คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #425 : Inu Yashik คุณลุงหุ่นจักรกลสุดเทพกู้โลก
ในที่สุดมังงะ Inu Yashikจากผู้วาดกันซึ ก็ได้ประกาศว่าจะทำเป็นอนิเมะ และภาพยนตร์คนแสดงเป็นที่เรียบร้อย โดยอนิเมะจะฉายในปี 2017 และภาพยนตร์จากฉายในปี 2018 ซึ่งการ์ตูนมังงะเรื่องนี้เหมาะมากในการทำเป็นอนิเมะและภาพยนตร์ เพราะมีเนื้อหาที่สนุก น่าติดตาม และเต็มไปด้วยข้อคิด ซึ่งในบทความนี้ก็จะพูดถึงมังงะเรื่องนี้
Inu Yashik
Inu Yashik เป็นการ์ตูนมังงะวาดโดย Oku Hiroya ที่มีผลงานเก่าอย่างกันซึ Gantz หากคุณยังจำกันซึได้ กันซึนั้นเป็นเรื่องที่ขายไซไฟ เซ็กต์ เรื่องเพศ ความรุนแรง ความโหดร้าย กับความลึกลับ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องที่น่าติดตาม หลายคนบอกว่ามันสุดยอดมาก และหวังให้ Inu Yashik สนุกเหมือนกันซึ
อย่างไรก็ตาม Inu Yashik ไม่ได้เป็นเหมือนกันซึ แม้ว่าจะมีอะไรหลายอย่างที่เหมือนๆ กันบ้าง แต่ก็มีบางสิ่งที่ไม่เหมือน
หากกันซึเป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีนิสัยค่อนข้างเห็นแก่ตัว และน่ารังเกียจแล้วละก็ Inu Yashik นั้นตรงกันข้าม เพราะตัวเองเรื่องนี้กลับเป็นชายสูงอายุคนหนึ่ง ชื่อ อินุ ยาชิกิ (ต่อไปนี้ ผมขอเรียกว่า “ลุง” ) เขาเป็นพนักงานเงินเดือนธรรมดา ที่พึ่งมีครอบครัวเมื่อยามแก่
อย่างไรก็ตาม ชีวิตของลุง ก็ไม่ได้มีความสุขนัก ภรรยาของลุงเป็นหญิงกลางคนที่มีนิสัยจู้จี้ และเด็กสองคน ลูกสาว และลูกชาย ก็ค่อนข้างมีนิสัยดูถูกลุงที่เป็นเพียงคนแก่ไม่เอาไหน ไม่มีความเคารพว่าลุงคนนี้เป็นพ่อแท้ๆ เลยแม้แต่น้อย คนที่ลูกสาวเป็นสาวมัธยมปลายที่กำลังสนใจชีวิตตนเองมากกว่าครอบครัว (อย่างน้อยไม่สนเรื่องพ่อ) ส่วนลูกชายเป็นนักเรียนที่โดนกลั่นแกล้ง และมองโลกด้านลบ
แม้ว่าลุงจะรักครอบครัว ทำงานหนักเพื่อครอบครัวทีความสุข แต่ชีวิตลุงไม่ได้อะไรตอบแทนเลย ทั้งๆ ที่เก็บเงินแทบตายเพื่อซื้อบ้าน แต่โดนครอบครัวมองลุงเป็นขยะอยู่ดี โดนย้ายบ้านภรรยาก็ดูถูกบ้านที่ลุงอุตส่าห์ซื้อมาว่ามันเล็กว่ะแถมอยู่ในตรอกอีกต่างหาก สู้บ้านข้างๆ บ้านโครตใหญ่โต แถมวันย้ายบ้านทิ้งลุงอยู่บ้านคนเดียว และพาไปกินร้านอาหารครอบครัวหรูๆ อีกต่างหาก (โครตน่าสงสารลุง)
ลึกๆ แล้วลุงอยากจะเป็นฮีโร่ ช่วยเหลือสังคม เกือบทุกวันที่ลุงไปทำงาน ลุงมักเจอสิ่งที่น่ารังเกียจของสังคม อย่าง คนโดนรังแก วัยรุ่นไม่มีมารยาท นักเลง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ลุงอยากจะเข้าไปแก้ไข อยากจะช่วยคนที่เดือดร้อนเหล่านั้น หากแต่ลุงก็ไม่กล้า
