ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #505 : 10 ของวิเศษและหุ่นยนตร์คนขับที่ทรงพลังที่สุดในโลกการ์ตูน

    • อัปเดตล่าสุด 5 ต.ค. 61


           

                    หากพูดถึงของวิเศษที่ทรงพลัง หลายคนคงคิดถึง ของวิเศษโดเรมอน, เดธโน้ต หรือไม่ก็ถุงมือเกรียนทานอสใช่หรือเปล่า หากแต่ของวิเศษเหล่านี้จะกลายเป็นของเด็กเล่นไปเลย เมื่อเทียบกับของวิเศษในการ์ตูน (ผมขอรวมของวิเศษในการ์ตูนตะวันตกด้วยนะครับ) เมื่อของวิเศษนั้นอภิมหาเทพ ไม่จำเป็นต้องมีเงื่อนไข มันสามารถเปลี่ยนโลก ไปจนถึงจักรวาลได้เลย

                    โดยอันดับผมจะจัดว่าอันไหน ทรงพลังมากที่สุด อันไหนสร้างความฉิXหายให้จักรวาลมากที่สุด ซึ่งทั้งหมดอยู่ในการ์ตูน

     

    10. ระบบซิแนปส์ (Synapse Core)


    เรื่องของวิเศษที่สามารถขออะไรก็ได้ เป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน และปรากฏหลายเรื่อง ดังๆ   เช่น จอกศักดิ์สิทธิ์ซีรีย์ Fate แต่กว่าที่จะได้ขอ ก็ฆ่ากันเองจนเหลือผู้ชนะจึงจะได้ขอ หากแต่ของวิเศษต่อไปนี้ ไม่ต้องยุ่งยาก ไม่ต้องฆ่ากัน ก็สามารถขอได้เลย แต่ก็มีเงื่อนไข

    ระบบซิแนปส์ คืออุปกรณ์ที่สร้างขึ้นโดยชาวเบื้องบน  ในซีรีย์การ์ตูน Sora No Otoshimono

    ความจริงความสามารถของมันถูกเอามาพูดถึงตั้งแต่ตอนแรกๆ แล้ว ตั้งแต่โทโมกิใช้พลังของการ์ดซิแนปส์เปลี่ยนแปลงโลก แต่นั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

    ตอนแรกๆ ซิแนปส์ถูกพูดถึงว่าเป็นเป็นทวีปใหม่ อันหมายถึงเกาะลอยฟ้า หลายเกาะที่มีสถานที่ต่างๆ เหนือภูมิปัญญามนุษย์ แค่อาวุธป้องกันก็แทบทำลายล้างโลกได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ใจความ หลักๆ แล้วซิแนปส์ก็คือ ระบบ นั่นเอง ซึ่งมันมีจุดศูนย์กลางเสาเป็นเสาสูงตะหง่าที่ตั้งกลางโดดเด่นกลางเกาะหลัก ซึ่งนี้แหละคือระบบหลัก ต้นกำเนิดทั้งปวง

    ระบบซิแนปส์มีความสามารถทรงพลังมาก คือสามารถขออะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง ความมั่งคั่ง โดยการเปลี่ยนแปลงระบบต่างๆ บนโลก (ความจริงพลังระดับจักรวาล เขียนจักรวาลทับขึ้นมาใหม่)   ซึ่งคนเบื้องบนต่างใช้มันบำเรอกิเลสส่วนตัว หากแต่ตอนหลังชาวเบื้องบนเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย เพราะสิ่งที่ได้มามันง่ายเกินไป จนกระทั่งอยากมาเป็นคนเบื้องล่าง (หลังจากแกล้งคนเบื้องล่างอย่างยาวนาน) เลยอยู่สภาวะจำศีลเป็นคนเบื้องล่าง แม้จะลำบาก แต่ก็มีความสุข

