คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #210 : The Walking Dead ตายเดินดิน
ช่วงนี้หลายคนรู้สึกบ้างไหมครับว่าเดี๋ยวนี้การ์ตูนแนวเอาตัวรอดจำพวกหนีตัวประหลาด เริ่มเยอะขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหนีซอมบี้, หนีสัตว์ประหลาด, หนีผี ไปจนหนีสาวน้อยเวทมนต์ (??) จะหนีอะไรก็ตามแต่ แต่มุกก็เหมือนๆ กันคือตัวเอกเป็นคนธรรมดาใช้ชีวิตตามปกติ หากแต่จู่ๆ ก็มีอะไรบางอย่างโผล่มาฆ่าคนรอบตัวพระเอกจนเกือบหมด ตัวละครตายเป็นร้อย แบบไม่มีเหตุผลอะไรทั้งสิ้น พระเอกเห็นก็หนีตาย รวมกลุ่มที่มีชีวิตอยู่เพื่อหาทางรอด บลาๆๆๆ
มุกสูตรสำเร็จนี้เอาไปใช้เรื่องใดได้ผลทุกครั้ง แค่ดัดแปลงนิดๆ หน่อยๆ ก็สามารถต่อยอดไปได้หลายเรื่อง หลายแบบ เพียงแต่ว่าจะการ์ตูนเรื่องใดบ้างอยู่ในความทรงจำของคนอ่านเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม ในบทความนี้ผมไม่ได้พูดถึงการ์ตูนหนีซอมบี้ของญี่ปุ่น หากแต่จะพูดถึงการ์ตูนหนีซอมบี้คอมมิคของอเมริกาเรื่องหนึ่ง ซึ่งด้วยเนื้อหาและการดำเนินเรื่องค่อนข้างมีมุมมองที่แตกต่างจากการ์ตูนมังงะของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
The Walking Dead
The Walking Dead หรือ “ตายเดินดิน” เป็นการ์ตูนคอมมิครายเดือนที่สร้างโดยนักเขียนโรเบิร์ต เคิร์กแมนและศิลปินโทนี่ มัวร์ (ก่อนอื่นของบอกว่าเป็นเรื่องปกติครับที่ผลงานการ์ตูนอเมริกันมีนักเขียนสองคนร่วมกัน ) หากในตอนที่ 7 ขึ้นไปคนวาดโทนี่ มัวร์ได้ถูกแทนที่โดยนักเขียนคนอื่นคือชาร์ลี แอ็ดลาร์ด ซึ่งไม่ต้องแปลกใจหรอกครับว่าทำไมลายเส้นเปลี่ยนไปกะทันหัน (ก็เป็นปกติเช่นกันที่การ์ตูนอเมริกันซีรีย์หนึ่งมักเปลี่ยนรายเส้นกระทันทันเพราะเปลี่ยนคนวาด ) เป็นปกติของการ์ตูนอเมริกันอยู่แล้ว (อย่างไรก็ตามโทนี่ มัวร์ยังคงมีส่วนร่วมในการวาดปกในเล่มที่ 24)
The Walking Dead รางวัลไอส์เนอร์อวอร์ด (Eisner Award) ในปี 2010 ซึ่งต่อมาถูกดัดแปลงเป็นซีรีย์โทรทัศน์ในปี 2010 (หลายคนเข้าใจผิดว่าซีรีย์โทรทัศน์มาก่อน ก็ขอบอกในที่นี้เลยว่าการ์ตูนซีรีย์มาก่อนครับ และในซีรีย์โทรทัศน์มีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อยเพื่อให้กระชับขึ้น) และได้รับการแปลเป็นภาษาในหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นเดนมาร์ก, โปรตุเกส, สเปน, เซอร์เบีย, โปแลนด์, ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น และถูกสร้างเป็นเกมในคอมพิวเตอร์ (แต่เนื้อหาเป็นเรื่องของพระเอกคนหนึ่งและความปวดตับน้อยกว่า) ซึ่งทั้งหมดล้วนได้รับเสียงตอบรับเป็นบวก
