ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #233 : Vividred Operation แม่มดแดง มิตรภาพ และกู้โลก

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 56


    Vividred Operation พูดตามตรงว่านี้คือเรื่องที่ 3 ที่ผมตั้งหน้าตั้งตารอคอยในซีซั่น Anime Winter 2012/2013 เมื่อเห็นภาพตัวละครหญิงกับชุดกางเกงขาสั้น ใน PV แรกที่เผยแพร่ ผมได้เห็นภาพดวงอาทิตย์ขึ้นในกรอบหว่างขาเป้าของเด็กสาวคนหนึ่งที่นุ่งกางเกงขาสั้น เรียกว่านั้นทำให้ผมรู้สึกสยิวกิ๊ว หัวใจพองโต และทำให้ของขึ้นอย่างบอกไม่ถูก และเมื่อดูเรื่องนี้จนจบผมก็ไม่ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย

     

     

    Vividred Operation

     

    Vividred Operation เป็นการ์ตูนอนิเมะโมเอะ, แอ็คชั่น ออจินอล ของ บริษัท  A-1 Pictures กำกับโดย Takamura Kazuhiro (ผลงานในอดีต Strike Witches) ซึ่งฉายระหว่างวันที่ 11 มกราคม 2013 - 29 มีนาคม 2013 มีทั้งหมด 12 ตอนจบ

    Vividred Operation เป็นเรื่องราวของโลกในอุดมคติ โลกหนึ่ง ที่ทีแต่ความสงบสุขและวิทยาศาสตร์สามารถแก้ไขปัญหาได้เกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะความปรารถนาของทุกคนในเรื่องพลังงาน

    อนิเมะเปิดเรื่องด้วยความอบอุ่นในชีวิตประจำวันของตัวเอกคนหนึ่ง คือ อิชิกิ อากาเนะ เด็กหญิงอายุ 14 ปี ผู้บริสุทธิ์และไร้เดียวสาที่อาศัยอยู่กับน้องสาว โมโมะ และปู่ของเธอที่เป็นนักประดิษฐ์อัจฉริยะ (แม้ว่าจะชอบสร้างสิ่งไร้สาระบ่อยครั้งก็ตาม)

    อากาเนะอาศัยอยู่ในเกาะเทียม บลู ไอซ์แลนด์เป็นเกาะที่สงบสุข ผู้คนเป็นมิตร และเช่นทุกวัน วันไหนอากาศดีอากาเนะจะตื่นเช้าเพื่อส่งหนังสือพิมพ์

    ที่ใจกลางเกาะแห่งนี้ มีสิ่งประดิษฐ์หนึ่งที่มีความสำคัญต่อโลก นั่นคือ Manifestation ที่ทำให้โลกผ่านพ้นปัญหาวิกฤตด้านพลังงานที่ขาดแคลนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาได้ปัจจุบัน ทำให้โลกใบนี้สงบสุขและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

    และเครื่อง Manifestation ที่ว่าเป็นฝีมือของปู่ของเธอ แต่อนิจจาเพราะเหตุการณ์อะไรบางอย่าง ทำให้ปู่ของเธอไปขัดแย้งคนใหญ่คนโตเข้า ทำให้กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก็บตัววิจัยอยู่คนเดียวในบ้าน ทำให้เธอกลายเป็นเสาหลักหาเงินมาช่วยใช้จ่ายครอบครัวแทน

    อย่างไรก็ตาม มันก็ได้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้น เมื่อโลกของอากาเนะได้ตกอยู่อันตราย เมื่อจู่ๆ ก็มีศัตรูลึกลับที่เรียกว่า “Alone” โดยมีเป้าหมายคือการทำลายเครื่องยนต์  Manifestation ท่ามกลางสถานการณ์ที่ล่อแหลมและหายนะ เมื่ออาวุธของมนุษย์ที่ทั้งหมดไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย

    และระหว่างนี้เองอากาเนะก็ได้รับมอบหมายหน้าที่จากคุณปู่ เมื่อเธอได้รับกุญแจพิเศษที่ทำให้เธอสามารถสวมชุดสูทที่พัฒนาขึ้น เพื่อต่อสู้กับเหล่าผู้รุกรานด้วยพลังวิเศษ

    Vividred Operation  เป็นผลงานกำกับโดย Kazuhiro Takamura ผู้สร้างและออกแบบตัวละคร Strike Witches หรือหลายคนรู้จักชื่อไทยว่า “กางเกงในบินได้” จึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่คุณเห็นเนื้อเรื่องของการ์ตูนเรื่องนี้คล้ายกับกางเกงในบินได้ นอกจากเนื้อหายังเหมือนแล้วบางฉากก็เหมือน เช่นฉากที่นางเอกขึ้นต้นไม้และโฟกัสเห็นเห็นก้นน้อยๆ ของเธอให้ชวนสยิวกิ๊ว

     

     

    ฉากเปิดเรื่องที่ประทับใจใครหลายคน (??)

