คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : CHAPTER 14 [100 PERCENT]
CHAPTER 14
ลมเย็นๆของช่วงหัวค่ำของฤดูร้อน มันเหมือนลูกแกะที่หลงทางให้ป่าเลย มันอาจจะเหมือนผมก็ได้ทั้งลูกแกะทั้งกระแสลมนั้นหละ
“อ๊ะ!” ผมสะดุ้งเมื่อถูกโลหะเย็นๆมันแนบที่แก้มซ้าย
“คิดอะไรอยู่” โฮซอกเองที่เป็นคนเอากระป๋องน้ำอัดลมมาแนบหน้าผม
“ป่าว” ผมตอบเสียงเบา
“ใจไม่อยู่กับตัวเองนี้ ยังจะบอกว่าป่าวอีก” โฮซอกทำหน้ามุ่ยงอนๆก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผม
ตอนนี้ตีสองกว่าๆ หลังจากที่เกิดเรื่องโฮซอกก็ลากผมออกมาจากจุดเกิดเหตุก่อนที่จองกุกจะไปเห็นน้ำตาของผม น้ำตาที่แสดงว่าผมอ่อนแอ คนตัวสูงพาผมมายังทะเลใกล้ๆเมือง ถึงหาดที่นี่จะไม่สวยเท่าไหร่ แต่ลมเย็นๆที่พัดปะทะหน้าทำให้ผมสบายใจนิดหน่อย
“นี่...” เสียงทุ้มข้างๆเรียกผมแต่ ไม่เรียกเฉยๆยื่นหน้ามาใกล้ทำไม ผมเลยได้แต่หลับตาปี้
….><
“…” ทำไมเขาเงียบละผมไม่กล้าลืมตาดูนะ
...><
“....” เขากำลังจะจูบผมใช่ม่ะ
“ฮ่าๆ มี้ กำลังคิดว่าผมจะทำอะไรหน่ะ”
... >.O
“ฮ่าๆ น่ารักจัง”
“เปล่าสักหน่อย ฝุ่นเขาตาต่างหากเหล่า” ผมเถียง
“ครับ ครับ ฝุ่นเข้าตา ฮ่าๆ”
คนตัวสูงยังคงขำล้อเล่นที่ผม ฮึ่ย.. อย่าให้มีที่ผมบ้างนะ จะเล่นตัวมันจะสามชาติไม่ให้จับเนื้อต้องตัวเลยดีไหมฮึ
พรึ่บ...
นั่นยังพูดไม่ทันขาดคำโฮซอกอาศัยที่เผลอ จับผมกดลงบนผืนทรายก่อนจะขึ้นคร่อมผมได้สำเร็จ ยังจะมายิ้มแบบมีความสุขอีกนะ ไอเด็กนี่
“ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะปกป้องมี้เองทั้งความฝันของมี้ ทั้งตัวมี้ ^^” ร่างสูงข้างบนยิ้มน่ารักก่อนจะโน้มหน้าลงมากระซิบข้างหูผม “ทั้งหัวใจของมี้”
“อะ อื้ม...” ผมไม่รู้จะตอบว่าอะไรดีอะ มันเขินนี่
“อะไรกัน นี่ผมกำลังบอกรักมี้อ้อมๆอยู่นะ” จะอ้อมไปไหนก็เรื่องของนายเลย
“0///////0”
“มองหน้าผมทำไม”
“ก็ จะ จะ ทำอะไรอะ”
ไม่ให้ผมตกใจได้ไงอยู่ดีๆ มือหน้าของโฮซอกก็ค่อยๆปลดกระดุมผมที่ละเม็ดช้าๆแต่ชำนาญสุด
“ฮิ ^^”
… ยังจะมายิ้มอ่อยอีก
“มี้ตลกอีกแล้ว ฮ่าๆ โอ้ย น่ารักกก” ไม่พูดเปล่าเอามือมาหยิกแก้มผม “คิดว่าผมจะทำอะไรมี้ตรงนี้หรอ คิดอะไรอัปมงคล ถ้าอยากผมจัดให้บนห้องก็ได้นะครับ พี่ยุน^^”
“ไอเด็กบ้านี่ ก็เล่นถอดผ้าถอดผ่อนแบบนี้ คิดจะทำอะไรกันละ -3-” ผมลุกขึ้นมาหลับหูหลับตาโวยวาย
