ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

ลำดับตอนที่ #309 : Fall 2014 Anime ทวินเทลกู้โลกและน้องหนวด

ใครอยากดูการรีวิวโครตแมวๆ อนิเมะซีซั่นนี้ไปที่

http://www.dek-d.com/board/view/3393127/

“ทำไมผมต้องอวยการ์ตูนที่ผมรู้ว่ามันจะวินแน่นอน”

                กลับมาอีกครั้งครับกับการรีวิว Fall 2014 Anime ซึ่งถือว่าเป็นซีซั่นที่ผมค่อนข้างมีความสุขทีเดียว เพราะมีอนิเมะที่ผมชอบมากๆ หลายเรื่อง

                ก่อนอื่นผมก็อยากเขียนอะไรนิดหน่อย คือ ผมไม่ใช่พวกดูอนิเมะสักเท่าไหร่ครับ ส่วนใหญ่ผมดูอนิเมะเพราะเป็นเรื่องที่สนองความต้องการของผมเท่านั้นครับ (ฮาเร็ม, เพื่อนสมัยเด็ก, พระเอกกากแต่ทำเรื่องยิ่งใหญ่, แปลกๆ)

                พูดถึงฮาเร็ม ซีซั่นนี้ผมว่าแทบจะไม่มีเลยครับ โอเค หลายคนคงเถียงว่าอนิเมะจากเกมจีบสาวไง ปกติผมไม่เคยดูอนิเมะแนวนี้จบเลยสักเรื่อง เพราะสิ่งที่ผมกลัวคือจบ “วิน” วินอาจเป็นการจบดี แต่สำหรับอนิเมะเกมจีบสาวแล้วมันเป็นสิ่งที่เซ็งที่สุดในโลกใต้หล้า ที่ผ่านมาก็ปรากฏให้เห็นแล้ว เมื่ออนิเมะตัดกระจาย ไม่มีเหตุผลมากพอที่วิน ตัวละครที่อวยไม่เข้าวิน พระเอกไปได้ใครไม่รู้เข้าวิน (ทำไมไม่จบฮาเร็มไปเลยก็ไม่รู้) มันจะเป็นฝันร้ายของคนติดตามอนิเมะแนวนี้เลยก็ว่าได้  

                ขอโทษที่ผมใช้ความรู้สึกส่วนตัวบ่นมากไปหน่อย สำหรับซีซั่นนี้เรื่องที่ผมเท่าที่ผมนับได้ผมชอบ 4 เรื่อง (และตามจบแน่นอน) คือ เทนจิ, ทวินเทลกู้โลก, ปรสิต, ชมรมพลังวิเศษ แน่นอนว่ามันค่อนข้างน้อยเพราะผมเลือกอะไรหลายอย่าง เช่น พยายามเลี่ยงอนิเมะที่สร้างจากเกมจีบสาว (เพราะเสี่ยงมากว่าจะจบวิน) และอนิเมะที่สร้างจากมังงะดังๆ ผมก็ขอผ่าน เพราะดูมังงะมาแล้ว (ดูอาจจะโฉบๆ ดูนิดหน่อย)

Ore, Twintails ni Narimasu

               Ore, Twintails ni Narimasu  (แปลประมาณว่า “ผมได้กลายเป็นสาวทวินเทล”) เป็นอนิเมะจากนิยายของ Mizusawa Yume และวาดภาพประกอบโดย Kasuga Ayumu

โดยเรื่องราวได้กล่าวถึงพระเอกชื่อ “มิสึกะ โชจิ” เด็กหนุ่มมัธยมปลายปี 1 ผู้หลงไหลในผมทรง “ทวินเทล” อย่างมาก จนไม่มีใครอยากคบกับเขามกนัก นอกจากเพื่อนสมัยเด็ก “อากิ” ที่ยังคงเป็นเพื่อนเขาอยู่  จนวันหนึ่งเขาและอากิก็ได้พบสาวสวยคนหนึ่งจากต่างมิติที่ปรากฏตัวต่อหน้า และได้มอบความสามารถให้เขาสามารถแปลงร่างเป็น “นักรบสาวทวินเทล เตีย แบน”  (เด็กหนุ่มกลายเป็นผู้หญิง!?) เพื่อต่อสู้วายร้ายจากต่างมิติ (ที่แสนปัญญาอ่อน) เพื่อปกป้องโลกใบนี้

