ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

ลำดับตอนที่ #298 : ช่วงเวลาที่เลวร้ายของมาร์เวล: Ultimatum จุดจบของฮีโร่

                จากคราวที่แล้ว พูดถึงชั่วเวลาที่เลวร้ายของ DC คอมมิค เรื่องซูเปอร์แมนเล่นหนังโป๊ มาคราวนี้มาพูดถึงช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของมาร์เวล (Marvel) กันบ้าง นั่นคือมาร์เวลชุด Ultimatum  ซึ่งเป็นที่กล่าวถึงคนชอบมาร์เวลเลยก็ว่าได้

                มาร์เวล แน่นอนหลายคนรู้จักกันดี เพราะคอมมิคการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ที่มีชื่อเสียง ก่อตั้ง 1939 และดังเรื่อยมา โดยมีตัวละครฮีโร่ที่มีชื่อเสียงของมาร์เวลก็มีมากมาย เป็นต้นว่า สไปเดอร์แมน, ไอรอนแมน, กัปตันอเมริกา, วูล์ฟเวอรีน, มนุษย์เขียวจอมพลัง, ธอร์ ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันฮีโร่ที่มีชื่อเสียงของมาร์เวลเกือบทุกคนมีภาพยนตร์เป็นของตัวเอง และเป็นที่นิยมไปทั่วโลก

นอกจากนี้มาร์เวลยังเป็นคู่แข่งยาวนานของ DC พร้อมกับสงครามว่าใครเจ๋งกว่ากัน อันเป็นคำถามโลกแตก ของมาร์เวลนั้นฮีโร่มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสงครามอเมริกันปัจจุบันมากกว่า (เน้นเอาใจเด็กวัยรุ่นรุ่นใหม่มากขึ้น) แต่ของ DC ฮีโร่จะเน้นสายอนุรักษ์นิยมมากกว่า

คำถามคือทำไมช่วงนี้ผมสนใจการ์ตูนอเมริกัน ก็เพราะช่วงนี้มีแฟนๆ ที่ชอบการ์ตูนฮีโณ่อเมริกัน แปลคอมมิคดีๆ ให้คนไทยอ่าน ซึ่งปกติแล้วในแผงหนังสือไม่มีการ์ตูนคอมมิคการ์ตูนฮีโร่อเมริกันมากนัก (อาจเป็นเพราะต้นทุนแพง และบ้านเราไม่นิยมอ่าน เพราะชอบการ์ตูนญี่ปุ่นมากกว่า) และผลก็พบว่าช่วงๆ หลังๆ คอมมิคทั้งสองค่ายนี้โหดไม่เบา เลือดสาดกระจาย จนผมเก็บไปฝันร้ายก็มี (แต่ถูกใจคอซาดิสต์อย่างผมเป็นอย่างยิ่ง)

เช่นเดียวกับ DC ตัวละครของมาร์เวลก็มีหลายช่วงเวลาที่สุข ทุกข์ และตกต่ำที่สุดในชีวิตเหมือนกัน เป็นต้นว่าสไปเดอร์แมนต้องสูญเสียเกวน สเตซี่ (Gwen Stacy) คือความรักครั้งแรกและแฟนสาว ด้วยน้ำมือของกรีน ก็อปลิน, จูบิลี่ (Jubilee) และพวกเอ็กซ์แมนตรึงกางเขน, กัปตันอเมริกาเสียชีวิต ฯลฯ

 

Ultimatum

แต่ถ้าถามว่าช่วงเวลาไหนที่เลวร้ายที่สุดของมาร์เวล หากนับการดำเนินเรื่องและความรู้สึกของคนอ่าน หลายคนต่างยกย่อง? การ์ตูนมาร์เวลคอมมิคชุดเหตุการณ์ Ultimatum  หรือ “สุดท้าย” ซึ่งเป็นการ์ตูนคอมมิคที่มีทั้งหมด 1-5 ชุด ที่วางแผงในเดือนมกราคม 2009-เดือนกันยายน 2009 โดย เจฟ โลบ (Jeph Loeb) และภาพประกอบด้วย เดวิด ฟินช์ (David Finch)

