ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #424 : 10 โศกนาฏกรรมครอบครัวต้องคำสาป

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 60


    ครอบครัว หมายถึง การอยู่ร่วมกันของกลุ่มบุคคลที่เป็นสมาชิก ซึ่งมีความสัมพันธ์กันผูกพันกัน เช่น ความสัมพันธ์ทางสายเลือด หรือการรับเป็นบุตรบุญธรรม ... ครอบครัวถือว่าเป็นสถาบันพื้นฐานของสังคม หากครอบครัวดี สังคมรอบข้างก็จะดี ประเทศชาติก็จะดีด้วยเพราะมีบุคคลมีคุณภาพ

                    อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ครอบครัวทุกครอบครัวที่ดีไปเสียหมด มีหลายครอบครัวที่บิดเบี้ยว หัวหน้าครอบครัวมีนิสัยเลวร้าย หรือไม่ก็มีลูกนอกคอก ที่ทำร้ายตนเองและครอบครัวจนพัง  หรือผลกระทำของครอบครัวที่ทำไว้กับคนอื่นได้ส่งผลร้ายมาสู่ครอบครัวจนพินาศ สิ่งเหล่านี้เราก็ได้เห็นบ่อยๆ ตามข่าวหน้าหนึ่งเกือบทุกวัน

                    ในการ์ตูนญี่ปุ่น เรามักเห็นหลายเรื่องที่มีเรื่องสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง และมีหลายครั้งที่ครอบครัวต้องไปยุ่งกับอะไรบางอย่าง ที่เลวร้าย ทำให้เกิดความวิบัติสู่ครอบครัวและสมาชิกครอบครัว  อันเป็นเรื่องราวของเรื่อง  บางครอบครัวเราก็เอาใจช่วย บางครอบครัวก็แอบสมน้ำหน้า ดังนั้นในบทความก็ขอนำเสนอ 10 โศกนาฏกรรมครอบครัวต้องคำสาป ในการ์ตูนญี่ปุ่นกัน ว่ามีครอบครัวไหนบ้าง

     

                    10.ครอบครัวของยางามิ ไลท์

                   

                 ความจริงก่อนจะได้รับเดธโน้ต ครอบครัวของยางามิ ไลท์ยังคงเป็นครอบครัวที่แสนธรรมดา ยางามิ ไลท์เป็นนักเรียนมัธยมปลายที่หัวดี (แต่ไม่อัจฉริยะ) อันดับหนึ่งของประเทศ พ่อของไลท์คือยางามิ โซอิจิโร่ เป็นพ่อของไลท์และเป็นหัวหน้ากองสืบสวนญี่ปุ่น (NPA) ที่รักครอบครัว ส่วนแม่ ชื่อซาชิโกะก็กำลังปลื้มที่ลูกชายทั้งหล่อทั้งเก่งและรักและห่วงใยครอบครัวแบบสุดซึ้ง ส่วนน้องสาวก็ร่าเริงแจ่มใส นอกจากนี้ไลท์ยังมีแฟนอย่างทาคาดะ คิโยมิอีกต่างหาก

                    อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ยางามิ ไลท์ได้รับเดธโน้ตและตัดสินใจใช้มันเปลี่ยนโลก จากเด็กเรียนนิสัยดี ได้กลายเป็นคนเลือดเย็นเห็นชีวิตเป็นผักปลา ซึ่งนั้นทำให้ครอบครัวของไลท์ก็พบกับความวิบัติ พ่อของไลท์ต้องทุ่มเทตามหาฆาตกรต่อเนื่องคิระโดยไม่รู้ว่าลูกชายแท้ๆ เป็นคนทำ เพราะเขาเชื่อมั่นในลูกชาย และปกป้องมาตลอด แม้จนกระทั่งมาเสียชีวิตจากเหตุจับกุมแก๊งมาเฟียของเมลโล และเสียชีวิตในโรงพยาบาลโดยที่ยังคงเชื่อมั่นว่าไลท์ไม่ได้เป็นคิระ ทางด้านคนรักของไลท์ก็มีชีวิตเลวร้ายเช่นกัน อย่าง คิโยมิก็ถูกไลท์ใช้เป็นเครื่องมือสุดท้ายก็ให้ฆ่าตัวตายด้วยไฟ ส่วนมิสะไม่ทราบชะตากรรมหลังไลท์ตาย (มีเพียงแค่ภาพที่เธอยืนอยู่บนตึกสูงเท่านั้น สันนิษฐานว่าเธออาจฆ่าตัวตาย หรือหายไปตั้งลัทธิก็เป็นได้)

    สุดท้ายครอบครัวยางามิที่เหลืออยู่   แม่ก็ต้องเสียใจจากการจากไปของสามี และต้องดูแลลูกสาวที่อยู่บนรถเข็นเพราะบาดแผลทางใจจากการถูกลักพาตัวโดยแก๊งเมลโลเพื่อแลกกับเดธโน๊ต โดยไม่รู้ว่าลูกชายที่ตนปลื้มหนักหนาคือตัวต้นเหตุ

                    ในตอนสุดท้ายยางามิ ไลท์ได้เสียชีวิตลง ทางการเลือกจะปกปิดว่าไลท์เป็นคิระ ด้วยการโกหกครอบครัวว่าไลท์ถูกคิระฆ่า เพื่อให้โลกไม่รู้ตัวตนของเดธโน้ต และเพื่อความสงบสุขของครอบครัวยางามิ (เพราะการ “ล่าแม่มด” ของสังคมญี่ปุ่นเวลาสมาชิกครอบครัวคนใดคนหนึ่งทำเรื่องเลวร้ายอย่างฆาตกรรม มันเลวร้ายมาก)

                    สรุปได้ว่าโดธโน้ตเป็นไอเท็มที่สร้างความฉิบหายทั้งคนรอบข้างและคนเขียนมันด้วย

     


    9. ครอบครัวเอลริค

    หนึ่งในครอบครัวที่น่าเศร้าในการ์ตูนญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นไหนก็ตาม โดย ครอบครัวเอลริค มีหัวหน้าครอบครัว คือ แวน โฮเอนไฮม์เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุผู้ลึกลับ ได้แต่งงานกับทรีชา เอลริค   และได้ลูกชายสองคนคือ เอ็ดเวิร์ด (เอ็ด) และอัลฟอนส์เซ  (อัล)  ซึ่งภายหลังสองพี่น้องก็กลายเป็นตัวเอกซีรีย์เรื่องนี้ไป

                    เอ็ดเวิร์ด ไม่ชอบพ่อของเขานัก เพราะไมได้ทำหน้าที่เป็นพ่อที่ดี ไม่ชอบเล่น ไม่คุยกับลูก วันๆ เอาแต่หมกมุ่นกับการวิจัย อ่าหนังสือ อีกทั้งชอบเดินทางข้างนอกเป็นเวลานานๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเอ็ดเวิร์ดก็เดินทางไปและไม่กลับมาอีกเลย  ราวกับทิ้งครอบครัวไปเฉยๆ โดยไม่บอกกล่าว ยิ่งทำให้ความเกลียดพ่อของเอ็ดทวีความเกลียดชังมากขึ้น

