"รักแรก" - "รักแรก" นิยาย "รักแรก" : Dek-D.com - Writer

    "รักแรก"

    คุณยังจำความรักครั้งแรกของคุณได้มั้ย

    ผู้เข้าชมรวม

    655

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    655

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 ส.ค. 52 / 15:25 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      รักแรก

      ชาครีย์นรทิพย์

                      อาทิตย์ ยืนนิ่งชะงักงันอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ของโรงเรียนเก่า และเริ่มลังเลกับการตัดสินใจมาเข้าร่วม
      งานเลี้ยงรุ่น ศิษย์เก่าคืนสู่เหย้า ในขณะที่ความทรงจำวัยเยาว์พรั่งพรูเข้ามาในความคิด
                      จากภายนอก แม้หลายสิ่งหลายอย่างดูเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งเรือนไม้เก่า ๆ ที่เคยใช้เป็นอาคารเรียน
      ของนักเรียนมัธยมต้นที่ถูกแทนที่ด้วยตึกสูง 10 ชั้น หรือร้านรวงบริเวณหน้าโรงเรียนที่เปลี่ยนแปลงไป และมี
      ร้านสะดวกซื้อ และร้านเกมส์ ร้านอินเตอร์เน็ต เข้ามาแทนที่ แต่โครงอาคารของโบสถ์คริสต์ที่อยู่ในมุมด้านใน
      ของตัวโรงเรียนก็ยังคงอยู่ที่เดิม เช่นเดียวกับรูปปั้นของนักบุญเจ้าของชื่อโรงเรียน ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บริเวณ
      ลานกว้างหน้าอาคารหลัก ก็ยังคงยืนให้การต้อนรับนักเรียนอย่างอบอุ่นเหมือนเช่นเคย
                      อาทิตย์เรียนที่โรงเรียนชายล้วนแห่งนี้ ตั้งแต่ประถมต้นจนมัธยมปลาย จึงมีเรื่องราว ความหลังและประสบการณ์มากมายที่ผูกพันกับสถานที่แห่งนี้
                      ทั้งที่ดีและไม่ดี
                      รวมไปถึงความรักครั้งแรกของเขาด้วย
                      ซึ่งก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ ในช่วงที่ผ่านมา เขาเลือกที่จะไม่สุงสิงกับเพื่อน ๆ ร่วมโรงเรียน และปฏิเสธที่กลับมาที่โรงเรียนแห่งนี้อีก
                      แต่ในปีนี้ เขาได้ข่าวจาก โต้ง เพื่อนสนิทคนเดียวที่เขายังคบหาอยู่ ว่า มิสพรชนก ไม่สบาย จนอาจต้องลาออกจากการเป็นอาจารย์
                      เขาจึงพบว่าตัวเองมายืนอยู่ที่หน้าโรงเรียนเก่าในเวลานี้

                                                                                      ***************

                      มิสพรชนก เป็นครูสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ ม. 1 ของอาทิตย์ และแม้เขาจะได้มีโอกาสเรียนภาษาอังกฤษกับมิสฯ แค่ 2 ปี แต่ช่วงเวลาดังกล่าว ก็เป็นช่วงเวลาที่อยู่ในใจเขาเสมอมา  
                      เขาจำได้ว่า สมัยเด็ก ๆ เขาเกลียดการเรียนภาษาอังกฤษเข้าไส้ อาจเพราะครูสอนภาษาอังกฤษคนแรก
      ของเขา ในช่วงประถมต้น คือ มาสเตอร์สมชาย ที่ดุมหาศาล จนนักเรียน ทุกคนกลัวจนตัวสั่น มาสเตอร์สมชาย
      เน้นให้นักเรียนท่องจำศัพท์ภาษาอังกฤษมากกว่าที่จะสอนให้พวกเขาเข้าใจว่า กำลังเรียนภาษาอังกฤษกันไปเพื่ออะไร โดยมีไม้เรียวของมาสเตอร์ ที่มักหวดใส่เด็กที่ลืมทำการบ้าน หรือสอบตก อย่างไม่ยั้ง เป็นตัวกระตุ้นให้
      ทุกคนตั้งใจเรียน และมันก็เพียงพอที่จะทำให้อาทิตย์ตั้งหน้าเรียนภาษาอังกฤษพอที่จะไม่สอบตก แต่ก็ไม่เคยมีความผูกพันหรือชอบใจภาษาอังกฤษที่เขาและเพื่อน ๆ พากันท่องจำแบบนกแก้ว นกขุนทอง