                Ultimatum ถือว่าเป็นซีรีย์ที่มีชื่อเสียงไม่เบา เพราะตอบรับจากแฟนๆ มาร์เวลทั่วโลก ด้วยยอดขายมากกว่าแสนเล่ม (แม้ว่ายอดขายจะลดน้อยถอยลงในเล่มหลังๆ ก็ตาม) แม้ว่ายอดขายจะดีแต่ เสียงตอบรับของคนอ่านนั้นเป็นด้านลบเป็นส่วนมาก

                คำถามคือ? เหตุใด Ultimatum ถึงกลายเป็นช่วงเวลาเลวร้ายของมาร์เวลที่ถูกกล่าวขานซึ่งคำว่า “เลวร้าย” ในที่นี้มีหลายความหมาย  แต่ในเหตุการณ์ของมาร์เวลนี้มีแต่เรื่องคนอ่านตกใจ ตะลึง เมื่อพวกเขาได้เห็นฮีโร่ของพวกเขาตายต่อหน้าต่อตา และเป็นการตายที่โหดร้ายอีกด้วย!! (และผมก็ช็อกตัวละครโผปรดผมคนหนึ่งตายเหมือนกัน)

                Ultimatum เป็นซีรีย์ที่มีทั้งหมด 5 เล่ม โดยไม่เน้นฮีโร่คนใดคนหนึ่งเป็นพระเอก พูดง่ายๆ คือรวมจักรวาลฮีโร่จากมาร์เวลเท่าที่จะมากได้ ไม่ว่าจะเป็นทีม X-man, สี่พลังกายสิทธิ, ดิ อเวนเจอร์,  สไปเดอร์แมน ฯลฯ เรียกว่ามารวมหมด หากแต่การรวมตัวของพวกเขาคราวนี้ ไม่ได้สนุกสนาน หรือตื่นเต้น เฮฮา ปาร์ตี้ เหมือนผลงานก่อนๆ หากแต่กลับเป็นช่วงเวลาเลวร้ายและตกต่ำของชีวิตพวกเขาแต่ละคนมากกว่า

                Ultimatum เป็นเหตุการณ์ที่เขียนขึ้นเพื่อสิ้นสุดจักรวาลมาร์เวลในอีกเวอร์ชั่นหนึ่งก็ไม่ผิดนัก มันเหมือนกับมุกการ์ตูนบางเรื่องที่ตัวละครตายเยอะๆ ในตอนท้าย เพื่อเรียกเรตติ้งคนอ่านประมาณนั้น

                โชคดีที่เหตุการณ์ Ultimatum ไม่ได้เกิดขึ้นในจักรวาลหลัก แต่เกิดขึ้นในจักรวาลอัลติเมต (จักรวาลที่เขียนขึ้นมาใหม่ หรือพูดง่ายๆ โลกคู่ขนาน เหมือนกรณีของมาร์เวลซอมบี้) โดยเนื้อหาถูกปรับเปลี่ยนรายละเอียดลายอย่าง เป็นต้นว่าสไปเดอร์แมนยังคงเป็นเด็กไฮสคูล, สี่พลังกายสิทธิ์เป็นแค่เพื่อนร่วมงานมากกว่าครอบครัว เป็นต้น

 

แค่ฉากนี้ก็ตายเกลื่อน

Ultimatum #1 เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น ในเมืองใหญ่ของอเมริกา ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเหล่าฮีโร่ใช้ชีวิตประจำวันของตนเองอย่างสงบสุขเหมือนทุกวัน เป็นต้นว่า รี้ด ริชาร์ด (มนุษย์ยาง ใน 4 พลังกายสิทธิ์) กำลังขอซู สตอร์ม (สาวล่อนหน)แต่งงาน, ไอรอนแมนกำลังคุยกับกัปตันอเมริกา, ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ (สไปเดอร์แมน) ไปเที่ยวกับแฟนสาว, ธอร์กำลังฝึกวิชาดาบกับวัลคีรี่ (แฟนของธอร์) ฯลฯ พูดง่ายๆ เหล่าฮีโร่ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น

                ทันใดนั้นเอง จู่ๆ สภาพอากาศก็เปลี่ยนแปลงขึ้นกะทันหัน ฟ้าผ่ากระจายไปทั่วท้องฟ้า สายฟ้ากระหน่ำ และไม่กี่นาทีต่อมาก็เกิดคลื่นยักษ์ซึนามิถล่มแมนฮัตตัน ทำให้เมืองจมอยู่ใต้น้ำ และเหตุการณ์ครั้งนี้มีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก รวมทั้งฮีโร่ชาย-หญิงด้วย!!

