ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

ลำดับตอนที่ #244 : Anime Summer 2013 ซีซั่นโมเอะครองเมือง

รีวิวอนิเมะเรื่องอื่นๆ ได้ในลิงค์ข้างล่างครับ (ในบทความนี้จะพูดถึงอนิเมะที่ผมติดตามเท่านั้น)

http://www.dek-d.com/board/view/3018113/

Anime Summer 2013 หรือซีซั่นฤดูร้อนปี 2013 ซึ่งแน่นอนว่าที่ญี่ปุ่นถือว่าเป็นฤดูร้อน แต่บ้านเราเป็นฤดูฝน (บางจังหวัด) ซึ่งไม่รู้อะไรฤดูร้อน 2013 ของญี่ปุ่นในปีนี้ดันเต็มไปด้วยการ์ตูนแนวโมเอะเรื่อยเปื่อย อย่างกับค่ายอนิเมะทำออกมาพร้อมเพียงกันโดยไม่นัดหมาย (หรือบังเอิญหรือเปล่าก็ไม่รู้) จนไม่แปลกใจเลยที่นิยายซีซั่นนี้สำหรับผมคือ "ซีซั่นโมเอะครองเมือง"

ถูกต้องแล้วครับซีซั่นนี้เต็มไปด้วยการ์ตูนโมเอะครองเมือง แนวพวกสาวๆ เล่นมุก ตบมุก มุกเรื่อยเปื่อยนั้นแหละ เยอะมาก แม้ว่าจะมีบางอนิเมะที่ไม่ใช่แนวโมเอะก็เถอะแต่ถ้าเทียบกับซีซั่นก่อนก็ถือว่าคุณภาพความอยากจะดูตกลงไปมากเลยแหละครับ

ส่วนตัวผมก็ไม่ได้รังเกียจโมเอะเรื่อยเปื่อยน่ะ แต่ถ้ามากเกินไปก็ไม่ไหว ใครจะดูแนวเหมือนๆ กันมุกซ้ำซากไปมา 2-5 เรื่องติดกันก็ไม่ไหวหรอกครับ ซึ่งซีซั่นนี้ก็มีโมเอะบางเรื่องที่ผมพอดูได้บ้าง

ส่วนฮาเร็มซีซั่นนี้ ไม่รู้ว่ามันประชดอะไรหนักหนา ฮาเร็มยังขายได้น่ะ ทำไมมันมีน้อยจัง ฮาเร็มก็มีแต่พวกซีรีย์ภาคต่อ ไม่ว่าจะเป็น พี่เทพ บาสโลลิ โรงเรียน DXD อะไรนั้น ผมไม่ได้ตามเลยสักนิด

ถ้าเทียบกับอารมณ์ความน่าติดตามจากซีซั่นก่อนถือว่าซีซั่นนี้น้อยมากสำหรับ แถมเรื่องที่ชอบค่อนมาวันศุกร์-อาทิตย์อีกแล้ว (ซีซั่นก่อนยังมีวันจันทร์-ศุกร์บ้าง) สำหรับซีซั่นนี้ผมดูไป 6 เรื่อง ซึ่งแถมไม่มีฮาเร็มเลย (ปล.เรียงจากความน่าติดตามตามความรู้สึกของผม และอนิเมะหลายเรื่องหลายคนอาจไม่ดู ไม่สนใจ เพราะรสนิยมผมจะเน้นอนิเมะไม่ดังคนไม่อวยและมีแฟนซับไทยไว้ก่อน)

1.- Inu to Hasami wa Tsukaiyou (เรียกย่อว่า น้องหมากรรไกร)

2.- Danganronpa Kibou no Gakuen to Zetsubou no Koukousei The Animation (เรืยกย่อว่าโรงเรียนฆาตกร)

3.- Choujigen Game Neptune The Animation (อีหนูตะลุยเกม)

4.- Watashi ga Motenai no wa Dou Kangaete mo Omaera ga Warui!sinv (น้องมืดมน)

5.- Kiniro Mosaic (อังกฤษโฮมสเตย์)

สำหรับบทความหน้าผมจะเขียน Choujigen Game Neptune The Animation (อีหนูตะลุยเกม) ให้คนที่สนใจอนิเมะเรื่องนี้ได้รู้เรื่องมากขึ้น เพราะตัวอนิเมะนั้นเป็นภาคต่อจากเกมทำให้หลายคนไม่รู้เรื่องราวก่อนหน้ามากนัก นี้ถ้าไม่มีชุดสูทโมเอะนี้คงเลิกติดตามไปนานแล้ว

 Inu to Hasami wa Tsukaiyou

                 Inu to Hasami wa Tsukaiyou เป็นเรื่องของพระเอกหน้าจืดคาซึฮิโตะ (ไร้หน้าตา) มีนิสัยบ้าหนังสือมากๆ ขนาดพ่อแม่ย้ายไปบ้านนอกเพราะงาน แต่ตัวเองอยากอยู่เมืองต่อ (รู้สึกพระเอกจะมีน้องสาวร่าเริงคนหนึ่ง) เพราะหนังสือออกตรงเวลากว่า ส่วนห้องนอนก็เต็มไปด้วยหนังสือจนแทบไม่มีที่นอน เรียกง่ายๆ ทุกนาทีต้องอ่านหนังสือไม่งั้นขาดใจตายให้ได้

