คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #509 : 10 ตอนสั้นสยองขวัญของจุนจิ อิโต้ที่คุณจะต้องดูให้ได้
จุนจิ อิโต้ (Mr. Junji Ito) ชื่อนี้ก็ยังคงการันตีว่าเป็นนักวาดการ์ตูนสยองขวัญจนปัจจุบัน คนไทยก็ได้ผ่านอะไรกับนักวาดคนนี้มามากจากผลงาน “สยองขวัญลงหลุม” ที่เต็มไปด้วยเรื่องสั้นสยองขวัญที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ตลกร้าย บางเรื่องเมากาวก็มี
แม้ว่าตัวอนิเมะจุนจิ อิโต้จะล้มเหลวในแง่การบิวอารมณ์สยองขวัญ แม้ตัวอนิเมะจะพยายามที่จะใส่ความเป็นจุนจิ อิโต้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่มันก็ไม่เพียงพอ ทำให้มีบางคนไม่เข้าใจความสยองขวัญที่แท้จริงของจุนจิ
ต้องยอมรับว่าความสยองขวัญของจุนจิแท้จริงนอกเหนือจากเนื้อเรื่องแล้ว ก็ต้องเป็นลายเส้นที่ออกไปทางเรียล มีส่วนผสมของลายเส้นการ์ตูนคลาสสิก แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีความร่วมสมัย จนเป็นเอกลักษณ์ที่คนอื่นดูก็รู้เลยว่าเป็นลายเส้นของจุนจิ อิโต้ ทำให้การ์ตูนของจุนจิเป็นที่ยอมรับคนทั่วไป
อย่างที่บอกเนื้อหาการ์ตูนของจุนจินั้นมีความเป็นร่วมสมัย สยองขวัญแต่ละตอน แต่ละเรื่องเต็มไปด้วยจิตนาการที่ดูพิลึกพิลั่น มากกว่าจะเน้นเรื่องวิญญาณคนตาย หลอกหลอน บางตอนก็มีการสร้างสัตว์ประหลาดน่ากลัวขึ้นมาใหม่ ใส่อะไรแปลกๆ จนมันน่าสนใจ
จุนจิได้บอกว่าการ์ตูนของเขานั้นมีแรงบันดาลใจจากนักวาดการ์ตูนสยองขวัญที่มีชื่อเสียงอย่าง Kazuo Umezu และยังอ้างถึง Hideshi Hino , Shinichi , Yasutaka Tsutsui และนักแต่งนิยายไซไฟสยองขวัญอย่าง HP Lovecraft ต่างมีอิทธิพลสำคัญต่องานของเขา จักรวาลอิโตะแสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายและไร้เหตุผล ตัวละครของเขามักจะพบตัวเองตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ที่ปกติ ไร้เหตุผล ไม่เข้าใจได้ และไม่สามารถที่จะหลีกหนีมันได้ (หรือบางครั้งก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวโดยไม่ตั้งใจ หรือทำผิดเล่นกับสิ่งเหนือธฤรรมชาติ)
และเพื่อให้เกิดความน่าสนใจ บทความนี้ขอยกตอนที่แนะนำของจุนจิ อิโต้ โดยบทความนี้ขอตัดซีรีย์ยาว ไม่ว่าจะเป็น ปลามรณะ, ก้นหอยมรณะ และโทมิโอะ ออก (เพราะยังไงสามเรื่องนี้มันติดแน่) และขอเน้นไปที่ตอนสั้นแทน ว่านักวาดทำยังไงให้แต่ละตอนเป็นที่น่าจดจำ และน่าเสียดายที่หลายตอนไม่มีอยู่ในอนิเมะ
รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ (The Bronze Statue)
ตอนแรกที่ผมอ่านมังงะตอนนี้ผมนึกว่าจะมีเวรกรรมอะไรสักอย่างมาลงทัณฑ์การกระทำของคนร้ายในเรื่อง แต่กลายเป็นว่าตายเพราะตนเองแท้ๆ เป็นอีกหนึ่งตอนที่ตลกดาร์กมาก
The Bronze Statue อยู่ในบทที่สาม ของเล่มที่ 14 ชุด "Horror World of Junji Ito " เป็นเรื่องตอนที่จุนจิ อิโต้ใส่ตัวละครที่มีอาการทางจิต เป็นเรื่องคุณนายที่ร่ำรวยคนหนึ่งเกลียดสามีตนเอง เลยฆ่าเธอแล้วท้งศพในบึงใกล้บ้าน
คุณนายคนนี้เป็นหญิงอ้วน ที่ยิ่งแก่ยิ่งหน้าตาน่าเกลียด แต่เธอเป็นคนหลงตัวเองมา คิดว่าตนเองงดงาม หุ่นนางแบบ แถมเธอชอบอวดคนอื่น ด้วยการสร้างรูปปั้นสัมฤทธิ์ไปติดทั่ว เช่น สวนสาธารณะที่เธอเป็นเจ้าของ พร้อมกับแอบติดตั้งกล้องวงจรปิดแบบครบชุดทั้งกล้องสอดแนมและไมโครโฟนได้เห็นทั้งภาพและเสียง เพื่อให้ได้ยินเสียงนินทาเพื่อนบ้านตนเอง เอาเรื่องรูปร่างของเธอมาวิจารณ์เสียๆ หายๆ จนพบกลุ่มแม่บ้านสี่คนที่กำลังโม้เรื่องของเธออยุ่พอดี
นอกจากนี้คุณนายคนนี้ยังมีช่างทำรูปปั้นสัมฤทธิ์ ที่คอยทำรูปปั้นสัมฤทธิ์ให้ ช่างคนนี้สนิทสนมกับคุณนายมากถึงขั้นทำตามคุณนายทุกอย่าง และเขาก็พึ่งสร้างหุ่นคุณนายเสร็จ (แน่นอนแบบสาวสวย) แล้วคุณนายก็คิดแผนหนึ่งได้ โดยจัดการเขียนจดหมายเชิญแม่บ้านทั้งสี่มากินเลี้ยงเปิดตัวรูปปั้นใหม่
ตอนกลางคืนเมื่อแม่บ้านสี่คนไปงาน เลี้ยง คุณนายแทบใส่ยานอนหลับลงในอาหาร แม่บ้านทั้งสี่หลับคาโต๊ะ ก่อนที่จะถูกคอนกรีตเทให้เป็นผลงานของช่างปั้น
เวลาต่อมาตำรวจมาสอบถามการหายตัวของแม่บ้านทั้งสี่ โดยมีเบาะแสว่าพวกเธอมางานปาร์ตี้ของเธอ แต่คุณนายแก้ตัวได้อย่างเนียน ก่อนที่จะไปบอกให้ ช่างปั้นทำลายรูปปั้นแม่บ้านทั้งสี่ซะเพื่อทำลายหลักฐาน