                    ต่อมาแม่ของเอ็ด ก็ได้เสียชีวิตด้วยโรคร้าย  แต่เอ็ดไม่ยอมรับความสูญเสียนั้น เลยพยายามศึกษาวิชาเล่นแร่แปรธาตุ เพื่อชุปชีวิตแม่ หากแต่การชุปชีวิตเป็นสิ่งต้องห้าม เพรามันจะแลกสิ่งที่เท่าเทียมกว่า และนั่นทำให้เอ็ดสูญเสียขาซ้าย และอัลสูญเสียร่างกายทั้งหมดจากการแลกเปลี่ยนชุปชีวิตมนุษย์  แต่แทนที่ทั้งสองจะได้แม่กลับมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าเกลียดน่ากลัวขึ้นมาแทน

                    แม้เอ็ดจะล้มเหลวในการคืนชีพแม่ แต่เอ็ดยังกัดฟันสู้  เอ็ดใช้แขนขวาไปอีกเพื่อแลกกลับการนำวิญญาณน้องชายกลับมาแล้วเอามาใส่ในชุดเกราะ ต่อมาเอ็ดต่อแขนเทียมและขาเทียมที่เรียกว่าออโต้เมล์ จากนั้นจึงฟื้นฟูร่างกายจนได้รับเลือกเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งราชอาณาจักร ออกเดินทางและค้นคว้าความเป็นไปได้ทุกรูปแบบที่จะนำร่างกายของตัวเองและของน้องชายกลับคืนมา  โดยเฉพาะศิลานักปราชญ์ที่เชื่อกันว่ามันจะทำทุกสิ่งทุกอย่างสมปรารถนา

                    แต่การเดินทางของสองพี่น้องก็พบเหตุการณ์มากมาย ที่ไม่อยากรู้ เป็นต้นว่า ความลับของประเทศ กลุ่มคนที่ชักใยประเทศ รวมไปถึงความลับศิลานักปราชญ์ที่จะต้องใช้ชีวิตมนุษย์แลกมาเพื่อได้ศิลาสักก้อน ในที่สุดพี่น้องทั้งสองก็ได้พบกับพ่ออีกครั้ง และความจริงว่า พ่อของเขาแท้จริงแล้วคือศิลานักปราชญ์ที่มีชีวิต ไม่ได้เป็นมนุษย์ ครั้งหนึ่งเคยเป็นทาสของอาณาจักรโบราณครูเซลเสส  แต่ด้วยคำลวงของ โฮมุนครุสจึงทำการแปรธาตุมนุษย์ขึ้นมาทำให้กลายเป็นศิลานักปราชญ์ในรูปแบบมนุษย์และเป็นอมตะ ส่วนโฮมุนครุสก็กลายร่างเป็นมนุษย์หน้าตาเหมือนกับเขา พยายามชักใยประเทศเพื่อสังเวยมนุษย์เพื่อแปรธาตุศิลานักปราชญ์อีกครั้ง แน่นอนว่า ครอบครัวเอลริคจึงพยายามขัดขวางแผนการ  จนทำได้สำเร็จ หากแต่พ่อของเอ็ดได้ใช้พลังของศิลานักปราชญ์จนหมดและกลับไปสิ้นใจที่หน้าหลุมศพของทริชา

                    ส่วนเอ็ดได้สละวิชาแปรธาตุทั้งหมดเพื่อให้น้องชายกลับมาเป็นปกติ ในที่สุดเอ็ดก็ได้แต่งงานกับวินรี่ที่เป็นเพื่อนสมัยเด็ก ส่วนอัลเป็นแฟนกับเหม่ย จาง ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป

                    (อย่างไรก็ตาม ในอนิเมะเวอร์ชั่นแรก ที่คนแต่งยังไม่ได้คิดตอนจบ แต่คนทำจบแบบออริจินอลเอง โดยเปิดเผยว่าแท้จริงแล้วพ่อของเอ็ดเป็นเพียงแค่วิญญาณที่อาศัยในร่างของมนุษย์คนอื่น โดยใช้ศิลานักปราชญ์เท่านั้น แม้ว่าเอ็ดจะสามารถนำร่างของน้องกลับคืนมา แต่ตัวเองก็ถูกส่งไปอีกโลกหนึ่ง ไม่สามารถกลับมาหาวินรี่อีก และต่อมาก็ได้เห็นพ่อของเขาถูกฆ่าต่อหน้า แม้ว่าตอนหลังตนจะสามารถกลับมาโลกเดิมได้ แต่สุดท้ายตนเองก็จำเป็นต้องกลับไปต่างโลกอีก เพื่อยุติภัยที่จะเกิดขึ้น ผลคือเอ็ดไม่เจอวินรี่อีกเลย)


              8. กัซอยากมีครอบครัว 

            

               Berserk น่าจะเป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งชื่อกัซที่โหยหาครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเหมือนคนอื่นๆ หากแต่ชีวิตของกัซนั้นเลือกเกิดไม่ได้ แถมมีชีวิตที่เลวร้ายมาโดยตลอด เริ่มต้นนั้นกัซเกิดจากหญิงคนหนึ่งที่ถูกแขวนคอตายจนร่างเน่า  ซึ่งกัซได้ออกจากช่องคลอด และกำลังจะตาย หากแต่พอดีเวลานั้นมีกลุ่มทหารรับจ้างเผชิญผ่านมา และในกลุ่มนั้นมีผู้หญิงสติไม่ดีคนหนึ่งชื่อ ชีส   ได้พบกัซที่รอดชีวิตเข้า   จึงคิดเสมือนว่ากัซเป็นลูกของตนเอง จึงเอาไปเลี้ยงดู ท่ามกลางเสียงคัดค้านของกัลวีโน่สามีของชีส แต่ชีสที่เป็นบ้าก็ยังเลี้ยงดูกัซต่อไป

               ต่อมาชีสตายด้วยกาฬโรค กัลวีโน่ จึงฝึกให้กัซออกรบฆ่าคนตั้งแต่เด็ก เพื่อหาเงิน พร้อมกับ ดุ ตี และใช้กำลังกับกัซเสมอ แต่กัซคิดกับกัลวีโน่ว่าเป็นเสมือนพ่อแท้ๆของตนเอง แม้กระทั่งกัซจะถูกขายให้กับคนในกองทหารเพื่อนำไปร่วมประเวณี (ขุดทอง) แต่ตัวกัซเองไม่เชื่อ วันหนึ่งกัลวีโน่เสียขาจากสนามรบ ทุกคนในกองทหารก็คิดกันอยู่แล้วว่ากัซเป็นตัวกาลกีณีเพราะเก็บมาจากศพ แต่กัซก็ยังคงเลี้ยงดูกัลป์วีโน่ต่อไป