                      พอขึ้น ป. 5 อาทิตย์และเพื่อน ๆ พากันดีใจที่จะไม่ต้องเรียนกับมาสเตอร์สมชายอีก
                      แต่ความยินดีของพวกเขาก็สั้นนัก เมื่อพบว่า ครูสอนภาษาอังกฤษคนใหม่ คือ มิสพรพรรณ ซึ่งได้ชื่อว่า
      ดุไม่แพ้มาสเตอร์สมชายเลยทีเดียว
                      อาทิตย์ออกจะกลัวมิสพรพรรณมากกว่ามาสเตอร์สมชายเสียด้วยซ้ำ ถึงขนาดที่ทำให้เขากล้าลอกข้อสอบเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต
                      ซึ่งมันเป็นการลอกข้อสอบที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เพราะนอกจากจะไม่ได้คำตอบที่ต้องการแล้ว ยังถูกมิสพรพรรณจับได้คาหนังคาเขา ขณะยื่นมือหลาไปขอคำตอบการทดสอบประจำสัปดาห์จาก โต้ง เพื่อนสนิท
      ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
                      สาเหตุที่ทำให้อาทิตย์ต้องลอกข้อสอบก็เพราะว่า เขาไม่สบายและขาดเรียนไปสองวัน ทำให้ไม่ได้อ่าน
      หนังสือ และไม่รู้ว่ามิสฯ จะออกข้อสอบอะไร
                      เขาจำได้ว่ามือใหม่หัดลอกข้อสอบอย่างเขา เหงื่อตกท่วมตัว เมื่อถูกมิสฯ จับได้
                      และกลัวจะถูกมิสฯ ทำโทษ พอ ๆ กับที่กลัวว่ามิสฯ จะนำเรื่องนี้ไปเล่าให้พ่อ แม่ ของเขาฟัง

                      แต่มิสฯ ก็แค่เอาไม้บันทัดมาฟาดลงบนฝ่ามือเขา 4 5 ครั้ง พอเป็นบทเรียน อาจจะด้วยความสงสารว่า
      เขาเพิ่งหายป่วยกลับมา หรืออาจจะด้วยความสมเพชและเห็นใจในความพยายามลอกข้อสอบที่ล้มเหลวที่สุด
      ในประวัติศาสตร์
                     
                                                                                      ***************

       

                      ทัศนคติของอาทิตย์ต่อวิชาภาษาอังกฤษเปลี่ยนไปเมื่อขึ้นเรียนชั้น ม. 1
                      เขาจำวันแรกที่มิสพรชนก เดินเข้ามาในห้องเรียนได้อย่างดี
                      อาทิตย์และเพื่อน ๆ  กำลังพูดคุยกันเสียงดังตามประสาเด็กผู้ชายซน ๆ เมื่อเวลาผ่านไปเกือบ 15 นาที
      ในคาบภาษาอังกฤษช่วงบ่ายแล้ว แต่ครูสอนภาษาอังกฤษประจำคาบนั้นยังไม่มา ทำให้พวกเขาพากันฝันหวาน
      ว่าจะได้นั่งเล่นกันอย่างสบายอกสบายใจ
                      แต่แล้ว มาสเตอร์วิชัย ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำระดับ ก็เดินเข้ามาในห้อง ทำให้เสียงพูดคุย และเสียงหัวเราะที่ดังอยู่เมื่อครู่เงียบกริบ และมีอาจารย์ผู้หญิงคนหนึ่งเดินตามเข้ามาอย่างเงียบ ๆ ด้วยท่าทางเขิน ๆ
                      เด็กหนุ่มทั้งห้องนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ด้วยความเกรงกลัวมาสเตอร์วิชัย พอ ๆ กับความสนอกสนใจ
      ในตัวอาจารย์ผู้หญิงคนใหม่
                      มงคล ซึ่งเป็นหัวหน้าชั้น รีบดันตัวเองลุกขึ้นยืนและตะโกนเสียงดังให้เพื่อน ๆ ในห้องลุกขึ้นทำความเคารพอาจารย์ทั้งสองคน พลอยทำให้เพื่อร่วมห้อง ผมสั้นเกรียนในชุดนักเรียนเสื้อแขนสั้นสีขาว และกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินเข้มลุกขึ้นพรึบพรับพนมมือไหว้อาจารย์อย่างพร้อมเพรียงกัน
                     
