คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #426 : สรุปอนิเมะและมังงะแห่งปี 2016 โดย Cammy
บทความนี้ จะขอเรื่องความรู้สึกของอนิเมะและมังงะ ปี 2016 ที่ดูแบบแมวๆ (คือดูผ่านๆ) เหมือนเช่นเคย ซึ่งมันเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมเอง ดังนั้นอาจไม่ถูกใจสำหรับใครบางคน ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้แล้ว
ตอนนี้เขียนบทความนี้ อีกไม่กี่วัน ก็จะสิ้นสุดปี 2016 และขึ้นปีใหม่ เป็นปี 2017
อย่างไรก็ตาม แม้จะขึ้นปี 2017 แต่โลกเราก็ไม่ได้สงบสุขมากนัก มันยังคงเต็มไปด้วยปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตสิ่งแวดล้อม การเมืองระหว่างประเทศ สงครามกลางเมือง การก่อการร้าย จนบางคนเริ่มหวั่นๆ มันจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 แม้แต่ประเทศไทยเราก็มีข่าวเศร้าๆ มากมาย ทำให้ปีนี้เป็นปีแห่งความเศร้าก็ไม่ผิดมากนัก
สำหรับการดูการ์ตูน (ใหม่) ในปี 2016 นั้น สำหรับผมแล้ว ส่วนตัวก็ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก (หนักไปทางช็อก เกลียดชังอะไรมากกว่า) แม้ว่าปี 2016 นี้ไม่ว่าจะเป็นมังงะและอนิเมะจะมีกระแสที่คนกล่าวถึงมากมาย แต่สำหรับผมแล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะส่วนตัวผมก็ไม่ได้ดูการ์ตูนดังสักเท่าไหร่ มันจึงเป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดเหมือนกัน เวลาเจอการ์ตูนดังคนอวยว่อนในเฟซบุ๊ค หากใครเคยมีประสบการณ์เหล่านี้ คุณจะย่อมเข้าใจ
ขอเริ่มจากอนิเมะ (ขอไม่นับอนิเมะช่วงปลายปี 2016-2017)ถ้าถามภาพรวมอนิเมะแห่งปี 2016 สำหรับผมแล้ว ก็น่าจะช่วงเวลาที่พอใช้ เพราะอย่างน้อยแต่ละซีซั่นก็มีอนิเมะที่ผมติดตามอยู่บ้าง แต่ถ้าถามช่วงไหนดีสุด ก็คงเป็นช่วงปลายปี 2015-2016 และช่วง Summer 2016 แม้ว่ามีอนิเมะหลายเรื่องที่เป็นกระแส (อวย) แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงไม่มีอนิเมะที่เป็นตำนาน
อย่างไรก็ตาม อนิเมะปี 2016 นั้นมีอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ นั่นคือ อนิเมะเริ่มที่เจาะจงเฉพาะกลุ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอนิเมะแนวไอดอล อนิเมะแนวจิ้นของสาววาย และหลายเรื่องก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง
นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับความรู้สึกหลังคนดูอนิเมะจนเป็นกระแสด้วย เช่น ซาโดชิไม่ได้แชมป์เรียกสร้างความเซ็งไปทั่วโลก ไปจนถึงกระแสอวยเร็น จนกลายเป็นไวฟุใหม่สำหรับใครหลายคนไปแล้ว
อนิเมะน่าแนะนำปี 2016 -Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku wo
เรื่องราวของนีทคนหนึ่งชื่อ ซาโต้ คาซึมะ เป็นเด็กติดเกมที่เก็บตัวอยู่บ้าน ตายลงอย่างกะทันหันด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทว่า เทพธิดาองค์หนึ่งผู้มีชื่อว่าอควอชวนให้ไปเกินใหม่ในโลกแฟนตาซีแทนที่จะไปสวรรค์ (เพราะสวรรค์มันโครตน่าเบื่อ) ด้วยความกวนทีนของเทพธิดา คาซึมะไปต่างโลกด้วย แต่กลายเป็นว่าเป็นเทพที่โครตไร้ประโยชน์สิ้นดี
เป็นอนิเมะที่แปลกสักหน่อย ปกตินี้อนิเมะจากนิยายเน็ต จะต้องมีองค์ประกอบสำคัญที่ต้องประสบความสำเร็จ คือภาพตัวละคร, กราฟฟิก, เนื้อหาเก็บรายละเอียดจากต้นฉบับได้ และที่สำคัญคือความสนุก และมันแปลกตรงที่เรื่องนี้โครตจะเผาเลย ภาพตัวละครออกแบบบิดเบี้ยว หน้าตาไม่ได้เรื่องหลายฉาก ฉากเซอร์วิสก็เหมือนก้อนเนื้อขยะแขยงอะไรมากกว่า ที่สำคัญเทพอควอเขาใส่กางเกงในสีฟ้าขาวลายทาง แต่ตัวอนิเมะกลับทำเหมือนอควอไม่ใส่กางเกงใน (นี้ไม่นับกางเกงในเมกุมินความจริงสีขาว ไม่ใช่สีดำอีก)
แม้จะมีจุดติดหลายแห่ง แต่ด้วยเนื้อหาที่ทำตรงกับรายละเอียดในนิยายมาช่วยกลลบเอาไว้ (แม้ว่ามันจะตัดเนื้อหาบางช่วงออกก็ตาม) และความสนุก-ตลกตามสไตล์แนวต่างโลก ที่ขายความอนาถ และทำตรงกันข้ามกับแนวนี้ บวกกับตัวละครที่มีเสน่ห์ โดดเด่น ยิงมุกใส่กัน ไปมา ก็ทำให้เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างเกินคาด พร้อมกับการมาถึงนิยายเน็ตฮาเร็มที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น พร้อมกับนิยายแนวเดียวกันจะตามมาอีกในอนาคต
แน่นอน เมื่อเกมประสบความสำเร็จแบบคาดไม่ถึง ซีซั่น 2 ก็ตามมา และฉายปลายปี 2016 ซึ่งก็ดูต่อไปว่ามันจะประสาบความสำเร็จเหมือนภาคแรกหรือเปล่า
'
อนิเมะน่าแนะนำปี 2016 - Danganronpa 3:– Mirai-hen และ Zetsubou-hen
หนึ่งในการ์ตูนจากเกมที่ผมติดตามชนิดติดขอบสนาม แม้ว่าเกมนี้ผมจะไม่เคยเล่น แต่ก็ได้ศึกษา อ่านเนื้อเรื่องจึงก็ทำความเข้าใจได้ และพบว่าเป็นเรื่องที่สนุกและน่าติดตามมาก รวมไปถึงตัวละครที่มีเสน่ห์ น่าอวย การจิ้นมากมาย ไม่แปลกเลยที่มีกลุ่มเล็กๆ ที่ชื่นชอบเรื่องนี้ จนมีพีค พอสมควร
แม้จะเป็นอนิเมะที่กระแสเงียบๆ (เห็นว่ายอดขายแผ่นไม่ดีนัก) มีกลุ่มเล็กๆ ที่ดู และพอดีผมก็เป็นกลุ่มเล็กๆ ที่ว่านั้น ที่เฝ้าการติดตาม Danganronpa 3 ว่ามันมีมีบทสรุปยังไง และเมื่อออกมา ก็พบว่ามันเป็นอนิเมะที่น่าติดตาม บทสรุป และฉากจบที่สมหวังที่คุ้มค่าในการรอคอยหลายปี
อนิเมะแบ่งออกมา 2 บท บทอนาคต และบทสิ้นหวัง (อดีต) ถ้าจะให้คะแนน บทอนาคตให้คะแนน 8 โดดเด่นตรงตัวละคร การเห็นตัวละครภาคเก่าๆ มารวมตัวกัน และบทสรุปตอนจบ และบทสิ้นหวัง (อดีต) ให้คะแนน 9.5 และทั้งสองบทนี้ออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน ที่สนุกและแปลกสำหรับอนิเมะทั่วไปก็คือคุณจะต้องดูทั้งสองบทสลับกัน จะเพิ่มความสนุกและน่าติดตามขึ้น
