ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #75 : Nevada-Tan เมื่อมุกนี้ถูกใส่ลงในการ์ตูน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 24.5K
      5
      9 มิ.ย. 53


                    ที่จริงเคยลงฆาตกรโหดสะท้านโลกไปแล้ว แต่คราวนี้มาพูดคดีนี้ในภาษาการ์ตูนเสียหน่อยกับคดีนี้

     

     

    Nevada-Tan

    The Sasebo slashing

     

                    คดีกรีดแทงที่ซาเซโบ(Sasebo slashing) เป็นคำที่ใช้เรียกเหตุการณ์คดีฆาตกรรมที่โด่งดังของประเทศญี่ปุ่น คดีหนึ่ง โดยฆาตกรเป็นเด็กเพียงนักเรียนหญิงอายุเพียง 12 ปีคนหนึ่ง(ไม่เปิดเผยชื่อ) โดยเธอใช้มีดคัดเตอร์เชือดคอหอยฆ่าเพื่อร่วมชั้นเรียนชื่อ ซาโตมิ มิทาไร (Satomi Mitarai ) อายุ 11 ปี ในห้องเรียน เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2004 ที่โรงเรียนประถมในเมืองซาเซโบ จังหวัดนางาซากิ

                    ชื่อจริงของฆาตกรหญิงไม่มีการเปิดเผยให้สังคมภายนอกทราบ เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีกฎหมายปกป้องคนร้ายที่เป็นผู้เยาว์อยู่ โดยกระบวนการกฎหมายห้ามให้มีการเผยแพร่ใบหน้าและชื่อจริงสู่สังคม ดังนั้นทางการตำรวจเลยเรียกฆาตกรเด็กหญิงคนนี้ว่า เด็กหญิง A” แต่กระนั้น ด้วยความที่สังคมในตอนนั้นอินเตอร์เน็ตเริ่มเข้ามีบทบาทในสังคมญี่ปุ่น ทำให้มีใครบางคนนำรูปจริงของเด็กหญิงฆาตกรคนนั้นออกเผยแพร่ จนลุกลามระบาดไปทั่ว จนยากที่ทางการจะควบคุม

                   
                    ภาพเด็กหญิงคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นฆาตกรในคดี Sasebo slashing ถูกนำมาปล่อยในเว็บไซต์ชื่อดังของญี่ปุ่นหลายเว็บ โดยเฉพาะ 2channel ซึ่งเป็นเว็บบอร์ดของญี่ปุ่น กล่าวกันว่าเป็นเว็บบอร์ดที่ใหญ่ที่สุดในโลก 2channel มีอิทธิพลต่อสังคมญี่ปุ่นเป็นอย่างมากเช่นเดียวกับสื่อหลักทั่วไป เช่น โทรทัศน์ วิทยุ และนิตยสาร โดยเรื่องที่ไทยรู้จักกันดีในเว็บแห่งนี้คือ "หนุ่มรถไฟ" ("Densha Otoko"เว็บไซต์นี้มีอิทธิพลต่อความคิดของชาวญี่ปุ่นยิ่งกว่านายกรัฐมนตรี พระจักรพรรดิ และสื่อหลักรวมกันเสียอีก มันเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับผู้คนที่อยากอ่านบทวิจารณ์สินค้า ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ และเปรียบเทียบทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ขนาดอุจจาระของพวกเขาไปจนถึงคำตอบจากรายการเกมโชว์ การสนทนาในเว็บนี้ยังส่งผลต่อราคาหุ้น การรวมตัวกันทำบุญ การนัดคนจำนวนมากมาเต้นพร้อมกันในที่สาธารณะ การป้องกันการก่อการร้าย ไปจนถึงการไล่ผู้คนไปตาย)