    สำหรับในเรื่อง  มีหลายครั้งที่พระเอกโทโมกิ ใช้ระบบซิแนปส์เปลี่ยนโลก ครั้งแรกๆ คือตอนแรก ที่เขาใช้ระบบรูปแบบการ์ด ทำได้ทุกอย่าง ทั้งขอให้หายตัว (ดูกางเกงในสาวๆ) ไปจนถึงครองโลก (โดยระบบลบคนที่ไม่เห็นด้วยที่จะให้โทโมกิเป็นราชาออกหมด จนหมดโลก ผลสุดท้ายเหลือแค่โทโมกิ และฮิคารอสที่ยอมรับเป็นโทโมกิ) ก่อนที่โทโมกิจะบอกว่าขอให้ทั้งหมดเป็นแค่ความฝัน แล้วโลกเดิมก็กลับมา

    อย่างไรก็ตาม ครั้งที่น่าจดจำที่สุดคือ ตอนที่เคออสบังคับรุ่นพี่แว่นซูกาตะขอให้ระบบซิแนปส์ (เสา) รีเซ็ตโลก (จักวาล) จนโทโมกิ ไปยังซิแนปส์เพื่อนำที่หายไปกลับคืนมา ระหว่างทางเขาสูญเสียไปมาก ก่อนที่จะใช้ระบบซิแนปส์ (ที่รุ่นพี่แก่ไขให้แล้ว รีเซ็ตโลกกลับคืนมา

    อย่างไรก็ตาม ระบบซิแนปส์ก็มีจุดอ่อนเพราะบางคำขอที่เป็นระดับจักรวาล จะต้องใช้เวลานานมากในการเขียนทับใหม่ อย่างโทโมกิอย่างเป็นราชา ระบบจะลบคนทั้งโลก และเขียนคนทีละคนเพื่อฝังความทรงจำยอมรับโทโมกิเป็นราชา ซึ่งนานกว่าลบโลก ให้โลกกลับมาเหมือนเดิมเสียอีก (ความจริงรายละเอียดส่วนนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน)


    9. D-Ripper


    ซิแนปส์อาจดูด้อยกว่าถึงมือเกรียนทานอสไปหน่อย (แต่อย่างน้อยก็มากกว่าเดธโน้ต กับของวิเศษโดเรมอนละกัน) ดังนั้นก็ขอพูดถึงไอเท็มอีกชิ้นในการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีความสามารถเทียบเท่า มันก็คือ ดี-ริปเปอร์ จาก Battle Angel Alita: Last Order เชื่อกันว่ามันมีอนุภาคพลังเหนือกว่าถุงมือทานอสมากความจริงไอเท็มรูปร่างเหมือนกรวยประหลาดนี้  เรายังไม่ทราบความสามารถมันมากนัก รู้แต่ว่ามันอยู่ในการครอบครองของ Tunpò หุ่นยนตร์นักคาราเต้ ตัวละครที่ทรงพลังที่สุดของซีรีย์  (ในจักรวาลของเรื่อง)  ความจริงจะเรียกครอบครองก็ไม่ถูกนัก แต่มันฝังอยู่ในร่างของเขาเลย

    เชื่อว่าอุปกรณ์นี้สร้างขึ้นจากโครงการ GENE  ของยอดนักดัดแปลงพันธุกรรมระดับจักรวาล ฝังอุปกรณ์นี้ให้แก่ Tunpò ทำให้เขามีพลังความสามารถที่เก่งที่สุดอันดับต้นๆ ของจักรวาล ไม่ว่าจะสามารถทำให้เขาเคลื่อนที่ระหว่างมิติได้ (ว่ากันว่าหากใช้มันได้สมบูรณ์จะทะลุมิติอวกาศที่ 5 ได้)  สามารถสร้างมิติ  (หลุมดำ?) หากใช้ดีๆ ก็สามารถทำลายจักรวาลได้เลยทีเดียว ทำให้ตัวเจ้าของไม่ค่อยเอาจริงมากนักเวลาต่อสู้   อีกทั้งมันยังขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานที่ไม่มีวันหมด

    ซึ่งตัว Tunpò ได้ใช้พลังนี้ทำให้เขากลายเป็นเทพของจักรวาลไปเลยทีเดียว 


    8. คริสตันเงิน (Silver Crystal)


