คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 2 : น้องชายผู้ติดพี่สาว (รีไรต์)
บทที่ 2
หลังจากที่ฉันกับน้องชายแหกปากร้องไห้ลั่นบ้านแล้ว
พ่อของฉันก็โดนดุไปพักใหญ่เพราะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ฉันร้องไห้
‘ ไม่ขอปฏิเสธว่าสะใจเล็กน้อย.. ‘ เธอคิดในใจพลางยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าโดนมองอยู่ ฉันจึงมองไปยังต้นต่อสายตา น้องชายของฉันนั้นเอง ถ้าจำไม่ผิด เขาชื่อ ‘ เครซิเมอร์ ‘ ตอนได้ยินชื่อฉันก็คิดนะว่าทำไมชื่อฉันกับชื่อเขามันต่างกันแปลกๆ แต่ช่างมันเถอะ นอกจากชื่อของเขาที่ดูพิเศษ(?)ดวงตาของเขาก็เช่นกัน สีดวงตาของเขาเป็นสีเหลืองนวลเหมือนกับแม่ ดูจากโหวงเฮง(?)โตขึ้นไปเขาจะต้องเป็นเด็กซนแน่ๆ อ่า ฉันไม่อยากรับมือกับเด็กซนๆหรอกนะ อยู่ห่างๆเขาไว้จะดีไหมนะ..? ฉันคิดในใจพลางมองไปที่เครซิเมอร์ และเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าฉันคิดอะไร เขาถึงมองมาที่ฉันพลางเบะปากเหมือนจะร้องไห้
‘ อย่าร้องไห้เชียวนะ... อย่าเชียว...’ แต่เหมือนว่าคราวนี้เขาจะอ่านความคิดฉันไม่ออก เพราะตอนนี้เขาแหกปากร้องไห้ออกมาอีกแล้ว
เมื่อแม่และพ่อเห็นว่าน้องชายของฉันร้องไห้
พวกเขาก็เขาไปปลอบกันใหญ่ โดยทิ้งฉันไว้ให้นั่งมอง
‘ รู้สึกเหมือนโดนลืม...ช่างเถอะ เรื่องแบบนี้ ชิน แล้วละ ‘ ฉันคิดพลางเบือนหน้าหนีจากภาพครอบครัวสุขสันต์ตรงนั้นก่อนจะหลับตาลงเพื่อไล่ความรู้สึกแปลกๆออกไป
“ อ้อ แอ้ๆ “ ฉันลืมตาขึ้นและมองไปที่ต้นเสียง ก่อนจะพบว่าน้องชายของฉันพยายามเอือมมือมาหาฉันแล้วจ้องฉันตาแป่ว
“ อ้าว หยุดร้องไห้ซะแล้ว “ คนเป็นพ่อพูดขึ้นก่อนจะทำสีหน้างงๆนิดหน่อย ผิดกับคนเป็นแม่ที่ยิ้มออกมาแล้ววางน้องชายไว้ข้างๆฉัน
“ หยุดร้องไห้ เพราะไม่อยากให้พี่สาวร้องไห้ตามรึเปล่านะ “ คนเป็นแม่พูดและยิ้มกรุ่มกริ่มพลางลากสามีออกไปจากห้อง
“ ไปกันเถอะค่ะ ปล่อยให้พี่น้องเขาอยู่ด้วยกัน “ เมื่อคุณแม่พูดจบพวกเขาทั้งสองก็ออกจากห้องนี้ไป จนเหลือแต่ฉันกับน้องชาย
ฉันนิ่ง น้องชายของฉันก็นิ่ง
จนฉันเริ่มเบื่อจึงขยับหนี แต่ก็ต้องชะงักเมื่อน้องชายยื่นมือมาดึงเสื้อไว้
พลางทำท่าเหมือนจะร้องไห้
เมื่อฉันเห็นดังนั้นฉันก็ถอนหายใจเล็กน้อย
‘ ให้ตายสิ ฉันยิ่งไม่รู้วิธีปลอบคนด้วย ‘ ฉันคิดก่อนจะพยายามเค้นความทรงจำ และความทรงจำแวบหนึ่งก็โผล่เข้ามาในหัว
‘ เหมือนเคยเห็น คุณหนู ร้องไห้งอแงแล้วพอ คุณชาย ลูบหัวก็เงียบไปเลย นั้นคือวิธีปลอบสินะ ‘ ฉันคิดก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปลูบหัวของเครซิเมอร์ และฉันก็คิดว่ามันน่าจะได้ผล เพราะหลังจากที่ฉันลูบเสร็จน้องชายของฉันก็หยุดทำท่าเหมือนจะร้องไห้แล้วยิ้มออกมา เมื่อฉันเห็นดังนั้นจึงหยุดลูบหัว แต่ก็ต้องลูบต่อเพราะน้องชายทำท่าเหมือนจะร้องไห้อีกแล้ว...
