คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #235 : Anime Spring 2013 ซีซั่นแห่งหายนะ (ในหลายๆ ความหมาย)
สวัสดีครับกลับมาอีกครั้งกับการรีวิวอนิเมะประจำฤดูร้อน 2013 ซึ่งหลายวันมานี้จังหวัดผมร้อนมากเลยครับ และก็ตรงกับช่วงวันสงกรานต์อีกหากมีอะไรที่ผิดพลาดไปบ้างก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ช่วงนี้วันสงกรานต์เป็นวันหยุดที่หลายคนไปต่างจังหวัด ส่วนผมนั้นก็ไม่ได้ไปไหนเลย (เพราะอากาศร้อนจัดมาก) อยู่แต่บ้าน นั่งดูการ์ตูนอนิเมะ-มังงะทั้งๆ ที่ไม่เหมาะสมกับคนวัย 30 พับผ่า (อย่างน้อยก็ดีกว่ากินเหล้าลวนลามผู้หญิงล่ะว้า)
นอกเรื่อง คราวนี้พูดถึงภาพรวมอนิเมะซีซั่นฤดูร้อนกันดีกว่า สำหรับซีซั่นนี้เมื่อเทียบกับซีซั่นก่อน ถือว่าคุณภาพโดยรวมน่าติดตามมากกว่าครับ ในแง่ความรู้สึก แม้ว่าซีซั่นนี้แนวฮาเร็มเซอร์วิสจะน้อยก็เถอะ และซีซั่นนี้โดยรวมๆ มีอนิเมะที่ผมเลือกที่จะดูและติดตามถึง 11 เรื่อง ซึ่งมีดังต่อไปนี้ (ซึ่งหากแปลซับไทยต่อน่ะ)
1.Haiyore! Nyaruko-san W
2.Date A Live
3.Devil Survivor 2 The Animation
4.Shingeki no Kyojin (จะดูช่วงอุลตร้าแมน)
5.Namiuchigiwa no Muromi-san
6.Photo Kano (หากซับไทยมา ก็ดูเรื่อยๆ)
7.Kakumeiki Valvrave (หากเพื่อนสมัยเด็กไม่ตายจะดูต่อ)
8.Ginga Kikoutai Majestic Prince
9.Hentai Ouji to Warawanai Neko (จะดูช่วงหลังจบไลท์โนเวลเล่ม 1)
10.จอมมารตกอับ
ปล. เรียงลำดับตามความชอบส่วนตัวครับ อันดับล่างๆ สาเหตุเพราะผมไม่เคยดูอนิเมะที่กำกับโดยจอมมารเก็นมาก่อน กำลังปรับตัวพอสมควร ความจริงตอนแรกมีเรื่อง Hataraku Maou-sama! อยู่ในรายการนั้นด้วย แต่พอดีลิขสิทธิ์โดยโรส และผมขี้เกียจดูซับอังกฤษด้วย เอาเป็นว่าผมจะซื้อลิขสิทธิ์มาดูอีกทีล่ะกัน
เออ...ลืมไป ผมไม่ดูอนิเมะ การ์ตูนอนิเมะสำหรับผู้หญิง(พวกแนวหนุ่มหล่อ), น้องสาวไม่น่ารัก (Ore no Imouto), ฮายาเตะ (Hayate! Cuties), และเรกัน (Toaru Railgun) น่ะครับ ต่อให้เนื้อหาสุดยอดแค่ไหนก็ตาม
ส่วนรายชื่ออนิเมะและรีวิวอนิเมะเกือบทั้งหมดในซีซั่นฤดูร้อน 2013 อยู่ที่ลิงค์ด้านล่าง
http://www.dek-d.com/board/view.php?pno=1&id=2734995#comment
สำหรับบทความนี้ผมจะพูดเฉพาะอนิเมะที่ผมติดตามและทำไมถึงต้องติดตามน่ะครับ
Haiyore! Nyaruko-san W
หลังจากประสบความสำเร็จในภาคแรก และได้กลายเป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ผมชอบประจำปี เนียวรุโกะ (ในไลท์โนเวลรักพิมพ์เรียก “เนียลโกะ”) ก็ได้กลับมาอีกครั้งในซีซั่น 2 ในชื่อ Haiyore! Nyaruko-san W วึ่งขอบอกว่านี้คืออนิเมะที่ผมตั้งตาคอยในซีซั่นนี้ทีเดียว
Haiyore! Nyaruko-san (แปลเป็นไทยก็ เนียวรุโกะผู้คลืบคลาน) เป็นอนิเมะแนวตลก ล้อเลียน สร้างจากนิยายไลท์โนเวลขายดี ที่วางจำหน่ายในปี 2009โดย Manta Aisora และภาพประกอบ KOIN และอนิเมะเป็นผลงานของสตูดิโอ Xebec เรื่องคอมมาดี้และคุณภาพชื้อขนมกินได้เลย และภาค W ยังคงเป็นของสตูดโอและผู้กำกับจากภาคแรกเหมือนเดิม
สำหรับภาคนี้พระเอกของเรา "ยาซากะ มาฮิโระ" เด็กหนุ่มธรรมดายังคงรับมือ 3 มนุษย์ต่างดาวระดับเทพมารจอมป่วนที่ประกอบไปด้วยเนียวรุโกะ, คูโกะ และฮันตะ ซึ่งเป็นเทพมารจากงานประพันธ์ของเอช. พี. เลิฟคราฟท์งานประพันธ์ของเอช. พี. เลิฟคราฟท์เหมือนเดิม โดยเฉพาะเนียวรุโกะเกือบจะจับกดเขาหลายครั้ง ซ้ำยังไม่พอเมื่อเขากลายเป็นจุดศูนย์กลางความวุ่นวายระดับจักรวาลที่เหล่ามนุษย์ต่างวางแผนจะสร้างความเดือดร้อนต่อโลกด้วยเหตุผลบ้าบอโดยไม่ถามสุขบภาพเขาสักคำ
Haiyore! Nyaruko-san W ยังคงเป็นอนิเมะที่มีคนชอบไม่ ก็เกลียดไปเลย เพราะเป็นการ์ตูนที่ล้อเลียนเยอะมาก เรียกว่าเกือบทุกนาทีของอนิเมะจะล้อเลียน 1-2 มุกอย่างต่ำ ล้อเกือบทุกอย่าง ไม่ได้ล้อเลียนโอตากุอย่างที่หลายคนคิด เพี่ะล้อเกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ดังเก่า (MIB), ล้อดาราญี่ปุ่น, ล้อการ์ตูนอนิเมะเก่าไม่ว่าจะเป็นคนญี่ปุ่นหรือของฝรั่ง , ล้อไลท์โนเวลในเครือ, ล้อมุกบอร์ด, ไรเดอร์, วีดีโอเกม, ซุปเปอร์โรบอต ฯลฯ ล้อแหลก จิกกัด เชื่อเลยน้อยคนที่ดูอนิเมะเรื่องนี้จ้างให้ก็ย่อยมุกไม่ออก ไม่เก็ทมุก ขนาดฉากเปิดตอนแรก เนียวรุโกะขี่ไม้กวาด สมองของผมทำงานหนักเลยว่ามาจากอนิเมะเรื่องใด จึงไม่แปลกแต่อย่างใดคนที่ไม่เก็ทมุกต่างปวดหัวและล้มเลิกที่จะไม่ดูอนิเมะตั้งแต่แรกเริ่ม
