คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ▌MASK : chapter 12
the illusion of
MASK
Chapter 12
ร่างบอบบางนั่งอยู่ดาดฟ้าของเรืออย่างสงบ ลมเอื่อยๆ พัดผ่านผิวกายขาวอยู่ตลอดนั้นทำให้อากาศไม่ร้อนเท่าที่ควร นัยน์ตาหวานเหม่อมองไปยังผืนน้ำที่ไม่เคยสงบ ปล่อยความคิดให้ไหลไปเรื่อยๆ เหมือนคลื่นในทะเล..
.
.
“เราจะไปจีนกัน”
สิ้นประโยคนั้นแล้วอู๋อี้ฟานก็ใช้อำนาจเท่าที่มีเพื่อจะเดินทางให้เร็วที่สุด แต่พวกเขาจะไปทางเครื่องบินไม่ได้ มันอันตรายเกินไปที่จะกลับไปอย่างเอิกเกริก ที่สุดแล้วเรือสำราญจึงเป็นทางเลือกที่สะดวกสบายที่สุดรองลงมาจากเครื่องบิน แม้จะกินเวลานานกว่ากันมากหน่อยก็ตามที
ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงดีนับจากที่ตกลงเรื่องการเดินทาง พวกเขาทั้งหมดก็มาพร้อมอยู่ที่ท่าเรือ คนอื่นๆ ขึ้นไปตรวจตราความเรียบร้อยและจัดการเรื่องต่างๆ เพราะปัญหาที่พวกเขามาแทรกแซงระบบที่นี่ ทำให้คนที่ควรจะต้องได้ขึ้นเรือรอบนี้ต้องมีปัญหา ..เหลือแค่คริสกับอี้ชิงเท่านั้นบนรถที่ยังติดเครื่องอยู่
“อี้ชิง” คริสสูดลมหายใจลึกก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับคนตัวเล็ก มือใหญ่เอื้อมไปจับมือนิ่มเอาไว้ ออกแรงนิดเหนื่อยเพื่อยื้อไม่ให้มือคู่เล็กนั้นถูกดึงกลับไป
“ไม่ว่านายจะเชื่อที่พี่พูดไปหรือไม่ พี่ก็ยังอยากจะขอร้อง” มือใหญ่ข้างหนึ่งละจากมือนุ่มนิ่มขึ้นปัดผมที่ปรกใบหน้าน่ารักออกอย่างแผ่วเบา “พี่ไม่รู้ว่าหลังจากที่ถึงจีนแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าพี่จะยกเลิกการหมั้นได้หรือพี่ต้องชดใช้มันด้วยชีวิต..”
“เพราะงั้นแล้วตลอดการเดินเรือสามวันนี้ ..ขอมีแค่พี่กับอี้ชิงได้มั้ย” อี้ชิงปฏิเสธไม่ได้ว่าสัมผัสของมืออุ่นที่แนบอยู่ข้างแก้มนั้นแสนนุ่มนวล ทว่าสุ้มเสียงทุ้มนั้นกลับนุ่มเสียยิ่งกว่า..
“ไม่มีอู๋อี้ฟาน ไม่มีซงเฉียน ไม่มีการหมั้น ไม่มีแก๊งค์ชิงหลงบ้าบออะไรนี่..”
“...”
“มีแค่พี่คริสของอี้ชิง”
“ได้มั้ยครับ”
.
.
อี้ชิงแค่พยักหน้ารับ พี่คริสก็ยิ้มกว้างแล้วดึงร่างบางเข้าไปกอดไว้แน่นๆ อยู่นาน ก่อนจะจับจูงมายังเรือสำราญลำใหญ่ และระหว่างที่พี่คริสไปหาเครื่องดื่ม เขาก็เดินขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือนี้
..เขาไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อฟังคริส แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องคัดค้านเช่นกัน..อย่างน้อยการไปจีนก็หมายถึงบ้าน อย่างน้อยเขาก็จะได้กลับบ้านไปหาป๊ากับม้า เขาจะใช้เวลาสามวันนี้คิด ว่าจะเอาเรื่องทั้งหมดไปปรึกษาป๊ากับม้ายังไง..
