สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่ 08/09/56
เหรียญฉลุ ยันต์ 4 เนื้อ ทองคำลงยาราชาวดี 2467 ของหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ของประเสริฐ สระทองซัง.
สีกา อ่าง เข้า สนามพระเครื่องวิภาวดี อย่างเมื่อยปาก เพราะตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา มีประชาชนชาวพระเครื่องถามถึงเรื่อง พระขุนแผนเคลือบ วัดอัมพวัน กันอุตลุด เพราะทุกคนตื่นเต้นอยากรู้รายละเอียดว่า ตกลง พระขุนแผนเคลือบ ที่มีกันทั่วทุกแผง ตอนนี้ แท้หรือเก๊...
ข้อนี้ ข้าพเจ้าก็ขอตอบแบบแฟร์ๆว่า ถ้าเล่นกันเป็น กรุวัดอัมพวัน ก็แท้ ซึ่งหลายเซียนก็บอกว่า ไม่เคยบอกว่า เป็นกรุวัดชัยมงคล อยุธยา ซะหน่อย สรุปว่าทุกคนก็เห็นพ้องต้องกัน ว่าลอตนี้ เป็นกรุวัดอัมพวัน...
แต่ เรื่อง ที่พิมพ์ทรงองค์พระเครื่อง คล้าย กับ วัดใหญ่ชัยมงคล ได้ยังไงนั้น ต้องถาม ต้นตอ คนสร้าง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร สมัยไหน แต่ก็ไม่แปลก เพราะอย่าง พระสมเด็จวัดระฆัง ของ สมเด็จโต ก็ยังมีพระเกจิยุคหลัง นิยม นำมาเป็นต้นแบบได้ ดังนั้น พระขุนแผนเคลือบ วัดใหญ่ชัยมงคล ซึ่ง สมเด็จพระนเรศวรฯ ทรงสร้างฉลองชัยชนะพม่า ก็ต้องมีคนยุคหลัง นิยมใช้เป็น ต้นแบบ เหมือนกัน...
เข้า สนามไปดูพระยุคโบราณ ซึ่งยุคหลังก็มีการสร้างย้อนยุคมาตลอด คือ พระกําแพงซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ ลายกนก เนื้อแดง กรุลานทุ่งเศรษฐี กําแพงเพชร...
สภาพ พระเครื่องแท้ ดูง่าย สมบูรณ์ ไม่ถึงกับแชมป์ แต่โชว์ได้ แบบองค์นี้ของ เสี่ยต่าย พระบาท ซื้อง่ายขายคล่องมาก เพราะจ่ายแค่ 3-4 ล้าน ก็ได้ใช้บูชาพระเครื่องชั้นยอด แล้วยังเหลือเงินอีกเยอะ เพราะถ้าทาบองค์แชมป์ๆ ต้องควักเป็นสิบล้าน...
องค์ที่สองเห็นแล้ว ตื่นเต้นมาก คือ เหรียญฉลุ ยันต์ 4 เนื้อทองคําลงยาราชาวดี รุ่น แรก 2467 ของ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังวรวิหาร บางขุนเทียน กรุงเทพฯ ...
แค่ เหรียญเนื้อทองแดง สภาพสวยจี๊ดจับใจแบบนี้ ก็หายากสุดๆ และราคาแพงลิบลิ่วเข้าใกล้หลักสิบล้าน พอมาเจอ เหรียญเนื้อทองคํา ลงยาราชาวดี ที่เชื่อกันว่าสร้างพิเศษสําหรับชั้นเจ้านาย และมีสภาพสมบูรณ์สวยเยี่ยม แบบเหรียญนี้ของ เสี่ยประเสริฐ สระทองซัง ข้าพเจ้าต้องสารภาพว่า ไม่กล้าประมาณราคาจริงๆ กลัวไม่ถูกใจท่านผู้ชม...
รายการ ที่สาม คือ พระปิดตา พิมพ์ปั้น (ลอยองค์) หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ชลบุรี องค์นี้เป็นพระเนื้อผงเคล้ารักจุ่มรัก ที่บอกชัดถึงอายุความเก่า ด้วยความแห้งของ เนื้อรัก ที่ครอบคลุมทั้งองค์พระ ในลักษณะเหี่ยวย่น บางส่วนล่อนหลุดตามอายุอย่างเป็นธรรมชาติ...