                    โดยภาพเด็กหญิงที่อ้างว่าเป็นคนร้ายใน เป็นภาพที่เธอถ่ายกับเพื่อนๆ และอาจารย์ในสถานที่แห่งหนึ่ง เธออยู่ด้านซ้ายใส่ชุดสีน้ำเงินเข้ม บนเสื้อของเธอเขียนพิมพ์ลายพรินท์คำว่า Nevada (เป็นชื่อของมหาลัยเนวาด้า, รีโน  ในประเทศสหรัฐอเมริกา) ทำให้ชาวญี่ปุ่นที่เห็นภาพต่างเรียกเด็กหญิงที่คาดว่าเป็นคนร้ายว่า เนวาด้าจัง (อีกชื่อก็เนวาด้าทัน(Nevada-Tan) ซึ่งเป็นคำแผลงจาก จังในบอร์ด 2channe คงประมาณภาษาวิบัติละมั้ง)

                    กระแสของเนวาด้าจังนั้นลุกลามอย่างรวดเร็วไปทั่วญี่ปุ่น ไม่ใช้กระแสด้านลบ หากแต่เป้นกระแสบวก เพราะหลายคนได้ยกย่องเธอว่า เป็นฆาตกรที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์ เธอกลายเป็นไอด้อลแห่งโลกอินเตอร์เน็ตและสังคมญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว มีแม้กระทั้งโฮมเพจ, แฟนไซต์ ภาพการ์ตูนแฟนอาร์ต และมีแม้กระทั้งการร้องเพลง ไปจนถึงมุกต่างๆ ในการ์ตูนญี่ปุ่นมากมาย

                   

                    เด็กหญิง A หรือเนวาด้าจัง อายุ 12 ปี ก่อคดีฆาตกรรมฆ่าเพื่อนร่วมชั้นชื่อ ซาโตมิ มิทาไร เมื่อ วันที่ 1 มิถุนายน 2004   ในชั่งโมงพักเที่ยง ในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในเมืองซาเซโบ ในห้องเรียนที่ตอนนั้นไม่มีคนอยู่ (คนละห้องที่เธอเรียน) โดยการใช้คัตเตอร์ปาดคอและเดินกลับมาที่ห้องเลือดในสภาพเลือดโชกเต็มตัวอย่างสยดสยอง

                    ซาโตมิในเวลานั้นยังมีลมหายใจชีวิตโรยรินอยู่ และทางโรงเรียนรีบแจ้งรถพยาบาลให้รีบมารักษาตัว แต่มันก็สายไปที่จะช่วยชีวิต ซาโตมิเสียชีวิตหลังเกิดเหตุไม่นานนัก

                    ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ เด็กหญิง A หรือ เนวาด้า เป็นเพียงแค่เด็กประถมญี่ปุ่นธรรมดา ที่ค่อนข้างแข็งแรงและเก่งกีฬา เธอเคยอยู่ชมรมบาสเก็ตบอลของโรงเรียน หากแต่ว่าเธอถูกแม่บังคับให้ลาออกจากชมรม เพราะผลการเรียนของเธอไม่ดีนักและนั้นเองที่ทำให้เธอกลายเป็นคนเครียด และเธอได้ระบายความเครียดนี้ด้วยการดูหนังสยองขวัญ ที่มีเนื้อหารุนแรง ประเภทฆาตกรฆ่าเลือดสาดมากขึ้น โดยเรื่องสยองขวัญที่เธอชอบเป็นพิเศษคือ การ์ตูนเรื่องBattle Royale (เป็นการ์ตูนแต่งเรื่องโดย โคจุน ทะคะมิ (Koushun Takami)มีเนื้อหาประมาณว่า ณ สาธารณะรัฐอิสระ(แต่ธงมันปักโต้งๆ ว่าเป็นญี่ปุ่น) ต้องพบกับวิกฤตการณ์ ประชากรล้นประชากรประเทศและปัญหาอาชญากรรมตกต่ำถึงขีดสุด ทางรัฐบาลได้แก้ไขโดยออกกฎหมายต่างๆขึ้นมา เพื่อควบคุมจำนวนประชากร ใช้รหัสทางการทหารว่า.…Battle Royal…โดยแต่ละปีจะมีการสุ่มนักเรียน ม.ปลาย จากทั่วทั้งญี่ปุ่นจำนวน หนึ่งห้อง มาเข้าร่วมโปรแกรมนี้... หลักง่ายๆของโปรแกรมนี้ก็คือ... ให้นักเรียนห้องนั้นฆ่ากันเองจนกว่าจะเหลือผู้รอดชีวิตคนสุดท้าย...ทุกคนจะถูกสวมปลอกคอ โดยทุกหนึ่งชั่วโมงถ้าไม่ฆ่าใครปลอกคอจะระเบิดจนทุกคนต้องตายหมด ฯ เรื่องดังมากจนนำไปสร้างเวอร์ชั่นต่างประเทศ)