      ทุกคน... นั่งลงได้ มาสเตอร์วิชัย เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น มาสเตอร์ขอแนะนำมิสพรชนก

      ซึ่งจะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษชั่วคราว ไปก่อน
                      ทุกคนนั่งลงช้า ๆ มองหน้ากันเลิกลัก ก่อนที่สายตาส่วนใหญ่จะหันมาจับจ้องอยู่ที่อาจารย์สาว ผมสีดำสลวยยาวเลยบ่า ในชุดกระโปรงสีครีม
                      มาสเตอร์วิชัย พยักหน้าให้กับอาจารย์ใหม่ เป็นเชิงให้กำลังใจ ก่อนที่จะเดินออกจากห้องเรียนไป

      เงียบ ๆ ทิ้งให้อาจารย์สาวอยู่ท่ามกลางเด็กหนุ่มกว่า 30 คน
                      แล้วอาจารย์พรชนก ก็เริ่มขานชื่อพวกเราทีละคน ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนหวานที่สุดตั้งแต่อาทิตย์
      เคยได้ยินมาในโรงเรียนแห่งนั้น
                     
      ไก่ เสียงกระซิบของโต้ง ซึ่งนั่งอยู่โต๊ะเรียนข้าง ๆ ฉุดอาทิตย์จากผวังค์ ไอ้ไก่ มิส เรียกชื่อนายแล้วนะ
                     
      มาครับมิส โต้งรีบขานรับและยกมือขึ้น โดยแทบไม่รู้ตัว ด้วยความตกใจ
                     
      มนตรีใช่มั้ย มิส ถาม

                      ไม่ใช่ครับ อาทิตย์นิ่งไปครู่หนึ่ง เมื่อตระหนักว่าโดนเพื่อนแกล้ง ท่ามกลางเสียงเสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมห้องที่ดังระเบิดขึ้นมาด้วยความเฮฮา ทำเอามิสพรชนก อดอมยิ้มไปด้วยไม่ได้
                     
      เอาล่ะ ๆ อาจารย์สาวรีบปราม ตกลงเธอชื่ออะไรนะ
                      อาทิตย์รู้สึกหน้าแดงด้วยความเขินอาย หันตาขวาง ไปมองทางโต้ง ที่กำลังนั่งยิ้มอย่างภูมิใจ และนึก อยากจะเอื้อมมือไปเขกหัวเพื่อนสักทีที่แกล้งกันอย่างนี้              
                     
      อาทิตย์ครับมิส เด็กหนุ่มตอบเสียงอ่อย
                      มิสพยักหน้ารับ ก้มหน้าหาชื่อของเขาในแผ่นรายชื่อที่อยู่ในมือ ก่อนที่จะขานชื่อนักเรียนคนอื่น ๆ
      ในห้องจนครบทั้ง 35 คน
                      เสร็จแล้วจึงหันไปทางกระดานดำ หยิบช๊อล์คขาวที่หักครึ่ง ขึ้นมาแท่งหนึ่ง แล้วบรรจงขีดตัวอักษรภาษาอังกฤษลงบนกระดาน  
                     
      ไหน อาทิตย์ อ่านสิว่ามิสเขียนอะไร อาจารย์สาว เอ่ยขึ้นทันทีที่เขียนเสร็จ
                      เด็กหนุ่มเจ้าของชื่อกลืนน้ำลายลงคอด้วยความหวาดหวั่น เกรงว่า อาจารย์สาวสวยเบื้องหน้า
      จะกลายเป็นอาจารย์ที่ดุ และมีไม้เรียวติดมือเสมอ ไม่ต่างจากครูสอนภาษาอังกฤษ คนก่อน ๆ ของเขา

       

                                                                                      ***************

       

