ปาฏิหารแห่งรัก - นิยาย ปาฏิหารแห่งรัก : Dek-D.com - Writer
×

    ปาฏิหารแห่งรัก

    สองแม่ลูกกอดกันร้องไห้ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย และเหตุการณ์เลวร้ายที่อยู่ตรงหน้า คำมั่นสัญญาที่แม่ได้ให้ไว้กับลูกสาวเป็นกำลังใจให้ลูกสาวต่อสู้กับสิ่งที่ตัวเองต้องเผชิญโดยมีหนุ่มมาดเข้มคอยอยู่เคียงข้าง

    ผู้เข้าชมรวม

    533

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    533

    ความคิดเห็น


    14

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  13 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  30 ก.ย. 50 / 16:32 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ตอนที่ 11... 

    รุ่งเช้า

    อรุณสวัสค่ะคุณปู่คุณย่าหนึ่งทักทายปู่กับย่าตน

    จ๊ะหลาน อ้าวทำไมวันนี้ตื่นเช้าจังเลยหล่ะลูกคุณบังอรถามหลานสาว

    คือว่าวันนี้หนึ่งกะว่าจะไปออกกำลังกายสักหน่อยค่ะ เครียดมาหลายวันแล้วอยากไปผ่อนคลายบ้างหนึ่งพูด

    ก็ดีเหมือนกันนะ ออกกำลังกายบ้าง ระบายสิ่งที่เครียดที่มันรกสมองออกไปจิตจะได้ไม่ฟุ้งซ่านคุณสุชาติเสริม

    ค่ะ คุณปู่ งั้นหนึ่งไปก่อนนะค่ะหนึ่งพูดแล้ววิ่งออกไป

    จ๊ะ แล้วย่าจะให้สมศรีเตรียมนมไว้ให้นะลูกคุณบังอรตะโกนบอกหลาน

    ค่ะ คุณย่า

    หนึ่งวิ่งมาหยุดตรงที่เก้าอี้ไม้ยาวที่สวนสาธารณะ

    เฮอ! นานๆ วิ่งทีเหนื่อยเหมือนกันนะเราหนึ่งบ่นพึมพำมืออีกข้างหนึ่งปาดเหงื่อที่อยู่ที่หน้าผาก

    น้ำครับเสียงชายคนหนึ่งพูดดังขึ้นข้างหูหนึ่ง

    หนึ่งรีบเหลียวมองไปตามเสียงนั่น ทั้งสองจ้องกันนานพอสมควร

    เอ๊ะ! นี่เราเคยรู้จักกันมาก่อนมั๊ยค่ะหนึ่งถามขึ้น

    ผมก็คิดว่าอย่างนั้นหนะครับ ผมรู้สึกคุ้นหน้าคุณยังไงบอกไม่ถูกเหมือนกันครับชายหนุ่มกล่าวขึ้น

    ทั้งสองพยายามจ้องหน้ากัน

    พี่ทรงวุฒิหนึ่งพูดขึ้น

    นี่คุณรู้จักชื่อผมด้วยเหรอครับชายหนุ่มถามแบบงงๆ

    ทำไมจะไม่รู้จักหล่ะค่ะ นี่หนึ่งไงค่ะลูกสาวแม่ยุพา พ่อมงคล พี่จำไม่ได้แล้วเหรอหนึ่งพูดแบบน้อยใจ

    หนึ่ง นี่หนึ่งจริงๆเหรอนี่ โตจนพี่แทบจำไม่ได้เชียวนะ สาวขึ้น และก็สวยขึ้นด้วย แล้วหนึ่งมาทำไมที่นี่หล่ะ แล้วพ่อกับแม่หนึ่งหล่ะทรงวุฒิถามแบบสงสัย

    เรื่องมันยาวหน่ะพี่ แล้วพี่เรียนถึงปีไหนแล้วหล่ะหนึ่งย้อนถาม

    พี่เรียนปี 3 แล้วหล่ะ แล้วเราจะเล่าเรื่องของเราให้พี่ฟังได้หรือยังทรงวุฒิคะยั้นคะยอ