                    เด็กหญิง A หรือ เนวาด้าชอบเรื่อง Battle Royal มากถึงขั้นเขียนแฟนฟิคเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ทเลยทีเดียว

                    เด็กหญิง A หรือ เนวาด้าเป็นคนชอบท่องโลกอินเตอร์เน็ท เธอพยายามระบายความเครียดลงในโลกไซเบอร์โดยพยายามทำตัวให้โด่งดังผ่านเว็บไซต์ไดอารี่ของเธอเอง

                    หลังจากนั้นเด็กหญิง A หรือ เนวาด้าก็มีโอกาสเข้าชมรมบาสเก็ตบอลอีกครั้ง แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเธอถูกสั่งห้ามเข้าร่วมกิจกรรมและถูกขับออกจากชมรมในที่สุด เธอเครียดกับเรื่องนี้มากจนระบายลงในเว็บไดอารี่ว่า ความจริงแล้วฉันไม่ชอบเล่นกับเพื่อนเท่าไหร่ (I don’t really like to play with my Friends.)

                    ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างเด็กหญิง A หรือ เนวาด้า และ ซาโตมินั้นเป็นเพื่อนร่วมชั้น ทั้งในโลกแห่งความจริงและโลกไซเบอร์ โดยทั้งสองมีโฮมเพสเป็นของตัวเอง และมักเขียนคอมเมนท์ลงในยอร์ดของฝ่ายตรงข้ามบ่อยๆ

                    27 พฤษภาคม 2004 เด็กหญิง A หรือ เนวาด้า เล่มกับซาโตมิตามประสาเด็ก และซาโตมิและเพื่อนๆ คนอื่นในชั้นพูดล้อเลียนเธอว่า ตัวหนัก ซึ่งเป็นเหตุให้เจ้าตัวไม่พอใจเพราะตีความว่าเธออ้วนและเรียกร้องให้ซาโตมิขอโทษเธอ  

                    ดูเหมือนว่า เด็กหญิง A หรือ เนวาด้านั้นกังวลกับเรื่องนี้มากๆ เพราะจากคำให้การของเพื่อนร่วมชั้นต่างบอกว่า เธอคงข้างกลุ้มใจเรื่องนี้มากและเธอกำลังพยายามลดน้ำหนักตัวเธออยู่

                    28 พฤษภาคม เด็กหญิงลองคิดวิธีฆ่า 3 วิธีคือใช้คัตเตอร์ ที่เจาะน้ำแข็ง และบีบคอ" ตั้งใจว่าจะฆ่าวันนี้ แต่ทำไม่ลง"

                     

                    29 พฤษภาคม ซาโตมิเขียนลงในโฮมเพจของเด็กหญิง A หรือ เนวาด้า ว่า"เธอมันคนเสแสร้ง" เด็กหญิง A หรือ เนวาด้า มาเห็นรู้สึกไม่สบายใจและทำการลบคอมเมนท์ทิ้งไป แต่ซาโตมิก็มาเขียนซ้ำอีก จนเป็นชนวนให้เธอโกรธจนวางแผนฆาตกรรมขึ้น

                    เด็กหญิง A หรือ เนวาด้า เขียนไดอารี่ว่า "ฉันจะฆ่าแก รีบๆหายไปจากโลกนี้ซะ"

                    30 พฤษภาคม ทั้งสองทะเลาะกันเรื่องคอมเมนท์ในโฮมเพจระหว่างงานกีฬา ซาโตมิซึ่งโดนเขียนแก้โฮมเพจ และกล่าวในบอร์ดทำนองว่า"รู้หรอกว่าใครเป็นคนร้าย" เด็กหญิง A หรือ เนวาด้า เขียนไดอารี่ว่า อ่านข้อความดังกล่าวและเริ่มคิดว่าจะฆ่าอีกฝ่ายยังไง

