กลับมาอีกครั้งครับ กลับการรีวิวอนิเมะประจำซีซั่นฤดูร้อนปี 2012 ตามความรู้สึกของผม คราวนี้มาแปลกเพราะวันที่ดังนั้น อนิเมะส่วนใหญ่มาถึงตอนที่ 3 แล้ว เพราะทุกทีผมตั้งตอนที่ 1 ประจำ สาเหตุที่ทำแบบนี้เพราะ ซีซั่นที่แล้วคาดหวังไปเยอะ เขียนอวยค่อนมาก แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ดูหลายตอนค่อนไปทางผิดหวังจนผมเสียหน้าเหมือนกัน จนเหลือแต่เนียวรุโกะเท่านั้นที่ผมดูตั้งแต่ต้นจนจบแบบเต็มตอน มาซีซั่นคราวนี้เลยขอดูสัก 2-3 ตอนค่อยบอกอะไรได้ว่าสนุกหรือไม่สนุก
ก็เช่นเคย ว่าการรีวิวครั้งนี้ตามความรู้สึกความชอบโดยส่วนตัว คุณจะแปลกใจว่าทำไมรีวิวบทความนี้แตกต่างจากที่อื่นๆ จังว่ะ เรื่องอื่นคนรีวิวมันช่างเลิศเมพสามโลก แต่พอมาบทความนี้กลับให้ความเห็นไม่ชอบซะงั้น ยกตัวอย่างเช่นเนียวรุโกะหลายเว็บมีแต่ด่าว่า แต่มาบทความนี้ผมชมว่าเลิศสุดยอดเมพในสามโลก ก็ขอบอกว่าที่อื่นเขาไม่ชอบฮาเร็มกัน แต่ที่นี้บทความนี้ผมชอบฮาเร็มไงครับ (ฮ่า) ทำให้อนิเมะซีซั่นนี้ผมเน้นดูแต่ฮาเร็มที่ผมถูกใจเป็นพิเศษ แต่ฮาเร็มของผมนั้นผมค่อนข้างพิถีพิถันเหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องนี้ฮาเร็มว่ะ กรูดูหมด ผมก็ต้องเลือกบ้าง อย่างเรื่อง Hagure Yuusha no Estetica และ Campione! พระเอกเก่ง ผมจะไม่ดูเลย เพราะในเมื่อพระเอกเก่งกาจก็ไม่ต่างอะไรกับพวกหน้าตาดีเก่งกีฬาแล้วผู้หญิงมาชอบ อย่างงี้ไม่เข้าถึงรสนิยมของผมหรอก ผมชอบพระเอกคนธรรมดา อ่อนแอ เพราะมันเข้าถึงมากกว่า
หากคุณเห็นรีวิวอนิเมะซีซั่นนี้มาเยอะแล้ว ก็ลองดูการรีวิวของผมล่ะกันว่าเป็นอย่างไร คนเรารสนิยม ต่างกัน วิถีชีวิต และมุมมองต่างกัน ผมซึ่งอายุจะ 30 ปี บนเตียงนอนเต็มไปด้วยการ์ตูนมังงะ (ฮาเร็ม) จะมีมุมมองอนิเมะอย่างไรนั้นก็ติดตามดูละกัน
อย่างไรก็ตาม แม้อนิเมะส่วนใหญ่ที่ผมดูจะเป็นแนวฮาเร็ม แต่ก็มีการ์ตูนอนิเมะแนวอื่นที่ไม่ใช่ฮาเร็มแทรกเข้ามาเหมือนกัน ส่วนจะเป็นเรื่องนั้นก็ติดตามต่อไป
ลืมบอกไป ส่วนใหญ่อนิเมะที่ผมดูคือมันมีซับไทยแล้ว (ไม่ซับไทยตรูก็ไม่ดู) สามารถหาดูได้ตามเว็บทั่วไป รวมถึงเว็บที่มีชื่อเสียงที่คุณรู้ว่าคือเว็บอะไร ซึ่งผมมักติดตามข่าวสารและอ่านสปอยในเว็บนั้นเป็นประจำ
ตารางอนิเมะปีนี้ครับ
http://countdown.mandragon.info/
สรุป
Hyouka (ไม่ได้ดู )
Jinrui wa Suitai (อนิเมะสุดเซอร์ไพรส์ในซีซั่นนี้ ที่ผมติดตามดูอย่างน่าเหลือเชื่อ)