เปิดให้เห็น เนื้อใน ที่เป็นผงพุทธคุณผสมมวลสาร ที่ตําราว่ามีทั้ง รากรักซ้อนชอนพระจันทร์ ไคลเสมา รังต่อในตาพระพุทธองค์ ไม้ไก่กุก ที่ถือเป็นวัตถุอาถรรพณ์ ที่มีอานุภาพสุดยอดทางเมตตามหานิยมครบสูตร...
ด้านพุทธคุณ เสี่ยเปี๊ยก มันฑะเล เจ้าของ ยืนยันว่าตั้งแต่ใช้พระองค์นี้คู่ตัว รู้สึกว่า ทํามาค้าขึ้น ต้องขยายกิจการร้านอาหาร มันฑะเล บนเกาะสีชัง ทุกปี เพราะลูกค้ามากขึ้นทุกขณะ จนเพิ่งขยายกิจการมาเปิดอีกสาขาที่อ่างศิลา...
ความที่ชอบพระเครื่อง เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา เสี่ยเปี๊ยก เลยเปิดมุมพิเศษรับพรรคพวกนักนิยมพระเครื่อง ที่แวะไปสังสรรค์กันเป็นประจํา...
อีกรายการ เป็น พระสวย 5 ดาว คือ พระพิมพ์ทรงครุฑ (ใหญ่) หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา ซึ่งอดีตมีค่าเป็นพระแจกพระแถม เวลาซื้อขายพระใหญ่ๆหลักๆกัน เลยเรียกว่า พระนํ้าจิ้ม...
มาตอนนี้ จิ้มไม่ไหว เพราะราคาเรือนหมื่นเรือนแสนแล้ว ตามความสำคัญของพิมพ์ และถึงเรือนล้าน สําหรับพระพิมพ์นิยมสุด...
เป็น เรื่องจริงที่พระสกุลนี้มีจำนวนมาก แต่ก็เป็นเรื่องจริงเช่นกันว่า ยากที่จะพบเจอองค์งามๆ เข้าขั้นแชมป์อย่างองค์นี้ของ เสี่ยปารเมษฐ์ ฐิตรัตนพล แม้เป็นพิมพ์นิยมอันดับรอง แต่สมบูรณ์สวยเป๊ะกว่าพระพิมพ์นิยมหลายองค์...
ตาม มาด้วย รูปหล่อพระพุทธชินราช อินโดจีน หน้าเสาร์ 5 มียาขัด พ.ศ.2484 วัดสุทัศนฯ จัดสร้างโดย พุทธสมาคม เพื่อมอบเป็นขวัญกําลังใจให้ทหารที่ถูกส่งเข้าร่วมรบในสงครามอินโดจีน...
ใน การจัดสร้าง สมเด็จพระสังฆราช (แพ) มอบให้ ท่านเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์ ยฺติธโร) เป็นเจ้าพิธี ดำเนินการจัดสร้าง โดยยึด หลวงพ่อพระพุทธชินราช เป็น ต้นแบบ สร้างเป็นวัตถุมงคล 3 แบบ คือ พระพุทธรูปบูชา รูปหล่อลอยองค์ เหรียญรูปทรงเสมา องค์ในภาพนี้ของเสี่ยแมน ระยอง เป็นพระสวยสภาพเดิมๆแท้ๆ ยืนยันได้ด้วย ยาขัดสีแดง ที่ยังจับฝังแน่นอยู่ในซอกส่วนลึกให้เห็นทั่วองค์...
พระลำดับที่หก ขอเสนอ เหรียญหลวงพ่อน้อย รุ่นสร้างหอระฆัง ปี 2513 วัดธรรมศาลา สามพราน นครปฐม...
เหรียญ นี้ในอดีตหาได้ไม่ยาก แต่ปัจจุบัน จะหาแค่ เหรียญเนื้อทองแดง ธรรมดา ก็ยังยาก ยิ่งเป็นเหรียญ เนื้อทองคํา แบบเหรียญนี้ ของ เสี่ยปุ้ย ร้านปุ๋ยม้าเจริญพาณิชย์ ท่ามะกา กาญจนบุรี ยิ่งเวรี่ยากหลายเท่า ที่สำคัญราคาเหรียญสูง หลายแสน ...
