ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #23 : เห็นหมีหนูไหม เห็นหมีหนูไหม?

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ค. 60


                    คำว่า Meme (ตอนแรกผมอ่านว่ามีมี แต่ความจริงแล้วมันอ่านว่า มีม) หมายถึงสิ่งที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ บอกต่อๆ กันไป แล้วเข้าใจตรงกันเป็นวงกว้าง โดยปกติจะเป็นการสื่อถึงมุกตลก ซึ่งสามารถสื่อออกมาหลายทางไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ วีดีโอ ชื่อ คำพูด หรือประโยคใดๆ แล้วจะแพร่กระจายจากคนสู่คนโดยผ่านทางสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยส่วนมากสาเหตุทำให้คนตลกนั้นก็เป็นมุกแซว ล้อเลียน เพื่อให้คนชม (ดู) เกิดอมยิ้มหรือกระตุ้นต่อมฮ่าได้

                    คำว่า Meme นี้เป็นคำย่อมาจาก Mimeme หมายถึง “การทำตาม” ซึ่งคำนี้คิดขึ้นในปี 1976 โดยนักชววิทยาชาวอังกฤษชื่อริชาร์ด ดอว์กินส์เพื่อแสดงถึงแนวคิดของการแพร่กระจายความคิดและปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม

                    Meme ปัจจุบันได้รับความนิยมในอินเทอร์เน็ตมาอย่างยาวนาน ซึ่งความจริงคำว่ามีนมีมานานแล้ว แต่สำหรับคนไทยไม่คุ้นหูเลย หลายวงการ เช่นแซวดารา แซววงการวีดีโอเกม วงการการ์ตูนก็เช่นกันที่มีมีมออกมาให้เราได้เห็น เช่น การเอาภาพอาเบะมาใส่หน้าตัวการ์ตูนดังๆ ให้ได้ฮ่าตลอด หรือจะเป็นเว็บการ์ตูน 9GAG ที่มีสีหน้าการสร้างอารมณ์ที่ได้ใจสำหรับหลายคน

                    พูดถึง Meme ในวงการการ์ตูนนั้นความจริงมันมีมานานก่อนอนิเทอร์เน็ตด้วยซ้ำ ที่คนเขียนเอามุกการ์ตูนจากอีกเรื่องมาล้อเลียนการ์ตูนของพวกเขาเพื่อให้เป็นมุกตลก และมุกที่ว่าเป็นที่รู้จักกันดี เช่น มุกตอนจบของโจ สิงห์สังเวียน (Tomorrow's Joe) หรือภาพตัวละครตกใจแบบน่ากลัวของอุเมซึ คาซึโอะ เป็นต้น ซึ่งมุกเหล่านี้นักอ่านการ์ตูนต่างคุ้นตาอยู่แล้ว นู้ทันทีว่ามันสื่อถึงอะไร ต้นแบบมาจากไหน

                    อย่างไรก็ตาม ยังมีมุก Meme การ์ตูนอีกมากมายที่เราไม่ทราบ โดยเฉพาะมุกที่มาจากญี่ปุ่นทั้งหลาย ที่ญี่ปุ่นนั้นรู้ดี แต่สำหรับเราแล้ว แทบไม่ทราบ ว่ามุกนี้คืออะไร มีที่มาอะไร ทำไมถึงเป็นแบบนั้น

                    และเมื่อเร็วๆ นี้ผมก็ไม่เข้าใจมุก Meme มุกหนึ่ง มันเป็นมุมล้อเลียนหนึ่ง คือเป็นมุมล้อเลียน ที่มีตัวละครหนึ่งซึ่งเป็นหมีสีน้ำตาล หน้าตาออกจะน่ารัก (มั้ง) ที่มีพฤติกรรมประหลาด คือชอบทำเสื่อมๆ กับตัวละครผู้หญิงในการ์ตูน และที่น่าสงสัยเข้าไปใหญ่คือตัวละครหญิงที่ว่าล้วนเป็นโลลิโมเอะทั้งสิ้น ซึ่งมันมักปรากฏตัวออกมาบ่อยมาก และออกมาแต่ละล้วนเกี่ยวกับการ์ตูนโมเอะโลลิ ซึ่งผมสงสัยว่ามันเป็นมุกอะไร เกี่ยวกับอะไร ทำไมต้องเป็นหมี เป็นหมู วัว ไก่?

