ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO's fiction] the illusion of MASK ,, { krislay }

    ลำดับตอนที่ #15 : ▌MASK : chapter 14

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 660
      9
      1 ส.ค. 57

    the illusion of

    MASK

    Chapter 14

     

     

     

    ขอโทษนะครับพี่คริส ..ถึงแม้ว่าผมจะรู้ตัวแล้วว่ายังรักพี่ไม่เปลี่ยน

    ..แต่ผมก็อยู่ข้างๆ พี่ไม่ได้อีกแล้ว

     

    เราควรจะแยกย้ายกันกลับไป..

     

    อยู่ในโลกของตัวเอง

     

     

     

     

     

     

    จางอี้ชิงเดินไปอย่างเชื่องช้าบนสองเท้าที่มั่นคงของตัวเอง.. เขาไม่ทันได้สังเกตเลยว่าทำไมผู้คนรอบข้างถึงดูรีบร้อน.. ไม่ได้ยินเสียงครืนๆ จากท้องฟ้า.. อี้ชิงไม่ได้รับรู้อะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว

     

     

    ม่านน้ำตาบดบังทัศนียภาพของสายตาฉันใด

    ม่านความทรงจำก็บดบังความจริงในปัจจุบันฉันนั้น

     

     

    จบแล้ว.. เขาเดินจากพี่คริสมาแล้ว ทิ้งไปแล้ว..คนที่เคยทำให้เขามีความสุขมากที่สุดในชีวิต ..แว่บหนึ่งที่อี้ชิงคิดว่าเขาอาจจะสู้เพื่อที่จะยืนอยู่ข้างคนคนนั้นได้..

     

     

    แต่อี้ชิงรู้จักตัวเองดีกว่าใคร เขาคงไม่กล้าพอจะเหนี่ยวไกปืน..

     

     

    ความคิดนี้ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่า..เขาไม่ได้รักพี่คริสมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ..ทั้งที่พี่คริสพยายามเพื่อเขา..

     

     

    อี้ชิงไม่ได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแค่ในวินาทีที่สายเกินไป แต่เขาเข้าใจมันไปพร้อมๆ กับที่เข้าใจว่าตนเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้พี่คริสตายได้ทุกนาที.. เขาไม่อยากอยู่เคียงข้างคริสเพื่อเผชิญกับวันนั้น..

     

     

    ทว่าวันนี้ก็ไม่ต่างกัน.. อู๋อี้ฟานถูกฆ่าให้ตายไปแล้ว.. ด้วยคำพูดของอี้ชิงเอง

     

     

     

    ..

    ..

     

     

     

     

    เพล้ง!!

     

     

    อี้ชิงปัดแจกันหล่นจากโต๊ะตกลงมาแตกกระจาย นั่นทำให้คริสผลุนผลันเข้ามาในห้องโดยที่เขาไม่ต้องเรียก.. และละครฉากใหญ่ของอี้ชิงก็กำลังเริ่มต้นขึ้นหลังจากนั้น

     

    “ผมจะกลับบ้าน!

     

    “อี้ชิงเป็นอะไร!” ร่างสูงยื้อแจกันอีกใบเอาไว้ได้ ก่อนที่อี้ชิงจะทุ่มมันลงกับพื้นอีกครั้ง แต่คนตัวเล็กไม่ได้หยุดการกระทำแค่นั้น อี้ชิงดิ้นรุนแรงอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง ดื้อดึงเสียจนคริสนึกแปลกใจ

     

    “ผมหมดความอดทนกับพี่แล้ว ปล่อยผม!!” อี้ชิงตวาดเสียงดังอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน มือเล็กๆ ที่ไม่เคยทำร้ายใครก็เอาแต่ทุบตีร่างสูงใหญ่ พร้อมกันกับที่น้ำตาไหลลงมา..