     

    หากมองด้วยตาเปล่าดูเหมือนว่า Vividred Operation  จะได้รับความประสบความสำเร็จพอสมควร ดูจากยอดเรตติ้งการเปิดตัวติดอันดับต้นๆ ยอดจองบลูเรย์ดีพอสมควร อนิเมะปี 2013 ช่วงฤดูหนาว และมีการทำเป็นมังงะ (คนวาด Keito Koume ) และเกม (Vividred Operation: Hyper Intimate Power ของ PS3) ตามมา

    ถ้าถามว่า Vividred Operation  ประสบความสำเร็จได้อย่างไร? เพราะเนื้อเรื่องที่เข้มข้น น่าติดตามเหรอ? คำตอบก็คือไม่ เพราะ Vividred Operation   หาเปรียบเทียบเนื้อหา ตัวละคร และมุกต่างๆ แทบไม่แตกต่างไปจากการ์ตูนแนวหุ่นยนตร์ผู้กล้า หรือสาวน้อยเวทมนตร์ที่มาตั้งแต่ก่อนสักเท่าไหร่ ตั้งแต่ต้นจนจบ

    ยกตัวอย่างง่ายๆ Strike Witches, Senki Zesshou Symphogear  และ Sky Girls ซึ่งเป็นผลงานก่อนหน้า เนื้อหาโดยรวมจะคล้ายๆ กัน โดยกล่าวถึงโลกอนาคตที่ถูกรุกรานตัวสิ่งมีชีวิตที่ไม่ทราบที่มาที่ไป ตัวขนาดใหญ่ยักษ์ มีลำแสงทำลาย บาเรียป้องกันสูงสุด ทน ถึก สามารถป้องกันและทำลายอาวุธรถถัง ปืนใหญ่ของโลกได้อย่างสบาย

    อย่างไรก็ตาม เจ้าสิ่งมีชีวิตนั้นแม้จะเก่งกาจเพียงใด (ถึงขั้นสามารถทำลายกองทัพทหารได้อย่างง่ายดายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก) แต่มันกลับพ่ายแพ้ในสิ่งที่มันไม่ควรแพ้ นั้นคือกลุ่มเด็กสาวตัวเล็กๆ ที่ไม่บรรลุนิติภาวะ แสนจะน่ารักน่าทะนุถนอม จนไม่น่าเชื่อว่าพวกเธอจะมีความกล้าหาญไม่แพ้ผู้ชาย ไม่น่าจะแบกรับความคาดหวังต่อคนทั่วโลก และไม่น่าจะจับอาวุธต่อสู้กับผู้รุกรานขนาดยักษ์ด้วยซ้ำ แต่พวกเธอสามารถกำจัดเจ้าสิ่งมีชีวิตได้สำเร็จด้วยอาวุธประจำตัวของพวกเธอ (พลังเวทมนต์หรือไม่ก็พลังงานไซไฟอะไรสักอย่าง) 

    ชะตากรรมของโลกนั้นขึ้นอยู่กลุ่มผู้หญิงแทนที่จะเป็นผู้ชายอกสามศอก.....

    นี่คือพล็อตง่ายๆ ของสาวน้อยเวทมนต์นักรบไซไฟ ซุปเปอร์ฮีโร่ และสาวน้อยจักรกล (สุดแล้วแต่จะเห็นกันมา)

    จุดเด่นของสาวน้อยเวทมนต์ อารมณ์จะคล้ายๆ หนังขบวนการเซนไต (ขบวนการ 5 สี) ที่กำหนดกลุ่มตัวละครหลักสาวๆ ในเรื่องจะมีนิสัยชัดเจน กล่าวคือตัวเอกที่เป็นผู้นำจะมีนิสัยร่าเริง กล้าหาญ จริงใจรักเพื่อน, สาวตัวรองก็มีนิสัยเรียบร้อย เป็นเพื่อนสนิทกับตัวเอก เข้ากันได้ดีกับทุกคนในกลุ่ม, สาวคนที่ 3 นิสัยใจร้อน เข้มแข็ง เก่งเรื่องพลังกาย และสาวคนที่ 4 ฉลาด นอกจากนี้ยังมีสาวลาสบอสที่มีนิสัยลึกลับที่ตอนแรกเป็นศัตรูกับกลุ่มตัวเอกแต่ตอนหลังกลับใจกลายเป็นเพื่อนกับตัวเอกและช่วยเป็นกำลังในการต่อสู้ร่วมกันในที่สุด