ต่อมาคุณนายพบว่ามีเสียงหนึ่งดังจากบึงใกล้บ้าน เสียงนั้นดังเหมือนสามีของเธอ จนเธอคิดว่าสามีเธอไม่ตาย จึงจัดการงมศพของขึ้นมา แล้วพบว่าศพของสามีกลายเป็นขี้ผึ้งตามกระบวนการธรรมชาติ
คุณนายเรียกช่างบ้านมาดู ช่างปั้นพบว่ามันน่าสนใจ จึงจัดการแกะสลักขี้ผึ้งสามีของคุณนายให้ออกมาเป็นหนุ่มหล่อเหลา คุณนายถูกใจมาก จึงวางใกล้รูปปั้นสัมฤทธิ์ของเธอ เพื่อชื่นชมความงดงาม
จากนั้นก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้น คุณนายได้ยินเสียงรุปปั้นคุณผู้ชาย แถมด่าเธอเสียๆ ว่าเป็นอีอ้วนบ้าน เป็นอีแก่บ้าง ฉันไม่ได้เป็นสามีเธอสักหน่อย เมียของฉันคือรูปปั้นสาวสวยข้างๆ ต่างหาก ก่อนที่รูปปั้นจะจูบกับรูปปั้นสัมฤทธิ์คุณนายข้างๆ อย่างดูดดื่ม
ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติหรือภาพหลอนก็ตาม คุณนายรู้สึกเจ็บใจเป็นอันมาก เธอเลยตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย โดยให้ตนเองจมลงบึง พร้อมเขียนจดหมายให้แก่ช่างปั้นว่าเธอไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่มันเป็นการเกิดใหม่ เมื่อร่างเธออยู่ในบึงสักพักขอให้เอาศพขี้ผึ้งของตนขึ้นมา เพื่อสร้างรูปปั้นสาวสวยที่ทำจากทองคำที่งดงามที่สุดในโลกด้วย
ช่างปั้นคนนั้นทำตามเจตนารมณ์ของคุณนาย เวลาต่อมาเมื่อศพคุณนายเป็นขี้ผึ้ง เขาก็นำศพเธออกจากบึง พร้อมเกาะสลักขี้ผึ้งคุณนายจนกลายเป็นรูปสาวสวย เวลานั้นช้างปั้นได้ยินเสียงคุณนายจากรูปปั้นว่ารีบหล่อทองคำสักที ฉันจะได้เป็นสาวสวยตลอดกาล หากแต่ในขั้นตอนหล่อทองทอง โชคร้ายที่โรคปอดของช่างปั้นกำเริบ เขาหัวใจวายตายเสียก่อน ทำให้รูปปั้นคุณนายยังคงติดแผ่นพิมพ์ที่เขาสร้างไว้ตลอดกาล
Black Bird
Black Bird เป็นตอนสั้นในชุด Ma no Kakera ที่ผมอยากชมจุนจิที่สร้างสัตว์ประหลาด ที่ไม่ได้โหดเลือดสาด ฆ่าบ้าเลือด แต่มันก็สร้างความสยดแสยองแบบช้าๆ ได้น่าขนลุกเช่นกัน
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อชายคนหนึ่งชื่อคุเมะกำลังดูนกอยู่ในป่า หากแต่เขาก็ได้พบชายคนหนึ่งที่บาดเจ็บสาหัสเลยโทรหาคนช่วยเหลือ แล้วส่งพยาบาล แต่เรื่องราวยังไม่จบ เมื่อชายคนนั้นได้เล่าเรื่องแปลกประหลาดว่าเขาชื่อชิโร โมริกุจิ จากโตเกียว เขาได้รับอุบัติเหตุขาหักตอนปีนเขาเมื่อหนึ่งเดือนก่อน เวลานั้นไม่มีใครผ่านมาเลย อีกทั้งเขายังขยับได้ เขาพยายามร้องเรียกหาคนมาช่วยเหลือก็ไม่มีใครได้ยิน รวมถึงติดต่อคน ก็ไม่มีสัญญาณใดๆ ตอบรับ
ในขณะที่เขาร้องเรียกคนอยู่นั้น ก็มีผู้หญิงลึกลับได้ปรากฏตัวออกมา แล้วนำเศษเนื้อสดที่อมไว้ในปากของเธอป้อนให้กับเขา โดยไม่รู้เลยว่ามันคือเนื้ออะไร และเธอก็ทำเช่นนี้เรื่อยๆ จนชายคนนั้นรอดมาได้หนึ่งเดือน จนคุเมะเจอเขาในที่สุด
ที่แปลกคือแม้ชายคนนั้นจะปลอดภัย แต่หญิงคนนั้นยังอมเนื้อสดมาป้อนเขาในคืนต่อมา เมื่อคุเมะเห็นเธอจึงพยายามที่จะสอบถาม แต่ปรากฏว่าหญิงคนนั้นไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นนกขนาดใหญ่สีดำกางปีกบนหนีบนท้องฟ้า
หลังจากนั้นผู้หญิงลึกลับนี้ก็ไม่ปรากฏให้เห็นอีก ในที่สุดโมริกุจิก็หายดี และเขาก็กลับไปโตเกียว
อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ปีต่อมามีการพบศพโมริกุจิบนยอดเขาสภาพเหมือนโดนนกขนาดใหญ่จิกกัน ประกอบกับคุเมะได้รับผลตรวจดีเอ็นเอเศษเนื้อที่พบว่ามันเป็นของโมริกุจิเอง แสดงว่าเศษเนื้อที่ผู้หญิงป้อนให้นั้นมาจากชิ้นเนื้อของโมริกุจิเอง ต่อมามีการพบไดอารี่ของโมริกุจิว่าหญิงคนนี้กลับมาหาเขาอีกครั้ง หากแต่คราวนี้เธอหยุดให้อาหารเขา และเริ่มจิกเนื้อของเขาแทน เมื่อได้เศษเนื้อเธอก็บินหายไป ไม่ว่าโมริกุจิจะล็อคประตูบ้าน หรือหนีไปไหน หญิงคนนี้ก็ตามมาทุกที่เพื่อจิกเอาเนื้อของเขาทีละเล็กทีน้อย เขาพยายามหนีสุดฤทธิ์จนมาหยุดที่ยอดเขาประเทศหนึ่ง แล้วค่อยๆ เห็นตาย พร้อมสันนิษฐานว่าหญิงคนนั้นคือสัจตว์ประหลาดสามารถท่องเวลาไปมาได้ เชื่อว่าที่เธอจิกเนื้อของเขาไป ก็เพื่อไปป้อนตัวเขาในอดีตให้กิน
ในตอนท้ายคุเมะเดินทางไปดูนกอีกครั้ง และเขาก็ได้ยินเสียงกระพือปีกขอนก เมื่อเขามองขึ้นไปดูก็พบหญิงคนนั้นในรูปของสัตว์ประหลาดนกอยู่บนต้นไม้ เขาตกใจจนลื่นล้มลงเขา จนขาหัก และหญิงคนนั้นก็จูบเขาโดยมีเศษเนื้อให้เขากิน ซึ่งก็รู้เลยว่ามันคือเศษเนื้อของเขาจากอนาคตแน่นอน.........