อย่างไรก็ตาม The Walking Dead เป็นการ์ตูนอเมริกัน ซึ่งมีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรง และอย่างค่อนข้างมีฉากล่อแหลม บางฉากอยากไม่เหมาะกับวัฒนธรรมไทยมากนัก (แม้ค่านิยมไทยของเราเวลานี้อาจแย่และหื่นกว่าในการ์ตูนก็เถอะ) ดังนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ขึ้นไป
The Walking Dead เป็นเรื่องราวของริก กริมส์นายตำรวจธรรมดาในเมืองเล็กๆ ในซินเทียน่า เคนตั๊กกี้ที่ถูกยิงในขณะปฏิบัติหน้าที่ระหว่างจับคนร้าย ทำให้เขาสลบโคม่านอนในโรงพยาบาลไปหลายวัน และเมื่อเขาตื่นก็พบว่าเขาอยู่ในโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยซอมบี้ซากศพที่เดินได้ ทำให้เขาต้องหนีออกจากโรงพยาบาล และออกจากเมือง เพื่อมุ่งหน้าไปแอตแลนตา จอร์เจียเพื่อค้นหาภรรยาและลูกชายอายุ 7 ขวบที่เขาเชื่อว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ และเขาก็พบว่าภรรยาและลูกชายของเขาปลอดภัยดี ซึ่งพวกเขาอาศัยอยู่ในค่ายเล็กๆ นอกเมือง ร่วมกับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ รวมไปถึง “เชน” เพื่อนสนิทของเขา เรื่องราวเหมือนจบเพียงเท่านี้ หากแต่มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดเท่านั้น
พล็อตหนีตายซอมบี้ ยังคงเป็นพล็อตที่ได้รับความนิยมของใครต่อใครหลายคนทุกยุคทุกสมัย จนถึงบัดนี้ก็ไม่เลิกฮิต เห็นได้จากเดี๋ยวนี้มีการ์ตูนมังงะแนวซอมบี้ค่อนข้างมาก (อเมริกาก็เช่นกัน ทำเกมและการ์ตูนแนวนี้เยอะขึ้น) ทั้งๆ ที่พล็อตโดยทั่วไปก็ไม่ได้ฉีกแนวไปกว่ากันมากหน่อย สูตรสำเร็จประมาณว่า จู่ๆ เกิดคนธรรมดาติดเชื้อซอมบี้แบบไม่มีเหตุผล (เหตุผลส่วนใหญ่ก็อาวุธชีวภาพรั่วไหล) ซอมบี้ไล่กัดคนไปทั่ว (ซึ่งก็สงสัยทำไมมันไม่กินสุนัขหรือวัวหรือไม่ก็กินผักกินผลไม้บ้างเห็นกินแต่คน) จนคนส่วนใหญ่กลายเป็นซอมบี้ เหลือแต่เพียงกลุ่มคน (พระเอก) หยิบมือเดียวที่ต้องดิ้นรนมีชีวิตรอดต่อไป ท่ามกลางโลกที่กำลังล่มสลาย กลายเป็นโลกที่ป่าเถือน ไม่มีกฎหมาย คนชั่วอาศัยเหตุก่อความวุ่นวาย และการปรับตัวในสภาพแวดล้อมที่ไร้เครื่องอำนวยความสะดวก ไร้อาหาร น้ำดื่มใดๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เครียดยิ่งกว่าหนีซอมบี้เสียอีก
เชื่อหรือไม่ ว่ามีใครบางคนอยากให้โลกแห่งความจริงเกิดซอมบี้ระบาด ซึ่งเหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่อยากฆ่าซอมบี้ให้มันสะใจเฉยๆ อยากเป็นพวกผู้รอดชีวิต (ผู้ถูกเลือก) คนสุดท้ายบนโลกใบนี้ ซึ่งมันเท่และสามารถทำอะไรก็ได้ตามน่ะสาด
