คนไปแน่ครับแต่หนึ่งเค้า ต้องไปถามผู้ปกครองก่อน”นิพนธ์ตอบแทน

    “ที่ไม่ไปกลัวผมรึเปล่าจ๊ะที่รัก”พีระพลยั่ว

    “ฉันไม่ได้กลัวนายนะพูดให้มันดีดีหน่อย”หนึ่ง สวนกลับทันที

    “งั้นก็ไปซิ”พีระพลยั่วอีกแต่ในใจของเขาอยากให้หนึ่งไปมากที่สุดเพราะเค้ามีความรู้สึกถูกชะตากับหนึ่งตั้งแต่แรกเห็น

    “ตกลงฉันจะไป ฉันจะพิสูจน์ ให้เห็นว่าฉันไม่ได้กลัวนาย”หนึ่งรับคำ

    ................................................................................

    “คุณปู่ คุณย่าสวัสดีค่ะ”หนึ่งยกมือไหว้

    “จ๊ะหลานรัก เป็นไงบ้างเปิดเทอมวันแรก”คุณบังอรถามหลานสาว

    “ก็สนุกดีค่ะ หนึ่งได้เพื่อนใหม่ตั้งหกคนนะค่ะ”หนึ่งพูด

    “เหรอจ๊ะ ผู้หญิงหรือผู้ชายหล่ะจ๊ะ”คุณบังอรแซว

    “ผู้หญิง4 ชาย 2 ค่ะ”หนึ่งตอบตรงๆ

    “คุณย่าค่ะวันศุกร์ที่จะถึงนี้หนึ่งต้องไปรับน้องนอกสถานที่ คุณย่าให้หนึ่งไปนะค่ะ”หนึ่งพูด

    “รับน้องเหรอลูก”คุณบังอรทำท่าครุ่นคิด

    “ก็ไปซิลูก เราไปร่วมกับสังคมนะ เราต้องเอาความคิดของส่วนรวมเป็นใหญ่นะลูก”คุณสุชาติสอนหลานสาว

    “ขอบคุณค่ะ คุณปู่คุณย่า”หนึ่งพูด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×