ความจริงแล้วอนิเมะเรื่องนี้ดูแบบไม่สนมุกก็สนุกน่ะครับ ผมว่า คือตัวเราก็เหมือนมาฮิโระพระเอกของเรื่องแหละ ที่พระเอกไม่เคยเก็ทมุก เนียวรุโกะสักอย่าง มันเหมือนภาษามนุษย์ต่างดาวหรือภาษาโอตากุพูดคุยกัน แค่ดูตัวละครทำท่าทางประหลาด รวมไปถึงฮาเร็มของมาฮิโระ ตัวละครที่น่ารักอย่างเนียวรุโกะ, คูโกะ และสาวดุ้นอย่างฮันตะ ซึ่งแต่ละคนหนวด (ปอยผม) ดิ้นไปดิ้นมาก็น่ารัก โมเอะแล้วน่ะเออ
แต่อย่างไรก็ตาม หากมุกไหนเราเก็ทนี้ฮ่าเลยขอบอก เพราะมันกล้าเล่น อย่างลักกี้สตาร์ก็มา ซาซิมิซังก็มา จินรุยก็มี ดังๆ ทั้งหลายแหล ยิ่งเราไปเจอการย่อยมุกแบบละเอียดในเว็บหรือในยูทูปอธิบายมุก ก็ฮ่าและได้เข้าใจอะไรมากมายเกี่ยวกับการ์ตูนญี่ปุ่นมากขึ้นครับ ว่าญี่ปุ่นนั้นสนใจเรื่องอะไรในตอนนี้ ไปจนการ์ตูนเก่าๆ ระดับตำนานนั้นมีอะไรบ้าง ไทยเราไม่คุ้น แต่ที่ญี่ปุ่นนี้คุ้นเคย ดูแล้วมีสาระกว่าที่คิดน่ะครับ
Haiyore! Nyaruko-san W ยังคงเป็นอินเมะที่ผมตั้งตารอคอยซีซั่น ไม่ต้องการเกริ่นจากภาคแรกแต่อย่างใด มาถึงก็ปล่อยมุก ซึ่งตอนแรกนี้ดูเหมือนมีมุกเยอะกว่าตอนแรกของภาคก่อนถึง 1.5 เท่าเลยทีเดียว ส่วนการดำเนินเรื่องอาจวุ่นวายไร้สาระไปบ้าง (เพราะมัวแต่เล่นมุก) แต่ด้วยความน่ารักของตัวละครและฮาเร็มก็ช่วยให้ผมรู้สึกชอบเหมือนภาคที่แรกที่ทำเอาไว้
Date A Live
Date A Live เป็นไลท์โนเวลแนวตลกโรแมนติก ไซไฟ ฮาเร็ม แต่งโดย Koshi Tachibana และภาพประกอบโดย Tsunako วางแผงเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2011 และตอนที่เขียนไลท์โนเวลก็ออกมาได้ 7 เล่ม (ยังไม่จบ) ซึ่งบ้านเรานั้นได้ลิขสิทธิ์โดยรักพิมพ์ในชื่อไทย “พิชิตรัก พิทักษ์โลก” และถูกนำไปสร้างเป็นมังงะ และอนิเมะ ซึ่งอนิเมะนั้นเริ่มฉายเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2013 เป็นต้นมา
Date A Live เป็นเรื่องราวของอิสึกะ ชิโด้ เด็กหนุ่มชั้นม.ปลายธรรมดา (มั้ง??) ได้พบกับสาวลึกลับคนหนึ่งที่เรียกว่า “เทพธิดา” ที่พละกำลังและอำนาจมหาศาล จนกลายเป็นศัตรูของโลกอย่างช่วยไม่ได้ และจากคำแนะนำของ “โคโทริ” น้องสาว (ไม่ร่วมสายเลือด) ของพระเอกบอกว่า การที่จะหยุดเธอนั้นเขาจะต้องจีบเธอให้ติด และให้เธอหันมารักโลกให้ได้ แล้วพระเอกจะทำอย่างไรในเมื่อเขาไม่ได้เป็นเทพจีบสาว หรือมีประสบการณ์ความรักเลยแม้แต่น้อย
สำหรับอนิเมะเรื่องนี้มีหลายคนตั้งหน้าตั้งตารอในซีซั่นนี้ก็ว่าได้ จนหลายคนบอกให้มีลิขสิทธิ์เลยทีเดียว แต่กระนั้นผมอยากขอบอกว่าอนิเมะจากไลท์โนเวลเรื่องนี้ค่อนข้างตัดทอนต้นฉบับพอสมควร (จนมีหลายคนบ่นว่าหากไม่ใช่อนิเมะของค่ายโตเกียวอนิเมะ อย่าไปดู เพราะไม่ค่อยเก็บรายละเอียดสักเท่าไร่)
เออ....อนิเมะเรื่องนี้เป็นของค่าย AIC PLUS+ ครับ
ก็เข้าใจเพราะเนื้อหาอนิเมะนั้นน่าจะมีเนื้อหาไปจนถึงไลท์โนเวลเล่มที่ 4 (รวมเนื้อเรื่องของโคโทริ) ทำให้จำเป็นต้องตัดรายละเอียดอย่างช่วยไม่ได้ แม้ว่าเนื้อหารวมไปถึงฉากมุกตลกสำคัญยังอยู่ แต่ตัดไปตัดพระเอกตบมุกไปได้ ทำให้หลายคนที่ไม่ได้อ่านไลท์โนเวลมาไม่เก็ทมุกหลาายจุด (เช่นตอนที่ 2 อย่างที่โคโทริแนะนำทีมงานของเธอ ในไลท์โนเวลพระเอกจะตบมุกแต่ละคนอย่างฮ่ามาก แต่ในอนิเมะตัดออก เหลือเพียงพระเอกถอดหายใจเท่านั้น ลดความฮ่าไปเยอะอย่างช่วยไม่ได้)
ก็ขอออกตัวว่าผมไม่ได้ชอบอนิเมะเรื่องนี้ตั้งแต่แรกเห็น แต่หลังๆ ก็เริ่มรู้สึกชอบ เพราะว่ามันเป็นแนวที่พระเอกเป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้เก่งอะไรสามารถปักธงเทพธิดาที่มีพลังล้างโลกได้ และเทพธิดาไม่ได้มีคนเดียวเสียด้วย ซึ่งในอนิเมะนั้นจะมีเทพธิดา 3 คน 3 ต่างนิสัยที่พระเอกจะต้องจัดการ แต่ด้วยอนิเมะนั้นมีจำนวนตอนน้อย (หากจะเก็บรายละเอียดตามไลท์โนเวลนี้อย่างมาก 20 โน้นแหละ) ซึ่งก็ต้องทำใจว่าอาจขาดอารมณ์ด้านนี้ไปบ้าง
