คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #431 : โลลิน่ารักก็จริง แต่เชื่อเถอะเธอเป็นผู้นำที่หลายคนไม่อยากจะเจอ และไม่อยากเป็นลูกน้องด้วย!?
ซีซั่นนี้ มีอนิเมะที่ผมติดตามอย่างใกลชิด ก็คือเรื่อง Youjo Senki (หรือชื่ออังหฤษคือ Saga of Tanya the Evil-วีรกรรมของทันย่าผู้ชั่วร้าย) ซึ่งเป็นอนิเมะจากนวนิยาย (ที่เล่มหนึ่งโครตหนา) ผู้ใช้นามปากกาว่า Carlo Zen และวาดภาพประกอบโดย Shinobu Shinotsuki ตีพิมพ์เป็นฉบับรวมเล่มภายใต้เครือของ Enterbrain ครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมปี 2013 จนถึงปัจจุบันออกมาแล้ว 7 เล่มด้วยกัน (ตอนที่เขียนบทความนี้)
นอกจากนี้ Youjo Senki ยังถูกนำมาเขียนเป็นต้นฉบับมังงะที่วาดโดย Chika Toujou จนกระทั่งผลงานเรื่องนี้ได้ถูกนำมาสร้างเป็นอนิเมชั่นทีวีซี่รี่ส์โดยได้ทางสตูดิโอ NUT เป็นผู้อำนวยการสร้าง ออกฉายครั้งแรกในวันที่ 6 มกราคมปี 2017
แน่นอนว่าอนิเมะอาจเนื้อหาไม่เต็มร้อยเท่านิยาย แต่ถึงอย่างนั้นอนิเมะก็ทำให้ผมสนใจนิยายเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะปกติแล้วผมไม่อ่านนิยายที่ธีมเป็นแนวสงครามโลก (ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรก หรือครั้งที่สอง) แต่หลังได้ดูอนิเมะผมก็ถูกใจตัวละครอย่างทาเนีย เดอกูเรเชฟฟ์ (บางคนเรียก ทันย่า) แน่นอนว่าเรื่องรูปร่างหน้าตานั้นเป็นส่วนหนึ่ง แต่ส่วนที่สนุก
โดยเนื้อหาเรื่องราว Youjo Senki เกิดที่ต่างโลก แต่โลกที่ว่าไม่ใช่แฟนตาซี หรือโลกยุคกลางอย่างที่หลายคนคิดๆ กันหากแต่เป็นโลกที่เทคโนโลยีเหมือนสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่กำลังเกิดสงคราม (ซึ่งมันก็คล้ายๆ สงครามโลกครั้งที่ 1) รัฐที่เรียกว่าฝ่ายจักรวรรดิ (The Imperial) เป็นรัฐที่ขนาดใหญ่ อุดมไปด้วยทรัพยากรและบุคคล (เอาง่ายๆ เหมือนเยอรมนี สงครามโลกครั้งที่ 1 เพียงแต่คราวนี้ไม่ได้รุกรานใครเฉยๆ ) กำลังถูกรัฐเพื่อนบ้านที่อยู่รอบข้าง (ที่คล้ายๆ กับประเทศยุโรปในสงครามโลกครั้งที่ 1) รอบทิศรุมโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทำให้สงครามชายแดนดุเดือด ผู้คนล้มตายไปจำนวนมาก
แม้ว่าฝ่ายจักรวรรดิจะโดนประเทศรอบข้างรุกรานแบบไม่ให้พักหายใจ แต่ท่ามกลางสงคราม ก็ได้มีวีรสตรีคนหนึ่งชื่อทาเนีย เดอกูเรเชฟฟ์เด็กผู้หญิงตัวเล็กอายุเพียง 9 ปี ไต่ตำแหน่งในกองทัพไปตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 15 จนได้เป็นหน่วยจอมเวทย์เวหาแห่งจักรวรรดิ (Imperial Army Aerial Sorcerer) ที่ได้เข้าร่วมรบในสงคราม แนวหน้าจนสามารถสร้างผลงานเอาชนะหลายครั้ง
แม้ว่าภายนอกของทาเนียจะเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ทว่าเนื้อในแท้จริงแล้ว ตัวจริงของทาเนียก็คือ “คุณลุง” ที่เป็นมนุษย์เงินเดือนที่เป็นหัวหน้าแผนกในบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ที่ตัวเขานั้นเป็น “มนุษย์เงินเดือน” ของแท้ คือเป็นพวกที่ทำตามตรรกะ ไม่สนเรื่องจิตใจของคนอื่น ทำทุกอย่างเพื่อองค์กร และนั้นเป็นเหตุทำให้ลูกน้องคนหนึ่งที่เจ็บแค้นจากการถูกเขาไล่ออก มาล้างแค้นด้วยการผลักให้ตกไปบนรางรถไฟจนถูกรถไฟทับตาย ไปในที่สุด
จากนั้นวิญญาณของมนุษย์เงินดือนก็ได้ พบกับ “พระเจ้า” ที่มีหน้าที่ส่งวิญญาณไปเกิดใหม่ หากแต่พนักงานเงินเดือนคนนั้นไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าและปีศาจ ซ้ำยังดูถูก ทำให้พระเจ้าโกรธ จึงส่งวิญญาณเขาไปกำเนิดใหม่เป็นเด็กผู้หญิงในโลกยุคสงคราม เพื่อสั่งสอนเขาให้รู้ซึ้งว่าโลกโหดร้ายเป็นยังไง
เมื่อมนุษย์เงินเดือนไปเกิดใหม่ เขาก็พบว่าตนเองกลายเป็นเด็กผู้หญิงที่ถูกตั้งชื่อว่า “ทาเนีย” (ทันย่า) เธอเป็นเด็กกำพร้า ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ยากจน อีกทั้งประเทศที่เธออยู่ก็เต็มไปด้วยสงครามรอบด้าน ทาเนียเริ่มเข้าใจว่าหากไม่ทำอะไรสักอย่าง เธอจะไม่มีชีวิตรอดจนแก่เฒ่าแน่
ต่อมาทันย่าพบว่าตนเองมีพลังเวทย์มากกว่าคนธรรมดาทั่วไป ถึงจึงสมัครเป็นทหาร เพราะเป็นอาชีพที่มั่นคง ได้รับความนิยม เหมาะแก่การเจริญก้าวหน้า อีกทั้งยังเป็นอาชีพที่เหมาะกับนิสัยของเขา คือ เลือดเย็น, ทำทุกอย่างเพื่อองค์กร หากทำตามคำสั่ง หรือสร้างความดีความชอบ ก็จะได้ตำแหน่งสบายๆ แต่กลายเป็นว่ายิ่งสร้างผลงาน ผลออกมามันดีเกินกว่าจะให้มานั่งทำงานบนโต๊ะเฉยๆ ทำให้หลายฝ่ายเห็นว่าสมควรเป็นแนวหน้าสนามรบซะงั้น
ครับ อย่างที่บอกเอาไว้ Youjo Senki คือหนึ่งอนิเมะที่หลายคนติดตามในซีซั่นนี้ หลายคนเรียกเรื่องนี้แบบจำง่ายๆ ว่านาซีโลลิ ทั้งๆ ที่จริงแล้วในเรื่องไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับนาซีเลยแม้แต่น้อย เพราะเนื้อหาอิงมาจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ส่วนตรากางเขนที่เป็นเครื่องแบบทหารนั้นไม่ได้เป็นตรสวัสดิกะของนาซี แต่เป็นตรากางเขนเหล็กที่มีมานาน (ก่อนนาซีด้วยซ้ำ) แถมปัจจุบันตรานี้ยังเอามาเป็นเหรียญกล้าหาญอยู่
Youjo Senki ก็เป็นหนึ่งในนิยายที่ทำให้หลายคนเปลี่ยนความคิดกับแนวต่างโลกพอสมควร ที่ไม่ได้มุ่งอยู่แต่สูตรเดิมๆ เหมือนในปัจจุบันหากเราจะพูดแนวต่างโลก มักพูดถึงโลกที่พระเอกเกิดใหม่เป็นโลกแฟนตาซี ยุคกลางมาโดยตลอด พระเอกก็ออกมาแบบแบนๆ เก่งโครตเวอร์ เพราะพระเจ้าเอาใจสารพัดให้สกิลโกงตั้งแต่ต้นๆ วนเวียนกับการเก็บเลเวล ลงดัน ตารางสกิลบ้าบอ (ที่ไม่รู้จะจำไปเพื่ออะไร) แม้ว่าช่วงหลังๆ จะเปลี่ยนให้ตัวเอกเกิดใหม่เป็นสิ่งไม่ใช่คนมากขึ้นเยอะมากขึ้น แต่พล็อตโดยรวมก็ยังไม่ไปไหน คือดำเนินเรื่องเรื่อยๆ อยู่ดี