               จนกระทั่งคืนหนึ่งกัลวีโน่กำลังเมามายได้บุกเข้าไปในห้องนอนหมายจะฆ่ากัซ แต่กัซป้องกันตัวทันแต่พอรู้ตัวดาบก็ทะลุคอหอยของกัลวีโน่ไปแล้ว คนที่เข้ามาเห็นก็เข้าใจผิดคิดว่ากัซลงมือฆ่ากัลวีโน่ กัซจึงหลบหนีจนตกเหวไป ข้างล่างมีฝูงหมาป่ากัซดิ้นรนจนรอดมาได้ แต่ก็สลบไปโชคดีมีคนผ่านมาจึงช่วยกัซไว้

               4 ปีต่อมา กัซยังคงเป็นทหารรับจ้าง แต่ว่าอยู่คนเดียวไม่มีกลุ่มพวก เค้าได้สร้างผลงานโดยการล้มคนที่เก่งที่สุดของฝ่ายตรงข้าม ทำให้กรีฟีส ผู้นำกองพันเหยี่ยวสนใจตัวเขามากจึงช่วยให้มาร่วมด้วย และนั่นเองทำให้กัซมีเพื่อนผู้ในกองพันเหยื่ยวหลายคน จนกลายเป็นเพื่อนรักเพื่อนตาย จนกัซเรียกครอบครัวได้เต็มปาก

                หากแต่หลังจากการรบครั้งสุดท้าย กองพันเหยียวก็มีความชอบอย่างใหญ่หลวง แต่กัซตัดสินใจที่จะขอออกจากกองพันเหยียว ทำให้กรีฟีสทำสิ่งที่ผิดมหันต์ โดยที่ไปมีสัมพันธ์กับเจ้าหญิงของกษัตริย์เข้า เพื่อหวังเป็นใหญ่ให้เร็วที่สุด แต่ถูกจับได้และถูกนำตัวไปทรมาน ส่วน กองพันเหยี่ยวจึงถูกไล่ล่า มีเพียงแคสก้าเท่านั้นที่คอยนำทัพ กัซได้ข่าวจึงกลับมาช่วย และเมื่อทั้งคู่เจอกันอีกครั้ง ก็กลายเป็นคู่รักในที่สุด และทำให้กัซลืมเรื่องอดีตที่เลวร้ายไปได้

             ต่อมา พวกกัซได้บุกเข้าไปช่วยกรีฟีสออกมาได้ หากแต่สภาพกรีฟีสนั้นถูกทรมานหนัก จนกลายเป็นคนพิการหมดสภาพไปเรียบร้อย เมื่อกรีฟีสสิ้นหวังกำลังฆ่าตัวตาย แต่พอดีเจอกับเบเฮริทไข่จักรพรรดิ ที่สิ่งที่จะเรียกเทวทูต และที่พิเศษกว่านั้นคือมันเป็นเบเฮริทสีแดง กรีฟีสคือคนที่จะไปเป็นเทวทูตคนที่ 5 กรีฟีสบูชายันกองพันเหยี่ยวทั้งหมดทุกคนถูกตีตราเครื่องสังเวยและเป็นเหยื่อแก่ปีศาจทั้งหลาย ซึ่งกรีฟินเลือกสังเวยกองพันทั้งหมด เพื่อแลกกับอำนาจที่ยิ่งใหญ่นั้น

               หลังจากนั้นกองพันเหยื่อก็สังหารหมู่ หลายคนกลายเป็นอาหารเหยื่อของปีศาจร้าย มีเพียงกัซและแคสก้ารอดจากขุมนรกนี้เท่านั้น แต่สภาพทั้งคู่บอบซ้ำทั้งกายและใจขนาดนั้น กัซเสียมือข้างหนึ่งไป และต้องเห็นแคสก้าโดนเทนตาเคิล และโดนกรีฟีสข่มขืนอย่างหนัก จนแคสก้าเสียสติ และกลายเป็นบ้า และแท้งลูกจากเหตุการณ์นั้น ต่อมากัซได้กลายเป็นนักรบดำแห่งความแค้นที่ต้องการจะฆ่าสาวกและเทวทูตทั้งหมดเหมือนคนบ้าไม่มีผิด

               หลายปีผ่านไปกัซยังคงออกเดินทางตามล่าสาวกเรื่อยมา ส่วนแคสก้านั้น กัซปล่อยให้ทิ้งให้เพื่อนดูแล แม้ว่าทั้งคู่จากกัน แต่กัซยังคงเป็นห่วงแคสก้าเสมอ แต่แคสก้านั้นจำกัซไม่ได้เลย และหวาดกลัวเขาด้วยซ้ำ แต่กัซก็ไม่ได้เสียใจ เขาพร้อมปกป้องแคสก้าเรื่อยมา จนกระทั่งกัซได้พรรคพวกเพิ่มจากการผจญภัย  และพรรคพวกที่ว่าทำให้กัซได้กลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้ง และพร้อมที่จะปกป้องพวกเขาตลอดรอดฝั่ง


    7. ครอบครัวกาไซ

    ครอบครัวของอามาโนะ ยูกิเทรุและกาไซ ยูนะ ล้วนมีชีวิตที่น่าเศร้า (แม้ตอนหลังจะมีความสุขก็เถอะ) จะว่าไป ผู้เล่นในเกมแห่งความตายเรื่องนี้ ล้วนมีครอบครัวบิดเบี้ยวๆ อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว หลายคน เป็นต้นว่า พ่อแม่เป็นสาวกบ้าลัทธิ, พ่อที่รักหมายิ่งกว่าครอบครัว

     เริ่มจากยูกิโทรุ  เด็กผู้ชายมัธยมต้นปีที่ 2 ค่อนข้างเป็นคนเก็บตัวและหลีกเลี้ยงปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น เขาอาศัยอยู่กับแม่ ที่หย่ากับพ่อ เพราะพ่อของเขาติดหนี้ก้อนโต ต่อมาหลังจากที่ยูกิโทรุได้เล่นเกมแห่งความตาย เรียก็ถูกฆ่าโดยอดีตสามี และต่อมาพ่อของยูกิโทรุก็ถูกฆ่าอีก