                    31 พฤษภาคม เด็กหญิง A หรือ เนวาด้า เขียนไดอารี่ว่า  "ฉันตัดสินใจแล้วว่าพรุ่งนี้จะไปซื้อคัตเตอร์มาฆ่าเขา"

                    1 มิถุนายน ระหว่างเวลารับประทานอาหารกลางวัน เด็กหญิง A หรือ เนวาด้า เรียกซาโตมิออกมาให้เข้าไปห้องเรียนที่ว่างเปล่าห้องหนึ่ง และบอกให้เธอนั่งลงบนพื้นแล้วปิดม่านหน้าต่าง เด็กหญิง A หรือ เนวาด้า เขียนไดอารี่ว่า ใช้มือข้างหนึ่งปิดตาซาโตมิพร้อมกับใช้คัตเตอร์ปาดคอ    แผลนั้นลากจากกลางคอไปทางขวา 10 เซนติเมตร ความลึกของแผลโดยเฉลี่ย 10 เซนติเมตร (คอของผู้ใหญ่โดยทั่วไปจะมีความกว้างประมาณ 13-15 เซนติเมตร) ซาโตมิพยายามขอความช่วยเหลือ หากก็ขาดใจตายที่ประตูห้องนั่นเอง (นอกจากนี้ ยังพบแผลที่มือที่มีความลึกจนเห็นกระดูกอีกด้วย)

                   เด็กหญิง A หรือ เนวาด้า ใช้เวลาอีก 15 นาทีสังเกตจนแน่ใจว่าตายสนิทแล้ว จึงใช้ผ้าเช็ดหน้าห่อคัตเตอร์ซึ่งโชกเลือดแล้วกลับไปยังห้องเรียน เมื่อถูกอาจารย์ถามก็เกิดอาการแตกตื่นร้องว่า"ไม่ใช่เลือดของฉัน ! ไม่ใช่ฉัน !"

                    
                   หลังจากตำรวจมาแล้วทำการควบคุมตัว เด็กหญิง A หรือ เนวาด้าแต่พูดว่า ฉันเสียใจ ฉันเสียใจ เพื่อทำให้จิตใจของเด็กหญิงอยู่ในความสงบ เจ้าหน้าที่เลยให้ของว่าง แต่เธอปฏิเสธในตอนแรก แต่ในที่สุดเธอก็กินขนมปังและดื่มน้ำผลไม้ อย่างไรก็ตามตอนแรกเธอให้การว่าเธอก่อเหตุครั้งนี้โดยไม่มีแรงดลใจ  หากในเวลาต่อมาเพื่อก็สารภาพว่าเธอฆ่าเพราะผู้ตายด่าเธอในอินเตอร์เน็ต

                   เด็กหญิง A หรือ เนวาด้า ให้การว่าเธอทำเลียนแบบในละครชุดซึ่งดูเมื่อคืนก่อนเรื่อง Monday Mystery Theater ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการฆาตกรรมและการใช้คัตเตอร์เป็นอาวุธสังหารในซีรีย์เรื่องนี้  ทำให้รายการโทรทัศน์ที่มีการนำเสนอเกี่ยวการฆาตกรรมของทุกสถานีต้องระงับการฉายไปด้วย อีกทั้งหนัง เรื่อง Battle Royale ที่ฆาตกรคนนี้ชอบมาก ก็เป็นเหตุให้หนังเรื่องนี้เลื่อนออกไปเช่นกัน