บีสท์ (Beast มิวแทนท์หน้าเหมือนมนุษย์หมาป่าแต่ขนสีน้ำเงิน) – จมน้ำเสียชีวิต (Ultimatum #1)

ดาสเซอร์ (Dazzler  มิวแทนท์สาวผู้เปลี่ยนเสียงเป็นพลังงาน) –จมน้ำเสียชีวิต (Ultimatum #1)

ไนท์ ครอเลอร์ (Nightcrawler มิวแทนท์รูปร่างเหมือนปีศาจแต่จิตใจดีงาม) – จมน้ำเสียชีวิต (Ultimatum #1)

หลังจากนั้นก็เกิดเหตุโกลาหลกันทั่ว ทุกคนต่างหนีเอาชีวิตรอด แม้แต่ฮีโร่เองก็สับสนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ใครเป็นต้นเหตุ (เพราะไม่คิดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติลงโทษธรรมดาแน่นอน)

ทางด้านชาร์ลส์ ซาเวียร์ หรือโปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ รู้สึกถึงจิตของคนนับล้านที่ตาย และส่งข่าวที่ส่งข่าวถึง ฮีโร่ที่เหลืออยู่ ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นแผนทำลายล้างโลกของแม็กนีโต้ (Magneto) และเหล่าฮีโร่ต้องร่วมมือกันหยุดเขา

                สรุปเล่มแรก ฮีโร่ตายเพราะจมน้ำ (ซึ่งก็น่าตกใจว่าทำไมตายง่ายจัง) โดยเนื้อหาโดยรวมก็ไม่ได้น่าแปลกใจสักเท่าไหร่ แม้ว่าภาพจะสวยงาม แต่ด้านเนื้อเรื่องก็ยังคงเป็นเรื่องฮีโร่ตามฉบับแบบอเมริกัน

 

“รสชาติเหมือนไก่”

                Ultimatum #2 อย่างไรก็ตาม แม้โปรเฟสเซอร์เอ็กซ์จะบอกสาเหตุตัวการภัยธรรมชาติครั้งนี้ แต่เหล่าฮีโร่ยังไม่ไปรุมกระทืบแม็กนีโต้โดยทันที เพราะแต่ละคนกำลังจัดการเรื่องของตนเองอยู่ เป็นต้นว่า กัปตันอเมริกากำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล, สไปเดอร์แมนหาผู้รอดชีวิต, ธอร์ต่อสู้กับวิญญาณของนักรบของเทพแห่งความตายเพื่อขอให้คืนชีพให้แก่วัลคีรี่ (ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำตายใน เล่ม 1)

                อีกด้านหนึ่ง ฮอว์คอาย (Hawkeye) ฮีโร่เจ้าแห่งธนูสุดแม่นยำ ช่วยเยลโลแจ๊คเก็ต (Yellowjacket -ฮีโร่ที่สามารถขยายร่างใหญ่ได้) หา วอส-เป้อร์ (Wasp คู่รักของเยลโลแจ็ตเก็ต มีพลังบินได้) และพวกเขาทั้งสองก็เจอ หากแต่เธออยู่ในสภาพเป็นศพ และถูกกัดกินโดยบลอบ (มิวแตนท์อ้วน) อย่างน่าสยดสยอง

 

โปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ตาย

                ทางด้านโปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ได้เผชิญหน้ากับแม็กนีโต้ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นแม็กนีโต้ทำไปเพื่อแก้แค้นมนุษย์ และต้องการทำลายมนุษย์ด้วยค้อนของธอร์ที่ขโมยมา และแม็กนีโต้ก็จัดการหักคอโปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ตายอนาถ

                สรุปว่าในเล่มที่สองนั้นมีฮีโร่ตายไปสองคน ซึ่งจะว่าไปถึงว่าเป็นฉากไฮไลต์เรื่องนี้ก็ไม่ผิดนัก เพราะภาพมันตราตรึงใครหลายคนก็ว่าได้