    และกลุ่มสาวๆ เหล่านั้นจะมีสีประจำตัวชัดเจนตามนิสัย แบบขบวนการเซนไต เช่น ผู้นำสีแดงร้อนแรง และตัวละครลับสีม่วงคือดูลึกลับนั้นเอง (บางเรื่องก็ไม่ได้ใช้สีกำหนด เช่น Strike Witches จะเน้นการออกแบบที่มีจุดเด่นแทน)

     

     

    อากาเนะกับเหล่าเพื่อนๆ

     

    นอกจากนั้นการต่อสู้ในอนิเมะเรื่องนี้ก็คล้ายๆ กับอนิเมะสาวน้อยเวทมนต์ (แนวฮีโร่กู้โลก) เมื่อตัวเอกได้รับภารกิจปกป้องโลกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วตอบรับอย่างง่ายดาย โดยไม่มีลังเลแม้แต่น้อย (ทั้งๆ ที่ต้องเสี่ยงชีวิตตนเองเพื่อตู้สู้กับสิ่งที่มนุษย์สู้ไม่ได้)

    โดยสิ่งที่อากาเนะได้รับจากปู่เพื่อต่อกรกับเอเลี่ยนก็คือ ระบบ “Vivid System” (รูปของกุญแจคีย์) เมื่อเวลาใช้ระบบนี้จะทำให้เธอสวมชุด “The Palette Suit” ซึ่งรูปร่างคล้ายสาวน้อยเวทมนต์เพียงแต่ผู้สวมจะทำให้มีพลังกำลังมหาศาล บินได้ ถึกขึ้น และมีลูกเล่นพลังแล้วแต่ละคน (เช่นเน้นโจมตี หรือป้องกัน)  อีกทั้งอากาเนะสามารถทำสำเนาคีย์ระบบให้แก่คนอื่นๆ ได้ แถมพลังของชุดสำเนายังเทียบเท่าเจ้าของเดิม   และหากต้องการเผด็จศึกอากาเนะจะทำการ “Docking” คือการผสานจิตสำนึกของอากาเนะเจ้าของคีย์กับสาวคนอื่นเข้าไปในร้างเดียวกัน ทำให้มีพลังมากยิ่งขึ้น และส่วนมากสามารถกำจัดบดขยี้ศัตรูเพียงแค่การโจมตีครั้งเดียว

    พูดง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากแปลงร่าง ต่อสู้ รวมพลัง ใช้ท่าไม้ตายสุดยอด ศัตรูก็ออกมาทีละตัว และตอนสุดท้ายก็บอสใหญ่อลังการงานสร้าง ทั้งหมดคือสูตรสำเร็จสาวน้อยเวทมนต์ทั้งสิ้น

    เรียกได้ว่า ใครที่ดูแนวหุ่นยนต์ผู้กล้า สาวน้อยเวทมนต์ สาวน้อยซุปเปอร์ฮีโร่มาหลายเรื่องมาก่อนหน้านี้แล้ว นับลองเดาตอนจบได้อย่างแน่นอน เพราะวางตามสูตรเป๊ะ ไม่มีความซับซ้อน ไม่มีดราม่าปวดตับ ไม่มีเนื้อหาหักมุม ไม่มีอะไรแปลกใหม่ทั้งสิ้น

                    อย่างไรก็ตาม อนิเมะเรื่องนี้ กลายเป็นอนิเมะที่ผมชอบอีกเรื่องหนึ่งในซีซั่นเรื่องนี้ ผมรู้สึกสนุกสนาน เพลิดเพลิน หัวใจพองโต รู้สึกอมยิ้ม ความรู้สึกด้านบวกมากมาย ตั้งแต่ต้นจนจบ

                    และแน่นอนไม่ใช่ผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้สึกดีๆ กับอนิเมะเรื่อง

                    แล้ว Vividred Operation  ประสบความสำเร็จตรงไหน หากตอบแบบง่ายๆ ก็คือ Vividred Operation  เป็นการ์ตูนที่ไม่หักหลังคนดู ที่คาดหวังจะดูสาวน้อยเวทมนตร์และเซอร์วิส แม้ไม่ถึงขั้นเป็นตำนานแต่ก็เพียงพอที่จะประสบความสำเร็จ ในขณะที่อนิเมะบางเรื่องหวังจะประสบความสำเร็จแต่ก็ล้มเหลว

     

     

    บลูมเมอร์สุดยอด!!
     

