คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #38 : GANTZ จิตใจที่เปลี่ยนไปในค่ำคืนแห่งความตาย
กันซึ เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่ผมไม่อยากจะเขียนถึงมันสักเท่าไหร่ เนื่องจากพระเอกไม่น่ารัก(เหตุผลควายไหม) บวกกับมีคนเขียนถึงแล้วเดี๋ยวก็หาว่าผมเขียนซ้ำของเขาอีก และถ้าเขียนไปคงจะมีคนมาบอกให้อ่านในเน็ตต่อนะสนุกดีหรือจะมาสปอยซึ่งผมไม่อยากรู้เนื้อหาต่อจากนั้นเลยสักนิดว่าจะเป็นยังไงต่อไป
ความจริงผมเลิกอ่านการ์ตูนเรื่องนี้ไปนานแล้วหลังจากโดนแบนหลังตีพิมพ์เล่มที่ 16 และไม่คิดจะไปอ่านในเน็ตอีก เพราะผมเห็นสิ่งที่การ์ตูนต้องการนำเสนอหมดแล้ว
อีกอย่างการ์ตูนเรื่องนี้ปาเข้าไป 303 กว่าตอน(แล้วมั้ง) เนื้อเรื่องเริ่มใหญ่ขึ้น เหตุการณ์ก็เริ่มกว้างขั้น ตัวละครทั้งหลายก็เริ่มเยอะขึ้นด้วย ทำให้ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นัก เพราะผมชอบอะไรที่เรื่องที่ดำเนินแบบแคบๆ ตัวละครน้อยๆ เนื้อหาก็ไม่ต้องยิ่งใหญ่อะไรมากมาย เน้นจิตใจของคน มากกว่าจะเน้นแอ็คชั่นหรือการดำเนินเรื่อง
เอาเถอะในเมื่อมีคนขอมา ก็เขียนสักตั้งละกัน จะถูกใจหลายๆ คนหรือเปล่านั้นก็ไม่รับประกันนะครับ
กันซึ(GANTZ)
แอ็คชั่น, ไซไฟ, โหด, R
สามารถอ่านได้ที่ http://www.thaimanga.net/viewer/230/gantz/
ดูอมิเนชั่นได้ที่ http://video.mthai.com/player.php?id=18M1204895687M0
(ปล. เขียนเฉพาะในหนังสือ 1- 16 ไม่มีสปอย เพราะไม่จำเป็นต้องสปอย ยกเว้นเล่าเรื่องย่อตอนที่ 1 เพื่อประกอบสิ่งที่สังเกตเห็นเท่านั้น)
กันซึเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น แต่งโดยฮิโรตะ โอคุ นักเขียนคนนี้ ผมไม่ค่อยรู้จักมากนัก แต่ก็ได้อ่านการ์ตูนเรื่องหนึ่งนอกจากกันซึที่เป็นผลงานของเขาคือพิชิตใจนายโหลยโท่ย(Love Laughs at Locksmiths) เรื่องราวของแม่เลี้ยงยังสาวที่พยายามแก้ปัญหาลูกเลี้ยงที่เป็นเด็กเก็บตัวเพื่อกลับสู่สังคมภายนอกอีกครั้ง เรื่องนี้ยังน่าสนใจมาก สมควรเอามาเล่าสู่กันฟัง เสียอย่างดันมีฉากมีเพศสัมพันธ์ตอนท้ายเรื่อง รู้สึกว่าสไตน์การเขียนนักเขียนคนนี้จะชอบเขียนฉากอย่างว่านะเนี้ย
กันซึถูกตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ยังก์จัมป์รายสัปดาห์ ส่วนในไทยตีพิมพ์โดยสยามอินเตอร์คอมิกส์ แต่เนื่องจากในประเทศไทยมีกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมสื่อลามก และความรุนแรง ปัจจุบันการ์ตูนเรื่องนี้ถูกแบน หลังตีพิมพ์เล่มที่ 16 ตอนที่ 190 และยังไม่มีแนวโน้มว่าในอนาคตจะสามารถผ่านการแบน แล้วพิมพ์ต่อไปได้
ส่วนอมิเนชั่นนั้นมีทั้งหมด 13 ตอนจบ ซึ่ง 5 ตอนหลังจะเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นใหม่เพื่อเหมาะกับอมิเนชั้นสั้นๆ ซึ่งหลายๆ คนมักบ่นว่า เออ....จบแบบนี้เหรอนี้
ดังนั้นใครที่อยากจะอ่านและดูอมนั่นการ์ตูนเรื่องนี้ก็ต้องดูที่เว็บอย่างเดียว ซึ่งปัจจุบันมีหลายเว็บที่แปลการ์ตูนเรื่องนี้แบบซับไทย ดูกันให้ตาแฉะไปข้าง
กันซึเป็นเรื่องราวมุมมอง ของ คุโรโนะ เค เด็กมัธยมที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องคนอื่นมากนัก และแล้งน้ำใจอย่างยิ่ง จนกระทั้งวันหนึ่งเขาบังเอิญไปเจอเพื่อนเก่าสมัยประถมชื่อ คาโต้ มาซารุ ที่มาดนักเลงแต่จิตใจดีงามล้น ตอนแรกคุโรโนะทำเป็นไม่รู้จักตามประสา “อาการโรคห่างเหิน” แต่จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้นเมื่อมีชายจรจัดขี้เมาเผลอตกลงบนรางรถไฟในขณะที่รถไฟกำลังจะมา แต่คนที่อยู่ในเกิดเหตุช่างแล้งน้ำใจเหลือเกินไม่ลงไปช่วยชายขี้เมาสักคน(อารมณ์ประมาณว่าตายช่างหัวมันเถอะ ไอ้พวกไร้ค่า มันอยากกินเหล้าใกล้รางรถไฟเอง)
คุโรโนะก็เป็นเหมือนคนเหล่านั้น คือไม่สนใจ ทำเป็นไม่เห็น ไม่รู้ไม่ชี้ ตายช่างหัวมัน ไม่เกี่ยวอะไรกับอั๊ว พ่อตรูก็ไม่ใช่ แต่แล้วจู่ๆ เจ้าคาโต้ มาซารุ ดันลงไปช่วยชายชราขี้เมาคนนั้น และบังเอิญเขาดันจำหน้าคุโรโนะได้ จึงเรียกมาช่วยทำให้คุโรโนะจำต้องลงมาอย่างจำใจ
สุดท้ายคุโรโนะกับคาโต้ก็ช่วยชายชราขี้เมาไว้ได้ แต่พวกเขาดันเสียชีวิตพร้อมกันเมื่อรถไฟวิ่งมาพอดี ร่างทั้งคู่แหลกเลว หัวคนทั้งคู่ขาดจากกันอย่างน่าสยดสยอง
มาถึงตรงนี้ เรื่องก็น่าจะจบ ก็เด็กทั้งสองตายแล้วนี้ จบแบบแอปปิ้งแอนดิ้ง(ตรงไหน??) แต่กระนั้น เหตุการณ์นี้กลับกลายเป็น จุดเริ่มต้นที่เปลี่ยนชีวิตของคุโรโนะไปตลอดกาล
.