Oda Nobuna (ฮาเร็มก็ต้องดูสิ)
Muv-Luv (ไม่ได้ดู ไม่มีซับไทย ถึงมีก็ไม่ดู )
Kingdom (ไม่มีซับไทย)
Chouyaku Hyakunin (ไม่ถูกกับแนวนี้)
Yuruyuri♪♪ (ไม่ได้ดู แต่ชอบยุย)
Hakuouki R (ไม่ได้ดู มีแต่ผู้ชาย)
Binbou-gami ga! (ไม่ได้ดู)
Moyashimon Ret. (ขอร้องเถอะทำซับภาคแรกหน่อยเถอะ)
Natsuyuki (ไม่ได้ดู)
Koi To Senkyo (การ์ตูนโครตกังวลที่สุดในอนิเมะซีซั่นนี้)
Sengoku Coll (ซังโกคุสลับเพศอีกเวอร์ชั่น ขอร้องทำซับต่อเถอะ ตามอยู่น่ะ)
Eureka 7 AO (ไม่ถูกกับแนวหุ่นยนต์)
Kono Naka ni Hitori (ฮาเร็มชัดๆ )
Joshiraku (ไม่มีซับไทย มั้ง)
Hagure Yuusha (ฮาเร็มที่ผมไม่ดู เพราะพระเอกเก่ง)
Dakara Boku wa (แม้จะผิดหวังไปบ้าง แต่ผมตาม)
Campione! (ฮาเร็มที่ผมเริ่มสนใจ หลังจากมีคนมารีวิวให้ฟัง)
Accel World (กรูรักจิยุ ไม่อวยสาวผมดำหรอกว่ะ)
Dog Days' (อยากให้มีโซดิแอตไล่ฆ่าท่าจะมัน)
Driland (สัดส่วนตัวละครเพี้ยนๆ น่ะ)
Ebiten (ไม่มีซับไทย)
Sword Art Online (อนิเมะที่หลายคนติดตามมากที่สุดในซีซั่นนี้)
Kokoro Connect โดนคนล้างสมอง ดูมาสามรอบซะงั้น
Horizon Nowhere 2 (เห็นหน้าพระเอกหมดอารมณ์)
Rinne Lagrange 2 (รอจนถึงตอนอวสาน ค่อยดูรวด)
Tari Tari (ไม่ได้ดุ)
Arcana Famiglia (ไม่ถูกกับแนวฮาเร็มหนุ่มหล่อ จิ้นยูริ แม้นางเอกจะทวินเทลก็เถอะ)
สรุปคือมี 6 เรื่องที่ผมติดตามในซีซั่นนี้ (ดีกว่าซีซั่นที่แล้วเพราะผมดูแต่เนียวรุโกะ) และยังมีอีกเรื่องที่ผมตามคือ Driland ดูการ์ตูนไม่ต้องมีตรรกะอะไรหรอกครับ ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคน คราวนี้มาดูความเห็นของผมบ้างว่าทั้งหมด 7 เรื่องผมคิดยังไงถึงดู
Jinrui wa Suitai Shimashita (ฉายวันอาทิตย์ เวลา 24:00 น. ตามเวลาของประเทศญี่ปุ่น)
ยอมรับเลยว่า Jinrui wa Suitai Shimashita (หรือ Humanity Has Declined ) เป็นอนิเมะสุดเซอร์ไพร์ประจำซีซั่นนี้ ชนิดเรียกว่าดูหน้าไม่รู้ใจ ต้องดูก่อนถึงจะรู้ตัวตนที่แท้จริง แต่ตัวตนที่แท้จริงกลับลึกลับ ไม่สามารถอธิบายด้วยคำพูดได้ว่าเป็นอย่างไร นี่คือคำนิยามกับการ์ดูอนิเมะดังกล่าว
ดูภาพตัวอย่างของ Jinrui wa Suitai Shimashita นึกว่าจะเป็นแนวการ์ตูนแฟนตาซีผู้หญิงเนื้อหาเรียบง่ายไม่หวือหวา นางเอกใสซื่อ บริสุทธิ์ (นางเอกหน้าเหมือน โคบาโตะ ผลงานของ แคลมป์ ยังไงชอบกล) ตัวละครที่ไม่เห็นฉีกแนวตรงไหน (เรื่องนี้ไม่มีพระเอก แต่ผู้ช่วยของนางเอกนี้น่ารักมาก โฮก!!)