The Enigma of Amigara Fault
The Enigma of Amigara Fault เป็นเรื่องสั้นที่อยู่ตอนท้ายเรื่องปลามรณะ แม้ว่าจะไม่มีผีปรากฏสักตัว แต่ก็นำเสนอลึกลับ น่าขนลุกได้เป็นอย่างดี
เรื่องมีอยู่ว่าหลังเกิดแผ่นดินไหวในจังหวัดไม่ทราบชื่อ ก็ได้มีการพบสิ่งแปลกประหลาดบนเนินเขาแห่งหนึ่ง โดยปรากฏรูประหลาดรูปทรงมนุษย์มากมาย บนพื้นผิวภูเขา
นักวิทยาศาสตร์ต่างเข้ามาตรวจสอบ ก็ไม่ทราบสาเหตุว่ารูเหล่านั้นเกิดจากฝีมือของมนุษย์ หรือของธรรมชาติ สิ่งที่รู้มีเพียงอายุของรูนั้นเก่าแก่มาก รูนั้นมีความลึกมาก จนยากที่จะมนุษย์จะทำได้ เพราะต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนในการเจาะรูให้เป็นรูปร่างคน
ตัวเอกตอนนี้คือคู่รักคู่หนึ่ง ฝ่ายชายชื่อโอซากิ และฝ่ายหญิงชื่อโยชิดะ โยชิดะได้เข้ามาหุบเขานี้ด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด ต่อมาทั้งสองก็ได้พบชายคนหนึ่งชื่อนาคากากิได้บอกว่าเขาได้พบรูของตนเอง ก่อนที่จะถอดเสื้อผ้าและก็เดินหายไปที่รูมนุษย์ที่เขาอ้างว่าเป็นรูของตนเอง
การหาตัวของนาคากากิทำให้เกิดข่าวดัง หน่วยกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่เนื่องด้วยรูมนุษย์นั้นลึกมากแคบมาก ราวกับว่ามีเพียงนาคากากิเท่านั้นที่จะเข้ามาได้
นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถหาร่องรอยนาคากากิได้ ในเวลาเดียวกันโยชิดะได้บอกกับโอซากิว่า ตอนนี้เธอได้พบรูปของตัวเองแล้ว รูนี้มีพลังประหลาดที่ชวนให้เธอเข้าไปข้างใน โดยไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น
ทันใดนั้นก็เกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งก็เข้าไปในรูอีกคนโดยบอกว่านี้คือรูที่สร้างมาเพื่อเขา จากนั้นคนอื่นๆ ก็เริ่มเข้ารูที่เชื่อว่าเป็นรูของตนเองไป
ตัวโอซากินั้นพยายามที่จะไม่ให้โยชิดะไม่ให้เข้าในรู เขาพยายามเอาหินปิดทางเข้ารู และอยู่กับโยชิดะทั้งคืน หากแต่เมื่อถึงตอนเช้าก็พบว่าโยชิดะทำลายหินที่ปิดทางเข้ารู และหายตัวไป โอซากิรู้ทันทีว่าโยชิดะนั้นเข้าไปในรูแล้ว
สุดท้ายโอซากินั่งโศกเศร้านานพอควร ก่อนที่จะพบว่ามีรูมนุษย์หนึ่งอยู่ใกล้ๆ มันชวนให้เขาถอดเสื้อผ้าออก และเข้าไปในนั้น
ต่อมานักวิทยาศาสตร์กลุ่มใหม่ได้เข้ามาตรวจสอบรูมนุษย์ และพบว่ามีรูเริ่มีลักษณะบิดเบี้ยวจนรูปร่างไม่ใช่มนุษย์อีกแล้ว พร้อมกับพบว่ามีสิ่งมีชีวิตรูปร่างบิดเบี้ยวหนึ่งอยู่ในรู และมันก็เข้ามาใกล้พวกเขา......