    คริสตันเงิน หรือผลึกเงินมายา เป็นไอเทมสำคัญในการ์ตูนเซเลอร์มูนภายนอกก็เหมือนเพชรประกายแวววาวขนาดใหญ่ทั่วไป แต่ความจริงมันเป็นคริสตันที่บรรจุพลังมหาศาลซ่อนอยู่ โดยมันเป็นของเจ้าหญิงเซเรนิตี้ เจ้าหญิงแห่งดวงจันทร์สีเงิน มีในปราสาทคริสตัลพาเลซ หรือชาติที่แล้วของสึคิโนะ อุซางิ

    ตอนแรกๆ สเกลพลังของคริสตันเงินจะดูธรรมดา แต่ตอนหลังๆ จะเริ่มเวอร์ระดับจักรวาล โดยมันมีพลังเวทย์มหาศาล ไม่ว่าจะเป็น พลังการรักษา กลับชาติมาเกิด (ในยุคต่างๆ) ฟื้นฟูความทรงจำ เปลี่ยนสัตว์ประหลาดกลับมาเป็นมนุษย์ ทำลายพลังความมืด  แม้แต่ใช้คืนชีพได้ (ซึ่งเซเลอร์มูนใช้มันคืนชีพเหล่าเซเลอร์ในตอนจบของภาคแรก) นอกจากพลังเวทย์สนับสนุนแล้ว ยังมีพลังการสร้างสิ่งต่างๆ  ฟื้นฟูโลกกลับมาเหมือนเดิม พลังโจมตีระดับสุดยอด พลังทำลายระดับจักรวาล ศัตรูไม่สามารถโจมตีอะไรได้  

    อย่างไรก็ตามพลังที่สุดยอดมากที่สุดของคริสตันเงินก็คือพลังเปลี่ยนคนชั่วให้เป็นคนดี โดยในอนิเมะภาค 2 สี่พี่น้องแม่มดสาว (สังกัดแบล็คมูน) ในมังงะจะถูกสังหารตายหมด แต่ในอนิเมะ มีการเปลี่ยนแปลงบทสรุปของ4พี่น้องแห่งแบล็กมูน ใหม่ โดยให้4พี่น้องแบล็กมูน ได้พบกับมิตรภาพและความดีของเซเลอร์ ทำให้พวกเธอกลับใจเป็นคนดี เซเลอร์มูนเห็นชอบกับการกลับใจจึงได้ใช้พลังมูน คริสตัล ล้างความชั่วของพวกเธอจนหมด 4พี่น้องแห่งแบล็กมูน เปิดร้านขายเครื่องสำอางขึ้นที่เมืองชิบะ และไม่มีการกล่าวถึงอีกเลย

    ผลึกเงินมายาเป็นไอเทมสำคัญอันดับต้นๆ ของเซเลอร์มูล โดยภาคแรกกล่าวถึงราชินีแห่งดวงจันทร์ได้ใช้มันเพื่อสร้างอาณาจักรดวงจันทร์จนมีความสุขเรื่อยมา จนกระทั่งกลุ่มศัตรูที่เรียกว่า ดาร์กคิงดอม (Dark Kingdom) นำโดย ควีนเบรีล และ ควีนเมตาเลีย ก่อกบฏต่อต้านอาณาจักรโลก และอาณาจักรซิลเวอร์มิลเลนเนี่ยมแห่งดวงจันทร์ โดยมี เป้าหมายคือต้องการชิง "ผลึกเงินมายา" มาใช้สร้างพลัง เพื่อที่จะยึดครองโลก ทำให้อาณาจักดวงจันทร์ถูกรุกราน ราชินีจึงใช้พลังผลึกศัตรู และส่งคนสำคัญของเธอ ไม่ว่าจะเป็นตัวเธอ หรือสามี กลับชาติมาเกิดใหม่ จนเป็นที่มาของเรื่องเซเลอร์มูน