“ก็จะชวนไปเล่นน้ำไง โอ้ย โมโหยังน่ารักเลย >0<”
เขาต้องไปกินอะไรผิดปกติมากแน่ๆเลย จับแก้มผมยู้ยี่ไปมาแล้วอาหน้าตัวเองมาถูกับแก้มอย่างเอ็นดู ภาพตอนนี้มันค่อนข้างจะดูเรทซะด้วย จริงที่ตอนแรกเขาคร่อมผมอยู่ แต่ตอนนี้ผมลุกขึ้นนั่ง มันเลยกลายเป็นเขานั่งตักผมอยู่แล้วหันหน้าเข้าหาผม ไหนกระดุมเสื้อผมยังถูกปลดออกทุกเม็ดอีก
“แบบนี้ไม่ให้ไปไหนหรอก ไม่ให้ใครทั้งนั้นด้วย”
ร่างสูงที่นั่งอยู่บนตักผมขยับตัวเข้ามาใกล้ผม แล้วแขนขาที่ผ่านการเข้าฟิตเนสมาอย่างดีกอดรัดผมไว้แน่นเหมือนกลัวว่าผมจะหายไป แถมมือหน้าๆยังกดให้ผมเอาหน้าซบลงไปบนแผงอกแน่นๆนั่นอีก
“และจะไม่ยอมให้ใครพรากความฝันของมี้ไปหรอก”
คำพูดนั่นที่เขาพูดมันออกมาเหมือนไมโครชิปที่ผมฝั่งมันลงไปในสมองโดยอัตโนมัติ ความฝันของผมหรอ...เขารู้ด้วยหรอ... คำพูดที่หนักแน่นและอบอุ่นทำให้ น้ำตาที่ผมเก็บมานานเอ่อจนล้นม่านตา มือหนาทั้งสองข้างคลายอ้อมกอดแล้วกุมหน้าผมไว้ นิ้วโป้งละเลียดปาดน้ำตาที่ไหลออกมาจากตาของผมด้วยความอ่อนโยน
คนตัวสูงยิ้มให้ผมก่อนริมฝีปากบางนั่นจะประกบลงมาที่ริมฝีปากของผม รสจูบครั้งนี้มันอ่อนโยนกว่าครั้งไหนๆที่ผมได้จูบกับเขา เหมือนมันทำให้ลูกแกะตัวนี้หาฝูงเจอ เหมือนผมที่เจอคนที่สามารถปกป้องผมไป เมื่อเขาเริ่มรุกผมแรงขึ้นผมก็ปล่อยให้เขาทำตามใจชอบ ลิ้นอุ่นๆลอดเข้ามาในช่องปากผม รสจูบของเราก็ค่อยๆร้อนแรงขึ้นเรื่อย
ร่างสูงผลักผมลงบนพื้นทรายเบาๆก่อนจะโถมตัวลงมาทาบทับ ริมฝีปากยังคงรุกล้ำช่องปากผมโดยไม่ละให้ห่าง เหมือนมีผีเสื้อบินวนอยู่ในท้อง เมื่อริมฝีปากบางเปลี่ยนเป้าหมายจากผมไปเป็นซอกคอผม มือของเขาเหมือนหนวดหมึกที่ยุบยับอยู่บนตัวผม เสื้อเชิ้ตที่ใส่ไว้เพียงแขนสองข้างไม่มีประโยชน์อีกต่อไปเมื่อคนข้างบนถอดมันออกแล้วโยนไปไกล
ริมฝีปากบางเลื่อนไปทั่วร่างกายของผม เขาจูบอย่างอ่อนโยนบริเวณแผงอกก่อนจะเลื่อนไปเรื่อยๆ บ่อยครั้งที่เขาฝั่งเขี้ยวแหลมๆลง และบ่อยครั้งที่เขาพรมจูบเบาๆ มันทำให้ผมวูบวาบเหมือนขาดสติ ตาผมมันพร่ามัวเพราะน้ำตาหรืออะไรกันแน่
ผมตื่นมาในบ่ายของอีกวันนี่ผมหลับเป็นตายกันเลยทีเดียว ก็เมื่อคืนกว่าผมจะได้นอนก็เกือบจะเช้าแล้ว เพราะอะไรผมไม่ค่อยอยากพูดถึงเท่าไหร่ >/////< ผมพลิกต่อหวังจะกอดคนที่นานข้างๆ แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า
.... เขาตื่นแล้วหรอ ?