หากแต่เรื่องนี้ Youjo Senki ตรงกันข้ามเพราะเนื้อหาเป็นยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 และเป็นแนวเน้นการสู้รบทางการทหาร พวกเครื่องแบบทหาร แถมพระเอก (ที่เป็นตาลุง) เกิดใหม่ในร่างของเด็กสาวตัวเล็กๆ อีกต่างหาก นิสัยของพระเอก (หรือนางเอก) ออกไปทางเทาๆ (ไม่ดาร์กมาก) ที่พยายามสร้างผลงานในสนามรบ แตกต่างจากพระเอกแนวเดียวกันที่พระเอกเน้นซิว ทำให้เนื้อเรื่องแปลกใหม่ น่าสนใจ น่าติดตาม กว่านิยายต่างโลกแนวอื่นๆ (แต่บางเรื่องผมโครตชอบนะ อย่าง อ่านมังงะออกก็เทพแล้ว)
แน่นอนว่าเนื้อหาของนิยายจะอิงจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ดังนั้นสิ่งที่เราจำเป็นต้องเข้าใจเนื้อหามังงะ, นิยาย, อนิเมะให้ถ่องแท้จะต้องเข้าใจในสงครามโลกครั้งที่ 1 เพราะในเนื้อหาเต็มไปด้วยศัพท์ทางการทหาร อาวุธอุปกรณ์เครื่องสงคราม สถานการณ์การรบชายแดน ฯลฯ ซึ่งมันจะชอบตอบคำถามอะไรมากมายที่สงสัยในเรื่องนี้ได้ (เช่น ทำไมไม่มีรถถัง, ทำไมไม่มีเครื่องบินรถ, ทำไมบางประเทศทหารกระจอกง่อกงอยเหมือนหลงยุคมา สิ่งเหล่านี้สามารถอธิบายได้หากเข้าใจสงครามโลกครั้งที่ 1 ) ซึ่งก็โชคดีที่หลังจากที่เกม Battlefield 1 ออกมา ทำให้กระแสความชื่นชอบสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอะมาขึ้น (ส่วน เกม Call of Duty ภาคใหม่ ดันทำสงครามอวกาศ ที่คนกำลังเบื่อแนวๆ นี้กัน เลยเจ๊งกันถ้วนหน้า สมน้ำหน้า) ทำให้มีหลายคนที่อินกับเกทไปศึกษาสงครามโลกครั้งที่ 1 ต่อ ทำให้พอทราบเรื่องเหล่านี้บ้าง (อย่างผมเอง ผมก็ไม่ได้สนใจสงครามโลกครั้งที่ 1 เลย รู้แต่ว่าเป็นสงครามเยอรมันกับอังกฤษ ผลคือเยอรมันแพ้ แต่พอเกมออกมานี้ ผมเริ่มสนใจที่จะไปอ่านสงครามโลกครั้งที่ 1 ใหม่เลย และพบกับหลายเรื่องที่ไม่รู้เยอะมาก)
ใครสนใจจะรู้สงครามโลกครั้งที่ 1 แบบง่ายๆ ก็ดูที่เว็บด้านล่างครับ
https://www.youtube.com/watch?v=iNLqDACRHUk&t=691s
หากจะเล่าย่อๆ สงครามโลกครั้งที่ 1 หลายคนอาจจะบอกว่าน่าเบื่อ เพราะมันรบๆ กันสนามเพลาะ ต่างผ่านต่างจ้องกันไม่ยอมทำอะไร จนสงครามจบ หากแต่น้อยคนไม่รู้ว่าความจริงแล้วสงครามโลกครั้งที่ 1 ไม่ได้รบเฉพาะชายแดนฝรั่งเศส-เยอรมัน (ที่เป็นสงครามสนามเพลาะ เอากันไม่ลงนั้นเอง ) มันยังรุกรามไปทั่วยุโรป และนอกยุโรปอีก