    ก็ได้ เรื่องมันมีอยู่ว่าหนึ่งเราเหตุการณ์ทั้งหมดให้ทรงวุฒิฟัง

    พี่นึกอยู่แล้วว่า น้ามงคลต้องไม่ใช่พ่อแท้ๆของหนึ่งแน่นอน พ่อแท้ๆเค้าจะไม่พยายามลวนลามลูกสาวตัวเองหรอกทรงวุฒิพูด

    แต่หนึ่งสงสารแต่แม่หนะซิ ที่ต้องมารับกรรมหนึ่งพูดพร้อมน้ำตา

    อย่าร้องนะคนดีของพี่ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีแล้วนะ ต่อไปหนึ่งก็จะต้องเป็นข้าราชการไม่ใช้ เด็กกะโปโลอีกต่อไปทรงวุฒิโอบไหล่ของหนึ่งไปกอดและปลอบโยนแบบเบาๆ

    ทรงวุฒิเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกับหนึ่งที่คอยช่วยเหลือหนึ่งทุกครั้งเวลาที่หนึ่งถูกนายมงคลทำร้าย สองคนจึงสนิทสนมกันมาก ดังพี่ชายกับน้องสาว แต่ความรู้สึกของทรงวุฒิตอนนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแล้ว ทรงวุฒิพบหนึ่งแล้วนึกชอบทันที

    ทั้งสองนั่งคุยกันจับมือจับแขนกัน ตรงจังหวะกับที่พีระพลวิ่งผ่านมาพอดี

    หนึ่งพีระพลอุทานขึ้นเมื่อเห็นภาพข้างหน้า

    พีระพลยืนมองอยู่นานจนทั้งสองแยกจากกัน

    หนึ่ง เดี๋ยวพี่ไปก่อนนะ พรุ่งนี้พี่กะว่าพี่จะกลับไปบ้านหนะทรงวุฒิเอ่ยขึ้น

    จริงเหรอพี่ทรงวุฒิ พรุ่งนี้หนึ่งก็กะว่าจะกลับบ้านเหมือนกันหนึ่งจะไปเยี่ยมแม่หนึ่งพูดแบบไม่เสแสร้งแต่สีหน้าของพีระพลสู้จะไม้ดีนักที่เห็นเกาะแขนทรงวุฒิไว้แน่น

    เหตุผลอย่างนี่นี่เองที่เธอไม่ยอมรับรักฉันพีระพลบ่นกับตัวเอง

    ดีเหมือนกันพี่ก็เบื่อๆเหมือนกันที่ต้องกับบ้านคนเดียวมีเจ้าตัวยุ่งกับด้วยคงจะหายเหงาบ้างหล่ะและพี่ก็จะแวะไปเยี่ยมน้ายุพาแกด้วยทรงวุฒิพร้อมเอามือขยี้หัวหนึ่งเบาๆ

    งั้นพรุ่งนี้ เก้าโมงเจอกันที่สถานีรถไฟนะพี่ทรงวุฒิหนึ่งพูด

    ได้จ๊ะ งั้นเดี๋ยวพี่ไปก่อนนะทรงวุฒิโบกมือลาแล้วเดินจากไป

    ดีใจจริงที่ได้เจอพี่ทรงวุฒิหนึ่งบ่นพึมพำและยิ้มด้วยความดีใจ

    ยิ้มไม่หุบเลยนะสงสัยคงจะมีความสุขมากซิท่าเสียงหนึ่งดังมาข้างหลัง

    อ้าว! นายพี มาออกกำลังกายเหมือนกันเหรอ ไม่ยักกะเห็นเลยหนึ่งพูดตามอัธยาศัย

    ใช่ซิ เธอไม่เคยเห็นฉันในสายตาอยู่แล้วนี่พีระพลพูดกระแทกแดกดัน

    เอ๊ะ! นี่นายพูดอะไรของนายหนะ ฉันงงไปหมดแล้ว ดูหน้านายซิบึ้งเชียวทำยังกับไปกินรังแตนที่ไหนมาอย่างนั้นแหล่ะหนึ่งพูดแบบงง