               ตั้งแต่อนิเมะเผยภาพตัวอย่างมาก เห็นได้ชัดเลยว่า อนิเมะเรื่องนี้ก็สามารถเจาะกลุ่มผู้ชอบสาวน้อยเวทมนต์โมเอะโดยเฉพาะได้แล้ว

               ปกติคนๆ ที่ชอบแนวสาวน้อยเวทมนต์ในอดีตจะเป็นกลุ่มเด็กผู้หญิงมากกว่า แต่กระนั้นก็มีกลุ่มชายอายุมากๆ รวมอยู่ด้วย แน่นอนว่าหากน่ารักโลกสวยเกินแบบสาวน้อยเวทมนต์สมัยก่อนมากไปก็คงน่าอายตัวเอง หรือคนรอบข้างเหมือนกัน ดังนั้นทำให้มีการทำสาวน้อยเวทมนต์อีกแนวหนึ่งขึ้นมา นั้นคือสาวน้อยเวทมนต์แนวฮีโร่ปราบอธรรม ที่มีเน้นเรื่องไซไฟ ยานรบ ฉากแอ็คชั่น ปล่อยพลังมากขึ้น เพื่อเอาใจผู้ชาย (ที่สูงอายุหน่อยๆ และหลงใหลความโมเอะไปด้วย) จนได้ผลตอบรับสูง จนกลายเป็นสูตรอีกแบบหนึ่งไป

                ที่น่าสนใจคนที่ดุสาวน้อยเวทมนต์แนวฮีโร่แบบนี้ เนื้อหาโดยภาพรวมไม่ได้แหวกมากนัก (นานๆ ครั้งก็มีแนวดราม่าเข้มข้นเหมือนกัน) และเหล่าคนดูก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากสักเท่าไหร่ เพราะแนวแบบนี้ส่วนใหญ่มักเน้นที่ตัวละคร อยากดูสาวน้อยโมเอะที่แต่ละกลุ่มมีสมาชิกหลายแบบ หลายสไตล์ ชอบแบบไหนก็อวยได้เต็มที่

                    และนอกจากนี้ สิ่งที่เน้นสาวน้อยเวทมนต์แนวฮีโร่ก็คือการเห็นฉากเซอร์วิส (สมัยก่อนก็มีฉากแปรงร่างสาวน้อยเวทมนต์) หรือฉากความงดงามมิตรภาพของสาวน้อยชวนจิ้นอีกมากมาย หากทำน่ารัก โดดเด่นมากเท่าไหร่ ยิ่งดัง นี่คือมนต์ขลังสาวน้อยเวทมนต์โมเอะที่ทำเมื่อไหร่ก็ตอบรับดีเมื่อนั้น

                    Vividred Operation คืออนิเมะอย่างที่บอกว่า คือสร้างเพื่อสนองต่อความต้องการคนชอบสาวน้อยเวทมนต์ฮีโร่ปราบอธรรม และสามารถตอบโจทย์สิ่งที่พวกเขาอยากจะเห็นได้ดีเสียด้วย ต้องการอะไรก็จัดให้ อยากเห็นฉากเซอร์วิสใช่ไหม นี้เลยเกือบทั้งเรื่องตัวละครใส่ชุดแสนโมเอะน่ารัก ไม่ว่าจะเป็ร ชุดบลูมเมอร์สีแดงสดใสของอากาเนะ ชุดว่ายน้ำแสนน่ารัก และโดดเด่นที่สุดชุดนักเรียนหญิงที่เป็นกางเกงขาสั้นจนเห็นแก้มก้นแบบแน่นเปรี๊ยะ พร้อมมุมกล้องที่ไม่ธรรมดา เพราะชอบซูมไปบริเวณแก้มก้นของสาวน้อยยังไม่บรรลุนิติภาวะได้ถึงอกถึงใจ แถมแอบมีศิลปะนิดๆ อีกต่างหาก