ฉากตัดไปสถานที่แห่งใหม่ คุโรโนะและคาโต้ได้สติกลับคืนมา เขาก็พบว่าคนทั้งคู่ยังไม่ตาย และไม่ได้อยู่ในนรกหรือสรรค์ หากแต่ทั้งคู่อยู่ห้องๆ หนึ่ง ในบ้านพักแห่งหนึ่ง ที่มีกลุ่มคนหน้าตาบอกบุญไม่รับที่คิดว่าตัวเองตายแล้วมารวมกันอยู่ที่ห้องนั้นด้วย
แต่กระนั้นกลุ่มคนเหล่านั้นไม่น่าสนใจเท่า ลูกบอลสีดำใหญ่ๆ ที่อยู่กลางห้องนั้น
กลุ่มคนทั้งหมดในห้องนั้นพูดคุยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น บางคนบอกว่านี้คือสวรรค์ บางคนบอกว่านี้คือรายการดาราจำเป็น บางคนไม่สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพยายามออกจากห้องนั้นปรากฏว่ามันล็อก และถูกปิดตายจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง
ระหว่างที่กลุ่มคนทั้งหลายสับสนนั้นเอง ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเพลงประหลาดดังขึ้นในลูกบอลสีดำ พร้อมข้อความกลางลูกบอลว่า
“ชีวิตของพวกเจ้า ได้หมดสิ้นอายุขัยแล้ว อยู่ที่ข้าจะใช้ชีวิตใหม่ของพวกเจ้ายังไง นี่คือข้อตกลง”
จากนั้นมันข้อความก็ได้เปลี่ยนไปโดยเขียนว่าเชิงมอบหมายภารกิจ “พวกเจ้าจะต้องไปจัดการบุคคลนี้” จากนั้นก็มีรูปหน้าตาของคน(มนุษย์ต่างดาว)พร้อมข้อมูลน้อยนิด ที่แทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย เช่นของที่ชอบ, ของที่ไม่ชอบ
และเมื่อพูดภารกิจจบ ลูกบอลสีดำก็แตกออก ภายในลูกบอลนั้นมีร่างมนุษย์นั่งนิ่งอยู่(เรียกว่ากันซึ) และมีอาวุธมากมายพร้อมกับชุดสูทรัดรูป และสักระยะหนึ่งทุกคนในห้องก็เริ่มหายไปทีละคนและโผล่ไปสถานีที่ที่เหมือนเมืองทั่วไปที่พวกเขาเคยอยู่ แต่คนภายนอกจะไม่เห็นตัวพวกเขา พร้อมกำหนดระยะเวลาปฎิบัติการ
ดูๆ ไปมันก็เหมือนรายการงี่เง่าที่รายการดาราจำเป็นอำเล่นๆ จริงๆ เจอแบบนี้เป็นใครก็ งง มองว่ามันโครตไร้สาระ เหมือนเด็กปัญญาอ่อนเล่นตำรวจจับผู้ร้ายไม่มีผิด หลายคนเลือกที่ไม่ปฏิบัติภารกิจส่งผลให้ความตายมาเยือนบุคคลนั้นโดยไม่รู้ตัว อีกคนก็ปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งแต่กลายเป็นว่าพวกเขากับถูกมนุษย์ต่างดาวที่เป็นเป้าหมายฆ่าตายอย่างโหดเพราะไม่ได้สวมชุดสูทป้องกัน
กว่าที่คาโต้และคุโรโนะจะตั้งหลักและเข้าใจวิธีเอาตัวรอด ก็เล่นแทบลากเลือด เพราะโดนมนุษย์ต่างดาวอัดหลายดอก
และเมื่อกำจัดบุคคลในภาพได้แล้วพวกเขาจะถูกส่งกลับมาที่ห้องเดิมในตอนแรก ซึ่งตอนนี้ลูกบอลสีดำภายในห้องก็จะประกาศคะแนนของแต่ละคน โดยในตอนนี้สามารถออกนอกห้องนี้ไปใช้ชีวิตปกติได้แล้ว โดยเมื่อเวลาผ่านไปก็จะถูกเรียกให้กลับมาที่ห้องนี้เพื่อทำภารกิจต่อไปพร้อมกับกลุ่มคนใหม่ที่พึ่งเสียชีวิตและกลุ่มคนที่รอดตายจากภารกิจที่แล้วก็จะร่วมกันโดยใครทำได้ 100 คะแนน กันซึจะมีทางเลือกให้ 3 ข้อ คือ
-เป็นอิสระ และจะไม่ถูกเรียกกลับมาที่ห้องนี้อีก ซึ่งคนคนนั้นก็จะถูกลบความจำเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ภายในห้องนั้นและสิ่งที่ทำไปทั้งหมด กลับไปเป็นคนปกติ
-ได้รับอาวุธที่รุนแรงกว่าเดิม(อันเก่าไม่แรงเท่าเหรอครับพี่) และยังถูกเรียกกลับมาอีก
-ฟื้นคืนชีพให้กับคนที่มีรายชื่ออยู่ในหน่วยความจำของกันซึ และคนที่ฟื้นคืนชีพจะมีคะแนนกลับไปอยู่ที่0 (ถ้าเขาเป็นผู้ที่ต้องทำภารกิจของกันซึ)
นอกจากนี้ยังมีกฎกติกาอีกมากมาย เช่น ถ้าปฏิบัติภารกิจไม่สำเร็จหมดเวลาสักก่อนคะแนนที่สะสมที่เก็บไว้ในตอนแรกจะเท่ากับ 0 หรือห้ามให้ใครเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คนธรรมดาฟังมิฉะนันจะโดนระเบิดที่ฝังในสมองตาย ฯลฯ เป็นต้น
หลังจากอ่านจบ กันซึเป็นการ์ตูนที่เนื้อเรื่องดำเนินคาดเดาได้ยาก และใช้ตัวละครเปลืองมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง อารมณ์พอๆ กับฮันเตอร์ X ฮันเตอร์ ที่ตัวละครนั้นตายเป็นว่าเล่น โดยไม่สนว่าตัวละครนั้นมีสำคัญมากน้อยเพียงใด คนจะชอบเพียงใด ทำให้เรื่องที่นำเสนออาจทำให้คนอ่านเกิดอาการอึ้งหลายครั้ง โดยไม่คิดว่าตัวละครที่เราเชียร์มาตลอดเวลาจะตายแบบนี้
นอกจากการดำเนินเนื้อเรื่องที่คาดเดาได้ยากแล้ว การ์ตูนเรื่องนี้ยังสอดแทรกประเด็นเสียดสีสังคมและเล่นแง่จิตวิทยาอยู่ตลอดเวลา เวลาอ่าน