“คิดอะไรอยู่ครับ” เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับความอบอุ่นที่โถมเข้ามาจากข้างหลัง คริสโอบรอบเอาบางไว้หลวมๆ ก่อนจะโน้มใบหน้าหล่อเหลาวางเกยอยู่บนลาดไหล่เล็กน่าถนอม
“เรื่อยเปื่อยครับ”
“พี่เอาพั้นช์มาให้แหน่ะ”
“ขอบคุณครับ” อี้ชิ้งยิ้มให้บางๆ พร้อมทั้งขืนตัวออกจากกอดเบาๆ นั้นเพื่อเดินไปหยิบน้ำที่วางอยู่ไม่ไกลมาให้
“ทำไมมายืนตากแดดบนนี้ล่ะ เดี๋ยวก็เป็นไข้หรอก” ร่างสูงถามก่อนจะยกมือใหญ่ๆ ขึ้นบังแสงอาทิตย์ให้คนตัวเล็กในกว่าตอนที่ช้อนใบหน้าน่ารักขึ้นมาถามด้วยกลัวว่าแสงจะแยงตาอีกฝ่ายเข้า
“มันเงียบดีน่ะครับ”
“ในห้องก็เงียบเหมือนกันแหละ เอาไว้เย็นๆ ค่อยขึ้นมาดีกว่านะ”
“แต่ว่ามันอากาศดีนี่ครับ”
“หน่า อี้ชิงอย่าดื้อเลยนะครับพี่เป็นห่วง”
“...ก็ได้ครับ” อี้ชิงยอมพยักหน้าพร้อมทั้งเอื้อมมือไปจับกับมือใหญ่ที่รออยู่แล้วเดินลงไปยังห้องอาหารที่เย็นฉ่ำของเรือลำหรูเพื่อผ่านไปยังห้องพักของตัวเอง
“พี่คริสใครจัดกระเป๋าให้ผมเหรอครับ ไม่มีเสื้อกล้ามเลย” อี้ชิงร้องถามหลังจากที่เขาคิดอยากสวมใส่เสื้อผ้าที่สบายกว่าที่เป็นอยู่เสียหน่อย แต่มาค้นกระเป๋าที่ไม่ได้เป็นคนจัดเองแล้วก็ไม่มีไอ้ที่อยากจะใส่
“ก็พี่ไม่อยากให้ใส่เลยไม่ได้หยิบมา” คริสบอก แม้ว่าเสื้อผ้าของอี้ชิงจะมีเสื้อกล้ามหลายๆ ตัวอยู่ในตู้ แต่เขาก็ไม่ได้ชายตามองเลยแม้แต่น้อย
“พี่เป็นคนจัดของเหรอ?” อี้ชิงถามย้ำ เพราะว่าก่อนหน้านี้เขาดื้อไม่ยอมมา ก็ได้ยินว่าพี่คริสสั่งให้แบคฮยอนช่วยจัดกระเป๋าให้ อี้ชิงก็คิดว่าคงจะเป็นแบคฮยอนเช่นกันที่จัดของพวกนี้มา
“ครับ ทำไมเหรอ?”
“ป..เปล่าครับ” เป็นเมื่อก่อนอี้ชิงก็คงแค่เขิน เพราะความอ่อนโยนและเอาใจใส่ของคริสน่ะเขารู้จักมันดี แต่พอมีความจริงที่ว่าคริสเป็นถึงหัวหน้าของแก๊งมาเฟียที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเกาหลีแล้ว.. การที่อีกฝ่ายมาจัดข้าวของเครื่องใช้พวกนี้ก็ดูไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเลย
“ไหนดูซิ ที่นี่มีอะไรให้ทำบ้างนะ” คริสหยิบนิตยสารเล่มเล็กๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับส่วนต่างๆ และกิจกรรมบนเรือขึ้นมาเปิดดู อู๋อี้ฟานนั่งเหยียดยาวอยู่บนพื้นโดยพิงหลังอยู่กับเตียงที่อี้ชิงนั่งอยู่
“อี้ชิงอยากทำอะไรรึเปล่า”
“อือ..” คนตัวขาวขยับเข้ามาใกล้แล้วทอดตัวนอนลงบนเตียงหลังกว้าง วางใบหน้าน่ารักลงบนไหล่เพื่อดูรายการต่างๆ บนนิตยสารในมือใหญ่
คริสหันไปหาคนน่ารักที่ครางอืออยู่ในลำคอเพราะกำลังใช้ความคิด ..แน่ล่ะว่ามันไม่ใช่ความบังเอิญ คริสกะเอาไว้อย่างถี่ถ้วนแล้วว่าจะหันไปขโมยหอมกับแก้มนุ่มๆ นั่น และก็ไม่ผิดไปจากที่หวัง..
“พ..พี่คริส”
“หอมจัง” ยกยิ้มให้ความสำเร็จเล็กๆ ของตัวเองแล้วก็ตีมึนชวนคนตัวเล็กดูอะไรๆ ในนิตยสารต่อ
..
..