    (และสิ่งที่ผมฮ่าที่สุดคือ โรงเรียนที่อากาเนะเรียน ไม่ใช่โรงเรียนหญิงล้วน แต่เป็นโรงเรียนสห แบบนี้นักเรียนชายทั้งหลายแหละไม่หัวใจวายไปหลายคนเหรอ ที่เห็นสาวๆ ในห้องที่แสนน่ารักแต่งตัวแบบนี้เนี้ย)

                    นอกจากนั้นยังมีมุมมองเซอร์วิสอีกมากมาย ที่ขาดไม่ได้คือฉากแปลงร่างที่เราได้เห็นร่างเกือบเปลืองของสาวน้อย ฉากความงดงามมิตรภาพระหว่างสาวน้อยชวนจิ้นระหว่างทำการด็อกกิ้ง

                    ฉากแอ็คชั่นต่อสู้ ก็แสนอลังการ อาวุธมากมายก็จัดให้เต็มที่ ความรู้สึกของเด็กสาวที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ กุมชะตากรรมของโลกก็ทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วมไม่น้อย

                    สำหรับการดำเนินเนื้อเรื่อง เรื่องนี้ดำเนินพล็อตง่ายๆ คงว่า ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่มีอะไรแหวก ตามสูตร บางอย่างก็แอบไม่มีความสมเหตุสมผล แต่นั้นได้กลายเป็นจุดแข็งเรื่องนี้แทน แม้จะสูตรสำเร็จแต่ทำได้น่าติดตาม เพราะมันนำไปสู่สิ่งต่างๆ ที่พวกเขาอยากจะเห็นมากกว่า (ฉากเซอร์วิส, ด็อกกิ้ง, มิตรภาพ และการต่อสู้แอ็คชั่น) นี่แหละคืออนิเมะจับกระแสตลาดอย่างแท้จริง และสามารถทำได้ตามเป้าหมายของมัน

     

    อากาเนะกับน้องสาว

     

    ที่น่าสังเกตแม้ว่าเนื้อหา Vividred Operation จะเกี่ยวข้องกับการมอบหน้าที่อันยิ่งใหญ่แก่เด็กสาวที่ไม่บรรลุนิติภาวะในการปกป้องโลก หรือการใช้พลังงานยิ่งใหญ่ของมนุษย์ที่ส่งผลต่อธรรมชาตื (จนพวกต่างมิติทนไม่ไหวเลยมารุกราน??) แต่เรื่องราวไม่ได้เน้นเรื่องเหล่านี้มากนัก ไม่ได้เน้นให้มนุษย์ตระหนักถึงธรรมชาติ ไม่ได้เน้นวันหนึ่งเทคโนโลยีที่มนุษย์สร้างขึ้นจะ หรือเรื่องราวสำคัญต่อแก่โลกของเราแต่อย่างใด แต่เนื้อหาการ์ตูนกับเน้นเรื่องแคบๆ ใกล้ๆ ตัว คือการให้ความสำคัญกับครอบครัวและเพื่อนสนิทเสียมากกว่า ตามประสาการ์ตูนสาวน้อยเวทมนต์สมัยก่อน

    อิชิกิ อากาเนะนั้นมีนิสัยตามแบบฉบับสาวน้อยเวทมนต์ในด้านดีๆ ทุกประการ คือเป็นคนร่าเริง มองโลกในแง่ดีตลอด มีพลังที่ทำให้คนรอบๆ ข้างรู้สึกรักและเอ็นดูเธอไปด้วย อากานะต้องตื่นเช้าเพื่อไปส่งหนังสือพิมพ์เพราะสภาพการเงินของครอบครัวไม่ดี เมื่อถึงเวลาว่างๆ เธอกับน้องสาวของเธอก็ไปเยี่ยมแม่ของเธอที่โรงพยาบาล แม้ชีวิตจะค่อนข้างลำบากแต่อากาเนะก็ไม่เคยบ่น ไม่เคยงอน ให้ความสำคัญแก่ครอบครัวตลอด เรียกได้ว่าอากาเนะนั้นเป็นเด็กดีตั้งแต่ต้นจนจบเลยทีเดียว (ตอนจบเลยตอบแทนด้วยการให้แม่ของอากาเนะหายดีและกลับบ้านในที่สุด)

