ระวังให้ดี!!! ทามาก็อตจิกลับมาแล้ว
ของเล่นสัตว์เลี้ยงดิจิตอลที่เคยฮอตฮิตไปทั่วโลกเมื่อ 10 ปีก่อน กลับมาอาละวาดอีกแล้ว คราวนี้เจ้า ทามาก็อตจิ หันมาเอาใจเจเนอเรชั่นใหม่วัยเยาว์ ด้วยการเพิ่มคุณสมบัติอีกเพียบ
พร้อมกับสร้างโลกของสัตว์เสมือนจริง ให้พวกมันได้คบหาสมาคมกัน แถมออกลูกออกหลานได้ด้วย แบบนี้เด็กๆ หรือจะอดใจไหว
ดูตัวอย่างจากสองพี่น้องตัวกระเปี๊ยก ทากุมิ และ อายากะ โมชิซุกิ ที่นำเจ้าทามาก็อตจิแขวนคอไว้กับตัวตลอดเวลา ขณะเดินเที่ยวชมในร้านค้าแห่งหนึ่ง ที่กรุงโตเกียว นานเป็นชั่วโมง เพื่อที่เจ้าสัตว์เลี้ยงเสมือนจริงของพวกแก จะสามารถสื่อสารปฏิสัมพันธ์กับทามาก็อตจิยักษ์ ที่มาเดินสายถึงที่นี่
"ผมชอบเลี้ยงทามาก็อตจิของผมครับ" ทากุมิ วัย 5 ขวบ มองด้วยสายตาละห้อยเพราะผิดหวังที่ไม่มีเงินเสมือนจริงพอที่จะซื้ออะไรให้กับสัตว์เลี้ยง "วัย 3 ขวบ" ของแกที่ตลาดใหญ่ ซึ่งจะต้องเข้าซื้อผ่านทามาก็อตจิยักษ์เท่านั้น "ผมล่ะเซ็งจริงๆ เลย"
เจ้าทามาก็อตจิมีอะไรดี ถึงทำให้เด็กๆ ต้องมาคอยเฝ้าหน้าจอขนาดเล็กจิ๋ววันละหลายหน เพื่อให้อาหาร, เล่นหรืออาบน้ำให้พวกมัน
ทามาก็อตจิเจเนอเรชั่นใหม่นี้ ไม่เหมือนกับรุ่นดั้งเดิมที่หมดความนิยมไปอย่างรวดเร็ว หลังจากคนเห่อกันเพียงชั่วประเดี๋ยวประด๋าว บริษัทบันได ผู้ผลิตของเล่นจากญี่ปุ่น ในเครือนัมโคบันได โฮลดิงส์ ตั้งความหวังว่า โลกทามาก็อตจิที่มีบุคลิกลักษณะหลากหลาย และการทำตลาดอย่างระมัดระวัง จะทำให้บริษัทสามารถปลุกความคลั่งไคล้ในตัวทามาก็อตจิให้ฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ
"เราอยากลองฟื้นคืนชีวิตให้ทามาก็อตจิตลอดมา เพราะความคลั่งไคล้หมดลงเร็วเหลือเกิน" ทาเคอุชิ ฮงโกะ หัวหน้าเจ้าหน้าที่แผนกทามาก็อตจิวัย 51 ปีของบริษัทบันได กล่าว และเสริมด้วยว่า บริษัทตั้งตัวไม่ทันตอนที่ของเล่นชนิดนี้ กลายเป็นปรากฏการณ์ฮอตฮิตในยุคทศวรรษ 1990s โดยเฉพาะในหมู่เด็กหญิงมัธยมและพวกสาวๆ
เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่เปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อปี 2547 ขายเครื่องละประมาณ 25 เหรียญฯ (ราว 1,000 บาท) ถูกเพิ่มความสามารถในการสื่อสารเข้าไป เพื่อให้เจ้าทามาก็อตจิสามารถพบปะและเล่นเกมกันได้ข้ามเครื่อง ผ่านเซ็นเซอร์อินฟราเรด
สัตว์เลี้ยงเสมือนจริงรุ่นใหม่นี้ จะสามารถโตเป็นผู้ใหญ่ ทำงานทำการได้ แถมยังสามารถจับคู่แต่งงานกับทามาก็อตจิของคนอื่นได้ด้วย เมื่อเจ้าคู่รักทามาก็อตจิมีลูก - ซึ่งมันจะเป็นลูกแฝด เพื่อให้เจ้าของแบ่งกันเลี้ยงได้คนละตัว - เจ้าพ่อแม่ทามาก็อตจิก็จะหายเข้าไปอยู่ใน ดาวเคราะห์ทามาก็อตจิ ที่ซึ่งพวกเด็กๆ สามารถไปเยี่ยมได้ผ่านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ส่วนทามาก็อตจิที่ถูกเลี้ยงดูไม่ดี ก็อาจกลายเป็นงูหรือเป็นหัวขโมย แต่เจ้าของที่ขยันเลี้ยงก็จะสามารถเลี้ยงแตกยอดออกไปได้ถึง 999 เจเนอเรชั่น