                   เด็กหญิง A หรือ เนวาด้า ถูกแพทย์วินิจฉัยด้านจิตเวชเป็นเวลากว่า 3 เดือนซึ่งสรุปว่าเด็กหญิงคนร้ายมีมีอาการขั้นต้นของ  โรคเครียดรุนแรงหลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ PTSD (Post-traumatic stress disorder) แต่ไม่มีอาการป่วยทางจิต(อาการเริ่มต้นของโรคเครียดนี้คือ นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท, หงุดหงิดง่าย, มีอาการฝันร้ายหรือคิดถึงเหตุการณ์ร้ายนั้นซ้ำๆ, รู้สึกเฉยเมยกับญาติพี่น้อง เพื่อน หรือคนใกล้ชิด, ตกใจง่าย, รู้สึกผิดที่ตนเองรอดชีวิตขณะที่คนอื่นตาย, หลีกเลี่ยงกิจกรรมชื่นชอบที่เคยทำ, ไม่ยอมเข้าใกล้สถานที่หรือสถานการณ์ที่ทำให้คิดถึงเหตุการณ์ร้ายนั้น, วิตกอยู่ตลอดเวลาว่าเหตุร้ายนั้นจะเกิดซ้ำอีก, หลีกเลี่ยงหรือไม่พูดถึงเหตุร้ายนั้นๆ กับใคร เป็นต้น)

                    จากคำให้การจากคนรอบตัว พบว่าเธออาจจะมีอาการของโรคเก็บตัว และมีทีท่าปลีกตัวออกจากสังคมเช่นการลาออกจากชมรม(แต่ยังร่วมเล่นกีฬาจนถึงช่วงก่อนเกิดคดี) เคยมีการใช้กำลังทำร้ายเพื่อนและใช้มีดคัตเตอร์ขู่คนอื่นเมื่อหลายเดือน

                    15 กันยายน 2004 ศาลครอบครัวญี่ปุ่นประจำจังหวัดนางาซากิตัดสินให้ เด็กหญิง A หรือ เนวาด้า ผิดจริง และโทษคือเธอต้องถูกควบคุมความประพฤติเป็นเวลา 2 ปี และให้ส่งตัวเด็กหญิงไปยังสถานส่งเสริมการฟื้นตัวของเด็กในจังหวัดโทจิกิ(โรงเรียนดัดสันดาน)

             

    ในเดือนกันยายน 2006 เด็กหญิง A หรือ เนวาด้า ถูกตัดสินให้คุมประพฤติอีก 2 ปี

                    29 พฤษภาคม 2008 ผู้มีอำนาจในท้องถิ่นปฏิเสธข่าวคราวเกี่ยวกับ เด็กหญิง A หรือ เนวาด้าว่าเป็นยังไงในตอนนี้ และข่าวของเธอก็เงียบหายจากสังคมจนถึงปัจจุบัน ทุกคนต่างไม่รู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหนกันแน่ ระหว่างในคุกหรือออกมาโลกภายนอกแล้ว.....

                    เรื่องราวของ เด็กหญิง A หรือ เนวาด้า ถูกจุดประกายในสังคมญี่ปุ่นอีกครั้งเกี่ยวกับหัวข้อการเอาผิดต่อเยาวชนหากก่อเหตุฆาตกรรมขึ้นมา และเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงอายุอีกครั้ง หลังจากปี 2000 มีกฎหมายระบุว่า 14 และ 16 มีความผิดเท่าผู้ใหญ่

                    18 มีนาคม 2005 โรงเรียนที่ เด็กหญิง A หรือ เนวาด้าและเด็กหญิงผู้ตายเรียน ได้จัดทำอัมบั้มสำเร็จการศึกษา และหน้าว่างนั้นก็ได้ใส่ภาพเด็กหญิงซาโตมิ (และ เด็กหญิง A หรือ เนวาด้า”) เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ตาย มีการให้เกียรติบัตรการศึกษา ซึ่งพ่อของซาโตมิออกไปรับและแสดงความขอบคุณแทนเธอ ส่วนด้าน เด็กหญิง A หรือ เนวาด้า ทางสังคมก็พยายามให้ความช่วยเหลือและพยายามให้เธอกลับเข้าสังคมเป็นคนปกติอีกครั้ง

                    ภายหลังเกิดคดี ข่าวคดี Sasebo slashing ได้ถูกเผยแพร่ไปยังสื่อต่างๆ ไปทั่วญี่ปุ่นและทั่วโลก อย่างที่บอกเนื่องจากกฎหมายปกป้องผู้เยาว์ ทำให้สื่อไม่สามารถนำภาพและชื่อจริงของเด็กหญิงฆาตกรมาลงได้ ยกเว้นอินเตอร์เน็ตที่มีคนเอารูปมาโพสไว้เป็นรูปถ่ายหมู่ของชั้นปีระหว่างเธอกับเพื่อนๆ และรูปเหยื่อ

