ตอนที่ 269 : 10 อาชีพสุดเลวร้าย(ในการทำงาน)ในโลก
(เขียนตามใจเจ้าของบทความครับ อาจมีการใส่ไข่แต่งเติมลงไปบ้าง)
คุณคิดว่างานอาชีพของคุณแย่ ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่นเจ้านายของคุณห่วย มีแต่ประชุม ร้อน เงินเดือนน้อย แล้วคิดว่างานของคุณเลวร้ายที่สุดในโลก ผมขอบอกว่าผิดถนัด เพราะอันดับต่อไปนี้คือตัวอย่างงานที่เลวร้ายมากมาย แต่พวกเขาก็มีความสุขในการทำงานนั้นๆ และเมื่อคุณได้อ่านมันจะพบว่างานของคุณไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดเลยสักนิด
อันดับ 10 Monkeys Chaser at a Safari
คุณคงคิดว่าอาชีพคนดูแลสัตว์ในสวนสัตว์นั้นมันจะสนุก เพราะคุณสามารถได้เห็นสัตว์และได้ดูแลสัตว์อย่างใกล้ชิด แต่ในทางกลับกัน การทำความสะอาดกรงของสัตว์นั้นไม่รื่นรมย์เลย ไม่ว่าเป็นกลิ่นเหม็นที่ร้ายกาจ ปัสสาวะอุจจาระของสัตว์ และความสกปรกที่ล้างออกได้ยากมาก อีกอาชีพหนึ่งที่ไม่สนุกเลยคือพนักงานประจำซาฟารี มาเรียจากแคนาดาได้รับการว่าจ้างจากสวนสัตว์ซาฟารีแห่งหนึ่งในบริเวณที่อยู่อาศัยของลิง ซึ่งหน้าที่ของเขาก็คือการป้องกันลิงไม่ให้ไปยุ่งกับรถที่พานักท่องเที่ยวไปมาๆ ในสวนสัตว์ ซึ่งพวกลิงมักปีนป่ายบนรถและมักสนุกกับการนั่งรถฟรีด้วยการส่งเสียง ที่นี้คุณลองคิดดูว่าในการไล่ลิงท่ามกลางดวงอาทิตย์ส่องแสงจ้าแปดชั่วโมงต่อหนึ่งวันมันสนุกไหม?
อันดับ 9 Remover Roadkill
นักเก็บซากถนน แน่นอนมันยังคงเป็นงานที่น่าสะอิดสะเอียนมากมายในใจของคนหลายคน อาชีพนี้จำเป็นมากในประเทศใหญ่ๆ อย่างอเมริกา ที่มีถนนใหญ่ๆ มากมาย แน่นอนมันไม่ดีแน่หากมีซากสัตว์ที่ถูกรถชนอยู่กลางถนนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ แน่นอนอาชีพนี้จึงจัดตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหานี้ โดยคนที่ทำงานนี้บอกว่าพวกเขาจำเป็นต้องแซะ เลาะ เก็บ ซากสัตว์ที่ถูกรถทับตายบนถนนออกอย่างยากลำบาก โดยสัตว์ที่ตายมีหลายชนิด ตั้งแต่เล็กจนถึงใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ตัวนิ่ม หมา แมว ม้า ช้าง อีกทั้งหากสภาพของมันเละกลางถนนละก็สุดๆ ไม่ว่าจะ ไส้ เนื้อกระจัดกระจายเต็มถนน การย่อยสลายจนติดหนึบและกลิ่นเหม็นสุดจะทน ถนนที่ร้อนท่ามกลางดวงอาทิตย์
อันดับ 8 Cat Food Quality Controller