ถ้าไปอ่านบอร์ดในเว็บหนึ่ง มีแต่คนดร็อปเรื่องนี้ แต่ไม่ใช่กับผมแน่นอน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมรอมาตั้งแต่มีการประกาศเป็นอนิเมะ (ส่วนนิยายนั้นได้ลิขสิทธิ์ในไทยแล้ว ส่วนเป็นของสำนักพิมพ์ไหนนั้นอดใจรอสักนิด)  เพราะผมคนรักสายทวินเทล และเพื่อนสมัยเด็ก ทั้งสองสิ่งนี้คือสิ่งชอบในการ์ตูนญี่ปุ่น และเมื่อผมดูการ์ตูนเรื่องนี้ก็ไม่ผิดหวัง  เพราะคุณจะได้เห็นความงดงามของเพื่อนสมัยเด็ก และทวินเทลที่หลากหลาย เต็มอิ่ม จุใจแน่นอน

เอาตามตรง แน่นอนครับอนิเมะตัดฉากนิยายแน่นอนไม่ต้องสืบ และที่น่าเจ็บใจคือมีฉากที่ว่าเป็นหัวใจของเรื่องด้วย ไม่ว่าจะเป็น การนำเสนอความโรคจิตของพระเอก นิยายทำได้น่ากลัวมากครับ อารมณ์เหมือนว่าพระเอกมันจะเป็นฆาตกรโรคจิตหรือเปล่าเนี้ยถ้าโตขึ้นมา  แต่ในอนิเมะตัดส่วนนี้ออก ซึ่งก็ช่วยไม่ได้ครับ เพราะในนิยายมันบรรยายเป็นหน้าๆ เป็นฉากๆ ว่าทำไมพระเอกมันชอบทรงผมทวินเทล ชอบจนอยากลูบๆ ดมๆ แต่อนิเมะมันจำกัดเรื่องพวกนี้ เลยให้อารมณ์ว่าพระเอกชอบสาวทวินเทลเท่านั้น แต่ไม่ได้ระดับโรคจิตสักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็มีฉากพระเอกจับผมทวินเทลแล้วลูบๆ อ่ะนะ

ต่อมาส่วนที่ตัด คือความงดงามของเพื่อนสมัยเด็กครับ เรื่องนี้เพื่อนสมัยเด็กน่ารักมากๆ โฮก ไม่ว่าจะซึนเดเระ  ปากบอกรังเกียจพระเอก แหม คนรังเกียจเขาไม่ไว้ทรงผมทวินเทลให้พระเอกดู หรืออยู่ใกล้ๆ พระเอกหรอก (แน่นอนพระเอกก็บื้ออ่ะนะ) แต่อนิเมะดีอย่าง ได้เห็นการเคลื่อนไหวเพื่อนสมัยเด็ก ทรงผมทวินเทลที่ปลิวตามลม ทวินเทลหลายแบบ ผมชอบฉากเพื่อนสมัยเด็กตีลังกากายกรรมนั้น ผมดูฉากนี้ซ้ำไปซ้ำมาอย่างโรคจิตทีเดียว

            ส่วนที่ตัดต่อมา คือความสำนึกผิดของพระเอกครับ ถือว่าเป็นส่วนสำคัญมากๆ กล่าวคือเมื่อพระเอกแปลงเป็นสาวน้อยทวินเทลแล้ว สู้กับพวกผู้ร้าย (ที่แสนปัญญาอ่อน) แล้วพวกผู้ร้ายเป็นพวกชอบสาวทวินเทล ทำท่าหื่นๆ ใส่พระเอก (ในร่างสาวทวินเทล) แน่นอนว่าพระเอกรู้สึกรังเกียจ และนั้นเองพระเอกก็รู้สึกสำนึกว่าพวกผู้ร้ายมันไม่แตกต่างจากเขาเลย เพราะเขาก็ทำโรคจิตแบบนี้กับพวกสาวๆ และพวกสาวก็รู้สึกรังเกียจ แต่เขาก็ไม่รู้ตัวเรื่องนี้เลย กว่าที่จะรู้ก็ต่อเมื่อเขาอยู่ในสถานะเป็นผู้ถูกมองบ้าง ตรงจุดนี้น่าเสียดายที่อนิเมะตัดไปครับ ถือว่าเป็นข้อคิดที่ดีสำหรับตอนนี้เลยทีเดียว

