ตัวตลกสีเลือด ตอน7'sin บทโรงละครปริศนา - ตัวตลกสีเลือด ตอน7'sin บทโรงละครปริศนา นิยาย ตัวตลกสีเลือด ตอน7'sin บทโรงละครปริศนา : Dek-D.com - Writer

    ตัวตลกสีเลือด ตอน7'sin บทโรงละครปริศนา

    กล้าพอไหมที่จะสนุกไปกับความตาย? //หึหึหึ

    ผู้เข้าชมรวม

    78

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    78

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  15 เม.ย. 58 / 01:39 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    มาสิ...มาสนุกไปกับความตาย
    ดำดิ่งสู่โลกมืดที่ยังไม่เคยมีใครสัมผัสไปพร้อมๆกัน//หึหึหึ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      บท โรงละครปริศนา
       
      สายัณห์สวัส...เหล่ามนุษย์ผู้โง่เขลาเอ๋ย
      เร่เข้ามา...เร่เข้ามา โรงละครสีดำของเรายินดีต้อนรับ ชายหนุ่มในคราบของตัวตลกชุดดำผายมือเชื้อเชิญ...ที่นี่เรามีโชว์มากมายรอคุณอยู่
      ขอการันตีด้วยเกียรติของปิเอโร่รับรองว่าคุณจะต้องตื่นเต้นจนแทบหยุดหายใจ...
        กล้าพอไหม...ก้าวเข้ามาสิ
      ทิ้งชีวิตและลมหายใจไว้เบื้องหลัง
      และขอเชิญก้าวสู่โลกของความตาย...สิ่งใดกันนะที่คอยคุณอยู่?
         เบื้องหน้าของปิเอโร่ ปรากฏร่างของสาวน้อยวัยแรกรุ่น ''ฉันจะเข้าไป" สาวน้อยกล่าวด้วยใบหน้านิ่ง
      "ยินดีต้อนรับสาวน้อย...แต่ช้าก่อนค่าผ่านประตูค่อนข้างจะแพงไปสักหน่อยสำหรับสาวสวยวัยแรกรุ่นอย่างเธอกระมัง''ปิเอโร่กล่าวด้วยใบหน้าที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม  "แม้จะรู้ว่าอาจต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ก็ยังจะดื้อดึงเข้าไปอย่างนั้นรึ" เมื่อได้ยินคำถามนี้รอยยิ้มน้อยๆที่ไร้ซึ่งแววขบขันก็ปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาว "ชีวิตของฉันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว...แม้ความตายก็ไม่อาจหยุดฉันได้"
      สาวน้อยแหงนคอประเชิญหน้ากับปิเอโร่หนุ่ม แววตาว่างเปล่าไร้ซึ่งแววของชีวิต
      "หึ..หึหึ..ฮ่าๆๆๆๆ"ปิเอโร่ระเบิดหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง  ''ห่ะๆ กล้าทิ้งแม้กระทั่งชีวิตอย่างนั้นหรือ ก็ดีคนอย่างนี้ข้าล่ะชอบใจนัก
      เอาล่ะ....มาสิ ขอต้อบรับสู่...โรงละครปริศนา...โชว์หรรษาของเหล่ายมทูต"  ประตูสีดำถูกเปิดออก ปิเอโร่ออกเดินนำโดยมีหญิงสาวคอยเดินตาม
      ............
      .....
      ...
      ม่านองค์ที่หนึ่ง: เสียงกรีดร้องของความเหงา!!
       
      บนเวทีเบื้องหน้าของสาวน้อย
      มีผู้คนมากมายกำลังเต้นเริงระบำอย่างสนุกสนาน เธอเบิ่งตากว้างคล้ายกับไม่คิดว่าจะได้เห็นสิ่งนี้ที่นี่ หญิงสาวอ้าปากคล้ายจะเอ่ยถามถึงสิ่งที่เห็น พลันสายตาเหลือบไปสะดุดเข้ากับภาพๆหนึ่ง เด็กหญิงตัวน้อยนั่งกอดเข่าอยู่ในมุมมืดริมเวทีไม่มีคนสนใจ ทันใดนั้นสปอตไลต์ขนาดใหญ่ด้านบนก็หลุดล่วงลงมาตรงที่เด็กสาวนั่งอยู่ พลั่ก!!! ของเหลวสีเเดงคล้ำไหลนองไปทั่ว กลิ่นเลือดลอยคละคลุ้ง ที่น่าอนาจคือแม้จะโดนทับอย่างจังแต่เด็กคนนั้นกลับยังไม่ตาย มือยื่นไปเบื้องหน้าปากอ้าคล้ายจะขอความช่วยเหลือ...แต่ไม่มีใครเลยที่จะเหลียวมอง ผู้คนยังคงพากันเริงระบำไม่มีใครสนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "อยู่อย่างเดียวดาย...และตายอย่างไร้คนเหลียวแล..."ปิเอโร่สะบัดข้อมือ มีดปลายแหลมพุ่งตรงไปปักกลางศรีษะของเด็กน้อยผู้รับเคราะห์อย่างแม่นยำ ลมหายใจที่แผ่วเบาอยู่แล้วขาดสะบั้น
       