พระเอกคนนั้นเป็นแฟนพันธุ์แท้นักเขียนปริศนาที่ชื่ออากิยามะ ชิโนบุ ผลงานที่ได้รับความนิยมคือ 7 บาป แต่บาปสุดท้าย ตัณหา ไม่ออกสักที ซึ่งพระเอกก็ตั้งใจไว้ว่าเขาจะไม่ยอมตายตาหลับจนกว่าจะได้อ่านหนังสือเล่มนี้

จนกระทั่งวันหนึ่งพระเอกกำลังนั่งอ่านหนังสือที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง พอดีมีโจรมาปล้นร้าน และขู่เขาและลูกค้าอีกคนที่เป็นผู้หญิงคนนั้นให้ลุกขึ้น พอดีผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมยืน (เพราะมัวแต่เขียนอะไรบางอย่างจนไม่รู้สภาพรอบข้าง) พระเอกเลยเข้าไปช่วยแต่โดนโจรเอาลูกซองเป่าหัวเละ

แม้จะตายไปแล้ว แต่พระเอกยังมีแรงตั้งใจอย่างแรงกล้าที่อยากจะอ่านเล่มสุดท้ายของ 7 บาปให้ได้ และต่อมาพระเอกก็คืนชีพและพบว่าตนเองเป็นหมาพันธุ์ดัชชุนขนยาว แถมยังกลายเป็นสัตว์เลี้ยงสาวสวยคนหนึ่งที่ต่อมารู้ภายหลังว่าเธอก็คืออากิยามะ ชิโนบุ นักเขียนนิยายร่ำรวย ฉลาด ตาสีแดง (คงเป็นโรคตาแดงแต่เกิด) และเป็นเจ้าแม่ซาดิสต์เต็มขั้นชอบพกกรรไกรติดตัวตลอดเวลา หากใครว่าเธอนมแบนจะโมโหมาก (ปล. อย่าหวังพระเอกเอาคืนครับ สายนี้เขาเรียกว่าสาย Femdom) ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีเธอคนเดียวที่ฟังเสียงในใจของเขาได้ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของฮาเร็มน้องหมา ที่สาวๆ ในฮาเร็มนิสัยสุดโด่ง!!\

Inu to Hasami wa Tsukaiyou เป็นผลงานของสตูดิโอ Gonzo สร้างจากไลท์โนเวลแต่งโดย Sarai Shunsuke (มีมังงะ) อนิเมะกำกับโดยทากาฮิชิ ยูกิโอะ ผู้กำกับคนนี้ผมค้นข้อมูลไม่ยักเจอผลงาน อย่างไรก็ตามอนิเมะเรื่องนี้สนุกดีน่ะ ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่ผมติดตามในซีซั่นนี้ทีเดียว

โอเคครับ เนื่องด้วยเป็นอนิเมะที่สร้างจากไลท์โนเวล ทำให้มันมีข้อจำกัดของมันอยู่ คือมันเหมือนตัดหลายๆ อย่าง (ไม่ได้อ่านนิยายก็จริง แต่ผมอ่านมังงะครับ) นอกจากนี้เผาอย่างเด่นชัด เนื้อหาอาจดูแปลกๆ แต่ก็เพราะความแปลกนี้แหละที่ทำให้ผมดูเพลินครับ  ไม่ว่าจะเป็นมุกหรือตัวละคร เช่นพระเอกเป็นหมาน่ารัก เห็นทำท่าทาง ตบมุก นางเอก (หรือตัวละครต่างๆ ในเรื่อง) นางเอกก็เพลิน หน้าเหมือนผียูโกะ แต่นมแบน (ฮ่า) เป็นแนวแปลกดีครับ  มุกตลกพอกับแกล้มได้อย่างสนุกเลยทีเดียว

ปล. ถ้าเรื่องนี้โดนลิขสิทธิ์ ซีซั่นนี้ผมแทบหมดเรื่องที่จะดูแน่นอน

Danganronpa the Animation

 
               Danganronpa Kibou no Gakuen to Zetsubou no Koukousei The Animation (ชื่อไทย ดันกันรอนปะ โรงเรียนมัธยมแห่งความหวังและเหล่านักเรียนมัธยมปลายผู้สิ้นหวัง) เป็นอนิเมะที่ดัดแปลงสร้างจากเกมบนเครื่อง PSP ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2010 แนวสืบสวนฆาตกรรม ซึ่งยอมรับเลยว่าไม่เคยเล่นเกมนี้ หากแต่เห็นพล็อตเกมก็นึกอยู่ว่าเหมาะสำหรับทำเป็นอนิเมะอย่างยิ่ง และรอมาตลอดตั้งแต่เห็นตัวเกม (ก่อนหน้ามีมังงะออกแล้ว) และหากใครที่ดูรีวิวผมตลอด ผมมักอวยเรื่องนี้เป็นพิเศษและสมควรติดตามอย่างยิ่งครับ

สำหรับเรื่องราวของเรื่อง เริ่มต้นเมื่อนาเอกิ มาโคโตะ (ซึ่งในเกมเราก็จะรับบทเป็นเขาครับ) พระเอกที่แสนธรรมดา ที่มีดีเพียงแค่ดวงดี (แต่ผมดูแล้วเหมือนดวงตกมากกว่าน่ะ) ที่เขาได่รับเลือกให้เข้าไปโรงเรียนมัธยมปลายคิโบกามิเนะ ที่มีแต่นักเรียนมัธยมปลายที่ชำนาญและมีชื่อเสียงเท่านั้นจึงเข้าเรียนได้ (รู้สึกพระเอกเข้าเรียนได้เพราะจับฉลากมา)