คุณจอน แฮนสันจากประเทศอังกฤษได้อธิบายงานของเขาว่านี้คืองานที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเขา อาชีพของเขาก็คือนักควบคุมคุณภาพอาหารแมว เพราะพวกเขาจะต้องทดสอบอะไรมากมายเพื่อให้อาหารแมวออกมามีรสชาติและคุณภาพที่ดีที่สุด โดยเขาอธิบายเป็นฉากๆ ว่า ไม่ว่าจะเป็นการดมกลิ่นอาหารที่เขาต้องหมกใบหน้าเข้าไปในถังใส่อาหารขนาดใหญ่แล้วสูดหายใจลึกๆ ว่าอาหารพวกนี้สดหรือเปล่า, ต้องคลำกระดูกหรือเศษไม่พึ่งประสงค์ในกองอาหารเหล่านั้นแล้วนำมันออกมา หรือ การใช้มือนิ้วในการตรวจสอบอาหารว่ามันมีกระดูกปนหรือพื้นผิวดีไหม และถ้าผมจำไม่ผิดละก็จะต้องมีการชิมอาหารแมวด้วยตนเองด้วย และหากผมจำไม่ผิดอีกถ้าเป็นอาหารสุนัข พวกเขาจะต้องดมลมหายใจของสุนัขหลังกินอาหาร(คือเขามีการประเมินว่าเวลาสุนัขกินอาหารแล้วอร่อยมีความสุขจะมีกลิ่นลมหายใจแบบนั้นแบบนี้ซึ่งพวกเขามีวิธีการประเมินแตกต่างกัน)
อันดับ 7 Flatus Odor Judge
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=499824
อันดับนี้ต้องพูดยาวหน่อยแม้ว่ามีคนแปลแล้วก็เถอะ แต่สิ่งที่ผมรู้มามีมากกว่านั้น เพราะว่านักดมกลิ่นในห้องปฏิบัติการนั้นมีหลายแบบ อาชีพต่อไปนี้มันมีในโลก และอาชีพนี้สำคัญมากๆ เพราะว่าบางอย่างก็ส่งผลต่อการวิจัย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ
เช่นกรณีของบริษัทน้ำยาบ้วนปากที่อาชีพนักดมกลิ่นนั้นจะต้องดมลมหายใจของคนใช้ยาบ้วนปากเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของมัน ซ้ำแล้วซ้ำเล่าดมไม่รู้กี่ครั้งในแต่ละวัน(ค่าตอบแทนนี้ต้องคุ้มกับสิ่งที่พวกเขาได้รับด้วย) แน่นอนว่าไม่ใช้น้ำยาดับกลิ่นปากหรือบ้วนปากเท่านั้นอย่างในกรณีของนางซินเธีย บรวน ชาวออสซี่ ได้ปลดเกษียณอายุงาน 62 ปีลง ที่โรงงานผลิตยาแห่งหนึ่ง จากสถิตทำงาน 34 ปีเต็ม โดยงานที่เธอทำสุดภาคภูมิใจคือ เธอสูดดมกลิ่นตด หรือก้นผู้ป่วยโรคริดสีดวงถวาร เนื่องจากบริษัทแห่งนี้ผลิตน้ำยาดับกลิ่นก้นและส่งใส่ว่าผลิตภัณฑ์เขาใช้ได้ กับผู้ป่วยหรือไม่
นอกจากนั้นนักดมกลิ่นไม่ใช่มีแค่ในบริษัทในผลิตภัณฑ์เท่านั้น ผมจำได้ว่าในห้องปฏิบัติการทดลองทางวิทยาศาสตร์ก็มีนักดมกลิ่นเช่นกัน เช่นการทดลองหากลิ่นเหม็นที่สุดในโลกเพื่อผลิตอาวุธเคมี โดยพวกเขาต้องดมกลิ่นอุจจาระ เนยเหม็น เต้าหู้เหม็น แบคทีเรีย แต่ที่สุดๆ คือ Flatus Odor Judge หรือนักดมกลิ่นตด ตำแหน่งนี้ถูกคิดค้นขึ้นมาโดย นักวิจัยโรคทางระบบทางเดินอาหาร ไมเคิล เลวิตต์ แห่งสหรัฐอเมริกา ที่เขาต้องการแก๊สที่เกิดจากการย่อยอาหารของมนุษย์ เขาจึงจ้างมา 2 คนเพื่อให้ดมตดของผู้ร่วมทดลองที่มีสุขภาพดี 6 คน(เขาไม่ว่าค่าตอบแทนเป็นเงินกี่บาท) โดยผู้ร่วมทดลองแต่ละคน(ทั้งหมด 16 คน)จะให้รับประทานถั่วปริมาณมากเพื่อให้ได้แก๊สจำนวนมาก