    อย่างไรก็ตาม ไอเทมนี้ก็มีจุดอ่อนอยู่อย่างคือ ผู้ใช้อาจเสียชีวิตได้ เพราะพลังที่ใช้คริสตันจะใช้พลังชีวิตของผู้ใช้ และคนที่ใช้ต้องเป็นเหลาราชวงส์แห่งดวงจันท์เท่านั้นจึงสามารถใช้มันได้

    เอาง่ายๆ เป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้สำหรับศึกสุดท้ายของเซเลอร์มูน


    7. คฑาเวทย์มนต์มหัศจรรย์ (The Royal Magic Wand)


    คฑาเวทย์มนต์มหัศจรรย์ (หรือเรียก Star's Magic Wand)) เป็นคาถาเวมในยต์ที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลของ Star vs. the Forces of Evil และน่าจะเป็นคาถาเวทมนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่มีในซีรีย์การ์ตูน 

    ในอดีต ราชินีมูน (ตอนยังเด็กน่ารักนะเอ่อ) ได้ใช้คฑาต่อสู้กับศัตรูที่รุกรานอาณาจักรของพระองค์  และทำให้พระองค์เป็นพระราชินีปกครองโลกแห่งแท้จริง จากนั้นคฑาก็กลายเป็นสมบัติสืบทอดของราชวงศ์บัตเตอร์ฟลาย แห่ง Mewni  ซึ่งจะมอบให้ลูกสาว เมื่อถึงวันเกิดครบ 14 ปี และมันเปลี่ยนลักษณะรูปร่างไปเพื่อให้ตรงกับบุคลิกของผู้ครอบครอง ปัจจุบันผู้ครอบครองคือ สตาร์ บัตเตอร์ฟลาย (Star Butterfly) เจ้าหญิงแห่งโลก mewni มายังโลกมนุษย์เพื่อก่อเรื่องวุ่นๆ

                    ว่ากันว่าคฑาเวทย์มนต์ที่สตาร์ บัตเตอร์ฟลายถือนั้นมีพลังมากมายมหาศาล ชนิดว่าหากไปยังอยู่คนดีจักรวาลอาจถูกทำลายได้  เพราะความสามารถของคฑาตือสามารถดลบันดาลทุกอย่างให้เป็นจริงได้ เพียงแค่ผู้ใช้นึกอยากจะให้ใช้ทำอะไร เช่น จะสร้างสร้างสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่มีพลังมากมายมหาศาล ยังไงก็ได้ และหากไม่พอใจก็ยกเลิกผลของมันก็ได้ หรือจะใช้เป็นพลังทำลาย ต่อสู้ก็ยิ่งเทพ

                    อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีจุดอ่อนก็คือ คฑาเวทย์มนต์จำเป็นต้องมีคู่มือการใช้ เพราะบางครั้งคาถาบางอย่างต้องใช้การท่องคาถา ซึ่งก็น่าเสียดายที่คู่มือของเจ้าของก่อนหน้าไม่ค่อยจะมีรายละเอียด หรือเขียนสับสนค่อนข้างมาก ทำให้ผู้ใช้มักมีปัญหาเกี่ยวกับคฑาเวทย์มนต์เป็นประจำ อีกทั้งหากผู้ใช้มีพลังทางลบมันก็แสดงพลังด้านลลไปด้วย


     6. ดราโกนอยด์ (Dragonoid)


    ไอเท็มที่ทรงพลังต่อไปนี้ มาจากเรื่องบาคุกัน  หรือชื่อไทย  Bakugan  มอนสเตอร์บอลทะลุมิติ  เป็นแนวของเล่น ที่เวลาจะปล่อยมอนสเตอร์ที่อยู่ในลูกบอลต่อสู้กัน (ซึ่งก็เป็นของเล่นที่สร้างความชิบหายในเรื่องนั้นแหละ)

    แน่นอนว่าของเล่นที่ทรงพลังที่สุดในเรื่อง ก็คือบาคุกันดราโก้  ซึ่งมีเจ้าของเป็น คูโซ ดันมะ    เด็กชายอายุ 12 ปี ตัวเอกของเรื่อง  (นิสัยก็ตามสไตล์การ์ตูนเด็กนั้นแหล่คือเร้าร้อน)  โดยดราโก้ เป็นบาคุกันธาตุไฟ มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า  "โนวาดราโกนอยด์"   ลักษณะคล้ายมังกรสีแดง   มีพลังที่แข็งแกร่งและรักความยุติธรรม แม้จะมองว่าเป็นของเล่น แต่ความจริงเป็นผู้พิทักษ์ของโลก