     

    ไฟล์: Pedobear.png
    PedoBear

     

                    เวลาที่คุณดูการ์ตูนญี่ปุ่นแนวโลลิ หรือเห็นมุกล้อเลียนการ์ตูนแนวโลลิ คุณมักจะเห็นเจ้าหมีตัวนี้อยู่ร่ำไป ซึ่งเจ้าหมีตัวนี้มีชื่อว่าหมีเพ็ดโด้เป็นมุก Meme ที่ได้รับความนิยมทางอินเทอร์เน็ต ที่ถือกำหนดว่าจากเว็บ  2Channel

                    PedoBear เป็นมุกตลกล้อเลียนที่เป็นสัญลักษณ์ของเฒ่าหัวงู ของเว็บ 4chan ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมเพราะหลายคนรู้ทันเลยว่าเจ้าหมีดังกล่าวถือว่าเป็นสัญลักษณ์รักเด็กแบบคุกๆ (ผิดกฎหมาย) แต่ไม่เชิงด่าแต่เน้นตลกมากกว่า และยังหมายถึงคนชอบการ์ตูนแนวโลลิ รักเด็ก ซึ่งต่อมาก็มีการประยุกต์เอาไปใช้ล้อเลียนตามที่ต่างๆ ไม่ใช่ในการ์ตูนเท่านั้น

     โดยที่มาของหมีเพ็ดโด้นี้เกิดจากคำว่า Pedophiles ซึ่งแปลว่าโรครักเด็ก  หรือเฒ่าหัวงูนั้นเอง โดยฟิโดนั้นแปลว่าเด็ก ส่วนฟีเลียแบบว่ารักมาก ชอบมาก รวมกันคือรักเด็กเกินขอบเขา ปัจจุบันถือว่าเป็นอาการบกพร่องทางจิตอีกรอบแบบหนึ่ง

    ส่วนทำไมถึงต้องเป็นหมีที่เป็นที่รู้จักกันจนถึงทุกวันนี้ โดยตอนแรกๆ รู้จักกันง่ายๆ ว่าหมี หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าคุมะ (Kuma) เมื่อทาง textboard ญี่ปุ่น 2channel มีการโพส ASCII art (ศิลปะแอสกี ศิลปะการวาดแผนภาพโดยใช้อักขระแอสกี)  สร้างขึ้นโดยぶる~ 3 โพสต์เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2003 ซึ่งโพสต์ที่ตอบสนองหัวข้อในบอร์ดในลักษณะเป็นโทรลล์ (ป่วนบอร์ด) อย่างเห็นได้ชัด

    くまくま━━━━━━(· () ·)━━━━━━!

     โดยคุมะนั้นเป็นคำอุทานของญี่ปุ่น (แปลว่าอะไรนั้นวานผู้รู้บอกอีกล่ะกัน) โดยต่อมาจากศิลปะอักขระแอสกีก็ค่อยๆ พัฒนาจากบรรทัดเดียวก็มาเป็นแบบหลายบรรทัด จนกลายเป็นตัวละครที่เป็นที่นิยมไป

     


    เจ้าหมีพีโด

     