                โปรเฟสเซอร์ เอ็กซ์ (Professor X) โดนหักคอตายโดยแม็กนีโต้

วอส-เป้อร์ (Wasp) ถูกกินโดยบลอบ (เชื่อว่าตายก่อนหน้าแล้ว และบลอบมากินศพเฉยๆ)

บลอบโดนกระซากหัว

Ultimatum #3 แม็กนีโต้อยู่ในอาการจนเครียดกินเหล้า (บ่นไปเรื่อย) และยังคงให้โลกเกิดภัยพิบัติ แถมยังให้ฝูงแมดรอซ (Madrox) จำนวนมาก (วายร้ายที่มีพลังในการแยกร่าง แต่ร่างที่ว่าไม่ใช่ร่างมายาแบบนินจา แต่เป็นร่างจริงหมด) ติดระเบิดฆ่าตัวตายอนุภาพสูงไปโจมตีไตรสเกเลี่ยน (Triskelion) ฐานทัพฮีโร่อีกด้วย

ตัดมาที่เยลโลแจ๊คเกอร์ (ในร่างยักษ์)  เมื่อเห็นสุดที่รักวอส-เป้อร์เสียชีวิต และโดนบลอบกินเนื้อไปบางส่วน ก็รู้สึกเจ็บแค้น จึงจับบลอบขึ้นมาแล้วกัดกินส่วนหัวของบลอบและบ้วนทิ้งอย่างน่าสยดสยอง (ถือว่าเป็นหนึ่งในฉากน่าตกใจเหมือนกัน) เมื่อจัดการบลอบเสร็จ เยลโลแจ็คเกอร์ก็ได้หยิบศพของวอส-เป้อร์ขึ้นมา และบอกว่าเธอไม่เป็นไร เขาจะพาเธอไปรักษาที่ ไตรสเกเลี่ยน (Triskelion)   เธอต้องหายเป็นปกติ

ทางด้านเหล่าฮีโร่ที่ประจำไตรสเกเลี่ยน กำลังรับมือกับฝูงแมดรอซ จำนวนมาก และเหตุการณ์นี้มีฮีโร่จำนวนมากต้องตาย อย่างไรก็ตามเมื่อเยลโลแจ๊คเกอร์มาถึงเขาก็ช่วยจัดการพวกแมดรอซ หากแต่พวกแมดรอซได้ปีนขึ้นหัวเยลโลแจ๊คเกอร์ และก็กดระเบิดตัวเองตายพร้อมเยลโลแจ๊คเกอร์

                อีกด้านหนึ่ง กัปตันอเมริกาได้กลับมาเป็นปกติแล้ว ด้วยความที่มีสกิลผู้นำ เขาจึงบอกให้ฮีโร่ทุกคนรวมตัวกัน เพื่อช่วยเหลือโลกจากแม็กนีโต้

                -บลอบ (Blob) โดนกัดกระชากหัวตายอนาถโดยเยลโลแจ๊คเกอร์

-แคนนอนบอล (Cannonball) โดนระเบิดพลีชีพของแมดรอซ

-Detonator – ทรมานและฆ่าใน Savage Land (ดินแดนที่เป็นป่ายุคก่อนประวัติศาสตร์ซ่ออยู่ใน ทวีปแอนตาร์กติกา)

-เอ็มม่า ฟรอสต์ (Emma Frost) โดนระเบิดพลีชีพของแมดรอซ

-แฮงค์ พิม (Hank Pym) โดนระเบิดพลีชีพของแมดรอซ

-ฮาร์ด/ไดรฟ์ (Hard-Drive) ทรมานและฆ่าใน Savage Land

-ลองช็อต (Longshot) ทรมานและฆ่าใน Savage Land

-โพลาลิส (Polaris สาวน้อยเจ้าศาสดา) โดนระเบิดพลีชีพของแมดรอซ

-ซันส์พอท (Sunspot เอ็กซ์เมนมีความสามารถดูดซับและปล่อยพลังงานแสงอาทิตย์ได้) โดนระเบิดพลีชีพของแมดรอซ