พูดง่ายๆ ผมดูอนิเมะเรื่องนี้ก็เพราะ จะได้รู้ตอนต่อของไลท์โนเวลเล่ม 2, 3 และ 4 เท่านั้น แล้วจะได้ไม่ต้องรอซื้อไลท์โนเวลมาอ่านแบบกระวนกระวายใจ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดีๆ เกี่ยวกับอนิเมะเรื่องนี้ก็คือ โทวกะน่ารักกว่าในไลท์โนเวล และมังงะกว่าที่คิดไว้อีก มีทั้งซึน เดเระ ทั้งสวยทั้งเก่ง ตอนทำหน้าเศร้าๆ โดดเดี่ยวนี้อยากเข้าไปเป็นเพื่อนแบบพระเอกจริงๆ
สรุปคือเป็นอนิเมะที่ตัดทอนต้นฉบับพอสมควร คำแนะนำคือดูไลท์โนเวลมาก่อน ค่อยมาดูอนิเมะครับ ตอนนี้รักพิมพ์ออกมาเล่มที่ 1 แล้ว ส่วนสาเหตุที่ซับไทยตอนที่ 2 ออกมาช้าเพราะว่ามันไม่ได้ฉายแบบทีวีปกติ จะเป็น Pre-air ที่ฉายทาง Nico ทำให้หน้าจอไม่ละเอียด ไม่ชัด ทำให้ซับไทยเราไม่นิยมแปล บวกกับกลัวลิขสิทธิ์อีก ทำให้เป็นอนิเมะที่อึมครึมในเวลานี้อย่างไม่ได้ตั้งใจ
Devil Survivor 2 The Animation
Devil Survivor 2 The Animation เป็นอนิเมะที่ดัดแปลงมาเกมแนว RPG ของเครื่อง DS ปี 2011 ของค่าย Atlus (และแน่นอนว่าผมไม่ได้เล่นมาก่อน) ออกฉายเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2013 (13 ตอนจบ)
ปล.อนิเมะนี้เป็นภาค 2 ของเกม แต่เนื้อหาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับภาคแรกแต่อย่างใด ดังนั้นสามารถดูได้อย่างสบายใจ
Devil Survivor 2 The Animation เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเมื่อคุเซ ฮิบิกิ กับ ชิจิมะ ไดอิจิ และนิตตะ ไอโอะนักเรียนม.ปลายธรรมดา ที่ได้เข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นในรถไฟใต้ดินของญี่ปุ่นขณะที่กำลังกลับบ้านหลังจากการสอบ ซึ่งก่อนหน้านั้นพวกเขาเพิ่งจะได้รับอีเมลทางโทรศัพท์มือถือเตือนเรื่องความตายจาก Nicaea(ไนซีอา) โดยพยากรณ์ว่าพวกเขาจะตายด้วยเหตุรถไฟตกรางในไม่กี่นาทีข้างหน้า และก็พบว่าเป็นไปตามที่กำหนดเอาไว้ หากแต่อย่างไรก็ตาม พวกฮิบิกิกลับรอดชีวิตได้ราวปาฎิหารย์ แต่เรื่องราวไม่จบลงเพียงแค่นี้ เพราะจู่ๆ พวกปิศาจปรากฏขึ้น และมันก็พุ่งเข้ามาเพื่อฆ่าพวกเขา ทันใดนั้นพวกเขาได้กลายเป็น Devil Summoners (เดวิล ซัมมอนเนอร์) สามารถเรียกปีศาจและจัดการกับพวกปิศาจ แต่นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดเท่านั้น
พูดถึงอนิเมะที่สร้างจากวีดีโอเกม (ที่ไม่ใช่แนวฮาเร็มหรือคอเมดี้) ส่วนใหญ่จะทำยากเพราะว่าจะต้องใส่ความเป็นเกมเข้าไปให้คนที่ไม่เคยเล่นเกมรู้เรื่องไปด้วย ที่น่าสนใจคือผู้กำกับอนิเมะเรื่องนี้คือ Seiji Kishi ผู้กำกับอนิเมะเพอร์โซน่า 4 (Persona 4) จึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่อารมณ์อนิเมะรื่องเดวิดถึงคล้ายๆ เพอร์โซน่า (อีกทั้งเกมทั้งสองก็ของค่ายเดียวกันด้วย) ซึ่งเพอร์โซน่า 4 นั้นค่อนข้างใส่ความเป็นเกมมากเกินไป โดยเฉพาะระบบการต่อสู้ทำให้คนที่ไม่เคยเล่นเกมมาก่อนถึงกับ งง จนไม่เกิดอารมณ์ร่วมมากนัก
อย่างไรก็ตาม Devil Survivor 2 The Animation ค่อนข้างเป็นผลงานที่น่าประทับใจตามความรู้สึกส่วนตัวของผมเลยทีเดียว เพราะคราวนี้ไม่ได้ใส่ความเป็นเกมมากไปจนน่าเกลียด การดำเนินเรื่องก็ทำได้ดีน่าติดตาม แม้ว่าพล็อตยังคงสูตรสำเร็จ แนวปราบปีศาจ รับภารกิจ แต่กระนั้นองค์ประกอบมากมายทำให้ผมติดตามได้อย่างสนุกสนาน ภาพสวย ฉากหายนะชิบุย่า ฉากการปรากฏตัวของปีศาจที่ทำได้อย่างมีอารมณ์ร่วม แม้ว่าไม่ถึงขั้นปวดตับหรือดราม่าหรือโหดร้ายแต่ก็ช่วยให้เราเอาใจช่วยพวกตัวเอกไม่มากก็ไม่น้อย
จุดเด่นน่าจะเป็นการออกแบบตัวละครที่ทำได้น่ารักดี พระเอกน่ารัก เพื่อนพระเอกก็น่าแคะ นางเอกหนมน๊มสวย แม้ภาพรวมพระเอกจะเป็นแนวแบบพระเอกสูตรสำเร็จจ๋า แต่ไม่ได้เมพ ยังคงความเป็นมนุษย์ที่แตกต่างจากพระเอกในเพอร์โซน่าก็น่าจะช่วยให้พระเอกคนนี้ถูกใจแม่ยก จิ้นยาโอยกับเพื่อนพระเอกไม่ยาก