ที่ควรจดจำในสงครามโลกครั้งที่ 1 คือ สงครามนี้เทคโนโลยีสงครามยังเป็นของใหม่อยู่ ไม่ว่าจะเป็น เรือดำน้ำยังเป็นของใหม่ รถถังก็ยังเป็นของใหม่ เครื่องบินก็เป็นของใหม่ แม้หลายอย่างจะเป็นของใหม่ แต่มันก็เพียงพอที่ทำให้สงครามครั้งนี้จะมีคนทั้งสองฝ่ายต้องตายมากมาย จนกลายเป็นหน้าหนึ่งอันเลวร้ายในประวัติศาสตร์บทหนึ่งของมนุษย์ชาติ
การรบของต่างโลก Youjo Senki นั้น คล้ายๆ กับสงครามโลกครั้งที่ 1 มีปืนใหญ่ มีปืนไรเฟิล มีสนามเพลาะ เพียงแต่สิ่งที่แตกต่างจากโลกของเราคือ สงครามต่างโลก มีคนเหาะลอยได้ ใช้ปืนเวทมนต์ที่พลังอำนาจทำลายสูง โดยพวกเขาเรียกว่า “จอมเวทย์” ที่ใช้พลังเวทย์มนต์ที่มีตั้งแต่กำเนิดมาผสานกับเทคโนโลยีทางการทหาร ทำให้กลายเป็นทหารที่เก่งกาจ เก่งกว่าคนทั่วไป สามารถทำภารกิจหลายอย่าง เช่น สอดแนมศัตรู ยิงปืนทำลายฝูงข้าศึก (พลังอำนาจมากกว่าปืนใหญ่ธรรมดา) ทำให้เป็นกำลังสำคัญที่ขาดไม่ได้สนามรบ (แม้ในยุคนั้นมีเครื่องบิน แต่ก็ไม่ได้ทันสมัยมากนัก)
อย่างไรก็ตาม สำหรับพระเอกแล้ว คิดว่ามันไม่พอ เพราะจอมเวทย์ตอนแรกๆ มีหน้าที่แค่เคลียร์พื้นที่ ทำลายข้าศึกจำนวนมาก, ทำลายปืนใหญ่, สอดแนม มันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้ พระเอกเลยเสนอความคิดเน้นคุณภาพและปฏิบัติหน้าที่หลากหลายขึ้น (หรือเรียกว่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ที่ใช้ยึดจุดยุทธ์ศาสตร์ ไปจนถึงการทำลายฐานที่มั่นหรือสถานที่สำคัญของข้าศึก ซึ่งมีเป็นหน่วยสำคัญ ที่พึ่งมีมาในสงครามโลกครั้งที่ 2) และนั้นทำให้พวกผู้ใหญ่เลือกพระเอกหัวหน้า และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
ความสนุกของเรื่องนี้ อยู่ที่เป็น แนวต่างโลกที่แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นธีมสงครามโลกครั้งที่ 1, มีทั้งแอ็คชั่น (กลางเวหา) ที่สนุกเร้าใจ, สงครามที่โหดร้าย, กลยุทธ์, การเมือง การวางแผน ทุกสิ่งที่แนวนี้ควรมี ก็จัดไปเต็มสูบ ส่วนประเด็นดราม่าปวดตับ (เช่น ฉากตัวละครที่เรารักตาย หรือฉากกระทำย่ำยีเลวร้ายต่างๆ) แทบไม่มีทำให้พอรับได้ สำหรับคนที่กังวลเรื่องแบบนี้ในแนวสงคราม
การดูเรื่องราวของพระเอกก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างสนุก เพราะพระเอก (ในร่างของโลลิ) นั้นค่อนข้างแตกต่างจากแนวต่างโลกอื่นๆ ที่ไม่เป็นที่รักของพระเจ้าเลย (แต่ก็ยังอุตส่าห์ยัดสกิลโกงมาให้) การไต่เต้าของพระเอกจากเด็กกำพร้าสู่ในนายทหารระดับสูงโดยการสร้างวีรกรรมในสนามรบที่ทำได้น่าตื่นตาตื่นใจพอสมควร ที่ไม่ได้ซิวๆ เหมือนพระเอกแนวต่างโลกเรตื่องอื่นๆ
นอกจากนี้ พระเอกเรื่องนี้ออกไปทางเทาๆ ที่ไม่ได้เป็นที่รักของพระเจ้า (แต่ก็มีพลังโกง) การกระทำบางครั้งก็ดูโหดร้าย แต่คนดูรับได้ แถมยังชอบเธอด้วยช้ำ เพราะความน่ารักแบบโลลิ รอยยิ้มที่มีเสน่ห์?