     

    “ปล่อยผมไปสักที ฮึก.. ผมทนเรื่องบ้าๆ พวกนี้ไม่ไหวแล้ว” ในที่สุดก็หลุดออกจากอ้อมกอดอุ่นมาได้ ..จางอี้ชิงหอบหายใจนักทั้งเหนื่อยที่ใช้กำลังไปเมื่อครู่ ทั้งหายใจไม่สะดวกเพราะกำลังร้องไห้

     

    “แต่พี่กำลังพยายาม..”

     

    “หยุดสักทีเถอะพี่คริส พี่ถามผมสักคำสิว่าผมต้องการรึเปล่า พี่ก็ได้ยินตอนที่คุณฮันเกิงเขาถามผมแล้วว่าผมรักพี่มั้ย พี่ก็อยู่ตรงนั้นไม่ใช่รึไง!!

     

    “อี้ชิงอา..”

     

    “อย่าเข้ามา!” คนตัวเล็กร้องห้ามเมื่อคริสก้าวเข้ามาหา ..ทั้งที่คริสไม่จำเป็นต้องฟังคำพูดนั้น แต่เขากลับถูกตรึงอยู่กับที่ด้วยดวงตาแดงช้ำที่จ้องมา.. ทั้งที่คริสเคยให้สัญญากับตัวเองไว้เมื่อนานมาแล้ว เขาบอกกับตัวเองว่าจะไม่ทำให้จางอี้ชิงต้องร้องไห้ เขาจะไม่ทำให้อี้ชิงต้องผิดหวัง แต่ก็เป็นเขาเองทั้งนั้น ที่ริบเอารอยยิ้มบริสุทธิ์มาบดขยี้ด้วยมือของตัวเอง

     

     

    “ผม ฮึ่ก.. ผมไม่อยากเห็นหน้าพี่ ผมรู้แล้ว..รู้แล้วว่าพี่ผ่านอะไรมาบ้าง เคยทำอะไรเลวร้ายแค่ไหน และผมไม่อยากอยู่ข้างๆ พี่เลย ..อีกแค่นาทีเดียวก็ไม่อยาก ปล่อยผม ฮึ่ก..ปล่อยผมไปสักที” สิ่งเหล่านี้เคยเป็นคำพูดที่อี้ชิงพูดออกมาได้ง่ายดาย ไม่รู้ว่าทำไมเวลานี้ ลำคอขอของเขาถึงเหมือนจะตีบตัน ..การเปล่งเสียงออกมาแต่ละคำนั้น ช่างยากเย็นเหลือเกิน..

     

     

    “ผมเกลียดคุณ ได้ยินมั้ยว่าผมเกลียดคุณ”

     

     

    ไม่เคย..อู๋อี้ฟานไม่เคยกลัวอะไรเลยในชีวิต กระทั่งถูกปืนจ่อเข้าที่ข้างขมับ หัวใจเขาก็ไม่แม้แต่จะเต้นผิดจังหวะ ..แต่วินาทีนี้ แค่เพียงคำพูดจากผู้ชายตัวเล็กๆ เท่านั้น.. แค่ยืนฟังอยู่ตรงนี้หัวใจของเขาเจ็บปวดราวกับถูกเข็มสักพันเล่มทิ่มแทง

     

     

    “ถ้ารักผมอย่างที่พูดจริงๆ ก็ทำเพื่อผมสักครั้งไม่ได้เหรอครับ”

     

     

    ยอมแล้วจางอี้ชิง

     

    พี่ยอมแล้ว..

     

     

     

     

    ..

    ..

     

     

     

     

    “ทำไมถึงปล่อยเขาไปง่ายๆ แบบนี้ล่ะครับ” จื่อเทาถามอย่างไม่เข้าใจนัก ขณะที่ขับรถช้าๆ เพื่อตามใครบางคนอยู่ห่างๆ “ก่อนหน้านี้ก็ยื้อไว้แทบตายแท้ๆ”

     