    ส่วนความสามารถก็ขึ้นอยู่กับการเรียนรู้และพัฒนาความสามารถ ตอนแรกๆ ก็มีสติปัญญา สามารถปล่อยความร้อนจากร่างกายละลายทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว เมื่อพัฒนาก็เพิ่มพลังทำลายล้างสูง เช่นสร้างเฮอริเคนขนาดใหญ่ ความเร็วแสง  ทำลายแม้แต่จักรวาลยังได้

                  

    5. อินฟินิตี้มาชินก้า (Infinity Mazinger)


    อินฟินิตี้มาชินก้า ปรากฏใน Mazinger Z Infinity  (2018) ถือว่าเป็นหุ่นจากเรื่องมาชินก้ารุ่นที่เทพที่สุด และมีขนาดใหญ่มาก

                    โดยที่มาของหุ่นตัวนี้ลึกลับ ถูกค้นพบโดยบังเอิญบนภูเขาไฟฟูจิ โดยทีมสำรวจได้ขุดถ้ำที่ลึกลงไปยังใต้ดินแล้วได้พบกับจักรกลขนาดยักษ์ ที่ใหญ่กว่ามาชินก้าหลายสิบเท่า โคจิที่เป็นนักวิทยาศาตร์สถาบันวิจัยพลังงานโฟตรอน ก็ตั้งชื่อหุ่นลึกลับนี้ว่ามาชินก้า อินฟินิท เพราะมันมีรูปร่างเหมือนมาชินก้า ที่เป็นจักรกลที่น่าเกรงขามที่สุดเท่าที่เขาเคยพบ  เชื่อกันว่าน่าจะผู้สร้างมาในอารยธรรมโบราณที่ก้าวหน้า   และเมื่อเรื่องนี้ไปถึงหูดร.เฮล ก็ส่งลูกสมุนก็ตรงดิ่งมาที่สถาบันวิจัย เพื่อชิงเอามาชินก้า อินฟินิทตัวนี้เพื่อใช้แผนการครองโลก

                    แม้ว่าหุ่นจะสร้างมาอย่างยาวนาน แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำลึก ทำให้อินฟินิตี้มีพลังไร้ขีดจำกัด มีอาวุธสุดยอดที่เรียกว่า Goragon ซึ่งกล่าวได้ว่ามีพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างมากมาย สามารถทำลายโลกเป็นจุนในพริบตา

                  

    4. เก็ตเตอร์ เอ็มเพอร์เรอร์  (Getter Emperor)


     
                   เก็ตเตอร์ เอ็มเพอร์เรอร์   เป็นหุ่นยนตร์คนขับที่เทพที่สุดของทุกจักรวาลเก็ตเตอร์ ทุกภาค ทุกเนื้อหาจะมารวมกัน จัดเป็นร่างพัฒนาการสุดสายทาง ครบทุกมิติ ทุกจักรวาลเก็ตเตอร์

                    โดยความเทพของเก็ตเตอร์ก็คือมันมีพลังอำนาจเหมือนพระเจ้า ดูดซับสิ่งต่างๆ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด สามารถทำลายดาวเคราะห์ดวงหนึ่งได้สบาย แน่นอนมันมีพลังสามารถทำลายได้ทั้งจักรวาล ด้วยการดูดซับดาวเคราะห์ อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้ไกลกว่า 400 ล้านปีแสง ขับเคลื่อนด้วยพลังงานเก็ตเตอร์ สามารถวิวัฒนาการแบบไร้ขีดจำกัด เรียกได้ว่า นี่คือเก็ตเตอร์ที่เก่งที่สุดเท่าทีผู้วาดได้เขียแล้ว (เพราะคนวาดเสียชีวิตก่อนที่ซีรีย์สงครามเก็ตเตอร์จะจบ) นอกจากนี้มันยังมีสูง 12,000,000,000,000 เมตร (ยานลำหนึ่งก็มีขนาดใหญ่เกือบดาวพฤหัสบดี) ทำให้มันติดอันดับหุ่นยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอันดับต้นๆ ด้วย

