คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #236 : Ore to Ichino no Game Doukoukai Katsudou Nisshi ชมรมเกมของอิจิโนะ
ขอเขียนฮาเร็มสักเรื่องนะครับ ก่อนที่จะเขียนการ์ตูนปวดตับตอนหน้า ขอไปบริหารตับก่อน
ในช่วงสัปดาห์หนังสือที่ผ่านมา ประเภทหนังสือที่ขายดีที่สุดในงาน ที่น่าสนใจคืออันดับต้นๆ คือไลท์โนเวล แสดงให้เห็นว่าไลท์โนเวลเริ่มบูมในเมืองไทย จากที่แล้วมาหลายคนไม่รู้จักไลท์โนเวล แทบไม่รู้จักความหมายด้วยซ้ำ มาบัดนี้เริ่มรู้จักมากขึ้นและเริ่มขายดีขึ้น พร้อมสำนักพิมพ์ที่ซื้อลิขสิทธิ์นิยายน่าสนใจหลายเรื่องหลายแนว จมผมพึ่งรู้ว่าไลท์โนเวลมีหลายแนวมากนอกเหนือจากแฟนตาซีและฮาเร็ม ไม่ว่าจะเป็นแนวผู้หญิง, โมเอะชีวิตประจำวันสาวน้อยมัธยมปลาย ไปจนถึงนิยายแนวแปลกๆ อีกมากมาย ซึ่งผมก็หวังว่าอีกไม่นานจะมีไลท์โนเวลฝีมือคนไทยมาวางแผงให้น่าเชื่อน่าชื่นใจบ้าง
รักพิมพ์ก็ยังคงเป็นสำนักพิมพ์ที่ยังคงสนับสนุนนิยายแนวฮาเร็ม (ในขณะที่สำนักพิมพ์อื่นๆ ยังคงโยนหินถามทาง ซื้อลิขสิทธิ์ไลท์โนเวลหลายแนวเพื่อดูยอดขายอีกที) และนั้นทำให้ตรรกะผมมองว่าไลท์โนเวลควรเป็นแนวฮาเร็มน่าจะดีที่สุด เพราะไลท์โนเวลคือนิยายที่ง่ายๆ สบายๆ ดังนั้นอารมณ์หลังอ่านรู้จัก ตลก ดูแล้วจิตใจแจ่มใส ซาบซ่า ไม่ใช่ปวดตับ ดังนั้นฮาเร็มน่าจะดีที่สุด
ช่วงนี้รักพิมพ์มีไลท์โนเวลแนวฮาเร็มมากมายหลายเรื่อง บางเรื่องก็เป็นที่รู้จักกันดีเพราะรู้จักจากอนิเมะมาก่อนหน้านี้แล้ว ในขณะที่บางเรื่องหลายคนไม่รู้จักเพราะยังไม่ถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมะ (แต่มังงะมีแล้ว) หนึ่งในนั้นคือ Ore to Ichino no Game Doukoukai Katsudou Nisshi ซึ่งเป็นหนึ่งในไลท์โนเวล แนวชมรม (สมาคม) ที่เหมือนจะธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา.....