                    อย่างไรก็ตาม  ครอบครัวของยูกิเทรุเทียบไม่ได้กับครอบครัวของกาไซ ยูนะ ที่บ่บอกเป็นอย่างดีว่าเพราะสถาบันครอบครัวมันเลวเลว ลูกจึงกลายเป็นคนโรคจิต โหยหาความรัก (ยันเดเระ) ได้ถึงขนาดนี้ โดย กาไซ อูชิโอะ - พ่อของกาไซยูโนะ เจ้าของธนาคารกาไซ หมกมุ่นกับงานจนไม่มีเวลากลับบ้าน  ส่วน แม่ของกาไซยูโนะ เป็นแม่บ้าน มีอาการทางจิต เมื่อเครียดมาจากสามี  แต่แทนที่จะโทษตัวเอง แต่กลับไปลงกับยูโนะอย่างทารุณ โดยเฉพาะการลงโทษขังลูกสาวในกรุงที่มืดมิด ในที่สุดยูโนะก็เริ่มมีอาการทางจิต และได้ฆ่าพ่อแม่ ด้วยการขังพวกเขาไว้ในกรงจนอดอาหารตาย และหมกศพไว้ในบ้าน

                    อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มันซับซ้อนยิ่งกว่านั้น เพราะยูโนะครอบครัวต้องคำสาปนั้น เป็นโลกคู่ขนานที่สองของยูโนะเท่านั้น  (เรื่องนี้มีโลกคู่ขนานอยู่สามโลก โลกที่หนึ่ง เป็นโลกที่กาไซยูโนะเอาชนะทุกคนได้ , โลกที่สองคือโลกที่ดำเนินเรื่องหลัก และโลกที่สาม เป็นโลกในตอนท้ายของมังงะและอนิเมะ)

    โลกที่ยูกิโทรุอยู่ ที่ดำเนินเรื่องจริงๆ คือโลกคู่ขนานที่สอง โดบยูโนะที่เป็นโรคจิตในโลกคู่ขนานที่หนึ่งได้ฆ่ายูโนะและครอบครัวในโลกคู่ขนานสองเพื่อสวมรอยแทน ทั้งคู่ได้เล่นเกมแห่งความตาย จนในที่สุดเกมแห่งความตายก็เหลือเพียงยูกิโทรุและยูโนะอีกครั้ง แต่ครั้งงนี้ยูโนะเหลือที่จะฆ่าตัวตาย เพราะให้ยูกิโทรุเป็นพระเจ้า ผลคือยูกิโทรุจากโลกคู่ขนานที่สองก็ได้กลายเป็นพระเจ้า เปลี่ยนอนาคตให้ยูโนะในโลกคู่ขนานที่สาม ก่อนที่ยูกิโทรุก็ได้เจอกับยูโนะที่จำเรื่องราวทั้งสองโลกได้ และทั้งคู่ก็จบอย่างมีความสุข


    6.ตระกูลโจโจ้

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ JoJo no Kimyou na Bouken

    หากไม่พูดถึงตระกูลโจโจ้ก็ขาดอะไรอยู่ เพราะถือว่าเป็นตระกูลต้องคำสาปอย่างแท้จริง เพราะไม่ว่ารุ่นไหนต้องพบกับโศกนาฏกรรม และการต่อสู้เกือบทุกรุ่น

    มันเริ่มมาจากตระกูลโจสตาร์ ตระกูลขุนนางเก่าของอังกฤษที่ร่ำรวย มั่งคั่ง โดยมีจอร์จ โจสตาร์เป็นหัวหน้าต้นตระกูล วันหนึ่งเขาประสบอุบัติเหตุรถม้าตกข้างทาง และระหว่างนั้นก็มีชาวบ้านคนหนึ่งชื่อดาริโอ บรันโดได้แอบมารูดทรัพย์รถม้าของจอร์จ หากแต่เมื่อจอร์จได้คืนสติจึงคิดว่าดาริโอเป็นผู้ช่วยตนและได้มอบแหวนของภรรยาที่ตายให้กับดาริโอเพื่อไปประกอบอาชีพ แต่เมื่อดาริโอป่วยใกล้ตายจงบอกให้ลูกายของเขาชื่อดิโอ บรันโด เข้ามายังตระกูลโจสตาร์เพื่อครอบครองสมบัติของตระกูลโจสตาร์และสืบทอดตระกูลบรันโดต่อไป (พล็อตอย่างกับบ้านละครน้ำเน่าไทย) และจอร์จยินดีรับดิโอเข้ามาเป็นบุตรบุญธรรม รวมถึงรับเลี้ยงดิโออย่างเท่าเทียมเสมอกับโจนาธาน(โจโจ้) ที่เป็นลูกชายแท้ๆ คนเดียวของตระกูลโจสตาร์

    ดีโอนั้นเป็นพวกกินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา ดิโอมีนิสัยทะเยอทะยาน ชอบกลั่นแกล้งโจโจ้เสมอทันทีที่มีโอกาสทุกครั้ง เมื่อโตดิโอทีพยายามฆาตกรรมพ่อบุญธรรมของตนด้วยการวางยาพิษ ต่อมาโจโจ้ก็ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อเปิดโปงความเลวร้ายของดีโอได้ในที่สุด

    อย่างไรก็ตามดีโอก็ไม่ได้ยอมแพ้ เขาได้ตัดสินใจใช้สวมหน้ากากศิลาที่เป็นไอเท็มต้องคำสาปที่ใครสวมหน้ากากจะกลายเป็นผีดิบแวมไพร์ และนั่นเองทำให้ดีโอกลายเป็นแวมไพร์ไปในที่สุด

    แม้ว่าโจโจ้จะสามารถทำชนะดีโอมาได้ แต่พ่อของเขาก็เสียชีวิตหลังเหตุการณ์นั้น ซ้ำร้ายดีดีโอยังไม่ตาย แถมยังรวบรวมเหล่าผีดิบจำนวนมาก ตั้งตนเป็นเจ้าจนกลายเป็นภัยกับมนุษย์ ต่อมาโจโจ้ก็ฝึกวิชาวรยุทธ์คลื่นมนตรา (อย่างกับหนังจีน) และเอาชนะผีดิบดีโอได้สำเร็จ

    เวลาผ่านมาไม่นานโจโจ้แต่งงานกับ เอริน่า เพนเดิลตั้น เพื่อนสมัยเด็ก  และฮันนีมูนกันบนเรือสำราญ และโจโจ้ก็พบว่า ดีโอ ยังไม่ตายและตามมาล้างแค้นโจโจ้บนเรือ ซึ่งคราวนี้โจโจ้เสียท่าให้ดีโอจนมีสภาพบาดเจ็บเกินกว่าจะต่อสู้ได้ จึงตัดสินใจทำลายเรือ พลีชีพตนเองไปพร้อมกับดีโอจมลงไปในทะเล และช่วยชีวิตเอริน่า กับลูกในท้อง และเด็กหญิงคนหนึ่งไว้ ซึ่งต่อมาลูกในท้องก็ได้แต่งงานกับเด็กผู้หญิงรอดชีวิตคนนั้น จนเกิดมาเป็น โจเซฟ โจสตาร์ ตัวเอกในภาคที่ 2