-ธอร์ (Thor) แลกวิญญาณของตนเอง เพื่อให้คนรักของเขาคืนชีพ

                ส่วนเจ้ามาดรอซ (Madrox) นั้นไม่ระบุเป็นผู้เสียชีวิต เพราะมีพลังแยกร่าง ทุกร่างเป็นร่างจริงหมด ต่อให้ตายไปกี่คน หากเหลือร่างคนใดคนหนึ่ง ก็รอดอยู่ดี (สรุปว่าเอ็งเทพสินะ)

                ตัดฉากไปสไปเดอร์แมน ได้พบกับ ฮัค (Hulk ว่าแต่ทำไมฮัคตัวสีเทาหว่า ไม่ใช่ตัวสีเขียวเหรอ?) ที่เกิดคลั่งขึ้นมา และไล่ล่าฆ่าสไปเดอร์แมน จนทั้งสองหนีมายังบ้านของดอกเตอร์ สเตรนจ์ (Dr. Strange) หมอจอมเวทย์ แล้วเข้าไปทุบ Orb of Acmantata ประตูสู่มิติมืด จนเกิดการระเบิดขึ้น ต่อมาคิตตี้ (Kitty สาวจากเอ็กซ์เมนมีพลังสามารถทะลุวัตถุ หรืออะตอมได้ น่ารักและสดใส) มาถึงก็พบเพียงหน้ากากสไปเดอร์แมนเท่านั้น

 

ดอกเตอร์ สเตรนจ์ตายอนาถ

                ส่วนด้าน ดอกเตอร์ สเตรนจ์ นั้นได้เผชิญหน้ากับหัวหน้าของเหล่าปีศาจดอร์มามมู (Dormammu) ออกจู่โจม แต่ด็อกเตอร์สเตรนจ์ไม่เกรงกลัวดอร์มามมูแต่อย่างใด เพราะเขาสู้กันหลายครั้งแล้ว และเขาก็ชนะเกือบทุกครั้ง หากแต่คราวนี้สู้ไปสู้มาดอกเตอร์ สเตรนจ์กลับพ่ายแพ้และถูกฆ่าตายอย่างอนาถ

 

แองจี้ตายอนาถ

                ทางด้านกัปตันอเมริกาก็ยกพรรคพวกบุกปราสาทลอยฟ้าของแม็กนีโต้ โดยคนแรกประเดิมอัดแม็กซิโต้ก่อนคือแองจี้ (Angle –มิวแตนท์มีปีกเหมือนเทวดา) แต่ยังไม่ทันชักแม็กซิโต้ให้หายมัน ก็มีเซเบอร์ทู้ธ (Sabretooth คู่รักคู่แค้นของวูล์ฟเวอรีน) มาขัดขวาง ด้วยการกระโจมใส่หลัง เอาปากฉีกปีกของแองจี้ และใช้เท้าถีบจนแองจี้คอหักตายสยอง

                แม็กนีโต้หนีหลบฉากหากแต่เขาก็พบกลุ่มฮีโร่ที่มีทั้งกัปตันอเมริกา, วูล์ฟเวอรีน, ไอรอนแมน, ไซครอป, ฮอว์คอาย ที่ดักรอเพื่อเตรียมรุมกระทืบแม็กนีโต้อยู่

แองจี้ (Angel)-โดนฆ่าและถูกกินเนื้อบางส่วนโดยเซเบอร์ทู้ธ

                ดอกเตอร์ สเตรนจ์ (Doctor Strange)-โดนฆ่าโดยดอร์มามมูแถมร่างเละอนาถ

                ส่วนสไปเดอร์แมนแม้ว่าเล่ม 4 เหมือนกับว่าสไปเดอร์แมนโดนระเบิดแล้วหายไป หากนั้นตอนหลังก็พบว่ารอดชีวิต

 

วูล์ฟเวอรีนโดนเทพบีน

วูล์ฟเวอรีนเปิดฉากก่อนด้วยการพุ่งจะเข้าไปแลกชีวิตฟันแม็กนีโต้ แต่เม็กซิโต้ไหวตัวทัน และใช้พลังผลักวูล์ฟเวอรีนออกไป แล้วใช้พลังแม่เหล็กบังคับมือปล่อยพลังของไอรอนแมน และแว่นพลังเลเซอร์ของไซครอปปล่อยพลังพร้อมกันพุ่งเข้าใส่วูล์ฟเวอรีนจนร่างเละ