Ore to Ichino no Game Doukoukai Katsudou Nisshi
Ore to Ichino no Game Doukoukai Katsudou Nisshi เป็นไลท์โนเวลแนวคอเมดี้ ชีวิตประจำวันในโรงเรียนและชมรม และฮาเร็ม ผลงานของฮามุระ เท็ตสึ ภาพโดยฮาทานิ คานาเอะ ปัจจุบันตีพิมพ์ไปแล้ว 9 เล่ม (ดูเหมือนไม่จบ) ไลท์โนเวล (รวมทั้งมังงะได้ลิขสิทธิ์โดยรักพิมพ์ในชื่อ “บันทึกกิจกรรมสมาคมคนรักเกมของผมกับอิจิโนะ”
ไม่รู้ทำไมเดี๋ยวนี้ไลท์โนเวลหลายเรื่องถึงชื่อเรียกยาว เห็นมีหลายคนบอกว่าเพราะอยากให้คนสนใจ เลยเขียนชื่อให้ยาวๆ ไว้ก่อน โดยนิยายเรื่องนี้เรียกสั้นๆว่า “อิจิโนะ (Ichino) ซึ่งผมขอเรียกชื่อย่อนี้ดีกว่าง่ายดี โดยเนื้อหาเป็นเรื่องชมรม (สมาคม) กับผู้มีพลังวิเศษ ซึ่งหากคิดถึงแนวนี้ส่วนใหญ่จะนึกถึงฉากแอ็คชั่น บู๊สะบัดหั่นแหลกที่เน้นเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ของเรื่อง ส่วนที่เหลือจะเป็นเรื่องคอเมดี้ทั่วๆ ไป แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไลท์โนเวลเรื่องนี้เนื้อหาคอเมดี้มีมากกว่าแอคชั่นถึง 80/20 เปอร์เซ็นต์!!
Ichino เปิดเรื่องมาเหมือนเป็นการ์ตูนแนวเลิฟคอเมดี้ชีวิตประจำวันในชมรม (แต่เรื่องนี้เป็นเพียงสมาคมเพราะมีสมาชิกไม่ถึง 5 คนจึงไม่สามารถตั้งเป็นชมรมได้ตามกฎระเบียบตั้งชมรมของญี่ปุ่น) โดยพระเอกของเรื่องมีชื่อว่า ชิโรซากิ โซจิ พระเอกที่ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่มีนิสัยช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งช่วงนี้เขาได้เข้า “สมาคมคนรักเกม” ซึ่งเป็นสมาคมที่เขาและ “โมริสึกะ อิจิโนะ” สาวสวยเพื่อนร่วมห้องได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์อะไรบางอย่าง ช่วงแรกสมาคมนี้มีเพียงเขาและอิจิโนะเท่านั้น แต่ตอนหลังมี “ซาวามุระ คิริกะ” สาวสวยเพื่อนสนิทของโซจิมาสมัครเป็นสมาชิกด้วย ทำให้ชมรมมีสีสันขึ้นเยอะ
แต่ดูเหมือนว่าอิจิโนะกับคิริกะไม่ถูกกัน เมื่อทั้งคู่อยู่ด้วยกันเมื่อไหร่ ก็ทะเลาะกันทุกที วันนี้ก็เช่นกัน เมื่อเขาพบอิจิโนะกับคิริกะกำลังเล่นเกมแปลกๆ ที่แสนไร้สาระ ตอนแรกเหมือนก็เล่นกันแบบสนุกสนาน พอมาตอนหลังเมื่อมีผู้ชนะ และของรางวัลคือเดทกับโซจิในวันหยุด (ซึ่งสองสาวไม่ถามโซจิสักคำว่าเขาว่างหรือเปล่า) แน่นอนว่าฝ่ายแพ้ย่อมไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง จึงท้าต่อย