Devil Survivor 2 The Animation เป็นอนิเมะน่าสนใจ ไม่ได้ใส่ความเป็นเกมจนน่าเกลียดเกินไป สอดแทรกความคิดที่ว่าการดิ้นรนมีชีวิตอยู่นั้นจะช่วยพัฒนาจิตใจของตัวละครให้กระโดดรวดเร็วขึ้น พวกพระเอกที่ตอนแรกๆ ไม่สนใจอนาคตมากนัก หลังจากผ่านเหตุการณ์ความตายพวกเขาก็เริ่มรู้สึกถึงความสำคัญในการมีชีวิตอยู่ การปกป้องเพื่อนพ้อง การช่วยเหลือผู้อื่น และการทำหน้าที่ของตนเอง แม้ว่าพล็อตจะสูตรสำเร็จ แต่ก็เป็นอนิเมะที่ย่อยดีสำหรับใครหลายคน ใครเป็นแฟนเกมนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน
Shingeki no Kyojin
Shingeki no Kyojin ชื่อไทยคือ "การโจมตีของยักษ์" เป็นการ์ตูนมังงะแอ็คชั่น เขย่าขวัญ แฟนตาซี ที่เขียนโดย Hajime Isayama ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 17 มีนาคม 2010 มังงะได้ลิขสิทธิ์โดยวิบูลย์กิจในชื่อ “ผ่าพิภพไททัน” และได้ถูกสร้างเป็นอนิเมะวันที่ 7 เมษายน 2013 มี 25 ตอน
Shingeki no Kyojin เป็นเรื่องราวของโลกอนาคตข้างหน้าที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ใกล้จะสูญสิ้น เนื่องจากการบุกรุกโดยสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “ไททัน” ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์หลายร้อยเท่า มันไม่ค่อยมีสติปัญญา แต่มันโหด พละกำลังมาก และมันชอบกินมนุษย์ มันกินมนุษย์จนเกือบหมดโลก เพื่อความอยู่รอดทำให้มนุษย์บางส่วนจำเป็นต้องกักขังตัวเองเองด้วยกำแพงสูง(สูงกว่ายักษ์)ล้อมรอบเมืองตนเองเอาไว้ เพื่อป้องกันไททัน
จนกระทั่งร้อยปีต่อมา เด็กหนุ่มชื่อเอเรน และน้องสาวบุญธรรมชื่อ มิคาซะ ทั้งคู่อยู่กันอย่างมีความสุขในเมืองที่อารมณ์เหมือนในการ์ตูนแฟนตาซียุคกลาง จนวันหนึ่งทั้งสองก็พบฝันร้ายเมื่อได้เห็นเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว กำแพงที่เคยปกป้องเมืองได้ถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของอภิยักษ์ตนหนึ่ง และเมื่อกำแพงพังลงเหล่าไททันทั้งหลายก็บุกเข้ามาในเมืองและกินคนไปจำนวนมาก ทั้งสองคนได้พยายามหนีเอาตัวรอด และทั้งสองก็ได้เห็นแม่ของตนถูกกินทั้งเป็น ด้วยความแค้นเอเรน จึงได้สาบานว่าเขาจะสังหารไททันทุกตัวที่พบเพื่อแก้แค้นแทนมนุษยชาติ
มังงะ Shingeki no Kyojin เป็นมังงะที่ขายดีเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น แม้ว่าเนื้อหายังอยู่ในเรื่องมนุษย์ปรายสัตว์ประหลาด แต่ด้วยการสร้างโลกที่ไม่เหมือนใคร การเล่าเรื่องราวที่น่าติดตาม ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้โดดเด่นไม่น่าเชื่อ (เดี๋ยวคุณจะได้เห็นมวยไทยในอนิเมะเรื่องนี้)
นอกเหนือจากนั้นการ์ตูนยังสร้างอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครในเรื่องเมื่อหายนะการสูญพันธ์ของมนุษย์ใกล้เข้ามา ความสิ้นหวัง ความมืดมนจิตใจของมนุษย์ที่มองผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม ทำให้คนดูแล้วลุ้นน่าติดตาม แต่ไม่ถึงขั้นเครียดมากเกินไป พร้อมแฝงปรัชญาการเอาตัวรอดอะไรมากมายที่ดูแล้วเก็บไปคิดไม่มากก็ไม่น้อย
ดังนั้นหากคุณไม่เคยอ่านมังงะ และไปเจอหลายคนบอกว่าปวดตับ ขอบอกว่าลองไปดูเรื่องนี้ก่อน เพราะระดับความเครียดและดราม่านั้นยังพอรับได้ ไม่ได้ปวดถึงขั้นตับแตกแต่อย่างใด
เช่นเดียวกับดอกนรก Shingeki no Kyojin เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่ฮิตแบบเงียบๆ ในบ้านเรา และหลายคนหวังมากในการทำเป็นอนิเมะ และผมขอบอกว่าหลังจากที่ดูตอนแรกนั้นไม่มีผิดหวังเลยแม้แต่น้อย
ในขณะที่ดอกนรกกลายเป็นอนิเมะที่ล้มเหลวในการทำตรงต่อต้นฉบับ ตรงกันข้ามกับผ่าพิภพไททันฉบับอนิเมะที่ทำได้ตรงกับต้นฉบับ และทำดีกว่าต้นฉบับด้วยซ้ำ มังงะผ่าพิภพไททันนั้นภาพดูดิบ แต่ในอนิเมะนั้นกับเต็มไปด้วยความอลังการ ความยิ่งใหญ่ สมกับเป็นชื่อเรื่อง เพลิงเปิดและเพลงปิดอลังการงานสร้าง สมแล้วที่เป็นอนิเมะที่หลายคนรอชมในซีซั่นนี้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะอ่านหรือไม่อ่านมังงะก็สามารถดูเรื่องนี้จนจบตอนจนเหมือนกับว่าเวลาจะผ่านไปรวดเร็ว