    “หึ” อี้ฟานหัวเราะในลำคอเบาๆ ..จะว่าสมเพชตัวเองก็ได้.. น่าสมเพชจริงๆ อู๋อี้ฟาน “ก่อนหน้านี้เขาเข้าใจผิดอยู่นะเทา ฉันแค่หวังว่าเมื่อเขารู้ทุกอย่าง และรู้ว่าฉันกำลังพยายามทำอะไร แล้วเขาจะเข้าใจ.. แต่ก็ไม่เลย” คริสยกยิ้มขมขื่น มองร่างเล็กน่าถนอมที่เดินไม่รู้เรื่องรู้ราวจนกระทั่งฝนลงเม็ด

     

    “ทำไมถึงไม่ขึ้นรถนะ” ร่างสูงขมวดคิ้วมุ่น จะรถประจำทางหรือแท็กซี่ก็วิ่งผ่านไปผ่านมาอยู่ตลอด อี้ชิงเดินเท้าอยู่แบบนั้นร่วมชั่วโมงแล้ว..

     

    “เทา นายล่วงหน้าไปรอแถวบ้านอี้ชิงก่อนเลย” อี้ฟานสั่งแค่นั้นแล้วก็เปิดประตูลงจากรถไป ..จื่อเทาเข้าใจผู้เป็นนายดีว่าจะทำอะไร ถึงแม้เขาจะหงุดหงิดกับความงี้เง่าของอี้ชิงจนโทรไปบอกคุณหมอของบ้านมาแล้ว แต่พอฝ่ายนั้นพูดกลับมา ก็กลายเป็นว่าเขาเข้าใจอี้ชิงมากขึ้น

     

    เจี่ยเจียบอกว่าโลกของอี้ชิงนั้น..ต่างกับตุ้ยจางมากจนเรานึกไม่ถึง ..เพราะคนที่อยู่ใกล้ๆ อย่างจุนมยอนเอง ยังคิดว่าบางเรื่องโหดร้ายเกินไปเลย

     

     

     

    ..

    ..

     

     

     

    อี้ฟานอยากจะซื้อร่มสักคันแล้วใช้มันกันฝนให้คนที่เดินห่างออกไปไม่ไกลนักแต่ก็ทำไม่ได้.. เขาทำได้แค่เดินตามอยู่อย่างนี้เท่านั้น ถ้ารู้อย่างนี้เขาออกคำสั่งกับอี้ชิงเป็นครั้งสุดท้ายก็คงดี.. เขาน่าจะใจแข็งพอที่จะบังคับให้อี้ชิงยอมให้เทาไปส่ง

     

    เดินอยู่อีกร่วมชั่วโมงก็มาถึงละแวกบ้านของคนตัวเล็กในที่สุด คริสรั้งฝีเท้าให้เดินช้าลงเพราะอีกฝ่ายเหลียวหลังมามองบ่อยขึ้น ..แต่คริสมั่นใจว่าเขาไม่ได้ถูกจับได้

     

    ร่างสูงแวะเข้าร้านยาเล็กๆ ที่ข้างทาง เพื่อซื้อยาแก้หวัดพร้อมทั้งยาแก้ไอ.. จางอี้ชิงลืมไปรึเปล่าว่าตัวเองจะเป็นยังไงหลังจากที่ตากฝน

     

     

    อี้ฟานเดินตามมาถึงหน้าบ้านหลังที่คุ้นตา ..อี้ชิงคงเข้าบ้านไปแล้ว และร่างสูงไม่รู้เลยว่าเขาซื้อยาพวกนี้มาทำไม ในเมื่อไม่มีทางจะแสดงความห่วงใยให้กันอีกแล้ว..

     

    ร่างสูงเอนตัวพิงลงกับกำแพงหน้าบ้าน เงยหน้ามองที่ฟ้าที่กลายเป็นสีดำสนิท.. ไม่มีแม้แต่ดาวสักดวง เขาหลับตาลง..ปล่อยให้อดีตเล่นงานจนแทบยืนไม่ไหว

     

    อู๋อี้ฟานเติบโตขึ้นมาพร้อมกับอำนาจในมือ เขาเริ่มชี้เป็นชี้ตายได้ตั้งแต่ก่อนบรรลุนิติภาวะเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นไม่มีอะไรที่เขาต้องการแล้วมันจะไม่กลายเป็นของเขา นอกเสียจากวันนี้ที่เพิ่งได้เรียนรู้