หากแต่แล้วระหว่างที่เขาอยู่หน้าโรงเรียน จู่ๆ เขาก็สลบไป และเมื่อตื่นขึ้นมาเขาก็พบว่าอยู่ในโรงเรียนแล้ว และเมื่อเขาไปโรงยิมเพื่อไปปฐมนิเทศก็พบพวกนักเรียนคนอื่นๆ ที่ล้วนเป็นคนดังในแต่ละด้านรวมตัวกัน ซึ่งหากรวมเขาด้วยก็เป็น 15 คน

และไม่ทันที่ทั้งหมดจะรู้จักกันดี จู่ๆ ก็มีหมีประหลาด ที่อ้างว่าเป็นครูใหญ่ชื่อ “โมโนคุมะ”  ที่มันบอกว่าเด็กนักเรียนทั้ง 15 คนจะไม่สามารถออกไปไหนได้ ทุกคนจะต้องอยู่ขังในโรงเรียนไปตลอดชีวิต มีทางเดียวที่ออกไปได้ก็คือต้อง “สำเร็จการศึกษา” เท่านั้น

-โดยวิธีการสำเร็จการศึกษานั้นคือใครที่อยากออกจากโรงเรียนจะต้องก่อคดีฆ่าคนในกลุ่มใครก็ได้หนึ่งคนโดยที่ไม่สามารถจับได้

-เมื่อคนที่สำเร็จการศึกษาฆ่าคนโดยที่ไม่มีใครรู้แล้ว ก็จะเกิดคดีฆาตกรรม (เจ้าหมีจะทำการประกาศเรียกทุกคนมารวมกันที่ห้องพิจาณาคดี (ศาลนักเรียน) เพื่อถกกันว่าคือใครฆาตกรในกลุ่ม

- โมโนคุมะติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งหมดในโรงเรียน เขาจะรู้อยู่แล้วว่าใครเป็นฆาตกรในแต่ละรอบ

- ผู้ก่อเหตุฆาตกรรม ห้ามฆ่าเกิน 2 คน (เพื่อป้องกันการฆ่าทุกคนเพื่อหนี)

- ช่วงตัดสิน ทุกคนต้องมาอยู่รวมกัน (รวมทั้งคนร้ายที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร) แล้ววิเคราะห์หาคนร้าย แน่นอนว่าคนร้ายในกลุ่มจะพยายามบิดเบือนข้อมูลเพื่อเอาตัวรอด

ตอนแรกทุกคนในกลุ่มไม่กล้าฆ่าคน และพยายามที่จะหาทางหนีด้วยวิธีอื่น แต่ก็พบว่าโรงเรียนแห่งนี้เต็มไปด้วยกำแพงเหล็กที่ไม่สามารถออกไปไหนได้เลย เวลาผ่านไปนานวันขึ้น พร้อมความกดดันของเจ้าหมีที่กระหน่ำให้บีบให้ใครบางคนในกลุ่มก่อคดี และแล้วคดีแรกก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อมีเด็กคนหนึ่งเริ่มฆ่าเพื่อเอาตัวรอด....

Danganronpa Kibou no Gakuen to Zetsubou no Koukousei The Animation เป็นผลงานของทีมเดียวกับที่สร้างเพอร์โซน่าและปีศาจเดนตาย (Persona 4 the Animation, Devil Survivor 2 the Animation) ซึ่งการ์ตูนที่สร้างจากเกมสองเรื่องนี้สร้างความประทับใจพอสมควร จึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่อนิเมะเรื่องนี้กลายเป็นอนิเมะที่ผมติดตามมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่งในซีซั่นนี้ ซึ่งผมอวยตั้งแต่ได้ยินเป็นข่าวด้วยซ้ำ

แน่นอนว่าหลังจากที่หลายคนได้ดูอนิเมะเรื่องนี้ต่างอ้าปากหวอกับความอาร์ตของเรื่อง รวมไปถึงเนื้อหาที่ออกจะแปลกๆ จนดูเหมือนมีอะไรหลายอย่างที่ไม่สมเหตุสมผลมากมาย เช่นทำไมตัวละครนักเรียนแต่ละคนมันโดดเด่นล้ำขนาดนี้ (แน่ใจเหรอวาบางคนเป็นนักเรียนน่ะ) หรือโรงเรียนอะไรเวอร์แบบไม่มีเหตุผล ทำไมหมีเคลื่อนไหวได้ ทำไมแมนยูได้แชมป์ ก็ขอบอกว่าจงละทิ้งเหตุผลทั้งหมด  เพราะนี้เป็นการ์ตูนที่สร้างจากเกมอาร์ตๆ ที่เป็นแนวสืบสวนฆาตกรรม (ตัวเกมอาร์ตยิ่งกว่านี้อีก)