"ฮะ ฮะ อย่างงั้นก็ไม่เลว เรามาตัดสินกันจริงๆ จังไปเลยดีกว่า" และแล้วการต่อสู้ของสองสาวก็เริ่มต้น คราวนี้ไม่ใช่สู้ด้วยเกม ไม่ใช่สู้ด้วยการต่อยดี หากแต่ใช้พลังวิเศษเข้าห่ำหั่น พลังที่ว่าไม่ใช่พลังในจิตนาการ หากแต่เป็นพลังเหนือมนุษย์ ชนิดเรียกว่าพลังแทบล้างโลกก็ว่าได้ อิจิโนะนั้นใช้พลัง “คาซาลเทริโอ้” (แดนชำระ) ที่สามารถใช้ไฟได้ 7 แบบ (แต่ละแบบตั้งชื่อตามบาปใหญ่หลวงของศาสนาคริสต์ และผู้ทำบาปจะไปแดนชำระบาป ซึ่งเป็นที่มาของชื่อพลังดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันพลังบาปรูปแบบต่างๆ ของอิจิโนะยังคงลึกลับปริศนาอยู่) ส่วนของคิริกะมีพลัง “แบ็ดโจ๊ก” (ตัวร้าย) ซึ่งสามารถเปลี่ยนร่างเป็นอะไรก็ได้ (เป็นร่างเป็นคนอื่นได้, สร้างปีกงอกและบินได้, เปลี่ยนเล็บเป็นกรงเล็บแหลมคม, เปลี่ยนเส้นผมเป็นเข็ม ฯลฯ แต่การที่มีพลังวิเศษนี้จะต้องแลกอะไรบางอย่าง (อิจิโนะต้องกินไฟเป็นอาหาร, ส่วนคิริกะไม่รู้ในเล่มที่1) เข้าต่อสู้
และนอกเหนือพลังวิเศษดังกล่าวแล้ว ผู้มีพลังวิเศษสามารถสร้างโลกมิติของตนเองได้ ซึ่งโลกแห่งนี้สามารถปล่อยพลังของตนได้เต็มที่ (ให้พวกสัตว์ประหลาดในตำรวจอวกาศจีบัน) ซึ่งเวลาที่จะต่อสู้กันต้องสร้างโลกขึ้นก่อน เพื่อนป้องกันไม่ให้ข้าวของรอบกายเสียหาย
โซจิเห็นการต่อสู้ของสาว ก็ไม่รู้สึกตกใจแม้แต่น้อย เพราะว่าเขาเองก็มีผู้มีพลังวิเศษเหมือนกัน โดยพลังของเขาคือ “ลาสเอเลเมนท์” (ราตรีพิสุทธิ์อันว่างเปล่า) อีกทั้งเขาเองก็รู้ว่าสองสาวมีพลังวิเศษก่อนหน้านี้แล้วด้วย (ของอิจิโนะนั้นอยู่ตอนท้ายเล่มหนึ่ง แต่สำหรับคิริกะนั้นยังไม่เปิดเผยในเล่มหนึ่งว่าเขารู้จักคิริโกะว่ามีพลังวิเศษตอนไหน) สิ่งที่รู้ก็คือคนรอบตัวของเขารู้จัก ล้วนมีพลังวิเศษ แม้แต่น้องสาวของเขาก็มีพลังวิเศษเช่นกัน (แต่เล่ม 1 ยังไม่ได้เปิดเผย)
แต่อนิจจา แม้มีพลังวิเศษระดับสามารถถล่มโลกได้ แต่พลังดังกล่าวไร้ความหมาย เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจะใช้พลังพิเศษเพื่ออะไร ในเมื่อโลกที่พวกเขาอยู่นั้นสงบสุข ไม่มีจอมมารชั่วร้าย ไม่มีมนุษย์ต่างดาวมารุกราน ไม่มีองค์กรปริศนาแต่อย่างใด
โซจิได้แต่ยิ้ม แม้พลังพิเศษจะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทะเลาะกันของสองสาว แต่มันก็ทำให้พลังดังกล่าวพอมีความหมายขึ้นบ้าง และนั้นเองทำให้ชีวิตประจำวันของสมาคมเกมไม่น่าเบื่อแต่อย่างใด
เปิดเรื่องก็สู้กันกระจาย (ขอบอกว่าเงิบสำหรับผมมาก)