     

     

    ความรัก

     

     

    เป็นสิ่งที่หัวหน้าแก๊งค์อย่างเขาไม่คิดว่าจะพบเจอ กับคำว่ารักแรกพบยิ่งเหลวไหล คนเราจะรู้สึกคนที่เพิ่งเคยพบหน้ากันครั้งแรกได้ยังไง.. แต่หลังจากเจออี้ชิงแล้ว หัวใจแข็งกระด้างของเขาก็ได้เรียนรู้..

     

     

     

    ไม่มีที่ว่างสำหรับเหตุผลเลยในความรัก

     

     

     

    คริสยืนอยู่ตรงนั้นนานสองนานเพราะไหลไปกับช่วงเวลาในอดีต แต่ก็รู้สึกตัวขึ้นมาอีกตอนที่ฝนตกลงมาเป็นรอบที่สอง คนตัวสูงเหลียวมองในบ้านที่เงียบสงบเป็นครั้งสุดท้าย.. มองอยู่อย่างนั้นแล้วก็ค่อยถอยเท้าออกมาโดยที่สายตายังไม่ละไปไหน

     

    จางอี้ชิงคงกำลังมีความสุขอยู่ในบ้าน พูดคุยกับพ่อแม่ที่ไม่ได้เจอกันมานาน แล้วก็กินมื้อเย็นด้วยกัน ..ก็คงจะเป็นแบบนั้น แต่ทำไมบรรยากาศถึงดูเงียบสงบนัก..

     

     

    เงียบเกินไป

     

     

    ใช่สิ..แล้วจื่อเทาไปไหนล่ะ!?

     

     

     

     

    ..

    ..

     

     

     

    อี้ชิงเดินเข้าบ้านอย่างเงียบเชียบด้วยไม่ต้องการให้ใครออกมาตอนรับ แต่แล้วขาคู่เล็กก็สั่นไปหมดตอนที่ก้าวเข้ามาในบ้านแล้วเห็นพ่อกับแม่ถูกมัดเข้าไว้ด้วยกัน ครั้นผู้เป็นพ่อเหลือบมาเห็นเขา ก็ส่ายหน้าอย่างรุนแรงเป็นการห้ามไม่ให้อี้ชิงเข้ามา พร้อมกับที่ขยับปากบอกให้ออกไปจากที่นี่

     

    “ฉันถามว่าลูกแกอยู่ไหน!!” ชายฉกรรจ์ที่เหน็บปืนเอาไว้ที่เอวถามเสียงดัง แล้วฟาดหลังมือลงบนแก้มของหญิงวัยกลางคนไร้ทางสู้

     

    “ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขากลับมาที่นี่ ฉันไม่รู้จริงๆ” แม่ตอบเสียงสั่น แต่กระนั้นก็ยังไม่วายถูกถามซ้ำด้วยคำถามที่ก็ได้คำตอบแบบเดียวกันอีก “ฉันจะถามเป็นครั้งสุดท้าย ลูก แก อยู่ ที่ไหน” เน้นชัดทุกคำพร้อมทั้งชักปืนกระบอกสั้นขึ้นจ่อหน้าผาก และพยักหน้าให้เพื่อนอีกคนทำแบบเดียวกันที่ขมับของพ่อ

     

    “คุณตามหาผมทำไม”

     

    “อี้ชิงอย่าเข้ามา!! หนีไป!!” คุณพ่อร้องห้ามเสียงแห้ง แต่อี้ชิงไม่ได้ขยับหนีไปไหน ทำได้เพียงยืนรอให้ชายตัวสูงเดินเข้ามาหา

     

    “ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมาล่ะ หืม?” ปลายกระบอกไล้ไปตามผิวแก้มขาวอย่างคุกคาม “คิดจะท้าทายฉันหรือไง คิดว่าฉันไม่กล้ายิงงั้นเหรอ?” ชายหนุ่มยิ้มยกร้ายกาจ แล้วเปลี่ยนทิศทางกระบอกปืน เล็งไปยังแม่ของเขาที่นั่งอยู่บนพื้น

     

    “โทษฐานที่ทำให้ฉันเสียเวลา คงต้องสั่งสอนสักหน่อย”

     

    “อย่า!!