อนิเมะนี้กำกับโดย Tetsuro Araki แห่ง Wit Studio, Production IG ผลงานเก่าๆ อย่าง Death Note และ Guilty Crown (2011 Guilty Crown (2011) ก็การันตีความอลังการและฉากต่อสู้ที่รวดเร็วและทรงพลังได้เลย
ข้อเสียอนิเมะตอนนี้มีอย่างเดียวก็คือใครบางคนที่อ่านมังงะมาก่อน อาจไม่ค่อยน่าตื่นเต้นอะไรมากนักในการติดตามตอนต่อไป เพราะเรารู้เรื่องในอนิเมะมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามภาพในอนิเมะนั้นสวยมากจนให้อีกอารมณ์หนึ่งเลยก็ว่าได้ บวกกับมิคาสะทั้งสวยเก่งโมเอะ แถมดีกรีเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์ชาติ ยอมเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกเพื่อป้องกันพระเอกที่แสนกากไม่เจียมตัวคนเดียว ทั้งคู่เป็นมากกว่าคู่รัก มากกว่าครอบครัว นี้แหละเพื่อนสมัยเด็กสมบูรณ์แบบ
Namiuchigiwa no Muromi-san
Namiuchigiwa no Muromi-san แปลเป็นไทยว่า “มุโรมิซังบนฝั่ง” เป็นอนิเมะแนวตลก (ไม่ใช่การ์ตูนแก๊ก 4 ช่อง) เขียนโดย Keiji Najima (มังงะตอนนี้ 9 เล่มแล้วแต่ยังไม่จบ) วางแผงตั้งแต่ 2009 และถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะใฃฉายวันที่ 6 เมษายน 2013 (มี 13 ตอน)
เป็นเรื่องของทาคุโร่ เด็กหนุ่มที่ใช้เวลากับการตกปลาที่ทะเล จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาตกมุโรมิ ซึ่งเป็นนางเงือกได้ แถมนางเงือกนี้นิสัยแปลกๆ ชอบทำตัวบ้าบอ ไม่คิดว่าตนเป็นเงือก แถมเป็นพวกคลั่งแอลกอฮอล์อย่างหนัก หลังจากนั้น มุโรมิจะปรากฏตัวทุกครั้งที่ทาคุโร่มาตกปลา พร้อมมาสร้างสีสันชีวิตพร้อมกับปัญหาหลายๆ อย่างให้กับเขา แล้วยังพาเพื่อนๆ อีกหลายชีวิตมาร่วมป่วนด้วย
อนิเมะประมาณ 12 นาที (รวมเพลิงเปิดและปิด) ทั้งเรื่องอยู่แต่ในสถานที่ปลา ที่การตกปลาของปลาของพระเอกทาคุโร่ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ที่ทำออกมาได้ดีพอสมควร แต่ยังไม่สุดสำหรับผม เพราะอนิเมะลูกบ้าน้อยกว่ามังงะเยอะ (ผมดูมังงะในจีนแดง) ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาระหว่างมนุษย์กับเงือก ความเฮฮ่าของตัวละคร มุกตลกต่างๆ มากมาย ในมังงะจะทำได้ถึงใจกว่า ซึ่งใครดูมังงะมาก่อนจะพบว่าอนิเมะนั้นดำเนินเรื่องแตกต่างพอสมควร (สงสัยไม่อยากทำให้เนื้อหาน่าเบื่อหน่ายและไม่อยากให้เหมือนในมังงะล่ะมั้ง)
สำหรับในอนิเมะนั้นดำเนินเรื่องเหมือนรีบไปหน่อย เพราะการ์ตูนตลกจะเริ่มๆ แนะนำตัวละคร ให้ผู้ชมรู้จักตัวละครเสียก่อน แต่อนิเมะดูเหมือนไม่ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก มาถึงก็เล่นมุกกันเลย แถมพระเอกปรับตัวเร็วเกินคาด เพราะในมังงะนั้นพระเอกต้องทำหน้าเอ่อเหรอผิดหวังกับเงือกก่อน เพราะเงือกเรื่องนี้ทำลายจิตนาการของเขาสิ้นดี แต่อนิเมะตอนแรกไม่ได้เล่นมุกแนวนี้มากนัก
อย่างไรก็ตาม มุกตลกก็ถือว่าใช้ได้ แม้จะไม่สุดยอดมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นกับแกล้ม หลังจากที่ดูอนิเมะหนักๆ ได้ดี โดยเฉพาะใครที่ดูดอกนรก (Aku no Hana) เสียสายตา หรืออนิเมะที่มีเนื้อหาหนักๆ มาดูโมเอะบ้าบอเรื่องนี้ก็ถือว่าดีใช้ได้เลย
Photo Kano
Photo Kano จะว่าไปเป็นอนิเมะโรแมนติกที่ผมกังวลที่สุดในซีซั่นนี้ ว่ามันจะออกมาในรูปแบบใด จะออมาแบบแยกรูทเหมือนอาม่าฆ่าหมี (Amagami) หรือจะแบบรวมๆ เป็นฮาเร็มแบบ ToHeart2 ไปเลย
Photo Kano เป็นอนิเมะที่สร้างจากเกมจีบสาวของเครื่อง PSP แน่นอนว่าคนไทยตาดำๆ หลายคนไม่ค่อยได้เล่นเกมนี้หรอก ภาษาญี่ปุ่นยุบยับหมด ความดังของเกมนี้อาจจะเงียบๆ นิดหน่อย โดยเป็นเรื่องราวของ “มาเอดะ” ที่กำลังเห่อกล้องใหม่ที่ได้รับจากพ่อของเขาเลยถ่ายรูปไปทั่วโรงเรียนในวันเปิดภาคฤดูร้อน ตอนแรกๆ แค่ถ่ายภาพวิวธรรมดา แต่หลังๆ เริ่มถ่ายภาพสาวสวยซึ่งแต่ละคนล้วนเป็นคนดังของโรงเรียนทั้งสิ้น จนพระเอกถูกชักชวนเข้าชมรมถ่ายรูปที่ “คุโด” เป็นประธาน ที่ตั้งเป้าจะถ่ายภาพอีโรติกของสาวๆ โดยเฉพาะ และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของตากล้องหื่น (??)