ครั้งหนึ่งลุงเห็นคนโดนวัยรุ่นไถเงิน เขาอยากจะไปช่วยเหลือ แต่ลูกชายของเขาห้ามเอาไว้ พร้อมกับพูดว่า “อย่าไปยุ่งเลย ไม่มีประโยชน์หรอก พ่อที่เป็นแบบนี้ ไม่ทำอะไรได้หรอก ครอบครัวของเรามันก็เหมือนฮอบบิทที่เอาแต่มุดอยู่ในรูได้แต่มองดูเท่านั้นแหละ”
ต่อมาลุงได้บอกกับครอบครัวว่าเขาอยากจะเรียกสุนัข เพราะเชื่อว่ามันจะทำให้เขามีความสุข แต่พอครอบครัวรู้ว่าสุนัขที่ลุงเลี้ยงเป็นสุนัขที่ถูกทิ้งและตัวมันโตอีกต่างหาก ก็ยิ่งมองลุงด้วยความเย็นชายิ่งกว่าเดิม
ความโชคร้ายของลุงยังมีต่อเนื่อง ต่อมาลุงได้รับผลตรวจสอบทางการแพทย์บอกว่า เขาเป็นมะเร็ง กระเพาะอาหาร มีชีวิตเหลืออยู่ไม่กี่เดือน ให้แจ้งครอบครัวของเขาทราบซะ หากแต่เมื่อเขาโทรศัพท์ไปหาครอบครัว ปรากฏว่าไม่มีใครรับสายเลย เพราะสมาชิกครอบครัวคิดว่ามันไม่สำคัญ
เย็นวันนั้น ลุงจึงเลือกปิดว่าเป็นโรคมะเร็งเพราะไม่อยากให้ใครเสียใจ และพาหมาไปเดินเล่น พวกเขามาถึงสวนสาธารณะ เขาก็ทรุดลงแล้วโอบกอดสุนัขของเขา ที่เวลานี้มันคือเพื่อนใหม่ของเขา แล้วร้องไห้
จากนั้นลุงก็เงยหน้าขึ้น เขาได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ใกล้กัน ชายหนุ่มคนนั้นกำลังมองอะไรบางอย่างบนฟ้า และเมื่อลุงมองตามก็พบว่ามีแสงไฟสว่างวาบ มันตกลงมายังที่พวกเขาอยู่อย่างรวดเร็ว จากนั้นสติของลุงก็หายไป
เมื่อลุงตื่นขึ้นมา เขาก็ยังใช้ชีวิตปกติ หากแต่สิ่งที่แปลกก็คือ ร่างกายของเขาดีขึ้น สายตาดีขึ้น ไม่เจ็บปวด ไปหาหมอตรวจมะเร็งก็พบว่าเครื่องเอ็กซเรย์ไม่สามารถฉายร่างกายภายในของลุงได้เลย และเมื่อลุงกลับบ้านก็ได้พบคำตอบ เมื่อลุงพบว่าร่างกายของตนเองไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป หากแต่เป็นหุ่นยนต์
เมื่อพบว่าร่างกายของตนเองเปลี่ยนไป ลุงก็ยังสับสนกับชีวิต ที่ไม่รู้ไปทางไหนดี จนกระทั่งระหว่างจูงหมาไปเดินเล่นเพื่อลำดับเหตุการณ์อยู่นั้น เขาได้พบชายจรจัดกำลังถูกกลุ่มวัยรุ่นรังแก ลุงจึงตัดสินใจเข้าไปช่วย และเขาก็พบว่าร่างกายหุ่นยนต์นั้นมันเทพมาก มันแข็งแกร่งไม่มีอะไรจะทำลายมันได้ ต่อยแตะก็ไม่รู้สึกเจ็บ กระสุนก็ยิงไม่เข้า (แค่รู้สึกเจ็บเหมือนมดกัด) แถมมีลำแสงเลเซอร์ทำลายรอบตัว พละกำลังเหนือมนุษย์ มีหูทิพย์ได้ยินระยะไกลมาก และที่น่ากลัวคือมันยังสามารถติดต่อสื่อสารเครื่องมือเกือบทุกชนิด โดยเฉพาะไวไฟ อินเทอร์เน็ต ซึ่งลุงได้กำจัดแก๊งเด็กเลว ด้วยการแฉทั้งหน้า ชื่อจริง และวีรเวร ไปทั่ว 2-จัง, ทีวี, อินเทอร์เน็ตยูทูปเลยทีเดียว จนแก๊งเด็กเลวจบสิ้นหน้าที่การงานและสังคมเป็นที่เรียบร้อย (นอกจากนี้ลุงยังบินได้, ตาทิพย์, การซ่อมแซมตนเอง, พลังรักษาขั้นเทพทำให้คนคืนชีพได้ด้วย)