    นอกเหนือจากร่าเริงและมีพละกำลังมากแล้ว จุดเด่นของอากาเนะที่การ์ตูนอนิเมะต้องการจะเน้นคือมีความซื่อสัตย์ และรักเพื่อนมาก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทหรือรู้จักกันครั้งแรก อากาเนะจะเข้าหาเพื่อตีสนิท ไม่เคยทำให้เพื่อนเสียใจ  เชื่อใจเพื่อน ให้ความสำคัญกับเพื่อน มากกว่าตัวเองเสียอีก

    การดำเนินเรื่องนอกเหนือการต่อสู้แล้ว ส่วนใหญ่จะเน้นมิตรภาพของอากาเนะกับเพื่อนๆ หลังจากที่อากาเนะได้รับหน้าที่อันยิ่งใหญ่จากปู่ ตอนต่อมาเธอก็เริ่มมีพรรคพวกมาเป็นสาวน้อยเวทมนต์ (ขอเรียกแบบนี้น่ะครับ ง่ายดี) ไล่ตั้งแต่ ฟุตาบะ อาโออิ สาวเรียบร้อยเพื่อนสนิทอากาเนะ, “ซาเอะกุสะ วากาเบะ หัวหน้าชั้นและกัปตันเคนโด้ที่เกลียดความพ่ายแพ้, ชิโนมิยะ ฮิมาริ สาวน้อยนักแฮ็คเกอร์ ซึ่งทั้งหมดได้เป็นเพื่อนกับอากาเนะและเป็นนักสาวเวทมนต์ตามความตั้งใจของตนเอง

    เกือบทั้งเรื่อง การ์ตูนจะเน้นเรื่องความรักเพื่อนของอากาเนะมากกว่าเรื่องรักษ์โลกเสียอีก เห็นได้ชัดจากตอนแรกที่ อากาเนะช่วยเหลือเพื่อนสนิท ฟุตาบะ อาโออิ แทนที่จะปฏิบติหน้าที่ของเธอในการกำจัดศัตรูที่อยู่ตรงหน้าเสียก่อน หรือเหตุการณ์ที่อากาเนะช่วยเหลือ คุโรกิ เรย์ ทั้งๆ ที่เรย์เป็นศัตรูของโลก แต่อากาเนะให้ความสำคัญในเรื่องความเชื่อใจของเพื่อนมากกว่าชะตากรรมของโลก สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจแต่ละเรื่องของอากาเนะจะเน้นเรื่องเพื่อนเป็นหลัก แม้ว่าตนจะมีหน้าที่ปกป้องโลกก็ตาม

    หลังดูการ์ตูนอนิเมะเรื่องนี้จบ ผมมาตั้งคำถามเล่นๆ ว่าผู้หญิงนั้นให้ความสำคัญกับเพื่อนขนาดนี้เลยเหรอ คำตอบคือใช่ พวกผู้หญิงนั้นจะให้ความสำคัญกับเพื่อนเสมอ มากกว่าผู้ชายที่ไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับเพื่อนมากนัก จนบางครั้งก็มีคำพูดติดปากว่า บางคนจะเป็นจะตายก็เพราะเพื่อนนี่แหละเป็นผู้ชี้ขาด ไม่ใช่พ่อแม่พี่น้อง ผู้ใหญ่ หากเพื่อนดีก็ดีไป หากเพื่อนไม่ดีนี้ล่มจมแน่นอน

                    เกือบทั้งเรื่อง Vividred Operation เนื้อหาจะเน้นเรื่องมิตรภาพตามแบบฉบับสาวน้อยเวทมนต์ (ผสมกับความเป็นยูริอ่อนๆ แบบหวานๆ เข้าไปหน่อย)  แม้เรื่องการต่อสู้กับศัตรูตัวยักษ์ก็สอดแทรกเรื่องมิตรภาพของเพื่อนเข้าไป  

    ศัตรู “Alone” ตัวใหญ่ยักษ์ที่ไม่มีใครสามารถทำลายได้นั้น หากเปรียบเทียบอะไรบางอย่าง มันก็อุปสรรค์ ตัวปิดกั้นจิตใจของเด็กสาวที่ไม่สามารถเปิดใจให้แก่ใครได้ ซึ่งเด็กสาวที่เป็นเพื่อนกับอากาเนะ (รวมไปถึงอากาเนะเอง) ก็มีสิ่งปิดกั้นแตกต่างกัน แม้สำหรับคนอื่นๆ จะมองเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆ สำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับเธอแล้วมันช่างยิ่งใหญ่เสียจริง