    แน่นอนว่าเรื่องราวของโจนาธานเป็นเพียงปฐมบทของซีรีย์ยาวรุ่นลูกรุ่นหลานของโจโจ้เท่านั้น อีกทั้ง ตัวเอกโจโจ้เกือบทุกรุ่นต้องเข้าสู่วังวนการตามล่า ถูกล่า  ต่อสู้ เห็นเพื่อนตาย เกือบตาย หลายครั้ง  โดยเฉพาะรุ่นของคูโจ โจทาโร่ ดีโอก็ยังไม่ตายเพราะเขาได้เชื่อมหัวต่อกับร่างกายจนกลายเป็นแวมไพร์ที่กล้าแกร่งกว่าเดิม  แต่คูโจ โจทาโร่ต้องฆ่าดีโอ เพราะ โฮลี่ ลูกสาวของโจเซฟ หรือคุณแม่ของโจทาโร่ได้มีอาการทรุดหนักเนื่องจากมีสแตนด์เกิดขึ้นมาภายในตัว ซึ่งสแตนด์นี้มีการส่งผลในทางที่เลวร้าย ทำร้ายร่างกายของตนเพราะว่า ดีโอ บรันโดได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา โจเซฟพรรคพวก ร่วมกันออกเดินทางเพื่อตามล่าหาทางกำจัดดีโอ เพื่อแก้คำสาปที่กำลังทำร้ายแม่ของตน ซึ่งเป็นภาคที่สนุกที่สุด

    จนถึงตอนนี้เรื่องราวของโจโจ้ก็ไม่จบ แม้จะอยู่ในภาค 8 ซึ่งเป็นคู่ขนาน (ภาคที่ไม่เกี่ยวกับโจโจ้ 1-6) ตระกูลโจโจ้ก็ยังอยู่ในโศกนาฏกรรม


    5.ตระกูลอิชิโรมิยะ

    หนึ่งในตระกูลที่ดราม่า น่าเศร้า เลวร้าย และน่าปวดหัวที่สุดเท่าที่ดูมา โดยตระกูลอิชิโรมิยะ เป็นตระกูลใหญ่ร่ำรวย ที่มีหน้าหน้าครอบครัวชื่อคินโซ ที่ว่ากันว่าที่เขากลายเป็นอภิมหาเศรษฐี เพราะเขาได้ขอให้แม่มด เบอาทรีเช เสกทองให้ เขามีบุตรอยู่ 4 คน หากแต่เมื่อบุตรเหล่านี้เติบใหญ่ มีครอบครัว มีลูก มีหลาน หากแต่ลูกๆ ของเขาไม่สามัคคีกันเลย บางคนยังทำเรื่องเสื่อมเสีย ทำธุรกิจล้มเหลว แถมยังแก่งแย่งสมบัติ เป็นเหตุทำให้เขาเขาเกลียดชังบรรดาลูกๆ ทั้ง 4 คนมาก จนเปรียบเทียบว่ามันอีแร้งรุมทึ้งสมบัติ อีกทั้งในช่วงปั้นปลายสุดท้ายเขาล้มป่วยลงด้วยโรคที่รักษาไม่หาย และเขารู้ตัวดีว่าจะจากโลกนี้ไปในไม่ช้า

    ตระกูลอิชิโรมิยะมีประเพณีหนึ่งที่ต้องทำ คือการจัดงานรวมญาติ ที่คนในตระกูลจะต้องมาพร้อมเพียงกัน โดยคินโซได้เรียกบรรดาลูกๆ หลานๆ ทั้งหมด 11 ชีวิต (และคนใช้อีก 6 คน) ให้มางานใน วันที่ 4 ตุลาคม 1986  บนเกาะ “รคเค็นจิมะ” เกาะที่โดดเดี่ยวในมหาสมุทร โดยหารู้ไม่ว่าความเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น

    เมื่อสมาชิกอยู่กันพร้อมหน้า แทนที่จะดีใจกัน กลับทะเลาะกันแย่งสมบัติ และเอาเรื่องส่วนตัวมาเผากันอย่างเมามัน ขณะข้างนอกพายุเริ่มมา(แววฆาตกรรมยกเกาะเริ่มโชยมาเลยวุ้ย) โทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งสัญญาณวิทยุถูกตัดขาดทำให้เกาะแห่งนี้ถูกปิดตายจากโลกภายนอก  ในที่สุดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่น่าสยดสยองขนพองก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อคนในตระกูล และคนรับใช้ถูกฆ่าตายทีละคน ทีละคน  สภาพศพบ่บอกถึงความโหดร้ายทารุณป่าเถื่อนเกินกว่ามนุษย์จะทำได้

                    แม้เหล่าผู้มีลมหายใจพยายามป้องกันตัว และระวังให้กันและกันอย่างสุดชีวิต แต่ก็ยังมีเหยื่อถูกฆาตกรรมคนแล้วคนเล่า ศพรายที่เจ็ด...ศพรายที่แปด...ศพรายที่เก้า.....ศพรายที่สิบ....ทุกศพล้วนถูกฆาตกรรมในห้องปิดตาย ไร้ร่องรอยหลักฐาน และสภาพศพพิศวง หลายคนเชื่อว่านี้เป็นคดีเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะเวทย์มนต์เหนือธรรมชาติ  จนในที่สุดตระกูลอิชิโรมิยะก็เหลือเพียงไม่กี่คน หนึ่งในนั้น อุชิโรมิยะ แบทเลอร์พระเอกของเรื่อง เขาไม่เชื่อว่าคดีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่เป็นฝีมือของมนุษย์ และนั่นเองทำให้ แม่มดทองคำเบอาทรีเชปรากฏตัวต่อหน้าเขา และท้าดวลให้แบทเลอร์สืบสวนคดีนี้

                    Umineko no naku koro ni เป็นซีรีย์ที่สร้างความมึน งง แก่ผู้ดูเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งมีถึง 8 บท เล่าในมุมมองแตกต่างกัน และที่โครตน่าสงสารคือตัวพระเอกต้องวนลูปดูการตายของครอบครัวตนเองซ้ำแล้วล้ำเล่า อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเป็นซีรีย์เมากาว แต่มันก็เป็นซีรีย์ที่เด่นชัดในการเลี้ยงดูครอบครัวหนึ่งที่สอน คนในครอบครัวสนใจเรื่องชื่อเสียง เงินตรา และอำนาจ มากกว่าที่จะสอนเรื่องความรักพี่รักน้อง คนรอบข้าง ศีลธรรมที่ดีงาม จนกลายเป็นครอบครัวที่บิดๆ เบี้ยวๆ และพบกับโศกนาฏกรรมไปในที่สุด