               อย่างไรก็ตาม Ushinawareta Mirai wo Motomete ก็เป็นอนิเมะที่ทำออกมาถูกใจ อิ่มใจ แก่ผมยิ่งนัก เสี่ยหมีคนนี้รับประกัน เพราะการออกแบบตัวละครโมเอะน่ารักโครตๆ เพื่อนสมัยเด็กน่ารัก พระเอกตอนเป็นสาวทวินเทลก็น่ารัก แถมชุดต่อสู้ก็โมเอะ (แต่ไม่ได้เน้นโฟกัสเซอร์วิส โชว์ก้นสักเท่าไหร่) อีกทั้งเนื้อหานี้ให้อารมณ์การ์ตูนแนวเด็กประถมแปลงร่างสมัยก่อนครับ ที่จู่ๆ พระเอกและนางเอกได้รับเลือกแบบไม่เต็มใจ พวกผู้ร้ายปัญญาอ่อน บ้าๆ บอๆ จบลงอย่างมีความสุข เพียงแต่เรื่องนี้เอามาปรับให้เข้ากับยุคสมัย ผสมความโมเอะเข้าไป และใส่ความเป็นฮาเร็มนิดๆ ถือว่าทำได้ดีด้วย พูดง่ายๆ อวยครับ อวย

Inou Battle wa Nichijou-kei no Naka de

                Inou Battle wa Nichijou-kei no Naka de (แปลเป็นไทยคือ “เมื่อสงครามอภินิหารสงครามกลายเป็นเรื่องธรรมดา”) เป็นอนิเมะสร้างจากนิยายไลท์โนเวล ผลงานของ Nozomi Kota  วาดภาพประกอบโดย Hataraku Maou-sama! และยังถูกดัดแปลงเป็นมังงะโดย Kurose Kousuke เป็นเรื่องราวสมาชิกทั้ง 5 ของชมรมวรรณกรรม ที่ได้รับพลังพิเศษมาเมื่อครึ่งปีก่อน ซึ่งมันมากพอจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ แต่ในโลกที่ไม่มีทั้งผู้กล้ากับจอมมาร หรือองค์กรชั่วร้าย ให้ได้ต่อกรด้วยเลย พลังนั่นจะมีประโยชน์อะไร? แต่ถึงอย่างนั้นทั้ง 5 ก็ยังหาทางใช้พลังที่ได้รับมาจนเกิดเรื่องวุ่นวายในรั้วโรงเรียน (ซะงั้น)

(สปอย ไม่เหมือนชมรมเกมอิจิโนะอะ รายนั้นบอกไม่มีศัตรูก็คือไม่มี ซาบซ่าฮาเร็ม แต่เรื่องนี้ความจริงมีศัตรูอ่ะ)

Inou Battle wa Nichijou-kei no Naka de เป็นแนวแอ็คชั่น, แฟนตาซี และตลกโรแมนติก ซึ่งเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องป่วนๆ ของผู้มีพลังพิเศษที่สามารถทำลายโลกได้อย่างสบาย

            ตอนที่ผมเขียนรีวิวแมวๆ อยู่นี้ ยังไม่ได้อ่านนิยายนะครับ เลยไม่รู้ตัดทอนมากขนาดไหน แน่นอนครับมันตัดทอนอยู่แล้ว แต่จุดสำคัญของอนิเมะที่สร้างจากไลท์โนเวลก็คือจะทำอย่างไรให้เรารู้สึกชอบอนิเมะและอยากไปอ่านนิยายเรื่องนั้นๆ มากกว่า ซึ่งตามความเห็นของผม ผมว่าอนิเมะเรื่องนี้สอบผ่านครับ ภาพใช้ได้ระดับหนึ่ง ตัวละครมีเสน่ห์ เนื้อหาก็น่าติดตามด้วย