                      มิสพรชนก สวยมากเลยเนอะ โต้งชวนคุย ในระหว่างที่นั่งทานข้าวกลางวันในโรงอาหาร
                      อาทิตย์เงยหน้าขึ้นมาจากชามก๋วยเตี๋ยวที่กำลังทานอยู่ และมองหน้าเพื่อนด้วยแววตาที่บ่งบอก
      ถึงความเจ็บใจไม่หาย ที่โดนแกล้งจนทำให้กลายเป็นคนที่ถูกอาจารย์เรียกใช้ เรียกถามในห้องเรียนเป็นประจำ
                      แม้นักเรียนมัธยมปลายทุกคนในยุคนั้น จะถูกบังคับให้ตัดทรงนักเรียนที่สั้นเกรียน แต่โต้ง กลับเป็น
      คนหนึ่งที่มักจะจงใจตัดผมผิดทรงเสมอ โดยปล่อยให้ผมด้านหน้ายาวกว่าปกติ จนเหมือนหย่อมหญ้าที่ถูกเครื่องตัดหญ้า ตัดข้ามไป แต่โต้งภูมิใจกับปอยผมนั้นมาก และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพยายามจัดมันให้เข้าทรงด้วยความทะนุถนอม  

                      อาทิตย์สังเกตเห็นแววตาของเพื่อนรัก ที่ฉายแววสดใสและเพ้อฝัน เวลาที่เอ่ยถึงมิสพรชนก แล้วก็
      รู้สึกถึงความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นมาท่ามกลางหัวใจ
                     
      เหรอ... อาทิตย์ตอบอย่างไร้ความรู้สึก

                      หากไม่นับพวกนักร้อง และดาราแล้ว ประสบการณ์การเรียนในโรงเรียนชายล้วน ทำให้เขาไม่ได้ใกล้ชิดหรือสันทัศกับเพศตรงข้ามสักเท่าไหร่ เพราะนอกจากมิส ที่สอนในโรงเรียนและญาติ ๆ ผู้หญิงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันแล้ว เขาก็แทบไม่รู้จักผู้หญิงอื่นเลย
                     
      นายว่า มิส ไม่เหมือนอึ้งย้งในมังกรหยกเหรอ
                      คำเปรียบเทียบของโต้ง ทำให้ภาพของ
      องเหม่ยหลิง ในบทอึ้งย้ง ที่ร้ายบ้าง น่ารักบ้าง ที่กำลังโด่งดัง
      จากละครมังกรหยกที่ฉายอยู่ทางโทรทัศน์ และถือว่าเป็นขวัญใจของ
      เด็กผู้ชายในยุคนั้น โลดแล่นเข้ามาใน
      ความคิดของอาทิตย์
                      และทำให้เขานึกถึง มิสพรชนก ในชุดสีขาวกำลังภายในของแม่นางอึ้งย้ง ที่กำลังผจญภัยไปกับ
      หวงเย่อหัว ในบทของก๋วยเจ๋ง แล้วก็ทำให้อดหัวเราะออกมาดัง ๆ ไม่ได้

                      ถ้ามิสพรชนก เป็นอึ้งย้ง เราอยากเป็นก๋วยเจ๋ง โต้ง ยังไม่วายพร่ำเพ้อพรรณา

                      มิสพรชนก กลายเป็นเหมือนสายลมแห่งความสดชื่น ที่ทำเอาทั้งเด็กนักเรียนและบรรดามาสเตอร์
      หนุ่ม ๆ ในโรงเรียน รู้สึกหลงใหลไปตาม ๆ กัน เพราะเธอดูสวยและสาวกว่ามิสคนอื่น ๆ และยังมีบุคลิกที่
      ร่าเริง อารมณ์ดี และเป็นกันเองกับทุกคน
                      อาทิตย์มองหน้าโต้งอย่างหมั่นไส้ ทำท่าเหมือนจะเอ่ยอะไรออกมา แต่ก็เงียบไป และก้มหน้าก้มตา
      ทานก๋วยเตี๋ยวต่อไปอย่างเงียบ ๆ
                                     

                                                                                      ***************

       

                      อาทิตย์เดินเข้าไปในงานเลี้ยงด้วยความประหม่า รู้สึกอึดอัดและสับสนเหมือนปลาไกลน้ำ
                      เขาหันซ้าย หันขวา เลิกลั่ก ราวพยายามมองหาใครสักคนที่คุ้นหน้าคุ้นตา
                      เขามีเพื่อนร่วมรุ่นนับร้อยคน แต่กาลเวลาที่ล่วงเลยไปโดยที่เขาไม่ได้ติดต่อกับเพื่อน ๆ เหมือนทำให้
      เขากลายเป็นคนแปลกหน้าในหมู่คนแปลกหน้า
                      เสียงดนตรี และเสียงร้องคาราโอเกาะของเพื่อนร่วมรุ่น ที่ดังมาจากลำโพงขนาดใหญ่ข้างเวที ยิ่งทำให้หัวใจเขาเต้นระรัว
                     