ไลท์โนเวลเรื่องนี้ผมจำได้ว่าผมเห็นโดยบังเอิญที่เว็บจีนแดง (เว็บอ่านมังงะแปลภาษาจีน) เห็นแล้วหน้าสนใจดีเพราะ แค่เห็นตัวละครอย่างอิจิโนะทำท่าโมเอะก็ลองดูสักหน่อย (ดูแค่ภาพ ภาษาอ่านไม่ออก) ถ้าถามไลท์โนเวลเรื่องนี้เป็นแนวอะไร ดำเนินเรื่องแบบไหนก็อธิบายยากเหมือนกัน ตอนแรกคิดว่าเป็นแนวเลิฟคอมมาดี้ชีวิตประจำวันที่มีการเล่นเกมแปลกๆ มาเป็นตัวเดินเรื่อง แต่พอผ่านไปไม่กี่หน้าก็กลายเป็นการใช้พลังวิเศษบู๊กันซะอย่านั้น แต่แล้วอีกไม่กี่หน้าถัดมาก็กลับมากลายเป็นแนวนิยายแนวเลิฟคอเมดี้แบบตลกตบมุกตามเดิม
เนื้อหาไลท์โนเวลกว่าครึ่งจะเป็นการเล่นตัวละครเพียงแค่สองคนคือโซจิและอิจิโนะในตอนที่ก่อตั้งสมาคมใหม่ๆ กัน) ซึ่งทั้งสองพูดคุยกัน โดยอิจิโนะนั้นออกไปทางคาแร็คเตอร์สาวซึนแต่ชอบพูดเล่น พูดหยอกกับพระเอก และพระเอกเป็นคนตบมุก บทสนทนาจะออกมาแนวๆ นี้ตลอดกว่าครึ่งในไลท์โนเวล (ให้นึกถึงภาพบทสนทนาของหงอนกับน้องปูจาก Bakemonogatari ดูน่ะครับ) โดยบทสนทนาของทั้งคู่ก็แทบจะไร้สาระ เป็นต้นว่าอิจิโนะถามโซจิว่าชอบเมดไหม บทต่อมาอิจโนะก็แต่งเมดให้โซจิดู บทต่อมาก็ไปเดทกันที่ร้านกาแฟคุยเล่นแบบซิวๆ บทถัดมาทั้งสองก็โดดเรียนไปนั่งเล่นด่านฟ้าเป็นต้น
พอถึงการเรื่องคิริกะขึ้นมาเนื้อหาไลท์โนเวลเรื่องนี้ก็มีสีสันขึ้น เพราะเพิ่มบทคู่กัดให้สองสาว และนอกจากคอมเมดี้แล้วยังเพิ่มบทดราม่า (ที่ไม่ได้เน้นปวดตับ) และแอ็คชั่นการต่อสู้ด้วยพลังวิเศษเข้าไปด้วย ทำให้เนื้อหาเรื่องนี้ผู้มีพลังวิเศษอยู่ร่วมกันทำกิจกรรมไร้สาระไปวันๆ ก็คงไม่ผิดหนัก หากไม่พอใจอะไรก็ต่อยกันด้วยพลังวิเศษสักเลย (คล้ายชมรมไร้เพื่อน แต่ไม่ได้เน้นความอนาถของกิจกรรมชมรม แต่เน้นเรื่องเหนือธรรมชาติกับแอ็คชั่นเข้าไปมากกว่า)
โมริสึกะ อิจิโนะ
เดี๋ยวนี้ตัวละครแนวสาวสวยผมดำแบบนี้ออกมาเยอะเนอะ
Ichino มีมังงะ (2 เล่มจบ) ลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์รักพิมพ์เช่นกัน โดยเนื้อหามังงะเล่มแรกนั้นเหมือนในไลท์โนเวลเล่มแรกเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ ตัดบางฉากออกและไม่มีบทการปรากฏตัวครั้งแรกของน้องสาวพระเอกเท่านั้น (ขอบอกว่าพลังของน้องสาวสามารถต่อกรคิริกะและอิจิโนะได้อย่างสบายเลย จนบางครั้งอิจิโนะเกรงใจน้องสาวพระเอกด้วยซ้ำ)