Photo Kano เป็นการ์ตูนจีบสาวค่อนข้างแปลกครับ คือถูกนำไปสร้างเป็นมังงะหลายเรื่อง ซึ่งมังงะนั้นจะมี 2 แบบ คือเวอร์ชั่นหื่น และโรแมนติก กล่าวคือหากไม่โรแมนติก (แบบวิวๆ) ก็จะหื่นไปเลย แต่หื่นก็แค่ฉากเซอร์วิสที่พระเอกถ่ายรูปสาวๆ ในแต่ละรายนะ..... โดยที่น่าสังเกตคือมังงะเวอร์ชั่นหื่นและฮาเร็มนั้นพระเอกจะเลือกเขาชมรมที่คุโดเป็นประธาน หากเป็นเวอร์ชั่นวินๆ เน้นโรแมนติกพระเอกจะเลือกเข้าชมรมชมประธานสาว “คาสึมิ” ครับ
ดังนั้นในตอนแรกจุดที่ลุ้นที่สุดคือพระเอกจะเลือกเข้าชมรมอะไรระหว่างอยากได้ฮาเร็มและหื่นต้องเลือกชมรมประธานชาย แต่หากอยากได้วินๆ โรแมนติกให้เลือกประธานสาว และอย่าถามว่าผมอยากให้พระเอกเลือกชมรมของใครน่ะครับ ก็ต้องของประธานชายอยู่แล้ว!! และทันทีที่พระเอกเลือกชมรมของประธานชาย ผมตะโกนร้องเลยว่า “เยสสสสสสสสสสสสสสส”
แม้ตอนแรกยังไม่สามารถอธิบายได้มากมาย แต่ก็พอเดาว่าเรื่องนี้น่าจะเน้นเรื่องหื่นนิดๆ ผสมกับฮาเร็มนิดหน่อย แบบเวอร์ชั่นที่วาดโดยคนวาดฟรอกแมน ( Frogman )เพราะจำนวนแค่ 13 ตอน คงเล่นอะไรมาก แบ่งเป็นรูทๆ คนละ 3 ตอนจบ แบบ Amagami ก็ไม่ไหว เพราะตัวละครหลักสาวๆ ในเรื่องนี้มีถึง 8 คน (รวมน้องสาวของพระเอก) บทดราม่าก็ไม่ต้องพูดถึงเพราะเน้นมากก็ไม่ไหว เข้าวินลืมก็ไปได้เลย ทำแล้วล้มแน่นอน ดังนั้นน่าจะเป็นเนื้อหาที่พระเอกแบ่งเวลา (เทพๆ) ในการถ่ายภาพสาวๆ พร้อมกับสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน (ปักธง) ไปด้วย
แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมา ก็คือสิ่งที่ได้เห็นในตอนแรก นั้นคือการดำเนินเรื่องที่ไม่ได้ถึงใจเหมือนเช่นที่เราได้ดูรูทในมังงะหรือแม้แต่เกม เพราะว่าจะต้องแบ่งบทตัวละครให้เท่าๆ กัน ทำให้ตัดทอนเนื้อหาอย่างช่วยไม่ได้ รวมไปถึงลายเส้นไม่ค่อยประทับใจมากนัก มุมมองโฟกัสก็ไม่ค่อยดีมากเท่าที่ควร จนทำให้อนิเมะเรื่องนี้ไม่ค่อยประทับใจหลายๆ คนที่จะดูในตอนแรก แต่กระนั้นก็ก็จะดูต่อให้จบเพราะส่วนตัวชอบเรื่องนี้อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว และจะดูต่อว่าเนื้อหาโดยภาพรวมจะเป็นอย่างไร
Kakumeiki Valvrave
(เพื่อนสมัยเด็กทำผิดอะไร ทำไมต้องรังแกเพื่อนสมัยเด็ก เพื่อนสมัยเด็กควรเป็นสิ่งทะนุถนอม สมหวังความรัก ไม่ใช่ตายอย่างโหดร้ายและไม่ใช่ซ้ำรักเว้ย ตอนหน้าทำให้เธอมีชีวิตซะ)
Kakumeiki Valvrave อนิเมะหุ่นยนต์ออจินอลของ Sunrise (ซีรีส์ Mobile Suit Gundam) เขียนบทโดย Okouchi Ichiro (ผลงาน Code Geass, Guilty Crown) และออกแบบตัวละครโดยคนวาดมังงะชื่อดัง D.Gray-man) จึงไม่ต้องแปลใจที่อนิเมะมีส่วนผสมของกลิ่นอายการ์ตูนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกันดั้มซีด, Code Geass, Guilty Crown ผสมเข้าไปจนกลายเป็นเรื่องเดียวกัน
เนื้อเรื่องย่อของการ์ตูนเรื่องนี้คล้ายๆ กับกัมดั้มภาคแรก เป็นเรื่องของยุคอวกาศที่ประชากร 70% ของมนุษย์ เลือกที่จะอาศัยอยู่ในอวกาศ มีการแบ่งฝ่ายออกเป็น 2 ฝ่าย คือ Dorushia Military Pact Federation และ Atlantic Ring United States (ARUS) โดยมีประเทศที่เป็นกลาง Jiouru ที่มีความรุ่งเรืองด้านเศรษฐกิจ วันหนึ่งฝ่าย Dorushai ได้มารุกรานประเทศฝ่ายเป็นกลาง