(ใครที่หวังจะมีฉากรักๆ ปักธง ก็ขอให้ทำใจว่าไม่มี และส่วนตัวผมก็ไม่อยากให้พระเอกมีคนรักหรอก)
อย่างไรก็ตาม แม้พระเอกจะน่ารัก และรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยนิสัยของพระเอก.... ที่ค่อนข้างน่าสนใจ จนคอลัมห์ มหัศจรรย์การ์ตูนมติชานวันอาทิตย์ (ฉบับที่เท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว) ได้เขียนเอาไว้ว่า ความเป็นที่นำของพระเอกเรื่องนี้มันเป็นผู้นำที่ทำให้ทำให้ที่ทำงานไม่มีความสุขเลย จนเป็นที่มาของหัวข้อบทความนี้ว่า โลลิน่ารักก็จริง แต่เชื่อเถอะเธอเป็นผู้นำที่หลายคนไม่อยากจะเจอ และไม่อยากเป็นลูกน้องด้วย!?
สำหรับบทความนี้ผมเน้นเนื้อหาในอนิเมะ แม้ว่ามังงะผมจะดูบ้าง แต่ก็ดูไม่ละเอียด และยังไม่ได้อ่านนิยายเลย หากผิดพลาดตรงไหน ขออภัยมา ณ ที่นี้
เห็นได้ชัด ว่าทาเนีย (ขอเรียกเธอแบบนี้นะครับ แม้บางคนเรียกทันย่าก็ตาม) เป็นหัวหน้าที่เราๆ ไม่อยากจะเจอในชีวิตมากนัก คนไทยอย่างเราเรียกว่า “หัวหน้าบ้าอำนาจ” , “จอมบงการ” แม้ความจริงแล้วทาเนียก็มีอะไรบางอย่างที่ดีกว่า หัวหน้าบ้าอำนาจ ค่อนข้างเยอะ ดังนั้นน่าจะเรียก “หัวหน้าสายโหด” มากกว่า ซึ่งเป็นผู้นำที่คนไทยอย่างเราไม่อยากจะเจอที่สุด
เอาง่ายๆ เรามักมีดราม่าประจำ เวลาไปทหาร หรือเป็นพนักงานบริษัท เรามักมีดราม่ากับเจ้านายสายโหด ที่ชอบสั่ง หรือหากทำผิดอะไรนิดหน่อยๆ ก็ชอบลงโทษหนัก หรือมักโยนงานยากๆ ซึ่งแน่นอนว่าเรามักมองว่าเป็นหัวหน้าที่ไม่อยากจะเจอ เพราะเป็นหัวหน้าที่สร้างความเครียดกับเราง่ายๆ
สมัยที่ทาเนีย เป็นมนุษย์เงินเดือนนั้น เขาเป็นมนุษย์ที่สนแต่เรื่องตรรกะ ทำงานยังไงให้องค์กรของตนเจริฯก้าวหน้า โดยไม่สนจิตใจของคนอื่น ไม่เยแส ไม่อ่อนไหว หากเห็นว่าใครที่บกพร่องการงาน เช่น ใครที่ออกจากงาน เขาก็ไล่ออกแบบไร้เยื่อใย โดยไม่สนว่าคนนั้นจะมีเหตุผลจำเป็นอะไรก็ตาม หรือว่ามีลูกเมีย ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้องค์กรมีประสิทธิภาพ มีบุคลากรดี และการที่จะทำแบบนี้ได้คือต้องกฎ ทำการเกณฑ์ที่กำหนดไว้
ถ้าเราเป็นคนไทยแล้วรู้สึกค่อนข้างแปลกใจ เพราะปกติแล้วเรามักคุ้นเคยกับการทำงานแบบพี่แบบน้องมากกว่า แต่มันเป็นปกติของมนุษย์เงินเดือนชั้นนำของญี่ปุ่น ที่มีหัวหน้าแผนกแบบทาเนียอยู่ค่อนข้างมาก
