ดนัยหลับตาลง เขาพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่ทำให้เขามานั่งอยู่ตรงนี้ ในโรงพยาบาลแห่งนี้ สิ่งแรกที่เขาเห็นคือจุดแสงสีขาวเล็ก ที่ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แสงสีขาวที่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพลางๆ ที่ค่อยๆชัดขึ้นเรื่อยๆ
ภาพของเข็มนาฬิกาที่ค่อยๆ กระดิก ทีล่ะวินาที จากวินาทีสู่ นาที จาก นาที สู่ชั่วโมง สามชั่วโมงๆ เต็มนับจากวินาทีแรก ภาพจึงหายไป ในระหว่างที่รอ
พบคุณหมอเพื่อปรึกษาเรื่องโรคนอนไม่หลับ เขาพยายามคิดหาคำที่ดีที่สุดที่จะอธิบาย ความย่ำแย่ของปัญหานี้ของเขาให้หมอฟัง เขานอนไม่หลับติดต่อกันมา
เป็นเวลาสามเดือน ทุกคืนเขา พยายามหลับตาและ ลงหวังว่าจะตกไปในภวัง ในไม่ช้า เมื่อเขาไม่สามารถนอนให้หลับได้ เขาจึงจ้องไปที่เข็มนาฬิกา และดูการเคลื่อนไหวของมันไปอย่างช้าๆ
จนมันชี้ไปที่ เวลาที่เขาควรจะเตรียมตัวไปทำงาน
สามคืนแรกที่เขาเริ่มเป็นโรคนี้ เขาพยายาม หาเหตุผลที่นอนไม่หลับ เขาไม่ดื่มเหล้า ไม่กินอาหารที่ไร้ประโยช ไม่นอนดึก ไม่เที่ยวกลางคืน ทันที มันเหมือนมีเสียงอะไรบางอย่าง ที่รบกวนเขา เสียงของมันไม่ดังมาก เสียงของมันเบามากจนคนทั่วไปไม่ได้คิดถึงว่ามันจะส่งเสียงรบกวนได้ ในขณะที่ดนัยพยายามหาที่มาของเสียงนั่น เสียงของมันก็เริ่มดังขึ่นเรื่อยๆ เหมือนกับจะบอกว่า “ข้านี่แหละที่ทำให้เอ็งทรมานกับการนอนไม่หลับ มันเป็นเสียงของฟันเฟือง เครื่องจักรกลขนาดเล็ก เขาหันไปมองไปที่นาฬิการะบบอนาลอคของเขา เสียงฟันเฟืองในตัวนาฬิกาเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เสียงเข็มนาฬิกาขยับไปมาก็รบกวนประสาทเขาไม่น้อย เขาตัดสินใจปามันทิ้งออกไปทางหน้าต่าง
ทุกอย่างกลับสู่ความเงียบอีกครั้ง เงียบมากจนเขารู้สึกกลัวจนต้องคลุมโปงตัวเองด้วยผ้าห่ม แต่ เสียง นาฬิกามันเริ่มดังมาอีกครั้ง เขาค่อยๆ ยื่นหน้าออกจากผ้าห่มไป นาฬิกามัน กลับมาอยู่ในห้องเขาอีกครั้ง เสียงของเข็มนาฬิกาและกลไกที่น่ารำคาญ ทำให้ดนัยเริ่มประสาทเสียอีกครั้ง เขาไม่รู้หรอกว่ามันกลับมาได้อย่างไร เขาไม่ได้นึกถึงด้วยซ้ำว่าปาออกหน้าต่างทิ้งไปแล้ว เขาหยิบมันขึ้นมาจ้อง จ้องเข็มนาฬิกาที่ค่อยๆขยับ และ ฟังเสียงของกลไกอันน่ารำคาญ เป็นเวลาสามชั่วโมง และเข็มนาฬิกาก็ชี้ ไปที่เวลา แปดนาฬิกา เวลาที่เขาควรจะเตรียมตัวไปทำงาน