      ไก่!” ชายหนุ่มหันไปมองทางที่มาของเสียงทันที และพบชายหนุ่มวัยกลางคนกำลังเดินมุ่งหน้ามาทางเขา
                     
      โต้ง เขาขานกลับไปด้วยความโล่งใจ พอ ๆ กับความยินดี
                      พลางเดินไปสวมกอดเพื่อนรักในวัยเรียน กลิ่นเหงื่อ และกลิ่นเบียร์ ลอยมาสัมผัสปลายจมูกของ
      อาทิตย์
                      ดูโต้งแทบไม่เปลี่ยนไปเลย อาจจะดูอ้วนท้วมขึ้นบ้าง ตามกาลเวลา และผมที่เริ่มมีสีขาวเข้ามาแทรมอาจจะน้อยลงสักนิด แต่ดวงตาฉายแววนักฝันของเขาก็ยังเจิดจ้า เหมือนเดิม
                      เป็นไงบ้างวะโต้งถอยตัวเองออกไปก้าวหนึ่ง และเพ่งพิจารณาใบหน้าของเพื่อนเก่าอย่างสำรวจตรวจตรา นายไม่เปลี่ยนไปเลยนะ
       
                     อาทิตย์ไม่รู้ว่า โต้งพูดจริงหรือไม่ เพราะในช่วงหลังนี้ เขารู้สึกตัวเองแก่ตัวลงไปเยอะ อาจจะเพราะ
      ต้องนั่งทำงานจับเจ่า อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทุกวี่ทุกวัน จนกลายเป็นข้ออ้างสำหรับการไม่ออกกำลังกาย
                     
      นายก็เหมือนกัน ไม่ได้คุยกันตั้งนาน สบายดีนะ
                     
      ก็จะคุยกันได้ไงวะ โทรไปหาทีไร นายก็ไม่ค่อยรับโทรศัพท์ พอชวนมางานเลี้ยงรุ่น ชวนไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ก็ไม่เคยมา โต้งต่อว่าด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง
                     
      ทำงานออฟฟิต มันก็อย่างนี้แหละ อาทิตย์แก้ตัวข้าง ๆ คู ๆ
                     
      นายมาก็ดีแล้ว... น้ำเสียงโต้งเปลี่ยนไปเป็นจริงจัง มิสพรชนก ไม่สบายมาก แต่เมื่อครู่ ก็ยังถามถึงนายอยู่เลย
                     
      เหรอ อาทิตย์กลืนน้ำลายลงคอเสียงดัง
                     
      ถ้ามิสรู้ว่า นายมา ก็คงดีใจ

       

                                                                                      ***************

       

                      มิสพรชนก มีวิธีการสอนภาษาอังกฤษให้สนุกด้วยการนำเพลงเก่า ๆ ในยุค 50 60 มาเปิดให้นักเรียนฟัง สัปดาห์ละเพลงสองเพลง และให้นักเรียนจับกลุ่มกันถอดเนื้อเพลงและแปลความหมายออกมา ซึ่งมันครื้นเครงกว่าการพร่ำอ่านบทเรียนจากหน้าหนังสืออย่างเดียวมากมายนัก และพลอยทำให้อาทิตย์ค่อย ๆ เปิดใจรับภาษาอังกฤษทีละนิด แต่กระนั้น มิสพรชนก ก็ไม่ได้ใจดีอย่างไม่มีเหตุผล นักเรียนคนไทยที่ไม่ทำการบ้าน
      หรือไม่สนใจในห้องเรียน ก็จะถูกมิสลงโทษด้วยการบังคับให้กลับมานั่งในห้อง หลังเลิกเรียนในยามเย็น
      และคัดคำภาษาอังกฤษเป็นหน้า ๆ เป็นการดัดนิสัย ซึ่งพลอยทำให้เพื่อนร่วมห้องหลาย ๆ คน ค่อย ๆ พัฒนา
      ตนเอง หรือตั้งใจเรียนมากขึ้น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาเล่นฟุตบอลในตอนเย็นไปกับการมานั่งเขียนภาษาอังกฤษเป็นชั่วโมง ๆ
                      แต่อาทิตย์กลับพบว่า เขากลายเป็นขาประจำของการถูกมิสพรชนก ลงโทษหลังเลิกเรียน  