Jinrui wa Suitai Shimashita เนื้อหาก็แสนธรรมดาเป็นเรื่องราวของโลกในอนาคตที่เป็นยุคที่มนุษย์ถึงคราวเสื่อมถอย อัตราการเกิดลดลง วิทยาการของมนุษย์เริ่มต้นที่ 0 เผ่าพันธุ์ส่วนใหญ่บนโลกกับเป็น “ภูต” ตัวจิ๋วที่สูงเพียง 10 เซนติเมตร ที่ชอบของหวาน มีสติปํญญาสูงล้ำโดยเฉพาะความรู้จากโลกอดีตกาลสมัยมนุษย์ชาติเจริญสุดขีด
เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนกับภูต จึงมีการการตั้ง “ผู้ดูแล” เพื่อทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างภูตและมนุษย์ โดยตัวเอกคือ วาตาชิ หรือ “ฉัน” หรือ “ผู้ดูแล” ซึ่งเป็นผู้หญิงผมสีชมพูยาวที่ย้ายกลับมาบ้านเกิด ซึ่งเดิมเป็นงานของปู่เธอที่เธอเลือกงานนี้เพราะคิดว่ามันง่าย หากแต่เธอก็พบว่างานมันไม่ง่ายเลย....
Jinrui wa Suitai Shimashita สร้างจากนิยายไลท์โนเวล แนวแฟนตาซี แต่งโดยโรมิโอ ทานากะ(ผู้เขียนบทเกม, นิยาย และอนิเมะเก่งคนหนึ่ง) ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2007 ปัจจุบันได้รับตีพิมพ์ 6 เล่มและยังไม่จบ (ตอนที่ผมเขียนบทความ) และได้รับความนิยมเรื่อยมา จนถูกนำไปสร้างเป็นมังงะและอนิเมะกำกับโดย Seiji Kishi (ผลงานAngel Beats!, Persona 4 The Animation) และผลิตโดย studio AIC A.S.T.A เริ่มออกอากาศเมื่อวันที่ 2 กรกฏาคม 2012
Jinrui wa Suitai Shimashita เปิดฉากมาแสนจะงดงาม เต็มไปด้วยศิลปะ เพราะภาพและบรรยากาศเป็นสีน้ำแสนสบายตา แต่เมื่อการ์ตูนดำเนินเรื่องจนจบหนึ่งตอน ผม งง เต็ก ว่านี้คือการ์ตูนอะไร? เพราะตัวเอกไร้ที่มา วัตถุประสงค์ของเรื่องคืออะไร หลังจากที่ผมไปหาข้อมูลพบว่าอนิเมะเรื่องนี้ไม่ได้เรียงลำดับการเล่าเรื่องตามไลท์โนเวล (พูดง่ายๆ ตอนที่ 1 และ 2ของอนิเมะ นั้น ใช้ไลท์โนเวลเล่มที่ 4 เป็นตัวเปิดเรื่อง) ทำให้ผม งง สิว่าทำไมนางเอกผมสั้น? อะไรคืออนุสรณ์มนุษย์? นี้คือโลกอะไร? กว่าจะปรับตัวเข้าใจเรื่องราวได้ก็พักใหญ่ ทำให้คนดูการ์ตูนเรื่องนี้ครั้งแรก (และไม่ได้อ่านไลท์โนเวล) คงสับสนพอๆ กับผม ทำให้มีหลายเว็บให้คะแนนอนิเมะเรื่องนี้ต่ำติดดิน และบางเว็บให้คะแนนสูงพร้อมคำชมว่าเลิศเลอ
อย่างไรก็ตาม เมื่อการ์ตูนดำเนินเรื่องก็พบว่าการ์ตูนนี้น่าติดตามระดับหนึ่ง และตะลึงด้วยซ้ำเพราะผมโดนหลอก เนื่องจากคิดว่าเป็นการ์ตูนแฟนตาซีเนื้อหาสบายแต่กลายเป็นว่าการ์ตูนมีความแปลกประหลาด ตัวละครที่มีพฤติกรรมแปลกๆ, แอบร้าย, กัดจุด และมีมุกแปลกๆ สอดแทรกมุกมากมาย ไม่ว่าเป็น ไมค์ไก่ไร้หัว, หุ่นยนต์ขนมปังเลือดสาด, ทำให้ฮ่าแบบแปลกๆ เรื่องเลยน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้การดำเนินเรื่องแปลกๆแทบไม่รู้จุดประสงค์ของเรื่อง มีสอดแทรกประเด็นจิกกัดวัฒนธรรมสังคม ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตย, ธุรกิจมืด, ศิลปะวาดภาพยาโอย ฯลฯ บางมุกก็เป็นประเด็นวิจารณ์สังคมทำให้ได้ตีความอย่างสนุกสนาน ว่ามันมีอะไรซุกซ่อนอยู่ในแต่ละตอน ทำให้ผมชอบตรงจุดนี้ว่าแต่ละตอนจะมามุกไหน?