จากนั้นนักวิทยาศาสตร์จะสอดท่อพลาสติกสำหรับเก็บตัวอย่างเข้าไปในทวารหนักของผู้ร่วมทดลอง เมื่อมีการ ปล่อยแก๊ส แต่ละครั้งก็จะถูกดูดไปเก็บไว้ในหลอดทดลองที่แยกไว้ต่างหาก ซึ่งในที่สุดแล้ว มีตัวอย่างให้ทำการตัดสินมากกว่า 100 ตัวอย่าง! จากนั้นผู้ร่วมทดลองแต่ละคน จะทำการเปิดฝาแต่ละตัวอย่างครั้งละ 1 ตัวอย่าง และทำการสูดหายใจเอาสิ่งที่อยู่ในหลอดตัวอย่างเข้าไปให้เต็มปอด ซึ่งแต่ละคนจะต้องทำการบันทึกค่า ความเป็นพิษ ของกลิ่นตัวอย่างนั้นๆ นอกจากจะมีการวัดกลิ่นแล้ว ตัวอย่างส่วนหนึ่งยังถูกส่งไปทำการวิเคราะห์หาองค์ประกอบทางเคมีด้วย โดยเขาสรุปว่าสารที่เป็นอันตรายที่สุดในตดของมนุษย์คือ ไฮโดรเจนซัลไฟล์(Hydrogen Sulfide) หรือแก๊สไข่เน่านั่นเอง(ว้าย ไม่รู้มาก่อนเลยน่ะเนี้ย...ปล. ประชด)
อันดับ 6 Portable Toilet Cleaner
คนทำความสะอาดสุขาเคลื่อนที่ แค่ชื่อก็กินความเลวร้ายไปกว่าครึ่ง ถือได้ว่างานนี้เป็นการรวมของอาชีพคนทำความสะอาดส้วมสาธารณะ นักเก็บขยะและวิทยาทางเดินอาหาร แล้วเพิ่มความน่าขยะแขยงกว่าสามอาชีพนั้นนิดหนึ่ง แม้ว่าคนส่วนใหญ่ในสังคมมักจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้สุขาเคลื่อนที่ เพราะมันไม่ทันสมัยเสียเลย มันไม่มีน้ำ ห้องก็แคบ กลิ่นก็เหม็น และแน่นอนห้องน้ำเคลื่อนที่นั้นไม่ได้ต่อท่อระบายน้ำหรือหลุมซึมใดๆ ที่นี้ลองนึกเองว่าสิ่งของเสียที่พวกเขาขับถ่ายนั้นไปอยู่ที่ไหน โอ้ แม่เจ้าเราไม่อยากจะคิด นี้แหละคือสิ่งที่นักทำความสะอาดสุขาเคลื่อนที่ต้องเผชิญ สิ่งที่คนทำอาชีพนี้ทำก็คือทำความสะอาดส้วมเหล่านี้ น้ำยาทำความสะอาดเช็ด การเก็บกระดาษชำระที่เหลือ การใช้สเปรย์ล้างคราบปัสสาวะในกรณียิงไม่ต้องเป้า การเอาสิ่งปฏิกูลที่อยู่ได้ส้วมเอาไปทิ้ง อีกทั้งยังทำงานในที่แคบๆ ร้อนๆ อับๆ อีก ชีวิตนี้ช่างน่ารื่นรมย์เหลือเกิน แต่กระนั้นพวกเขายังมีท่อแรงดันสูงมาเป็นตัวช่วย อีกทั้งโดยปกติแล้วการทำความสะอาดสุขาเคลื่อนที่ใช้เวลาไม่กี่นาที พวกคนงานส่วนใหญ่ทำงานมักยิ้มกลับบ้านด้วยเงินเดือน 50,000 ดอลลาร์ต่อปี
อันดับ 5 Brazilian Mosquito Researcher
ยังมีนักวิจัยไหนบนโลกลำบากเท่านักวิจัยยุงบราซิลบ้าง? ก่อนอื่นก็ต้องรู้ก่อนว่าที่บราซิลนั้นอุดมไปด้วยยุง เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ดิบชื้นแถบอเมริกาใต้และละตินอเมริกาเหมาะที่แก่เป็นที่อยู่อาศัยของยุงหลายสาย พันธุ์ ยุงลายเป็นยุงสายพันธุ์ที่กำลังสภาพปัญหากับคนบราซิล เนื่องจากมีชาวบราซิลติดเชื้อไข้เลือดออกเป็นจำนวนมากประมาณ 