    4. มิองและชิอง

    เรื่องราวสองพี่น้องมิองและชิอง จากเรื่องแววเสียงเรไร นั้นโครตดราม่า และน่าปวดหัว  พอดีผมลืมไปแล้ว จึงขอเล่าแบบที่เข้าใจ เรื่องมีอยู่ว่า มิอง และชิอง นั้นเป็นสองพี่น้องฝาแฝดกัน แบบแยกกันไม่ออก มิองเป็นพี่สาว ส่วนน้องสาวคือชิอง  แต่ทั้งคู่ชอบสลับตัวกันบ่อยๆ จนคนรอบข้างมักสับสน

    ชีวิตคู่ควรปกติสุขดี ยกเว้นสถานที่ที่เธอเกิดนั้นเป็นตระกูลหัวหน้าหมู่บ้าน และหมู่บ้านแห่งนี้มีประเพณีสืบทอดหัวหน้าหมู่บ้าน นั้นคือประเพณีสักตราประจำตระกูลที่กลางหลัง และวันที่สืบทอดตระกูล ผู้นำประกูลก็ควรเป็นมิอง หากแต่วันนั้นกลายเป็นว่าชิองได้เป็นผู้นำตระกูลแทน เพราะทั้งคู่สลับตัวกันโดยไม่บอกใคร (และไม่กล้าบอกใคร) ผลคือ น้องสาว “ชิอง” ได้เป็นผู้นำตระถูลและได้ใช้ชีวิตในฐานะพี่สาว “มิอง” ส่วนพี่สาว “มิอง” กลายเป็นคนที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรและได้ใช้ชีวิตเป็น “ชิอง” แทนเรื่อยมา

    ชิอง (ในคราบมิอง) นั้นใช้ชีวิตอย่างมีความสุข   และมีคนที่ชอบคือพระเอกเคอิจิที่พึ่งย้ายมา กลับกันชีวิตของมิอง (ในครอบของชิอง) ที่ในฐานะน้องสาวนั้นกลับเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง หลังจากที่ชิอง (ในครอบของมิอง) ได้กลายเป็นผู้สืบทอดตระกูล คนที่เป็นน้องจะต้องถูกฆ่าตามกฎ ตามคำสั่งของยายที่หัวโบราณ (และโรคจิต) หากแต่ชิง (ในคราบมิอง) ได้ขอเอาไว้ ทำให้ มิอง (ในคราบของมิอง) ถูกส่งไปโรงเรียนประจำนอกหมู่บ้าน

    ในเวลาต่อมา มิอง (ในคราบของชิอง) ได้รู้จักกับโฮโจ ซาโตชิ และเกิดความชอบ หากแต่ต่อมาซาโตชิได้หายตัวไปอย่างลึกลับ เป็นเหตุทำให้มิอง (ในคราบของชิอง) เกิดอาการเครียด กลายเป็นโรคประสาท  เชื่อว่าคนในหมู่บ้านเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของซาโตชิ ตอนแรกมิอง (ในคราบของชิอง) จะฆ่าชิอง (ในคราบของมิอง) หากแต่จิตใจด้านดีได้หักห้ามเอาไว้ แต่เธอก็ยังคงเกือบกดจนกลายเป็นยันคิเระไปในที่สุด

    ความจริงตอนแรก ๆ มิอง (ในคราบชิอง) ยังปกติอยู่ และลืมเรื่องของซาโตชิไปหมดแล้ว จนกระทั่งการมาของเคย์อิจิ ทำให้มิอง (ในคราบของชิอง) ได้เห็นเคย์อิจิเป็นตัวแทนของซาโตชิ ต่อมาก็อาการทางจิตก็กำเริบ (ต้นเหตุมาจากเคย์อิจิให้ตุ๊กตาแก่เรย์นะแทนที่จะเป็นเธอ เลยเกิดยัน) คิดว่าคนในหมู่บ้านจะฆ่าตน  มิอง (ในคราบของชิอง) ก็เลยตามล่าผู้คนที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวของซาโตชิ เริ่มจากทรมานยายตนเองจนสิ้นใจตาย ขังชิอง (ในคราบของมิอง) เอาไว้ในกรง ฆ่าเพื่อนๆ ของเคอิจิและคนในหมู่บ้าน (ผู้ใหญ่บ้าน ซาโตโกะ ริกะ) ตายอย่างเหี้ยมโหด และยังหลอกเคย์อิจิว่าตัวการที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของชิอง (ในคราบของมิอง) อีกต่างหาก สุดท้ายยังตามล่าเคย์อิจิถึงโรงพยาบาล (เคย์อิจิไม่ตาย) และกลายเป็นบ้าตกตึกตายไปจบบทเบิกเนตร

    ทั้งหมดนี้คือ ความน่าปวดหัวของ Higurashi no Naku Koro ni แม้จะดูแล้วเข้าใจยาก แต่ความรุนแรง ความหลอน ความโหดร้ายของเรื่อง ก็ทำให้หลายคนติดตามเรื่องนี้ และกลายเป็นการ์ตูนที่ดีที่สุดในเวลานั้น อย่างไรก็ตาม บทของมิองเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของเรื่องนี้เท่านั้น  


    3.ครอบครัวของชินจิ

    หนึ่งในครอบครัวที่มีชื่อเสียงจนถึงทุกวันนี้ และมันน่าเหลือเชื่อมากที่ครอบครัวหนึ่งจะมีผลต่อโลกอย่างใหญ่หลวง มันเริ่มมาจากโลกของ Evangelion ได้ถูกสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเทวทูตบุกโจมตี จนเกือบโลกเกือบล่มสลาย แต่ต่อมาด้วยความช่วยเหลือขององค์กรสหประชาติที่กำลังพยายามฟื้นฟูสภาพจนกลับมาอีกครั้ง และแน่นอนก็มีการตั้งองค์กรที่เรียกว่าเนิร์ฟ หาทางรับมือกับเทวทูตที่จะมารุกรานอีกครั้งด้วย

    อิคาริ เก็นโค เป็นผู้บัญชากรองค์กรเนิร์ฟสาขาญี่ปุ่น ครั้งหนึ่งชีวิตของเขานั้นเคยมีครอบครัวที่อบอุ่น โดยได้แต่งงานกับอิคาริ ยูกิ (ใช้นามสกุลภรรยา โดยสนามกุลเดิมคือ โรคุบุนกิ) และได้กำเนิดลูกชายคนเดียวก็คือชินจิ พระเอกของเรื่อง  หากแต่ต่อมาภรรยาของเขาเกิดไปเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการทดลองเดินเครื่องเอวาหมายเลข 01 จนเป็นตราบาปติดตัวเขามาจนถึงทุกวันนี้ เพื่อไม่ต้องการสูญเสียลูกชายของตนไปอีกคน จึงจำเป็นต้องฝากชินจิไว้กับคุณครูที่รู้จัก ทำลายความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวกับยูอิและผลักดันโปรเจ็กค์เอวา  ทำทุกๆ ทางในการเปิดพรมแดนแห่งพระเจ้า เพื่อนำเอาภรรยาของตนกลับคืนมาให้ได้