แม้ว่ามนุษย์เงินเดือนจะไม่เชื่อเรื่องพระเจ้า แต่อย่าลืมว่ามันมีเรื่องของกฎแห่งกรรม ว่าเราทำอะไรไว้ ก็ได้รับผลตอบแทน หากเราสร้างความเกลียดชังก็จะเป็นการสร้างศัตรูขึ้นมา นั้นคือมนุษย์เงินเดือนไล่คนออก ด้วยเหตุผลเล็กน้อย ผลคือคนที่ถูกไล่ออกเจ็บแค้น และผลสุดท้ายคนที่เจ็บแค้นก็ฆ่ามนุษย์เงินเดือนด้วยการผลักรางรถไฟ ให้รถไฟชนตายไปในที่สุด
อย่างไรก็ตาม มนุษย์เงินเดือนหาได้สำนึกสิ่งที่ตนทำไม่ อาจเป็นเพราะเขามีอีโก้สูง มันไม่เป็นไปตามตรรกะที่เขาคิดเอาไว้ แม้จะเกิดใหม่ เขาก็โทษพระเจ้า (ตัวตน X) และใช้ชีวิต พยายามทำตามแบบของตน โดยใช้ความเป็นมนุษย์เงินเดือนเข้ามาเป็นทหาร ซึ่งก็ไม่ได้เกิดจากการรักชาติ แต่เพียงเหตุผลเพราะว่ามันเป็นงานที่มั่นคงในโลกนี้ ที่สามารถอยู่จนแก่เฒ่าแบบสบายๆ ได้
การเป็นทหารของทาเนียไม่ได้ลำบากอะไรมากนัก บางทีการเป็นทหารอาจเหมาะกับมนุษย์เงินเดือนอย่างเขาก็ได้ คือการเชื่อฟังคนที่มีอำนาจมากกว่า หากปฏิบัติตามคำสั่ง ทำงานดี สร้างผลงาน ก็เลื่อนขั้น รวมไปถึงการใช้อำนาจกับลูกน้องที่มีอำนาจต่ำกว่า การลงโทษคนที่ขัดคำสั่ง ก็ยิ่งเหมาะสำหรับนิสัยของมนุษย์เงินเดือน
ในอนิเมะตอนหนึ่ง ที่เปิดตัวทาเนีย กำลังทำสงครามกับฝ่ายข้าศึกอยู่นั้น ระหว่างที่ทาเนียกำลังทำภารกิจร่วมกับลูกน้องอยู่นั้น ก็มีลูกน้องสองขัดคำสั่งของทาเนีย และทำงานเกินหน้าที่ แม้ว่าสิ่งที่นายทหารทั้งสองนั้นทำจะเป็นสิ่งที่ดีก็ได้ แต่ทาเนียมองว่าเป็นสิ่งที่อาจทำให้องค์กรเสีย และทำให้ตนสูญเสียอำนาจสั่งการ และนั้นทำให้ทาเนียลงโทษนายทหารทั้งสองนั้น พร้อมกับการกำจัดทางอ้อมด้วย (อาจมีบทเรียนจากสมัยตอนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน)
บางทีเราก็ต้องเข้าใจทาเนีย เพราะเนื่องด้วยชิตนี้เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารัก ต้องมาอยู่ท่ามกลางผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่าเป็นเรื่องลำบาก แม้จะมียศสูงกว่าแต่ก็ไม่ทำให้หลายคนกลัว ทาเนียจำเป็นต้องใช้อำนาจ ใช้ความหวาดกลัวเพื่อเชื่อฟัง หรือการลงโทษให้คนรอบข้างเห็นว่าเธอเอาจริง สามารถกลับมาควบคุมคนอื่นได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเข้าใจกันดี
ถ้ามองละเอียดมากกว่านี้ ก็จะเห็นนิสัยต่างๆ มากมายของทาเนีย คือเป็นพวกยอมรับว่าไม่ได้อัจฉริยะอะไร แต่รู้จักเรื่องของเส้นสายและสังคมดี พยายามทำตัวให้เข้ากับสังคมและสร้างสัมพันธ์คนใหญ่คนโต ด้วยการสร้างผลงาน รวมไปถึงการปฏิบัติตามคำสั่ง เขาสั่งอะไรก็จะทำ แม้จะฆ่าคนก็ตาม จึงไม่แปลกที่จะเห็นทาเนียอายุ 9 ขวบฆ่าคนอย่างเลือดเย็น โดยไม่รู้สึกใดๆ เพราะคิดว่ามันเป็นเพียงหน้าที่