ช่วงนี้รู้สึกว่าการ์ตูนแนวชมรม (หรือสมาคม) ค่อนข้างออกมาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นในไลท์โนเวล และอนิเมะที่สร้างจากไลท์โนเวลอีกที) แถมแนวชมรมที่ว่าส่วนมากเป็นสายที่ไม่ใช่สายศิลปะหรือกีฬา (ชมรมญี่ปุ่นแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ กล่าวคือ ชมรมศิลปวัฒนธรรม เช่นพวกชงชาหรือชมรมวรรณกรรม, ชมรมกีฬา เช่นเบสบอลหรือว่ายน้ำ และชมรมที่ไม่เข้าพวกศิลปะและกีฬา ออกไปทางงานอดิเรกแปลกๆ เช่น ชมรมเรื่องลึกลับ, ชมรมวิจัยการ์ตูน, ชมรมเล่นเกม เป็นต้น)
การ์ตูนแนวชมรมที่ดังๆ เป็นรู้จักกันดีก็เช่น ชมรมเพื่อนบ้าน (Boku wa Tomodachi ga Sukunai), ชมรมเคอง (K-NO) ไปจนถึงชมรมแปลกๆ มากมายในมังงะที่หลายคนไม่รู้จัก เช่น ชมรมคนน็อตหลุด (Genshiken Nidaime)
แล้ว Ichino มีความแตกต่างๆไปจากการ์ตูนแนวชมรมทั่วไป ก็ตอบไปแค่ไม่แตกต่างอะไรกับการ์ตูนแนวชมรมทั่วไปมากนัก แต่มีเรื่องเหนือธรรมชาติและพลังวิเศษเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้น่าสนใจขึ้นบ้่าง แต่อย่างไรก็ตามเนื้อหาหลักๆ ยังคงอยู่กับการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครในชมรมมากกว่า โดยโซจิเป็นศูนย์กลางที่เขาจะต้องทำกิจกรรมร่วมกับสาวๆ พูดง่ายๆ ก็คือแนวชมรมฮาเร็มอีกหนึ่งเรื่อง
Ichino ดูแล้วเพลิน ครบฮาเร็มฮาเร็มสมบูรณ์แบบเลยครับ ตลก ดราม่า ซาบซ่า ฮาเร็ม คิดดูสิมันเป็นความฝันของชายหนุ่มหลายต่อหลายคน ทำกิจกรรมร่วมกับเหล่าสาวๆ ก็ซาบซ่าแล้ว ต่อให้ฉากจะเดิมๆ (ไปเที่ยวทะเล ไปเที่ยวงานวัด) ก็ไม่มีเบื่อแต่อย่างใด
ไลท์โนเวลเรื่องนี้ใช้จุดเด่นของการ์ตูนฮาเร็มนำมาใช้ในการเล่าเรื่องราวเต็มที่ แม้ว่าเรื่องเหมือนไม่มีอะไร ชมรมเล่นเกม แต่ทั้งเรื่องแทบไม่เห็นตัวละครเล่นเกมเลยแม้แต่น้อย พูดคุยหยอกกันทั้งเรื่อง แต่กระนั้นเรื่องนี้ผมกลับชอบอย่างบอกไม่ถูก เพราะไลท์โนเวลได้ใช้การสร้างสังคมเล็กๆ ขึ้นมา และสังคมเล็กๆ นี้มีตัวละครที่ต่างนิสัย ต่างพื้นเพที่ต้องยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม ซึ่งมองเผินๆ ตัวละครอย่าง พระเอกโซจิตัวตัดมุก, อิจิโนะสวยลึกลับ และคิริกะไฮเปอร์สามตัวละครหลักๆ (ยังไม่นับน้องสาวและหูแมวที่มาช่วงหลัง) ทำกิจกรรมด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องชมรม รวมตัวที่บ้านของนางเอก (บางครั้งก็มานอนด้วยกันที่บ้านนางเอกก็มี) เข้าค่ายด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน (ทะเล, งานวัด)