150,000 คนและเสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 80 ราย จึงไม่แปลกอะไรที่พวกนักวิทยาศาสตร์ต้องศึกษาวิธีการต่อสู้โรคมาลาเรียตั้งแต่ต้นวงจรกำเนิด เพื่อลดปริมานคนตายจากโรคมียุงเป็นพาหะ ซึ่งยอดคนตายนั้นเพิ่มขึ้นทุกปี โดยยุงที่เยอะที่สุดในบราซิลคือยุงก้นปล่อง(Anopheles Darlingi,) ซึ่งพวกเขามีวิจัยยุงชนิดว่าไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นเสนอตัวให้เป็นเหยื่อล่อยุง ในช่วงเย็นถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดีที่สุดสำหรับยุง โดยอาหารค่ำของยุงคือตัวนักวิจัยเอง โดยพวกเขาจะจับตัวอย่างยุงใส่ในหลอดวิจัย และพวกเขาจะให้ยุง 3000 ตัวกัดพวกเขาเหยื่อ 17 ครั้งต่อนาทีเป็นเวลา 180 นาที เพื่อศึกษาพฤติกรรมของยุง โดยบางครั้งอาจให้กัดพื้นที่เฉพาะเช่นขาหรือแขน ซึ่งนักวิจัย Helge Zieler ที่ใส่ตัวเองเป็นเมนูของยุงสองครั้งต่อสัปดาห์ได้บอกว่า มันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด นอกจากนี้ยังอธิบายผลการวิจัยว่ามันจะช่วยทำให้เรารู้เรื่องการตอบสนองส่วนบุคคลที่หากยุงกัดจะคันทันทีและจะหายไปตามธรรมชาติไม่กี่นาที สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เราวิจัยพัฒนายาป้องกันโรคได้
อันดับ 4 Sewers Cleaner
คลิปข้างล่างต่อไปนี้ผมแนะนำว่าไม่ควรดูในขณะรับประทานอาหารเด็ดขาด ไม่งั้นคุณอาจอ้วกได้ คุณคิดว่าคนสูบส้วมบ้านเรานั้นสยองแล้ว แต่นี้สยองกว่า
ราเมซ ซาฮูเป็นคนงานในแผนกสุขาภิบาลในเมืองกัลกัตตา ในประเทศอินเดีย ที่มีหน้าที่ทำความสะอาดท่อระบายน้ำของเมืองเป็นประจำ ขั้นแรกถ้าเราได้ดูคลิปเขาจะทำการเปิดฝาท่อระบายน้ำออกมา และเราจะพบว่าข้างในนั้นเต็มไปด้วยกองอุจจาระที่เน่าเปื่อยที่ส่งกลิ่นเหม็นอย่างร้ายกาจ หลังจากนั้นราเมซก็เตรียมพร้อมอะไรนิดหน่อย เขาจะถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่กางเกงหลวมๆ มีอุปกรณ์ต่างๆ ในมือจำพวกถัง จอบ จากนั้นเขาก็ลองไปในท่อระบายนั้นเพื่อทำการตักกองอุจารระออกเพื่อไม่ให้ท่ออุดตัน ที่นี้คุณลองคิดดูคุณสามารถทำได้เหมือนเขาไหมที่จะต้องอยู่ท่ามกลางของเสียของมนุษย์ที่มีทั้งกลิ่นและสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแมลง หนูตาย แต่นายราเมซเขาทำได้ ตอนนี้เขาอายุ 27 ปี มีภรรยาและลูกสาว เขามีรายได้ต่อเดือน 100 ดอลลาร์ เขาทำงานนี้มาตลอด 10 ปี
http://www.youtube.com/watch?v=QRcoBJ3Wa0o
อันดับ 3 Animal Masturbator