                    การต่อสู้กับ “Alone” อากาเนะนั้นจะต้องรวมร่างกับเพื่อนเพื่อปล่อยท่าไม้ตายสุดยอด ซึ่งการร่วมร่างนั้นจิตใจจะต้องเป็นหนึ่งเดียว (ต้องเปิดใจกันและกัน) เสียก่อน ดังนั้นหากมีเรื่องปิดกั้นจิตใจไม่สามารถทำการด็องกิ้งได้ และนั้นเองที่อากาเนะจะต้องทำลายจิตใจที่ปิดกั้นของเพื่อนของเธอเสียก่อนเพื่อจะทำการด็อกกี้ จนกลายเป็นจุดสุดยอดในแต่ละตอนของอนิเมะเรื่องนี้

     

     

    ฟุตาบะ อาโออิ

     

                    ฟุตาบะ อาโออิเพื่อนสนิทของอากาเนะตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยมต้น นิสัยเรียบร้อย อ่อนหวาน แม้จะร่ำรวยแต่ร่างกายอ่อนแอ ทำให้เธอไม่มีเพื่อนมากนัก จนกระทั่งมาพบกับอากาเนะจนได้เป็นเพื่อนคนแรก และต่อมาเธอก็เป็นสาวน้อยเวทมนต์ (ขอเรียกแบบนี้น่ะครับสะดวกดี) คนที่สองต่อจากอากาเนะ แต่ไม่สามารถทำการด็อกกิ้งกับอากาเนะได้ในช่วงแรกเพราะจิตใจของเธอปิดกั้นอยู่ การปิดกั้นของเธอก็คือการโกหกความรู้สึกของตนเอง ในเรื่องเกลียดมะเขือเทศที่อากาเนะนำมาให้ (อากาเนะชอบมะเขือเทศมาก) แต่หากเธอพูดออกไปจะกระทบกระเทือนทำให้เธอเสียเพื่อนคนแรกของเธอไป ทำให้เธอโกหกเรื่องชอบมะเขือเทศเรื่อยมา

    และเมื่ออาโออิสารภาพเรื่องนี้กับอากาเนะ อากาเนะก็ไม่ได้โกรธ ซ้ำยังพูดต่ออีกว่าตนก็เป็นโรคกลัวความสูงเหมือนกัน และนั้นทำให้ทั้งสองทำการด็องกิ้งรวมร่างจนได้

    เห็นได้ชัดเลยว่า แม้ Vividred Operation จะมีเนื้อหายิ่งใหญ่ชะตากรรมระดับโลกเพียงใด แต่เรื่องมิตรภาพของเพื่อนสำคัญกว่า แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ ขี้ปะติ๋ว แต่มันกลายเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง ในเรื่องของอาโออินั้นก็เป็นการสอนว่าการเป็นเพื่อนไม่จำเป็นต้องมีความลับต่อกัน โดยเฉพาะสิ่งที่ตนชอบหรือไม่ชอบ หากไม่ชอบก็ควรที่จะพูดตรงๆ เพราะเพื่อนเองก็ยอมรับสิ่งที่เพื่อนไม่ชอบด้วย ต่อให้สิ่งนั้นตนจะชอบก็ตาม

     

     

    ซาเอะกุสะ วากาเบะ

     

                    สูตรสำเร็จการ์ตูนกลุ่มสาวน้อยเวทมนต์ คาแร็คเตอร์ที่คาดไม่ได้ในกลุ่มก็คือสาวน้อยที่ออกแนวทอมบอย เหมือนเด็กผู้ชายนิดๆ ที่มีนิสัยกล้าหาญ เป็นที่พึ่งของกลุ่ม ซึ่งคาแร็คเตอร์นี้มีความน่ารักในอีกแบบหนึ่ง และอนิเมะเรื่องนี้ก็มีตัวละครดังกล่าวก็คือ  ซาเอะกุสะ วากาเบะสาวน้อยกัปตันทีมชมรมเคนโด้ ที่มีฝีมือเก่งกาจและเกลียดความพ่ายแพ้ ซึ่งอุปสรรค์จิตใจของเธอก็คือการไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ การโหยหาพลังและความแข็งแกร่ง (ออกแนวการ์ตูนลูกชาย) จนกระทั่งลูกจักกับอากาเนะ เธอก็รู้ว่าพลังนั้นมีไว้ปกป้องคนที่รัก (เพื่อน) ไม่ใช้เพื่อตนเองหรือชื่อเสียงของใคร และเธอก็ทำการด็องกิ้งกับอากาเนะในฐานะเพื่อนในที่สุด