ผมยันตัวลุกรู้สึกปวดหัวเล็กน้อยเพราะจากการพักผ่อนน้อย สายตาไปประจบเห็นโพสอิทที่แปะอยู่กับนาฬิกาปลุก
ผมปิดนาฬิกาปลุกเพราะอยากให้พี่นอนอิ่มๆ
ผมต้องเข้าบริษัท จะเอาอะไรก็บอกเพื่อนผมละกัน.... H
เขาใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆกลัวว่าผมจะนอนไม่อิ่มทั้งๆที่ตัวเองนอนที่หลังผมด้วยซ้ำ จริงๆพอผมสังเกตดีๆที่นี่ไม่ใช่ห้องผมแฮะ คงจะเป็นห้องของโฮซอก คนบ้าอะไรหลงตัวเองถึงขนาดเอาโปสเตอร์ตัวเองมาติด ผมลุกขึ้นมาจัดการจัดที่นอนละพับใหม่ เขาว่าอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ไม่รู้สิ มันคงเขินๆอะถ้าผมยังเห็นสภาพเตียงเละเทะจากศึกเมื่อคืน แล้วทำให้ผมนึกถึงตอนนั้น
“จริงๆ ไม่ต้องจัดก็ได้ครับ...” ผมเงยหน้ามือร่างสูงที่เพิ่งมาเยือน “ผมหมายถึง...เอ่อ...ผมคิดว่าคุณยังไม่ตื่นเลยไม่ได้เคาะประตู” แทฮยองดูประหม่าเล็กน้อยกับสภาพผมเปลือยท่อนบนแบบนี้
“ไม่เป็นไร... แล้วทำไมนาย” แอบตกใจเหมือนกันที่แทฮยองจะเป็นรูมเมทของโฮซอก เพราะตอนอยู่บริษัทพวกเขาทำตัวห่างเหินเหมือนคนไม่รู้จักกันพิเศษ
“เรื่องมันยาวนะครับ ทานข้าวเช้าก่อนไหมครับ พอดีผมเตรียมไว้แล้ว....” แทฮยองทำท่าผายมือเชิญผมออกนอกห้อง แต่ท่าทีเขาดูเกร็งไปหมด
“ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้ ทำเหมือนฉันเป็นเพื่อนคนนึงก็พอ” ผมบอกเขาระหว่างที่เรากำลังเดินไปทางห้องอาหาร
“มันไม่คุ้นนี่ครับ ปกติเราไม่ได้เจอกันในสถานการณ์นี้” เขาอธิบาย
“ฮ่าๆ นั่นสินะ” ใช่ ปกติผมจะเจอเขาในฐานะที่ผมเป็นเจ้านายเขา แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป
“คือ... ผมไม่ได้ตั้งใจพูดในให้คุณ...” เขาทำท่าเลิกลั่กแบบรู้สึกผิด
“แล้วทำไมถึงมาเป็นเพื่อนกับหมอนั่นได้ละ” ผมเปลี่ยนเรื่อง
“โฮซอกนะหรอ... เขาเป็นรุ่นน้องที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่บริษัทผมขอให้เขาทำเป็นไม่รู้จักกันเพราะไม่อยากให้ใครมองเขาว่าเป็นเด็กเส้น” แทฮยองอธิบายยาวระหว่างที่เขากำลังตักแกงกระหรี่ใส่ชาม
“แล้วเขาไปบริษัทแต่เช้าเลยหรอ” ผมถาม
“เห็นว่าจะไปจัดการเรื่องสัญญา”
“สัญญา?”