หลังจากช่วยเหลือชายจรจัด ลุงก็ทรุดตัวลงและร้องไห้ เขาได้พบตนเองว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ยังความรู้สึกของความเป็นมนุษย์ ที่อยากช่วยเหลือคนอื่น ยังคงเป็นชายที่อินุ ยาชิกิ ยาจิโระอยู่ และนั่นเองทำให้ลุงตัดสินใจว่าเขาจะทำความดี ช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน โดยไม่หวังผลตอบแทน เพราะมันคือหลักญานที่ทำให้เขายังมีจิตใจของความเป็นมนุษย์อยู่
จากนั้น ฉากการตัดไปที่มุมมองของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่ชื่อ “ชิชิกามิ ฮิโระ” เขาเป็นเด็กหนุ่มที่อยู่ด้วยกันกับลุง ในวันที่ลูกไฟตกใส่ และเขาก็กลายเป็นหุ่นยนต์เหมือนกับลุง มีพลังเกือบเท่าเทียมกัน และมีความสามารถเหมือนกันทุกอย่าง หากแต่ชิชิกามินั้นแตกต่างจากลุงมาก เมื่อเขาใช้พลังเพื่อตนเอง ไม่ได้ใช้เพื่อคนอื่น
ฮิโระนั้นเป็นเด็กหนุ่มที่เลือดเย็น และทำใจเร็วกว่าลุง แม้กลายเป็นหุ่นยนต์ก็ยังคงใช้ชีวิตปกติ
วันหนึ่งชิชิกามิได้ไปเยี่ยมเพื่อนชายที่ขาดโรงเรียนหลายวัน (เพราะโดนกลั่นแกล้ง) ที่บ้าน ฮิโระได้พูดเรื่องจัมป์ เรื่องการ์ตูน และเรื่องฆาตกรต่อเนื่องที่ออกอาละวาดแถวๆ นี้ให้เพื่อนฟัง ก่อนที่จะบอกว่าตนเองไม่ใช่ฮิโระที่หลายคนรู้จักอีกต่อไป เขาคือหุ่นยนต์ พร้อมกับเปิดผิวนอกออก จนเห็นเครื่องยนต์ภายใน
ตอนแรกเพื่อนคิดว่าฮิโระเล่นกล ฮิโระจึงโชว์พลังให้เพื่อนดู ตอนแรกก็ยิงมือทำท่ายิงอีกาที่บินอยู่ ปรากฏว่าอีกาตายทันที จากนั้นก็ควบคุมสัญญาณโทรทัศน์ทุกเครื่องให้ฉายหนังโป๊ จากนั้นฮิโระก็เริ่มรุนแรงขึ้นด้วยการใช้ให้รถชนกันหลายคัน และนั้นทำให้เพื่อนเชื่อว่าฮิโระไม่ใช่คนธรรมดาอีกแล้ว
เมื่อฮิโระโชว์พลังเสร็จ เพื่อนยังคงสับสนกับการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่ฮิโระบอกว่าเขายังคงเป็นคนเดิม และเมื่อเพื่อนบอกว่าฮิโระน่าจะใช้พลังนี้ช่วยโลก แต่ฮิโระปฏิเสธ และบอกให้เพื่อนเขาไปโรงเรียน หากเขาไป เขาจะไปจัดการกับคนที่กลั่นแกล้งให้ ด้วยการ “ฆ่า” ให้หมด
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ฮิโระกลับบ้าน เขาได้ตัดสินใจอะไรบางอย่าง เขาได้เดินเข้าบ้านหลังหนึ่งที่เป็นของครอบครัวที่เขาไม่รู้จัก และเขาก็จัดการฆ่าคนในบ้านหลังนั้นอย่างเลือดเย็น ทั้งแม่บ้าน พ่อบ้าน ลูกชายที่ยังเด็ก และลูกสาวมัธยมปลายตายเรียบ
ชั้นยังมีชีวิตอยู่ ชั้นยังมีชีวิตอยู่ ฮิโระพูดประโยคนี้ระหว่างการฆ่า โดยเขาไม่รู้สึกเกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น
กลับมาที่ลุงอีกครั้ง วันนี้ลุงได้กลับบ้านเหมือนวันปกติ หากแต่จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือจากครอบครัวที่ฮิโระฆ่า ลุงจึงรีบไปช่วยเหลือ หากแต่ไม่ทันเวลา เพราะเมื่อไปถึงก็พบว่าคนในครอบครัวนี้ตายหมดแล้ว และระหว่างนั้นเองลุงก็ได้เจอเด็กหนุ่มฮิโระเข้า และนั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นของชะตากรรมของยอดมนุษย์สองคนที่เดินคนละเส้นทาง และเป็นขาวกับดำอย่างแท้จริง