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ผมดูการ์ตูนมังงะและภาพยนตร์หนีรอดซอมบี้หลายเรื่อง ซอมบี้ยังคงเป็นปีศาจและสิ่งมีชีวิต (??) ที่ยังคงเป็นที่ลึกลับในความคิดของผมอยู่ดี สมมุติว่าเป็นเรื่องจริง รัฐบาลมันจะห่วยแตกขนาดนี้เลยเหรอที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ อีกทั้งซอมบี้มันก็คือคนที่ตายแล้วและพื้นขึ้นมาโหยหาเนื้อสดๆ กินมันได้กิน พวกมันได้ยินเสียงของเหยื่อของมันได้ยังไงในเมื่ออวัยวะทั้งหมดหยุดทำงานแล้ว และที่แปลกสุดๆ คือซอมบี้บางตัวมีชีวิตนานเป็นเดือนได้อย่างไร เพราะร่างน่าเปือยอันนั้นมันเป็นอาหารโอชะของหนอนแมลงวัน และกระบวนการย่อยสลายของซากเนื้อศพ ที่เน่าเปื่อยเร็วมากจนเหลือกระดูกในเวลาไม่กี่วัน ไม่กี่เดือนเท่านั้น ขนาดในเรื่อง The Walking Dead เหตุเกิดผ่านไปเป็นฤดูกาลซอมบี้ก็หมดไปสักที (สงสัยมีเหยื่อที่เป็นซอมบี้มีมาเรื่อยๆ มั้ง)
เอาเป็นว่าดูแนวซอมบี้ก็อย่าคิดมากเหมือนผมล่ะกัน
หลายคนคงคุ้นเคยกับการ์ตูนมังงะญี่ปุ่น แต่สำหรับการ์ตูนคอมมิคอเมริกานั้นยังคงมีปัญหาสำหรับนักอ่านคนไทยหลายๆ คนอยู่ ที่ไม่ชินอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งชุดที่ไม่คุ้นเคย ที่มังงะญี่ปุ่นจะแบ่งภาพอ่านง่ายกว่า ส่วนอเมริกานี้แบ่งช่องยิบย่อยต่างๆ มากมายไม่คุ้นเคยนัก การตัดฉาก การเคลื่อนไหว มุมกล้องไม่เหมือนกัน อีกทั้งคอมมิคของอเมริกันยังเน้นความสมจริงของตัวละคร ไม่ได้เน้นความโมเอะของญี่ปุ่นซึ่งทำให้การ์ตูนคอมมิคอเมริกันไม่ค่อยหลากหลายมากนัก
และปัญหาสำคัญ (สำหรับใครบางคน) คือแต่ละช่องของการ์ตูนคอมมิคอเมริกานั้นตัวละครพูดยาวมากๆ หลายคนอ่านจนตาแฉะ บางคนก็ขี้เกียจอ่าน เจอหน้าแรกอ่านแทบเบื่อ มาเจอหน้าต่อไปยาวอีก เลิกอ่านดีกว่าตรู ฯลฯ
ปัญหาใหญ่สำหรับผมในการอ่านการ์ตูนอเมริกันนั้น คงจะเป็นวัฒนธรรมตะวันตก อเมริกานั้นไม่เหมือนกับบ้านเราครับ บางอย่างเรารับได้ ในขณะที่บางอย่างเรารับไม่ได้เลย บางอย่างเราก็ตั้งสงสัยว่าเราสามารถเข้าถึงวัฒนธรรมพวกเขาได้หรือเปล่า อย่างเช่นการ์ตูน The Walking Dead เรื่องนี้ ที่พฤติกรรมของบางตัวละครบางตัวก็ทำให้เราตกใจเหมือนกัน
ก่อนที่จะพูดถึง The Walking Dead ว่าการ์ตูนคอมมิคเรื่องนี้ได้ให้อะไรกับเรา เรามาลองนึกเล่นๆ ว่าหากสมมุติว่าโลกของเราเกิดเหตุการณ์ฝูงซอมบี้ออกอาละวาดแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเราพยายามดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด สิ่งแรกๆ ที่เราควรทำนั้นจะเริ่มต้นอะไรก่อน ก่อนอื่นเลยเบสิกในภาพยนตร์ซอมบี้เลยคือวิ่งหนีสุดเอาชีวิตรอดจากซอมบี้ ไปหาที่ปลอดภัยและหาที่ซ่อนตัวดีๆ สักแห่งหนึ่งเพื่อทำใจ ปรับอารมณ์ ตั้งสติให้ดีๆ ก่อน ไม่ใช่ว่าเจอซอมบี้กรูลุยดะนับลองเป็นศพไม่ถึงในหนึ่งนาทีแบบในภาพยนตร์แน่นอน