แผนกผลิตของเล่นของบันไดคาดว่า ผลกำไรประกอบการปีล่าสุดสิ้นสุดเดือนมีนาคมจะเพิ่ม25.8% มาอยู่ที่ราวๆ 136 ล้านเหรียญฯ จากปีก่อนหน้านี้ ด้วยยอดขายประมาณ 1.5 พันล้านเหรียญฯ หรือเพิ่มขึ้น 7.4% จากอานิสงส์ของความคลั่งไคล้ทามาก็อตจิ
หลังเปิดตัวรุ่นใหม่มาได้ 2 ปี ทามาก็อตจิชุดที่สองทำยอดขายทั่วโลกไปได้ 20 ล้านเครื่องแล้วในเดือนนี้
แต่จำนวนนี้ก็เป็นเพียงครึ่งหนึ่งจากยอดขายเดิม ที่ทามาก็อตจิรุ่นดั้งเดิมเคยทำไว้ที่ 40 ล้านเครื่อง
ฮงโกะยอมรับว่า เมื่อครั้งที่เปิดตัวทามาก็อตจิครั้งแรกเมื่อปี 2539 บริษัทเก่าแก่ซึ่งมีลูกจ้างไม่ถึง 1,000 คนแห่งนี้ ไม่ทันได้เตรียมการรับมือกับความต้องการซื้อที่เพิ่มพรวดพราด
ของเล่นชนิดนี้ กลายเป็นที่ต้องการของเด็กหนุ่มสาวญี่ปุ่นกันมาก ถึงขนาดที่ว่าพวกลูกจ้างของบริษัทบันไดถูกห้ามถือถุงที่มีโลโก้บริษัท เพราะกลัวถูกขโมย
จากไอเดียง่ายๆ ของผู้บริหาร ที่รักสัตว์เลี้ยงเป็นชีวิตจิตใจ ที่นำมาสู่การประดิษฐสัตว์เลี้ยงเสมือนจริงที่พกพาไปไหนมาไหนได้ กลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของยุคดิจิตอล ที่หลายประเทศ เช่น จีน และฟิลิปปินส์ ประณามว่าของเล่นชนิดนี้สร้างพฤติกรรมต่อต้านสังคม และถูกโรงเรียนทั่วโลกสั่งแบน
ยุคนั้นบันไดไม่สามารถผลิตทามาก็อตจิได้ทันกับความต้องการ แต่พอถึงช่วงที่บริษัทเพิ่มศักยภาพในการผลิตได้พอ กระแสคลั่งไคล้ก็เลิกบูมเสียก่อน สินค้าผลิตเหลือบานเบอะ และบริษัทก็แบกตัวเลขขาดทุนในปีบัญชี 2542 จนต้องปรับโครงสร้างหนี้
"เรารู้ว่าเราไม่อาจทำผิดแบบเดิมซ้ำสอง" ฮงโกะที่มีลูกเล็กๆ สองคน กล่าว "ตอนนั้นเราไม่มีกลยุทธ์อะไรเลย"
บันไดแก้ปัญหาใหม่และตั้งมั่นจะทำให้ทามาก็อตจิติดตลาดถาวร พร้อมกับตั้งฮงโกะขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกทามาก็อตจิเมื่อปี 2547 และทำการวิจัยตลาดก่อนเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่
บริษัทหลีกเลี่ยงการทุ่มโฆษณา แต่เปลี่ยนมาเจาะกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการลงบทความเกี่ยวกับทามาก็อตจิในนิตยสารสำหรับเด็กๆ และยังกะเก็งการเปิดตัวเวอร์ชั่นใหม่อย่างระมัดระวังพร้อมกับสินค้าเกี่ยวเนื่องกับการสร้างโลกตัวละครต่างๆ
ทามาก็อตจิยังกลายเป็นเกมนินเทนโด ที่บริษัทบันไดลงมือผลิตเอง ทำยอดขายได้ 1 ล้านชุดในญี่ปุ่น ส่วนยอดขายที่สหรัฐก็เริ่มต้นได้สวย
บันได้ยังทำเกมทามาก็อตจิในโทรศัพท์มือถือ และมีแผนจะขายโทรศัพท์ยี่ห้อทามาก็อตจิ ที่กะล่อใจพวกเด็กๆ โดยร่วมมือกับบริษัทโทรศัพท์ไร้สายวิลล์คอม ที่เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างคาร์ไลล์กรุ๊ปจากสหรัฐกับบริษัทเคียวเซราของญี่ปุ่น
เห็นกลยุทธ์การตลาดยุคใหม่ของทามาก็อตจิแล้ว ก็ให้หวั่นใจแทนพ่อแม่ผู้ปกครองเสียจริง.
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น