Inu Yashik เป็นการ์ตูนที่ตีพิมพ์ในปี 2014 และมีลิขสิทธ์ไทย โดยรักพิมพ์ ซึ่งแม้จะมีเนื้อหาและการดำเนินเรื่องแตกต่างจากกันซึค่อนข้างมาก
กันซึนั้นเริ่มต้นด้วยตัวพระเอกที่นิสัยเห็นแก่ตัว ที่วันหนึ่งไปรู้จักเพื่อนคนหนึ่ง และเพื่อนคนนี้เป็นคนจิตใจดีกว่า และต่อมาทั้งสองก็ไปเจอกับสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความลึกลับ จะต้องทำภารกิจจับหรือฆ่ามนุษย์ต่างดาวที่เป็นเป้าหมาย เพื่อเอาคะแนนมาอัฟเกรด หรือให้ตนเองออกจากเกม
กันซึนั้นเป็นการ์ตูนที่เต็มไปด้วยความรุนแรง สื่อเรื่องเพศ เซ็กต์ ค่อนข้างมาก แต่ในขณะเดียวกันกันซึก็เป็นการ์ตูนที่ขึ้นหิ้งใครหลายคน (ยกเว้นผม) แต่นขณะเดียวกันกันซึก็เป็นการ์ตูนที่เกี่ยวกับการพัฒนาด้านจิตใจโดยเฉพาะพระเอกจากพระเอกที่ไม่ได้เรื่อง เห็นแก่ตัว ก็เริ่มจะกลายเป็นพระเอกที่ช่วยเหลือคนอื่น คิดถึงเรื่องคนอื่น การเสียสละ นอกจากนี้ยังได้เห็นการดิ้นรนของมนุษย์ภายใต้สถานการณ์ที่สิ้นหวัง ไปด้ว
แล้ว Inu Yashik ละ ได้ให้อะไรกับเรา
อย่างแรกเลย คือตัวเอกเรื่องนี้เป็น คุณลุงแก่ๆ ที่ดูอ่อนแอ และขี้โรค ซึ่งถือว่าแปลกมาก เพราะที่ผ่านมาเรามักเสพตัวละคร (พระเอก) ที่เป็นคนหนุ่มๆ หล่อๆ หนุ่มมัธยมปลาย ไม่ก็ขายวัยกลางคนที่เท่ๆ มากกว่า แต่เรื่อง Inu Yashik เลือกที่จะใช้ตัวละครที่คนอื่นไม่ใช้อย่างคนแก่มาเป็นพระเอกแทน ถือว่าเป็นสิ่งที่คนเราไม่ได้เห็น และเป็นของใหม่สำหรับใครหลายคนทีเดียว
จะว่าไปมันก็ไม่ได้แปลกใหม่นักสำหรับคนวาดกันซึ เพราะที่ผ่านมาคนวาดกันซึก็ให้ความสำคัญกับตัวละครที่สูงอายุ นิสัยดีๆ อยู่แล้ว ซึ่งกันซึเองก็มีตัวละครที่เป็นคนชราอยู่หลายคน ส่วนใหญ่จะคนชราเหล่านี้จะปกป้องใครบางคน ที่ตนรัก หรือทำเพื่อส่วนรวม จนทำให้คนอ่านรู้สึกเกิดความรู้สึกเศร้าเล็กน้อย เมื่อตัวละครที่เป็นคนชราตาย
หากใครยังจำได้ว่ากันซึก็มีตัวละครหนึ่ง ที่หน้าตาคล้ายๆ กับลุงเหมือนกัน (ผมจำชื่อไม่ได้) เป็นหนึ่งตัวละครที่น่าอวย และเป็นตัวละครที่มีฉากตายแล้วก็สร้างน้ำตาแก่คนอ่านพอสมควร สงสัยว่าคนแต่งเขาจะติดใจ เลยเอามาเขียนเป็นซีรีย์ใหม่เลย
Inu Yashik ยังสอดแทรกประเด็นสังคมญี่ปุ่น (ด้านที่ไม่ดี) ได้อย่างแนบแนบ เมื่อครอบครัวของลุงเป็นครอบครัวที่พบเห็นในปัจจุบัน เมื่อหัวหน้าครอบครัวไม่ได้เป็นผู้นำเหมือนในอดีต สมาชิกครอบครัวไม่รัก มองเพียงแค่คนหาเงิน ให้เงินกับตนเองเท่านั้น ในขณะที่ภรรยามีสิทธิมีเสียง และเป็นที่รักๆ ของลูกๆ มากกว่า (จะเห็นว่าภรรยาไม่ได้เป็นแม่บ้านอีกต่อไป แต่ทำงานพิเศษหารายได้สู่ครอบครัวด้วย) และลูกๆ ไม่เคารพ ลูกชายโดนกลั่นแกล้งแต่ไม่กล้าบอกครอบครัว เพราะส่วนหนึ่งเห็นพ่อเป็นคนอ่อนแอ ต่อให้บอกปัญหาก็คงไม่ช่วยอะไร