    ต่อมาชินจิก็โตขึ้น กลายเป็นหนุ่ม เขาได้กลายเป็นเด็กที่มีปัญหา ชอบปลีกตัวเองจากสังคม อมทุกข์ ขาดความอบอุ่น และคิดว่าตัวเองไม่เป็นที่ต้องงการของใครๆ ถึงตัวเขาจะตายไปก็ไม่เป็นไร และเขายังเกลียดพ่อที่ทิ้งเขาเป็นเด็ก โดยไม่มีเหตุผล อย่างไรก็ตาม หลังจากเทวทูตบุกโตเกียวอีกครั้ง ชินจิก็ถูกบิตาเรียกตัวไปประจำการเป็นนักบินของอีวานเกเลียน หมายเลข 01 เพื่อต่อสู้กับเทวทูต หากแต่ตอนแรกๆ ชินจิปฏิเสธคำสั่ง เพราะเขาเกลียดพ่อ ที่นึกจะทิ้งก็ทิ้ง พอมีงานก็มาสั่งดื้อๆ  (ส่วนตัว ผมว่า ชิยจิ มันน่าอิจฉาที่สุดในบรรดา แนวหุ่นขับอีกนะ โห ได้อยู่กับครูสาวสวย ได้ขับหุ่นโครตเท่ มีสาวคูล สาวซึนเดเระล้อมหน้าล้อมหลัง แถมเบ่งพ่อกรูใหญ่ โครตอิจฉาจริงๆ พับผ่า)

    แม้ว่าชินจิมองพ่อว่าเป็นคนเย็นชา และเด็ดขาดไม่สนใจต่อคำขัดแย้งใดๆ ทั้งๆ ที่จริงแล้ว พ่อของชินจินั้นรักลูกชายมาก (มากขนาดไหน ให้ไปอ่านมังงะภาคคู่ขนาน แผนพัฒนาชินจิ) แต่ในขณะเดียวกันก็กลัวสูญเสียลูกชาย เหมือนสูญเสียเสียภรรยาไป จึงเลือกไม่รักและไม่สนใจชินจิ ทำให้เชื่อว่าชินจิไม่รัก  ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งเจ็บปวดทั้งคู่ ดังนั้นการที่ทั้งคู่อยู่ห่างๆ กัน  ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว


    2.ราชวงศ์บริททาเนีย

    (เนื่องจากไม่เคยดู Code Geass  จึงเขียนตามวิกิพีเดียเขียน)  ราชวงศ์บริททาเนีย ถือว่าเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ และเป็นที่รู้จักของใครหลายคน เพราะเป็นราชวงศ์ก่อตั้งจักรวรรดิบริททานเนียอันทรงเกียรติ์(The Holy Empire of Britannia) จักรวรรดิที่ทรงแสนยานุภาพที่สุดในโลก ครอบครองทวีปอเมริกาทั้งหมด รวมทั้งนิวซีแลนด์ โอเชียเนีย และญี่ปุ่น รวมแล้วเป็นพื้นที่ถึงหนึ่งในสามของโลก

    หัวหน้าของราชวงศ์บริททาเนีย คือ ชาร์ลส์ ซี บริททานเนีย จักรพรรดิแห่งบริททานเนีย มีนางสนมหลากเชื้อชาติถึง 108 คน ค่อนข้างเป็นคนเจ้ายศมีทัศนะเกี่ยวกับเชื้อสาย ความแข็งแกร่ง และมองความเสมอภาคว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายที่จะต้องกำจัดให้สิ้น และส่งเสริมความขัดแย้งทางชนชั้นและการขยายอำนาจทางการทหารไปทั่วประเทศด้วย

    แม้ราชวงศ์บริททาเนีย จะใหญ่โต แต่คนในราชวงศ์นี้ไม่ค่อยมีความสุขนัก แม้จะมี อำนาจล้นฟ้า  เพราะชีวิตต้องวนเวียนกับการแย่งชิงอำนาจ พี่น้องฆ่ากันเอง ลอบสังหาร แก้แค้น  รวมไปถึงตัวเอกของเรื่องลูลูช วี ยริททาเนียที่เป็นลูกชายขอชาร์ลส์ ซี บริททานเนีย  (และเป็นองค์ชาย 11 )  ต้องการทำลายราชวงศ์บริททาเนีย เพราะเป็นต้นเหตุทำให้แม่ของเขาถูกสังหาร  และต้องการสร้างโลกที่อ่อนโยนขึ้นมาแทน

    แม้ว่าลูลูซจะร่วมมือกับกบฏจนสามารถทำลายตระกูลบริททานเนียได้ หากแต่สิ่งที่ลูลูชทำนั้นก็ไม่สามารถตอบเต็มปากเต็มคำว่ามันถูกต้องหรือไม่  sลังจากที่ลูลูชตาย (ยังเป็นที่ถกเถียงว่าตายจริงหรือไม่จริง) นานาลี่ ผู้ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆของลูลูช  ก็ได้กลายเป็นจักรพรรดินีของบริททาเนียคนใหม่และสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆ ต่อไป


    1.ตระกูลซาบี้

    หากจะพูดถึงตระกูลที่มีชื่อเสี่ยงมากที่สุด และกลายเป็นตำนานของการ์ตูนญี่ปุ่น อันดับหนึ่งน่าจะเป็นของตระกูลซาบี้ หนึ่งในตระกูลที่มีอิทธิพลมากที่สุดของกันดั้ม เป็นจุดเรื่องราว และส่งผลเกือบทุกภาคของกันดั้มด้วย

       เรื่องราวของเรื่องอยู่ที่อนาคต ที่มนุษย์หลายคนได้ทิ้งดาวโลก เพื่อไปสร้างอาณานิคม (โคโลนี่) ในอวกาศ  อย่างไรก็ตาม มนุษย์ในโคโลนี่นั้นก็ไม่ได้มีชีวิตที่สุขสบายมากนัก เพราะพวกเขาขาดแคลนทรัพยากร ในขณะที่โลก และโคโลนี่ที่อยู่ภายใต้กองทัพสหพันธ์นั้นอ้วนเอาอ้วนเอา ทำให้ชาวโคโลนี่คิดจะบุกยึดทรัพยากรเหล่านี้เป็นของตน โดยเฉพาะโคโลนี่ไซด์ 3  (ต่อมาถูกเรียกว่า ซีออน) เป็นโคโลนี่ที่ต้องการทรัพยากรของโลก ในเวลานั้นโคโลนี่ไซด์ 3 ยากจนมาก และอยู่ในระหว่าสงการชิงอำนาจของสองตระกูลใหญ่ คือตระกูลไดดุง นำโดยซีออน ซูม ไดคุน ผู้ก่อตั้งซีออน และอีกตระกูลคือตระกูลซาบี้ผู้สนับสนุนซีออน นำโดยเดกิน โซโด ซาบี้ 