ดนัยออกไปทำงานในสภาพที่อิดโรย เขาเป็นพนักงาน กินเงินเดือนระดับล่าง หลังจากเสียเวลา สี่ปีในรั้วมหาลัยชื่อดัง ดนัยก็ยังเป็นเพียงแค่พนักงานระดับล่าง รับเงินเดือน เท่าๆกับคน ที่จบจากมหาลัยไร้ชื่อเสียง ดนัยไม่เคยมีเป้าหมายในชีวิต เขาไม่รู้หรอกว่าเขาอยากจะเป็นอะไร เขาเป็นเด็กเรียนดี เขาเลือกที่จะเรียน สายวิทย์ ตอนมปลาย และ สามารถ สอบเข้า มหาลัยชื่อดังอย่างจุฬาได้ คะแนนมากพอที่จะเข้าคณะบัชชีและอีกหลายๆ คณะ แต่เขาเลือกที่จะเรียนบัญชี เพราะเขาไม่เคยสนใจอะไรในด้านอื่นเลย เขาเคยคิดอยากจะเป็นนักเขียน แต่เขาไม่คิดว่า เขาจะสามารถยึดมันเป็นอาชีพได้ และ พนักงานบัชชีคงหางานไม่ยาก เขาคิดว่า แค่สอบเข้ามหาลัยนี้ได้แหละคือเป้าหมายของชีวิต พอถึงวันรับปริญญา เขาถามตัวเองว่า “จะทำอะไรต่อไปดี” “เขาจะเป็นอะไรได้นอกจากพนักงานบัญชี เขาเข้าไปทำงานในเวลาเก้าโมง และเลิกงานตอนห้าโมง
หลังจากเลิกงานเขาก็กลับบ้านทันทีโดยไม่แวะทำอะไร ดูทีวี กินข้าว เล่นเกม นอน แค่นี้แหละชีวิตของดนัยมีเพียงแค่นี้แหละ เขามักจะนั่งจ้องปริญญาของ เขาแล้ว บ่นพึมพำกับตัวเองว่า “ทำไมกูถึง ไม่ได้ดีอย่าง เพื่อนร่วมคณะกู” เขาทำงานเดิมๆนี้มา สี่ปีแล้ว ไม่เคยได้เลื่อนตำแหน่ง ไม่เคยได้ขึ้นเงินเดือน ไม่เคยได้รับโบนัส เขาอยากจะ
เปลี่ยนที่ทำงาน แต่ เขาคิดว่ามันยุ่งยากเกินไปและ ที่ทำงานใกล้ๆบ้านแบบนี้คงมีไม่กี่แห่ง
ทุกๆวันที่ดนัยออกจากบ้านเขา จะเอานาฬิกาเรือนนี้ไปด้วย เขาโยนมันทิ้งไปในที่ต่างๆ แต่ทุกๆคืนเมื่อเขากลับมาที่บ้าน เขาก็ค้นพบว่านาฬิกาเรือนนี้ มันกลับมาอยู่ที่เดิม
วันเวลาเริ่มผ่านไป เขาก็ยังนอนไม่หลับ เขาเอานาฬิกาออกไปทิ้งเป็นประจำทุกวัน ทั้งๆที่รู้ว่ามันจะกลับมา การกลับมาของนาฬิกาไม่ทำ ให้เขาแปลกใจเลยแม้แต่น้อย มีเพียงครั้ง แรกๆเท่านั้นที่มันทำให้เขาแปลกใจ แต่มันกลับสร้างความรำคาญให้แก่เขา เป็นอย่างมาก โรคนอนไม่หลับเริ่มรุมเร้าดนัย จนดนัยเริ่มไปหาหมอ หมอส่วนใหญ่แนะนำให้เขา กินอาหารให้เพียงพอ งด เหล้า และ เครื่องดื่ม คาเฟอีน หรือไม่ก็หัวเราะใส่เขาเรื่องนาฬิกาแล้วแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์ แพทย์คนแล้วคนเล่าจากโรงพยาบาลแทบจะทั้งกรุงเทพ ไม่มีใครแก้ปัญหานี้ให้กับดนัยได้เลย คำตอบเดิมๆกับคำแนะนำซ้ำๆจากคุณหมอ แต่ละคนจน ดนัย แทบจะเดาได้ว่า หมอจะ แนะนำอะไรเวลาเขา ไปหา หมอแต่ละคนให้คำตอบแตกต่างเพียง นิดเดียวเท่านั้น แต่เขา คิดว่า ในความนิดเดียวเท่านั้นแหละ ที่าสร้างความแตกต่าง