หลังจากที่ได้ดูตอนที่ 1-2 ผมก็พบว่าเป็นอนิเมะที่ดัดแปลงจากเกมได้ดีอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นภาพ แสง สี เสียงพากย์ตัวละคร ความกวนตีนของหมี  ล้วนทำได้ดีมาก อีกทั้งยังใส่ความเป็นเกมใส่ลงในอนิเมะได้อย่างลงตัว อย่างเช่นฉากแนะนำตัวในอนิเมะนั้นใช้แบบเกมมาแบบทั้งดุ้นเลยก้ว่าได้แต่ก็ไม่รู้สึกขัดใจแต่อย่างใด ขนาดคนที่เคยเล่นเกม (หรือดูเขาเล่น) หรืออ่านมังงะแล้วติดตามดูมีอารมณ์ร่วมด้วย

ที่สำคัญอารมณ์ของตัวเกมยังอยู่ครบ นั้นคือบรรยากาศการฆาตกรรมปิดตาย ความกดดัน การฆาตกรรมที่แสนโหดร้าย และอารมณ์รู้สึกร่วมที่อดไม่ได้ที่จะสงสารเหยื่อ  หรือแม้แต่ตัวฆาตกรเอง (ดูตอนที่ 3 จะเข้าใจเอง) แต่น่าเสียดายตรงหัวใจการสืบสวน การหาเบาะแส การหาหลักฐาน การวิเคราะห์คดีฆาตกรรม ตรงส่วนนี้ อนิเมะทำได้ไม่ละเอียดมากนัก (เพราะโควตามีแค่13ตอนทำให้ต้องเร่งๆ) แต่โดยภาพรวมแล้วก็ถือว่าน่าสนใจอยูดี

สำหรับจุดขายตัวละคร ในเรื่องนี้ตัวละครน่ารักโมเอะและออกแบบสุดโด่งสุดๆ อย่างสาวไอดอลที่โผล่มาตอนแรกนี้เรียกคะแนนความชอบจากผมไปมากโข หรือสาวดุ้นโปแกรมเมอร์ก็น่ารัก สาวนักสืบก็น่ารัก แต่กระนั้นก็มีคำเตือนสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกม และดูอนิเมะเรื่องนี้ครั้งแรกว่า อย่าอวยตัวละครเด็ดขาด ไม่งั้นคุณอาจจิตตกมากๆ แน่นอน

ที่อยากชมคือเจ้าหมีตัวเอกของเรื่องที่ผมได้กวนตีนและน่ากลัวมากๆ ไม่ว่าจะเป็นปรากฏตัวได้ทุกทีทุกเวลา พูดจาน่ากระทืบ ชอบกดดันคนอื่น ชอบดูถูกคนอื่น ใครเคยดูรายการเกมกำจัดจุดอ่อนได้ยินเสียงพิธีกรด่าฉอดๆ นั้นแหละใช่เลยอารมณ์ประมาณนี้แหละ

และนอกจากนี้อนิเมะเรื่องนี้มีฉากเลือดสาด ฉาดโหดร้ายมาก  (โคนันไม่เท่าไหร่ผมเห็นคนตายยังเฉยๆ แต่เรื่องนี้เจอตัวละครที่ชอบตายแอบจิตตกครับ) แต่ก็ยังดีที่ความฮาร์ตมาช่วยเหลือเปลี่ยนเลือดสีแดงกลายเป็นสีชมพูเพื่อลดความโหดร้ายลง (แต่ก็ดูรุนแรงอยู่ดี)

นอกจากนั้นที่ชอบคือ เพลงตอนจบ เพื่อลดเรตของเกม ไม่ให้เกมรุนแรงเกินไป(เพราะแค่ฉากประหารก็ดูโรคจิตพออยู่แล้ว) คนที่ตายไปแล้วจะมานั่งเข้าฉากกับพระเอกใน ED  (ปรากฏในตอนที่ 2 ) ทำได้อย่างน่าชื่นชมจริงๆ (ของปีศาจเดนตายหากตัวละครในเรื่องตาย ภาพตัวละครใน ED จะหายไปทีละคน)

สรุปแล้วเป็นอนิเมะที่ผมออกมาได้อย่างลงตัว และน่าติดตาม สำหรับผมเลยทีเดียว แน่นอนว่าอนิเมะเรื่องนี้อย่าอ่านสปอยเด็ดขาด ไม่งั้นเรื่องไม่สนุกแน่ เพราะอนิเมะเรื่องนี้เป็นแนวสืบสวนและการดำเนินเรื่องที่ยากจะคาดเดาว่าตอนท้ายจะจบลงอย่างมีความสุขแอปปี้หรือไม่

ปล. อนิเมะเรื่องนี้มีมังงะแปลไทยในเว็บ ซึ่งเป็นเนื้อหามุมมองของฆาตกรและคนที่ตกเป็นเหยื่อในแต่ละคดี

Choujigen Game Neptune The Animation

 
                Choujigen Game Neptune The Animation หรือ  Hyperdimension Neptunia the Animation เป็นอนิเมะที่สร้างจากต้นฉบับจากเกม PS3 ในปี 2010 อนิเมะเป็นของสตูดิโอ David Production และเป็นอนิเมะที่ผมอวยมานานแล้ว ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มสร้างเป็นอนิเมะด้วยซ้ำ ตอนนี้นผมรำพึ่งว่าตัวละครน่ารักโครตๆ แต่ทำไมไม่ทำเป็นอนิเมะหว่า จนกระทั่งปี 2013 ก็ถูกสร้างเป็นอนิเมะจนได้