                    และเมื่อรูปของเธอถูกเผยแพร่ไปทั่ว และด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ เด็กหญิงฆาตกรโหดวัย 12 ปีที่เธอคัตเตอร์และสวมเสื้อที่มีอักษรว่า เนวาด้า กับร่างของเธอที่โชกเลือดกับเหยื่อโชกเลือดได้สร้างความประทับใจแก่ผู้คนจำนวนมากในสังคมอินเตอร์เน็ต เธอกลายเป็นไอดอทในโลกไซเบอร์ ซึ่งคนวาดรูปเธอเป็นการ์ตูนแบบต่างๆ อีกทั้งมีฟิค และคอสเพลย์อีกมากมาย

                    

                    ในการ์ตูนล่าสุดที่ผมได้อ่านแล้วพบว่าดัดแปลงมาจากเนวันด้าคือการ์ตูนเรื่อง Kurosagi Shitai Takuhaibin คุโรซากิ บริษัทรับส่งศพ(ไม่)จำกัด การ์ตูนที่นำเรื่องจริงมาใส่เพื่อความสมจริงหลายตอน และเล่ม 11 ก็เช่นกัน อ่านแค่ไม่กี่หน้าก็รู้เลยว่าเอาเรื่องเนวันด้ามาทำด้วย เพราะมีองค์ประกอบคือ โลลิ, คัตเตอร์,โรงเรียน, อินเตอร์เน็ต และบาดคอ เพียงแต่เนื้อเรื่องได้เปลี่ยนให้เนวันด้าให้เป็นนางเอกและผู้บริสุทธิ์ไป

                    ผมก็พึ่งรู้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้ก็โมเอะเป็น เมื่อเรื่องนำเสนอตัวละครเด่นชื่อนาคาจิมะ จิฮายะ(เมย์จัง) ที่อดีต(เมื่ออายุ 12ปี เหมือนกรณีของเนวันด้า) โดนสังคมกล่าวหาว่าเป็นคนใช้มีดคัตเตอร์บาดคอแม่ ทั้งๆ ที่เธอไม่ผิด แต่เธอเลือกที่จะปิดความจริงทำไว้เพราะเธอไม่ไว้ใจสังคม และเมื่อออกจากที่คุมขัง เธอก็เรียนโรงเรียนเดิมอีกครั้ง เพื่อสืบหาฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าแม่ของเธอ พร้อมกับพลัง “เห็นบาป” ที่สามารถเห็นจิตใจด้านมืดของคนได้ และเธอจะเขียนเตือนภัยล่วงหน้าในอินเตอร์เน็ต

    ผมค่อนข้างชอบตอนนี้เป็นพิเศษ นอกเหนือจากเมย์จังจะน่ารัก(เป็นครั้งแรกที่อ่านการ์ตูนเรื่องนี้แล้วเกิดความโมเอะขึ้นมา) มิน่าล่ะทำไมเนวันด้า-ตันถึงได้โด่งดังในประเทศญี่ปุ่น

    ข้อคิดตอนนี้มีหลายเรื่องคือสังคมที่คล้อยตามกับสื่อ ที่สื่อมักนำเสนอเกินเลยจากข้อจริง ส่งผลให้คนที่ถูกกล่าวอ้างเสื่อมเสียชื่อเสียง หรือไม่มีโอกาสกลับเข้ามาในสังคม