Whispering Woman
ผู้หญิงกระซิบ (Whispering Woman) เป็นหนึ่งในเรื่องสั้นในชุด "Ma No Kakera" หรือ The Shard of Evil ของจุนจิ อิโต้ สิ่งที่ทำให้ตอนนี้ได้รับความนิยมนอกเหนือจากลายเส้นที่ได้ใจแล้ว เราจะได้เห็นการเล่าเรื่องที่แปลกกว่าการ์ตูนแนวผีเรื่องอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่เรามักเห็นพวกผีมาหลอกตุ้งแช่แล้วฆ่าคนแบบไม่มีเหตุผล ซึ่งน้อยมากที่จะนำเรื่องผีมานำเสนอให้ดูไปทางเชิงจิตวิทยา การใส่ตัวละครที่มีอาการปวยทางจิตประหลาด การดำเนินเรื่องอารมณ์ที่คาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ ซึ่งเรื่องสั้นนี้สามารถทำได้ และทำออกมาดี และหลอนด้วย
เนื้อเรื่องประมาณว่าเศรษฐีคนหนึ่งได้เปิดรับสมัครคนมาดูแลคุณหนูแสนน่ารักชื่อมายูมิ ซึ่งเธอมีอาการทางเจ็บป่วยทางจิตประหลาด คือเธอจะต้องมีคนอยู่ข้างๆ เพื่อแนะนำตลอดเวลา เวลาจะทำอะไร หรือแม้แต่พูดอะไร เช่น กินข้าว, วิ่ง, หยิบสิ่งของต่างๆ หากไม่มีคนคอยแนะนำ เธอจะทำอะไรไม่เป็นเลยซึ่งที่ผ่านมาสาวใช้หลายคนที่จ้างมาต่างทนไม่ไหวในการดูแลมายูมิ เพราะต้องตามติดมายูมิตลอดเวลา และมายูมิโครตน่ารำคาญ ถามตลอดเวลา ทำอะไรไม่เป็นเลย มันเป็นงานที่หนัก
ต่อมามีการจ้างผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ มิตสึอุจิดะ แม้ว่าจะทราบอาการป่วยทางจิตของมายูมิ แต่เธอก็ยอมรับงานนี้ แม้ตอนแรกเธอต้องอดทนที่ต้องพูดแนะนำมายูมิทุกเรื่อง ตั้งแต่เช้าจนบอกให้เข้านอน แต่เธอก็กระตือรือร้น ใส่การงาน
พ่อของเธอรู้สึกพอใจ ที่มิตสึทำงานได้นานกว่าคนเธอและมายูมิแยกออกจากกันไม่ได้ และอยู่ด้วยกันทั้งวัน พวกเขาสื่อสารด้วยภาษาลับที่มีเฉพาะสองคนรู้ในรูปแบบกระซิลและสัญญามือ อย่างไรก็ตามสุขภาพของมิตสึ ทรุดโทรมอย่างน่ากลัว เหมือนผี (จนกลายการปรากฏตัวครั้งแรกในมิตสึสภาพผีกลายเป็นภาพได้ใจของใครหลายคนไปในที่สุด) พ่อของเธอเริ่มกังวล แม้อยากให้มิตสึหยุดงาน แต่เธอปฏิเสธ ประกอบกับเห็นมายูมิมีความสุขจึงไม่กล้าขัด
ต่อมาพ่อของมายูมิอยากทราบประวัติมิตสึจึงขอให้คนไปสืบ ปรากฏว่าเธอคนนี้อาศัยอยู่กับแฟนที่มีนิสัยชอบความรุนแรง จนทำให้พ่อของเธอเริ่มกังวลสาวสาวใช้คนนี้อาจใช้ประโยชน์จากมายูมิ แต่ก็ไม่กล้าไล่ออก เพราะเธอยังคงทำงานของเธอตามหน้าที่อย่างไม่มีข้อบกพร่อง
สองสัปดาห์ต่อมา ก็มิตสึถูกฆาตกรรม แฟนของเธอตกเป็นผู้สงสัย พ่อของเธอเริ่มกังวลว่าลูกสาวของจะอยู่ยังไงหากไม่มีมิตสึ แต่ปรากฏว่ามายูมิสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ เริ่มทำอะไรด้วยตนเองได้ โดยเธอบอกว่าเธอยังคงได้คำแนะนำของมิตสึที่กระซิบอยู่ข้างๆ
อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของมายูมิเริ่มดูรุนแรง เธอถือมีดแทงที่พื้น โดยมายูมิถามมิตสึว่าเธอทำถูกต้องหรือเปล่า
ไม่กี่วันต่อมามายูมิกลับบ้านในสภาพเปื้อนเลือดถือมืด พ่อของเธอถามว่าเกิดอะไรขึ้น มายูมิบอกว่าเธอไปฆ่าคน ตามคำแนะนำมิตสึ
คฤหาสน์หุ่นกระบอก (House of Puppets)
คฤหาสน์หุ่นกระบอก เป็นเรื่องสั้นปรากฏใน Ito Junji Kyoufu Manga Collection ซึ่งทำได้น่ากลัว
“ตั้งแต่พี่จำความมาได้ พี่ก็เอาแต่เชิดตุ๊กตามาตลอด แต่พี่คิดว่านี้ไม่ใช้การควบคุมตุ๊กตาเลย กลับกันต่างหากเรานั่นแหละที่เป็นฝ่ายถูกตุ๊กตาควบคุม............”