หลายๆ คนมักบอกว่าการ์ตูนเรื่องนี้ภาพโหด ดิบ เถื่อน แต่สำหรับผมแล้วความโหดของมันนั้นไม่ได้อยู่ภาพ แต่มันอยู่ที่จิตใจของคนในเรื่องและจิตใจของคนอ่านต่างหาก
ผมแบ่งความน่ากลัวของการ์ตูนเรื่องนี้ออกเป็น 2 อย่าง
ความน่ากลัวของกันซึ ปกติเวลาจะทำสงครามหรือจะปฏิบัติภารกิจใดๆ นั้น ฝ่ายทหารจะทำการคัดเลือกลูกทีมที่มีสภาพร่างกายจิตใจที่แข็งแกร่ง ก่อนที่จะมีการฝึกฝนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกายและจิตใจให้มากขึ้น เช่น ฝึกฝนการใช้อาวุธและอุปกรณ์ทำให้เกิดชำนาญ ฝึกฝนการพรางตัว ฝึกฝนการติดต่อสื่อสารทำสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อให้อยู่สภาพเตรียมพร้อมตลอดเวลาก่อนที่จะลงมือปฏิบัติจริงเพื่อจะลดความเสียหายและทำงานได้อย่างประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้เวลาจะทำสงครามหรือจะปฏิบัติภารกิจ ทางผู้ว่าจ้างหรือทางการหรือฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ควรชี้แจ้งข้อมูลต่างๆ ให้ลูกทีมรู้ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นจำนวนของศัตรู, อาวุธของศัตรู, จุดประสงค์ของศัตรู, พื้นที่, ภูมิศาสตร์, จุดประสงค์ของภารกิจ, เวลาที่ใช้ปฏิบัติ การสื่อสาร
สำหรับกันซึแล้วกันซึไม่ใช้องค์กรทหาร กีนซึเปรียบเสมือนเครื่องเล่นวีดีโอเกมส์แนวแอ็คชั่นที่ใช้ชีวิตคนจริงๆ เล่น โดยเอาเนื้อหาของเกมส์ที่ค่อนข้างยากซับซ้อนยากจะเข้าใจมาใช้ ทำให้คนเล่นแล้วจะสับสนในตอนแรกๆ ต้องกดมั่ว ว่าปุ่มไหนกระโดด ปุ่มไหนใช้ยิง, ใช้อาวุธ ปุ่มไหนป้องกัน เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้เราต้องรีเซ็ต์(ผมเขียนถูกไหม??)หลายรอบกว่าจะเข้าใจว่าระบบของเกมส์จะเป็นอย่างไร
แต่สำหรับกันซึแล้ว กันซึละเลยเรื่องที่กล่าวข้างต้นทั้งหมด ไล่ตั้งแต่กันซึไม่ทำการคัดเลือกทหารเลยสักนิดทำให้หลายๆ ครั้ง คนที่กันซึเลือกจะเป็นคนที่เป็นตัวถ่วงมากกว่าพวกพึ่งพาได้ เช่น คนแก่ หมา เด็ก นักบวช(แม้จะมีหลายครั้งที่เอาพวกเก่งๆ มาก็ตาม) นอกจากนั้นกันซึไม่พูดวัตถุประสงค์เป้าหมาย(ประมาณว่าไอ้ตัวพวกนี้โกงกินบ้านเมืองสมควรกำจัดนะเว้ย หรือมันเป็นพวกตัวกินโอโซนของโลก มันคิดครองโลกประมาณนี้), กันซึไม่พูดสอนวิธีใช้อาวุธหรืออุปกรณ์ล้ำสมัย, กันซึไม่สอนวิธีปราบ, กึนซึไม่พูดรายละเอียดในเป้าหมาย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ผู้เล่นต้องไปตายเอาดาบหน้าหาวิธีเรียนรู้เอาเอง ซึ่งส่งผลให้มันคนตายมากกว่าคนรอดชีวิต
จุดสังเกตอย่างหนึ่งกลุ่มคนที่กันซึเลือกนั้นเป็นกลุ่มคนที่มีความหลากหลายในสังคมมากกว่าจะจำกัดแค่กลุ่มเดียว กล่าวคือ ต่างคนมีฐานะแตกต่างกันออกไป สูงต่ำดำขาว อ้วนผอม ชายหญิง หนุ่มและแก่ โง่กับฉลาด ยากที่จะเข้ากลุ่มหรือเป็นเพื่อนพูดคุยเป็นภาษาเดียวกันได้ เช่นลองเอาพวกนักฆ่ากับนักบวชมาคุยกันสิมันเข้ากันได้ไหม??
แต่สุดท้ายกลุ่มคนที่ถูกกันซึเลือกนั้นไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือคนแก่ต่างจำต้องจับอาวุธไล่ฆ่ามนุษย์ต่างดาว แม้ตอนแรกหลายคนไม่ชอบ เพราะมันเป็นเกมส์ที่ไร้สาระ ไร้เหตุผล ทำไมต้องเสี่ยงชีวิตมาไล่ฆ่าพวกมันด้วย มันไม่ได้ไปฆ่าพ่อแม่เราสักหน่อย มันอยู่ของมันดีๆ ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย
กันซึใช้เวทมนต์อะไรในการบังคับคนเหล่านั้นให้กลายเป็นฆาตกร??
คำตอบง่ายๆ 3 ข้อ คือกันสึใช้ “ชีวิต”. “ความสนุกสนาน” และ “คะแนน” เป็นเครื่องต่อรอง
“ชีวิต” นั้นสิไม่ใครบ้างละที่ไม่กลัวตาย ยิ่งบุคคลที่กันซึเลือกครั้งหนึ่งเคยตายมาแล้วทั้งนั้น อุตส่าห์มีชีวิตเรื่องอะไรจะตายรอบที่สอง พวกเขาจำต้องจับอาวุธเพื่อจะมีโอกาสรอดในเกมส์บ้าๆ แบบนี้
“ความสนุกสนาน” ดูจากตัวเลือกของกันซึที่ว่า 100 คะแนนจะได้รับสิ่งตอบแทน 3 ข้อ ตอนแรกๆ หลายคนมักเลือกข้อแรกมากที่สุด เพราะว่ากว่าจะได้ 100 คะแนนนั้นมันช่างล้ำค่าเหลือเกิน เป็นใครก็อยากจะมีชีวิตอยู่นานๆ แหละ แต่ว่าเมื่อนานๆ เข้าหลายคนเริ่มเห็นความสนุกสนานในเกมส์นี้พวกเขาได้ฆ่ามนุษย์ต่างดาวอย่างบ้าคลั่งด้วยความสนุกสนาน ทำให้ความคิดมีเปลี่ยนแปลง กลายว่าข้อสองเป็นสิ่งที่น่าเลือกมากที่สุด เพราะเมื่อคนที่มาถึงจุดนี้แล้ว ยากที่จะกลับไปเป็นคนธรรมดาได้อีกครั้ง