“งั้นลงไปดูชุดกันดีกว่า” คริสสรุปความเมื่อตัดสินใจได้ว่าคืนนี้พวกเขาจะไปร่วมงานเต้นรำที่จัดขึ้นที่ห้องโถงใหญ่ และแน่นอนว่าเรือสำราญขนาดมหึมานี้ย่อมมีทุกอย่างให้เลือกซื้อแม้จะอยู่ในราคาที่สูงลิ่วก็ตาม
“ทำไมผมต้องใส่สีขาวด้วยล่ะครับ” อี้ชิงเอียงคอถามขณะที่คริสหยิบสูทตัวเล็กกว่าตัวเองหลายไซส์มาทาบลงบนคนน่ารักของเขา
“เพราะพี่ใส่สีดำไง”
“แล้วมัน..”
“ถ้าใส่สีดำเหมือนกันเดี๋ยวเขาไม่รู้ว่าเรามาด้วยกัน” เหตุผลของคริสดูจะไม่ใช่เหตุผลเท่าไหร่ แต่อี้ชิงก็ไม่ได้นึกจะเถียงอะไร เขาอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อหันไปเจอกับจงอินและแบคฮยอนที่ตีกันเพราะอยากได้สูทตัวเดียวกันอยู่ตรงนั้น
“ถ้าฉันไปบอกพี่อี้ฟานนายตายแน่จงอิน!”
“โตป่านนี้แล้วจะฟ้องอีก?” ได้ยินแบบนั้นแบคฮยอนก็ได้แต่หัวเสียกว่าเดิม คริสที่มองตามสายตาคนน่ารักไปเจอกับภาพนั้นเข้าก็หัวเราะออกมาด้วย
“แบคฮยอน ใส่ตัวนี้ดีกว่า มานี่มา” คริสเรียกเสียงนุ่ม เพียงเท่านั้นเจ้าของชื่อก็วิ่งมาหาแล้วรับเอาสูทสีดำมากอดไว้ แต่ก็ไม่วายจะหันไปแลบลิ้นปลิ้นตาใส่มือซ้ายของแก๊งเสียที
“พี่คริสเวลาอยู่กับแบคฮยอนเหมือนพ่อเลย” อี้ชิงบอกด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่มันจะจางหายไปเมื่อนึกถึงพ่อแท้ๆ ของเด็กคนนั้น ..คริสเข้าใจความหมายของสีหน้านั้นดีจึงรวบคนตัวขาวมากอดเอาไว้แน่น
“อย่าเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาตอนนี้เลยนะ”
“........”
“พี่ขอแค่สามวันเท่านั้นเอง..”
..
..
หลังจากมีชุดสำหรับเข้างานกันพร้อมแล้ว ตุ้ยจางก็ปล่อยให้ทุกคนได้มีอิสระอีกครั้ง เขาตั้งใจมอบสามวันนี้ให้เป็นการพักผ่อนของทุกคนเหมือนกัน
“เสร็จรึยังครับ” ร่างสูงเดินไปหาคนที่ยืนอยู่หน้ากระจก เขามองคนตัวเล็กกว่าผ่านเงาสะท้อนของกระจกบานใหญ่นั้น
“เสร็จแล้วครับ”
“พี่ผูกไทด์ให้นะ” คลี่ยิ้มจางๆ ให้ก่อนจะหยิบไทด์เส้นยาวมาวางลงบนลำคอระหงส์ คริสไม่ได้มองเนคไทด์ในมือเท่าไหร่นัก ตลอดเวลาเขายังคงมองอี้ชิงผ่านกระจกเงา
“ผมทำเองก็ได้นะ” ร่างเล็กว่า เพราะคริสยังซ้อนตัวอยู่ด้านหลังเขา มันดูไม่ใช่ตำแหน่งที่ถูกต้องในการจะผูกไทด์ให้กัน
“พี่อยากทำให้” มือใหญ่ดึงเนคไทด์ลงให้ตึงเป็นขั้นตอนสุดท้าย ก่อนจะฝากรอยจูบไว้ที่ข้างขมับแลกกับการถูกค้อนหนึ่งที แต่คริสไม่ได้สนใจและผายมือออกเผื่อรอให้อีกคนจับมันเอาไว้ แล้วเดินยังงานเลี้ยงเต้นรำพร้อมๆ กัน
ห้องกว้างที่เดินผ่านเมื่อกลางวันดูแคบลงถนัดตาเมื่อคราคร่ำไปด้วยผู้คนและโต๊ะสำหรับจัดวางเมนูค็อกเทล อี้ชิงรู้สึกประหม่านิดหน่อยที่เดินควงคู่มากับผู้ชายที่เป็นจุดสนใจของหลายคนในงานเต้นรำนั้น
“ดูสิ คนมองอี้ชิงของพี่ใหญ่เลย”