รอบๆ ตัวลุงก็เต็มไปด้วยสิ่งที่เรียกว่า “ขยะสังคม” เต็มไปหมด ไปรถไฟก็เจอพวกวัยรุ่นเบียดเบียนชาวบ้าน เดินไปตามทางเจอวัยรุ่นไถตังค์ รังแกคนจรจัด ลุงเห็นแล้วอยากจะช่วยเหลือคนเดือดร้อนเหล่านั้น แต่ตนนั้นก็ไม่กล้า อ่อนแอ และขี้ขลาด แต่เชื่อเถอะคนอ่านก็อยากตบกบาลเด็กนรกเหล่านั้นก็ไม่มากก็ไม่น้อย
เชื่อเถอะครับ เราเองก็ไม่แตกต่างจากลุงสักเท่าไหร่ ที่ต้องตัวเล็กกระจ้อยในสังคม อยากเด่นอยากดัง อยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี เจอแต่พวกเหี้ยๆ ในสังคม (ในเน็ตก็เจอเยอะ) อยากจับมาตบกบาล สั่งสอน แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าอยู่ดี
อยากมีพลังเว้ย ใครก็ได้มอบพลังที อยากใช้พลังนี้ทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น
“พลังมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่” ลุงเลือกที่จะใช้พลังเพื่อผู้อื่น โดยไม่หวังผลตอบแทน เพราะคิดว่าหากทำแล้วมันจะทำให้ตนยังคงเป็นมนุษย์อยู่ได้ เมื่อลุงได้กลายเป็นหุ่นยนต์ ลุงก็ทำสิ่งที่คนเราอยากจะทำ ก็มาถึงฉากสะใจพระเดชพระคุณฯ ลุงจัดการพวกขยะสังคมขยับไปขยี้ยากูซ่าแบบยกแก๊งค์แบบสะใจคนอ่าน
อย่างไรก็ตาม กรณีทำลายแก๊งค์ยากูซ่าก็แอบเหี้ยมโหดไม่น้อย รวมไปถึงการฆ่าทั้งเป็นกลุ่มทำร้ายชายจรจัด ก็พูดไม่เต็ม ก็พูดไม่เต็มปากมากนักว่าลุงเป็น “ฮีโร่” เพราะภาษาเกรียนบ้านเราจะเรียกศาลเตี้ย หรือล่าแม่มด ด้วยซ้ำ สิ่งที่ลุงทำนั้นเข้าข่ายว่า มันเป็นตัวแทนของสิ่งที่หลายคนอยากจะทำ เพราะเชื่อว่ามันดี มันสะใจมากกว่า
ยอมรับเลยว่าลุงเท่จริงๆ
อย่างไรก็ตาม เรื่องของลุงอาจโดนบดบังรัศมีอยู่บ้าง จากการเปิดตัว ของเด็กหนุ่มฮิโระ ที่หน้าตาละม้ายคล้ายกับพระเอกกันซึ (แต่คุโระหล่อกว่านิดหนึ่ง)
ฮิโระเป็นเด็กหนุ่มที่มีเนื้อหาเด่นพอๆ กับลุง หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะสิ่งที่ฮิโระทำในเรื่อง ล้วนกระแทกจิตใจของเราอย่างรุนแรง หลายฉาก พร้อมกับการตั้งคำถามว่าเหตุใดเด็กหนุ่มคนนี้ถึงเลือดเย็นแบบนี้
ทำไมฮิโระถึงเลือกที่จะฆ่าสังหารหมู่ครอบครัวคนอื่น แทนที่จะใช้พลังช่วยเหลือคนเหมือนลุง
ลุงเคยบอกกับ เพื่อนของเด็กหนุ่มว่า สาเหตุที่เขาช่วยเหลือคน “เพราะเขาคิดว่ามันทำให้ตนกลับเป็นมนุษย์อีกครั้ง”
ฮิโระเองก็มีความเชื่อว่า “หากเขาฆ่าคน เขาจะกลับเป็นมนุษย์อีกครั้ง”
คำถามต่อไป “ทำไมต้องสังหารหมู่ครอบครัวอื่นด้วย?”