สุดท้ายเป็นเครื่องรางของขลัง ที่กำลังนิยมหาใช้ติดตัว เพราะยุคสมัยนี้ คนไทยขาดความรักสามัคคี มีความเกลียดชังแบ่งพรรคแบ่งพวก เรื่องของการ ทำร้าย กันโดย วิธีไสยศาสตร์ มนต์ดำ จึงกลับมาเหมือนสมัยโบราณ...
ทำ ให้เครื่องรางของขลังที่ มีคุณวิเศษด้านแก้ไขป้องกันมนต์ดำไสยดำ อย่าง เบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง กรุงเทพฯ ฮอตมากเพราะถือเป็นสุดยอดเครื่องรางของระดับ บรมครู...
เพราะ หลวงปู่รอด เป็นผู้สืบทอดวิชาสร้าง เบี้ยแก้ จาก หลวงปู่แขก ซึ่งเป็น พระอุปัชฌาจารย์ ของท่าน ได้ชื่อว่ามีวิชาพุทธาคมเข้มขลัง แต่ดุมาก และหวงวิชาสุดๆ ไม่ยอมถ่ายทอดให้ใคร โดยเฉพาะวิชาสร้าง เบี้ยแก้...
เล่า กันมาว่า หลวงปู่แขก ท่านสร้าง เบี้ยแก้ ขึ้นครั้งเดียวเพียง 5 ตัว มอบให้ญาติพี่น้อง 3 ตัว หลวงปู่รอด 1 ตัว สัปเหร่อวัด 1 ตัว แล้วมอบวิชาให้ หลวงปู่รอด ผู้สืบทอด...
ซึ่งต่อมาท่านได้เผยแพร่ วิชาสู่ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว หลวงพ่อทัต วัดคฤหบดี หลวงพ่อพัตร์ วัดโบสถ์ ซึ่งล้วนสร้าง เบี้ยแก้ เป็นของขลังได้ศักดิ์สิทธิ์มีชื่อเสียงได้รับความนิยมมีค่าราคาสูงมากทั้ง สิ้น ดังนั้นเมื่อ เสี่ยแจ็ค สามพราน ได้ เบี้ยแก้ ของบรมครู ในสภาพสมบูรณ์เยี่ยมมาครอบครอง จึงต้องถือว่าสุดยอด...
ต่อเข้า สนามพระใหม่ รายการแรกคือ พระกริ่ง 1 ศตวรรษ รุ่น 100 ปี สมเด็จพระสังฆราชฯ วัดบวรฯ...
วัน ที่ 3 ต.ค.นี้ ถือเป็นวาระโอกาสอันเป็นสิริมงคล ที่ เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชฯ จะเจริญพระชนมายุครบ 100 ปี ซึ่งถือเป็นพระสังฆราชฯ ที่มีพระชนม์ยืนยาวที่สุดของรัตนโกสินทร์หรือน่าจะของทุกยุคก็เป็นได้...
กรรมการ วัดบวรนิเวศฯ โดย พระเดชพระคุณสมเด็จพระวันรัต เป็นประธานกรรมการจึงเห็นชอบให้จัดสร้างสิ่งมงคลสักการะที่ระลึก เพื่อถวายพระกุศลฉลอง 100 ปีพระชันษา โดยเททองไปเมื่อ 9 เมษา ที่ผ่านมา และพุทธาภิเษก ที่พระอุโบสถวัดบวรฯ เมื่อเดือน ส.ค....
โดยมี 6 แบบ คือ พระพุทธชินสีห์ หน้าตัก 9 นิ้ว พระกริ่ง 1 ศตวรรษ (เนื้อทองคำ นวะ เงิน) ครอบน้ำมนต์ 1 ศตวรรษ และพระผงไพรีพินาศ พระผงนิรันตราย 1 ศตวรรษ จัดสร้างอย่างละไม่มาก-
อีกรายการที่จัดสร้างในวาระสำคัญสมเด็จพระสังฆราชฯเหมือนกัน คือ เหรียญและพระพุทธนิรสรรพภัย ฉลององค์สมเด็จพระสังฆราชฯ 100 ปี...