เมื่อตั้งสติได้ ก็หาข่าวสาร รู้สถานการณ์คร่าวๆ แล้วก็เริ่มหาอาวุธเพื่อเผชิญหน้ากับซอมบี้ ดีกว่าจะใช้มือชกแน่นอน ตามมุกแนวซอมบี้นี้ตอนแรกเป็นไม้เบสบอสตอนหลังก็อัฟเกรดเป็นมีดและขวาน ก่อนที่จะอัฟเกรดสูงสุดเป็นปืน จากนั้นก็อัฟเกรดตัวเองด้วยการสวมชุดเกราะ ซึ่งแน่นอนว่าฟันซอมบี้กระจอกมันกัดเข้าไปได้อยู่แล้ว
เมื่ออัฟเกรดตนเองก็ออกจากเมือง ไปยังสถานที่คิดว่าสามารถตั้งรับซอมบี้ได้ง่ายที่สุด เช่น ฟาร์มที่ล้อมด้วยลวดไฟฟ้า เรือนจำกลางของรัฐ หรือปราสาทไปเลยก็ได้ และเมื่อหาสถานที่ปลักหลักได้แล้วก็หาอาหารหรือเสบียงน้ำดื่ม ยานพาหนะ น้ำมัน
และสิ่งสุดท้าย (หรืออาจเป็นสิ่งแรกๆ ด้วยซ้ำ) ก็คือการหาฮาเร็ม เอ้ย....ไม่ใช่ ตามหาผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ การรวมตัวกัน ย่อมดีกว่าการอยู่คนเดียว เพราะจะได้ช่วยดูแลซึ่งกันและกัน สร้างกลุ่ม ตั้งกฎ แบ่งหน้าที่ เพื่อมีชีวิตรอดต่อไป
ทั้งหมดคร่าวๆ นี้คือกฎการเอาตัวรอดที่พบเห็นทั่วไปในภาพยนตร์หนีพวกซอมบี้ ซึ่งเป็นแบบเบสิคและสูตรสำเร็จสุดๆ ฟังดูเหมือนง่าย ออกจะสนุกด้วยซ้ำ
แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการ์ตูนเรื่อง The Walking Dead นั้นไม่สนุกแน่นอน แม้เนื้อหาการ์ตูนแบบคร่าวๆ จะเหมือนหลักสูตรการเอาตัวรอดของซอมบี้ที่กล่าวไว้ข้างต้น ที่เราจะต้องรับบทเป็นผู้นำกลุ่มผู้รอดชีวิตที่มีคนหลายคน ต่างอายุ ต่างอาชีพ ต่างเพศ อยู่รวมกันเพื่อป้องกันอันตรายจากซอมบี้ที่ไม่รู้มันจะบุกมาหาเราเมื่อไหร่ ซึ่งตอนแรกดูเหมือนสนุกดี หากแต่เมื่อดำเนินเรื่องนานวันเข้าก็พบว่ามันเต็มไปด้วยปัญหาที่พูดได้คำเดียวว่าพระเอกเรื่องนี้ “โครตเครียดและจิตตกจริงๆ”
ปกติในมังงะญี่ปุ่นการ์ตูนแนวเอาตัวรอดซอมบี้จะเน้นอ่านแล้วมัน เลือดสาด และโมเอะ (??) แต่สำหรับการ์ตูนคอมมิคอเมริกาอย่าง The Walking Dead นั้นกลับเน้นดราม่า เน้นชิวิตของตัวละครเสียมากกว่าจะเน้นซอมบี้หรือแอ็คชั่น ซึ่งหลังจากที่พระเอกริกได้พบลูกเมียแล้ว แน่นอนว่าในภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ คงเป็นฉากจบฉากอวสานก็ว่าได้ หากแต่เป็นจุดเริ่มต้นของดราม่าปวดตับของพระเอกริกแทน
หลังจากที่ริกพบลูกและเมีย เขาก็พบว่ามีคนหลายคนในค่ายเล็กๆ แห่งนี้ที่กำลังรอความหวังจากเจ้าหน้าที่รัฐมาช่วยเหลือ ซึ่งในกลุ่มนี้มี “เชน” ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทและคู่หูตำรวจเช่นเดียวกับเขา นอกเหนือจากนั้นก็มีสมาชิกคนอื่นๆ ประมาณ 10 คน มีทั้งชาย หญิง วัยกลางคน ผู้ใหญ่ เด็ก หลากหลายอาชีพ