      ไม่รู้ว่าด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตามที
                      เพราะในระหว่างที่มิส ให้นักเรียนเจ้าปัญหาเขียนภาษาอังกฤษนั้น มิสก็จะนั่งเฝ้า ตรวจการบ้านบ้าง
      ตรวจข้อสอบบ้าง แต่ที่ขาดไม่ได้คือ เสียงเพลงภาษาอังกฤษ ที่แว่วมาจากลำโพงของเครื่องเล่นเทปหน้าห้อง
      เรียน ที่มิส จะเปิดคลอเบา ๆ ไปกับการทำงานของตนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเพลงของ
      Johnny Tillotson, Elvis
      Presley , Cliff Richards หรือ The Beatles โดยเฉพาะเพลง Imagine ของ John Lennon ซึ่งเป็นเพลงโปรดของ
        มิสเลยทีเดียว
                      แต่ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น ก็คือ ช่วงเวลาทำโทษหลังเลิกเรียน เป็นช่วงเวลาที่เขาได้มีโอกาสอยู่
      ใกล้ชิดกับมิสพรชนก โดยปราศจากเสียงพูดคุยหรือการรบกวนของเพื่อน ๆ
                      หลายครั้งที่อาทิตย์ พบว่า เขาแอบนั่งมองดูมิสพรชนก นั่งตรวจงานอยู่เงียบ ๆ ด้วยความชื่นชม
      ทั้งในความสามารถของมิส ในการเป็นครู และในความสวยของการเป็นผู้หญิง
                      ทั้งดวงตาสีน้ำตาลที่กลมโต รอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความจริงใจ และเสียงหัวเราะที่สดใส และแม้มิส
      จะแต่งหน้าเพียงบางเบา แต่ก็ดูสวยเสมอ และการเป็นคนตัวเล็ก ก็ทำให้เขาและเพื่อน ๆ หลายคน แทบจะสูง
      กว่ากับมิส ด้วยซ้ำ
                      การเปรียบเทียบของโต้ง ทำให้หลายครั้ง อาทิตย์ ยังคงนึกถึงมิสพรชนกในชุดจอมยุทธสตรี
      เหมือนอึ้งย้ง ซึ่งทำให้เขาแอบอมยิ้มกับตัวเองเสมอ
                      เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนเขาเฝ้าตั้งหน้าตั้งตารอ เพียงเพื่อที่จะเรียนวิชาที่มิสพรชนกสอน
                      และรู้สึกตื่นเต้น ดีใจเสมอ เวลาที่มิสยิ้มให้กับเขาในยามที่เขาตอบคำถาม หรือทำอะไรถูก
                      เขาพึงพอใจ แม้จะแค่เพียงนั่งฟังเพลงและแอบมองดูมิสพรชนกอย่างเงียบ ๆ
                      และบอกกับตัวเองว่า หากเขาต้องนั่งอยู่ในห้องเรียนนี้กับมิสพรชนก หลังเลิกเรียนเช่นนั้นตลอดไป
      เขาก็ยินดี และยินยอมอย่างเต็มใจ

                                                                                      ***************

       

                      มิสพรชนก นั่งอยู่ในรถเข็นที่โต๊ะอาหารที่อยู่บริเวณกลางลานกว้างซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยง

                      อาทิตย์ เดินตามโต้งเข้าไปหามิส ช้า ๆ รู้สึกราวอยู่ในความฝัน

                      เสียงดนตรี เสียงพูดคุย เสียงช้อน ซ้อมกระทบจาน ชาม ยังคงดังอยู่รอบกาย
                      แต่ในวินาที ที่อาทิตย์ เดินเข้าไปคุกเข่าลงหน้าอาจารย์ที่เคยเป็นขวัญใจของเขา
                      ทุกอย่างดูเหมือนเงียบสงัดลงในทันที และในโลกนี้ ไม่มีใครอื่น นอกจากเขา และมิสพรชนก

                                                                                      ***************

       