“ขอเชิญคุณดนัยค่ะ” เสียงของพยาบาลวัยกลางคน เรียกดนัย เข้าไปพบคุณหมอ ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปเขาพบอะไรบางอย่างที่แตกต่าง จากหมอคนอื่น ภายในห้องของหมอคนนี้ ถูกตกแต่งจนดูไม่เหมือนโรงพยาบาล รูปโพสเตอกับรูปถ่าย ของ สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ของสะสมต่างๆ ถูกวางเรียงรายเอาไว้ ภายในห้องยังมีเครื่องเล่นแผ่นเสียง ที่กำลังเปิดเพลงเเจ็ซ เขาจำได้ทันว่ามันคือเพลง My favorite things โดย John Coltrane “รอคุณหมอซักพักนึงน่ะค่ะ” พยาบาลพูด เขาเริ่มมองดูรอบๆห้อง และ ภาพของชายหาดก็สะดุดตาเขา เขามองไปที่ภาพนึกถึง ภาพเมื่อเขายังเป็นนักเรียน ที่ทุกๆ เสาร์ อาทิตย์ เขาและครอบครัว หรือบางทีกับ เพื่อนๆ จะออกไปเที่ยวทะเล แต่หลังจากเขาขึ้นมอ ปลาย เขาก็ไม่ได้มีโอกาส ไปเที่ยวทะเลอีกเลย เนื่องจากต้องเตรียมสอบ เข้ามหาลัย แผ่นเสียงเล่นจนจบเพลง ก็มีคนเดินเข้ามาเปลี่ยนเป็น เพลง Barbados โดย Charlie Parker มันเป็นหนึ่งในเพลงที่เขาชอบมากที่สุด เพลงนี้มันไม่ดังด้วยซ้ำ แต่ทำไมเขาถึงเลือกที่จะเปิดเพลงนี้น่ะ คุณหมอเดินออกจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง มาหาดนัย พร้อม กับคำถามเดิมๆ และ คำตอบเดิมๆ เกี่ยวกับโรคนอนไม่หลับ และเสียงหัวเราะเกี่ยวกับเรื่อง นาฬิกาเรือนนั้น แต่มันมีคำแนะนำนึงที่แตกต่าง จากหมอคนอื่น “ทำไมคุณไม่ลองหาเวลาไปพักผ่อนมั้งหล่ะ ไปที่ๆบรรกาศสบายๆ “คุณหมอพูดพร้อมชี้ไปที่ภาพของทะเล
ทันทีที่กลับบ้าน ดนัยก็เก็บของขึ้นรถ ทันที เขาไม่ได้ลางาน ไม่ได้บอกคนในที่ทำงานเลยว่ากำลังจะไปเที่ยว เขาทิ้งมือถือไว้ที่บ้าน แล้วขับรถไปชะอำ สถานที่ๆ เขามักจะมากับพ่อแม่ เมื่อวัยเด็ก เขาพักที่โรงแรมโกลเด้นแซนด์ ซึ่งถูก เปลี่ยน ชื่อเป็น โรงเเรม ทิพวิมาน วิวจากห้องพักของดนัย ในวันที่คนอื่นต้องไปทำงาน มันช่างดูสงบ ไม่มีคนมาใช้สระว่ายน้ำ ไม่มีคนที่ชายหาด ลานกว้าง โล่ง ของโรมแรม ประกอบกับทะเลที่นิ่งสงบ ทำให้ใจของดนัย สงบลงไปด้วย ในบรรกาศที่แสน สบาย ภายในไม่นาน เขาก็กลับเข้าสู่ภวังเเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือนที่เขา หลับได้เต็ม อิ่มเท่านี้
พอเขากลับถึงบ้าน เขาก็โทรหาเพื่อนฝูงที่ไม่ได้คุยกันมานาน โทรหาพ่อแม่ และเริ่มเขียนหนังสือ เขารู้สึกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาได้ใช้เวลาที่มีอยู่ได้ไม่คุ้มค่าเลย เขามองดูรอบๆห้องแล้วพบว่านาฬิกาเรือนนั้นได้หายไปแล้ว พร้อมกับเสียงที่เงียบสงัด เหลือไว้เพียง แค่ดนัยคนเดียว
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น