พี่ชายของฮารุฮิโกะพูดประโยคนี้ขึ้นหลังจากพ่อล้มป่วย
House of Puppets เป็นเรื่องราวของฮารุฮิโกะเป็นชายหนุ่มที่เกิดมาในตระกูลนักเดินสายแสดงเชิดหุ่นกระบอกไปตามเมืองต่างๆ ด้วยฐานะที่ยากจน พอพ่อล้มป่วย พี่ชายของเขาจึงหนีออกจากบ้านไปพร้อมหุ่นกระบอกพ่อมดชื่อ “แชง ปิแอร์” และหายสาบสูญไม่ได้รับข่าวอีกเลย
จนกระทั่งหลายปีต่อมา หลังพ่อตายไป ฮารุฮิโกะกับน้องสาวก็เลิกอาชีพเชิดหุ่นกระบอกและทำงานในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง เขารู้จักเพื่อนหญิงตอนเด็ก และตัวเธอก็ชอบเขาเสียด้วย เหตุการณ์กำลังไปด้วยดี ถ้าไม่มีจดหมายจากพี่ส่งถึงเขา
จดหมายดังกล่าวเป็นพี่ชาย บอกว่าพี่ชายอาศัยอยู่ในเมืองเดียวกันแล้วก็ชวนให้เขามาเยี่ยมที่บ้าน ในที่สุดฮารุฮิโกะก็ได้พบพี่ชาย และพบว่าพี่ชายมีครอบครัว และร่ำรวยมากถึงขั้นมีบริษัทเป็นของตนเอง แต่ที่แปลกคือ ทั้งพี่ชายและครอบครัวแขนขาถูกโยงสายเปียโนที่ถูกควบคุมจากคนเชิดหุ่นบนเพดานตลอดเวลาเหมือนหุ่นกระบอกไม่มี และเพื่องานนี้คฤหาสน์ที่อยู่ก็ถูกดัดแปลงเหมือนโรงเชิดหุ่นขนาดยักษ์
“ถ้าคิดว่าคนเชิดกำลังเชิดพี่ล่ะก็ผิดแล้ว พวกเขาต่างหากที่ถูกเชิด” พี่ชายของฮารุฮิโกะอธิบาย
นอกจากพี่ชายและครอบครัวแล้ว หญิงสาวนักบัลเลต์ในคฤหาสน์ก็เป็นหุ่นกระบอก อีกต่างหาก พี่ชายของเขาบอกว่าชีวิตของเขามีความสุข มีเงินทองก็เพราะหุ่นกระบอกพ่อมดแชง ปิแอร์ดลบันดาลมาให้ ซึ่งแชง ปิแอร์ก็เคลื่อนไหวด้วยคนเชิดเพดานเหมือนกับพี่ชาย และดูเหมือนมันมีชีวิตไม่มีผิด
พี่ชายชักชวนเขาและน้องสาวมาอาศัยอยู่ด้วยกัน น้องสาวของเขาสนใจในการเป็นหุ่นเชิดเพื่อระบำสวยงามเหมือนตุ๊กตา แล้วอาศัยอยู่คฤหาสน์กับพี่ชาย
ต่อมาฮารุฮิโกะไปเยี่ยมพี่ชายและน้องสาว ดูเหมือนน้องสาวใช้ชีวิตเป็นหุ่นเชิดโดยสมบูรณ์ พี่ชายก็ยังคงรบเร้าให้เขามาเป็นหุ่นเชิดด้วยกัน พร้อมหุ่นบัลเล่ต์พยายามชักชวนด้วย พอดีเวลานั้นเพื่อนสมัยเด็กของฮารุฮิโกะแอบมองดูจากถนน เธอเข้าใจผิดว่าหุ่นเชิดบัลเลต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ที่กำลังยั่วแฟนเธออยู่ เธอจึงบุกเข้าคฤหาสน์ แล้วมาเจอปีแอร์ พอดีปิแอร์จำได้ว่าสมัยก่อนเพื่อนสมัยเด็กพระเอกเคยปัดเขาเพราะรังเกียจ มันจึงฆ่าเพื่อนสมัยเด็กพระเอกแล้วเชิดศพเธอเหมือนหุ่นกระบอก
เวลาเดียวกันการควบคุมหุ่นเชิดในบ้านพี่ชาย เกิดปั่นป่วน พี่ชายของเขาพยายามสั่งปิแอร์แต่ไม่เป็นผล พระเอกจึงพยายามหยุดเรื่องนี้จนได้พบปิแอร์กำลังเล่นกับศพเพื่อนสมัยเด็กของเขาพอดี จากนยั้นพระเอกก็ทำลายปิแอร์ ทำให้การเชิดหุ่นในคฤหาสน์หยุดลง น้องสาวปลอดภัย แต่พี่ชายและครอบครัวของเขากลับกลายเป็นหุ่นกระบอก โดยไม่รู้ว่าเหตุใดจึงเป็น เช่นนั้น
Demon’s Voice (Masei)
เป็นตอนสั้นที่เต็มไปด้วยความสยองและหลอน ที่แปลกคือเป็นเรื่องสั้นพิเศษ ที่วาดลงในหนังสือคู่มือเกมซีรีย์ Siren เกมหลอนแนวญี่ปุ่น ซึ่งเนื้อหามังงะก็แอบคล้ายๆ กับเกมพอควร
เนื้อหากล่าวถึงกลุ่มชาวประมงคนหนึ่งพยายามจับปลาให้ได้เยอะๆ จะได้ขายราคาดี แต่กลายเป็นว่ามาเจอพายุเข้า โคจิหนุ่มประมงหน้าใหม่รู้สึกใจคอไม่ดีเพราะเมาเรือ ชาวประมงรุ่นพี่จึงบอกให้เขาหลับ และระหว่างที่โคจิหลับนั้นชาวประมงที่เหลือบนเรือได้ยินเสียงไซเรนดังกลางทะเล โดยไม่ทราบที่มาของเสียงนั้น
เมื่อโคจิตื่นขึ้นมาก็พบว่าเหล่าชาวประมงบนเรือพยายามลากจูงแห โดยบอกว่าพวกเขาจับปลาทูน่าตัวใหญ่ได้หลายตัว แต่เมื่อโคจิเหลือบมองก็พบว่าตาข่ายกลับเต็มไปด้วยซากศพมนุษย์ขึ้นอืด จนโคจิกรีดเสียงร้องจนชาวประมงได้สติ พวกเขาต่างหวาดกลัวและโยนศพลงเรือ และพยายามเอาเรือกลับเข้าฝัง หากแต่พวกเขาก็พบว่าบรรยากาศเปลี่ยนไป ทะเลกลายเป็นสีแดง