    เจ้าหมีเพ็ดโดนั้นส่วนใหญ่เรารู้จักกันในฐานตัวป่วนการ์ตูนแนวโลลิ (หรือการ์ตูนที่มีตัวเอกเป็นโลลิทั้งหลาย) เพื่อแสดงให้เห็นถึงตัวหมีที่เปรียบเสมือนคนชอบแนวโลลิ  โดยทำหมีออกในเชิงหื่นๆ ในเชิงตลก เช่นไล่ตามตัวละครโลลิด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ตัวละครโลลิมีสีหน้าน่ากลัวมากพยายามหนีแบบสุดความสามารถ หรือบางภาพหมีสูบบุหรี่บนเตียงนอนโดยข้างๆ มีตัวละครโลลิหลับอยู่  เป็นต้น  

    บ้านเราเรียกว่าหมีตัวนี้ว่าหมีโลลิ เวลาซีซั่นไหนมีอนิเมะแนวโลลิหรือตัวละครโ,ลิน่ารัก มักมีการแซวว่าอนิเมะสำหรับคอหมีโลลิ เป็นต้น

    คลิปเจ้าหมีในเรื่องสตอเบอรี่ มาร์ชเมลโล http://www.youtube.com/watch?v=zoSd0fUDaLE

     

    ตัวอย่างการใช้มุกหมีพีโดนอกเหนือจากในการ์ตูน

     

    นอกเหนือจากวงการการ์ตูน เจ้าหมีเพ็ดโดนั้นยังไปป่วนเว็บไซต์และบอร์ดอื่นๆ มากมาย นอกเหนือการ์ตูนแล้วก็ยังมีการแซวที่สื่อถึงหากหื่นกับเด็ก ยกตัวอย่างเช่นภาพยนตร์, ภาพถ่ายข่าวดัง (เช่นภาพถ่านยของไมเคิลแจ็คสันที่อุ้มลูกบนระเบียงห้องพักเหมือนจะโยนไปข้างล่าง เจ้าหมีก็ปรากฏด้านล่างของภาพมือถือตาข่ายจับแมลงเหมือนจะรอจับเด็ก เป็นต้น)

     

     

    หนังสือพิมพ์ The Gazeta Olsztynska mistakenly ปรากฏหมีพีโดร่วมกับตัวนำโชคโอลิมปิตฤดูหนาว

     

    บางครั้งการเล่นมุกเจ้าหมีก็แรงเหมือนกัน เช่นวันที่ 3 กรกฏาคม 2009 มีการเอาเจ้าหมีไปปรากฏในหนังสือพิมพ์ร่วมกับตัวนำโชคการแข่งขันโอลิมปิคฤดูหนาวที่แวนคูเวอร์

    หลังจากนั้น จากหมีพีโดก็ลุกลามไปด้วย มีหลายคนพยายามเล่นมุกหมีเพ็ดโด เพื่อเป็นการแซวเกี่ยวกับการหื่นกับเด็ก หรือไม่เกี่ยวกับเด็ก เช่นมีคนสวมชุดหมีพีโดไปในสนามอเมริกันฟุตบอลเพื่อสื่อถึงข่าวอื้อฉาวที่ผู้จัดการทีมถูกไล่ออกเพราะเรื่องอื้อฉาวทางเพศ  แน่นอนว่าว่าหมีพีโดนั้นใครไม่ได้เล่นอนิเทอร์เน็ตก็คงไม่เก็ทมุก  แทนที่จะขำ อาจกลายเป็น งง และแป๊กเอง ดังนั้นการเล่นมุกมีทนั้นจะต้องถูกที่และถูกเวลา คนที่ดูจะต้องเข้าใจ

    มุกมีทนั้นอาจเป็นกระแสที่ไม่นานก็เสื่อมลงไป และถูกแทนที่ด้วยมุกมีทใหม่ที่ใหม่กว่าสดกว่า และทมีประเด็นใหม่ๆ ให้เล่นมากกว่า แต่กระนั้นมุกมีทบางมุกก็กลายเป็นมุกคลาสสิกที่หากนานๆ ครั้งเอามาเล่นก็ชวนหัวได้เหมือนกัน

     


    อ้างอิง

    http://knowyourmeme.com/memes/pedobear

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×