      //แม้อยู่ใกล้...แต่ไร้ตัวตน
      แม้อยู่ท่ามกลางฝูงชน...แต่ไร้คนโอบล้อม
      เดียวดายไร้ที่พึ่ง...อยู่อย่างคนซึ่งไม่มีอะไร//
      "หรือนี่คือเรื่องราวที่เจ้าตามหา? " ปิเอโร่หันมาถามหญิงสาว 
      "ข้าไม่แยแสความโดดเดี่ยว...ข้าตัวคนเดียวตั้งแต่เยาว์วัย นี่คงไม่ใช่เรื่องราวที่ข้าสนใจหรอก'' หญิงสาวตอบโดยไม่แม้จะเหลือบมองซากศพเด็กน้อย "งั้นเชิญรับชมต่อเถิด...ม่านองค์ต่อไปเริ่มแล้ว" สิ้นเสียงของปิเอโร่สีดำม่านองค์ที่สองก็ถูกเปิดออก.........
       
      ม่านองค์ที่สอง: เงาของความแค้น!!!
       
      //บาปใดพึงกระทำ...จึงจำต้องรับผิด
      ความแค้นตรึงแน่นในความคิด
      คนผิดถูกตามติดด้วยเงาแค้น//
      บนเวทีปรากฏนักแสดงสามคนเป็นชายสองและหญิงอีกหนึ่ง...ทั้งสามมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง...หนึ่งในชายบนเวทีคว้ากระบอกปืนที่ซุกไว้ตรงเอวขึ้นมาจ่อก่อนที่จะกระหน่ำยิงชายอีกคนนัดแล้วนัดเล่าจนหมดกระสุด เลือดสดๆอาบชโลมกายศพจนเสื้อชุ่มไปด้วยเลือด ชายคนนั้นเหมือนเพิ่งได้สติทิ้งปืนมือไม้อ่อน หญิงสาวผู้เห็นภาพตรงหน้าถึงกับเข่าอ่อนทรุดตัวลงนั่งกอดศพที่คาดว่าน่าจะเป็นคนรักของเธอ ใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา...เสียงร่ำไห้ดังระงมไปทั่วก่อนที่จะกลายเสียงตวาดอย่างเกลี้ยวกราด ปิเอโร่เดินไปหาเธอก่อนจะส่งปืนสั้นให้เธอหนึ่งกระบอก เธอรับมันมาก่อนจะเล็งยิงไปที่ขาสองข้างของฆาตกรผู้ที่ฆ่าคนรักของเธอทำให้ชายคนนั้นไม่เหลือหนทางหนีปลายกระบอกปืนเลื่อนจากขาไปที่แขนซ้าย...แขนขวา...เธอยั้งมือมองดูชายคนนั้นดิ้นทุรนทุรายอย่างทรมานครู่หนึ่งก่อนจะยิงนัดสุดท้ายตัดขั้วหัวใจจากนั้นจึงหยุดปลายกระบอกปืนไว้ที่ศรีษะตัวเองก่อนที่จะลั่นไกล  ปัง!!!! กระสุนทะลุสมองเจาะเอากะโหลกเป็นรู..สมองไหลออกมากองบนพื้นชวนคลื่นไส้
      "ความแค้นทำลายได้ทุกอย่าง...ไม่เว้นแม้แต่ตัวเอง"ปิเอโร่กล่าวก่อนจะหันกลับมาช้าๆพลางถาม "หรือเพลิงแค้นนี้จะเป็นเรื่องราวที่เจ้าตามหา?"
      หญิงสาวส่ายหน้าช้าๆ "การยึดติดกับแค้นเป็นเพียงความโง่ของคนที่หลงผิด...ฉันไม่ขาดสติและจะไม่ยึดติดกับความงี่เง่านี้
      เปิดม่านต่อไปเถิด นี่ไม่ใช่เรื่องราวที่ฉันตามหา"
      ปิเอโร่แสยะยิ้ม "งั้นขอเชิญชมการแสดงชุดสุดท้ายของเรา"
      ม่านสุดท้ายถูกเบิกออกแล้ว...สิ่งใดกันนะที่รอคอย
       