ไม่รู้ทำไมดูการ์ตูนเรื่องนี้แล้วผมเอาไปเปรียบเทียบกับอีกเรื่องคือ Ore to Ichino no Game Doukoukai Katsudou Nisshi ชมรมเกมของอิจิโนะ (อิจิโนะมาก่อนครับ) เพราะมีคอนเซ็ปต์คล้ายๆ กันคือ “ผู้มีพลังที่ยิ่งใหญ่แต่ไม่ประโยชน์อะไร ใช้ชีวิตประจำวันอย่างสงบสุขดีกว่า) แม้ทั้งสองเรื่องจะคล้ายๆ กัน แต่การเล่าเรื่องต่างกันครับ ของอิจิโนะนั้นเน้นการพูดคุย ทำกิจกรรมซาบซ่าฮาเร็มไปวันๆ ไม่ได้ใช้พลังพิเศษมากนัก แถมยังต้องปวดตับค่าตอบแทนของพลังพิเศษอีกต่างหาก (แต่หลายคนชอบครับ) ขณะที่ Inou Battle wa Nichijou-kei no Naka de จะเน้นการต่อสู้พลังพิเศษเยอะ และปากบอกว่าไม่มีศัตรู แต่ความจริงแล้วมี (ของอิจิโนะไม่มีศัตรู ก็คือไม่มี ตั้งแต่ต้นจนจบ)

ดังนั้นคอนเซ็ปต์ของทั้งสองเรื่องต่างกัน Inou Battle wa Nichijou-kei no Naka de ก็เป็นแนวพลังพิเศษในชีวิตประจำเหมือนหลายเรื่องๆ (ที่ปัจจุบันก็เริ่มมีเยอะแล้วนะครับ) แต่กระนั้นจุดเด่นก็คือตัวละครในเรื่อง เด่นดี และพระเอกบ้าได้ใจ ติ๊งต๊องได้ใจ พลังวิเศษก็ระดับทำลายล้างโลกอีกต่างหาก ส่วนมุกตลกก็ไม่ได้ฮ่ามาก ออกไปทางแป๊กด้วยซ้ำ แต่จุดประสงค์ไม่ได้ต้องการให้ฮ่า แต่มันแสดงให้เห็นตัวตนของตัวละครมากกว่าว่ามีนิสัยและเอกลักษณ์เป็นยังไง ตรงจุดนี้สอบผ่านครับ ผมเลยฮ่า ชอบตัวละครเกือบทุกคนในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นพระเอกจูนิเบียว, โลลิถูกใจหมี ส่วนผมชมพูสั้นพยายามตีตื้นหน่อยนะเธอถูกเหมือนจะจืดจางที่สุดในเรื่อง

เห็นว่าอนิเมะเรื่องนี้เป็นของค่าย kill la kill  แน่นอนว่ามันอาจเป็นแนวฮาเร็ม (ใช่เปล่าก็ไม่รู้) แต่สิ่งที่รู้คือสาวในชมรมทุกคนเป็นสาวซึนเดเระ และยันเดเระ พระเอกจะรอดไหมเนี้ย!!

Kiseijuu - Sei no Kakuritsu

               Kiseijuu - Sei no Kakuritsu เป็นอนิเมะแนวแอ็คชั่นสยองดิบเถื่อนที่สร้างจากมังงะขึ้นหิ้ง ผลงานของ ฮิโตชิ อิวากิ ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Afternoon 1990-1995  ที่ไทยเรารู้จักกันดีในชื่อ “ปรสิตเดรัจฉาน” ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์สยาม อนิเมะมีทั้งหมด 24 ตอนจบ