นอกจากนี้ทาเนียห่วงตนเองมากกว่าห่วงคนอื่น เป็นพวกวันแมนโชว์ แม้จะนอบน้อมพวกคนใหญ่คนโต แต่พวกยศต่ำกว่าเธอ เธอจะใช้อำนาจ หากทำอะไรขัดความรู้สึกเธอก็จะลงโทษหนัก อีกทั้งยังชอบฝึกลูกน้องแบบไร้ศีลธรรม ชอบล้างสมองลูกน้องให้เน้นเรื่องชาตินิยมมากกว่าจะเน้นเรื่องศีลธรรมจิตใจ แม้มีบางครั้งที่เธอจะปกป้องลูกน้อง ช่วยเหลือลูกน้องบ้าง แต่ไม่ใช่เพราะรัก แต่เพราะกลัวเสียภาพพจน์
แม้ว่าทาเนียจะมีความสามารถ แต่เธอคงจะอยู่ระดับแค่พลทหาร เพราะส่วนตัวเธอเหมาะระดับพนักงานเงินเดือน ทำให้เป็นการยากที่จะเห็นทาเนียในตำแหน่งสูงๆ ในแนวหลัง หรือเป็นใหญ่เป็นโต ยศสูงสุด เพราะเธอเหมาะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของคนใหญ่คนโตอีกทีมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ทาเนียจะมีส่วนดีของการเป็นผู้นำอยู่บ้าง เพราะไม่ได้แยกเรื่องานและเรื่องส่วนตัว สามารถปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ ทำให้เป็นบุคคลชั้นดีขององค์กร นอกจากนี้เวลาอยู่แนวหน้าก็เป็นผู้นำที่รบได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ เป็นตัวอย่างให้ลูกน้อง ไม่ได้เก่งแต่ปาก เธออยู่แถวหน้า ทำการรบศัตรูแบบเสี่ยงชีวิตมากกว่า นอกจากนี้ แม้ว่าจะส่งงานยากๆ ให้ลูกน้องทำ แต่ก็ช่วยให้พัฒนาความสามารถลูกน้องได้อย่างรวดเร็ว
มีอยู่ตอนหนึ่ง ที่ทาเนียฝึกลูกน้องเพื่อหน่วยปฏิบัติการใหม่ ตอนแรกเธอพยายามแตะถ่วง พยายามฝึกหนักแบบไร้จิตสำนึกเพื่อให้ล้มเลิกการฝึก แต่กลายเป็นว่ามีลูกน้องหลายคนที่ผ่านการทดสอบ และการเป็นทหารที่มีฝีมือไป ซึ่งมันก็คล้ายๆ กับการฝึกของหน่วยซิล ยิ่งช่วงทาเนียพูดหลังจบพิธีฝึกว่า “พวกคุณก็เหมือนพี่น้อง” ยิ่งเหมือนเข้าไปใหญ่ แสดงให้เห็นว่าทาเนียเป็นคนที่ใช้วิธีการฝึกที่ไม่มีในต่างโลก (เพราะสมัยก่อนยังไม่มีการฝึกเข้มข้นแบบนี้ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นการฝึกที่เน้นจำนวน มากกว่าประสิทธิภาพ) เป็นคนที่เอาความรู้โลกเดิมมาปรับปรุงให้เหมาะกับต่างโลกให้ดียิ่งขึ้น
แม้ว่าทาเนียจะไม่ชอบลูกน้องที่ขัดคำสั่ง แต่เธอชอบให้ลูกน้องคิดแบบนอกตำรา ไม่ยึดติดแบบแผน เธอจะหัวเสียมากที่ลูกน้องรบตามตำรา และคิดเองไม่เป็น