    ก็ใครมันจะไปหน้าตาสดใสเหมือนนายคนนั้นหล่ะ อย่านึกว่าฉันไม่เห็นนะพีระพลพูดแบบน้อยใจ

    อ๋อ! ฉันรู้แล้วหล่ะ พี่ทรงวุฒิเค้าเป็นหนึ่งกำลังจะอธิบาย

    เธอไม่ต้องพูดหรอก ฉันรู้เรื่องหมดแล้วพีระพลตัดบท

    ก็ดี รู้แล้วก็ดีไม่ต้องได้อธิบายอะไรเยอะหนึ่งพูดต่อเพราะคิดว่าพีระพลเข้าใจว่าทรงวุฒิเป็นพี่ชายของหนึ่ง

    ขอบคุณนะ ฉันไปหล่ะพีระพลพูดสั้นๆแล้วหันหลังกลับทันที

    นี่ พรุ่งนี้ฉันจะกลับบ้านแล้วนายจะไปส่งฉันไหมหนึ่งตะโกนตามหลัง

    คงไม่แล้วหล่ะ พรุ่งนี้ฉันไม่ว่างหนะ พอดีฉันต้องไปส่งคุณพ่อซื้อกล้วยไม้หนะ ขอโทษนะ ฉันไปหล่ะพีระพลพูดแล้วเดินจากไป

    เป็นอะไรของเค้าเนี่ย ถ้าจะเพี้ยนหนึ่งบ่นกับตัวเองแต่รู้สึกผิดหวังนิดๆ

    ...............................................................................

    เช้าวันรุ่งขึ้น

    คุณปู่คุณย่าค่ะ เราไปกันเถอะค่ะหนึ่งบอกปู่กับย่าตน

    จ๊ะ นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาแล้วเราไปกันเถอะคุณคุณสุชาติกล่าวขึ้น

    แล้วเราจะไม่รอตาพีก่อนเหรอคุณบังอรถามขึ้น

    คงไม่แล้วหล่ะค่ะ เค้าบอกหนูเมื่อวานแล้วว่าเค้าไม่ได้ไปต้องไปทำธุระกับคุณพ่อของเค้าหนึ่งพูดด้วยใบหน้าที่เศร้า

    งั้นเราไปกันเถอะค่ะคุณ ปะหลานคุณบังอรพูดขึ้น

    รถพร้อมแล้วค่ะท่านสมศรีเดินมาบอก

    ทุกคนเดินพร้อมกันขึ้นรถ

    สักพักรถก็แล่นมาถึงสถานีรถไฟโดยมีรถของพีระพลตามมาติดๆ

    คุณปู่คุณย่าค่ะ หนึ่งไปแล้วนะค่ะ ดูแลตัวเองให้ดีดีนะค่ะ สวัสดีค่ะหนึ่งยกมือไหว้ปู่ย่าตน

    หนูก็เหมือนกันนะจ๊ะ ดูแลตัวเองให้ดีดี ฝากวามคิดถึงหาพ่อหนูด้วยนะ และฝากเยี่ยมแม่แทนปู่กับย่าด้วยหล่ะคุณบังอรพูด

    หนูเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียวมันอันตราย ระมัดระวังตัวด้วยนะหลานคุณสุชาติเสริม

    ค่ะคุณปู่ คุณปู่ไม่ต้องเป็นห่วงนะค่ะ พอดีหนึ่งเจอกับคนบ้านเดียวกันหนะค่ะ แล้วพี่เค้าก็จะกลับบ้านเหมือนกัน หนึ่งก็เลยโชคดีนิดหนึ่งหนึ่งบอกปู่ย่า

    ผู้หญิงหรือผู้ชายจ๊ะหลานคุณสุชาติถามหลานสาว

    ผู้ชายค่ะ แต่คุณปู่คุณย่าไม่ต้องเป็นห่วงนะค่ะ พี่ทรงวุฒิเค้าเป็นคนดี เค้าคอยช่วยหนึ่งตลอดตอนที่หนึ่งถูกพ่อมงคลรังแกหนึ่งอธิบาย

    ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ขึ้นชื่อผู้ชายไว้ใจมากไม่ค่อยนะหลาน แล้วนายทรงวุฒิอะไรนั่นอยู่ที่ไหนหล่ะรถไฟจะออกอยู่แล้วยังไม่เห็นหน้าเลยคุณสุชาติพูดเอาเรื่องเหมือนกัน

    พีระพลยืนมองห่างๆ

    หนึ่ง หนึ่ง รอนานมั๊ย พอดีรถมันติดมากไปหน่อยหนะ ขอโทษด้วยนะทรงวุฒิวิ่งหน้าตาตื่นมา

    ไม่นานหรอกพี่ หนึ่งก็มาถึงสักคู่นี่เอง พี่ทรงวุฒิค่ะนี่คุณปู่คุณย่าของหนึ่งค่ะหนึ่งแนะนำทรงวุฒิรีบยกมือไหว้ทันที

    สวัสดีครับ

    สวัสดี เราใช่มั๊ยที่ชื่อทรงวุฒิ ฝากดูแลหนึ่งด้วยนะคุณบังอรพูด

    ครับท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะครับทรงวุฒิรับคำ

    หนึ่งนี่เธอกล้าเอาไอ้บ้านี้กลับไปบ้านด้วยเหรอพีระพลเมื่อเห็นเหตุการณ์ข้างหน้าก็นึกไปเองต่างๆนานา

    เธอไม่เคยคิดถึงฉันแม้แต่น้อยพีระพลพูดแล้วก็หันหลังไป

     เสียงวูถไฟดังก้องเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาที่ขบวนรถไฟจะเคลื่อนที่แล้ว

    คุณปู่คุณย่าค่ะ หนึ่งไปก่อนนะค่ะหนึ่งบอกปู่ย่า

    จ๊ะลูก โชคดีนะทั้งสองคนโบกมือให้หลานสาว

    ผมขอตัวนะครับสวัสดีครับทรงวุฒิยกมือไหว้คุณสุชาติและคุณบังอร

    อืม โชคดีคุณสุชาติพูดสั้นๆ

    ทั้งคู่เดินขึ้นรถไฟโบกมือลาปู่ย่าตน

    หนึ่ง สงสัยคุณปู่คุณย่าคงจะหวงหนึ่งหน้าดูนะทรงวุฒิถาม

    ใช่คุณปู่คุณย่าดีกับหนึ่งมากเลยหล่ะหนึ่งพูด

    ทั้งสองคุยกันไปตลอดทาง

    นี่คุณ คุณสังเกตนายทรงวุฒิอะไรนั่นมั๊ยคุณบังอรถามสามี

    อะไรเหรอคุณสุชาติย้อนถาม

    ดิฉันว่า นายคนนี้ต้องคิดลึกซึ้งกับหลานเราแน่เลยค่ะ ดิฉันไม่ค่อยไว้ใจเลยคุณบังอรทำท่าไม่สบายใจ

    คิดมากหนะคุณ คงไม่มีอะไรหรอก เราต้องเชื่อใจหลานเราซิคุณสุชาติปลอบ

    ดิฉันก็หวังว่าอย่างนั้นแหล่ะค่ะคุณบังอรคลายความตรึงเครียดลงไปบ้าง

    หนึ่งเธอใจร้ายมากเลยนะ เธอทำท่าเหมือนจะมีใจให้ฉันแต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลยพีระพลพึมพำแล้วดึงโทรศัพท์มาโทรหาวิสุทธิ์

    เฮ้ย! ไอ้วิสุทธิ์แกอยู่ไหนว่ะ

    ฉันก็อยู่บ้านหนะซิถามได้

    ไหนเอ็งว่าจะไปฮ่องกงไง

    ขี้เกียจว่า เซ็ง

    งั้นเอ็งออกมาหาข้าหน่อยซิว่า ร้านเดิมพีระพลสั่ง

    เออๆก็ได้

    เวลาผ่าน

    เฮ้ย! มีอะไรว่ะ ถึงเรียกฉันมาด่วนอย่างนี้วิสุทธิ์ถาม

    มีเรื่องกลุ้มนิดหน่อยว่ะ

    เรื่องหนึ่งใช่ไหมวิสุทธิ์ย้อนถามทันที

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น