โดยเนื้อเรื่องได้กล่าวถึงพระเอกชื่อ “ชินอิจิ” ที่วันหนึ่งพบว่ามือขวาของเขาผิดปกติ เหมือนไม่ใช่มือของตนเอง และต่อมาก็พบว่ามือนั้นได้กลายเป็นมนุษย์ต่างดาวประเภทปรสิตเสียแล้ว ทำให้ชินอิจิต้องอยู่ร่วมกับปรสิตนั้นโดยบริยาย ต่อมาเขาก็ได้รู้ความลับว่านอกจากเขาแล้ว ยังมีปรสิตที่สิงคนอีกจำนวนมาก และพวกมันก็กินคนเป็นอาหาร โดยที่สังคมทั่วไปไม่รู้ แต่ชินอิจิเลือกที่จะหลีกหนีและอยู่อย่างสงบมากกว่า และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการนองเลือด

เห็นหลายๆ คนชมอนิเมะเรื่องนี้ แต่ผมขอบอกว่าผมตรงข้ามครับ (ฮ่าๆ เรื่องตรงข้ามคนอื่นนี้ผมถนัดนัก)

ก่อนอื่นเห็นหลายคนอวยเพลงเปิด OP ผมก็ไม่เห็นว่ามันอลังการตรงไหน คือโอเคครับมันเพลงร็อค แต่มันจะสื่อถึงความอลังการนั้นเป็นอีกเรื่องครับ ผมอาจไม่มีหัวเรื่องเพลง แต่ผมฟังแล้วไม่ติดหูอยู่ดี

อย่างที่สองคือการออกแบบตัวละคร อย่างแรกคือผมชอบพระเอกใส่แว่นนะครับ (ฮ่า) แต่ที่ไม่ชอบคือลุคพระเอกใหม่ ที่เปลี่ยนตัวตนในช่วงกลางเรื่อง ซึ่งเหมือนแบบมังงะมากไปหน่อย ดูเหมือนเป็นอีกคน เลยไม่ชอบอย่างแรง

อย่างสาม คือนางเอก (ซาโตมิ มุราโนะ) เป็นการออกแบบที่ไม่ประทับใจผมเลยแม้แต่น้อย ทรงอะไรฟ่ะ หนูจุกเรอะ คือไม่น่ารักเลย ถ้ามีการจัดอันดับตัวละครน่าอวยในเรื่อง ผมให้เธออยู่รั้งท้ายเลย (แพ้มิกกี้ด้วยซ้ำ ขนาดน้องแว่นตัวประกอบก็ยังแพ้)

มันเป็นการยากครับ ที่จะสร้างอนิเมะจากการ์ตูนที่จบไปเป็นชาติแล้ว แถมหลายคนก็รู้ตอนจบอีกด้วย ดังนั้นเป้าหมายอนิเมะเรื่องนี้มี มีสองประเด็นใหญ่ๆ ที่จะต้องพิสูจน์ตนเองอย่างแรกคือต้องเป็นอนิเมะที่เอาเรื่องปรสิตมาปรับปรุงเนื้อหาให้เข้ากับสมัยใหม่ โดยที่ไม่เอาเรื่องมังงะใส่เข้าไปมาก (ไม่ใช่เหมือนแบบโจโจ้ 3 ที่ทำตรงมังงะทุกระเบียบนิ้ว) ดังนั้นสิ่งที่ทำออกมาคือการดีไซน์ตัวละครที่ดูเข้ากับยุคสมัยปัจจุบันมากขึ้น (โดยเฉพาะปรสิตหมานี้ทำได้ถูกใจผมเลยนะ (ฮ่า)

อย่างที่สองคือการเล่าเรื่องครับ แน่นอนว่าอนิเมะพยายามเล่าเรื่องให้แตกต่างจากมังงะ เดี๋ยวย้อนไปย้อนมา  แต่กลายเป็นว่านั้นทำให้เป็นจุดอ่อนใหญ่หลวงสำหนรับตอนแรกของอนิเมะเรื่องนี้ซะงั้น อย่างแรกคือมันหงุดหงิดมากสำหรับคนที่เคยดูปรสิตมาก่อน และคนที่ไม่เคยดูก็ดูแล้วสะดุดขาดความต่อเนื่องด้วย