                      อาทิตย์เริ่มรู้สึกหงุดหงิด และแอบไม่พอใจ เมื่อมีอาจารย์พละหนุ่มคนหนึ่งเริ่มมาใกล้ชิดกับมิสพรชนก
      ทั้งมาเฝ้ารับ เวลาหลังเลิกเรียน หรือการนั่งทานข้าวด้วยกันสองต่อสอง
                      เขาและเพื่อน ๆ มักเห็นมิสพรชนกนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของอาจารย์พละไปรอบโรงเรียน และราว
      กับภาพนั้นยังบาดใจอาทิตย์ไม่เพียงพอ เสียงร่ำลือของเพื่อน ๆ ว่ามิสพรชนก เป็นแฟนกับอาจารย์พละคนนั้น
      ก็ยิ่งทำให้เขาหดหู่ และหมดกำลังใจในการเรียนภาษาอังกฤษกับมิสพรชนกอีกต่อไป
                      นอกจากนั้น ในช่วงลงโทษหลังเลิกเรียน ที่เคยเป็นช่วงเวลาที่อาทิตย์จะได้อยู่ใกล้ชิดกับมิสพรชนก
      ก็กลายเป็นมีอาจารย์พละ มานั่งเฝ้าด้วยอีกคน จนทำให้อาทิตย์รู้สึกเหมือนความสุขของเขาถูกคลื่นทะเล
      ซัดพังลงไปไม่เหลือซาก
                      เขาจึงยกเลิกความพยายามในการหาเรื่องให้ถูกลงโทษ และตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างเงียบ ๆ เพียงพอ
      ที่จะสอบผ่าน โดยไม่ได้สนใจกับความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กับมิสพรชนก อีกเลย
                      โดยเฉพาะหลังจากที่เขาได้ทราบว่า มิสพรชนก ตกลงแต่งงานกับอาจารย์สอนพละ เขาก็พยายาม
      หลีกเลี่ยงที่จะไม่ใกล้ชิดกับมิสอีก
                      เหมือนคนที่ถูกหักอก
                      ทั้ง ๆ ที่มันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่อ่อนไหวของความรักครั้งแรกของเด็กหนุ่มที่มีต่ออาจารย์สาว
      ที่ไม่อาจ และไม่สมควรเป็นจริงขึ้นมาได้
                      แต่กระนั้น ความเสียใจและผิดหวังของเขามันก็เป็นความรู้สึกที่แท้จริงและรุนแรง
                      ถึงขนาดที่ทำให้เขาไม่ได้กลับมาที่โรงเรียนเก่าอีกเลย หลังเรียนจบมัธยมปลาย

                                                                                      ***************


                     
      มิสพรชนกครับ อาทิตย์คุกเข่าลงหน้าอาจารย์ พลางเอ่ยเบา ๆ และพนมมือไหว้ลงบนตักของครู
      สอนภาษาอังกฤษ
                     
      อาทิตย์ มิสรชนก เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
                      มิสพรชนก ซูบผอมไปมาก จนอาทิตย์แทบไม่สามารถซ่อนเล้นความตกใจและความหวั่นใจได้
      ดวงตาที่เคยสุกใส ดูอ่อนล้า
                      แต่รอยยิ้มที่สดใสที่ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของมิส ก็ยังเจิดจรัสเมือนเช่นเคย เหมือนไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป
                     
      มิสเป็นอย่างไรบ้างครับ ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความห่วงใย ความรู้สึกในแง่ลบต่าง ๆ พลันหายไป
      เป็นปลิดทิ้ง
                     
      ก็ทรง ๆ อย่างนี้ แหละจ๊ะ หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เข้มแข็ง ว่าแต่อาทิตย์ล่ะ หายเงียบ
      ไปเลย นับสิบปี

                      อาทิตย์ฝืนยิ้ม รู้สึกผิดขึ้นมาอย่างจับใจ
                     
      ขอโทษครับมิส
                     
      ไม่ต้องขอโทษหรอก... มิสหัวเราะเบา ๆ ตามด้วยเสียงไอแห้ง ๆ แค่เธอมาในวันนี้ มิสก็มีความสุขแล้ว
                      ลูกศิษย์หนุ่มเอื้อมมือไปบีบมือของผู้เป็นอาจารย์ราวกับพยายามให้กำลังใจ มีคำถามมากมายที่เขาอยาก
      จะเอ่ยถามผู้ที่เคยเป็นครูของเขา มีเรื่องราวมากมายที่เขาอยากจะแบ่งปัน อยากจะเล่าให้เธอฟัง
                      แต่เหมือนมีความรู้สึกบางอย่างติดอยู่ที่อก ทำให้เขาไม่สามารถผันความรู้สึกในหัวใจออกมาเป็นคำพูดได้ 
                      มิสเหมือนจะเข้าใจ และใช้มือข้างที่ว่าง มาสัมผัสหลังมือของเขาเบา ๆ และพยายามฝืนยิ้มให้เขา
                     