อ่านดูๆ แล้วกันซึได้ใช้จิตวิทยาของเหล่าทหารที่สนุกสนานในสงครามมาใช้ ยกตัวอย่างเช่นสงครามอิรัก คือพวกเขาถูกส่งไปโลกต่างมิติที่คนอื่นมองไม่เห็น(สังคมไม่มีทางรู้ว่าพวกเขาไปทำอะไรไว้บ้าง), พวกเขาถูกส่งไปยังสถานที่ไม่เคยเห็นมาก่อน(ทหารอเมริกันถูกส่งไปต่างแดน), พวกเขาได้ฆ่ามนุษย์ต่างดาวที่อัปลักษณ์และพูดจาไม่รู้เรื่องโดยไม่รู้สึกผิด(ชาวอิรักและอเมริกาที่ต่างเชื้อชาติศาสนาและรูปร่างต่างกัน), มนุษย์ต่างดาวมีเขี้ยวเล็บอาวุธ(ทหารอิรักมีอาวุธด้อยประสิทธิภาพ แต่ช่วยให้ทหารอเมริกันตื่นเต้นเร้าใจเพราะตนมีอาวุธที่มีประสิทธิภาพมากกว่า) ยกตัวอย่างนี้มองคุณมองออกหรือยัง ถ้าไม่ออกผมก็เฉลยให้ฟัง นั้นคือหลายคนที่เล่นเกมกับกันซึจะพบว่าตนมีความสนุกสนานในการฆ่า ได้เห็นคนอื่นและมนุษย์ฉิบหายกลายเป็นศพ โดยตนเองอยู่รอดปลอดภัย ความรู้สึกนี้ยากจะพบเห็นในสังคมที่โครตสงบอย่างญี่ปุ่น ทั้งๆ จากประวัติศาสตร์แล้วแผ่นดินญี่ปุ่นไม่มีช่วงไหนเลยที่ไม่มีสงคราม แต่ละช่วงเวลามีแต่รบราฆ่าฟันกัน แม้ปัจจุบันพวกเขาจะเลิกเป็นนักรบแล้วมาเป็นพ่อค้าเต็มตัวแล้วก็ตาม แต่กระนั้นในจิตใจของเขาก็ยังต้องการปลดปล่อยความรุนแรงอยู่ อย่างกรณีทหารอเมริกันกลับจากสงครามเวียดนามแต่เขาไม่สามารถปรับตัวเข้ากับชีวิตปกติในบ้านเกิดของเขาได้ เพราะว่าสงครามนั้นได้หลอมหลวมเป็นหนึ่งเดียวสำหรับเขาแล้ว ซึ่งอาจทำให้เกิดคดีฆ่าเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ดิบของเหล่าทหารผ่านศึกตามมาในอเมริกาบ่อยๆ จึงไม่น่าแปลกแต่อย่างใดถ้ามีคนได้คะแนนครบ 100 แล้วเลือกอันที่สอง หรือคนที่เห็นว่าไร้สาระที่จะเล่นเกมส์ในตอนแรก เกิดมาสนุกเมื่อเกมส์เริ่มต้น
“คะแนน” จะมีกี่คนละที่ทำงานโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน น้ำใจมันกินไม่ได้นี้น่า แต่กันซึไม่ได้ตอบแทนกลุ่มบุคคลเหล่านี้โดยให้ “เงิน” เป็นเครื่องตอบแทน กันซึใช้ “คะแนน” มาเป็นเงินแทน และเมื่อสะสม “คะแนน” ก็จะสามารถเลือกตัวเลือก 3 ข้อ แม้ตัวเลือกเหล่านั้นอ่านดูแทบไม่มีประโยชน์อะไรกับตนเลย ไม่สามารถมีเปลี่ยนคะแนนมาเป็นเงินให้รวยในพริบตา ไม่สามารเปลี่ยนคะแนนมาเป็นฐานะการงานดีขึ้น แต่กระนั้น “คะแนน” ก็เป็นเครื่องจูงใจ ของผู้เล่นเกมส์ให้ว่าง่าย บังคับให้เล่นเกมส์ ประมาณว่า “มิ่งไม่ฆ่าไอ้พวกมนุษย์ต่างดาวก็ได้ ไปซ่อนในลังสิ แต่เอ็งไม่ได้คะแนนนะ” จะมีใครบนโลกละที่โดนเรียกมาแล้วไม่ได้ผลตอบแทนอะไรสักอย่าง มันก็ต้องเอาสิ ฆ่าเอาคะแนนก็ได้(ฟ่ะ) ก็กำขี้ดีกว่ากำตดนี้น่า
ความน่ากลัวผู้คนในกันซึ เราเห็นบทบาทของตัวละครไม่ว่าตัวหลักหรือตัวละครประกอบในเรื่องกันซึที่มีความหลากหลาย มีนิสัยแตกต่างกัน แต่พวกเขาต่างรวมกลุ่มเพื่อเป้าหมายเดียวคือ “ฆ่ามนุษย์ต่างดาว”
แต่เมื่อเล่นไปนานๆ เข้าตัวละครเหล่านั้นก็รู้สึกว่า เกมส์นี้ยากโครตๆ ไม่ว่าข้อมูลก็น้อย และความยากของมัน ที่มนุษย์ต่างดาวเก่งขึ้นเรื่อยๆ บางตัวราวกับเป็นเทพเจ้า จนเสมือนว่าเราเป็นเหมือนมดที่กำลังสู้กับช้างตกมัน เหมือนมดตัวนี้ก็ไม่รู้ว่าตนจะสู้ทำไม นี้คือวังวลแห่งความสิ้นหวังชัด เหมือนกับเราอยู่คุกนรกที่ไร้ทางออกก็ว่าได้ ดังนั้นในแต่ละภารกิจเราก็เห็นตัวละครทั้งหลายแสดงบทบาทคนดีและคนชั่วในสายตาคนอ่าน
เหล่าคนดีในชุดดำกันซึ ใจหายคือตัวละครที่หลายคนทำให้คนอ่านรู้สึกอยากเอาใจช่วย ไม่อยากให้ตาย บางตัวละครไม่น่าจะมาร่วมเล่นเกมโหดเลย ปล่อยให้ตายอย่างสงบจะเป็นการดีกว่าซ้ำไป แต่กันซึไม่อยากให้ตัวละครเหล่านี้ตายสบาย กันซึเลยคืนชีพและให้ตัวละครจับอาวุธจับปืน และสุดท้ายก็หนีความตายไม่พ้น พวกเขาตายรอบที่สอง แต่กระนั้นตัวละครตัวประกอบได้กระทำสิ่งหนึ่งทำให้ คนอ่านอย่างเราเกิดความสงสาร หดหู่ ด้วยการทำความดีเป็นครั้งสุดท้าย