     

     

    ชิโนมิยะ ฮิมาริ 

     

                    ในบทตัวละคร ชิโนมิยะ ฮิมาริ และ คุโรกิ เรย์ ค่อนข้างจะคล้ายๆ กัน นั้นคือทั้งสองทำตัวโดดเดี่ยวและไม่มีเพื่อน ฮิมารินั้นมีแผลใจอดีตที่เพื่อนผิดสัญญาจากลายเป็นคนไม่เข้าสังคม มีพฤติกรรมเก็บตัว และไม่เชื่อว่าเพื่อนแท้มีอยู่จริง จนกระทั่งเธอมารู้จักพวกอากาเนะและทำเธอเชื่อว่าเพื่อนแท้ที่ไม่ผิดคำพูดมีอยู่จริงอีกครั้ง

     

     

    คุโรกิ เรย์

     

                    ส่วนบทของคุโรซากิ เนย์นั้นแม้จะเหมือนของฮิมาริ เพียงแต่กว่าที่เธอจะยอมรับอากาเนะเป็นเพื่อนนั้นต้องใช้เวลานานกว่าใครเขาเพื่อน ส่วนหนึ่งอาจเป็นพล็อตแนวสาวน้อยเวทมนต์ และคาแร็คเตอร์ตัวละครแนวลึกลับฝ่ายศัตรูที่กว่าจะนางเอกจะเอามาเป็นพวกนั้นอาจยาวนานหน่อย  แม้จะพื้นฐาน นิสัยไม่เข้าสังคมกับคนอื่นจะเหมือนฮิมาริก็ตาม ตอนแรกเรย์ไม่สนใจอากาเนะมากนัก เพราะเธอมีภารกิจที่ยิ่งใหญ่ไม่ใช่เวลาที่หาเพื่อนหรือรักโลกที่ตนจะต้องทำลาย  แต่ตอนหลังก็กลับตัวกลับใจ เมื่อเห็นความจริงใจของอากาเนะ และได้กลายเป็นเพื่อนกับอากาเนะ ร่วมมือปราบบอสใหญ่ และจบอย่างมีความสุขตามสูตร (ยกเว้นตัวโกงตายอนาถ) พูดง่ายๆ เรื่องนี้สอนอย่างชัดเจนว่าพลังมิตรภาพ เพื่อนแท้ สามารถฟันฝ่าอุปสรรค์ได้ ไม่ว่าอุปสรรค์นั้นจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตาม

     

     

    ปิดท้ายด้วยมุมกล้องงาม   

     

                    Vividred Operation เป็นอนิเมะที่น่าจะศึกษาได้ว่าจะทำอย่างไรให้อนิเมะประสบความสำเร็จจ แม้จะเป็นสูตรสำเร็จ คำตอบง่ายๆ ก็คือการหากลุ่มคนดูที่ชัดเจน (และพอดีกลุ่มคนดูที่ว่ามีมากในญี่ปุ่นเสียด้วย) และทำสิ่งที่กลุ่มคนดูที่คาดหวังจะได้เห็น ตอบสนองด้วยคาแร็คเตอร์แสดงความโมเอะอย่างเต็มที่ด้วยมุมกล้องซูมร่องตูดอย่างได้เนียนและหื่น

    Vividred Operation อาจมีคนชอบหรือไม่ชอบ ตามสไตล์ของการ์ตูนแนวนี้ คนที่ดูการ์ตูนดังกล่าวอย่าไปสนตัวบทที่บางครั้งอาจไร้เหตุผล หรือช่องโหว่บ้าง ที่ทำให้คนดูตั้งคำถามเรื่อยๆ ว่าทำไมไม่ทำอย่างนั้น ทำไมไม่เป็นอย่างนี้ ดังนั้นคำแนะนำของผมอย่าไปสนใจเลยแบบนี้เลย คิดไปหนักหัวเปล่าๆ ตัวการ์ตูนเองก็ทำออกมาไม่ได้สนใจประเด็นเหล่านี้อยู่แล้ว เพราะเน้นมิตรภาพของเหล่าสาวๆ มากกว่า

    Vividred Operation อาจไม่ใช่อนิเมะสิ่งใหม่สำหรับคนที่คาดหวังอยากเห็นการ์ตูนอะไรแหวกแนว แต่กระนั้นก็เป็นการ์ตูนได้ใช้สูตรสำเร็จมาทำให้เกิดความน่าสนใจ จนประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของมันแล้ว

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×