ถ้าจะให้แนะนำ บทอดีต เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ Danganronpa 3 เน้นแบบเนิ่บๆ ก่อนที่จะเข้มข้นในภายหลัง จากความสดใสกลายเป็นดราม่า เลือดสาด ความรุนแรง ความบ้าคลั่ง ชนิดจัดเต็ม แม้ว่างานภาพจะไม่ได้สื่ออะไรตรงๆ แต่มันก็โหดร้ายอยู่ดี
นอกจากนี้ตัวเรื่องก็ยังน่าติดตาม ประเด็น ปมต่างๆ มีให้คิดตลอด รวมไปถึงการการปรากฏตัวของตัวละครที่หลายคนคิดถึง “จุนโกะ” สุดยอดนักเรียนแห่งความสิ้นหวัง หนึ่งในตัวร้ายที่หลายคนอวย ที่นำพาความชิบหาย ความสิ้นหวัง มาสู่โรงเรียนสิ้นหวัง เรียกได้ว่ามันยิ่งใหญ่มากๆ รวมไปถึงการเติมเต็มรอยแยกของ ก่อนภาค 1 และก่อน 2 ทำให้เหล่าแฟนเกมเรื่องนี้ไม่ผิดหวังแต่อย่างใด
อนิเมะน่าแนะนำปี 2016 - Mob Psycho 100
อนิเมะจากมังงะที่ทำดีเกินคาด เรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ชื่อว่า “ม็อบ” เขามีชีวิตที่ไม่ธรรมดาเพราะว่าเขามี “พลังจิต” และเรื่องราววุ่นวายต่างๆ รอบตัวที่บีบให้เขาพลังต่อสู้
อนิเมะเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่หลายคนลุ้นแทบแย่ว่าภาพมันจะออกมาแบบไหน จะเป็น ลายเส้นโครตอินดี้ของ One แต่เมื่ออนิเมะออกมา หลายคนก็โล่งใจเปราะหนึ่ง เพราะอย่างน้อยภาพก็ออกมาดูดี ยังคงลายเส้นดีคงเดิมเอาไว้ ตัวละครหญิงในเรื่องปรับตัวน่ารักขึ้นกว่าในมังงะ (ยกเว้นสาวประธานชมรมหน้ายังเหมือนเดิมเหมือนต้นฉบับ ฮ่า)
Mob Psycho 100 มีเนื้อเรื่องของความเป็นวัยรุ่นมัธยมปลาย มากกว่าของ One-Punch Man แต่ก็ยังคงมีเรื่องการต่อสู้ที่เน้นพลังจิต ดุเด็ดเผ็ดมัน ไม่จำเป็นต้องเอฟเฟคอลังการงานสร้างแต่ใช้ สีสัน (ที่แอบฉูดฉาด หลายสี) กับมุมกล้องแปลกๆ ก็ช่วยทำให้การต่อสู้ไม่น่าเบื่อ ประกอบกับตัวละครม็อบที่ดูน่ารักบางมุม ทำให้เรื่องนี้ดูน่าสนใจกว่ามังงะด้วยซ้ำ แม้ว่ากระแสจะเงียบกว่า One-Punch Man แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ไม่ทำให้คุณติดตามเรื่องนี้แน่นอน
นอกจากนี้ ก็ยังมี 10 อนิเมะที่น่าแนะนำของปี 2016 ที่ผมไม่ได้ดูอีก น่าสังเกตคือส่วนมากจะเป็นอนิเมะจากมังงะและนิยายเสียมากกว่า ส่วนอนิเมะออริจินอลน้อยมากที่ออกมาดี ส่วนมากมักตายตอนจบ และค่อนข้างแย่ก็มี ยกตัวอย่าง Koutetsujou no Kabaneri แม้จะประสบความสำเร็จ แต่ในแง่ความรู้สึกของผู้ดูแล้ว ถือว่าไม่ผ่าน (ผมเลยไม่ให้ติดอันดับ
Yuri!!! on Ice-อนิเมะแนวสเกตลีลา ที่สาวๆ จิ้นวาย เพราะเรื่องนี้หนุ่มๆเพียบ แถมยังมีตัวละครที่เป็นคนไทย มาให้สาวไทยแซ่บอีก จนเป็นกระแสพอสมควรในบ้านเรา
Drifters-อนิเมะแนวแอ็คชั่น-สงคราม ที่มีจุดเด่นคือการเอาบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ (ทั้งนักวางแผน ขุนศึก และนักปกครอง) มายังต่างโลกและทำสงครามกัน มันเป็นอะไรที่สนุกมาก บวกกับสีหน้าของตัวละคร ผมเมื่อยหน้าทุกที เวลาเลียนแบบสีหน้าตัวละครในเรื่อง (เป็นอินเมะเดียวในอันดับที่ดูบ้าง แม้จะข้ามตอนก็เถอะ) ถือว่าเป็นอนิเมะที่ให้ความเคารพต้นฉบับมากๆ
Shonen Maid-เมดหนุ่มน้อยหัวใจกุ๊กกิ๊ก เรื่องนี้ผมไม่ได้ดู แต่นำเสนอความน่ารักของหนุ่มน้อยในชุดเมดได้ดี
Kiznaiver-เรื่องราวของเหล่าเด็กสาวที่เป็นตัวแทนของ 7 บาป ที่ถูกนำมาทดลองเพื่อสันติภาพของโลก? เป็นออริจินอลที่ค่อนข้างทำอกมาดี (แต่ผมไม่ได้ดู)
Sakamoto desu ga?-เป็นอนิเมะเดียวในอันดับที่ไม่แน่ใจว่าดีหรือไม่ดี เพราะเจอวิจารณ์ทั้งแง่บวกและแง่ลบ (บวกก็โครตบวก ลบก็ลบติดดิน) โดยเป็นเรื่องราวของซาคาโมโตะที่ทำอะไรก็โครตเท่ โครตหล่อไปหมด
Flying Witch-เรื่องราวของแม่มดสาววัย 15 ปี “โควะตะ มาโคโตะ” ที่ใช้ชีวิตร่วมกันกับเด็กหนุ่มสาวธรรมดาคู่หนึ่งในชีวิตประจำวันกับแมวน้อยคู่ใจ
Joker Game-เป็นอนิเมะแนวเกมเฉือนคม คือเป็นเรื่องราวองค์กรสายลับจากประเทศต่างๆ (ในสมัยงครามโลก) เข้าร่วมเกมสายลับ ประลองกันว่าใครเก่งกว่า
Bungou Stray Dogs -คณะประพันธกรจรจัด
Mayoiga (The Lost Village) – เป็นแนวกลุ่มคน กลุ่มหนึ่ง ที่หนีสังคมมาเพื่อมาใช้ชีวิตในหมู่บ้านร้างแห่งหนึ่ง เพื่อเปลี่ยนมันเป็นยูโทเปีย แต่ได้เจอเรื่องเหนือธรรมชาติและอดีตที่เจ็บปวดของแต่ละคน ซึ่งผมดูไม่จบ ดูไม่ไหว เห็นหลายคนบอกว่าเป็นอนิเมะโครตเมากาว ดูแล้วมึนแห่งปีเลยทีเดียว
Re:Zero kara Hajimeru Isekai Seikatsu (Life in a Different World from Zero) – เอาตรงๆ ก็คือเป็นอนิเมะที่ผมโครตเกลียดในซีซั่นนี้ก็ว่าได้ คือผมไม่ได้ดูเลย (เพราะไม่ชอบพระเอก) แต่ที่เฟสบุ๊คนี้กระหน่ำ (ทั้งสปอย อวยตัวละคร) สารพัด จนผมแทบกดซ่อนโพสไม่ทัน เป็นอนิเมะที่หลายคนพูดถึงแห่งปี รวมไปถึงการอวยตัวละครเรม ชนิดไม่ไว้น่าเกรงใจเอมิเลีย ที่เป็นนางเอกของเรื่องเลย (แทบไม่อยากจะคิดว่า ถ้าคนแต่ง ให้พระเอกจบกับเอมิเลีย มีหวังโดนนั่งยางแน่ๆ)
ระทมที่สุด-ซาโตชิไม่ได้แชมป์ลีก
หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดแห่งปี จึงมีกระแสมากมาย ก็คือซาโตชิไม่ได้แชมป์ลีค (Pokemon League) ในภาค XY&Z ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความระทมแก่คนทั่วโลกไม่น้อย เรื่องของเรื่องคือใครที่ดูโปเกมอนมาอย่างยาวนานจะรู้ว่าซาโตชิไม่ได้แชมป์ลีกเลย (ไม่นับลีกเล็กๆ) ยาวนานถึง 20 ปี ดังสถิต
ภูมิภาคคันโต - Sekiei Conference - เข้ารอบ 16 คนสุดท้าย
ภูมิภาคโจโต - Shirogane Conference - เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย
ภูมิภาคโฮเฮ็น - Saiyuu Tournament - เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย
ภูมิภาคชินโอ - Suzuran Conference - เข้ารอบ 4 คนสุดท้าย