สำหรับพระเอกเรื่องนี้มีชื่อว่าโทคิชิมะ ฮารุโตะเป็นพระเอกมัธยมปลายปีที่ 2 ธรรมดา (คล้ายๆ บักชูมงกุฎบาป) คือเป็นหนุ่มจิตใจดีงาม ไม่ชอบต่อสู้ จนทำให้ซาซานามิ โชโกะซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเด็กต้องลำบากใจเสมอ จนกระทั่งฝ่าย Dorushai ได้รุกรานโลกที่พระเอกอยู่ และได้ทำลายโรงเรียนของพระเอก และระหว่างนั้นโชโกะโดนบีมลำแสง จนพระเอกจิตหลุดและได้ขับอาวุธต้องห้าม ที่ถูกเรียกว่า “Valvrave” ออกต่อกรศัตรู
รู้สึกว่าเป็นอนิเมะที่ผู้กำกับมั่นใจน่าดูว่ามันจะต้องดัง เพราะทั้งๆ ที่ฉายตอนแรกไปตอนเดียว ก็เล่นประกาศซีซั่นสองออกมา (คือมันแบ่งเป็นครึ่งแรกกับครึ่งหลัง) โดยซีซั่นที่สองฉายเดือนตุลาคม แสดงว่าอนิเมะเรื่องนี้คนทำคาดหวังสูงมากนั้นเอง
เรื่องนี้ผมขอ อย่าให้เหมือนมงกุฎบาป อย่าจบเฟล อย่าบอดด้วน อย่าให้นางเอกตาย อย่าเกรียน อย่าดราม่าปวดตับ อย่าทำตัวละครเสียของ (โดยเฉพาะผู้หญิง)
รู้เปล่าครับความรู้สึกแรกของผมกับอนิเมะเรื่องนี้คืออะไร คำตอบคือ “นี้มงกุฎบาปมาหลอกหลอนตรูอีกแล้วเหรอว่ะ!!” แหมจะไม่ให้คิดอย่างไรล่ะ มาแบบมงกุฎบาปเลยครับ พระเอกหน้าและนิสัยเหมือนบักชู มีเพื่อนสมัยเด็กอีกคต่างหาก (ฮาเระกลับชาติมาเกิด) อยู่ในยุคไซไฟ เพียงแต่ฉากเปิดเรื่องเหมือนกัมดั้ม แต่มีกลิ่นอายของมงกุฎบาปด้วยครับ มันเหมือนอนิเมะช่วงครึ่งหลังของมงกุฎบาปอีก ที่โรงเรียนพระเอกเกิดปัญหา และพระเอกโชว์พลังเทพนั้นแหละ แถมอนิจจาเพื่อนสมัยเด็กโดนบีบลำแสงเป็นตายร้ายดีก็ไม่ทราบ (สรุปคือคนเขียนบทเกลียดเพื่อนสมัยเด็กเหรอครับ ทำไมชอบทำร้ายเพื่อนสมัยเด็กเหลือเกิน อยากให้พระเอกวายกับผมขาวเหรอครับ) นี้ผมยังฝันร้ายกับมงกุฎบาปไม่พอเหรอมาเจอแบบนี้อีก
ตอนแรกๆ ว่าจะข้ามเรื่องนี้แล้ว แต่อนิจาอนิเมะดันวางเนื้อหา จนอยากให้ผมติดตามเรื่องนี้ต่อไปซะงั้นด้วยคาถาสองอย่างคือ เพื่อนสมัยเด็กเป็นตายร้ายดีหรือเปล่า พระเอกกลายเป็นซอมบี้กัดผมขาว (ที่น่าจะเป็นพระรอง) แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นเนี้ย พระเอกจะฮาเร็มหรือไม่ ก็ติดตามตอนต่อไป
ผมขอประกาศในที่นี้ หากเพื่อนสมัยเด็กตาย ไม่มีบทอีก ผมจะเลิกดูอนิเมะเรื่องนี้ และจะไม่พูดถึงอีกเด็ดขาด
Hentai Ouji to Warawanai Neko
Hentai Ouji to Warawanai Neko เป็นหนึ่งในอนิเมะที่หลายคนคาดหวังสูง เพราะอนิเมะที่สร้างจากไลท์โนเวลผลงานของ Sagara Sou ที่เขียนตั้งแต่ปลายปี 2010 จนถึงปัจจุบัน วาดภาพประกอบโดย Kantoku มีลิขสิทธิ์ในไทยโดยสนพ.รักพิมพ์ ในชื่อองค์ชายจิตป่วนกับน้องเหมียวยิ้มยาก เพราะไลท์โนเวลและมังงะมีคนอ่านแล้วชอบพอสมควรจึงคาดหวังอนิเมะเป็นพิเศษไปด้วย
โดยเนื้อหาเป็นเรื่องของโยโคเดระ โยโตะนักเรียนมัธยมนักเรียนชั้นมัธยมปลายปีที่ 2 ผู้ชอบเรื่องลามก แต่กลับถูกเข้าใจผิดไปด้านที่ดีเสมอจนเขารู้สึกผิด เขาอยากแสดงความรู้สึกที่แท้จริงให้คนอื่นได้เห็น จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้ยินข่าวลือว่าที่เนินเขาใกล้โรงเรียนมีรูปปั้นแมวไม่ยิ้มที่ว่ากันว่าใครมาขอพรรูปปั้นนี้จะทำให้คนสมปรารถนา เขาจึงไปขอพรในตอนค่ำและที่นั้นเขาก็พบ ซึซึคาคุชิ สึคิโกะที่ต้องการขอพรเช่นกัน โดยเธออยากให้ตัวเองดูเป็นผู้ใหญ่กว่านี้และไม่แสดงอารมณ์แบบเด็กๆ มากเกินไป แต่กลายเป็นว่าการขอพรนั้นทำให้เกิดปัญหาสำหรับทั้งคู่ในเวลาต่อมา โดยโยโตะหลุดปากพูดในสิ่งที่คิดเอาไว้ออกมาตลอด และสึคิโกะไม่สามารถแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้าหรือน้ำเสียงได้อีก ทำให้ทั้งสองคนมีความคิดอยากกลับเป็นเหมือนเดิม ทั้งสองจึงร่วมมือกันเพื่อหาคนที่ได้รับนิสัยของทั้งสองไปเพื่อส่งกลับคืนมา