ตัวละครดีๆ เหล่านั้น ส่วนใหญ่มักเป็นตัวถ่วง แต่ก็อดไม่น่าที่จะสงสารและพยายามที่จะปกป้อง ที่ผมสงสารจับใจอยู่ที่ เล่ม 2 (ที่ผมบอกว่าน่าสงสารสุดๆ แล้ว) ที่คุณยายปกป้องหลาน ฉากนี้ดูกี่ที่ก็แทบอดสงสารไม่ได้ หรือจะเป็นฉากที่พ่อปกป้องลูกและภรรยาจากไดโนเสาร์แร็พเตอร์ที่อุตส่าห์รอดจากท้ายเกมส์มาได้ แต่ไม่วายดันมาตายตอนใกล้จะกลับอีก
เหล่าคนเลวในชุดดำกันซึ เหล่าคนเลวในเรื่องกันซึมีอยู่ 2 แบบ คือคนเลวที่ไม่มีประโยชน์และมีประโยชน์ เหล่าคนเลวที่ไม่มีประโยชน์ทั้งหลายนั้นดีแต่ปาก เป็นแค่กุ๋ยธรรมดา อวดเก่ง เน้นพวกมาก เก่งใช้แต่กำลังไม่ใช้สมอง สุดท้ายคนเหล่านี้ก็เผยด้านอ่อนแอ เอาแต่ภาวนา หลีกหนีความจริง ขี้ขลาด และตายอนาถจนไม่มีใครสนใจ ส่วนคนเลวมีประโยชน์ แม้พวกเขาจะเป็นคนเลว แต่หลายๆ ตอนจะเห็นว่าเหล่าคนเลวมีประโยชน์ทั้งหลายนั้น พวกเขาแข็งแกร่ง ช่วยฆ่ามนุษย์ต่างดาวให้ เป็นที่พึ่งสำหรับคนอ่อนแอ จนกลายเป็นเครื่องตอบย้ำทฤษฏีที่ว่า “ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่รอด” บางคนเหล่าคนเลวก็ยังมีประโยชน์ในโลกของกันซึก็ได้ ซึ่งคุโรโนะรู้จุดนี้ดีเขาเลยเลือกที่จะคืนชีพให้ “เด็กเลวที่ตายตั้งแต่เล่ม 2” แทนที่จะเลือกคืนชีพกิ๊กเก่า 2 คน(เหอๆ)
เหล่าคนธรรมดาในกันซึ ขอสปอยสักนิดไม่ว่ากันนะครับ อดจะเขียนถึงไม่ได้ คือในตอนต่อจากนี้ไป(หลังจากเล่มที่ 16 ) พวกคนธรรมดาได้เห็นมนุษย์ต่างดาวออกมาโชว์ตัวแล้วใช่เปล่าครับ สิ่งที่ผมอึ้งคือคนที่เห็นพวกตัวประหลาดเหล่านี้ มันไม่คิดหนีเลยสักนิด ทั้งๆ ที่รูปร่างมันไม่น่าเข้าใกล้สักนิด อย่างกับปรสิตในหนังสยองขวัญ แถมมันฆ่าคนด้วย เลือดสาดกระจาย หัวขาด ขาขาด แต่คนธรรมดาพวกนั้นหยุดดูเหมือนว่ามันเป็นแพนด้าแถวเชียงใหม่ไม่ปาน ไม่ยักจะมีใครกลัว หรือหนี บางคนเอากล้องมือถือถ่ายรูป บางคนก็เดินเรื่อยเปื่อยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือคนที่เห็นทีวีถ่ายเจ้ามนุษย์ต่างดาวยังตอบว่า “เออน่าสนุกว่ะ ไปที่นั้นดีไหมจะได้ขอลายเซ็นต์” เอ้ยจะไปตายเรอะ!!...รู้อยู่ขี้มันมันเหม็นมันจะเอามืดไปจับอีก บ้าเปล่าเนี้ย
เรื่องนี้อธิบายได้หลายอย่าง เท่าที่ผมคิด เช่นมนุษย์มีนิสัยอยากรู้อยากเห็นรู้อยู่ว่าอันตรายก็ยังอยากจะเห็น อย่างการทดลองวิทยาศาสตร์ทั้งหลายแหลไงครับ เช่น Large Hadron Collider LHC หลายๆ ฝ่ายเตือนว่ามันจะสร้างหลุมดำนะเว้ย อย่าไปทำมันแต่ไม่วายมันไม่เลิก คงต้องรอให้โลกแตกหลุมดำเกิดก่อนละมั้งถึงจะเลิก แต่ถึงตอนนั้นมันคงจะสายไปเสียแล้ว
แต่....คิดอย่างที่สองนี้น่ากลัวครับ...คือคนญี่ปุ่นสมัยนี้เริ่มไม่ตระหนักภัยอันตรายใกล้ๆ ตัวกันซะแล้ว คนไทยทั้งหลายจำเรื่องแผ่นดินไหวที่โกเบได้ไหมครับ เป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดของโลก เกิดที่เมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะ ในปี 1995 ตอนนั้นมีเสียชีวิต 5500 คน นี้ขนาดไม่รวมซึนามิ หรือภัยพิบัติจำพวกไฟไหม้ครั้งใหญ่ในเกียวโตเลยนะครับ เหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนั้นทำให้ทางการญี่ปุ่นได้จัดวันสำคัญในการรณรงค์เตรียมพร้อมเหตุภัยพิบัติขึ้น มีการฝึกซ้อมวิธีหนีทั้งในโรงเรียนในสำนักงาน มีการเปิดสารคดีการระวังภัยต่างๆ เป็นต้น เพราะไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวมากที่สุดของโลก
แต่มาตอนนี้สิ ผมมาดูสารคดีเรื่องหนึ่ง เขาบอกว่าคนญี่ปุ่นเริ่มไม่ตะหนักภัยพิบัติเหล่านี้เสียแล้ว พวกเขาเห็นการรณรงค์เหล่านี้เป็นเรื่องตลก จริงจังก็บ้าแล้ว ทำให้เราเห็นภาพเด็กผู้หญิงนักเรียนญี่ปุ่นเดินเหมือนเต่าในเวลาซ้อมหนีภัยอยู่บ่อยครั้ง บางคนเดินไปคุยไป เห็นเป็นเรื่องตลกเป็นต้น ทั้งนี้เพราะคนญี่ปุ่นมีมาตรฐานความปลอดภัยสูงกระมั้ง ตอนเกิดซึนามิ รัฐบาลก็สร้างเขื่อนให้ ตอนเกิดแผ่นดินไหวก็มีการเตือนล่วงหน้า สถิตเกิดอาชญากรรมก็น้อย ทำให้คนญี่ปุ่นขาดความระมัดระวังตัวไป
คิดแล้วมันก็เหมือนซึนามิบ้านเราแหละ ตอนแรกๆ ก็เริ่มมือฝึกซ้อมระวังภัยดี หลังๆ ก็ไม่สนแล้ว ฝึกทำไม บ้าหรือเปล่า แต่พอลองให้เกิดอีกทีสิ มันก็สายไปเสียแล้ว....