ภูมิภาคอูโนว่า - Higaki Conference - เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย
จะเห็นได้ว่าทุกภาคซาโตชิไม่เคยเข้ารอบชิงชนะเลิศเลย ส่วนใหญ่แพ้รอบ 8 คนสุดท้ายตลอด ดีสุดคือเข้ารอบ 4 คนสุดท้าย สร้างความรู้สึกระทมแก่คนทั่วโลก คือมันอารมณ์แบบว่าพระเอกก็ออกจะเก่ง กู้โลกหลายรอบ แต่พอมาสู้คนอื่นนี้กระจอกจัง (สาเหตุที่แพ้ส่วนมากคือซวย ทำตัวเองล้วรๆ ) ขนาดโกคูยังเคยชนะศึกชิงเจ้ายุทธ์ภพมาแล้วเลย ซาโตชิไม่ได้แชมป์ลีกนี้มันแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก และมันเป็นสาเหตุสำคัญที่หลายคนเลิกตามดูโปเกมอน (อนิเมะ) ไปด้วย
จนกระทั่งล่าสุด โปเกมอนในภาค XY&Z ภูมิภาคคาลอส (ภาคล่าสุด) - Miare Conference ซาโตชิได้เข้าลีกลึกที่สุดคือเข้ารอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรก และรอบชิงนั้นก็ได้เจออลัน (บอสใหญ่) ถือได้ว่าเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอนิเมะโปเกมอน หลายคนเชื่อว่าซาโตชิได้แชมป์ลีกแน่นอน เพราะซาโตชิมีกบเทพซิงโคร เหนือกว่าโปเกมอนของอลันมาก ซาโตชิจะได้แชมป์ลีกสักทีหลังจากที่รอกันมาอย่างยาวนาน (แถมชื่อตอน 38 คือ “ชัยชนะแห่งคาลอสลีก!” ยังบ่บอกว่าซาโตชิชนะแชมป์ลีก) ยังบอกเต็มๆ ว่าซาโตชิต้องชนะแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเอาเข้าจริง ปรากฏว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แถมไปเจอมุกพลังใจหึกเหิม (แถมคนที่ได้พลังนี้เป็นอลันอีกต่างหาก) และแล้วซาโตชิก็แพ้ ทำเอาหลายคนเซ็งไปทั่วโลก แถมมันเป็นการแข่งขันชิงแชมป์ครั้งสุดท้ายด้วย เพราะโปเกมอนภาคต่อไปไม่มีการแข่งแชมป์ลีกอีกแล้ว เรียกได้ว่าเป็นการจบภาค XY&Z ที่ไม่สวยงามเลย (แม้ตอนที่ 38 ยังตอนจบจริงๆ ก็เถอะ)
นอกจากนี้ ยังมีควันลงตามมาจากซาโตชิแพ้แชมป์ลีกอีก คือแฟนทั่วโลกเอาความคับแค้นนี้ไปลงกับนินเทนโดผู้ผลิตเกมโปเกมอนด้วย ทั้งๆ ที่ตัวนินเทนโดไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับอนิเมะโปเกมอนเลย เรียกได้ว่าเป็นความระทมของทั่วโลกอย่างแท้จริง
จบแย่แห่งปี Kuma Miko
Kuma Miko (หรือมิโกะหมี) เป็นหนึ่งในการ์ตูนโมเอะที่หลายคนติดตาม หากแต่ตัวอนิเมะกลับทำได้น่าผิดหวัง โดยเฉพาะในตอนสุดท้าย ที่ฉายในวันที่ 19 มิถุนายน แทนที่จะทำออกมาดีๆ กลับทำสิ่งที่โหดร้าย ด้วยการให้มาจิเป็นนีทในตอนจบ จนเกิดเสียงด่าของแฟนการ์ตูนตามมา
ก่อนอื่นก็ขออธิบายว่า มิโกะหมีนั้นเป็นเนื้อหาสบายๆ เกี่ยวกับมาจิ มิโกะ หรือมิโกะโลลิที่บ้านนอกสุดกู่ อาศัยอยู่กับหมีพูดได้ มิโกะหมีอยากจะเรียนต่อในเมือง เพราะเบื่อบ้านนอก แต่หมีกไม่ยอม พร้อมกับมอบงานต่างๆให้เพื่อให้มิโหะหมีไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตในกรุงด้วยตัวคนเดียว
เนื้อเรื่องควรแสดงพัฒนาการของมิโกะหมี เพื่อให้เห็นว่ามิโกะหมีสามารถพัฒนาตนเองได้ แม้จะไม่ออกจากบ้านนอก แต่ก็ขอให้แสดงให้เห็นว่าเธอสามารถอยู่ที่ไหนก็ได้ตัวคนเดียว โดยไมจำเป็นต้องมีหมีอีก นี่คือตัว
ความจริงเนื้อหาส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเนื้อหายกมาจากต้นฉบับอยู่แล้ว จนกระทั่งมาถึงตอนที่ 12 ตอนจบที่มิโกะหมีนางเอกของเรื่องต้องไปแข่งเป็นไอดอลเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวของหมู่บ้านให้ดังยิ่งขึ้น ปรากฏว่ามาจิไม่เคยเจอคนเยอะๆ เลยเกิดอการตื่นเวทีไม่กล้าขึ้นจึงแอบไปซ่อนตัว
และดราม่าก็เกิดตรงนี้ ระหว่างซ่อนตัว มิโกะหมีได้ยินการทะเลาะกันของพวกผู้ใหญ่ ฮิบิกิทะเลาะกับโยชิโอะเรื่องที่กดดันมาจิเกินไป ว่าให้มิโกะหมีมาแข่งไอดอลทำไม เห็นไหมมันเด็กเล็กๆ นี้รับกับสภาพนี้ไม่ได้ ทำเหมือนกับสังเวยมิโกะตามธรรมเนียมหรือยังไง แต่ชิโอะบอกว่าที่ทำเพราะจำเป็น เพราะต้องการโปรเมทให้คนสนใจหมู่บ้านมิโกะหมีมากขึ้น
มิโกะหมีที่ได้ยิน ก็มีกำลังใจ และขึ้นประกวดเวทีอีกครั้งและได้รับชัยชนะ หากแต่มิโกะหมีกลับจิกตตก เพราะคิดว่าคนเชียร์ไล่ตัวเอง ทำให้ตอนจบอนิเมะ มาจิก็ตัดสินใจอยู่หมู่บ้านไปตลอดแทน ไม่ไปประกวดอีก และหมีก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ของมาจิ ที่สนุบสนุนให้มาจิอยู่ในหมู่บ้านนี้ตลอดไป....จบ
ความจริงเนื้อหาตอยจบก็ไม่ได้มีอะไรเลวร้ายมาก แต่มันดราม่าตรงที่ Yoshimoto Masume ผู้เขียนมังงะเรื่องนี้เอง ได้ออกมาโพสข้อความแสดงความผิดหวังกับทีมงานสร้างอนิเมะ แต่ไม่นานก็ได้ลบข้อความนั้นออก และโพสข้อความใหม่ในเชิงขอโทษและให้กำลังใจทีมงานสร้างอนิเมะแทน แต่ถึงอนย่างนั้นก็มีคนมือไว ก็อบข้อความนี้ก่อน ทำให้เกิดกระแสคนไม่พอใจแฟนการ์ตูนถาโถมในโลกอนินเทอร์ทันที และทำให้เรติตื้งการ์ตูนเรื่องนี้ร่วงอนาถ
ฉากที่รอคอยแห่งปี (แต่ไม่ใช่ผม)-ซาโตชิเสียจูบแรก
เรื่องของเรื่องคือ แม้ว่าอนิเมะโปเกมอนจะเป็นการ์ตูนสำหรับเด็ก หากแต่มันก็ฉายยาวนาน จนเด็กบางคนกลายเป็นพวกผู้ใหญ่ และพอดีพวกผู้ใหญ่ค่อนข้างคิดมาก (หมกมุ่นมาก) จนเกิดการคำถามในใจ เมื่อไหร่ซาโตชิจะมีแฟนสักที เห็นที่ไรก็อยู่กับปิกาจู จนปิกาจูจะเป็นเมียมันแล้ว
แม้ว่าซาโตชิจะเดินทางกับผู้หญิงหลายคน แต่ผู้หญิงที่ว่ากลับไม่แสดงออกถึงความชอบที่มีต่อซาโตชิเลย (แถมบางคนมีชายคนอื่นที่ชอบแล้วอีกต่างหาก) จนกระทั่งถึงเซเรน่า ในภาคโปเกมอนภาค XY&Z ซึ่งทำให้หลายคนคิดหนักแน่นเลย ว่าเซเรน่านี่แหละคือผู้หญิงของซาโตชิ