      ไก่... เสียงเรียกของโต้ง ดังขึ้นจากข้าง ๆ มานี่ก่อนเร็ว
                     
      อะไรเหรอ อาทิตย์ ละสายตาจากอาจารย์ที่นั่งอยู่เบื้องหน้า และหันไปมองเพื่อนที่พยายามกวักมือ
      เรียกเขาอยู่
                      ชายหนุ่มหันกลับมามองที่อาจารย์เก่าในรถเข็นอย่างลังเล
                     
      ไปก่อนเถอะ มิสพรชนก กล่าวด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ เดี๋ยวค่อยกลับมาคุยกันก็ได้
                      และทันใด นั้น อาทิตย์ก็เห็นครูพละ ที่เขาเคยรู้สึกเหมือนเป็นผู้เหยียบย่ำความสุขและความฝันของเขา
      เดินมายืนข้าง ๆ มิสพรชนก และค่อย ๆ วางมือข้างหนึ่งอลงบนที่จับรถเข็น และใช้มือข้างที่ว่างบีบใหล่ของภรรยา ด้วยความรักและห่วงใย
                      อาทิตย์ยกมือขึ้นไหว้อาจารย์พละที่เขาเคยผิดใจ
                      และตระหนักว่า อาจารย์พละเป็นผู้ชายที่เหมาะสมกับมิสพรชนกมากเพียงใด เพียงแต่เขาเลือกที่จะ

      ไม่มองข้อดีของอาจารย์พละเท่านั้นเอง

                                                                                      ***************

                      อาทิตย์เดินตามโต้งไปด้วยความสับสน และออกจะตระหนก เมื่อเห็นโต้งเดินนำหน้าเขาขึ้นไป
      บนเวทีที่อยู่กลางงาน
                     
      จะทำอะไรกันน่ะ เขาถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นเพื่อน ๆ เริ่มเดินขึ้นไปรวมตัวกันบนเวที
      โดยแทบจะพร้อมเพรียงกัน
                     
      มาเถอะน่า โต้งหันมาฉุดแขนของอาทิตย์
                      ทุกอย่างเงียบกริบลง เมื่อมงคล ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าชั้นเรียนของอาทิตย์ เดินขึ้นไปบนเวที เป็นคนสุดท้าย
                     
      มิสพรชนกครับ... เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้นำ พวกเราทุกคน ขอมอบเพลงนี้
      ให้กับมิสครับ

                      แล้วเสียงดนตรีก็ดังขึ้นจากเครื่องคาราโอเกะ
                     
      “Imagine there’s no heaven
                      It’s easy if you try
                      No hell below us
                      Above us only sky
                      Imagine all the people
                      Living for today…”
                      เสียงเพลง Imagine ของ John Lennon ซึ่งเป็นเพลงโปรดของมิสพรชนก ดังกังวาลขึ้น พร้อม ๆ กับเสียงของเด็กหนุ่มนับร้อยคนบนเวที ที่ทุ่มเทหัวใจร้องเพลงดังกล่าวให้แก่ครูที่เคยสอนภาษาอังกฤษให้พวกเขาเมื่อตอน
      มัธยมปลาย

                      แม้อาทิตย์ จะลังเลใจในตอนแรก
                      แต่เพียงครู่เดียว เขาก็เปร่งเสียงร้องออกมาจากหัวใจ และเพ่งมองผ่านม่านน้ำตา ไปจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของมิสพรชนก ซึ่งนั่งอยู่ในรถเข็นหน้าเวที
                      และรู้สึกดีใจที่ตัดสินใจมาร่วมงานในคืนนี้
                      ซึ่งได้กลายเป็นงานของมิสพรชนก

                      ซึ่งเป็นรักแรกของเขา


                                                                                      *******จบ********

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×