เสียงไซเรนดังขึ้นในตอนเย็นวันวัดมา กัปตันเรือบอกให้ทุกคนอุดหู เขาเชื่อว่าเสียงไซเรนนั้นคือเสียงปีศาจ ไม่ก็สัตว์ประหลาดที่อยู่ในทะเลที่ต้องการหลอกล่อให้ลูกเรือให้ตาย ทุกคนยกเว้นโคจิตกอยู่ภายใต้มนต์สะกด และพวกเขาก็ลากแหที่เต็มไปด้วยศพขึ้นอืดขึ้นเรือ แม้โคจิพยายามเตือนทุกคน แต่มันก็สายไปแล้ว เมื่อศพขึ้นอืดเกิดมีชีวิตแบบซอมบี้และพยายามดันลูกเรือประมงรวมทั้งโคจิตกลงในทะเล
วันต่อมาศพของชาวประมงและโคจิก็พบติดแหบนเรือประมงหาปลา
Smashed
“ทุบ” เป็นอีกหนึ่งตอนใน Ito Junji Collection (ถูกทำเป็นอนิเมะตอนจบด้วย) ที่ผมค่อนข้างชอบทีเดียว คือเล่นกับคำถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นว่ะ อะไรฆ่าพวกเขา ต้องลุ้นหาคำตอบจนถึงตอนจบเลยทีเดียว
เป็นเรื่องของชายคนหนึ่งชื่อโอกิ ที่พึ่งกลับจากแอฟริกา (น่าจะเป็นแอฟริกา) โดยได้ไหน้ำหวานประหลาดติดมือกลับไปด้วย โอกิใม้ให้สุกิโอะเพื่อนเขาฟังว่าน้ำหวานนี้เป็นของมีค่ามาก มันหวาน อร่อยกว่าน้ำหวานใดๆ ในโลก แถมการได้มาเสี่ยงอันตรายมาก เพราะมันมากจากพืชหนึ่งที่ต้องเสี่ยงตายเพื่อเอาน้ำหวานจากต้นของมันมา
สุกิโอะไม่เชื่อ อร่อยขนาดนี้เชียวเรอะ โอกิเลยให้ชิมน้ำหวานโดยเตือนว่าให้ชิมนิดเดียว และต้อง “อย่าให้ถูกจับได้” ซึ่งสุกิโอะไม่เข้าใจว่าพูดถึงอะไรกัน หากแต่ เมื่อสุกิโอะชิมน้ำหวานก็พบว่ามันหวานอร่อยมากตามที่โอกิโม้
วันต่อมาโอกิติดใจในน้ำหวาน จึงพาเพื่อนๆ อีก 4 คนไปลองรสชาติน้ำหวาน หากแต่เมื่อมาถึงบ้านก็พบว่าโอกิหายไป พวกเขาจึงแอบชิมน้ำหวานปรากฏว่ามันหวานอร่อยตามที่โม้เอาไว้ และระหว่างรั้นก็มีบางคนได้กลิ่นเน่าที่ห้องข้างๆ และเมื่อเจ้าไปดูก็พบว่ามีซากประหลาดที่เต็มไปด้วยเลือดติดที่กำแพง
ทั้งหมดเห็นท่าไม่ดี จึงหนีออกจากที่เกิดเหตุ แพร้อมนำไหน้ำหวานติดมือไปด้วย พร้อมกับแบ่งน้ำหวานให้เท่ากัน ในระหว่างที่ทั้งหมดชิมน้ำหวานอย่างมีสุขอยู่นั้น คนในกลุ่มเลือดสาดกระจาย ตจายปริศนา เหมือนมีอะไรบางอย่างมาทุบบี้แบนเหมือนตบยุงไม่ปาน โดยพวกเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และนั้นทำให้สุกิโอะเข้าใจประโยค “อย่าให้ถูกจับได้” ว่ามันแบบนี้นี่เอง
หลังจากนั้นคนในกลุ่มตายไปทีละคน แม้ว่าคนในกลุ่มจะไม่กินน้ำหวาน แต่กลายเป็นว่าหากขาดน้ำหวานไป สัมผัสการรู้รสจะแย่ลง กินอะไรก็ไม่อร่อยอีก สุดท้ายก็ทนไม่ไหวกินน้ำหวานอยู่ดี ทำให้คนในกลุ่มตายจนเกือบหมด เพราะบางสิ่งบางอย่างฆ่าพวกเขาด้วยการทุบรุนแรงถึงขั้นเลือดสาดไม่เหลือซาก เหลือเพียงแค่คาเมดะเท่านั้น
เมื่อเหลือเพียงคาเมดะคนเดียว เขาเลยไปแอฟริกาจากแผนที่ที่พบบ้านโอกิ และที่นั้นเขาก็พบต้นไม้ประหลาดที่เต็มไปด้วยน้ำหวานเต็มต้น และกิ่งก้านรูปร่างเหมือนมือที่ทำการตบแมลงต่างๆ ที่รบกวนมัน และมือของมันก็วาปไปตบคนที่กินน้ำหวานของมันไม่ว่าจะอยู่ที่ใดบนโลกได้ ด้วย
สุดท้ายมาเอดะก็อดใจไม่ไหวพุ่งเข้ามากินน้ำหวานจากต้นไม้ประหลาด สุด ท้ายก็ได้ยินแตค่เสียงตบของต้นไม้อย่างแรงดังสนั่นป่าดงดิบเท่านั้น.......
Army of One
หลายตอนของจุนจิอิโต้มัก งง ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยไม่มีการเปิดเผยเรื่องราวกระจ่างแม้แต่น้อย ตัวอย่างเด่นชัดก็คือตอน Army of One ซึ่งเป็นตอนหลังจลดาวมรณะเรมิน่า Hellstar Remina ถือว่าเป็นดีที่สุด และได้รับการยกย่องจากผู้อ่านว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของอิโต้
เนื้อเรื่องเริ่มต้นว่าเกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องประหลาด เมื่อมีการพบชายหญิงร่างกายเปลือยเปล่า (เหลือกางเกงใน) ถูกเย็บติดกันด้วยสายเบ็ดตกปลา และจัดสภาพศพเหมือนคู่รักสวมกอดกัน
พระเอกตอนนี้คือมิชิโอะเป็นพวกเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน วันหนึ่งอดีตเพื่อนร่วมชั้นของเขาชื่อนัตสึโกะ โฮริเอะได้เชิญเขาไปงานพิธีฉลองอายุ 20 ปี ที่บรรลุเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ตอนแรกเขาไม่สนใจที่จะเข้าร่วม แต่นัตสึโกะคะยันคะยอให้เขาไป แถมลากเขาไปเจออดีตเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นในคาเฟ่อีกต่างหาก