เซเรน่าแสดงชัดเจนว่าชอบซาโตชิ เป็นต้นว่าทั้งคู่เคยเจอกันสมัยเด็ก (รักแรกพบ) ตั้งใจออกเดินทางเพื่อตามหาซาโตชิ และเมื่อเจอเธอก็ชอบสุดใจ คอยให้กำลังใจซาโตชิมาโดนตลอด จนเกิดกองอวยขึ้นมาในสื่ออินเทอร์เน็ต ก็เริ่มลงภาพแฟนพีค (fanarts, fanfiction) ซาโตชิจูบกับเซเรน่า (ทั้งๆ ที่ตอนนั้นตัวอนิเมะจริงๆ ยังไม่มีฉากจูบกันเลย) โดยส่วนใหญ่จะเป็นภาพซาโตชิกับเซเรน่าจูบด้วยกันแบบโรแมนติกซึ่งแพร่กระจายมีหลายภาพในเวลาต่อมา (อย่างไรก็ตาม โดจินสายมืดเซเรน่านี้ผมว่าน้อยอยู่นะ สู้คาซึมิไม่ได้)
จนในที่สุดตัวอนิเมะก็มีฉากจูบที่หลายคนรอคอยจนได้ ในในตอนที่ 47 ของโปเกมอน XY&Z เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2016 ซึ่งเป็นฉากที่ซาโตชิต้องลาจากเซเรน่า แล้วเซเรน่าได้วิ่งขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อจูบซาโตชิ และนี่คือฉากที่กองอวยบอกว่ามันสุดยอดแห่งปี (โครตๆ) ไป ซึ่งต่อมาฉากดังกล่าวก็แพร่กระจายไปทั่วอินเทอร์เน็ต สร้างความฟินแก่กองอวยเป็นอย่างยิ่ง จนเรียกขานว่า “ฉากบันไดเลื่อนในตำนาน!” (ไม่เหมือนการ์ตูนบางเรื่อง ผมเหลืองวิน สร้างความเกลียดชังไปทั่ว)
อย่างไรก็ตาม การลาจากองเซเรน่า ก็เท่ากับซาโตชิก็ต้องเดินทางคนเดียวอีกครั้ง จนหลายคนเซ็งไปตามๆ กัน บางคนก็รับไม่ได้ พยายามล่ารายชื่อให้เซเรน่าปรากฏตัวใน Pokemon Sun & Moon ซึ่งจะเป็นภาคต่อไป แม้มีการลงรายชื่อเป็นหมื่นๆ แต่มันจะสำเร็จหรือไม่นั้นก็ไม่มีใครทราบได้ ซึ่งต้องติดตามตอนต่อไป
นางรองยอดเยี่ยมแห่งปี (แต่ไม่ใช่ผม) และช่วงเวลาโครตรำคาญ (สำหรับผม) -เรม
Re:Zero เป็นหนึ่งในอนิเมะประสบความสำเร็จของปี 2016 แสดงให้เห็นว่าแนวต่างโลก และการทำให้ตรงกับเนื้อเรื่องต้นฉบับ ก็จะขายได้ และ หนึ่งในสิ่งที่หลายคนชอบเรื่องนี้อยู่ตรงที่นางรองเรม ซึ่งเธอฮิตกว่านางเอกเอมิเรียด้วยซ้ำ
เรมเป็นนางรองของเรื่อง จะว่าไปสถานะของเธอก็ไม่ได้ส่งบทเธอเป็นนางรองแบบภาคภูมิสักเท่าไหร่ (นางรองที่ดีจะต้องมีอำนาจเทียบเท่านางเอก และต้องมีพลังให้พระเอกลังเลได้) คือเป็นเมดสาวใช้ เป็นฝาแฝด (แถมผิดสถาบันฝาแฝดในอนิเมะอีก ฝาแฝดที่ดี ทั้งคู่จะต้องรักพระเอกคนเดียวกัน ต่างคนต่างรักชายคนละคนกันนี้ ถือว่าผิดสถาบันฝาแฝด) แม้ว่าเรมจะมีสถานะที่ไม่ค่อยเป็นนางรองมากนัก แต่วีรกรรมที่แสดงออก ทั้งการช่วยเหลือพระเอก ทุ่มเทเพื่อพระเอก เสียสละเพื่อพระเอก ชอบพระเอกมากๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้มีหลายคนชอบเรมมาก จนเพิ่มขึ้น และติดตามเรื่องนี้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม พระเอกเรื่องนี้ไม่ได้ชอบเรมเลย แถมตอนจบยังหนุนตักเอมิเรียอย่างสบายใจ ทำให้หลายคนสร้างเกลียดชังพระเอกเป็นจำนวนมาก (แต่ในนิยายไม่จบ ส่วนอนิเมะภาคสองจะมาหรือไม่นั้น ก็ไม่ทราบ แต่คงยาก) จนมทีเหตุการณ์พิเศษด้วยการแต่งนิยายพิเศษขึ้นมา “ถ้าหากซูบารุเลือกเรมล่ะ” ขึ้นมา โดยเล่าเรื่องราวความรักที่พระเอกสมหวังกับเรม จนถึงขั้นแต่งงานมีลูกทีเดียว (ผมไม่เคยจิ้นถึงขั้นนั้นอะ)
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนไม่ได้ติดตาม (ทั้งนิยายและอนิเมะ) และไม่คิดจะดู สำหรับผมแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่อึดอัดที่สุดในชีวิต เอาละมาคิดดู เมื่อเรื่องที่ผมไม่อยากจะดู แต่คนก็ยังคงคะยั้นคะยอให้ดูเกือบทุกนาที นี้แหละ มันเป็นช่วงเวลาที่น่ารำคาญดีๆ นี้เอง ในเฟซบูคเกือบทุกนาที ก็มีข่าวอวยเรม คอสเรม อะไรก็เรมๆ (อเมเลียผมไม่เห็นนะ) ไปดูโด ก็เจอเรม สรุปไหนก็เจอ เรม เรม เรม
ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งปี (แต่ไม่ใช่ผม) และช่วงเวลาโครตรำคาญ (สำหรับผม)- Your Name
คือ... ต้องเข้าใจผมนะครับ เวลาจะดูอนิเมะอะไร ผมจะต้องดูด้วยความตั้งใจของตนเอง และไม่ตามกระแส และแนวที่ผมชอบเท่านั้น ผมผ่านช่วงเวลาคนอวยโหดสัส มาเยอะ ตั้งแต่มาโดกะ (มุกคิวเบยเยอะมาก), นิโค่ย (สุดยอดรำคาญสงครามกองอวยผมดำ ผมทอง ขนาดการ์ตูนเรื่องอื่นไปเจอเม้นผมดำนางเอก ผมทองนางเอกเลย) จนมาถึงปีนี้ Your Name ภาพยนตร์อนิเมะที่ว่ากันว่าดีแห่งปี เขียนบทและกำกับโดย มาโกะโตะ ชิงไก
เรียกได้ว่ามันเป็นช่วงที่เปิดไปไหนก็เจอ Your Name หลักๆ ก็อวย, สปอย ขนาดเว็บดราม่าก็มี ก็ดราม่าเรื่องคนกลุ่มหนีมออกมาทะลุกลางดงคนอวยว่า “ไม่เห็นสนุกเลย” ประมาณนั้นแหละ ถ้าเป็นผมจะเงียบๆ นะ
แต่ก็ยอมรับว่า Your Name นั้นประสบความสำเร็จมาก กวาดทั้งรายได้จากหลายประเทศ และได้รับรางวัลหลายรางวัล ที่สำคัญเป็นอนิเมะที่ไม่ได้มาจากการ์ตูนซีรีย์ที่หลายอย่างเป็นทางการในไทย (ที่ผ่านมา เราจะดูภาพยนตร์อนิเมะที่ไม่ใช่การ์ตูนทีวีซีรีย์จากแฟนซับตลอด) และปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในประเทศไทย จนทำให้มีการซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์อนิเมะ “รักไร้เสียง” มาฉายในปีหน้า (ผมก็รำคาญต่ออีกละ)
เทรนฮิต – ยุคแห่งไอดอล. กีฬา และชายล้วน
สมัยก่อน อนิเมะแนวฮาเร็ม แฟนเซอร์วิส และโมเอะมีเยอะมาก จนบางคนออกมาบ่นว่าเป็นอนิเมะแนวซ้ำซาก น่าเบื่อที่สุด อย่างไรก็ตาม ช่วงหลายปีที่ผ่านมา อนิเมะแนวนี้ลดลงค่อนข้างมาก (เป็นเรื่องดีสำหรับหลายคน แต่สำหรับผมแล้วโครตเซ็ง) เมื่อตลาดจับจุดอะไรบางอย่าง ทำให้อนิเมะเอาใจกลุ่มเฉพาะมากขึ้น นั่นคืออนิเมะแนวไอดอลหญิงล้วนขายให้กลุ่มผู้ชาย และอนิเมะแนวชายล้วนขายเหล่าผู้หญิง
แม้ว่าอนิเมะแนวชายล้วน จะไม่ได้สื่อถึงชายยาโอยอะไรมากมาย แต่พวกสาวๆ ก็จิ้นเอาเอง (อย่าง ไททัน เอเรนXลีวาย ทั้งๆ ที่เนื้อเรื่องจริงๆ ไม่ได้สื่อความเป็นยาโอย แต่สาวๆ จิ้นเองเอง เป็นต้น) การมาของอนิเมะแนวๆ นี้บ่บอกถึงตลาดที่เปลี่ยนไป เมื่อผู้หญิงจิ้นวายมีจำนวนมากขึ้น การ์ตูนแนวนี้ก็ประสบความสำเร็จมากขึ้น อย่าง การ์ตูนหนุ่มๆ ว่ายน้ำ, หนุ่มๆ ไอดอล, หนุ่มๆ, ป่วยดาบ, หนุ่มสายลับ ฯลฯ