ถือ เป็นครั้งแรก ที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชฯ ประทานอนุญาตให้อัญเชิญ พระรูปฉลอง 100 ชันษา ของพระองค์ ประดิษฐานบนเหรียญ พระพุทธนิรสรรพภัย อันมีความหมายว่า พระพุทธเจ้าแห่งความปราศจากภัยทั้งปวง...
นับเป็น เหรียญศักดิ์สิทธิ์ เหรียญเดียว ที่ประดิษฐานทั้ง องค์พระพุทธรูป และ พระรูปองค์สมเด็จพระสังฆราชฯ ออกแบบโดย อาจารย์สุเมธ พุฒพวง นักวิชาการช่างศิลป์ชำนาญการพิเศษ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร...
พระเป็นปางมารวิชัย ศิลปะสมัยสุโขทัย ทรงเครื่องจักรพรรดิราชใหญ่ อันแสดงถึงสรรพสมบัติ ป้องกันอันตรายและประสาทพร...
พิธี พุทธาภิเษกจัดถึง 5 วาระ คือที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง, สิมอีสาน วัดป่าแสงอรุณ ขอนแก่น, วัดพระสิงห์ เชียงใหม่, วัดพระมหาธาตุฯ นครศรีธรรมราช และครั้งสุดท้าย ณ วัดบวรนิเวศวิหาร 14 ก.ย.นี้ โดย สมเด็จพระวันรัต เป็นประธานในพิธีฯ ...
เหรียญชุดนี้ถือเป็นเหรียญ ประวัติศาสตร์ ที่ได้รับความนิยมมาก จนทุกแบบเหลืออีกไม่มาก เงินรายได้สมทบทุนสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติพระชันษา 101 ปี สมเด็จพระสังฆราชฯ ณ รัตนธรรมสถาน ในพระสังฆราชูปถัมภ์ สอบถามได้ที่มูลนิธิรักษ์แผ่นดินไทย ในพระสังฆราชูปถัมภ์
สุดท้าย เป็น พระหลวงพ่อทวด ซึ่งมีจัดสร้างกันบ่อยหลายสำนัก และมีการจัดอันดับนิยมไว้ ว่ารุ่นไหนสวยดังขลังดี...
ปี ที่แล้ว ต้องยกให้ รุ่น 100 ปีอาจารย์ทิม ซึ่งปลุกเสกที่ศาลหลักเมือง ปัตตานี โดยพระเกจิ อาจารย์สายใต้ ดังสุดๆ เพราะราคาแพงขึ้นมาก มาปีนี้ทางจังหวัดปัตตานีร่วมกับวัดตานีนรสโมสร จึงร่วมกันสร้าง รุ่น 101 ปีอาจารย์ทิม ขึ้น ตามคำเรียกร้อง เพื่อหารายได้สร้างอาคารปฏิบัติธรรม101 ปี อาจารย์ทิม ณ วัดตานีนรสโมสร และซื้อที่ดินถวายวัดหลักเมือง ปัตตานี เพื่อก่อสร้างหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ให้สมกับที่ปัตตานี เป็นที่กำเนิดวัตถุมงคลหลวงปู่ทวดที่ใครๆรู้จักดี...
วัตถุมงคลรุ่น 101 ปี ทำพิธีพุทธาภิเษกไปเมื่อ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยพระเกจิอาจารย์สายใต้และสายหลวงพ่อทวด โดยมี
ผู้ว่าฯปัตตานี เป็นประธาน หลวงพ่อพรหม วัดพลานุภาพ จุดเทียนชัยพ่อท่านจ่าง ดับเทียนชัย...
บรรยากาศในพิธีขลังมาก เพราะรอบนอกฝนตก แต่ในพิธีไม่มีฝนเลยจนเสร็จพิธี จึงมีฝนโปรยปราย และเกิดพระอาทิตย์ทรงกลด...