     

     

     

    ปัง!!

     

     

     

    เสียงปืนดังจากกระบอกในมือของร้ายตัวสูงใหญ่ แต่มันไม่ได้ฝังกระสุนลงในอวัยวะของเป้าดังคาด ท่อนแขนยาวถูกเตะด้วยปลายเท้าของฮวังจื่อเทาที่ซ่อนตัวอยู่ครู่ใหญ่ ความโกลาหลเกิดขึ้นแค่เพียงชั่วพริบตา จื่อเทาก็สามารถล็อคคอไอ้คนกร่างที่สุดไว้ในแขนพร้อมทั้งใช้ปืนที่ร้อนจากการยิงเมื่อครู่จี้ลงที่ขมับขวาจนเกิดรอยไหม้

     

    “อ้ากกกกกก!!” คนร้ายดิ้นทุรนทุรายในคีมเหล็กของเทา ขณะที่อี้ชิงลุกลี้ลุกลนเข้าไปแก้มัดให้ครอบครัวของเขา และในตอนที่คิดว่าตัวเองกำลังเป็นต่อเพราะควบคุมหัวของอีกฝ่ายได้นั้น

     

     

    “อึ่ก!!

     

     

    ไหล่ขวาของจื่อเทาก็ถูกยิงด้วยปืนเก็บเสียงจากทางด้านหลัง แต่มือขวาของอู๋อี้ฟานไม่สิ้นลายเพียงเท่านั้น ยังต่อสู้ด้วยมือปืนที่ซ่อนเอาไว้จนปลิดลมหายใจฝ่ายตรงข้ามได้สองนาย..

     

    แต่พวกมันมีกันเยอะเกินไป เขาจัดการคนเดียวไม่ไหวในสภาพไม่เต็มร้อยแล้วยังมีชีวิตที่ต้องห่วงอีกสามชีวิตแบบนี้..

     

     

    “หม่าม้า!!!” อี้ชิงร้องเรียกมารดาที่หมดสติเพราะดูด้ามปืนตบเข้าอย่างแรง และตัวเขาเองก็ถูกลากให้ออกมายืนอยู่ห่างๆ .. จื่อเทาใช้มือซ้ายเล็งปืนไปที่กลางหน้าผากของหัวหน้าฝ่ายตรงข้าม เจ้าหัวหน้าคนนั้นเล็งปืนไปที่พ่อของจางอี้ชิง ส่วนลูกน้องที่เหลือสามสี่คน ต่างเล็กปืนไปที่จื่อเทาทั้งสิ้น..

     

     

    “ต้องการตัวฉันแต่ไม่มีปัญญาเลยต้องเล่นสกปรกขนาดนี้เลยเหรอ ชองโบคัง” ขาคู่ยาวพาร่างสูงของอู๋อี้ฟานมาปรากฏตัวต่อสายตาทุกคน เอ่ยเรียกชื่อศัตรูราวกับเป็นคนคุ้นเคย

     

    “หลบอยู่หลังเมียเสียตั้งนานนะไอ้ลูกหมา!!

     

    “การกระทำของแกมากกว่ามั้งที่เรียกว่าหมา”

     

    “ปากดีนัก! ฮงซู มินซู จัดการมัน” ลูกน้องสองคนที่ถูกสั่งเตรียมเข้าไปปะทะกับมาเฟียหนุ่มเต็มกำลัง แต่ฝ่ายนั้นก็ไว้เสียจนใช้เวลาแค่พริบตาเดียวก็ควงปืนสองกระบอกขึ้นมาพร้อมยิงแสกหน้าศัตรูได้ทันควัน

     

    “ช้าไปนะ” พูดจบก็เหนี่ยวไกยิงพร้อมกันทั้งมือโดยไม่ลังเล.. ร่างสูงลอบมองอี้ชิงที่สะดุ้งด้วยใบหน้าซีดเผือดแล้วก็ขบกรามแน่น..