“สัญญาก่อนแต่งงาน ขอโทษนะครับที่ผมเอาให้เขาดู”
“ไม่เป็นไรหรอก ดีแล้ว”
สัญญางั้นหรอ...ผมเกือบลืมไปสนิทเลย สัญญาที่จองกุกให้ผมเซ็นก่อนที่เราจะจดทะเบียนสมรสก่อน ผมไม่ได้อ่านมันอย่างละเอียดหรอก เพียงแต่เข้าใจคราวๆว่ามันหมายถึงถ้าผมต้องหย่ากับเขาโดยที่ผมเป็นคนผิดสมบัติทุกอย่างของผมต้องเป็นของเขา แต่ถ้าเขาทำผิดผลลัพธ์มันก็เท่ากัน ที่ผมตกลงเซ็นสัญญานั่น เพราะสัญญามันบ้าบอจนผมไม่คิดว่าจะมีวันนี้วันที่ผมทำผิดกับเขา เขาคงเสียใจเหมือนกันละ แต่การจะปกครองคนมันต้องไม่แสดงความอ่อนแอออกมาใช่ไหมละ จะว่าไปผมก็เป็นห่วงเขาเหมือนกันนะ
“คุณทำถูกแล้วครับ”
เหมือนผมจะดูคิดมากเกินไปจนคนตรงข้ามสังเกตเห็น เลยพูดให้กำลังใจ จริงหรอ... นี่ผมทำถูกแล้วใช่ไหม
หลังจากผมและแทฮยองทานข้าวเช้าเสร็จ เขาก็ขอตัวเข้าไปบริษัทเพราะต้องไปอธิบายตารางงานวันนี้ให้จองกุก ส่วนผมก็ออกมาจากคอนโดของโฮซอก ผมแค่อยากไปที่ๆหนึ่งอยากจะไปหาเพื่อนรัก มันเกิดเรื่องมากมายจนผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรทำยังไงต่อไปดี ถึงผมจะพูดได้เต็มปากว่าผมรักโฮซอก แต่การแต่งงานทำให้ผมผูกพันกับจองกุก และยังรู้สึกผิดกับเขามาก
ผมดับเครื่องก่อนจะเดินลงมาบ้านหลังเดิมที่ผมเคยอาศัยก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ของจองกุก ผมไขกุญแจอย่างเคยชิน จีมินจะเป็นไงบ้างนะ หมอนั่นจะว่ายังไงถ้าผมโผล่มาแบบนี้ แล้วหมอนั่นจะเป็นไงบ้างหน้าอยู่คนเดียวคงเหงาน่าดู
ทันทีที่ผมเดินเปิดประตูบ้านเข้าไป ผมก็สูดลมหายใจเข้าลึกคิดถึงบ้านที่ไม่ได้อยู่มานาน ผมก้มถอดรองเท้า ก็ต้องพบกันรองเท้าหนังคู่หนึ่ง เป็นรองเท้าคู่ที่ผมรู้ดีว่ามันเป็นของใคร จองกุกเขามาทำอะไรที่บ้านหลังนี้นะ ผมอดห่วงไม่ได้เลยรีบวิ่งขึ้นไปยังห้องนอนของจีมิน ประตูห้องมันแง้มไว้เล็กน้อย เสียงของใครคนนึงทำให้ผมไม่กล้าที่จะก้าวต่อไปยังประตูนั้น
“เชื่อฟังกันบ้างสิ ผมทำทุกอย่างเพื่อพี่นะ”
… เสียงของจองกุก ผมค่อยย่องไปยังบานประตูที่ถูกแง้มไว้
“ฉันไม่ได้ขอ” เสียงนี่เป็นของจีมินผมจำได้
… สองคนนี้เป็นอะไรกันนะ??