จะเห็นว่าอนิเมะแนวชายล้วน จะเน้นประเภทกีฬาเป็นหลัก สมัยก่อนอนิเมะประเภทนี้จะเป็นที่นิยมของพวกผู้ชาย หากแต่ช่วงหลังๆ พวกผู้หญิงมากขึ้น โดยการจิ้นหนุ่มหล่อ หนุ่มเคะ ต่างๆ หากถามว่ายอดขายดีไหม เอาเข้าจริงหากดูสถิตยอดขายซีดีบางเรื่องไม่ถึงแสน มีเพียงแค่หมื่นกว่าๆ แต่จำนวนหมื่นนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะแสดงให้เห็นว่าคาแร็คเตอร์ขายได้ อีกทั้งยังมีสินค้าต่างๆ ตามมาให้สะสมอีก
นอกเหนือจาก อนิเมะชายล้วนแล้ว ก็ยังมีอนิเมะที่มีชายและหญิงสมดุลอยู่บ้าง แต่ปัญหาคือมันก็ยังเป็นอนิเมะกลุ่มเฉพาะอยู่ดี คือหนักไปทางคนดูผู้หญิงมากกว่า แม้บางเรื่องเนื้อหาจะเน้นแอ็คชั่น บู๊ระห่ำ ตลกบ้าง แต่เรื่องมันขาดตัวละครหญิงที่น่าดึงดูด (หรือไวฟุ) ก็ไม่ช่วยให้คนดูที่เป็นชายหลายคนมาติดตามได้
ในขณะที่อนิเมะกลุ่มเฉพาะที่เป้าหมายที่เป็นผู้ดูแบบผมนั้นเริ่มหายากขึ้นทุกวัน
ถ้าถามว่ามันจะอยู่อีกนานไหม ก็ตอบว่านานพอสมควร แต่คงไม่ยืนยงค้ำฟ้า เพราะว่าหลายเรื่องเริ่มไม่เน้นเนื้อเรื่อง คุณภาพอะไรมากมาย รวมไปถึงการแข่งขันที่สูงมาก แม้จะยังขายได้ แต่จะเป็นแบบนี้นานเท่าไหร่ก็ไม่อาจทราบได้ ก็เหมือนแนวฮาเร็มที่เน้นปริมาณ แต่ไม่เน้นคุณภาพ ทำให้ช่วงหลังๆ ก็น้อยลง แต่ในขณะเดียวกันแนวฮาเร็มที่มีคุณภาพหากออกช่วงนี้ยอดขายก็ดี (ยัยเทพธิดาไม่ได้เรื่อง, สาวมอน, To Love Ru) บางทีเราอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงของอนิเมะแนวนี้ไม่นานนี้ก็ได้
เข็นไม่ขึ้นแห่งปี - Hybrid x Heart
มันเป็นปีที่น่าเศร้าสำหรับคอฮาเร็มอย่างแท้จริง ที่ปีนี้อนิเมะแนวฮาเร็มแท้ๆ มันล้มหายตายจากจนหมด แม้ว่ายัยเทพธิดาไม่ได้เรื่อง กับRe-Zero จะทำให้ชุ่มชื้นบ้าง แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ยัยเทพธิดาไม่ได้เรื่องเผาเรื่องงานมาก ในขณะที่ Re-Zero ก็ได้เป็นฮาเร็มแท้ๆ (แถมยังผจญกับกองอวยเรมเหมือนล้างสมองอีกต่างหาก) ในขณะที่แนวฮาเร็มที่มีอยู่น้อยนิดแล้ว ยังเผาได้อนาถจิตอีกต่างหาก
ผมมองลองคิดดู ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องดี เพราะเมื่อแนวฮาเร็มลดน้อยลง สิ่งที่ตามมาน่าจะทำให้มีคนสร้างแนวฮาเร็มมีคุณภาพมากขึ้นให้มากๆ เพื่อให้คนมาติดตามมากขึ้น แต่กลายเป็นว่าช่วงหลังๆ แนวฮาเร็มคุณภาพเริ่มลดลง จนถึงขั้นแย่ Hybrid x Heart ก็คือหนึ่งในนั้นที่บทความวิจารณ์บางทีว่าสนุกใช้ได้ แต่พอทำเป็นอนิเมะแนวแทบติดลบ เนื้อเรื่องหลักไม่ชวนน่าติดตามเลย )ฉากต่อสู้ก็แข็งๆ ไม่น่ารื่นรมย์ ถ้าไม่มีฉากเซอร์วิส ฉากหื่นช่วยไว้ จ้างให้ก็ไม่ดู ชนิดว่าผมดูฉากเซอร์วิส ส่วนฉากเนื้อเรื่องเหรอกดข้ามไปเลย ปกติคนก็มองฮาเร็มติดลบอยู่แล้ว อนิเมะเรื่องนี้ยิ่งติดลบเข้าไปใหญ่
ก็คงหวังว่าแนวต่างโลกจะทำให้แนวฮาเร็มได้รับความนิยมอีกครั้ง....
พูดถึงอนิเมะมามากแล้ว (และคัดแต่สิ่งที่น่าสนใจในปี 2016) ก็ขอมาพูดถึงมังงะกันบ้าง และเมื่ออนิเมะแนวฮาเร็มขาดแคลน จากการมาของอนิเมะจิ้นหนุ่ม ดังนั้นมังงะจึงเป็นความหวังเดียวที่จะได้ดูแนวฮาเร็มบ้าง อย่างน้อย มังงะก็ยังคงความหลากหลาย ไม่เหมือนอนิเมะที่เน้นไปทางใดทางหนึ่งมากกว่า
แต่อนิจจา ปีนี้ แทบไม่มีแนวฮาเร็มใหม่ๆ ที่น่าสนใจในมังงะเลย หลักๆ จะเป็นพวกแนวต่างโลกจากนิยายเว็บมาทำเป็นมังงะมากมายหลายเรื่อง (ผมไม่ขอแนะนำนะครับ เพราะส่วนใหญ่ออก 2-3 ตอน) ส่วนฮาเร็มออริจินอลแท้ๆ นั้นแทบไม่มีเลย (หรือผมหาไม่เจอก็ไม่รู้) ดังนั้นการ์ตูนปี 2016 ที่คัดมาจะเน้นการ์ตูนแนวอื่นๆ ที่ไม่ใช่แนวฮาเร็มมากกว่า
มังงะเรื่องแรกที่ผมค่อนข้างชอบในปี 2016 คือเรื่อง RYOKO ผลงานของ Mitsuhashi Kaito เป็นเรื่องของญี่ปุ่นได้ประสบภัยพิบัติถูกสัตว์ประหลาดที่ไม่รู้มาจากไหนโจมตี แต่หลายปีที่ผ่านมามีคงมนุษย์บางส่วนเหลือรอด และพยายามสู้กับพวกสัตว์ประหลาดเท่านั้น และเด็กสาวคนหนึ่งชื่อริวโกะก็พยายามต่อสู้เพื่อครอบครัวของเธอ ถือว่าเป็นมังงะที่ผมชอบด้วยคะแนนพิศวาลล้วนๆ เพราะลายเส้นบางจุดยังไม่นิ่งสักเท่าไหร่ แต่พอดีน้องนางเอกน่ารัก ผมให้อภัยเสมอ
ส่วนอีกเรื่อง DanganRonpa: Killer Killer ดูไปขำๆ เป็นอีกซีรีย์แยกจาก DanganRonpa อีกที ส่วนเนื้อเรื่องอยู่ในช่วงภาค 1-3 โดยเป็นเรื่องราวของหน่วยสืบสวนคดีพิเศษ (หน่วย 6) ที่มีหน้าที่สืบสวนคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้น และพระเอกเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าเฉพาะฆาตกรต่อเนื่องด้วยกันเท่านั้น (พระเอกยังไม่เจอของจริง ถ้าเจอพวกยัยกรรไกรลิ้นยาวนี้มีหนาวแน่) เนื้อหาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับภาคหลัก แต่ก็มีตัวละครจากภาคหลักปราฏตัวหลายฉาก เอาเป็นว่าระหว่างที่รอภาค V3 ก็ดูเรื่องนี้ไปพลางให้หายคิดถึงก่อน
魔王遭難中!!! ไม่ทราบชื่ออังกฤษ และคนแต่ง แต่ถ้าให้แปลง่าวๆ ก็ “ช่วงเวลาทุกข์ระทมของจอมมาร" ผมเรียกเรื่องนี้แบบชื่อไทยว่า “จอมมารติดเกาะ” โดยเป็นเรื่องราวของจอมปีศาจและลูกน้องที่หลายคนต้องหวาดกลัว หากแต่ดันมาติดเกาะที่โดดเดี่ยวกลางทะเล แถมทั้งหมดยังใช้เวทมนต์ไม่ได้อีก เป็นแนวขายความฮ่าและความอนาถได้เป็นอย่างดี