นอกเหนือการบทสนทนาการทำกิจกรรม เนื้อหายังเน้นความสัมพันธ์ระหว่างโซจิและตัวละครสาวๆ ในเรื่อง ที่มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น รวมไปถึงตัวตนของตัวละครก็เริ่มเปิดเผยทีละเล็กทีละน้อย ภายนอกพวกเขาเหมือนคนธรรมดา แต่ทุกคนล้วนมีปมปัญหา แม้ว่าจะมีพลังพิเศษเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดา หากแต่สิ่งที่ต้องแลกกับพลังดังกล่าวนั้นทำให้พวกเขาสูญเสียความเป็นคนของตัวเองทีละเล็กทีละร้อย ทำให้เกิดมิติเชิงลึกของตัวละครมากยิ่งขึ้น
โมริสึกะ อิจิโนะนางเอกตัวหลักของไลท์โนเวลเรื่องนี้ ภายนอกคาแร็คเตอร์ของเธอออกแบบเหมือนสาวสวยผมยาวดำที่เป็นที่นิยมของการ์ตูนสมัยนี้ สวย ฉลาด แต่ลึกลับ ไม่ค่อยมีคนคบหา ซึนเดเระ (เวลาซึนแตกจะน่ารักเป็นพิเศษ ขี้หึ่ง ปากจัด เอาแต่ใจ มีตรรกะแปลกๆ ชอบหยอก ชอบแกล้งพระเอก ฯลฯ
แม้ว่าอิจิโนะจะอยู่ห้องเดียวกับพระเอกก็ตาม แต่เธอนั้นแทบไม่รู้จักหรือแม้จะพูดคุยกับโซจิเลยแม้แต่น้อย โซจิเองแม้จะรู้จักว่าเธอเป็นคนสวยและฉลาดที่สุดในห้อง แต่ด้วยท่าทางที่ดูไม่เป็นมิตร สร้างเกราะป้องกันตัวเองตนเองไม่ให้คนอื่นเข้าใกล้มาโดยตลอด ทำให้เธอกลายเป็นคนลึกลับและโดดเดี่ยวในห้อง ทำให้โซจิไม่กล้าไปพูดคุยกับเธอ ซึ่งกว่าที่โซจิจะได้รู้จักอิจิโนะนั้นเป็นเพราะโชคชะตาและความบังเอิญล้วน
การรู้จักกันครั้งแรกของคนทั้งคู่นั้นอาจไม่ใช่เรื่องรืนรมย์โรแมนติกสักนิด (บางทีอาจสูตรสำเร็จด้วยซ้ำ) และเนื้อหาค่อนข้างดราม่านิดหน่อย ซึ่งน่าแปลกตรงที่ไลท์โนเวลเล่ม 1 (จนถึงมังงะ) ได้เล่าเรื่องตอนท้ายเล่ม ในขณะที่เนื้อหาที่ผ่านมาตลกแบบหยอกๆ ไปหลายบท พอมาถึงบทนี้แทบไปตัวไม่ถูกเลยทีเดียว ซึ่งเนื้อหาย้อนไปว่าระหว่างทางกลับบ้านของพระเอกในตอนกลางคืนวันหนึ่งเขาก็ได้เห็นอิจิโนะวางเพลิงก่อกองไปกลางสวนสาธารณะ และเขาก็ถูกอิจิโนะจู่โจมด้วยพลังพิเศษ จนทำให้เขาต้องใช้พลังพิเศษรับมือพลังของอิจิโนะ (พลังของพระเอกนั้นพลังจะอยู่ในรูปถุงมือสีขาวส่วนความสามารถที่แท้จริงยังคงเป็นปริศนาในเล่มแรกอยู่ว่ามันคือพลังอะไรกันแน่)
โซจิพยายามพูดคุยกับอิจิโนะ ให้เชื่อใจเขา แต่อิจิโนะบอกว่าเธอไม่เชื่อใจใครทั้งสิ้น คนที่เชื่อใจได้ก็ไม่มีอีกแล้ว แค่มีพลังราวสัตว์ประหลาดนี้อยู่ก็เต็มที่แล้ว และนั้นเองทำให้เธอปฏิเสธคนรอบข้างไม่อยากจะเป็นเพื่อนกับใคร อย่างไรก็ตามโซจิพูดตอบกลับว่าหากเธอเป็นสัตว์ประหลาดเขาก็เป็นเหมือนกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือการอยู่ร่วมกันกับมันต่างหาก และเขาก็ยินดีที่จะเป็นแรงใจให้กับเธอ