                    เก็ตเตอร์ เอ็มเพอร์เรอร์   ปรากฏตัว หลังฉากจบของ อภินิหารหุ่นสามพลัง ศึกวันอวสานโลกหรือภาค Shin Getter Robo  เรียวมะและพรรคพวก ได้เดินทางไปอีกมิติหนึ่ง ที่พวกเขาได้เห็นยานเก็ตเตอร์ยักษ์ทำสงครามอยู่ แล้วก็กลายเป็นช่วงเปิดเรื่องราวรวมทุกจักรวาลเกตเตอร์ ทุกภาค ทุกเนื้อหาจะมารวมกัน จนกลายเป็นมหาสงครามครั้งใหญ่ที่สเกลพลังโอเวอร์มาก


    3.Naljian Destructor


    Naljian Destructor  (ไม่รู้สะกดยังไง เอาเป็นว่าชื่อ “ของเล่นแห่งความชิบหาย” ละกัน) เป็นของเล่นในจักรวาลเบน 10 ใช่มันเป็นของเล่น แต่ถ้าฟังความสามารถของมันแล้วโครตเทพ โครตครองจักรวาล ซึ่งโชคดีที่ในเรื่องมันไม่ได้ก่อความเสียหายมักเท่าไหร่ (แค่ทำลายสิ่งก่อสร้างนิดหน่อย) หากปล่อยมากกว่านี้อาจสามารถสร้างหายนะจักรวาลได้เลย

    เจ้าของเล่นที่รูปเหมือนลูกบาศก์ ประหลาดนี้ ปรากฏในตอน Busy Box  โดยเนื้อเรื่องประมาณว่าพวกเบนไปทำภารกิจ ให้ไปเก็บกู้สิ่งของประหลาดจากต่างดาว ตอนแรกๆ เบนเทนก็อารมณ์ภารกิจนนี้น่าจะง่ายๆ จนกระทั่ง หากแต่เมื่อเบนเข้าใกล้มัน ความสามารถลูกบาศก์ ก็ปรากฏ คือมันสามารถเปลี่ยนตนเอง (ให้เป็นหุ่นยนต์) เป็นสิ่งใดก็ได้ หากมันได้เห็น  ตอนแรกมันเห็นเบนเปลี่ยนเป็นเบน , เมื่อเควินเข้าใกล้มันก็เปลี่ยนเป็นเควิน และไม่ได้เหมือนอย่างเดียวความสามารถต่างๆ มันก็เหมือนเจ้าตัวที่มันแปลงร่างด้วย และเหนือกว่าเมื่อมันมีความคิดของตนเอง เปลี่ยนไปมาได้อีกด้วย (แถมเบนเปลี่ยนเอเลี่ยนมากมาย มันก็เปลี่ยนเอเลี่ยนเป็นอิสระยิ่งกว่าเบนด้วยซ้ำ)

    นอกจากนี้ยังเลียนแบบนิสัยร่างที่มันเปลี่ยนด้วย จากนั้นมันก็เริ่มอาละวาดทำลายข้าวของ  จนมันต่อสู้กับเบน แม้ว่ามันจะได้รับความเสียหาย หากแต่ถ้าแกนยังอยู่  มันก็สามารถประกอบกลับมาเหมือนเดิม ต่อสู้ต่อได้  จนพวกเบนเกือบเอาตัวไม่รอด

    โชคดีที่เรื่องจบลงโดยเจ้าของลูกบาศก์ ประหลาดนี้ก็ปรากฏตัวออกมา นั่นคือเอเลี่ยน Naljians (เอเลี่ยนที่เก่งอันดับต้นๆ ของจักรวาลเบนเทน) บอกว่าอุปกรณ์ประหลาดนี้เป็นของเล่นของลูกสาว และเธอก็เสริมอีกว่ามันเป็นของที่อันตรายมากหากตกไปยังมนุษย์ต่างดาวหรือมนุษย์ที่อายุต่ำกว่าสามล้านปี (...) ก่อนที่จบลงที่พวกเบนก็คืนของเล่นนี้ให้เธอไป