     

    “แก!!” เมื่อลูกน้องที่ได้ชื่อว่าเป็นมือดีที่สุดของตนถูกดับลมหายใจในชั่วพริบตา

     

    “วางปืนลงกับพื้นซะไม่งั้นฉันจะยิงเมียแกซะ!!

     

     

    ไม่ต้องให้ขู่ซ้ำซาก.. เมื่อเป็นเรื่องของจางอี้ชิง คริสไม่เคยมีข้อแม้ให้เลยสักครั้งเดียว..

     

     

    แต่ไม่มีสัจจะในหมู่โจร.. วินาทีที่คริสก้มลงวางปืน ชองโบคังตั้งใจจะยิงคนรักของอี้ฟานให้หายแค้น แต่จื่อเทาที่ควรจะหมดแรงไปแล้วลอบจัดการกับชายที่ล็อคตัวอี้ชิงไว้และบังโถมตัวใส่ร่างบางให้พ้นวิถีกระสุน

     

    โบคังที่เห็นว่าหากรอให้จื่อเทาลุกขึ้นมาได้จะทำให้เรื่องยิ่งยุ่งยาก ก็เปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นคนในครอบครัวของอี้ชิงแทน

     

    “แกต้องเสียพ่อไปเพราะไอ้อี้ฟานนี่ จำไว้นะจางอี้ชิง!!

     

     

     

    “ป๊า!!!!!!!!

     

     

     

    ปัง!!!

     

     

     

     

     

     

     

    มันเป็นเสียงของปืนสองนัดที่ประสานเป็นทำนองเดียวกัน.. นัดหนึ่งถูกยิงโดยจื่อเทา พุ่งเข้าตัดเข้าหัวใจชองโบคังเป็นผลให้สิ้นลมในทันที ..ส่วนอีกนัดที่เกิดจากโบคังนั้น ฝังอยู่ในร่างของอู๋อี้ฟานที่เข้ามารับกระสุนแทน

     

     

    “พี่คริส!!!!!!!

     

     

     

     

    อี้ชิงถลาเข้าไปประคองคนที่ล้มคว่ำลงให้หงายหน้าขึ้น พาศีรษะหนักอึ้งของร่างสูงขึ้นมาไว้บนตักอย่างถนอม

     

    “ฮรึ่ก..พี่คริส พี่คริสอย่าเป็นอะไรนะ” อี้ชิงละล่ำละลั่กพูดทั้งน้ำตา หูแว่วได้ยินเสียงป๊าติดต่อรถพยาบาลแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้เบาใจขึ้นเลย..

     

    “ผมจะพาพี่ไปโรงพยาบาลนะ” น้ำตาหยดแล้วหยดเล่า ไหลลงจากดวงตาของอี้ชิง.. หยดลงบนใบหน้าที่ซีดเซียวลงทุกทีของอี้ฟาน

     

    “อี้..อี้ชิง” อู๋อี้ฟานยกมือขึ้นมา แต่มันไร้ทิศทางเหลือเกิน..

     

    “ผมอยู่นี่พี่คริส ผมอยู่นี่” มือเล็กเอื้อมไปจับมือที่ชุ่มเลือดเอาไว้ เหลือบมองแผลที่ดูคล้ายจะเป็นตำแหน่งเดียวกับบนร่างกายของชองโบคัง แต่พี่คริสยังหายใจอยู่

     

    “พี่.. ขอโทษนะครับ”

     

    “พี่คริสไม่ต้องพูดแล้ว ฮึ่ก” อี้ชิงบีบมือใหญ่เอาไว้แน่นๆ อีกข้างก็คอยเช็ดน้ำตาตัวเองออกจากใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่าย สลับกับลูบผมเปียกชื้นนั้นด้วยมือสั่นเทา