หากเราดูประวัติชีวิตจะพบว่าฮิโระอาศัยอยู่กับแม่ ไม่มีพ่อ เพราะพ่อไปอยู่กับครอบครัวใหม่ที่สุขสบาย ส่วนตัวเขาและแม่นั้นมีชิวตที่ไม่มีความสุขมากนัก ทั้งไม่มีเงิน แม่ก็เป็นโรคที่ไม่มีวันรักษา ฮิโระมีความเกลียดชังสังคมรอบข้าแบบลึกๆ เกลียดครอบครัวคนอื่นที่มีความสุขเหมือนตน
เมื่อฮิโระมีพลัง เขาจึงตัดสินใจก่อคดีฆาตกรรมหมู่ต่อเนื่อง ค่าครอบครัวอื่น เพื่อยืนยันตนเองว่าเขายังมีอารมณ์ความเกลียดชังของมนุษย์ ไม่ได้เป็นหุ่นยนต์ที่ไร้ซึ้งจิตใจ
ในกันซึเอง ก็ใช้เนื้อหาในการเล่าเรื่องราวของวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยปัญหา การเก็บกด และการระบายออก แม้ว่าฮิโระจะเลือดเย็น แต่บางกระทำก็เราก็เข้าใจเขา อย่างเช่น ความรักแม่ และหากใครช่วยเหลือเขา เขาก็ตอบแทนตอบ แน่นอนว่ามันไม่สามารถลบการกระทำเลวร้ายที่ผ่านมาทั้งหมดได้ แต่เราได้เห็นว่าฮิโระก็เป็นตัวละครที่มีหลายมิติ ไม่ได้ดำไปเสียหมด และผมก็ยังเชื่อว่าการกระทำของฮิโระนั้นคงเป็นที่ถูกใจหลายคนไม่น้อย (เช่น ฆ่า พวกเกรียนคีย์บอร์ด ที่ยอมรับว่าผมสะใจกับฉากนี้มาก)
หลายคนอาจคิดว่าลุงและฮิโระคือตัวแทนของขาวกับดำ ลุงคือสีขาวนั่นคือความดี ส่วนฮิโระคือสีดำ หากแต่เอาเข้าจริงมันไม่ใช่ขาวกับดำ
อย่างที่บอกเอาไว้ แม้เราจะเห็นลุงเป็นคนดี แต่การกระทำของลุงหลายครั้ง เราก็ต้องคำถามเหมือนกันว่ามันดีจริงหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นศาลเตี้ย ฆ่าคนแบบตายทั้งเป็น จึงเป็นเหตุผลที่ไม่ได้เป็นสีขาวล้วน แต่เป็นสีเทา และฮิโระก็เป็นสีเทาเหมือนกัน
ทั้งสองไม่ได้เปรียบเป็นสีขาวกับสีดำ แต่เป็นตัวแทนของการใช้พลัง ที่เราตั้งคำถามว่าหากมีพลังที่ยิ่งใหญ่เราจะทำยังไง
กรณีของลุงคือคำตอบแรก คือ หากมีพลังยิ่งใหญ่ เทพๆ เราก็อยากจะช่วยเหลือคน และจัดการคนเลวในสังคม ให้สังคมน่าอยู่ แม้จะเป็นวิธีที่ผิดบ้าง แต่มันก็ทำให้สังคมส่วนใหญ่รับได้ ผู้คนสนใจ ผู้คนสรรเสริญ คนมีพลังก็รู้สึกฟินจริงๆ