มนุษย์ต่างดาว เสียดายเล่มๆ หลัง มนุษย์ต่างดาวเริ่มฆ่าคนธรรมดาแล้ว ซึ่งผมอยากให้มนุษย์ต่างดาวทั้งหลายเหล่านั้นเป็นพวกแอบหลบแอบซ่อนดีกว่า เพราะจะทำให้เรารู้สึกว่ามนุษย์ต่างดาวเหล่านี้เป็นผู้บริสุทธิ์ พวกเขาสู้เพราะมีคนเข้ามาทำร้ายก่อน ทำให้คนอ่านบางคนสงสารมนุษย์ต่างดาวมากกว่าคนเสียอีก ซึ่งหลายตอนแสดงให้เห็นว่าพวกเขาก็อยู่ของเขาดีๆ บางตัวมีลูก บางคนก็ดูทีวี บางตัวก็เป็นรูปปั้น ไม่ได้ทำอันตรายมนุษย์สักอย่าง(แต่หลังๆ ไม่เป็นแบบนั้นแล้ว)
ผมทึ่งจริงๆ คนเขียนการ์ตูนกันซึเรื่องนี้สามารถสะกดความรู้สึกของคนอ่านได้อยู่หมัด ในการ์ตูนนั้นแม้จะออกมากว่า 200 ตอน แต่ก็ยังมีหลายๆ คนติดตามอ่านอย่างไม่รู้เบื่อ แม้เรื่องนี้ตัวละครจะมาก แต่บทบาทของแต่ละคนนั้น ทำให้เราหลายคนรู้สึกว่า “มันมากกว่าตัวประกอบธรรมดา” มันเหมือนชีวิต มีเลือดมีเนื้อ ทำให้คนอ่านอย่างเราๆ มีอารมณ์ร่วมกับเหล่าตัวละครกันซึได้ คนอ่านยินดีคนที่รอดตาย คนอ่านยินดีกับคนที่ชุปชีวิตขึ้นมาใหม่(แม้บางคนจะเป็นคนไม่ดี แต่ผมก็ดีใจ) คนอ่านเอาใจช่วยคนดี คนอ่านสมน้ำหน้าคนเลว คนอ่านสมน้ำหน้าคนโง่ที่ไม่กลัวมนุษย์ต่างดาว คนอ่านสงสารมนุษย์ต่างดาว คนอ่านอยากบี้เรกะ(เอ้ย...ไม่ใช้นั้นความคิดผมคนเดียว เหอๆ)
และสิ่งที่สะกดคนอ่านได้อยู่หมัดอีกอย่างคือเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจของพระเอกนั้นเอง....
การพัฒนาด้านจิตใจของพระเอกนามคุโรโนะนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่น่าติดตามสำหรับการ์ตูนกันซึ คุโรโนะเป็นเพียงเด็กธรรมดา(แถมเป็นเด็กมีปัญหาซะด้วย) เขาไม่ใช้พวกเก่งกาจ มีความสามารถ มีพลังแบบซุปเปอร์แมน ปล่อยพลังคลื่นเต่า อ๊ะจ๊าก แบบพระเอกสำเร็จรูปเก่งแต่เกิดทั้งหลาย แต่เขาถูกบังคับ เข้าสู่โลกแห่งความสิ้นหวัง ต้องจับดาบ จับปืนฆ่ามนุษย์ต่างดาวโดยรู้ว่ามันเป็นบาป ร่วมกับผู้คนในโลกกันซึ ที่บางคนพึ่งพาได้ บางคนก็พึ่งพาไม่ได้ เขาสู้เพราะไม่อยากตาย แม้ปัญหาชีวิตของเขาจะมากเพียงใดก็ตามแต่เขาก็จะต้องรอดกลับมาให้ได้
ตอนแรกๆ เปิดตัวออกมา คนอ่านหลายคนแอบหมั่นไส้ไอ้พระเอกคนนี้ซะแล้ว ในฉากชานชาลารถไฟฟ้า เขาอ่านนิตยสารโป๊แบบไม่อายใคร(แสดงว่ามันหื่นจัด) ขณะที่เขาอ่านนั้นหญิงชราคนหนึ่งเข้ามาถามทาง เขาก็ตอบคำถามหญิงชราคนนี้แบบไม่ใส่ใจนัก และเมื่อหญิงชราถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ พระเอกคุโรโนะตอบว่า
“อย่าถามแต่คนอื่นสิครับ คุณยายน่าจะใช้หัวคิดซะบ้าง”
ฉากนี้เรียกคะแนนความกวนโอ๊ยจากผู้อ่านหลายคน......
ช่วงแรก คุโรโนะก็เหมือนคนญี่ปุ่นนิสัยหลายๆ คนที่ผมกล่าวมาในหลายๆ ตอน คือ ไร้น้ำใจ เฉยชากับสิ่งแวดล้อมรอบๆ ข้าง ไม่สนใจผู้อื่น แต่นิสัยเสียของเขานั้นมีเหตุผล เพราะเล่มหลังๆ เรื่องก็พยายามบอกชีวิตส่วนตัวของคุโรโนะว่า เขาหลีกหนีครอบครัว มาอาศัยอยู่ตัวคนเดียวในบ้านพัก เขามีความอคติครอบครัวของเขาที่รักน้องชายมากกว่าตน(อันนี้ผมว่าครอบครัวก็ยังรักคุโรโนะอยู่นะไม่งั้นเขาจะส่งเงินมาให้ทำไม แถมน้องชายของคุโรโนะก็เป็นคนดีมากกว่าที่คิดด้วย) เขาเคยเป็นเด็กที่เคยถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียนมาก่อน และคนอื่นๆในห้องเรียนก็ดูถูกเขาในทางไม่ดี เช่น บัวใต้น้ำ หรือคำสบถที่เหมือนเขาเป็นตัวไร้ค่า จนทำให้นิสัยของเขากลายเป็นคนไร้น้ำใจไป
ช่วงสอง แต่เมื่อคุโรโนะเข้ามายังโลกกันซึ ได้เล่นเกมส์ฆ่ามนุษย์ต่างดาว และเห็นความตายมาเยอะ ทำให้จิตใจของเขาเปลี่ยนแปลงไป เขามีความกล้ามากขึ้น รู้วิธีการเอาตัวรอดมากขึ้น แต่ช่วงแรกนั้นๆ นิสัยของเขาบางนิสัยยังไม่เปลี่ยนไป “ความไร้น้ำใจ” ยังคงอยู่ เขาเห็นนิชิเด็กม.ต้นกวนโอ๊ยกำลังถูกมนุษย์ต่างดาวฆ่า เขาก็ไม่สน “ปล่อยให้มันตายซะ เก่งนักนี้” อีกทั้งความหื่นก็ยังไม่หาย เป็นแค่เด็กมัธยมต้นอายุ 17 ยังไม่ได้บรรลุนิติภาวะแท้ๆ ดันมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงที่คบกันเพียงแค่ไม่กี่นาที อีกทั้งความกล้าของเขาในช่วงแรกๆ นั้นคือความบ้าระห่ำเท่านั้น เขาเห็นความกล้านี้ทำให้ปลดปล่อยตัวตนที่เก็บกดของเขาออกมา ชีวิตธรรมดาที่เขาต้องเสแสร้ง อดกลั้น เจียมตัว ไม่มีใครเห็นหัว แต่ในโลกของกันซึคุโรโนะกลับกลายเป็นฮีโร่ คนอื่นต่างยกย่อง ทำให้ช่วงสองคุโรโนะนั้นเหมือนพวกลำพองตนมากกว่าเป็นคนดี