    ต่อมา ผู้นำไดคุนถูกลอบสังหารอย่างลึกลับ แต่เชื่อว่าเป็นฝีมือของตระกูลซาบี้  หลังซีออน ซูม ไดคุน เสียชีวิตลง ตระกูลซาบี้ จึงได้สถาปนาตนเองเป็นผู้นำของสาธารณรัฐซีออน ซึ่งการก้าวเข้าสู่อำนาจนี้เอง เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามหนึ่งปี และยังเป็นจุดเริ่มต้นยุคทองของซาบี้ รวมไปถึงการล่มสลายของตระกูลด้วย

       หลังที่ซาบี้ขึ้นครองอำนาจ ก็มีการกวาดล้างอำนาจเก่าของไดคุนจนเกือบหมดสิ้น รวมไปถึงบุตรชายและบุตรสาวของ ซีออน ซูม ไดคุน ซึ่งนั่นก็คือ แคสวาล เร็ม ไดคุณ และ อาร์ทีเซีย ซูม ไดคุน ซึ่งต่อมาทั้งสองได้หลบหนีมายังโลก และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ชาร์ และเชร่า ซึ่งต่อมาบุคลทั้งสองก็ได้กลายเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการล่มสลายของตระกูลซาบี้

       หลังจากที่ซาบี้ครองอำนาจ และแบ่งอำนาจต่างๆ ไปยังคนในตระกูล พวกเขาก็เปิดศึกกับสหพันธ์โลก  หลังจากสู้รบกันมานาน กองทัพสหพันธ์เริ่มเสียเปรียบ เนื่องจากทางซีออนได้คิดอาวุธรุ่นใหม่ขึ้นมา เรียกว่าโมบิลสูททำกับ อนุภาคไมนอฟสกี้  แต่ทางสหพันธ์ไม่นิ่งเฉยพวกเขาก็พัฒนาโมบิสสูทบ้าง โดยตั้งชื่อว่ากันดั้ม อันเป็นที่มาของอาวุธลับเปลี่ยนทิศทางของสงครามในเวลาต่อมา

       แม้ว่าซาบี้จะมีอำนาจมากมายมหาศาล แต่ชีวิตพวกเขาก็ไม่ได้สงบสุขมากนัก เพราะยิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่งมีอำนาจก็มีแต่คนเกลียดชัง สงครามความขัดแย้งได้ทำให้สมาชิกในตระกูลซาบี้ต้องไม่ตายดี จนเกือบสิ้นตระกูล

    ซาบี้นั้นมีลูกๆ ชาย-หญิง 5 คน หากแต่ลูกทุกคนล้วนเสียชีวิตแบบไม่ตายดี เริ่มจาก เสียชีวิตจากการลอบสังหารซิเซโล่ ซาบี้ พี่ชายคนรองของตระกูล  ซึ่งเป็นฝีมือของคิชิเรีย ซาบี้น้องสาว ลูกคนที่ 3 ของตระกูล เพราะความแค้นส่วนตัว หากแต่ซาบี้ได้ใช้โอกาสนี้มาเป็นจุดชนวนการก่อสงครามกับฝ่ายรัฐบาลโลกโดยมีจุดประสงค์เพื่อที่จะประกาศอิสรภาพของจักวรรดิ์ซีออน

       ต่อมา หลังจากที่ซีออนยึดโลกได้ กัลม่าน้องคนสุดท้อง และเป็นคนที่ซาบี้รักที่สุดก็ได้ขอไปประจำการรบบนโลก ซึ่งกัลม่านั้นถือว่าเป็นบุตรชายที่นิสัยดีมากของตระกูลซาบี้  หากแต่เขาอยากจะให้พวกพี่ยอมรับ ทำให้ต้องทำเรื่องเกินกำลังตนเองเสมอ สุดท้ายเขาก็ถูกฆ่าตายในสงคราม โดยมีชาร์อยู่เบื้องหลัง

       การตายของกัลม่าทำให้หัวหน้าตระกูลอย่างซาบี้นั้นแทบปลงชีวิตทุกอย่าง และเริ่มเบื่อหน่ายสงคราม หากแต่กิเรน ซาบี้พ่อคนโตนั้นมีมีความทะเยอทะยานโหดเหี้ยม ก็ยังคงประกาศสงครามต่อสหพันธ์ นำไปสู่สงครามรบบนอวกาศ

       ต่อมานายพลโดเซิล ซาบี้ลูกชายคนที่สี่ของตระกูลซาบี้ ก็ได้เสียสละตนเองในสงครามอย่างกล้าหาญ เพื่อถ่วงเวลาให้กับลูกน้องได้สามารถหนีรอดให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามนายพลโดเซิลก็ยังมีทายาทคือมิเนอร์ว่า ซาบี้ซึ่งต่อมาก็ได้เป็นเจ้าหญิง และกลายเป็นตัวละครสำคัญของโมบิลสูท กันดั้ม ยูนิคอร์น ซึ่งเป็นภาคหลายปีต่อมา

       และแล้วก็มาถึงสงครามสมรภูมิ อาบาวอะคู (A Baoa Qu) หนึ่งในสงครามที่ทำให้ซาบี้เกือบสิ้นตระกูลอย่างแท้จริง การสู้รบดุเดือดมาก แต่ทางสหพันธ์ได้เปรียบเล็กน้อย ในระหว่างนี้เดกวิน ซาบี้ผู้นำตระกูลได้แอบไปเจรจาสันติกับฝั่งพันธมิตร  เพราะเบื่อหน่ายในสงคราม แต่กิเรนไม่ยอม จึงใช้ โซล่าห์ เรย์ยิงเข้าใส่ขณะที่มีการเจรจาสงบศึก ทำให้เดกวินเสียชีวิต

       สงครามยังดำเนินต่อไป ฝ่ายซีออนใกล้จะพ่ายแพ้ แต่กิเรน ยังยืนยันทำการรบต่อไป ด้วยความหวังว่าชัยชนะอาจจะตกอยู่เป็นในฝ่ายของซีออน แต่สุดท้ายก็ถูกฆ่าโดยคิชิเรีย เพราะโมโหฆ่าพ่อ หากแต่สุดท้ายคิชิเรียก็ถูกลอบสังหารโดยชาร์ หรือคาสวาล เรม ไดคุน  และเป็นการปิดฉากอำนาจทางการทหารของตระกูลซาบี้ตลอดไป

                    แม้ว่าตระกูลซาบี้จะเสื่อมอำนาจลง แต่ซีออนก็ยังไม่สิ้น ซึ่งหลายหลังก็มีการแบ่งฝ่าย เพื่อนไดคุน และเพื่อนซาบี้ ทำการรบต่อไป เรียกได้ว่าสงครามกัมดี้มนั้นไม่มีวันสิ้นสุด และมันยังคงมีอยู่ตลอดไป



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×