     

    “พี่ไม่เป็นไร.. ไม่เป็นไรหรอกอี้ชิง แค่ก” พูดจบประโยค อี้ฟานก็สำลักเลือดออกมาเล็กน้อย..แต่ดูช่างทรมาณเหลือเกิน

     

    “พี่ขอโทษสำหรับทุกอย่าง ..ท..ทุกอย่างนะ อี้ชิง..” ร่างสูงยกมือที่ไร้เรี่ยวแรงขึ้นลูบแก้มขาวอย่างรักใคร.. เขาอยากเช็ดน้ำตาให้แต่มือตัวเองยังเปื้อนเลือดอยู่แบบนี้..เขาทำไม่ได้

     

    “อี้ชิงไม่ต้อง..ทน อึ่ก..กับเรื่องพวกนี้แล้วนะครับ”

     

    “พี่คริส..ฮึ่ก พอแล้วครับ”

     

    “ถ้าอี้ชิงต้องเสียใครสักคนไป ขอให้เป็นพี่ที่อี้ชิงเกลียดแล้วกัน” อี้ฟานยิ้ม ..ไม่ใช่เวลาที่เขาจะสามารถเสแสร้งได้ เขายิ้มเพียงเพราะอยากจะยิ้มให้คนที่รักเป็นครั้งสุดท้าย “ขอโทษที่ความรักของพี่ดีได้เท่านี้ ขอโทษที่พี่ดีกับอี้ชิงได้แค่นี้นะครับ” ยิ้ม.. อี้ฟานยังยิ้มทั้งที่ตัวเองก็ปล่อยให้น้ำตาไหล.. ที่จริงแล้วเขาก็ดีใจที่อย่างน้อยก็จะได้ตายในอ้อมกอดของอี้ชิงแบบนี้ แต่ว่าเราจะจากกันด้วยรอยยิ้มไม่ได้เหรอ..

     

                                                                                                                  

    “อี้ชิง..”

     

     

    “พี่คริสไม่พูดแล้วครับ ไม่เอาแล้ว ฮือ.. ป๊า รถพยาบาลมารึยังครับ พี่คริสไม่ไหวแล้ว ฮือออ” อี้ชิงละสายตาจากคนบนตัก เรียกร้องหาคุณพ่อและการพยาบาลที่ล่าช้าเหลือเกินในความรู้สึกของเขา ..แต่เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่เขาทำแบบนั้น พี่คริสก็หลับตาลงเสียแล้ว

     

     

     

    “พี่คริส!! คริสตื่นสิครับ พี่คริส!!!

     

     

     

     

     

    To be cont.

     

    ..

     

     

    # talk corner *

    สวัสดีค่ะ เราเขียนตอนนี้ยากมาก ยากที่สุดเลย เราไม่เคยเขียนฟิคตามพล็อตขนาดนี้มาก่อน เลยกลายเป็นว่าเราพยายามอยู่กับพลอตมากเกินไปจนลืมนึกถึงความรู้สึกของตัวละคร พิมพ์แล้วลบ พิมพ์แล้วลบอยู่ทุกวันที่หายไปเลยค่ะ สุดท้ายก็ได้ออกมาอย่างที่เราพอใจ เขียนเองก็น้ำตาจะไหลเองด้วย ฮ่าๆ

    เรารู้สึกว่าฟิคเราเป็นช่วงอินโทรกับสองสามตอนแรกเหมือนหลอกคนอ่านว่าจะดี(หมายถึงว่าจะสนุก)เลย แต่พอหลังๆ มันแย่ลงใช่มั้ยคะ คนอ่านหายไปหมดเลย ฮ่าๆ แต่ไม่เป็นไรนะคะ ที่จริงเราก็ชินแล้ว และสัญญาว่าจะแต่งไปจนจบแหละค่ะ ก็คงอีกไม่กี่ตอนนี้แหละเนอะ

    ขอบคุณทุกคนมากนะคะ :)

     

    #ฟิคหน้ากาก

     

     

     

     

     

    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×