ตอนแรกๆ ริกกับคนในค่ายเหมือนจะเป็นเข้ากันดี สามัคคีกันดี แต่หลังๆ ก็เริ่มทะเลาะกัน เนื่องจากสมาชิกบางคนไม่ชอบหน้าอีกฝ่าย (เหตุผลที่เกลียดนี้เป็นเรื่องส่วนตัวล้วนๆ) อีกทั้งภายหลังก็พบว่าการตั้งค่ายห่างจากตัวเมืองนี้ไม่เหมาะ เพราะซอมบี้เองจะสามารถโจมตีมื่อไหร่ก็ได้
ริกแก้ปัญหานี้ด้วยการเสี่ยงตายเข้าเมืองเพื่อเอาปืนมาให้ทุกคนเพื่อใช้ป้องกันตัว รวมไปถึงให้ลูกชายใช้ปืนเป็นด้วย หากแต่ภรรยา (ที่เริ่มออกลายขี้หวาดระแวง) บอกริกว่าไม่สมควรให้เด็กจับปืน แต่ริกบอกว่าโลกของเราเปลี่ยนไปแล้ว สมควรให้เด็กเรียนรู้ทักษะจำเป็นนี้จะดีกว่า
หลังจากนั้นดราม่าก็เริ่มบังเกิด เพราะการมาของริกทำให้ เชนบาดหมางกับเขา เนื่องจากเชนกับภรรยาของริกมีความสัมพันธ์กัน (เนื่องจากภรรยาของริกนึกว่าริกตายแล้ว เลยรักเชนแทน) ซึ่งคนในค่ายพยายามบอกกับรักถึงความสัมพันธ์เชิงชู้นั้น แต่ริกพยายามที่จะปกป้องเพื่อนมากกว่าจะเชื่อว่าภรรยาของเขามีชู้ ต่อมาเขาทะเลาะกับเชนเพราะว่าการตั้งค่นนอกเมืองนี้ไม่เหมาะสมและอยากให้เลือกสถานที่ปักหลักใหม่มากกว่า แต่เชนยังคงยืนกรานว่าอยู่ที่นี้ ซึ่งสุดท้ายเรื่องก็จบลงเมื่อริกกับเชนทะเลาะกันในป่าระหว่างล่าสัตว์ ก่อนที่เชนจะถูกยิงตายโดยลูกของริก (ที่แอบตามพวกเขามา) ส่งผลทำให้ริกกลายเป็นผู้นำแทนเชน ซึ่งการเป็นผู้นำของริกนั้นนำมาซึ่งปัญหายุ่งยากในอนาคต
ในช่วงแรกๆ ของริกจนถึงการเป็นผู้นำ เราเห็นว่าริคนั้นมีความเป็นพระเอกคุณธรรมค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นมีความเชื่อใจ เสียสละ ใจกว้าง รักพวกพ้อง ภาษาบ้านเราก็คงประมาณ “พระเอกลิเก๊ลิเก” ชนิดเรียกว่าเห็นคนดีที่หาได้ยากจริงๆ ในโลกที่ไร้กฎเกณฑ์ใบนี้ (ซึ่งส่วนใหญ่การ์ตูนอเมริกามักกำหนดพระเอกแนวนี้เป็นส่วนใหญ่)
หลังจากที่เชนตาย (ซึ่งเป็นช่วงที่ลายเส้นการ์ตูนเปลี่ยนพอดี) ริกได้พากลุ่มที่รอดชีวิตที่เหลืออยู่พร้อมดัวยภรรยาโลซี่และลูกชายคาร์กเดินทางไปทั่วอเมริกาพยายามที่จะรอดในแต่ละวัน
เรื่องราวของการ์ตูนไม่ได้เน้นการสู้ซอมบี้ ไม่ได้เน้นแอ็คชั่นขายความโมเอะของตัวละครเหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่น หากแต่เป็นการเล่าเรื่องแบบสมมุติการอยู่รอดในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ที่เวลาผ่านเป็นปีเป็นเดือน ซึ่งปกติแล้วภาพยนตร์ซอมบี้มันจบแบบคืนหนึ่งหรือไม่กี่วันเสียมากมากกว่า