ทางด้านฆาตกรต่อเนื่องเริ่มก่อคดีโหดยิ่งขึ้น เริ่มฆ่าคนจำนวนมาก มิชิโอะได้เจอศพหกศพเย็บศพติดกันด้วนเบ็ดตกปลาถูกทิ้งที่ทางน้ำ พร้อมกันนั้นก็มีเครื่องบินปลิวใบปิลว “กองทัพหนึ่งเดียว” ซึ่งไม่รู้เกี่ยวอะไรกับการฆาตกรรมหรือเปล่า
ข่าวลืออินเทอร์เน็ตเริ่มสนใจคดีฆาตกรรมต่อเนื่องขึ้น การก่อคดีเริ่มรุนแรงขึ้น เมื่อมีการพบศพมากมายเย็บติดกันบนภูเขา ต่อมาก็มีการพบศพมากมายในพื้นที่จัดงานฉลองคริสมาส และในวันบรรลุนิติภาวะ มิชิโอะได้มาเตือนนัตสึโกะเพราะเชื่อว่าการเกิดคดีฆาตกรรมในช่วงมีคสนรวมตัวทำกิจกรรม และงานบรรลุนิติภาวะก็เป็นเวทีชั้นดีที่ฆาตกรจะก่อเหตุ หากแต่นัตสึโกะโดนตำรวจจับเพราะเขาน่าสงสัยซะงั้น ดีที่มิชิโอะได้มาห้ามตำรวจโดยบอกว่าเป็นคนรู้จัก
และเมื่อมิชิโอะและนัตสึโกะเข้ามาในงานก็พบว่าคนมากมายในงานนับร้อยหายไป ทั้งๆ ที่ตำรวจยืนอยู่ข้างนอก และวันต่อมาก็มีการพบศพนับร้อยถูกเย็บติดกันเหมือนติดใยแมงมุมมาวางไว้ที่ศาลเจ้า
การก่อคดีครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านเอาแต่อยู่ในบ้าน ไม่รวมตัวกันทำกิจกรรมด้วยกันอีกเลย แม้ว่ามิชิโอะจะชอบโลกแบบนี้นิดๆ แต่เขาอดเป็นห่วงนัตสึโกะไม่ได้ เขาเลยไปบ้าน ระหว่างทาง เขาเห็นเครื่องบินขับไล่ญี่ปุ่นวิ่งจับเครื่องบินโปยใบประกาศ “กองทัพหนึ่งเดียว” มิชิโอะคิดว่าคดีฆาตกรรมได้ยุติลงแล้ว หากแต่เมื่อไปบ้านของนัตสึโกะก็พบว่านัตสึโกะได้ฆ่าพ่อแม่ และสุนขของเธอและเย็บพวกเขาติดกัน เธอกลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว
หมายเหตุ –เครื่องบินที่ปล่อยใบปลิวมาจากสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการปล่อยโฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชาอาศัยแต่ในบ้านหรือสถานที่ปลอดภัยระเบิดจากเรื่องบินทิ้งระเบิดอเมริกัน
-ฆาตกรต่อเนื่องเรื่องนี้ไม่ได้ถูกจับ แต่เชื่อว่าฆาตกรไม่ได้มีคนเดียว แต่น่าจะเป็นพวกโรคจิตเลียนแบบ หรือเกิดบ้าแบบนัตสึโกะ
The Hanging Balloons
ลูกโป่งหัวมนุษย์เป็นตอนสั้น Chapter 6 ในหนังสือเล่มที่ 4 ของ the Horror World of Junji Ito Collection ที่น่าจะเป็นตำนานของจุนจิ อิโต้ที่หลอนจนสร้างเป็นภาพยนตร์คนแสดง จุดเด่นของเรื่องคือไร้ที่มาที่ไป และไม่ได้เกิดหายนะในที่แคบๆ แต่เกิดทั่วโลก และคุณไม่สามารถหนีมันได้
ลูกโป่งหัวมนุษย์เริ่มต้นขึ้นเมื่อหญิงคนหนึ่งชื่อคาซุโกะอยู่ตัวคนเดียวในบ้าน และที่นอกบ้านก็มีเสียงของคาซุโกะอีร้องเรียกเธออยู่ และหากตาซุโกะในบ้านออกไป เธอตายแน่ ก่อนที่จะย้อนอดีตเมื่อเดือนก่อนว่าอะไรเกิดขึ้น ทำไมถึงลงเอยแบบนี้
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกอน จู่ๆฟูจิโนะ เทรูมิ ดาราสาวดาวรุ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนของคาซุโกะได้ฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอด้วยสายไฟโทรศัพท์นอกบ้านของตนเองอย่างไม่ทราบสาเหตุฆ่าตัวตาย และแฟนหนุ่มของเธอถูกกล่าวหาว่าเป็นสาเหตุฆ่าตัวตาย
การตายของเทรูมิทำให้เกิดการฆ่าตัวตายในหมู่แฟนๆ ผลงานของเธอ หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น เมื่อมีการพบลูกโป่งรูปหัวมนุษย์ขนาดใหญ่ที่มีหน้าตาเหมือนกับเทรูมิ ซึ่งคาซุโกะพบว่าแฟนจองเทรูมิกังวลกับเรื่องนี้มาก
คืนต่อมา คาซุโกะได้ทราบข่าวว่าลูกโป่งเทรูมิลอยอยู่เหนือเมืองของเธอ เธอจึงวิ่งไปดู และพบแฟนของเทรูมิปืนต้นไม้เพื่อไปหาลูกโป่งขอเทรูมิ หากแต่เขากลับถูกลูกโป่งยักษ์ใบหนึ่งที่มีหน้าตาเหมือนตนเองแขวนคอตายอนาถ
หลังจากนั้นลูกโป่งหน้าคนก็ได้โผล่ออกมาทั้งประเทศ โดยมันมีจะจู่โจมเคนที่หน้าเหมือนมันเพื่อจับแขวนคอ นอกจากนี้แม้ลูกโป่งจะถูกทำลาย, รั่วหรือไหม้เจ้าของใบหน้าลูกโป่งก็จะพบซะตากรรมเช่นเดียวกับมัน ทำให้มนุษย์ชาติไม่รู้จะรับมือยังไงกับมันดี