นักผสมเทียมสัตว์ ที่นักวิจัยต้องการตัวอย่างของอสุจิของสัตว์เพื่อศึกษาการผสมเทียม(รวมถึงการผสมเทียม) แน่นอนว่าพวกเขามีเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้สัตว์ทั้งหลายหลั่งน้ำอสุจิและผสมเทียมให้จงได้ แน่นอนว่าขั้นตอนนั้นยุ่งยากกว่าที่คิด เริ่มจากการใช้ช่วยกระตุ้นให้ตัวผู้หลั่งน้ำเชื้อออกมาจากอวัยวะเพศผู้ของสัตว์ด้วยไฟฟ้า หรือการใช้ท่อยาวต่ออวัยวะเพศเพื่อให้คัดหลั่งเชื้อ ซึ่งบางทีสัตว์นั้นจะเกิดปฏิกิริยาอะไรบางอย่างเมื่อถึงจุดสุดยอด เช่นส่งเสียงแปลกๆ ส่งกลิ่น หรืออาจเข้ามาทำร้ายคน ซึ่งมีคนโดนสัตว์ในสวนสัตว์ทำร้ายในระหว่างขั้นตอนผสมเทียมมากมาย ส่วนการเอาน้ำอสุจิสุกรนี้ง่ายหน่อยคือการใช้ตุ๊กตาหมู(ม้านั่ง)ที่มีกลิ่นสุกรตัวเมียติดให้เพศผู้ไปนั่งแล้วหลั่งน้ำเพื่อให้นักวิจัยเอาไปเก็บ หรืออีกวิธีนี้คือเอามือสำเร็จความใคร่กับสุกรด้วยตัวเองเสียเลย(และต้องฝึกให้พ่อพันธุ์เชื่องต่อการด้วยเช่นกัน) ที่นี้ก็ลองคิดดูว่ามันน่ารื่นรมย์หรือเปล่า
อันดับ 2 Guard at Buckingham Palace
อาชีพยามที่พระราชวังบักกิ้งแฮม สถานที่ซึ่งเป็นพระราชวังที่เป็นที่ประทับเป็นทางการของราชวงศ์อังกฤษ ในกรุงลอนดอนและยังเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวสำคัญที่หนึ่งของกรุงลอนดอน แน่นอนว่าสิ่งที่พวกเราเห็นคือทหารที่อยู่ประตูรั้วราชวังที่ดูนิ่งเฉยไม่ขยับเสียสักนิดราวกับหุ่นขี้ผึ้งอย่างไงอย่างงั้น ดูแล้วน่าประทับใจ หากแต่คนที่ทำอาชีพนี้ต่างออกเสียงเดียวกันว่ามันคืองานที่เลวร้ายที่สุดในกองทัพอังกฤษ(รวมไปถึงยามที่หน้าหอคอยลอนดอน) โดยในบทความ Is this the worst job in the British Army? ได้เล่าถึงความยากลำบากของอาชีพนี้ว่า มันเป็นงานสุดน่าเบื่อพวกเขาต้องยืนเป็นชั่วโมงโดยไม่รับอนุญาตให้หัวเราะและห้ามเมื่อย ทหารต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงแต่ละวันในการทำความสะอาดตรวจตาเครื่องแต่งกายของพวกเขาและการขัดรองเท้าในการเตรียมการในการเฝ้าหน้าประตูพระราชวัง นอกจากนี้พวกเขามีแนวโน้มในการทำโทษหลากหลายหากทำผิดอะไรเล็กน้อย เช่น เพิ่มหน้าที่เฝ้ายามพิเศษให้
อันดับ 1 Janitor at a Porno Theatre
ภารโรงประจำโรงหนังโป๊ แน่นอนว่าอาชีพภารโรงนั้นเป็นงานที่คนทั่วไปไม่ชอบเท่าไหร่ แต่ภารโรงในโรงหนังโป๊นั้นแย่กว่าเพราะเป็นงานที่เลวร้ายที่สุดในอันดับของเรา ภารกิจหลักของภารโรงหนังโป๊ก็คือการเก็บเศษกระดาษทิชชูเปื้อนคราบน้ำปริศนา(??) และการทำความสะอาดสารเหนียวลึกลับ(??)ที่เก้าอี้ แน่นอนสารเหนียวนี้ไม่ใช้โคคาโคล่าแน่ๆ แม้ว่างานนี้จะลำบากแต่อย่างน้อยคุณก็สามารถดูสื่อลามกฟรีๆ และบางทีคุณอาจเป็นที่นิยมในหมู่เพื่อนชายของคุณ แต่กระนั้นมันก็เป็นงานที่คุณไม่ควรเอามาพูดกับแม่หรือภรรยาของคุณแน่นอน