“อย่าใจร้ายกับผมนักเลย” เสียงของจองกุกดูอ่อนลง
จังหวะเดียวกับที่ผมเดินมาถึงประตูพอที่ผมจะสามารถสอดส่องสายตาเข้าไปในห้องได้ ผมก็พบจองกุกและจีมินตามที่ผมคาดไว้ไม่ผิดแต่ที่ผมคิดมันไม่ถึงขนาดนี้ไง จองกุกกำลังคร่อมร่างของจีมินไว้โดยรวบมือทั้งสองข้างของร่างเบื้องล่างไว้เหนือหัว นัยน์ตาสีนิลนั้นมองลงไปยังจีมินอย่างลึกซึ้ง ขอบคุณที่จีมินเบือนหน้าหนีนัยน์ตาคู่นั้นไปทางหน้าตา ทำให้เขาทั้งสองไม่ได้สังเกตเห็นผม
เรื่องนี้มันร้ายแรงกับผมมากเลยนะสำหรับผม มันคงเป็นเวรกรรมละเวรกรรมที่ผมทำไว้กับจองกุก ผมหลบฉากออกมาจากห้องนั้น ผมเม้มริมฝีปากแรงๆจนเผลอขบมันจนเป็นแผล ผมพาร่างที่อ่อนแรงของตัวเองออกมาจากบ้านหลังนั้น หรือผมกำลังหึง หรือผมแค่หวงจีมินว่ากำลังยุ่งกับคนคนนั้น
ผมไม่รู้ว่าผมพาตัวเองมาที่นี้ทำไม ผมแค่อยากปลดปล่อยวามเครียดนี้ไปให้พ้นๆ การเอาแอลกอฮอก์กระแทกเข้าในคอ แรงมันก็ช่วยได้เหมือนกัน ผมไม่อยากให้ใครมารับรู้ความลับครั้งนี้ ความลับที่ผมเองก็ไม่พร้อมที่จะรับรู้มัน ผมเลยไม่ได้โทรหาใคร ผมเลยมานั่งเมาอยู่ในผับคนเดียวแบบนี้ โฮซอกโทรหาผมประมาณ ยี่สิบกว่าสายตอนช่วงหัวค่ำ เขาคงกลับมาแล้วหาผมไม่เจอ
“ขอนั่งด้วยได้ไหมคะ” ร่างบางในชุดมินิเดรสสีดำควานอกลึกจนผมเห็นแตงโมงลูกโต ทักทายผมอย่างถึงเนื้อถึงตัว
“ไม่เป็นไรครับ ผมแค่อยากอยู่คนเดียว” ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงกระโจนเข้าใส่ แล้วลากขึ้นห้องไปแล้ว แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนไปแล้ว เธอไม่ใช้ทางของผมหรอก เชื่อเถอะ
“นั่งคนเดียวมันไม่สนุกหรอก ไปกับฉันดีกว่าไหม หนุ่มน้อย” ร่างบางไม่ยอมแพ้ ก่อนที่จะขยับเข้ามาใกล้อีกเพื่อให้แตงโมอยู่ในระดับสายตาผม
“ขอโทษครับ พอดีผู้ชายหน้าสวยคนนี้เขานัดผมไว้แล้ว” ร่างสูงจากไหนไม่รู้โผล่มาโอบไหล่ผมไว้ ก่อนจะหันมาคุยกับผม “รอนานไหมครับ...ที่รัก^^”
“เอ่อ... ขอโทษคะ” ยัยแตงโมชี้ผมสลับกับร่างสูงแปลกหน้าคนนั้น ก่อนจะขอโทษแล้วรีบเดินออกไปด้วยความอาย
“สวัสดีครับคนอกหัก” ร่างสูงแปลกหน้าเอาแขนออกจากไหล่ผม ก่อนหันมายิ้มหวายนแล้วทักทาย
“ใครอกหัก” ผมตอบเสียงฉุน
“คุณไง ^^”
“โอเคๆ ฉันอกหักพอใจยัง” ผมตอบให้พ้นๆ
“โถ่ว แบบนี้ผมเสียใจนะครับ คนสวย ผมอุตส่าห์ช่วยคุณ” ร่างสูงยังคงยิ้มหวานให้ผม ที่ผมหนีเสือปะจระเข้รึป่าวนะ
“ขอบคุณ” ผมตอบให้พ้นๆไปอีกละ
“งั้น ผมขอนั่งด้วยคนนะ” ร่างสูงถามแต่ตัวเขาหน่ะ มันนั่งลงไปแล้วละ =0=;;