Renai Harem Game Shuuryou no Oshirase ga Kuru Koro ผลงานจากคนแต่ง Yukari Higa มาคราวนี้เป็นแนวฮาเร็ม แต่ขึ้นชื่อคนแต่งมันไม่ธรรมดา โดยเป็นเรื่องของพระเอกที่อยากมีฮาเร็ม อยากได้สาวรุ่นพี่ เพื่อนร่วมห้อง ฯลฯ แต่ชีวิตมันโครตธรรมดา จนสาวๆ ไม่สนใจ วันหนึ่งเขาได้ปล่อยปีศาจตนหนึ่ง และปีศาจตนนั้นได้อาสาให้ความฝันของเขาปรารถนา หากแต่สิ่งที่ปีศาจทำให้สาวๆ หันมาชอบพระเอกนั้น มันถูกต้องแล้วเหรอ..... เป็นฮาเร็มไม่กี่เรื่องที่พระเอกปรารถนาอยากฮาเร็ม แต่ปัญหาอยู่ที่มันจะได้หรือเปล่านี้สิ
Peleliu - Rakuen no Guernica ผลงาน ของ Hiratsuka Masao (เรื่อง) &Takeda Kazuyoshi (รูป) เป็นเรื่องราวของพลทหารเล็กๆ นายหนึ่งในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ไปประจำการในเกาะพาลีลู (The Battle of Peleliu) เพื่อรับมือกับกองทัพสหรัฐ เป็นสงครามที่พวกเขาไม่มีวันชนะ และมันคือนรกบนดิน เป็นการ์ตูนที่ให้อารมณ์ความโหดร้ายของสงคราม ภายใต้ลายเส้นที่น่ารัก
Murenase! Shiiton Gakuen เป็นแนวตลก เซอร์วิสนิดๆ หน่อย (เหมือนจะฮาเร็ม แต่ไม่ฮาเร็ม) เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อประชากรมนุษย์ลดลง และพวกสัตว์มีวิวัฒนาการกลายเป็นคนมากขึ้น พระเอกชื่อ “มาซามะ” ค่อนข้างเกลียดสัตว์ (แต่ดันมีความรู้เรื่องสัตว์) ต้องมาอยู่ในโรงเรียนที่เต็มไปด้วยสรรพสัตว์ และได้พบกับเพื่อนสาวมากมายที่เป็นสัตว์ เป็นแนวตลกที่ได้ความรู้เรื่องสัตว์ที่เราไม่เคยรู้ก่อน (สาวๆ ในเรื่องก็น่ารัก)
Ureshon! ผลงานของผู้วาดที่ขึ้นชื่อความโหด (เพราะชอบฆ่าตัวละครนางเอก เป็นหลัก) ซึ่งปีนี้การ์ตูนเรื่องสั้นตอนเดียวจบอย่าง The Zombie Maria ที่ออกมาปีเดียวกัน ก็ทำออกมาดี มาคราวนี้เป็นเรื่องยาวเรื่องใหม่ ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น สมัยศึกตระกูลตระกูลไทระ กับ มินาโมโตะ (แต่ประวัติศาสตร์ถูกเปลี่ยนให้ไทระชนะแทน) นางเอกที่กำลังจะตายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ได้แสวงหาความเป็นอมตะ และเธอก็ได้พบชายที่ไม่มีวันตาย และอยากตายเข้า เรื่องจึงบังเกิด ถือว่าเป็นการ์ตูนที่ลายเส้นสะใจ เร้าใจ เป็นอันมาก แถมเนื้อหานี้เลือดสาดกระจาย (แต่เท่าที่ดูอาจไม่ทำหลายตอนเหมือนผลงานยัยหนูหมัดควงสว่าน)
六道の悪女たち ไม่ทราบชื่อภาษาอังกฤษ เป็นแนวฮาเร็มผสมกับแนวนักเลงหน่อยๆ เป็นเรื่องราวของพระเอก กับเพื่อนโอตาคุ ที่โดนกลั่นแกล้งจากพวกเด็กเลวในโรงเรียน จนทั้งสามทนไม่ไหว จึงขอให้พระเอกช่วย ด้วยการใช้อาคมของปู่สักยันต์ตรงหน้าผาก โดยเชื่อว่ายันต์นี้เป็นคาถามหาเสน่ห์ที่ทำให้สาวๆ มาหลงรัก แต่กลายเป็นว่าสาวๆ ที่มาหลงรักพระเอก กลับเป็นพวกสาวสกอย สาวเกล สาวจิ๊กกี๋แทน ซึ่งเป็นแนวที่พระเอกเกลียดมาก (เพราะเพื่อนสมัยเด็กพระเอกกลายเป็นสาวจิ๊กกี๋ชอบนักเลง ทำให้พระเอกมันจิตตกขึ้น) กลายเป็นฮาเร็มสาวนักเลงไปทันที เป็นแนวที่สนุกนะ ตอนแรกๆ ลายเส้นห่วยหน่อย แต่หลังๆ ปรับปรุงจนเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น ธงพระเอกปักก็ถือว่าดีด้วย
Maou-jou de Oyasumi ส่วนอีกเรื่อง เป็นแนวคอเมดี้ แฟนตาซี เรื่องราวของเจ้าหญิงที่ถูกจอมมารจับขังในปราสาทจอมมารที่เต็มไปด้วยเหล่ามอนสเตอร์ แต่แทนที่เจ้าหญิงจะกังวลเรื่องนั้น กลับกังวลเรื่องนอนไม่หลับ เพื่อปแก้ปัญหานี้เธอจึงใช้อะไรก็ได้ที่อยู่ในปราสาทจอมมารมาแก้ปัญหานอนไม่หลับของเธอ และนั้นทำให้ลูกน้องจอมมารต้องปวดหัว
[Tsukiyoshi Hiroki] Shoujo-tachi no Sadism ขอเอาสายมือส่งเข้าประกวด ความจริงปีนี้สายมืดสายฮาเร็มก็ค่อนข้างใช้ได้เยอะ ขณะที่นักวาดบางคนก็ผลงานไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ (ตามความรู้สึกผม) แต่เรื่องนี้ผมให้พิเศษเลย เพราะคนแต่งคนนี้อาจจำได้ผลงานแรกๆ คือน้องแว่นโครตน่ารัก แต่ชีวิตบัดซบมาก ทั้งโดนข่มขืน โดนเพื่อนในห้องกลั่นแกล้ง ปวดใจมังงะจนถึงอนิเมะ หากแต่ผลงานใหม่นี้เป็นแนวฮาเร็มเต็มตัว แถมทำโครตดี เนื้อหาเป็นเรื่องของชมรมชงชา ระหว่างอาจารย์กับสี่สาว แต่ทั้งเรื่องไม่ชงชา กับทำเรื่องอย่างว่าลูกเดียว แถมจบสวยเสียด้วย เอาไปเลย สายมืดที่ชอบแห่งปี 2016
เรื่องจบ แต่อารมณ์ไม่จบ
ปี 2016 ก็มีมังงะจบหลายเรื่อง ทั้งเรื่องนอกสายตา กับเรื่องดัง เป็นต้นว่า
- โทริโกะ 43 เล่ม (SIC)
-Assassination Classroom 21 เล่มจบ (SIC)
- รักลวงป่วนใจ 25 เล่มจบ (SIC)
- Bleach เทพมรณะ 74 เล่มจบ (NED)
- Letter Bee ผึ้งจดหมาย 20 เล่มจบ (NED)
- Billy Bat - 20 เล่มจบ (???)
- Akame ga Kill - อาคาเมะ สวยประหาร 15 เล่มจบ(SIC)
- Shinryaku! Ika Musume - หมึกสาวลุยหลุดโลก 22 เล่มจบ (VBK)
- Area D 14 เล่มจบ (VBK)
- Kuroko no Basket Extra Game - นายจืดพลิกสังเวียนบาส (เนชัน) 2 จบ (NED)
- จิ้งจอกเย็นชา กับ สาวซ่าเทพจำเป็น Kamisama Hajimemashita 25 จบ (บงกช)
- Oremonogatari!! ไม่หล่อแต่เร้าใจ 13 เล่มจบ (SIC)
- Evangelion โครงการพัฒนาอิคาริ ชินจิ Shin Seiki Evangelion - Ikari Shinji Ikusei Keikaku 18 เล่มจบ (SIC)
- Full Metal Panic! Another 6 เล่มจบ (บงกช)
- Coppelion สามนางฟ้า ผ่าโลกนิวเคลียร์ 26 เล่มจบ (VBK)
- อลิสในแดนมรณะ Imawa no Kuni no Alice 18เล่มจบ (VBK)
- Saint Seiya: The Lost Canvas ภาค Gold Saint // Saint Seiya - The Lost Canvas - Meiou Shinwa Gaiden 16 เล่มจบ (Luckpim)
- Brynhildr in the Darkness - 18 เล่มจบ (???)
-พี่จ๋าอย่าจิ้น Ane Log - Moyako Nee-san no Tomaranai Monologue 16 เล่มจบ (Zenshu Comics )
- Attack on Titan: Junior High - Shingeki! Kyojin Chuugakkou ผ่ามัธยมไททัน 11 เล่มจบ (VBK)
- 87 Clockers NED 9 เล่ม (NED)
- ยาคุโมะ นักสืบวิญญาณ 14 เล่มจบ (NED)
- Big Order - พลังจิตเปลี่ยนโลก 10 เล่มจบ (SIC)
- Tokyo ESP 16 เล่มจบ (???)