แม้ในภาพรวมๆ สำหรับตอนแรกของอนิเมะเรื่องนี้จะไม่ดีนัก แต่กระนั้นด้วยความเป็นแฟนของการ์ตูนเรื่องนี้มาก่อน (ชอบตั้งแต่เด็ก) ก็ทำให้ผมติดตามอนิเมะเรื่องนี้ โดยฉากที่ผมอยากเห็นคือ ฉากสังหารหมู่ในโรงเรียน ถือว่าเป็นฉากที่ชอบมากเลยก็ว่าได้

ปล.มิกกี้น่ารัก

Ai•Tenchi Muyo

              เรื่องมีอยู่ว่าผู้แทนเมืองทากาฮาชิ ในจังหวัด Okayama มีแผนที่จะดึงดูด ผู้คนให้มาท่องเที่ยวที่เมืองนี้กันมากขึ้น ด้วยการออกเงินทุนสนับสนุนให้สร้างอนิเมะ Tenchi Muyo! ซีรีย์ใหม่ขึ้นมา!  (และนอกจากนี้ยัวรำลึกครบรอบ 20 ปีของซีรีย์เทนจิด้วย) ในชื่อ Ai•Tenchi Muyo

เทนจิถือว่าเป็นเทพฮาเร็มรุ่นพ่อรุ่นแม่ (ที่หลายคนลืมไปแล้ว)  จำได้ว่าสมัยผมยังเด็กช่อง 9 (รู้สึกมีช่อง 3) ซึ่งสนุกมากครับ มันฮ่าดี (แต่ตอนหลังๆ ไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ก็เถอะ)  อย่างน้อยก็ยังมีเศษเสี้ยวความทรงจำผมอ่ะนะ

และที่สุดยอดคือเทนจิถือว่าเป็นแนวฮาเร็มที่ไม่กี่เรื่องที่คนเขียนออกมาบอกทุกคนเลยว่า “พระเอกได้ทุกคน” (ไม่ก่อสงครามหัวทอง ผมดำหรอก) สมัยก่อนแนวฮาเร็มมักจบเลือกใครสักคน (สมัยนี้ก็น้อยอยู่ดี)

นอกจากนี้เทนจิเป็นฮาเร็มไม่กี่เรื่องที่มีคุณภาพครับ คาแร็คเตอร์ยังอยู่ในความทรงจำผมอยู่เลย ไม่ว่า พระเอกตอนแรกกากๆ ตอนหลังเทพ (จนผมเอียนพระเอกจับดาบเพราะเรื่องนี้แหละ), เทพอสูรผมเงิน, ตำรวจผิวเทน, ศาสตร์จารย์โลลิ (ปลอม), เจ้าหญิง, น้องสาวโลลิ แต่ละคนระดับทำลายดาวทั้งดวง เป็นที่จดจำของแต่ละคน (น้องสาวโลลิยังมีภาคแยกย่อยอีกต่างหาก)

                ให้ตายสิ เสียเวลาระลึกชาติไปเสียได้ ไม่ได้เข้าเรื่องเลย  แน่นอนว่าเนื้อหาในเรื่องเกิดที่เมืองทากาชิ เมื่อครูคนหนึ่งชื่อเทนจิ ซากิ (อายุ 22 ปี) ได้เป็นครูในโรงเรียนหญิงล้วน และที่นั้นเขาก็พบว่าเด็กนักเรียนหญิงที่ไม่ปกติ!!