    นอกเหนือจากเนวันด้า-ตันจะปรากฏในเรื่องแล้ว ตอนนี้ยังสอดแทรกมุกอีกมากมายอย่างฉากรถตู้ที่คนร้ายขับที่พยายามจะชนผู้คนในย่านการค้านั้นเอามาจากเหตุการณ์สังหารหมู่อากิฮาบารา ที่ก่อเหตุโดยโทโมฮิโร กาโตะ (Tomohiro Kato) เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2008 เวลา 12:33-12:36  p.m โดยขับรถบรรทุก ได้ขับรถบรรทุกหนักสองตัน จากเมืองซูซาโนะ ไปยังกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร วิ่งฝ่าฝูงคนบนถนนอากิฮาบารา และลงมาแทงเหยื่อด้วยดาบสั้นมีผู้เสียชีวิต 7 ราย บาดเจ็บ 10 ราย และฉากฆาตกรในเรื่องแต่งตัวใส่ถุงกระดาษครอบหัวนั้นมาจากตัวละครจากหนังเรื่องหนึ่งซึ่งผมก็จำไม่ได้ว่าเป็นเรื่องอะไร ที่เป็นตัวละครอ้วนๆ ถือกรรไกรขนาดใหญ่ หรืออาจเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นสมัยก่อน เออจำไม่ได้แล้วช่างเถอะ

    ผมไปเปิดหามังงะที่เอาเรื่องเนวันด้า-ตันมาดัดแปลงก็พบว่าส่วนใหญ่จะเป็นภาพล้อเลียนแกลอรี่ต่างๆ มีทั้งโหด, โลลิ, ตลกขบขัน การ์ตูนที่เป็นเรื่องเป็นราวนั้นไม่มี แต่เท่าที่ดูมี 3 เรื่องที่เอาคดีนี้มาทำโดยผมเจอในเว็บ http://nevada.natural20.net/gallery/manga/index.html

     

    เรื่องแรก ถึงดูการ์ตูนตัวเต็มไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าชื่อเรื่องอะไร แต่ดูลายเส้นก็รู้เลยว่าเป็นของ เบนเคียว แทมโอกิ (Benkyo Tamaoki) สิ่งแรกที่เดาคือต้องการ์ตูนโป๊แน่นอน เพราะการ์ตูนของเขาส่วนใหญ่มักเป็นแนวอย่างว่า แต่การ์ตูนโป๊ของเบนเคียวนั้นไม่ได้เขียนเพื่อสนองต่อกามอารมณ์ของคนอ่าน เพราะในเรื่องจะดำมืด สอดแทรกความสะอิดสะเอียน การข่มขืน, ยาเสพย์ติด, ภัยร้ายทางสังคม ตอท้ายด้วยตลกร้าย มากกว่าจะเน้นความสวยงามของการ์ตูนโป๊แบบญี่ปุ่น เช่น ผู้หญิงคนหนึ่งถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน จนกระทั้งพ่อเลี้ยงเอาเธอไปขายลัทธิแห่งหนึ่งเพื่อล้างหนี้ แต่ลัทธิสาวกทั้งหลายก็รุมข่มขืนและสอนให้เธอฆ่าพ่อเลี้ยงตนเพื่อเป็นการแก้แค้น หรือผู้หญิงคนหนึ่งโดนนายหน้าติดต่อเพื่อให้เป็นนางแบบ แต่เมื่อเธอไปถึงกับกลายเป็นว่าเป็นการถ่ายวีดีโอโป๊เป็นต้น

       

    ลายเส้นนี้ผมไม่สามารถตอบได้ว่าใครเป็นคนเขียน แต่เห็นแล้วก็เสียวคอเหมือนกัน ส่วนมากการ์ตูนที่นำคดีนี้มาวาดจะเป็นการ์ตูนมุกตลกซะส่วนใหญ่

     

    การ์ตูนสารคดี เกี่ยวกับคดีเนวันด้า-ตัน ซึ่งผมอ่านไม่ออกเพราะเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ดูจากภาพประกอบ สื่อได้ว่า คดีนี้โด่งดังในญี่ปุ่น และบทบาทของสื่ออินเตอร์เน็ตที่มีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของญี่ปุ่น และสามารถทำให้บุคคลอื่นเสียหายได้โดยการโพสรูปบุคคลนั้นๆและใส่เนื้อหาติดลบลงไป  นอกจากนี้ยังมีการนำภาพฆ่ากันตาย สยองขวัญ โหดเหี้ยม ศพสะอิดสะเอียนลงในเว็บ ทั้งๆ ที่ผิดกฎหมาย

    + +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×