Choujigen Game Neptune The Animation ได้มีดินแดนแห่งหนึ่งที่เรียกว่า Choujigen Game เป็นดินแดนแห่งเกม ซึ่งดินแดนดังกล่าวถูกแบ่งออกเป็น 4 เขต คือ Planeptune, Lastation, Lowee, และ Leanbox แต่ละเขตมีสิ่งที่เรียกว่าเทพธิดาปกป้องรักษาดินแดนอยู่ โดยเทพธิดาประกอบด้วย  Neptune, Noire, Blanc และVert ปกครองแต่ละเขตตามลำดับ

เหล่าเทพธิดาทั้งสี่ได้ปกครองอาณาจักรทั้งสี่ ได้นำลูกน้อง, เพื่อนและญาติๆ  ทำสงครามเพื่อแย่งชิง 'แชร์' อันเป็นต้นกำเนิดพลังของเทพธิดามาเนิ่นนานหากแต่ ด้วยความตระหนักถึงพลังที่ถูกใช้ไปอย่างสูญเปล่า เหล่าเทพธิดาจึงตกลงทำ "สนธิสัญญา" ห้ามใช้กำลังในการแย่งแชร์

ด้วยผลพวงของสนธิสัญญาสงบศึกนี้ความสัมพันธ์อันดีครั้งใหม่จึงเกิดขึ้นทั้งในเหล่าสี่เทพธิดาและเหล่าน้องสาว ยิ้มด้วยกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง ช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน แต่ความสัมพันธ์อันนี้เหล่านี้จะยั่งยืนหรือไม่ก็ติดตามต่อไป

เชื่อเลยใครที่ไม่เคยเล่นเกมนี้และไม่มีความรู้เรื่องเกม มาดูอนิเมะเรื่องนี้ต้อง งง เต็ก แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นนี้คือแนวอะไร มาถึงก็เจอเหตุการณ์ที่แสนจะ งงสี่อาณาจักรเป็นมิตร เฮฮ่ากัน แชร์ที่ว่ามันคืออะไร รวมปาร์ตี้ปราบมอนสเตอร์ เซอร์วิสแบบโง่ๆ และตัวละครมากมายที่ไม่มีที่มาที่ไปโผล่มาแบบไม่มีปี่มีขลุย

แน่นอนครับ มันต้อง งง แน่นอน เพราะอนิเมะเรื่องนี้มีเนื้อหาต่อจาก PS3!! โดยเนื้อหาในเกมเราจะรับบทเป็นเทพธิดาเนปจูนที่ต้องต่อสู้กับเทพธิดาคนอื่นๆ อีกสามคน รวมไปถึงศัตรูมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ ซึ่งในอนิเมะเรื่องนี้สงครามจบลงแล้ว และทุกฝ่ายก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขนั้นเอง

อนิเมะเรื่องนี้สอดแทรกมุกเกี่ยวกับเกมค่อนข้างเยอะ คนที่ดูอนิเมะต้องเข้าใจมุกพอสมควร นอกจากนี้ยังมีศัพท์แสลงของอนิเมะอีกด้วย ดังนั้นเราต้องศึกษาให้ละเอียดพอสมควรเพื่อจะดูอนิเมะเรื่องนี้เข้าใจ

ยกตัวอย่าง เนื้อหาอนิเมะเรื่องนี้หากเทียบง่ายๆ มันก็คือบุคลาธิษฐานสงครามระหว่างเกมคอนโซลดีๆ นี้เอง ที่ปัจจุบันสงครามเกมคอนโซลดุเดือดมากๆ  และความดุเดือนนี้ได้ถ่ายทอดเป็นอนิเมะแฟนตาซีไซไฟสาวๆ ตีกัน และสาวๆ เหล่านั้นก็คือบุคคลาธิษฐานของเครื่องเกมต่างๆ (บางคนก็เป็นศัพท์ไม่ใช่เครื่องเกม) นั้นเอง

ยกตัวอย่าง 4 เทพธิดา  Neptune, Noire, Blanc และVert

Neptune (หัวใจสีม่วง –ผมม่วงที่นิสัยเหมือนเด็ก และชอบขี้เล่น ชอบท้าท้าย ซึ่งชื่อของเธอมาจากเครื่องเซก้า 32X (หากสังเกตดีๆ กิ๊บติดผมของเธอมีเครื่องหมาย X 2 อัน)

Noire (หัวใจสีดำ) -ทวินเทลผมดำ นิสัยจริงจัง เธอก็คือ PlayStation 3

                Vert (หัวใจสีเขียว) คือ Xbox 360

Blanc (หัวใจสีขาว) –คือเครื่อง Will นั้นเอง

จะเห็นได้ชัดเลยว่าเกมนั้นคือการเล่นบุคลาธิษฐานดีๆ นี้เอง โดยการแย่งชิงแชร์นั้นก็คือเรตติ้งของคนดูนั้นเอง

ตัวเกมนั้นได้คำวิจารณ์ไม่ดีนัก เพราะต่ำกว่าครึ่งจากหลายสำนักวิจารณ์เกม โดยให้เหตุผลว่า ระบบเกมไม่แปลกใหม่ อีกทั้งมีแต่สาวโมเอะและมุกสูตรสำเร็จ แต่อย่างไรก็ตามเพราะตัวละครน่ารักและภาพสวยนี้เองทำให้ได้รับความนิยมระดับหนึ่ง และถูกสร้างเป็นอนิเมะในที่สุด