ทางที่ดีที่สุดคือการกักตัวอยู่แต่ในบ้าน หากแต่หลายคนทนไม่ไหว เพราะขาดน้ำ ขาดอาหาร จะออกไปข้างนอกก็ไม่ได้ หากออกไปจะพบลูกโป่งหน้าตนเองดักรอและถูกจับแขวนคอตาย บางคนก็โดนลูกโป่งหน้าตนเองใช้เสีงหลอกล่อให้ออกมาข้างนอก ทำให้ชาวเมืองเสียชีวิตเพราะเหตุนี้
ส่วนคาซุโกะ เธอเสียเพื่อนๆ และครอบครัวจากการจู่โจมลูกโป่ง (ที่ฮ่าที่สุดคือพ่อของคาซุโกะรู้ก็รู้ว่ามันวิกฤต มันก็จะออกไปทำงาน จนตายอนาถ) ส่วนพี่ชายเสี่ยงชีวิตออกไปหาอาหารแต่ไม่กลับมา
คาซุโกะถูกลูกโป่งตนเองหลอกล่อ จนกระทั่งเสียงเงียบหายไป จากนั้นก็มีเสียงพี่ชายบอกว่าเขากลับมาแล้วพร้อมอาหาร คาซุโกะดีใจจึงเปิดหน้าต่าง แต่สิ่งที่เห็นคือลูกโป่งใบหน้าของเธอที่กำลังดักรอ พร้อมลูกโป่งพี่ชายที่ฆ่าพี่ชายของเธอแล้ว
ก่อนที่จะเขียนถึงอันดับ 1 ก็ขอเล่าเรื่องของจุนจิ อิโต้เล็กน้อย จากอันดับที่ผ่านมาเราจะเห็นนิยามสยองขวัญจุนจิ อิโต้นั้นมีความหลากหลายมาก นอกจากเรื่องผี ก็ยังมีเรื่องสัตว์ประหลาด คนโรคจิต หรือเหตุการณ์แปลกประหลาด ไม่ได้มีทิศทางเดียว พล็อตเติมๆ แบบผีโผล่มาแล้วก็จบ
การวางเนื้อหาของจุนจิ อิโต้มีความหลากหลาย ตัวเอกของเรื่องส่วนมากจะเป็นพวกหนุ่ม สาวที่ได้เจอสิงแปลกประหลาดหลอกหลอน ไม่สามารถหนีได้ หรือต่อให้หนีก็คงจดจำไปวันตาย
ที่แปลกคือน้อยมาจุนจิ อิโต้จะเล่าที่มาที่ไปว่าของแปลกประหลาดนั้น ว่ามันมีที่มายังไง อย่างสัตว์ประหลาดนี้เกิดขึ้นยังไง ทำไมมันถึงทำแบบนั้น ความสามารถของมันก็ไม่ระบุชัด อย่างมากเปิดเผยเล็กน้อย แถมไม่รู้ข้อมูลในเรื่องจะถูกหรือเปล่า เช่น การสันนิศฐษนของตัวละคร, ไปจนถึงความฝัน
สิ่งที่ชอบในการ์ตูนจุนจิ อิโต้คือนิยามสยองขวัญที่มีเอกลักษณ์ ที่ไม่ได้มาแบบเลือดสาด เลือดนอง ไม่มีเรื่องทางเพศ สิ่งที่มีคือการเล่นจิตใจของมนุษย์ ผสมกับภาพวาดที่ดูแล้วขยะแขยง น่ากลัว เห็นแล้วรู้ทันทีว่าไม่ควรเข้าใกล้ และหลายภาพของจุนจินั้นติดตามาก ติดตามากกว่าแนวโหดเลือดสาด ขายฉากโหดเสียอีก
ด้วยลายเส้น และเนื้อหา ทำให้การ์ตูนของจุนจิ อิโต้ไม่ตกยุคแต่ออย่างใด จนถึงบัดนี้เนื้อหาจุนจิ อิโต้ยังคงดูดี ขายได้ และยังน่าจดจำเช่นเคย
Glyceride Junji Ito
ทำไมผมยกตอนนี้เป็นอันดับหนึ่ง ของงานมาสเตอร์ของจุนจิ อิโต้ เพราะเป็นตอนที่เต็มไปด้วยความกาว ความสยอง และขยะแขยงมากที่สุดตอนหนึ่ง ทั้งตอนเต็มไปด้วยความไขมัน ที่แค่ดูก็รู้สึกถึงมัน โดยทั้งเรื่องไม่มีผีสักตัว
เป็นเรื่องราวของยูอิ ที่อาศัยอยู่กับครอบครัวที่ขายเนื้อย่าง โดยมีพ่อเป็นเจ้าของ ที่บ้านเต็มไปด้วยน้ำมัน แลละอองไขมันอยู่เต็มบ้าน ทำให้เธอไวต่อความรู้สึกนี้มาก เธอตั้งหน่วยวัดในอากาศใหม่ว่า “ระดับไขมันอิ่มตัว” และในร้านมีระดับนี้มาก จนแทบไม่อยากอยู่ในบ้าน
พี่ชายของยูอิเป็นคนชอบใช้ความรุนแรง ชอบรังแกเธอเป็นประจำ และเขาชอบกินน้ำมันเป็นขวดๆ ทำให้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยสิวจำนวนมาก จนเป็นที่รังเกียจ และโดนกลั่นแกล้ง พี่ชายก็นำความเจ็บแค้นนี้มาระบายน้องสาวของเขา
ต่อมาพี่ชายของยูอิกลายเป็นคนเก็บตัว เอาแต่กินน้ำมัน จนอ้วนเป็นหมู และทำร้ายคนในครอบครัว วันหนึ่งเขาทำร้ายยูกิ (พร้อมฉากบีบสิวในตำนาน) และหมายจะฆ่ายูอิ จนพ่อของเธอทนไม่ไหวเลย เลยจัดการฆ่าเขา
หลังพี่ชายของเธอตาย พ่อของเธอเอาศพของเขามาทำเนื้อย่างมาเลี้ยงลูกค้า จนเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า เพราะเนื้อชุ่มด้วยไขมัน รสชาติดีมาก หากแต่เมื่อเนื้อมนุษย์หมด ร้านของพ่อยูอิก็กลับมาซบเซาอีกครั้ง ด้วยความเคียดพ่อของยูอิกินน้ำมันเหมือนพี่ชาย จนอ้วน
ต่อมาพ่อของเธอตั้งใจให้ยูอิกินน้ำมัน หวังขุนเหมือนพี่ชายของเธอจะได้เอาไปทำเนื้อย่าง แต่เธอไม่ยอม และด่าว่าพ่อยกใหญ่ สุดท้ายเธอของเธอเลยตัดขาตนเองเอามาทำเนื้อย่างขายให้แขกแทน.... จบ
ความคิดเห็น