เมื่อริกเป็นผู้นำ เราจะเห็นว่าริกพยายามอย่างมากที่จะทำให้สมาชิกคนอื่นรอด ด้วยการใช้ทักษะที่มีในการอยู่รอดบนโลกใบนี้ เช่นการล่าสัตว์ การฝึกสมาชิกในกลุ่มใช้อาวุธป้องกันตัว การรับฟังปัญหาของสมาชิกในกลุ่ม ไม่เลือกปฏิบัตใครมีปัญหาอะไรยินดีช่วยเหลือ (แม้จะยุ่งเรื่องชาวบ้านเขาก็จะทำ)บางครั้งเขาก็ต้องออกไปหาอาหารหรือเชื้อเพลิงมาให้สมาชิกในกลุ่ม ซึ่งมันเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดยิ่งกว่าจัดการซอมบี้เสียอีก หรือแม้กระทั่งการจัดการปัญหาส่วนตัวระหว่างเขาและภรรยาที่เขาพบว่าภรรยาของเขาตั้งครรภ์เด็ก ซึ่งเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของเขา หากแต่เป็นลูกของเชนเพื่อนรัก (หักเหลี่ยมโหด) ที่ตายไปแล้วต่างหาก ซึ่งริกต้องเผชิญทั้งปัญหาส่วนตัว ปัญหาในกลุ่ม โดยเฉพาะการรองรับอารมณ์ของภรรยาที่ขี้ระแวงและขี้โมโห รวมไปถึงปัญหาซอมบี้อีก พูดง่ายๆ ว่ามันงานที่หนักมากคนหนึ่งๆ ที่จะทำได้
จุดเด่นของการ์ตูนเรื่องคงจะเป็นตัวละครที่โดดเด่น มีลักษณะบุคลิคชัดเจน มีการพัฒนาด้านจิตใจ เหมือนมีเลือดมีเนื้อ ทุกคนต่างเป็นคนดี แม้ทั้งหมดจะมีชีวิตที่ไม่ได้สวยงามนัก (มีปัญหาชีวิตหมด) ยิ่งมาเจอเหตุการณ์ซอมบี้อาละวาดพวกเขาก็ล้วนพบเหตุการณ์ร้ายๆ (ไม่ว่าจะเป็นสูญเสียคนรักหรือเป้าหมายในชีวิตไป) แต่เมื่อมารวมตัวกัน แม้เหม็นขี้หน้ากัน พวกเขาก็ร่วมมือช่วยเหลือกัน (แต่ก็มีบางคนเหมือนกันที่ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเลย เป็นตัวถ่วงชัดๆ) ซึ่งตัวละครเรื่องนี้ค่อนข้างมีความหลากหลาย
ตัวละครนอกเหนือจากริคที่โดดเด่นมีหลายคน เช่น “เกล็น” หนุ่มหน้าตาเชื้อชาติอเมริกันเอเชียตัวเล็กที่ทำหน้าที่จับฉ่ายเชื้อเหลืองานในทีมแบบไม่เคยบ่นเป็นคนดีตั้งแต่ต้นจนจบ (ยกเว้นไม่แตะบอล) “ไทรีส” ที่บึกผิวดำอดีตนักอเมริกันฟุตบอลมืออาชีพที่ “เดล” ชายวัยกลางคนที่หวังดีชอบเตือนอะไรหลายอย่างให้ริคและภรรยาของริคอยู่บ่อยๆ แต่กลายเป็นว่าทำให้ทั้งคู่เครียดซะงั้น และตัวละครอีกมากมาย ซึ่งผมเชื่อว่าทั้งเรื่องหลายคนคงเหลียดภรรยาของริคไม่มากก็ไม่น้อย ที่ชอบทำให้ริคเครียด ไม่ว่าจะเป็นขี้หวาดระแวงอะไรไปซะทุกเรื่อง (ก็ต้องเข้าใจว่าเป็นคนท้องซึ่งกังวลอย่างหนักในอนาคตข้างหน้าว่าจะเอายังไงดี)
แน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้ในแนวหนีซอมบี้ก็คือการตายของสมาชิกในกลุ่ม ที่ถูกซอมบี้รุมฆ่าอย่างโหดเหี้ยม แม้ว่าผมค่อนข้างจะเป็นคนเย็นชา แต่กระนั้นสำหรับการ์ตูนเรื่องนี้ผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าที่ตัวละครบางตัวตาย แม้ตัวละครบางตัวผมจะไม่ชอบก็ตาม เพราะบางคนอุตส่าห์ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน อุตส่าห์ร่วมเป็นร่วมตายกัน อุตส่าห์พัฒนาจิตใจ แต่ที่รับไม่ได้คือบางคนก็ยอมที่จะฆ่าตัวตายเพราะสูญเสียเป้าหมายในชีวิต หรือขณะที่บางคนตายเพราะถูกมนุษย์ด้วยกันฆ่ากันเอง