กรณีของคุโระ ก็เป็นอีกคำตอบหนึ่งของคนที่มีความคิดคือพลังคืออำนาจ ใช้เพื่อตนเอง ทุกอย่างตามใจชอบ อะไรก็ได้ ไม่ต้องกลัวความรู้สึกผิด ไม่ต้องกลัวกฎหมาย เพราะเรามีพลังที่เหนือกว่าทุกสิ่ง มันก็เหมือน ที่คิดว่าตนนั้นสามารถทำอะไรก็ได้บนโลกใบนี้ ฮิโระไม่กลัวอะไรเลย อยากจะฆ่าใครก็ได้ตามใจชอบ โดยไม่ต้องกลัวกฎหมาย ขโมยเงินจากตู้ไอทีเอ็มได้อย่างง่ายดาย โดยไม่กลัวมาจับ แน่นอนว่าส่วนมากจะมีคนออกมาประณามมากว่าชม แต่ใครจะเป็นสน เพราะหากใครด่าว่า ก็ใช้พลังจัดการ เชือดไก่ทั้งลิงดู ใช้ความกลัวควบคุมคน เรียกได้ว่า เป็นนิสัยเผด็จการแบบครบสูตร
Inu Yashik อาจเป็นการ์ตูนที่แตกต่างจากกันซึ เพราะเน้นในเรื่องเล่าเรื่อง มากกว่าจะเน้นความปวดตับ หรือแอ็คชั่น จนมีบางช่วงที่ดูเนิ่บๆ ช้าๆ น่าเบื่อบ้าง (อารมณ์แบบว่า เมื่อไหร่พวกเอ็งจะตีกัน อยากเห็นอะไรแซ่บๆ) และนอกจากนี้ไม่ค่อยมีฉากเซ็กต์โจ้งแจ้งแบบกันซึ (แต่ก็มีบางวับแวมๆ และยาเสพติดไม่เหมาะกับเด็กดูอยู่ดี) จึงไม่ใช่การ์ตูนที่เด็กสมควรดูนัก (กันซึก็ไม่เหมาะให้เด็กดู) เหมาะสำหรับผู้ใหญ่มากกว่า
(แต่ถึงอย่างนั้น เชื่อว่าเด็กก็ดูอยู่ดี แถมคนแต่งก็จิกกัดด้วย คือมีฉากหนึ่งที่เด็กในเรื่องดูกันซึ (ภาคคนแสดง) บนทีวี ร่วมกับครอบครัว เหมือนประชดกลายๆ ว่าห้ามยังไง เด็กก็ดูอยู่ดีแหละ ครอบครัวไม่สนด้วยซ้ำ)
นอกจากนี้การ์ตูนยังเต็มไปด้วยความรุนแรง แม้หากไม่มากเท่ากันซึ (รายนั้น ตาถลน ไส้แตก ตัวผ่าเป็นซีก) แต่ก็ยังคงโหดร้ายทารุณอยู่ดี ยิ่งฉากฮิโระฆ่าครอบครัว พ่อ แม่ ลูก นี้ มันเป็นอะไรที่หดหู่แบบพูดไม่ถูก
ส่วนตัวแล้ว Inu Yashik เป็นการ์ตูนที่เล่าเรื่องค่อนข้างสนุก เต็มไปด้วยดราม่าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของครอบครัว สังคมญี่ปุ่น วัยรุ่น ผสมกับเรื่องไซไฟ แอ็คชั่น ดุเดือดเข้าไปหน่อย ก็ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้น่าติดตามมากขึ้น
ปัจจุบัน (ตอนที่เขียนอยู่นี้) Inu Yashik กำลังอยู่ช่วงสิ้นสุดการต่อสู้ของลุงกับฮิโระ แต่เรื่องก็ไม่จบง่ายๆ เพราะว่ามีการโปรยไว้แล้วว่าโลกกำลังจะถูกอะไรบางอย่างรุกราน ซึ่งก็ติดตามดูต่อไปว่าจะเป็นยังไงต่อไป
ความคิดเห็น