                อย่างไรก็ตามร่างอันเละของวูล์ฟเวอรีนยังไม่หยุด เขาใช้พลังเอือกสุดท้ายเอากรงเล็บแทงเข้ากลางลำตัวของเม็กนีโต้

                แต่การโจมตีของวูล์ฟเวอรีนนี้ไม่สามารถทำอะไรแก่แม็กนีโต้ให้ตายได้  แม็กนีโต้จึงใช้พลังทำลายกระดูกร่างของวูล์ฟเอรีนจนเทียบไม่เหลือซาก ต่อให้วูล์ฟเวอรีนมีพลังชีวิตฟื้นคืนร่างแค่ไหน แต่โดนพลังนี้ไปก็ไม่รอด

 

แม็กนีโต้ตายอนาถ

                แม็กนีโต้คลานหนี จนมาถึงบัลลิงก์ของเขา แต่ก็ไม่พ้นเหล่าฮีโร่ที่ตามไล่ล่ามาติดๆ หลังจากที่แม็กนีโต้โดนสั่งสอนเป็นชุดๆ ไซครอปก็ปิดท้ายด้วยการใช้เลเซอร์บีนใส่ แม็กนีโต้ตายอนาถ

                เรื่องราวน่าจะจบเพียงเท่านั้น หากแต่ 8 วันต่อมาที่วอชิงตันดีซี  ไซครอปกำลังกล่าวปราศรัยต่อหน้านักข่าว โดยบอกว่ามิวแทนต์ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดหรือน่าประณาม หากแต่ยังไม่ทันที่ไซครอปพูดจบ ก็มีกระสุนปริศนาเจาะเข้ากลางหน้าผากของเขา  แน่นอนว่าการตายจองไซครอปทำให้เรื่องราวยุ่งยากขึ้นอีกในอนาคตแน่นอน

 

ไซครอปตายแบบอนาถ

                อีกด้านหนึ่งที่ปราสาทดูม (Doom) กำลังสนุกสนานกับนักโทษของเขานามอร์ (Namor) ราชาแห่งทะเล) หากแต่ต้องมาถูกขัดจังหวะโดยเบนมนุษย์อิฐที่ได้บุกรุกเข้ามา เพื่อให้ดูมชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป (ดูมฆ่าลูกสาวของแม็กซิโต้) และจัดการบี้หัวดูมจนเละแล้วก็จากไป

                ตัดฉากมาอีกด้านหนึ่งที่บ้านหลังหนึ่งท่ามกลางหิมะ ในบ้านหลังนั้นมีกลุ่มมิวแตนท์ฝ่ายอธรรมะอดีตลูกน้องของแม็กซิโต้ และอีกคนคือ เพโทร (Pietro) หรือควิคซิลเวอร์ ลูกชายของแม็กซิโต้ (มีพลังเร็วเหนือแสง)  เขาเป็นคนฆ่าไซครอป และเขามีแผนร้ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า ซึ่งเป็นการจบชุด Ultimatum เอาไว้แต่เพียงนี้

                สำหรับเล่ม 5 มีตัวละครหลักที่เป็นขวัญใจเราตายเยอะ (และตายโหดอีกต่างหาก) แต่ผมเชื่อว่าหลายคนคงไปค่อยแปลกใจอีกแล้ว

ไซครอป (Cyclops) - โดนยิงโดยเพโทร

ด็อกเตอร์ดูม (Doctor Doom) - บี้หัวเละ โดยเบน

แม็กซิโต้  (Magneto) - โดนเลเซอร์จากตาไซครอป

                วูล์ฟเวอรีน (Wolverine) - ถูกฆ่าโดยแม็กซิโต้

นอกจากนี้ยังมีฮีโร่ที่ตายอีก เพียงแต่ไม่ทราบว่าตายยังไง ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นมีแฟนที่ผมปลื้อมอย่าง Psylocke ด้วย

                ความจริงคำว่า “เลวร้าย” นั้นมันมีหลายความหมาย หลายอารมณ์ เลวร้ายเนื้อเรื่องแต่มันน่าติดตาม กับเลวร้ายเนื้อเรื่องที่ไม่ติดตาม (คนเขียนแต่งเอามันไม่สนความรู้สึกของคนอ่าน) ซึ่งผมว่า Ultimatum   เป็นอย่างหลังมากกว่า