เนื้อหาการ์ตูนชวนให้จิตตก ไม่วาจะเป็นความเครียดของริก การตามหาสถานที่ปลอดภัยจากการรุกรานของซอมบี้ที่ตอนอรกนึกว่าจะเป็นสถานที่ในฝัน แต่มาถึงตอนถัดมาก็เปลี่ยนเป็นสถานที่สรรค์กลายเป็นนรกทันใด รวมไปถึงพฤติกรรมตัวละครที่การกระทำล้วนบ้าสิ้นดีอย่างเกษตรกรที่ที่เอาซอมบี้ตัวอื่นๆ (รวมไปถึงลูกเป็นซอมบี้ด้วย) ไปเก็บในโรงนา (ความจริงมีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งซึ่งแม่ตัวเอกโดนลิงกัดจนกลายเป็นซอมบี้และลูกเอาไปเก็นที่ใต้ถุนบ้านรวมกับซอมบี้ตัวอื่นๆ เชื่อว่ามุกการ์ตูนคงเอามาจากภาพยนตร์เรื่องนี้) หรือตัวละครมีชู้กันแบบจะๆ (เป็นวัฒนธรรมของอเมริกาสามารถมีเซ็กต์ก่อนแต่งงานกันได้โดยไม่รู้สึกผิด และสามารถเลิกกันได้โดยไม่สนจิตใจของอีกฝ่าย)
ไม่แปลกไปเลย ที่บางครั้งเราจะเห็นริกและพรรคพวกสติแตก ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างไม่เป็นใจไปเสียหมด โลกที่ไร้กฎหมาย และไร้จุดมุ่งหมาย คนดีเหล่านี้เมื่อถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายสุดขีดก็แสดงด้านมืดได้เหมือนกัน มีอยู่ฉากหนึ่งที่ริกโมโหเดือดดานจัดการใช้มืดต่อยฆาตกรที่ฆ่าลูกสองคนของเกษตรกรแบบไม่ยั้ง ภาพความดีของพระเอกที่สมบูรณ์แบบและมีคุณธรรมหายวับไปกับตา ก่อนที่พวกริกจะลงความเห็นให้จับฆาตกรคนดังกล่าวแขวนคอ แต่กลายเป็นว่าริคถูกตำหนิจากภรรยาว่าไม่ควรทำเพราะมันผิดกฎหมายและเห็นเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แต่พวกริกยังยืนกรานพร้อมให้เหตุผลอย่างกับหนังจีนว่า “ชีวิตแลกด้วยชีวิต” (ซึ่งผมมองว่าถูกแล้วที่ริกทำแบบนี้) ขนาดพวกนักโทษที่ถูกขังในคุกมานานถึงกับอุทานเลยว่า “พวกนั้นสติแตกไปแล้ว”
เมื่อริกและพรรคพวกตามหาสถานที่ปลอดภัยที่มีทั้งน้ำและอาหารได้ แต่พวกเขากับใช้ชีวิตซังกะตาย เพราะไร้ซึ่งอนาคตและจุดหมาย พรรคพวกของริคเริ่มหลงลืมมนุษย์ธรรมและละเลยความเป็นคนอย่างช้าๆ ไม่ต่างอะไรกับคนตายเดินได้ที่ล้อมรั้วเพื่อหวังกิรนพวกเขาแม้แต่น้อย
สรุปคนที่ตายเดินดินในการ์ตูนเรื่องนี้คือซอมบี้หรือมนุษย์กันแน่??
The Walking Dead เป็นการ์ตูนที่ให้อะไรมากกว่าการ์ตูนแนวซอมบี้ธรรมดา และมีทุกสิ่งทุกอย่างที่การ์ตูนแนวซอมบี้ควรมี แต่กระนั้นด้วยลายเส้นที่เปลี่ยนถึง 3 ครั้ง (แถมเป็นลายเส้นขาวดำซึ่งก็แปลกดีเพราะว่าปกติการ์ตูนอเมริกันจะเป็นภาพสีมากกว่า) และพฤติกรรมที่น่าตกใจของตัวละครที่มีฉากส่อทางเพศพอสมควร อาจทำให้หลายคนไม่ชอบเท่าใดนัก หากแต่ใครที่เป็นคอแนวเอาตัวรอดหนีซอมบี้ละก็ การ์ตูนเรื่องนี้นับลองถูกใจแน่นอน
ความคิดเห็น