หากถามอีกว่าไม่รู้เรื่องเกม มาดูอนิเมะเรื่องนี้จะรู้เรื่องนี้ไหม ความจริงก็ดูรู้เรื่องน่ะ เพราะเนื้อหาทั่วไปคือก๊วนปาร์ตี้ตีมอนสเตอร์เท่านั้นเอง แต่ก็อยากให้ศึกษาตัวละครในเรื่องหน่อยว่าแต่ละคนมีที่มาอย่างไร มีความสัมพันธ์ยังไงกับเหล่าเทพธิดาก็จะดีมาก หากรู้ก็จะเข้าใจไม่ยาก

จะว่าไปในแต่ละซีซั่นมักจะมีอนิเมะแนวโมเอะแฟนตาซีผจญภัยเสมอ และคุณภาพเหมือนๆ กันคือไม่ได้สวยอลังการมากนัก ตัวละครออกแบบน่ารักโมเอะก็จริง แต่พอเป็นอนิเมะแล้วเหมือนไม่โมเอะธรรมชาติ เอาเถอะอย่างไรก็ตามอนิเมะเรื่องนี้ก็พอกลับแกล้มได้

Watashi ga Motenai no wa Dou Kangaete mo Omaera ga Warui!

 
                Watashi ga Motenai no wa Dou Kangaete mo Omaera ga Warui!sinv หรือชื่ออังกฤษ It's not my fault that I'm not popular   การ์ตูนชื่อแสนโครตยาว(เดี๋ยวนี้ทำไมชื่อการ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่องมันชักจะยาวขึ้นทุกวันทุกวัน) หากแปลไทยอย่างควายๆ คงประมาณว่า “ที่ฉันไม่ป๊อปปูล่าร์ ก็เป็นเพราะพวกนายนั่นแหละ!” เป็นการ์ตูนตลก(มืดมน), ชีวิตในโรงเรียน ผลงานงานที่สองของ Tanigawa Nico (ผู้วาด ฉีก! การ์ตูนที่ฮ่ามากอีกเรื่องหนึ่ง)

ขอบอกว่านักเขียนคนนี้ทำการ์ตูนตลกได้แหวกมาก คือทั้งฮ่า ทั้งสิ้นหวัง ปกติเขามีแต่ฮ่าแบบมีความสุข แต่คนเขียนมันเก่งจริงๆ และผมก็อวยคนเขียนคนนี้มานาน แถมสาวน้อยมืดมนนี้ผมอวยตั้งแต่เห็นตอนเป็น RAW อังกฤษตอนแรกๆ ด้วยซ้ำ

อนิเมะเป็นเรื่องราวเป็นเรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่อคุโรกิ โทโมโกะที่กำหนดตนเองในอินเตอร์เน็ตว่าเป็นหญิงสาวในโรงเรียนไฮโซมีประสบการณ์ออกเดทโชกโชนราวกับไปสงครามเวียดนามมาสามปี และมีแฟนฮาเร็มหนุ่มถึง 100 คน จนได้ได้รับฉายาว่าเทพนักจีบ แต่ในโลกแห่งความจริงเป็นเพียงสาวน้อยอายุ 15 ปี ที่หน้าตาน่ากลัว ดวงตาราวกับปีศาจซาตาน ผมยาวจนปิดหน้าราวกับผีเดอะริงค์ อีกทั้งตัวตนของเธอราวกับอากาศธาตุ  เพื่อนในห้องก็ไม่สนใจการมีตัวตนของเธอเลยสักนิด ในชั่วโมงเรียนก็เอาแต่อ่านหนังสือ (แต่กระนั้นก็เก่งเรื่องการเรียนด้วย) พูดง่ายๆ คุณเธอคือพี่เทพในร่างผู้หญิงชัดๆ หากแต่สิ่งที่แตกต่างจากพี่เทพคือคราวนี้ไม่มียมทูตมาขอร้องให้จีบหนุ่มเพื่อล่าวิญญาณ และมีสกิลมองเห็นฉากจบแต่อย่างใด …..

อย่างไรก็ตามแม้ว่าตัวเธอจะมืดมนแต่จิตใจลึกๆ แล้วก็อยากจะมีเพื่อนกับเขาบ้าง แต่กระนั้นเธอมีนิสัยอยู่อย่างคือเธอมักประหม่าเวลาพูดต่อหน้าคนอื่น เมื่อกลับโรงเรียนมาถึงบ้านเธอก็เริ่มมีความคิดว่าเธออยากเป็นที่นิยมต่อคนรอบข้างบ้าง และเมื่อเธอมองตนเองในกระจก เธอก็เริ่มมีความคิดที่จะเปลี่ยนคาแร็คเตอร์ของตนเองเสียใหม่ และแล้วปฏิบัติการของสาวน้อยหน้าผี ดวงตาโหดก็ได้เริ่มต้นขึ้น

Watashi ga Motenai no wa Dou Kangaete mo Omaera ga Warui!sinv เป็นผลงานกำกับอันสุดแนวของผู้กำกับโดย Shin Oonuma ผู้กำกับที่ชอบเน้นงานฮาร์ตๆ งานแนวๆ สร้างโลกแบบมีศิลปะมานับไม่ถ้วน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะเนรมิตอนิเมะเรื่องนี้ให้เต็มไปด้วยความแปลกก โลกมืดมน อันดำมืดได้ไม่ยาก