                และมุกตัวละครหลักตายเป็นเบือนั้นการ์ตูนญี่ปุ่นก็นำไปใช้จนผุแล้ว และผลออกมานั้นเป็นผลเสียมากกว่าผลดี (การตอบรับไม่ค่อยดีมากนักกับมุกนี้)

แน่นอนว่าหลายอย่างก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มเหมือนกันเพื่อปะติปะต่อเรื่องราวในเรื่องให้เข้าใจมากขึ้น เป็นต้นว่าลูกสาวแม็กซิโต้ตายยังไง, ประวัติตัวละครมีความเป็นมายังไง , ใครรักใคร เป็นต้น (หากผิเพลาดตรงไหน ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ)

ในแง่ความชอบส่วนตัว ผมก็ไม่ได้ชอบซีรีย์มากนัก นอกจากการเล่าเรื่องที่เหมือนกับแนวฮีโร่ที่พบเห็นทั่วไปแล้ว  บทของฮีโร่ยังกระจัดกระจายไป ไม่มีใครเด่นมากนักในซีรีย์นี้ (ไม่นับฮีโร่บางคนที่ผมไม่รู้จักนักด้วย) แต่อย่างไรก็ตามฉากตายโหดๆ ของฮีโร่ที่ดังๆ ก็ช่วยให้น่าสนใจพอสมควรไม่ปวดตับหรอกก สะใจด้วยซ้ำ ฮ่า) แต่ยอมรับว่าบางคนก็แอบตกใจเหมือนกัน เช่น การตายของไซคลอป มันหากไม่รุนแรง แต่มันก็น่าตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะตายง่ายๆ  ตายแบบการเมือง และตายไม่สวยงามแบบนี้  

และนอกจากนี้ซีรีย์นี้ไม่มีตลกแบบอเมริกันที่พบเห็นบ่อยๆฟ ในการ์ตูนฮีโร่อเมริกันให้เห็นสักเท่าไหร่ (แอบผิดหวังนะเนี้ย) และที่น่าสนใจคือองค์ประกอบหลายๆ เรื่องที่คอมมิคเรื่องนี้สื่อออกมา มันเข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบันได้ดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นซึนามิยักษ์, ระเบิดพลีชีพ การก่อการร้าย

                แม้ผมไม่ได้เป็นแฟนตัวยงของมาร์เวลมากนัก แต่ผมก็พอเห็นภาพมาร์เวลสมัยนี้ว่า การ์ตูนฮีโร่สมัยก่อนที่เรามักเห็นคุณธรรมและอธรรมชัดเจนนั้น ปัจจุบันไม่มีอีกแล้ว เมื่อเหล่าฮีโร่นั้นไม่ได้เป็นผู้ผดุงความยุติธรรมทุก 24 ชั่วโมง พวกเขาก็เหมือนมนุษย์คนๆ หนึ่งที่มีโกรธ หลง เศร้า บางคนคิดถึงแต่ตัวเอง บางคนใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ซึ่งน้อยจะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ

                และนอกจากนี้ ปกติเราเห็นการ์ตูนแนวฮีโร่ เวลาจบซีรีย์ จบเหตุการณ์ เรื่องราววุ่นวายเมื่อไหร่ จะจะจบอย่างมีความสุข ปัญหาคลี่คลาย แต่กลายเป็นว่าการจบซีรีย์นี้ไม่ได้มีความสุขเหมือนอย่างที่คิดเอาไว้  หลังจากเหตุภัยพิบัติผ่านพ้นไป เหล่าฮีโร่ที่สูญเสียคนรัก และสถานที่อยู่ก็แยกย่างกันไป ต่างคนต่างมีเส้นทางของตนเอง และบางคนจมอยู่กับความเศร้า แต่มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเรื่องราวครั้งใหม่ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเท่านั้น

                ส่วนเรื่องราวต่อจากนี้ ผมก็ไม่รู้มากนัก ใครสนใจติดตามข้อมูลเอาเองในซีรีย์เรื่องราวหลังเหตุการณ์ Ultimatum เอาเองนะครับ