- Kyo Kara Maoh! ผมน่ะหรือคือราชาปิศาจ 21 เล่มจบ
- Genshiken: Second Season ชมรมคนน๊อตหลุด 21 เล่มจบ (SIC)
- การหายตัวไปของนางาโตะ ยูกิจัง Nagato Yuki-chan no Shoushitsu 10 เล่มจบ (บงกช)
- Blood Lad แวมไพร์พันธุ์ลุย 17 เล่มจบ (SIC)
- Sacred Blacksmith สงครามดาบศักดิ์สิทธิ์ 10 เล่มจบ (Luckpim)
- Akuma no Riddle 5 เล่มจบ ปริศนาสั่งฆ่า (Luckpim)
สำหรับในนี้ มังงะที่ติดตาม ก็มีหมึกสาวลุยหลุดโลก,โครงการพัฒนาอิคาริ
ชินจิ, ผ่ามัธยมไททัน 11 , พลังจิตเปลี่ยนโลก 10 เล่มจบ ซึ่งทั้งหมดก็จบแบบคุ้มค่าติดตาม
จากพอสมควร ไปจนถึงดีมาก
อย่างที่บอกเอาไว้
ตอนจบนั้นมันไม่มีจบแย่ หรือไม่แย่ มันมีเพียงแค่จบถูกใจคนอ่าน
คุ้มค่าที่ติดตามหรือไม่ หากจบไม่พอใจ ขัดใจ หรือดำเนินถึงจุดที่รับไม่ได้
เราก็พร้อมบอกว่าการ์ตูนเรื่องนี้ล้มเหลวสำหรับใครบางคน
แน่นอนว่าหากจะพูดถึงการ์ตูนดังๆ ที่จบในปี 2016 การ์ตูนของจัมป์น่าจะดังและน่าจะเป็นที่กล่าวถึงสำหรับในไทยเวลานี้ (ส่วนปฏิกริยาของคนญี่ปุ่นไม่รู้) โดยการ์ตูนจัมป์ดังๆ ที่จบ ก็มี โทริโกะ, Assassination Classroom, รักลวงป่วนใจ, Bleach เทพมรณะ ส่วนเรื่องหลังจบแบบพอใจคนอ่านจึงไม่ขอกล่าวถึง (เพราะผมไม่ได้ตาม) หากแต่สองเรื่องหลังนี้แหละ ที่กลายเป็นประเด็นให้มีการพูดถึงกัน (แม้ผมไม่ได้ตาม แต่พอดีมันมีดราม่า)
เริ่มจากนิโค่ย หรือรักลวงป่วนใจ จบแบบไม่มีพลิก เพราะจบวิน จบกับผมทอง ถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดสงครามกองอวยผมทอง ผมดำ ที่ยาวนานหลายปี โดยภาพรวมอนิเมะเรื่องนี้ค่อนข้างน่าผิดหวัง เพราะช่วงหลังๆ ไม่ได้รับความนิยม เพราะเรื่องยืดเยื่อ ดีที่ไฟเขียวจากเบื้องบน ให้เขียนต่อไป ไม่ตัดจบ แต่อนิจจา มันหมดซึ้งความน่าสนใจใครหลายคนไปแล้ว แต่บางคนก็ยังตาม เพื่อหวังกองอวยของตนชนะ (ทำไมไม่เชยร์ฮาเร็มเลยว่ะ)
ผมเคนเขียนเอาไว้ว่า หากการ์ตูนแนวฮาเร็มของจัมป์เรื่องใดจบฮาเร็ม เรื่องนี้จะกลายเป็นตำนาน เพราะจัมป์ไม่เคยจบฮาเร็ม (ยกเว้น To Love Ru ที่จบภาคแรก มันมีภาคต่อกับนิตยสารอื่น ไม่ใช่จัมป์ ซึ่งรายนั้นเป็นตำนานไปแล้ว) หากแต่สุดท้ายนิโค่ยเลือกที่จะจบแบบธรรมดาสามัญ (ไม่มีพลิก) ด้วยการหักธงแบบโหด พระเอกกระจอก แต่เป็นที่ถูกใจของกองอวยผมทอง (หรือเปล่า?) ส่วนคนที่อุตส่าห์ซื้อนิยายอวยผมดำ คุณหนู มีอันต้องผิดหวัง ไปตามๆ กัน (ส่วนบางคนที่ทำสงครามกองอวย เมื่อสงครามจบ ก็กอดกัน และพูดว่า ทำไมเอ็งไม่ฮาเร็ม)
โดยส่วนตัว ตั้งแต่นิโค่ยจบ สบายตาขึ้นเยอะ ปกติไปทางไหน มีแต่กองอวยผมทอง ผมดำนางเอก แถมมันรามไปการ์ตูนฮาเร็มเรื่องอื่นด้วย พอนิโค่ยจบนี้ โครตดีใจ จะได้ไม่เห็นอีกแล้ว (แต่ถ้าเงียบสนิทจริงๆ ต้อง Love Rush! จบนี้แหละ)
และมันเซ็งตรงที่ ผมอุตส่าห์ซื้อรวบรวม ห่อปกไม่แกะอ่าน ซื้อนิยายด้วย หวังว่า ถ้าจบฮาเร็มจะไล่อ่าน แต่อนิจจา มันดันจบ (ทีอีปริกต่อมา ก็คือ คู่รองสมหวัง แต่คู่หลัก หลายคนผิดหวังเป็นแถบๆ แถมคนแต่งยังเอาตอนพิเศษมาฆ่าคนอ่าน ต่างคนต่างแยกย้ายกัน สร้างครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งที่แนวฮาเร็มเขาไม่ทำกัน เรียกได้ว่า กลายเป็นคนแต่งที่หลายคนโครตเกลียดไปแล้ว ... ผมนับถือความกล้าของคนแต่งจัง)
ต่อมา การ์ตูนอภิมหาออกทะเล อย่าง Bleach เทพมรณะ ก็จบเวลาไล่เลี่ยกัน เรื่องนี้ถึงขั้นเป็นดราม่าหนักบ้านในบ้านเรา เพราะเป็นการ์ตูนดัง และเคยเป็นการ์ตูนในดวงใจใครหลายคน หากแต่ช่วงหลังๆ ออกทะเล บางคนด่าหนักว่า โครตยืด ปมขยะ ย้อนอดีตชาติ พระเอกบทน้อย ตัวประกอบบทเยอะ นึกมุกไม่ออกก็แอ็คชั่นซื้อเวลาไป จบอันดับท้ายๆ หน้าสารบัญจัมป์ทุกครั้ง เป็นแบบนี้อยู่หลายปี ไม่มีวี่แววจะจบ จนกระทั่งปี 2016 มันก็จบเสียที
อย่างไรก็ตาม แม้ Bleach จะจบลง แต่มันก็ไม่สมศักด์ศรีของการ์ตูนในดวงใจหลายคนเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการ การต่อสู้รวบรัด (ทั้งๆ ที่ผ่านมา แค่สู้ศัตรูเกรดต่ำยังสู้ไปหลายตอน) จบแบบไม่สมเหตุสมผล ปมไม่เคลียร์ และที่สำคัญคือการจับคู่ตัวละครอย่าง อิจิโกะXฮิเมะ, เร็นจิ Xลูเคีย มันเป็นสิ่งที่หลายคนรับไม่ได้ แม้ว่าเนื้อเรื่องจะมีเหตุผลเอาไว้ แต่หลายคนก็รับไม่ได้อยู่ดี เพราะที่ผ่านมาอิจิโกะXลูเคียมันเป็นอะไรที่โครตฟินมาก (มันไม่เหมือนนารูโตะ ที่การจับคู่นั้นเป็นไปตามที่หลายคนวาดฝันเอาไว้ แต่บลิซนั้นมันตรงกันข้าม มันไม่ใช่คู่ที่หลายคนอวย) และซ้ำเติมด้วยการฉากหลายปีต่อมา พวกเขาเหล่านั้นก็สร้างครอบครัว และมีลูก เล่นเอาหลายคนไปไม่ไปเลยทีนี้
ด้วยจิตใจคั่งแค้นเหลือคณา ที่ฉากจบก็ไม่ได้ดั่งใจ แถมคู่รักในเรื่องก็ไม่ถูกใจแฟนๆ อีก ทำให้แฟนการ์ตูนหลายคนแทบจะฉีกหนังสือเล่มเก่าที่มีอยู่ทิ้ง บางคนถึงขั้นเปิดกระทู้ระบายความในใจในพันทิปแล้วเผา หนังสือ Bleach ทั้งกองโชว์ จนดราม่าไปทั่ว
นอกจากนี้ก็ยังมีการ์ตูนหลายเรื่องที่จบในปี 2016 ที่ไม่ได้กล่าวถึง เช่น AKB49 ~Renai Kinshi Jourei แต่ถ้าจะเอาที่โครตจบผิดหวังมากที่สุด ผมก็ยกให้ มังงะ Gokukoku no Brynhildr ที่ตัดจบแบบไม่ตั้งตัว ทั้งๆ ที่เนื้อหาสนุกน่าติดตามมาตลอด หากแต่ช่วงท้ายๆ กับทำเสียยี่ห้อ และตัดจบแบบมึนๆ ไม่ซาบซ่าเหมือนช่วงแรกเลยแม้แต่น้อย (ยังดีที่ตอนจบยังดีสดชื่นอยู่บ้าง ไม่ปวดใจเหมือนเรื่องก่อน)
จัมป์กับแนวฮาเร็ม จัมป์กับการลองแนวใหม่ๆ ก็ยังคงอยู่ในเรื่องของจัมป์ หลังจากนิโค่ยจบไป จัมป์ก็ยังคงตามหาการ์ตูนมาแทนที่ ซึ่งช่วงหลังๆ สังเกตว่าเราจะเห็นการ์ตูนของจัมป์ที่พยายามหลากหลายมากขึ้น สมัยก่อนการ์ตูนของจัมป์จะวนเวียน กีฬา ต่อสู้มิตรภาพ แต่หลังๆ จัมป์ก็เริ่มให้ความสำคัญเรื่องลายเส้น คอเมดี้ และฮาเร็มมากขึ้น
Yuragi-sou no Yuuna-san เป็นอีกหนึ่งของการ์ตูนแนวฮาเร็ม ที่จัมป์หวังเอาไว้ ซึ่งช่วงที่นิโค่ยใกล้จบ เรื่องนี้ก็ได้มาเสียบ และเริ่มได้รับความนิยมแบบเงียบๆ แม้จะไม่หวือหวา แต่ก็เกาะหนีโซนอันดับรั้งท้ายมาตลอดระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังๆ Yuragi-sou no Yuuna-san เริ่มอยู่ท้ายๆ ตาราง อย่างที่ผมว่าไว้ว่า ฮาเร็มนั้นคุณจะต้องหาอะไรที่แปลกใหม่ รูทที่สดใหม่มาเล่น แต่เรื่องนี้กลับวนเวียนเรื่องเดิมๆ ไม่มีอะไรดราม่าแรงๆ หรือทำให้เห็นว่าพระเอกนั้นมีความตั้งใจฮาเร็มเลย ทำให้มันเหมือนเป็นแนวฮเร็มดาษๆ ทั่วไปมากกว่า แถมเนื้อหาเป็นประเภทจบในตอน ทำให้ดูไม่ทรงพลังหรือความน่าติดตาม ไม่เหมือน To Love-Ru ที่มองเผินๆ เหมือนไม่มีเนื้อเรื่องหลัก แต่มันก็มีอะไรให้น่าติดตาม หรือน่าตกใจได้ตลอด