      ม่านองค์สุดท้าย : all of the end
       
      // คือจุดจบของทุกสิ่ง...คือความจริงของทุกอย่าง
      ที่สุดท้าย...ปลายทาง
      จุดสูงสุดของความอ้างว้าง...ไม่พ้นร่างไร้วิญญาณ//
      ผิดคาด...สาวน้อยหวังว่าจะได้เห็นสิ่งที่น่าตื่นตาหลังม่านองค์สุดท้าย แต่เปล่าเลยเบื้องหน้าของเธอมีเพียงความว่างเปล่า ไม่มีฉาก ไม่มีนักแสดง ไม่มีแม้เสียงดนตรี กระทั่งปิเอโร่ก็ไม่อยู่ที่ตรงนั้น.....
         หญิงสาวก้าวขึ้นไปบนเวที โดยหารู้ไม่ว่า
      โชว์สุดท้ายนี้เธอนั่นแหละคือผู้แสดง
      "เธอกลัวความตายไหม" เสียงของปิเอโร่ดังก้องกังวาลไปทั่ว..ยากที่จะหาที่มาได้  
      ฉึก!!! มีดเล่มงามทิ่มทะลุตัดขั้วหัวใจของหญิงสาวก่อนที่เธอจะทันได้ตอบคำถาม
        ปิเอโร่ออกแรงกดมีดจนสุด "ขึ้นชื่อว่าสิ่งมีชีวิต..."ปิเอโร่เอื้อนเอ่ย "ไม่มีสิ่งใดหนีพ้นความตายไปได้หรอก"
      หญิงสาวนัยน์ตาเบิกกว้าง 
      "...หลับให้สบาย..." สิ้นคำ สปอตไลต์ด้านบนก็ไหวเอนส่งเสียงครืดคราดก่อนที่จะหลุดล่วงลงมา ร่างกายหญิงสาวคล้ายถูกตรึงด้วยพันธนาการไม่อาจขยับขาได้ ตึง!! และแล้ว สติของเธอก็ดับวูบไป....
      "เหตุใดเจ้าจึงไม่ร้องขอชีวิต" ด้วยความเจ็บบวกกับเสียงที่ถามซ้ำไปซ้ำมา
      เรียกสติของสาวน้อยให้ตื่นขึ้น...รอบข้างมืดสนิทมองไม่เห็นแม้แต่มือตัวเอง
      "หรือความตายหน้าตาเป็นเช่นนี้"หญิงสาวเอ่ยอย่างเลื่อนลอยไม่มีอาการตกใจทั้งที่ตัวเองเพิ่งไปเหยียบหน้าประตูนรกมาแล้ว
         "เหตุใดเจ้าจึงไม่ร้องขอชีวิต"...เสียงนั่นอีกแล้ว ครั้งนี้หญิงสาวได้ยินชัดเจน 
      "ความตาย..แม้จะเจ็บปวดแต่หากก้าวผ่านความทรมานนั้นได้ มันก็ไม่ต่างจากนิทราอันเป็นนิรันดิ์"
      หญิงสาวยิ้มอย่างขมขื่น "ออกมาเถิดท่านปิเอโร่...ท่านต้องการชีวิตข้าไม่ใช่หรือไร" พริบตานั้นเองประตูก็ปรากฏที่เบื้องหน้าของหญิงสาว  "ชีวิตที่แม้แต่เจ้าเองยังไม่ต้องการ ข้าจะเอาไปเพื่อสิ่งใด สิ่งที่เจ้าเป็นอยู่มันก็ไม่ต่างจากความตายนักหรอก.............
      ไม่มุ่งหวังสิ่งใด...ใช้ชีวิตอย่างไร้ความหมาย
      แม้นหายใจแต่ไร้ซึ่งชีวิต ความตายที่ร้ายแรงที่สุด 'ตายทั้งเป็น' .....
      ไปเสียเถิดที่นี่ไม่มีสิ่งที่เจ้าตามหาอยู่หรอก"
      ปิเอโร่กล่าวก่อนจะผลักหญิงสาวให้ออกจากที่แห่งนั้นโดยหญิงสาวไม่มีโอกาสจะได้โต้แย้งสิ่งใด.........
      ......
      ...............
       
      ละทิ้งทุกสิ่งอย่างไม่คิด ใช้ชีวิตอย่างเกรียจคร้าน...เปลเฟกอร์เอ๋ย  ดูเหมือนข้าจะเจอสาวกของเจ้าเข้าแล้วสิ...
      ปิเอโร่สีดำค่อยๆถูกความมืดรอบข้างกลืนไปทีละนิดจนอันตรธานหายไป
       
      End
       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×