รุ่น 101 ปีอาจารย์ทิม ประกอบด้วย พระบูชา มณฑปหลวงปู่ทวด เหรียญรูปไข่ ทรงหน้าเลื่อนหลังอาจารย์ทิม เหรียญหน้าเลื่อนหลังอาจารย์ทิม เหรียญเม็ดแตง พระกริ่งเฉลิมพล เตารีด พิมพ์ใหญ่เอ หลังอาจารย์ทิม เตารีดหลังหนังสือ รูปเหมือนลอยองค์ (เบตง) พระชุดเนื้อว่าน งานสวยงามมาก
เรื่องปิด ท้ายวันนี้ มีว่า เสี่ยแก้ว เจ้าของฟาร์มไก่ เมืองกาญจน์ ซึ่งเลี้ยงทั้งไก่เนื้อไก่ไข่ไว้ขาย และยังเลี้ยงไก่ชนด้วย แต่ไม่ขายเพราะชอบพนันชนไก่...
เพราะมีความรู้เรื่องไก่ดี เสี่ยแก้ว ฟาร์มไก่ จึงทําทุกวิธีเพื่อให้ไก่ตีชนะ ทั้งฉีดยาโด๊ปให้ไก่มีแรง อาบนํ้าว่านให้ไก่หนังเหนียว...
วันหนึ่งมีนัดเอาไก่ไปตี ชิงเงินเดิมพันถึง 3 แสนที่เพชรบุรี เสี่ยแก้ว ก็ส่งสายลับไปสืบไก่คู่แข่ง ว่ามีดีอะไร พอได้ความว่า ไก่ตัวนี้เก่งมาก ทั้งฉลาด แข็งแรงว่องไว จนนักตีไก่วิจารณ์กันว่า ไก่เสี่ยแก้วไม่มีทางสู้ได้ ก็ทำให้ เสี่ยแก้ว คิดอยากเอาชนะให้ได้...
ยิ่งใกล้วันนัด เสี่ยแก้ว ยิ่งกลัวว่าจะแพ้ จึงตัดสินใจพึ่ง ไสยศาสตร์ ไปปรึกษาพระเกจิอาจารย์ ขอตะกรุดคงกระพัน ยิงไม่เข้า ฟันไม่ออก เพื่อให้ไก่หนังเหนียว พระเกจิก็ทําตะกรุดให้ บอกว่าให้ไปแช่นํ้าให้ไก่กินทุกวัน เหนียวแน่...
พอถึงวันนัด เสี่ยแก้ว ก็อุ้มไก่ไปบุกแดนคู่แข่ง แต่ปรากฏว่าแพ้ เสียเงินเดิมพันไป 3 แสน แถมไก่ตายคาเวที เสี่ยแก้ว ก็อุ้มศพไก่กลับไปต่อว่าพระอาจารย์ พระอาจารย์พลิกดูไก่ ยืนยันว่าไก่หนังเหนียวแน่ เพราะทั่วตัวไม่มีบาดแผลเลย คงตายเพราะเหตุอื่น ไม่ใช่อาตมาแน่ๆ...
เสี่ยแก้ว ก็เห็นจริง เลยเอาไปให้สัตวแพทย์ดูว่าไก่ตายเพราะอะไร พอผลตรวจออกมาว่าไก่ตายเพราะถูกพิษ ก็กลับไปขอโทษอาจารย์ ที่หาว่าตะกรุดไม่ขลังจริง...
อาจารย์เลยสงสัยว่า ถูกฝ่ายโน้นแอบวางยาหรือเปล่าไปลองสืบดูซิ แต่ เสี่ยแก้ว ส่ายหน้า บอกว่า ทางโน้นไม่ได้วางยาหรอก เพราะผมวางเอง...
เพราะแทนที่จะเอาตะกรุดไป แช่นํ้าทำน้ำมนต์ให้ไก่กินตามที่อาจารย์บอก เสี่ยแก้ว ใจร้อน กลัวน้ำมนต์ตะกรุดไม่ขลังพอ เลยขูดเนื้อตะกั่วให้ไก่กินจนหมดดอก ไก่เลยหมดแรงจนตายเพราะสารตะกั่วเต็มกระเพาะ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
ความคิดเห็น