วินาทีนั้นโซจิก็ปักธงอิจิโนะเป็นที่เรียบร้อย โซจิได้ทำให้เธอมีความรู้สึกเหมือนผู้หญิงธรรมดาอีกครั้ง และเธอต้องการอยากอยู่ใกล้กับโซจิอีก และนั้นเองทำให้เธอตัดสินใจตั้งสมาคมเล่นเกมและบอกให้โซจิเข้าสมาคมโดยอ้างว่าให้เธอจับตาดู ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเธอแค่อยากอยู่กับโซจิด้วยกันเท่านั้น (ตามแบบสาวซึนที่ต้องทำอะไรอ้อมๆ หน่อยแบบโยโซระ)
คิริกะเพื่อนสนิทของโซจิ
หลังจากอิจิโนะและโซจิตั้งสมาคม อิจิโนะก็กลายคนสองตัวตน ตัวตนหนึ่งในห้องเรียนที่เต็มไปด้วยผู้คน อิจิโนะจะเป็นคนเงียบๆ โดดเดี่ยว ไม่เข้ากับเพื่อนในห้อง หากแต่เมื่ออยู่ในชมรมอิจิโนะจะกลายเป็นผู้หญิงที่ชอบหยอกล้อ พูดคุยอย่างเป็นกันเองของโซจิ จนดูร่าเริง สดใส และเมื่อคิริกะเข้าสมาคมก็เป็นเพื่อน (และคู่ปรับ) กับอิจิโนะคนแรก แม้อิจิโนะจะไม่ชอบคิริกะที่เข้าหาโซจิมากกว่าตน (หึ่งนั้นแหละ) แต่เธอไม่ได้ตั้งแง่รังเกียจใส่คิริกะมากมาย (หากเทียบกับการกระทำของโยโซระ อิจิโนะจะออกมาแนวประชด เชิงล้อเล่นมากกว่า) ซ้ำยังเริ่มเห็นใจคนอื่นมากขึ้น (แม้ว่าอิจิโนะจะชอบพูดประชดเรื่องหน้าอก แต่ระดับคำด่าไม่ได้แรงมากเท่าโยโซระ)
ตามคำสอนทั่วไปของการ์ตูนแนวชมรมเกมนั้นก็คือการหาเพื่อน การใช้ชีวิตวัยรุ่นที่เติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย ไม่มีสิ่งใดที่ไร้สาระ หากตั้งใจทำ แม้กระทั่งสมาคมเล่นเกม ที่แทบไม่มีกิจกรรมใด เพราะวินาทีที่สามาชิกในชมรมอยู่ร่วมกันในห้องสี่เหลี่ยม ก็เท่ากับว่าวินาทีนั้นพวกเขาเป็นเพื่อนกัน อีกทั้งมันเป็นสถานที่ที่พวกเขาสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข โดยไม่สวมหน้ากากเข้าหากัน สังคมเล็กๆ แห่งนี้ทำให้สมาชิกแต่ละคนเข้าใจจิตใจซึ้งกันและกันอย่างช้าๆ ตัวตนที่แอบเก็บซ่อนเอาไว้ ค่อยเปิดเผยทีละเล็กทีละน้อย พวกเขาไม่ใช่สัตว์ประหลาดตัวเดียวในโลก เพราะยังมีคนที่เหมือนกับเรา พร้อมกับมีปัญหาชีวิตที่มากยิ่งกว่าเราเสียอีก
หนึ่งในตัวละครหลักที่โดดเด่นไม่แพ้อิจิโนะ คือคิริกะเพื่อนสนิทของโซจิ (แต่การแสดงออกนี้ชักดูยังไงก็ไม่ใช่เพื่อนธรรมดาแน่นอน) เด็กสาวที่ภายนอกเหมือนไฮเปอร์ ชอบมุกตลก และชอบพูดรักโซจิเป็นประจำ แต่โซจินึกว่าคิริกะล้อเล่น แต่ความจริงแล้วคิริกะจริงจังกับโซจิมากๆ จริงจังถึงขั้นหากโซจิอยู่กับผู้หญิงอื่นเธอจะก่อสงครามเลยทีเดียว ผมงี้ชอบฉากคิริกะประกาศสงครามกับอิจิโนะเป็นพิเศษ (สาเหตุที่คิริกะชอบโซจินั้นไลท์โนเวลเล่ม 2 จะเฉลย บอกได้แค่ว่ามีเพียงโซจิเท่านั้นที่เข้าใจคิริกะและเป็นคนสำคัญของคิริกะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม)