                3. รากัน (Lagann) 


    ตอนแรกๆ รากัน (Lagann)  เป็นเพียงหุ่นขนาดคนขับคนเดียวที่มีแต่หัว ถูกพบโดยเด็กชายที่ชื่อไซม่อนระหว่างขุดโมงค์ในหมู่บ้านใต้ดิน โดนรากันเป็นชื่อที่เขาตั้ง เพราะมันมีเพียงแค่ใบหน้า ก่อนที่เขาจะเรียนรู้ และใช้มันฆ่าศัตรูที่มาโจมตีหมู่บ้านครั้งแรก

                    อย่างไรก็ตาม ตอนหลังๆ รากัน ก็แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นหุ่นที่มีพัฒนาการ ที่เริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ   โดยตอนแรกรากันมีความสามารถรวมกับหุ่นยนต์อะไรก็ได้ เมื่อมันทำการประกอบร่างกับหุ่นกุเร็น กลายเป็นกุเร็นรากัน  (Gurren Lagann) เป็นหุ่นขับสองคน โดบซิมอน (พระเอก) กับหุ่นกุเร็นของคามินะ (พระรอง) จนกลายเป็นหุ่นที่พลังที่มีพลังโจมตีแข็งแกร่ง  จนชิม่อนได้ใช้หุ่นนี้สู้กับบอสใหญ่จนสามารถเอาชนะ กอบกู้โลกมาได้ในช่วงแรก

                    จากนั้นรากันก็พัฒนาให้แข็งแกร่งระดับจักรวาล  รากันได้กลายเป็นซุปเปอร์กาแล็คซี่ กุเร็นรากัน (Super Galaxy Gurren Lagann) ที่มีขนาดใหญ่โต สามารถท่องอวกาศ ไปยังพื้นที่อันตรายที่เป็นมิติที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าไปได้ พร้อมอาวุธเลเซอร์ต่างๆ มากมายที่มีอยู่ไม่จำกัด

    จนกระทั่ง เรื่องก็เปิดเผยว่า รากัน ว่าหุ่นยนต์รากันนั้น เป็นหุ่นที่ใช้พลังใจ (Spiral Energy)"  มาขับเคลื่อน หมายความว่า ยิ่งมีกำลังใจมากเพียงใด หุ่นก็จะยิ่งแข็งแกร่ง ตอนหลังไม่ใช่แค่กำลังใจของตัวละครเอกเท่านั้น แต่เพื่อน และทุกคนในจักรวาลต่างให้พลังใจ กลาย พลังแห่งวิวัฒนาการ  ให้แก่รากัน จน กกลายเป็น ท็นเก็นท๊อปปะ กุเร็นลากันน์ (Tengen Toppa Gurren Lagann) ซึ่งมีขนาดเทียบเท่ากาแล็ค

    และเหนือขึ้นไปอีก คือ  ซุปเปอร์ ท็นเก็นท๊อปปะ กุเร็นลากันน์  (Super Tengen Toppa Gurren Lagann)  ที่ถูกห่อหุ้มด้วยพลังสไปรัลจำนวนมหาศาล ทำให้ร่างของหุ่นมีขนาดใหญ่โตมโหราฬกาเเลกซี่หลายร้อยหลายพันเท่า  มีพลังงานที่ไร้ขีดจำกัด   โดยมีท่าไม้ตายคือซูปเปอร์ เทนเกน ทอปปะ กิกะ ดริว เบรค! ( Super Tengen Toppa Giga Drill Break ) : ใช้พลังสไปรัลจำนวนมหาศาลสร้างหัวสว่านขนาดมหึมาที่มือขวามีขนาดใหญ่กว่าตัวเองแล้วหมุนด้วยความเร็วสูงทะลวงเป้าหมายชนิดไม่มีสิ่งใดสามารถป้องกันท่านี้ได้ เรียกได้ว่ารากันคือหุ่นยนต์ที่ร้ายกาจที่สุดแล้วในซุปเปอร์โรบอต