ดูเหมือนว่าจัมป์ จะไม่เหมาะกับฮาเร็มมากนัก นิโค่ยจบลงไม่สวย ให้อารมณ์แบบการ์ตูนรักๆ ธรรมดา ขณะที่ฮาเร็มเรื่องใหม่ Love Rush! ที่อุตส่าห์วางโครงเรื่องยาวเอาไว้ แต่เอาเข้าจริง มันก็อายุสั้นอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อมันจบลงไม่กี่ตอน หลังจากที่ตกอันดับท้ายสารบัญของจัมป์ไม่กี่สัปดาห์ก็ตัดจบเลย
จัมป์จะต้องเรียนรู้อีกมากเกี่ยวกับแนวฮาเร็ม จะใช้ฮาเร็มคอเมดี้ยุคเก่าไม่ได้อีกแล้ว หากเรามาดูฮาเร็มสมัยนี้ มันไม่ใช่ฮาเร็มจ๋าแบบสมัยก่อน มันเป็นฮาเร็มที่ใส่อะไรให้ดูแปลกใหม่ ไม่ให้น่าเบื่ออะไรเข้าไป รวมไปถึงการจบในแบบของมัน ไม่ใช่ยาวจนยืดแบบนิโค่ย ซึ่งไม่รู้ว่าจัมป์จะมีฮาเร็มที่ว่าหรือเปล่า
การเข้ามาของการ์ตูนเว็บสายมืดของเกาหลีในปี 2016 ปีนี้จะเห็นได้ว่า การ์ตูนเว็บจากจีน และเกาหลี จะมีให้เราอ่านมากขึ้น จากที่ผ่านมาการ์ตูนญี่ปุ่นสแกนจะเป็นใหญ่มาตลอด การ์ตูนว็บจีนนั้นจะเป็นการ์ตูนแฟนตาซีที่มีกลิ่นอายกำลังภายในหน่อยๆ แต่มีจุดเด่นที่การลงสีสวยสด แต่มีข้อเสียคือมันจบไวมาก ตอนหนึ่งไม่กี่หน้า มีกี่ช่อง
ในขณะเดียวกัน การ์ตูนเว็บจากเกาหลี (ใต้) จะมีเยอะกว่าปี 2015 ด้วยซ้ำ อันเนื่องมาจากการเฟืองฟูของการ์ตูนเว็บนั้นเอง ทำให้เราได้เห็นการ์ตูนเว็บมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน เราก็เริ่มเห็นสายมืดของการ์ตูนเว็บเกาหลีมากขึ้นด้วย (เคยมีคนบอกว่า มันเป็นเรื่องปกติ เพราะเกาหลีมันเด่นเรื่องอย่างว่าอยู่แล้ว) โดยการ์ตูนเว็บเกาหลีสายมืดนั้นค่อนข้างจะมีเนื้อเรื่องที่หลากหลาย จากดราม่าเหมือนละครเกาหลี ก็ออกไปทางโอเวอร์แฟตาซี ไปจนถึงพล็อตสายมืดแบบญี่ปุ่นก็มี (พวกข่มขืน, ทรมาน) ง่ายๆ เหมือนการ์ตูนสายมือของญี่ปุ่น เพียงแค่ใช้รูปแบบการ์ตูนเว็บมาดำเนินเนื้อเรื่องเท่านั้นเอง
-นอกจากนี้ปี 2016 ก็ยังเป็นปีแห่งความเซ็งหลายคน ที่นักเขียนบางคนประกาศหยุดงานแบบไม่มีกำหนด (หรือชั่วคราว) ไม่ว่าจะเป็น ซีรีย์เจ็ดบาปที่คนวาดขอหยุดชั่วคราว, อาจารย์วัวก็ประกาศหยุดพักวาดมังงะ Silver Spoon , Berserk คนเขียนก็หยุดเขียนอีกแล้ว (แต่จะกลับมาเมื่อต้นปี 2017) และมังงะ HunterXHunter ก็ประกาศหยุดพักแบบไม่กำหนดอีก (สองเรื่องหลังเป็นเรื่องปกติไปแล้ว) ทำให้แสดงให้เห็นว่าคนวาดการ์ตูนนี้ความเสี่ยงเยอะเหมือนกัน ทั้งอาการเจ็บป่วย และปัจจัยหลายอย่าง ที่อาจจะสร้างความเซ็งแก่คนอ่าน
-ส่วนที่เหลือก็เป็นการ์ตูนที่ติดตาม ที่มีทั้งเนื้อเรื่องเริ่มลุ้น กับหลายเรื่องที่ดรอปไป (เพราะมันถึงจุดที่รับไม่ได้แล้ว) เรื่องที่ยังคงลุ้นอย่างสนุก ของปี 2016 ก็คือ To Love Ru – Darkness หนึ่งในการ์ตูนที่หลายคนค่อนขอดว่าไม่มีเนื้อเรื่อง หรือลาล่าบทน้อย แต่ผมว่ามันสนุกทุกตอนเลยนะ มันได้ลุ้นว่าริโตะจะฮาเร็มหรือเปล่า (เชียร์จนไม่รู้จะเชียร์แล้ว) และที่ดีที่สุดคือการที่พวกสาวเริ่มสารภาพรักริโตะแล้วละ เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับการรอคอย เป็นต้นว่านามิสารภาพรักริโตะนี้ มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ เอาไปเลยสิบตาม ส่วนฮารุนะกับริโตะน่าจะเป็นช่วงเวลาค้างคาสุดๆ เพราะไม่รู้ว่าริโตะมันจะตอบยังไง แต่ที่แน่ๆ คงไม่เละแบบนิโค่ยหรอก แถมปีหน้าก็มีประกาศสำคัญด้วย ส่วนตัวแล้วอยากเห็นธงยุย กับนานะด้วย หวังว่าจะมี
-ส่วนโครตอีปริกที่สุด คือ Dead Tube มันถึงจุดที่ผมรับไม่ได้เสียแล้ว เมื่อการ์ตูนแสดงความโหดร้ายของมนุษย์ออกมา และสิ่งทัรับไม่ได้คือน้องสาวของพระเอก มันเป็นอะไรที่สุดๆ มาก ไม่ขอเล่าละกัน (เพราะยังไม่แน่ใจ แต่รับไม่ได้อยู่ดี) เอาเป็นว่าผมเลิกตามเรื่องนี้เป็นที่เรียบร้อย (ยังแค้นคนแต่งไม่หาย)
-ส่วนอีกเรื่องเด่นๆ ก็คือการหายไปของเว็บตรุกี เว็บซับที่อยู่คู่กับสายฟรีมาช้านาน ด้วยเหตุผลมากมาย ทำให้เว็บตุรกีต้องปิดตัวลง ซึ่งการปิดตัวของเว็บตรุกีจะมีผลกับแฟนซับหรือไม่ ก็ติดตามต่อไป เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ไม่รู้สึกไปเองหรือเปล่า เดี๋ยวนี้แฟนซับเริ่มออกช้าและเริ่มมีไม่กี่เรื่องที่แปลซับจนจบ
-เกือบลืมไป แม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับการ์ตูนไปเสียทีเดียว แต่มันก็มีผลไม่น้อย สำหรับคนที่อ่านการ์ตูนที่มาจากนิยายเว็บ เรื่องของเรื่องคือการล้างไพ่นิยายแผลของเว็บเด็กดี ที่ต้นเหตุมาจาก คนแปลนิยาย (จีน) เรียกเก็บค่าโดเนทแปลจากคนอ่าน ซึ่งถือว่าผิดกฎ (ตามความรู้สึก) ของใครหลายคน ทำให้เว็บเด็กดีออกกฎ นิยายแปลจีน ที่จะต้องอนุญาตต้นทางถึงจะแปลต่อได้ ซึ่งมีเว็บเด็กดีเท่านี้ที่มีกฎนี้ (เพราะเว็บเด็กดีเป็นเว็บใหญ่ หากเกิดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ตามมา ก็อาจถูกฟ้องร้อง เรียกค่าเสียหาย และโดนปิดเว็บได้) และนั้นทำให้นิยายแปลในเว็บนี้อยู่ยากขึ้น ส่งผลให้คนแปลนิยายหลายคนปิดนิยาย และออกจากเว็บเด็กดี เอานิยายแปลไปลงที่อื่น ซึ่งไม่เพียงนิยายแปลจีนเท่านั้น เพราะยังรวมนิยายแปลเกาหลี ไปจนถึงนิยายแปลญี่ปุ่น (ซึ่งปกตินิยายแปลญี่ปุ่นคนก็ไม่ได้เข้ามาอ่านมากสักเท่าไหร่) ก็โดนหางเลขไปด้วย ทำเอาเซ็งสำหรับสายอ่านนิยายแปลเลยทีเดียว เอาเป็นว่าหากใครอยากเขียนนิยายแปลในเว็บเด็กดีก็ต้องดูข้อควรระวังและทำตามกฎให้มาก และใครอยากอ่านนิยายเปลก็ลองไปหาเว็บใหม่ที่ลงเอาเอง ว่าเรื่องนี้ลงเว็บไหน
สำหรับเนื้อหาของบทความนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้ เพราะสิ่งที่อยากเขียนก็หมดแล้ว ส่วนปีใหม่นี้ วงการอนิเมะก็ยังคงอยู่กับรูปแบบเดิมๆ ส่วนอนิเมะหลายเรื่องก็เริ่มอยู่ในช่วงไคแม็กซ์ และหลายเรื่องเตรียมตัวจะจบในไม่ช้า ดังนั้นผมก็ขออวยพรว่าปี 2017 นี้ขอให้พบสิ่งดีๆ ในการ์ตูนที่ท่านติดตามนะครับ
ความคิดเห็น