ตัวอนิเมะ Ai•Tenchi Muyo  ค่อนข้างสั้นใน 4 นาที (ไหนตอนประกาศบอก 5 นาที) สำหรับคนที่ไม่เคยดูเทนจิภาคเก่าๆ ก็แนะนำให้ไปดูภาคเก่าๆ (ภาค เทนจิตะลุยจักรวาล) ก่อนนะครับ จะได้ทราบตัวละครหลักในเรื่อง

สำหรับตอนอนิเมะ ยอมรับว่าตอนนี้ผมจับต้นชนปลายไม่ถูกครับ ว่าอะไรเป็นอะไร ตอนที่เขียนนี้ตัวอนิเมะปาไป 5 ตอน (สัปดาห์ละห้าตอน) :ซึ่งตัวอนิเมะมีทั้งหมด 50 ตอน

คือตามความคิดผมนะ ผมไม่จำเป็นต้องเพิ่มตัวละครใหม่ก็ได้นะครับ เพราะฮาเร็มเก่าๆ ของเทนจินั้นพื้นฐานมันแน่นอยู่แล้ว ผมยังคิดเลยว่าฮาเร็มชินจิเก่า (เรียวโกะ, เจ้าหญิง และน้องสาวโลลิ) ยังน่าอวยกว่าตัวละครใหม่อีก (แน่นอนว่าภาคนี้ฮาเร็มเก่าๆ ปรากฏตัวแน่นอน) เแค่เอาตัวละครเก่าๆ มากัดกัน ผมว่าเข้าท่ากว่า (เอาเป็นภาคเทนจิย้อนเวลาอะไรก็ได้)  เข้าใจว่าคนทำต้องการทำซีรีย์ใหม่ สร้างเนื้อเรื่องแยกออกมา ไม่เกี่ยวกับภาคหลัก เอาเถอะ แค่เห็นตัวละครเก่าๆ ปรากฏตัวอีกครั้งก็ดีถมแล้วละ (เห็นวาชู แล้วหายคิดถึงเลย )

พอดีผมเป็นแฟนเทนจิ ก็ตามสิครับ

Nanatsu no Taizai

              Nanatsu no Taizai หากใครเป็นแฟนของเพจดราม่า จะรู้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้เคยทำให้จ่าเจ้าของเพจดราม่าเสียผู้เสียคนมาแล้ว เพราะจ่าดูเถื่อน (มังงะในเน็ต ทั้งๆ ที่เรื่องนี้มีลิขสิทธิ์แล้วโดยวิบูลย์กิจ)

ตามความเห็นของผม วงการการ์ตูนญี่ปุ่นและมังงะ ดูไปดูเถอะ ขอให้ซื้อของมีลิขสิทธ์ก็แล้วกัน มันแตกต่างจากวีดีโอเกม หรือซอฟแวร์ เพราะใครๆ ก็อยากดูตอนต่อไปกันทั้งนั้น แม้วิธีดูจะเถื่อนก็ตาม ถ้ามัวแต่ห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ก็ไม่ทันวงการนี้หรอกครับ  (เพราะวงการนี้ต้องรวดเร็ว ฉับไว อัฟเกรด การ์ตูนใหม่ๆ ตลอด)

Nanatsu no Taizai เป็นเรื่องราวเกิดขึ้นในโลกแฟนตาซียุคกลางแห่งหนึ่ง ซึ่งกล่าวถึง กลุ่มอัศวินแห่งบาปทั้ง 7 ผู้แข็งแกร่งและโหดเหี้ยม พวกนั้นเป็นอดีตเหล่านักโทษผู้ก่อคดีและถูกตีตราสัญลักษณ์ของบาป 7 ประการบนร่าง วันหนึ่งพวกนั้นถูกกล่าวหาว่ากำลังวางแผนยึดครองอาณาจักร จึงได้ขับไล่ไป และมีประกาศจับไปทั่วในฐานะอาชญากรตัวอันตราย

เวลาผ่านไป 10 ปี ได้เกิดการก่อรัฐประหารขึ้น ราชาถูกจับกุมโดยกลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นพวกที่ใช้อำนาจข่มขู่ประชาชน เจ้าหญิงอลิธซาเบธได้ออกตามหากลุ่มอัศวินทั้ง 7 เพื่อขอความช่วยเหลือ เธอได้พบ เมลิโอดาส เจ้าของบาร์แห่งหนึ่งที่ยังดูเหมือนเด็ก แต่เขากลับเป็นหัวหน้าของเหล่าอัศวินแห่งบาป ผู้ที่มีสัญลักษณ์ของมังกรแห่งโทสะบนร่าง หลังจากได้เห็นความตั้งใจของอลิธซาเบธที่ต้องการช่วยบิดา เขาตัดสินใจที่จะออกตามหาเหล่าอัศวินแห่งบาป อีก 6 คนที่แยกย้ายกันไปเมื่อสิบปีก่อน และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด

 ถ้าพูดกันตามตรง Nanatsu no Taizai ก็เป็นการ์ตูนแฟนตาซีบ้าพลังที่พล็อตสูตรสำเร็จครับ ประเภทพวกพระเอกปราบเหล่าร้ายที่ยึดครองประเทศ มุกแบบนี้ใช้จนเบื่อแล้ว แต่อย่างไรก็ตามการ์ตูนประเภทแอ็คชั่นบ้าพลังเรื่องนี้ก็จัดสิ่งที่หลายคนชอบมายำรวมกันครับ เช่นตัวละครชาย-หญิงเท่ๆ เทพๆ (แถมยังลุ้นอีกว่า 7 บาปมีใครบ้าง และแต่ละคนก็ปรากฏตัวออกมาอย่างเท่ และน่าติดตามสุดๆ ว่ามีอิทธิฤทธิ์อะไรบ้าง) และตัวละครก็มีคาแร็คเตอร์โดดเด่น ชัดเจน (สิ่งที่ผมอยากตินิดตรงที่ตัวละครไม่ค่อยสื่อถึง 7 บาปสักเท่าไหร่)

ฉากต่อสู้ก็จัดหนัก แม้ตัวละครพระเอกมันจะเทพ แต่การดำเนินเนื่องเรื่องมีอะไรให้น่าลุ้น น่าติดตามตลอด  เป็นต้นว่า ตัวละครใหม่ปรากฏตัว, อะไรจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป, ไขว้กันอย่างสนุก ฯลฯ เรียกว่ายิ่งดำเนินเรื่องไม่มีตก หรือไม่มีออกทะเลครับ มีประเด็นใหม่ๆ ที่น่าสนใจให้ตามตลอด นี้สิน่ะ วิธีที่ทำให้การ์ตูนสูตรสำเร็จที่น่าติดตาม จึงไม่แปลกที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้มีหลายคนชอบ และติดอันดับรวมเล่มขายดีเป็นอันดับต้นๆ ด้วย

สำหรับตัวอนิเมะ ได้ผู้กำกับ  Tensai Okamura คนนี้เก่งอนิเมะแนวแอ็คชั่นภาพสวยอยู่แล้ว ยิ่งทำให้การ์ตูนอนิเมะ Nanatsu no Taizai ภาพสวย รายละเอียดดีขึ้น ภาพสีสันสดใส และอลังการใช้ได้ แม้ใครดูมังงะมาแล้ว แต่ก็อดทึ่งไม่ได้ สรุปคือสนุกครับ ตามยาวแน่นอน

ปล.รอฉากจอมโจรบันปรากฏตัว

ก็จบการรีวิวเพียงเท่านี้ครับ ส่วนอนิเมะภาคต่อไม่ว่าจะเป็น Log Horizon 2 และ Hitsuki no Chaika Avenging Battle อันนี้ผมก็ยังไม่หนีครับ แต่คิดว่ารอให้อนิเมะออกมาสัก 2-3 ตอนก่อนค่อยดู เพราะซีซั่นนี้นอกจากอนิเมะแล้วยังมีภาพยนตร์ซีรีย์ที่หลายคนรอคอยอย่าง The Walking Dead Season 5 อันสุดยอดด้วย ซ้ำยังไม่พอ ผมยังดูแคสเกมอย่าง (ผมดูทั้งของเอกและของเบย์) ทำให้ซีซั่นนี้ไม่เหงา แต่ไม่เวลาแทน (ฮ่า)

เอาเป็นว่าขอให้ทุกท่านมีความสุขในการดูอนิเมะซีซั่นนี้ครับ และหากเรื่องไหนมีลิขสิทธิ์ก็อุดหนุนด้วย (และหากทวินเทลกู้โลกมีลิขสิทธิ์ผมก็จะซื้อครับ)