    1.อัล อาซิฟ (Al Azif)


    Demonban  เป็นเรื่องของพระเอกของเรา ไดจูจิ คุโร่ นักสืบหนุ่ม ซึ่งยากจน เขามักจะไปอาศัยขอข้าวกินในโบสถ์บ่อยครั้ง อยู่มาวันหนึ่ง มีเขาไปสืบเรื่อง คัมภีร์ปีศาจ(ส่วนใหญ่คัมภีร์ปีศาจ (Necronomicon ) แต่แทนที่จะเป็นหนังสือ กลับอยู่ในรูปแบบ ภายนอกจะรูปร่างเป็นสาวน้อยน่ารัก)คุโร่ จึงทำสัญญาเพื่อขับหุ่นต่อสู้กับกลุ่มคนประหลาดเพื่อช่วยเหลือโลกและจักรวาล

    อัล อาซิฟ   หรือหนังสือ นีโครโนมิคอน  (อัล อาซิฟเป็นชื่อเดิมของหนังสือ) โดยเป็นตำราเวทย์สมมุติที่ปรากฏในงานประพันธ์ชุดตำนานคธูลูของเอช. พี. เลิฟคราฟท์ เดิมที่หนังสือนี้มีไว้อัญเชิญ เกรทโอลด์วัน) ใน Demonban จะเป็นสาวน้อยโมเอะที่มีพลังเวทย์มนต์สูงส่ง  และมีสติปัญญาสูงส่ง และยังเป็นตัวที่ทำให้หุ่นยนตร์ดีมอน เบนขับเคลื่อนพัฒนาอยู่จุดสูงสุด

    ความจริงซีรีย์  Demonban เป็นหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเวทมนตร์ที่ค่อนข้างขี้โม้ (สเกลพลังเวอร์มาก) แถมเป็นเกมติดเรตอีกต่างหาก ก่อนที่จะตัดฉากอย่างว่าทิ้งในภาค PS2 และเป็นการเล่าเรื่องที่ งง มาก ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากนัก ยังดีที่มันเป็นซูเปอร์โรบอต และเหล่าแฟนอนิเมะก็มีการเอามาพูดถึงความเทพของมัน โดยดีมอน เบน ในร่างเอลเดอร์ก๊อด (อัลกับคุโร่ในร่างพระเจ้าขับ) มันมีพลังระดับพระเจ้า ทำได้ทุกอย่าง ที่มนุษย์จะจินตนาการได้  โกงแม้กระทั่งสามารถผนึกอเซรอธ ( Azathoth ) ไม่ให้ตื่น+ ความฝันของมันก็ไม่ให้ส่งผลกับโลกด้วย (เทพจัด)


            

     

                    ก็จบลงเพียงเท่านี้ ก็ไม่รู้ถูกใจหลายคนหรือเปล่า เพราะการ์ตูนญี่ปุ่นไม่ได้มีไอเท็มอะไรเวอร์ๆ เท่าไหร่ เพราะหากเวอร์มากเกินไปสเกลเรื่องก็จะพังไปด้วย ส่วนใหญ่จะเน้นแบบพัฒนาความแข็งแกร่งแบบช้าๆ ให้คนดูเริ่มรับได้มากกว่า  หรือไม่ก็มีพลังที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ได้เน้นพลังทำลาย เน้นไปทางการนำมาใช้ประโยชน์ให้เหมาะสถานการณ์มากกว่า  ส่วนหุ่น หากโกงมาก ก็จะกลายเป็นโม้มาก (พวกมาชิก้า หรือเก็ตเตอร์ก็มักโดนคนล้อบ่อยๆ นั้นแหละ) ดังนั้นความสนุกของการ์ตูน ไม่ได้อยู่ที่ไอเท็มไหนเก่งหรือไม่เก่ง มันอยู่ที่การดำเนินเนื้อเรื่องมากกว่า

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×