‘ นี้ฉันมีน้องชายหรือสัตว์เลี้ยง... ‘ ฉันคิดอย่างเหนื่อยหน่าย โดยที่ไม่รู้เลยว่าดวงตาของเธอทอประกายอ่อนลงกว่าเดิมมากนัก
หลังจากนั้นสักพัก แม่ก็มาให้นมฉันกับน้องชาย และหลังจากนั้นพ่อก็เข้ามาช่วยแม่อาบน้ำฉันและน้องชาย ตอนแรกก็เขินๆนะน่ะ..แต่ฉันก็ไม่อยากตัวเน่านี้นา
หลังจากอาบน้ำเสร็จแม่ก็อุ้มฉันมานอนในเปลซึ่งแน่นอนว่าฉันไม่ได้นอนเปลเดียวกับน้องชายแน่นอน ผ่านไปสักพักฉันก็เริ่มรู้สึกง่วงๆ เพราะตะกี้เพิ่งกินนมมาและฉันก็อิ่มมากๆ เข้าคอนเซ็ป หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนที่แท้ทรู-- แต่ก่อนที่ฉันจะหลับฉันก็ได้ยินเหมือนเสียงใครร้องไห้ พลางมีเสียงคนเดินเข้ามาในห้องแล้วฉันก็หลับไป
เหตุการณ์ก่อนออร์ล่าหลับ
หลังจากที่คุณพ่อวางเครซิเมอร์ไว้ที่เปล สักพักเครซิเมอร์ก็ร้องไห้ออกมาเบาๆเพราะกลัวทำให้พี่สาวตื่น แต่ด้วยประสาทสัมผัสของคนเป็นแม่(?) ทำให้รับรู้ได้ว่าลูกของเธอกำลังร้องไห้อยู่ จึงค่อยๆเดินเข้ามาหาเพื่อดูว่าเกิดอะไร เมื่อไปถึงเธอก็อุ้มเครซิเมอร์ขึ้นมาพลางสอดส่องว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากนั้นเธอก็เข้าใจทันทีเมื่อมองไปทางที่ลูกชายของเธอมองอยู่ มันคือเปลของออร์ล่า ลูกสาวของเธอ เธอยิ้มออกมา ก่อนจะค่อยๆเดินไปที่เปลของออร์ล่า และวางเครซิเมอร์ไว้ข้างออร์ล่าที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ เมื่อเครซิเมอร์ได้นอนข้างๆพี่สาวของเขา เขาก็หยุดร้องไห้และกอดพี่สาวของเขาไว้แน่น ออร์ล่าขยับตัวไปมาเล็กน้อยด้วยความรำคาญ เครซิเมอร์จึงคลายกอดแต่ก็ยังกอดไว้อยู่แม้จะไม่แน่นกว่าเดิม คนเป็นแม่ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปจากห้องและกลับมาพร้อมกล้องตัวหนึ่งก่อนจะถ่ายรูปเก็บไว้เพื่อเป็นที่ระลึก
“ ลูกชายของฉันกลางเป็นพวกติดพี่สาวไปซะแล้ว “
ความคิดเห็น