อันดับ 0. Dentist
ทันตแพทย์เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในรายการของเรา ทันตแพทย์(และอาชีพหมอสาขาต่างๆ) เป็นอาชีพลำบากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นการเรียนที่ต้องใช้เงินและเวลาที่นาน กิจกรรมส่วนใหญ่ของทันตแพทย์นั้นทุกวันต้องรับมือกับฟันผุในปากของคน ที่เต็มไปด้วยเลือด สิ่งปกปรก และเชื้อโรค การฝึกฝนการเป็นทันตแพทย์นั้นยาก ยิ่งถ้าลูกค้าที่เป็นเด็กนี้ลำบากสุดๆ อีกทั้งเป็นอาชีพที่ต้องอดทนสูง หากพลาดนิดเดียวมีสิทธิโดนฟ้องร้องได้ ไม่ว่าจะการรักษาผิดพลาด ทำอุปกรณ์ตกลงไปในช่องคอ ในต่างประเทศมีสถิตที่น่ากลัวคือเป็นคนที่ทำอาชีพนี้มีสถิตฆ่าตัวตายสูงยิ่งกว่าอาชีพใดๆ
Cammy แปลและเรียบเรียง
http://www.oddee.com/item_96873.aspx
http://www.classesandcareers.net/2007/07/03/top-10-worst-jobs/
ไม่อนุญาตให้ตั้งกระทู้ใน เว็บไซต์ Dek- D
(ใครที่คิดจะลอกไปเว็บอื่น กรุณาบอกพวกที่มาดูด้วยว่าอย่าลอกไปตั้งในเว็บเด็กดี มันทำให้ผมบาดตา)+ +
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ว่าแต่อันดับสองหน้าทำแฮะ 555 >,,<
อ่านจนซึมลึกเข้าไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
(แล้วมันจะแอ๊กติ้งทำไม)
ทุกอันดับนี่ขอคารวะเลย
โดยเฉพาะอันดับ 4 สุดแสนจะทรมาน
แล้วตอนทำงานพี่แกก็ไม่ปิดจมูกอีก
เวร.....
น่าสงสารคนที่ทำงานนี้นะ
ครั้งนึงเคยนั่งรถผ่านซากสกังค์ เหม็นเข้ามาในรถเลย....
ถ้าใครเคยไปพระราชวังที่สนามหลวงอ่ะ จะเจอยืนนิ่งยังกับหุ่น!
แต่ทหารตามประตูเล็กๆ(ที่ไม่มีคนเดินไปยุ่งย่าม)จะฉลาดดูภายนอกแล้วยืนนิ่งตั้งใจ แต่ภายในสงบแล้ว 555+ (ทดลองมากับมือ)
อาชีพนี้ประหลาดดีแท้ แต่จะไม่มีก็คงไม่ได้
แซะซาก - -
เด็กบางคนมาถึงพอเข้าห้องก็กรีดร้องโวยวาย
ทั้งๆที่หมอฟันเพียงแค่ถามว่าชื่ออะไร
คิดดูสิเวลาเด็กกรีดร้องโวยวาย
บางทีมีดิ้นกับพื้นอีก
โอ๊ย จะเป็นลม
ตอนเด็กๆก็เห็นเขายืนกันก็เคยนึกว่าเป็นรูปปั้นนะ
อยากรู้ว่าทำไมต้องยืนนิ่งเป็นรูปปั้นตาลุงหน้าร้าน kfc ด้วย
แต่ละอาชีพ- - -รับไม่ได้ 555+
(แต่หมอฟันเนี่ย...ยังได้อยู่นะไหงติดอันดับกับเขาด้วยล่ะ)
อาชีพอันดับ 1 มีด้วยหรอคะเนี่ย เพิ่งเคยรู้ 55
นับถือๆ
ตอนไปพระตำหนักสมเด็จย่า น้องของเราชี้แล้วบอกว่า "มีหุ่นยนต์ทหารอยู่ด้วย"