ช่วงสาม หลังจากเสียเพื่อนอย่างคาโต้ในศึกรูปปั้นพันมือ คุโรโนะก็เริ่มและเห็นความตายหลายคนๆ บนโลกกันซึและโลกแห่งความจริง พวกเขาเหล่านี้สังคมแทบไม่สนใจกับการหายตัวของพวกเขา แต่คุโรโนะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับพวกเขา พวกเขาตายยังไง ตายโหดขนาดไหน ทำให้ช่วงนี้คุโรโนะเริ่มมีนิสัยกลัวตาย เขากลัวที่จะตายแบบหมาข้างถนน แต่หลังจากรู้จักกิ๊กใหม่อย่างอาโกะ(ทำไมไม่เอาเรกะว่ะ เซ็งเป็ด)และผ่านศึกมนุษย์ดาวอ่านจิตใจ คุโรโนะก็เริ่มรู้จักคำว่า “ความเห็นใจ” , “การปกป้องผู้อื่น ” ประสบการณ์ที่ผ่านๆ มาได้หลอมรวมให้เขากลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกกันซึ เขามักพูดแต่คำว่า “ไม่ยอมให้ใครตาย” และเพื่อการนั้นเขาจะตายไม่ได้ เขาสาบานจะต่อสู้มนุษย์ต่างดาวเพื่อปกป้องผู้คนพาทุกคนหลุดพ้นจากเกมส์บ้าๆ แห่งนี้ให้ได้ และต้องอยู่รอดไปพบคนที่เขารักได้ มาถึงตอนนี้คุโรโนะก็กลายเป็นสูตรสำเร็จของแนวคิด “คนที่ปกป้องคนอ่อนแอ” ในการ์ตูนแอ็คชั่นในหลายๆ เรื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เปลี่ยนคือความหื่น โหยเอ็งเอย.....อายุแค่นี้ เงินยังแบมือขอพ่อแม่เลย เอ็งยังคั่วสาวอีกเรอะ อย่างน้อยเอาหนูเรกะดีกว่า สเป็กเฮีย)
กันซึจากตอน 240 เป็นต้นไป ผมว่าจะไม่เขียนถึงแล้ว แต่บังเอิญตอนที่ผมเขียนกันซึในช่วงแรกผมกลับไปอ่านในเน็ตอีกครั้งเพื่อรู้ว่าเรื่องต่อจากนี้เป็นยังไร ปรากฏว่าดูแล้วไม่ผิดหวังครับ แม้จะความรู้สึกชอบ ไม่ชอบผสมกัน จนได้อะไรหลายๆ อย่างกลับมาเขียนอย่างที่เห็น
ช่วงตอน 240 เป็นต้นไป เป็นช่วงที่พวกกันซึโตเกียวทำศึกสู้กับปีศาจภูตผีญี่ปุ่นที่โอซาก้า โดยไม่มีคุโรโนะร่วมทีม และตอนนี้คาโต้กลับมาเป็นพระเอกอีกครั้ง หลังจากที่หายไปหลายตอน และที่นั้นพวกเขาก็ได้เจอพวกกันซึทีมโอซาก้า.......แสดงว่าพวกกันซึนั้นมีอยู่ทั่วโลก ไม่ใช้ที่โตเกียวเสมอไป(กันซึไทยมีไหม)
-เรื่องแรกคือที่ไม่ชอบคือเนื้อเรื่องเริ่มกว้างขึ้นแล้ว กฎของกันซึเริ่มเปลี่ยนไป คนที่เห็นกันซึเริ่มเยอะขึ้น และตัวละครเริ่มเยอะขึ้น
-เรื่องที่สองที่ไม่ชอบคือจากที่เราสงสารมนุษย์ต่างดาวในตอนแรกๆ ที่มันอยู่ของมันดีๆ กลับโดนฆ่า แต่มาถึงตอนนี้มนุษย์ต่างดาวบ้าเลือดขึ้น และเริ่มฆ่าคนบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวข้องกับเกมส์กันซึแล้ว ขอบอกว่าเสียดาย เสียดายมากๆ
-ในขณะที่มนุษย์ต่างดาวเลว ฝ่ายมนุษย์กันซึโอซาก้าก็เลวพอๆ กัน เลวเท่านั้นยังไม่พอยังบ้าด้วย ไม่รู้จะสรรหาอธิบายความบ้า ความระห่ำ และความเลวเขาพวกนั้นอย่างไรดี เอาเป็นว่าลองไปดูละกัน
-มาถึงตอนนี้ “คะแนน” กลายเป็นสิ่งที่ผูกมัดให้พวกมนุษย์กันซึโอซาก้าไปแล้ว พวกเขากลายเป็นคนเลว ไม่กลัวตาย และเริ่มดูถูกอะไรหลายๆ อย่าง(ในภาษาเกมออนไลน์เรียกว่า เกรียม คิดว่าข้าแน่ ตรูเลเวล 100 นะเว้ย)
-ความประมาทนำพาไปสู่ความตาย ทีมโอซาก้าบางคนพึ่งเทคโนโลยีมากเกินไป เนื่องจากพวกเขาเห็นความตายเป็นเรื่องธรรมดา บวกกับพวกเขาได้คะแนน 100 คะแนน หลายรอบ พวกเขาลำพองตัวเองมากเกินไป สุดท้ายก็สะใจคนอ่านหลายๆ คน เพราะพวกนั้นตายแบบสุนัขข้างถนนไม่ปาน
-เหล่าทีมคนบาปโอซาก้าคงไม่ได้ยินสำนวน สู้แบบหมาจนตรอก แม้มนุษย์ต่างดาวจะมีอาวุธด้อยประสิทธิภาพ ขณะที่พวกเขามีอาวุธที่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาไม่ได้ใช้อาวุธแข็งแกร่งนี้ใช้เป็นประโยชน์ กลับดูถูกพวกมัน กลับสู้แบบเท่าเทียมกัน เสมือนอเมริกาดูถูกเวียดนามในสงครามเวียดนาม สุดท้ายก็อย่างที่เห็นตายเกือบยกก๊วน
-ฉากมีเพศสัมพันธ์บ้ามาก เป็นเครื่องตอกย้ำว่ามนุษย์เราเป็นสัตว์ไม่กี่ชนิดที่มีเพศสัมพันธ์เพราะความสนุกมากกว่า จะเป็นการสืบพันธุ์
-ฉากโหดทวีความบ้าคลั่งมาก มีทั้งไส้ไหล หัวหลุด นม หนอน ไม่ไหวคนดูอยากจะเป็นลม
-มนุษย์ธรรมดาก็ทวีความเห็นแก่ตัวเพิ่มขึ้น คนอุตส่าห์ช่วยจากมนุษย์ต่างดาว ขอบคุณสักคำไม่มี และหลายคนเห็นสิ่งอันตรายอยู่ข้างหน้าเป็นเรื่องสนุกเหมือนเคย
-คาโต้เท่บาดใจมากๆ การกลับมาของเขากลายเป็นสิ่งที่ไม่ผิดหวัง เขาเป็นฮีโร่น้ำใจงามจริงๆ ในเรื่องกันซึนี้หมอนี้เป็นคนดีที่สุดแล้วมั้ง แต่ก็น่าคิดเพราะว่าการเฉลยท้ายเรื่องว่านี้คือตัวก็อปปี้ พูดง่ายๆ คือโคลนนิ่งนั้นเอง แสดงให้เห็นว่าตัวจริงของคุโรโนะกับคาโต้ที่โดนรถไฟชนนั้นไม่มีทางกลับมาแล้ว สิ่งที่เห็นอยู่ที่โคลนนิ่งที่มีความคิดความทรงจำคนที่ตายนั้นเอง กลายเป็นว่าการคืนชีพครั้งนี้สร้างความยินดีหรือเปล่านี้
-บอสตัวสุดท้ายนี้โครตบ้าพลังมากๆ ฆ่าก็รอบมันก็ยังมี ร่าง 1 ร่าง 2 ร่าง 3 ร่าง 4 มันจะมีไปถึงไหน(เดี๋ยวก็กลายเป็นคนแก่ เดี๋ยวก็กลายเป็นเด็ก เดี๋ยวก็กลายเป็นปีศาจ เดี๋ยวก็เป็นผู้หญิง มันต้องการนำเสนออะไรแก่เราหว่า??) จนคนอ่านแล้วอึ้งว่ามันเป็นพระเจ้า,อมตะหรือเปล่าเนี้ย แต่กระนั้นเพราะความที่มันลำพองมากเกินไป มันถึงต้องพบจุดจบง่ายดายอย่างเหลือเชื่อ(มั้ง??)