อนิเมะเรื่องนี้ทำดีกว่ามังงะด้วยซ้ำ เพราะภาพออกมาได้อย่างมีอาร์ต แถมมีมุกล้อเลียนจากการ์ตูนดังๆ มาแจม (น้องชายนางเอกมันอ่านนักฆ่าแมงมุมด้วยอ่ะ)

แน่อนสิ่งที่ขาดไม่ได้ของเรื่องก็คือน้องมืดมนตัวเอกประจำเรื่องนี้แหละ จะมีอนิเมะกี่เรื่องที่มีตัวเอกเพียงคนเดียว (น้องชายพระเอกและเพื่อนมันแค่ออกมาไม่กี่ฉาก) เล่นเอง ชงเองได้ทั้งเรื่องแบบนี้ แถมแม่เจ้าเว้ย เธอโมเอะโครตๆ มังงะโมเอะแล้วน่ะ อนิเมะนี้โมเอะยิ่งกว่าอีก

แม้เรื่องนี้จะเหมือนจะการ์ตูนแนวโมเอะ ชีวิตเรื่อยเปื่อย แต่เรื่องนี้แหวกกว่าเรื่องอื่นๆ มาก เพราะปกติแล้วการออกแบบตัวละครโมเอะ มักกำหนดให้เป็นสาวตัวเล็กๆ นิสัยร่าเริง เป็นมิตรกับทุกคน เพียงแค่เห็นตัวละครโมเอะเหล่านั้นก็รักอย่างง่ายดาย

แต่น้องมืดมนเรื่องนี้ตรงกันข้าม กล่าวคือ ดวงตาของเธอช้ำ ทรงผมก็ยุ่งกระเชอ กระเซิงราวกับผี นิสัยก็ไม่น่ารักเลย ไม่ว่าจะเป็นบ้าเกมจีบหนุ่ม (โอตากุ) เกรียน สร้างโลกส่วนตัว หนีโลก  (แต่การเรียนของเธอเก่งน่ะ) ซึ่งนิสัยเหล่านี้ไม่น่ารักแน่หากอยู่ในโลกแห่งความจริง

อย่างไรก็ตาม น้องมืดมนน่ารัก แม้เธอจะเกรียน แต่เป็นการเกรียนอย่างน่ารัก เชื่อเลยใครเห็นเธอก็ย่อมอยากเข้าไปกอดมาก เพราะตัวเธอเล็ก ดวงตาโตที่แสนน่ารัก ความคิดอ่านที่พยายามหาเพื่อน แต่วิธีที่หาเพื่อนของเธอนั้นช่างน่าเอ็นดูและน่าลูบหัวจัง อยากรู้จริงๆ ว่าพวกเพื่อนในห้องกับน้องชายที่บ้านมันมีมีเซ็นต์หรือยังไงว่าพวกเขามีสิ่งมีชีวิตที่แสนน่ารักนี้อยู่ใกล้ตัวพวกเขาแล้ว คนดูรักเธอ แต่ตัวละครในเรื่องนี้สิช่างไม่รู้อะไรเสียเลย 

และน้องมืดมนจนบัดนี้ไม่มีเพื่อนสักคน.... (เพื่อนที่สนิทตอนมัธยมต้นอยู่โรงเรียนอื่น แถมมีแฟนแล้ว!!)

ถือว่าเป็นอนิเมะที่สร้างตัวละครน่าอวยประจำซีซั่น แต่โมเอะนี้ไม่ได้แนวตลกที่มีแต่ความสุขเรื่อยเปื่อยเลย แต่เป็นตลกมืดมน ที่คุณสามารถหัวเราะทั้งที่อยู่สถานการณ์ที่สิ้นหวังได้ ส่วนเสียงพากย์น้องมืดมนนี้เจ๋งจริง เสียงพากย์ก็น่ารักน่ะเออ

Kin iro Mosaic

 
               Kiniro Mosaic สร้างจากมังงะแบบ 4 ช่องจบผลงานของ Hara Yui  ที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Manga Time KR เช่นเดียวกับ A-Channel แล้วยังได้ผู้ดูแลการผลิตภาคอนิเมะค่ายเดียวกันอีก ทาง Studio Gokumi ก็สร้างผลงานค่อนข้างเด่นในแนวโมเอะอยู่แล้ว

Kiniro Mosaic เป็นการ์ตูนโมเอะเรื่องเปื่อย จะว่าไปผมก็พึ่งรู้ว่าคนเขียนมังงะการ์ตูนเรื่องนี้ เป็นคนเดียวกับคนที่เขียนเรื่อง Hoshi no Witch (ลิขสิทธิ์โดยบงกต ผมอ่านไม่จบหรอก แต่พอดีชอบนางเอกเรื่องนี้)  Kiniro Mosaic และเป็นอนิเมะโมเอะเรื่อยเปื่อยเรื่องเดียวที่ผมดูในซีซั่นนี้

Kiniro Mosaic เป็นเรื่องของทวินเทลหัวเหลืองคาร์เตอร์เร็ท อลิซ สาวอังกฤษพูดญี่ปุ่นคล่องไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น และไปพักอยู่บ้านของโอมิยะ ชิโนบุ (และเรียนอยู่ห้องเดียวกับชิโนบุด้วย) ซึ่งทั้งสองเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน (ซึ่งชิโนบุเคยไปโฮมสเตย์ บ้านของอลิซที่อังฤกษระยะหนึ่งมากแล้ว)