Hentai Ouji to Warawanai Neko เป็นอนิเมะที่ก่ำกึ่งชอบกับไม่ชอบ กำลังลังเลต่อว่าจะชอบดีหรือไม่ โอคเอนิเมะเรื่องนี้ตอบสนองต่อคนชอบไลท์โนเวลและมังงะ (ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่อ่านมาก่อนแล้ว) แน่นอนเพราะอนิเมะทำได้ตรงต้นฉบับ แบบไม่รู้สึกขาดหรือเกินเลยอีกทั้งมุมกลองก็ทำได้ฉลาดดี แม้เรื่องนี้ไม่เห็นกางเกงในของสาวๆ มุมกล้องที่ชอบโพสกระโปรงพลิ้วไหวไปตามสายลม ฉากโชว์สะดือเห็นรูปร่างของสาวๆ ตัวละครก็น่ารักดี น้องแมวน่ารัก ผมเหลือก็ซึนก็ทำได้ดีในระดับหนึ่งจนผมเกือบของขึ้นหลายรอบเหมือนกัน
ที่จริงผมมีไลท์โนเวลเรื่องนี้แล้ว แต่ไม่อ่านไม่จบ ส่วนสาเหตุที่ไม่จบ ก็อธิบายยากเหมือนกัน ถ้าอธิบายแบบง่ายๆ คือเนื้อหาในนิยายไม่ได้ดำเนินพระเอกมีความคิดที่จะรูทฮาเร็ม หรือเนื้อหาล็อกนางเอก (นางเหมียวยิ้มยาก) อยู่แล้ว หากนิยายทำให้ผมสบายใจว่าเรื่องนี้จะรูทฮาเร็มล่ะก็คงอ่านต่อแน่นอน ซึ่งโดยส่วนตัวผมก็ค่อนข้างหลีกเลี่ยงไลท์โนเวลที่ดำเนินเรื่องแนวนี้เป็นพิเศษ เพราะจะได้ไม่เจ็บในตอนหลัง (ซึ่งหลายเรื่องที่ผมหลีกเลี่ยงก็เป็นอย่างที่ผมคิดเสียด้วย)
แต่เรื่องนี้ผมมีความคิดที่ติดตามต่อ พอดีเห็นฉากเพลงเปิด เนื้อหาไม่น่าจะล็อกนางเอกอย่างที่ผมคิดเอาไว้ตอนแรก ขอดูสักหน่อยว่าเนื้อหาหลังจบไลทโนเวลเล่มที่ 1 จะเป็นเช่นไรต่อไป
ถ้าถามว่าจุดเด่นเรื่องนี้คืออะไร ก็ตอบว่าเป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่เขาพยายามทำอะไรสักอย่างเพื่อผู้หญิงที่กำลังมีปัญหาที่เกิดความทุกข์ (ไม่ว่าจะเป็นน้องแมวหรือผมทอง) ความรักสามเศร้าที่แสนจะซาบซ่าหัวใจ นอกจากนี้ยังสอดแทรกในเรื่องจิตวิทยาของวัยรุ่นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะประเด็นของผมทองที่เก็บอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงของคนบางคนเพื่อที่ต้องการให้สังคมหันมาสนใจ สิ่งเหล่านี้คือจุดเด่นของเรื่องนี้ที่ต้องดูต่อไปว่าจะออกมาในรูปแบบใด
ภาพรวมของอนิเมะในซีซั่นนี้พูดตรงตรงว่ามีหลายเรื่องสร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก อารมณ์ด้านลบกลบอนิเมะดีๆ ไปเสียหมด และซีซั่นนี้ผมก็ไม่มีอนิเมะดีในดวงใจเหมือนซีซั่นแรกสักเรื่อง (แต่ถ้าตัวละครประทับใจก็มีอย่าง คูโกะ กับคาน่อน) ไม่ใช่ว่าไม่มีอนิเมะดีๆเพียงแต่ไม่มีอนิเมะฮาเร็มสมบูรณ์แบบที่สามารถดูหลายรอบไม่มีเบื่อสนองความต้องการของผมต่างหาก
ละครน่าอวยประจำซีซั่น ที่ผมชอบดันเป็นตัวละครม้ามืด ที่เหมือนไม่บท ฮิกกี้ผมแดงม่วง ชอบตรงประโยค "พี่จ๋า" (ส่วนพี่ก็ห่วงน้องสาวเหลือเกิน) และการระเบิดอารมณ์โมโหทุบคีย์บอร์ดดุจเด็กเยอรมันโมโหโกธาในยูทูป น้ำเสียงแสดงถึงความเคียดแค้น เกลียดชัง เก็บกด แหบๆ พอๆ กับสาวทวินเทลโรบอตติก แต่กระนั้นก็เป็นตัวละครที่เกลียดไม่ลง เห็นแล้วอยากเป็นเพื่อนด้วย น่าสงสาร อยากปกป้อง อีกทั้งแรงขับของเธอที่ทำให้หมดสิ้นความเป็นมนุษย์ไม่ใช่เพราะคนที่รักตายแล้วเครียดแค้น แต่เป็นการปกป้องเพื่อนคนแรกของเธอ แถมสกิลหุ่นของเธอเทพมากที่สามารถทำให้เครื่องจักรทุกชนิดปั่นป่วนได้เพียงแค่เคาะเท่านั้น ดีไม่ดีบทของเธอซีซั่นหน้าจะกลายเป็นสิ่งที่หลายคนไม่คิดได้ (เพราะเธอขึ้นตรงกับโชโกะ หากโชโกะเป็นสิ่งที่ผมคิดเอาไว้ละก็....)
คนอื่นๆ ที่ชอบ น้องหมา (Hentai Ouji to Warawanai Neko) , คาน่อน (Photo Kano, คูโกะ และเยติ (ไม่มีนางเอกสักคน)
สรุปอนิเมะท้ายซีซั่น
http://www.dek-d.com/board/view/3010779
ความคิดเห็น