อย่างไรก็ตาม ประเด็นดราม่าพลังวิเศษที่ต้องแลกเปลี่ยนสิ่งที่มีค่านั้น (ความทรงจำ, การใช้ชีวิต, ครอบครัว ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการแลกเปลี่ยนพลังวิเศษ) ไม่ได้เน้นหนักถึงขั้นปวดตับ แต่เน้นในความโรแมนติกที่เพิ่มสีสันให้กับตัวละครให้เป็นได้คิดว่าบางครั้งโชคชะตาของคนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้ บางครั้งเราได้พลังยิ่งใหญ่มา แต่ไม่รู้จะให้รับผิดชอบยังไง ในเมื่อมันไม่มีสิ่งใดที่ต้องให้รับผิดชอบ
จะว่าไปโซจิก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากโคดากะจากชมรมไร้เพื่อน ที่เขาเป็นจุดศูนย์กลาง (และเขาก็รู้ด้วยว่าพวกสาวๆ ชอบเขา แต่ก็ทำเป็นไม่ใส่ใจ แต่ที่ฮ่าที่สุดโซจิไม่รู้เลยว่าสาวตีกันนอกรอบหลายครั้งมากโดยที่เขาไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย) และเขาก็เป็นพระเอกอีกคนที่รู้ว่าสาวๆ ในเรื่องชอบเขามากเพียงใด (แต่ประเด็นดราม่าไม่เท่ากับโคดากะ เพราะมาแบบฮ่ามากกว่า) แต่เขาก็พยายามทำเป็นไม่สนใจ (บางครั้งก็หนีเวลาเจอสาวจับกดด้วยซ้ำ) เพราะสิ่งที่พระเอก้องการก็คือความสงบสุข ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรให้หนักใจมากกว่า
ฮาเร็มของพระเอก
ทั้งหมดนี้คือเรื่องคราวๆ ที่ผมสรุปในเล่ม 1 ของไลท์โนเวลเท่านั้น (มีสปอยเล่ม 2 นิดหน่อยๆ ) ปัจจุบันไลท์โนเวลเรื่องนี้มี 9 เล่ม (แต่ผมไม่รู้ว่าจบหรือเปล่า) และมีดราม่า CD ซึ่งแสดงให้ไลท์โนเวลฮาเร็มก็เป็นไลท์โนเวลที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับผมแล้วผมชอบไลท์โนเวลเรื่องนี้ (ชนิดว่าอยากอ่านไลท์โนเวลเล่ม 2 ใจจะขาดแล้วล่ะ) เพราะไม่ต้องคิดอะไรปวดหัวตามประสาการ์ตูนแนวชมรมฮาเร็ม แถมการมีพลังวิเศษ (สายต่อสู้) เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งที่ไม่มีศัตรูปรากฏตัวสักตัว (แถมยังอุตส่าห์มีการอัฟเกรดพลังอีก) อีกทั้งตัวละครก็เข้าขากันดีนะครับ (ตอนอิจิโนะปล่อยมุกกับคิริกะนี้ผมชอบเลยแหละ) ส่วนเรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร จะมีตัวละครใหม่ (ผู้มีพลังวิเศษ) มาเข้าสมาคมเหรอไม่ก็ติดตามต่อไป
ความคิดเห็น