                ความจริงผมชอบอนิเมะตลกเรื่อยเปื่อยน่ะ แต่ชอบในลักษณะมังงะมากกว่า พอเป็นอนิเมะแล้วมันใช้พลัง (กาย สมาธิ จิตวิญญาณ) ดูมากๆ เพราะเนื้อหาดำเนินเรื่องเรื่อยเปื่อย ขาดความน่าติดตามมาก มุกตลกก็ไม่ได้ฮ่า และยังคันยิกๆ โมเอะของตัวละคร นอกจากนี้เนื้อหาการ์ตูนโมเอะส่วนใหญ่จะเน้นชีวิตสนุกสนานเรื่อยเปื่อย และเน้นเรื่องมิตรภาพหญิง (ยูริอ่อนๆ)   และนั้นเองทำให้หลายคนตั้งแง่ไม่ดีกับโมเอะ

                Kiniro Mosaic ก็เหมือนกับการ์ตูนโมเอะตลกเรื่อยเปื่อยทั่วไปที่ ยังเน้นตลก มิตรภาพ ชีวิตประจำวัน ที่กว่าจะดูจบแต่ละตอนใช้เวลานานมาก เพราะว่ามันราบเรียบจริงๆ ตัวละครที่เรื่อยๆ เปื่อย ไม่ได้มีสีสันให้กระแทรกอารมณ์มากมาย เนื้อหาก็โมเอะเรื่อยเปื่อยแหละ เพียงแต่สิ่งเอามาเล่นคราวนี้เป็นเรื่องของความแตกต่างของวัฒนธรรมประเพณีของสองประเทศ ระหว่างอังกฤษและญี่ปุ่นที่มีมุมมองการใช้ชีวิตแตกต่างกัน ญี่ปุ่นมองอังกฤษ อังกฤษมองญี่ปุ่น และด้วยความแตกต่างนั้นเองทำให้ฝ่ายหนึ่งมองอีกฝ่ายแปลก ทั้งๆ ที่ฝ่ายที่ถูกมองคิดว่าเป็นเรื่องปกติของเขา

ความจริงมุกแบบนี้ถูกนำมาใช้มากในเรื่องฮิตาเลีย จิกกัดแบบคันๆ เช่นอังกฤษบ้าบอล อังกฤษเชื่อผีสาง อาหารอังกฤษห่วยแตก นี้คือสิ่งที่ทั่วโลกและญี่ปุ่นมองอังกฤษ ส่วนอังกฤษก็มองญี่ปุ่นเป็นประเทศโอตากุ อะไรก็โมเอะอะไรประมาณนี้แหละ

                แต่ว่าการ์ตูน Kiniro Mosaic เรื่องนี้เป็นการมองมุมมองของสองประเทศแบบน่ารัก ตามสไตล์การ์ตูนโมเอะอ่ะนะ เช่นญี่ปุ่นตกใจที่สามารถใส่รองเท้าเข้ามาในบ้านได้ หรืออังกฤษตกใจที่คนญี่ปุ่นชื่อหมี (คุมะ) คือมองแบบดีๆ ซึ่งกันและกัน ไม่ได้แซวจิกกัดโหดร้ายอะไรมากมาย

                ถามว่าผมติดตามไหม ก็ตอบว่าติดตาม เพราะชอบสาวอังกฤษร่าเริงอีกคน เอาว่ะ ไหนๆ ซีซั่นนี้มีแต่โมเอะอยู่แล้ว ดูบ้างจะสักสองสามเรื่องจะเป็นไรไปว่ะ (ส่วนความสนจริงของประเทศอังกฤษ ก็มองข้ามไปเถอะครับคิดมากไปปวดหัวเปล่าๆ )

                ปล.ถูกใจตรงมีใครคนหนึ่งให้ความเห็นนิยายเรื่องนี้ว่าชิโนบุเป็นเพื่อนที่แย่มาก  เป็นเพื่อนภาษาอะไรกัน  อุตส่าห์ไปอังกฤษทั้งทีกลับไม่คิดจะเรียนภาษาของอีกฝ่ายเพื่อที่จะสื่อสารกันเลยสักนิด  ขากลับก็ไม่ได้เรียนอังกฤษ พออลิซส่งกฎหมายมาก็อ่านไม่ออก ชิโนบุไม่พัฒนาเลยเหรอ (ดีที่ชิบุไปอาศัยอยู่ในบ้านคนอังกฤษใจดีและเก่งภาษญี่ปุ่นเลยค่อยยังชั่วหน่อย) ความจริงแล้วชิโนบุเป็นตัวละครประเภทเอ่อแล้วหัวทึบครับ สำหรับแนวโมเอะเรื่อยเปื่อยแล้วถือว่าเป็นตัวละครหลักนางเอกก็ว่าได้

                แม้ว่าซีซั่นงวดนี้จะเงียบเหงาสำหรับผมสักหน่อย แต่อย่างไรก็ตามซีซั่นหน้านับรองว่ามีอนิเมะที่ผมสนใจเพียบแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นสามสาวผ่าโลกนิวเคลียร์, สี่สาวแห่งบ้านไร่ชายทุ่ง, และซีซั่นสองที่หลายคนรอคอย

(กระทู้นี้จะจบ หลังจากสรุปอนิเมะเหล่านี้ท้ายซีซั่น