ผมไม่ได้พูดอะไรต่อในเมื่อเขาถามผม แต่เขานั่งไปแล้วผมก็ไม่รู้จะบอกอะไรแล้วละ อีกอย่างเขาเป็นใครก็ไม่รู้ด้วย ธรรมดาของการเที่ยวกลางคืนละผมชินแล้วแต่แค่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงเท่านั้นเอง
“คุณเอาอะไรเพิ่มไหม” ร่างสูงหันมาถามผม
“ไม่ละ ผมว่าจะไปเต้น” ผมพูดแล้วชี้ไปที่ฟลอ
“งั้นผมไปด้วย ขอสักแก้วก่อนรอแปบนะ”
ผมว่าผมเริ่มมึนๆเล็กน้อยแล้วละ เอาเถอะไหนๆก็มาปลดปล่อยแล้วกัน ถือว่าเป็นการฉลองหย่า ถือว่าเป็นการให้กำลังใจตัวเองที่เพื่อนทรยศ เอ๊ะ...หรือควรจะเป็นการฉลองให้กับชีวิตบัดสบของผมดีนะ ผมพยายามยันตัวเองลุกจากเก้าอี้หน้าบาร์ตัวนี้ ใครมาทากาวไว้รึป่าวะทำไมก้นผมหนักจัง อึบ! เย้ ผมยันตัวเองลุกได้แล้วละ
“ผมบอกว่าให้รอผมก่อนไง...คุณเมาแล้วนะ ไหวไหม” ร่างสูงที่เหมือนจะนั่งข้างๆผมพุ่งเข้ามาพยุงตัวผมที่กำลังจะล้มไว้ได้ทัน
จังหวะเดียวกับที่ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตาคนตัวสูง หล่อจัง...ผมสีดำประกายม่วง ไหนจะรอบยิ้มที่อบอุ่นนั้น เคลิ้ม... ผมเป็นอะไรวะเนี่ย
“ฮิฮิ หล่อจ๊างงงงง” ปากผมดันทำงานไวเท่าสมองซะได้ - -
“ฮ่าๆ ผมว่าคุณเมาได้ที่เลยนะเนี่ย”
“ไม่ม๊าววววว” ผมเถียง
“ทำแบบนี้แล้วคุณน่ากินนะ”
ร่างสูงค่อยๆโน้มหน้าลงมาหวังจะประกบริมฝีปากผม แต่จิตใต้สำนึกผมบางส่วนบอกว่าไม่ควรให้เป็นแบบ ผมเลยใช้แรงอันน้อยนิดของตัวเองป้องกัน ผมไม่อยากทำผิดต่อโฮซอก ไม่อยากให้เขาต้องมาเสียใจเพราะผม
ผลัวะ !
มีอะไรบางอย่างที่พุ่งมาด้วยความเร็วแสงผมเองก็มองไม่ทัน หรืออาจจะเป็นเพราะสมองผมที่ทำงานช้ากว่าปกติ ร่างของผมย้ายมาอยู่ในอ้อมกอดของใครอีกคนเป้นอ้อมกอดที่ผมคุ้นเคย
“โฮซอก....” ผมพูดชื่อนั้นออกมาก
“มี้นั่งอยู่ตรงนี้ก่อนนะ” เขาพูดก่อนจะวางผมไว้บนอะไรสักอย่างนุ่มๆ นี่เราอยู่ไหนนะเตียงนอนที่บ้านหรือเปล่า ตาผมปิดลงเองทั้งๆที่สมองไม่ได้สั่ง นี่ผมน็อกรึป่าว?
“ไอเวรเอ้ยยยย เห็นรึป่าวว่าอีกฝ่ายเขาไม่ยอม”
ผลัวะ !
ปั๊กๆๆ!
….. นายคุยกับใครนะโฮซอก ฮืม... ถ้าไม่มากอดฉัน ฉันจะหลับแล้วนะ
“อย่ามายุ่งกับเมียกูอีก!!!”
…. ใครกันน้าเมียของนาย ใช่ ยัยแตงโมนั่นรึป่าว ง๊า...ฝันดีน้า
#ฟิคลูกเก็บ
พี่ก้าของเรานี้มีสกิลในการมโนในตอนเมาได้แย่มากนะคะ อยากรู้ไหมว่าชายผมดำประกายม่วงคือใคร เม้นสิ สตรีมสิ มันทำให้ไรท์รู้ว่ามีคนติดตามฟิคเรื่องนี้อยู่ ทำให้มีกำลังใจในการแต่งต่อไป 5555 แท็ก #ฟิคลูกเก็บเหงาเหลือเกิน
ความคิดเห็น