-ในขณะที่บอสตัวสุดท้ายบ้าพลัง จนคนอ่านอย่างเราๆ เริ่มเหนื่อยใจกันแล้ว เหล่าขบวนการกันซึที่รอดชีวิตอยู่ก็ไม่สิ้นหวัง เพื่อหลุดพ้นจากวังวนแห่งความบ้าแบบนี้ ผลสุดท้ายพวกเขาก็ทำสำเร็จ พวกเขาชนะโดยไม่พึ่งอาวุธบ้าพลัง ไม่พึ่งประสบการณ์ ไม่ได้เคลียร์เกม 7 รอบ พวกเขาใช้ความกล้า สติปัญญา ไหวพริบ ความเสียสละ มิตรภาพ ความสามัคคี และกำลังใจล้วนๆ ในการกำจัดบอสใหญ่ในตอนท้าย นี้แหละคือความสามารถที่แท้จริง
-นิชิก็เท่ เชื่อเปล่าว่านิชิเป็นตัวละครที่ผมชอบมากที่สุดในกันซึ(กับเรกะเหอๆ) แม้ช่วงแรกๆ ผมอาจเกลียดเขาเพราะความกวนโอ๊ย แต่หลังจากที่เขาคืนชีพมาทำให้เราได้เห็นตัวตนของเขามากขึ้น เขาไม่ได้กวนโอ๊ยแต่กำเนิด ชีวิตของเขามีปมพอสมควร เขาเป็นคนไม่มีเพื่อน, ตกอยู่ในสภาพแวดล้อมการกลั่นแกล้งในโรงเรียน แต่นิชิไม่เหมือนคุโรโนะที่ใช้วิธีอดกลั้นในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขาปลดปล่อยโดยใช้วิธีสังหารหมู่ในโรงเรียน ในเมื่อแกรุนแรงมาฉันก็รุนแรงตอบ และกระนั้นจิตใจเขายังมีดีอยู่บ้างเมื่อเขาละเว้นชีวิตยายช้างน้ำมิตรคนแรกของเขาเอาไว้ ในขณะที่คนอื่นๆ ในห้องตายหมด (พูดตรงๆ ฉากนี้มันกว่า ฉากสู้กับพวกปีศาจญี่ปุ่นอีก รายนั้นทั้งบ้าพลัง และวิปริต ไม่ไหวใส่เยอะมากเกินไป)
-เรกะจังน่ารัก(เกี่ยว??)ดันเสร็จคุโรโนะ(ตัวก็อปไปซะได้ เซ็งเป็ด)
-ศึกตอนที่ 300 กว่ามันช่างเป็นสถานการณ์สิ้นหวังโดยแท้ มันเป็นศึกที่ไม่ต้องสนคะแนนแล้ว เอาตัวรอดให้ได้ก่อนจะเป็นการดีที่สุด
สรุป กันซึเป็นการ์ตูนที่มีดีหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเนื้อเรื่องที่คาดเดาได้ยาก การต่อสู้ที่สมจริง(แม้จะแหวะๆ ไปหน่อยก็เถอะ) แม้ออกทะเลไปบ้าง แต่กระนั้นก็ยังสอดแทรกปัญหาญี่ปุ่นอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งในโรงเรียน, ความไร้น้ำใจของคนญี่ปุ่น, การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร, การสังหารหมู่, ปัญหาวัยรุ่น สิ่งเหล่านี้สอดแทรกลงไปในตัวละครทั้งหลายในเรื่องกันซึได้อย่างลงตัว เหมือนประหนึ่งว่าพวกเขาคือคนในสังคมจริง ทำให้พูดได้ว่ากันซึเป็นการ์ตูนที่มากกว่าแอ็คชั่นและโหด
สิ่งที่ชอบในกันซึ มี 2 อย่างคือคนเขียนใจกล้ามากที่ทำให้ตัวละครสำคัญที่คนอ่านชื่นชอบตาย และการดีไซน์มนุษย์ต่างดาวพวกภูตผีนั้นมีหลายตัวออกแบบได้สุดยอดมากๆ เรียกได้ว่าดูจุใจเลย
แต่สิ่งดีๆ ของกันซึ เหล่านี้ดันเสียไปเพราะมีฉากโป๊เปลือยและมีฉากร่วมเพศมากเกินไป ซึ่งหลายๆ คนบ่นแบบนี้ ส่งผลให้โดนแบนในที่สุด ผมก็เห็นด้วยแหละ เพราะหลังๆ มาฉากมีเพศสัมพันธ์เริ่มวิปริต วิตถารขึ้น แต่ถ้ามองในมุมกลับจะพบว่ามนุษย์นั้นเป็นสัตว์ไม่กี่จำพะวกที่มีเพศสัมพันธ์เพื่อความพอใจมากกว่าที่จะสืบพันธุ์ บางทีสิ่งที่คนเขียนนำเสนอให้เห็นว่าเวลาที่มนุษย์โศกเศร้า เสียใจ ผิดหวัง สิ้นหวัง ทางออกสุดท้ายของพวกเขาคือการมีเพศสัมพันธ์ก็เป็นได้
สุดท้ายนี้ ผมต้องกลื่นน้ำลายตัวเองครับ ที่ผมบอกตอนแรกๆ ว่าผมจะไม่ไปอ่านกันซึต่อจากตอนที่ 190 แล้ว ปรากฏว่าหลังจากเขียน ผมเขียนไม่ออก ผมเลยไปอ่านอีกรอบ อ่านไปอ่านมาดันติด และสงสัยว่าเนื้อเรื่องต่อจากนี้เป็นไงต่อ ผมเลยไปอ่านอีกรอบ ปรากฏว่าผมติดใจวังวนแห่งความสิ้นหวังของโลกกันซึเสียแล้ว อ่านจนถึงตอนล่าสุด 307 เลยครับ....เหอๆ อยากรู้จังมันจะจบยังไง
เออ....ลืมบอกไป กันซึก็มีโดจินด้วยนะครับ โป๊ปะทะโป๊ นางเอกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เรกะนั้นเอง
ตอนหน้าเอาเรื่องอะไรดีหว่า?? ว่าจะเขียนเรื่องเรกะ ลวง หลอก ฆ่าต่อ แบบว่าจะเปรียบเทียบกับอัจฉริยะสะกดมรณะน่ะ......อืม น่าจะเข้ากันได้
ขอบคุณที่อ่านนะครับ กว่าจะจบ เออ.....
+ +
ความคิดเห็น