“เขามองผมที่ไหนกันเล่า..” คริสหัวเราะแต่ไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนัก เขาหันไปหยิบเครื่องดื่มจากบริกรมาสองแก้ว ชวนกันดื่มจนหมดก็พอเหมาะกับตอนที่ดนตรีบรรเลงขึ้นมา
“เต้นรำกับพี่สักเพลงนะ”
“จะเต้นได้ยังไงล่ะฮะ” อี้ชิงปฏิเสธ ไม่ใช่ว่าเขาเต้นไม่เป็นหรอกนะ แต่เขาเป็นผู้ชาย พี่คริสก็เป็นผู้ชาย อี้ชิงไม่ได้เรียนรู้จังหวะของผู้หญิงมาหรอก จะเต้นคู่กันได้ยังไงล่ะ
“ถ้าอย่างงั้นเราจะมางานเต้นรำทำไมกัน” คริสส่ายหน้าหงุดหงิดก่อนจะวางแก้วใบใส่ลงบนถาดของพนักงานที่เดินผ่านมา ก่อนจะจับจูงมือนิ่มให้เดินออกจากงานมาด้วยกัน
“อ้าว จะไปไหนล่ะครับ” อี้ชิงขมวดคิ้วสงสัยแต่ก็ยอมเดินตามร่างสูงไปแต่โดยดี จวบจนมาถึงดาดฟ้าที่เขาขึ้นมาใช้เวลาอยู่บนนี้เมื่อกลางวัน แต่ตอนนี้มันทั้งเงียบและมืดจนน่ากลัว
“รอแป๊บนะครับ” คริสยิ้มให้คนตัวเล็กก่อนจะโทรศัพท์อยู่สักพัก จื่อเทาและคุณหมอก็ขึ้นพร้อมกับเทียนเล่มน้อยที่นำมาวางตามจุดต่างๆ ให้พอมีแสงสว่าง เพียงเท่านั้นก็จากไป
“เรามาเต้นรำกันนะ” มือใหญ่รูดเนคไทด์ที่ปลิวเกะกะเพราะสายลมออก ก่อนจะก้มลมกระซิบเบาๆ ที่ใบหูขาวจัด “ถอดรองเท้าสิครับ”
สุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็เหลือเพียงเท้าเปล่าเปลือย กางเกงสแลค และเสื้อเชิ้ตติดกายเพียงตัวเดียวเท่านั้น
“มาสิ” คริสผายมือกว้างออกให้ร่างบางได้เอื้อมจับ ออกแรงดึงแค่นิดหน่อยจางอี้ชิงก็เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนเขาอย่างง่ายดาย
คนตัวเล็กก้าวขึ้นไปเหยียบทับบนฝ่าเท้าใหญ่อย่างกลัวๆ กล้าๆ มือเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นวางบนไหล่ของคนตัวสูงกว่าเอาไว้ ในขณะที่ดวงตากลมก็ยังจ้องนัยน์ตาคมเข้มอยู่
“ไม่มีเพลงนี่ฮะ” อี้ชิงบอก แต่แล้วก็ถูกมือใหญ่ข้างหนึ่งประคองให้ศีรษะของตนมาแนบอยู่กับร่างกายของตัวเอง
“ฟังสิครับ.. เสียงเพลงในสายลมน่ะ” กดจมูกลงบนเรือนผมนุ่ม ก่อนจะลองยกเท้าไปตามจังหวะที่ใจได้ยิน
ไม่ต้องเรียนรู้ว่าต้องก้าวขาไปทางไหนจึงจะเต้นคู่กันได้ อี้ชิงไม่ต้องใช้ความคิดว่าจะต้องทำท่าอย่างไร เพียงแค่ไว้ใจให้อู๋อี้ฟานนำไปในท่วงทำนองที่เงียบงัน
..ท่ามกลางสายลมที่พัดโชย หัวใจสองดวงกำลังเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน..
To be cont.
..
# talk corner *
โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ หายไปตั้งสองเดือนแหน่ะ TAT ขอโทษด้วยนะคะ มาต่อให้แล้วฮือออ ขอบคุณที่ยังแวะเวียนมาถามและเชียร์กันอยู่ บทนี้คือดี #คิดเองเออเอง ตอนนี้หมดเทศกาลงานอลังการแล้ว จะเรียนเทอม 2 อย่างจริงจังแล้ว น่าจะว่าง (เอ๊ะ 5555)
คิสสสสถึง :)
ความคิดเห็น