คำถามคือทำไมยังคงมีลูกน้องที่ชื่นชอบทาเนีย (โดยเฉพาะนางรอง) คำตอบนี้ถ้าให้เดา ลึกๆ แม้ว่าบางคนไม่ชอบความเป็นเผด็จการของทาเนีย แต่ลึกๆ ใจของพวกเขาเชื่อมั่นผู้นำอย่างทาเนีย เพราะอย่างน้อย เธอเป็นคนเก่งจริง มีความกล้าหาญในสนามรบ บางคนเชื่อว่า หากให้เธอเป็นผู้นำพวกเขาสามารถรอดชีวิตในสงครามที่เลวร้ายได้ ประกอบกับพวกเขาเชื่อว่าการให้เธอเป็นหัวหน้าอาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ก็ได้
อย่างน้อยก็ยังดีกว่าการเป็นลูกน้องของหัวหน้าที่ไม่ได้เรื่อง ดีกว่าสั่งละกัน
ดังนั้น ใครที่บอกว่าโลลินาซี หรือนิสัยทาเนียเหมือนฮิตเลอร์ ก็ขอให้คิดใหม่นะครับ อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้ ต่างโลกเป็นธีมสงครามโลกครั้งที่ 1 ไม่ใช่ครั้งที่ 2 อีกทั้งไม่มีเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เลย
นอกจากนี้ทาเนียไม่เหมือนฮิตเลอร์อย่างที่หลายคนคิด ฮิตเลอร์เป็นผู้นำสูงสุดที่มีแนวคิดที่สุดโด่ง แต่ทาเนียนั้นเป็นทั้งนักพูดและนักปฏิบัติที่สิ่งที่เธอพูด นโยบายต่างๆ เธอสามารถทำได้จริง อีกทั้งความฝันของทาเนียเธอไม่ได้อยากเป็นผู้นำสูงสุด ความฝันของเธอก็เพียงแค่อยากนั่งโต๊ะตีพุงสบายๆ แบบมนุษย์เงินเดือนเท่านั้นเอง ไม่ได้หวังอะไรใหญ่โตอะไรมากมาย
สรุปแล้วทาเนียเป็นบุคลากรที่องค์กรใหญ่ชอบมาก เพราะนำสิ่งดีๆ เข้าสู่องค์กร ทำให้องค์กรอยู่รอดปลอดภัย และยังเจริญรุ่งเรือง แต่สำหรับหลายคน (ที่มียศต่ำกว่า) แล้วก็คงไม่อยากให้เธอนำสักเท่าไหร่นักเพราะเธอฝึกแบบโหด (คนรักสบาย คนที่มีความคิดเห็นตรงกันข้าม ซึ่งคนไทยรักสงบอย่างเราก็คงไม่ชอบ) และยัดแนวคิดการล้างสมอง การรักพวกพ้อง (เป็นอีกหนึ่งความคิดที่คนไทยไม่ชอบเลย เพราะมันเป็นบ่เกิด เล่นเส้น, คอรัปชั่น, รักเพื่อนพ้องในเชิงที่ผิดๆ)
แม้ว่าทาเนียจะมีด้านลบมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นหลายคนก็ยังชอบเธอ อาจเป็นเพราะเรื่องราวที่มีสีสัน ใบหน้าที่น่ารัก รวมไปถึงการกระทำบางอย่างของทาเนียก็ถูกใจคนดูไม่น้อย บางทีลึกๆ แล้วคนดูเองก็มีด้านมืดอย่าง บ้าอำนาจ, ความรุนแรง และความเกลียดชัง ที่อยากระบายออก ก็ในโลกที่การฆ่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง สงครามเป็นบ่เกิดให้คนบางคนสามารถไต่เค้าสู่อำนาจหากทำผลงานดี
ก็จบเพียงเท่านี้ครับ กับการพูดเรื่องราวของทาเนีย แบบไม่สปอยอะไรมากมาย แต่ทั้งนี้ สิ่งที่ผมเขียนเน้นไปทางอนิเมะมากกว่า เพราะตอนที่เขียนอยู่นั้นผมก็ยังไม่ได้อ่านนิยาย และมังงะก็อ่านงูๆ ปลาๆ ซึ่งก็หวังว่าจะซื้อนิยายมาอ่านเร็วๆ นี้ครับ
ความคิดเห็น