ความสนุกเรื่องนี้คือเสียงพากย์ของนางเอก ภายใต้หน้าซื่อๆ นั้นก็มีความคิดแอบร้าย เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน จิกกัดคนอื่น ทำให้ทั้งเรื่องน่าสนใจฉีกแนวจากที่เป็นอยู่
Jinrui wa Suitai Shimashita เป็นการ์ตูนที่เหมาะสำหรับคนชอบอะไรแปลกๆ (ที่นานๆ ครั้งจะมีสักเรื่องหนึ่งแทรกเข้ามา) และการตีความเชิงสัญลักษณ์ ชอบคิดอะไรมาก ใครชอบการ์ตูนเรื่องนี้แนะนำเลย
Oda Nobuna no Yabou
Oda Nobuna no Yabou (ความใฝ่ฝันของโนบุนากะ) เป็นเรื่องราวของโยชิฮารุ ซาการะ อายุ 17 ปี ชายหนุ่มนักเรียนธรรมดาทั่วไป เพียงแต่เขาชอบเล่นเกมเซ็นโกคุ ชอบขุนพลโบราณ ที่อยู่ ๆ ต้องมาเจอไทม์สลิปย้อนเวลากลับไปยังยุคสมัยเมื่อ 400 ปีก่อนซึ่งเป็นยุคเซ็นโกคุจริงๆ ที่เป็นในช่วงกลียุคที่ทั่วทั้งประเทศเต็มไปด้วยไฟแห่งสงคราม หากแต่ที่แปลกคือเหล่าขุนพลส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง! ซึ่งพระเอกได้รู้จักฮิเดโยชิ (เจ้าลิง) สมัยเป็นทหารเดินเท้าธรรมดา ที่มีความใฝ่ฝันอยากสร้างฮาเร็ม พระเอกได้ยินก็นับถือคารวะกับความใฝ่ฝันนั้น หากแต่ไม่ทันทีทั้งสองจะไม่รู้จักกันดีฮิเดโยชิกลับถูกศัตรูฆ่าตายซะงั้น แถมเขาต้องสวมรอยเป็นฮิเดโยชิเพื่อรับใช้ไดเมียวที่ต่อมาถูกขนานนามว่า “จอมมาร” นามโอดะ โนบุนากะ หากแต่โนบุนากะที่พระเอกพบกลับเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ดุเหมือนเสือและชอบเรื่องตะวันตกเสียนี้ และแล้วการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของโลกคู่ขนานและความฝันของพระเอกที่จะสร้างฮาเร็มจะทำได้หรือไม่ก็ติดตามต่อไป
Oda Nobuna no Yabou เป็นการ์ตูนอนิเมะที่สร้างจากมังงะของ Mikage Kasuga (ก่อนหน้านั้นยังทำเป็นมังงะมาแล้ว) ตอนแรกที่เห็นแนวก็นึกว่าเป็นแนวเรื่อยเปื่อยไม่จริงจังเน้นตลกเซอร์วิสแบบสามก๊กโมเอะ (ขนาดมังงะยังฮ่าเลยคิดดู) แต่หลังจากได้ดูไปสามตอน ปรากฏว่าเป็นเนื้อหาจริงๆ จังๆ เป็นยุคสงครามสู้รบกัน มีความสูญเสีย แก่งแย่งอำนาจ หักหลังกัน การตัดสินใจที่หากพลาดนิดเดียว หมดสิทธิแจ้งเกิด ฯลฯ
ก็ยอมรับว่าผมรู้จักยุคเซ็นโกคุพอดู เพราะว่าหากจะเป็นนักอ่านการ์ตูนจะต้องมีความรู้ญี่ปุ่นไม่มากก็ไม่น้อย ดังนั้นเซ็นโกคุคือว่าเป็นพื้นฐานต้องเรียนรู้ก่อนที่จะดูการ์ตูนที่มีฉากหลังเป็นยุคดังกล่าวก็ว่าได้ เพราะการ์ตูนที่มีฉากหลังเป็นเซ็นโกคุเยอะ (พอๆ กับฉากหลังช่วงปลายยุคเอโดะ) หากแต่เมื่อมาดูโนบุนากะยอมรับเลยมีบางเรื่องไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครทั้งหลายที่ออกมามีหลายคนไม่คุ้นหูคุ้นตา หรือเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์สมัยโนบุนากะไม่ได้ตั้งตัวที่ผมไม่รู้ว่าตามประวัติศาสตร์เหตุการณ์จริงเป็นอย่างไร (ส่วนใหญ่แล้วประวัติโนบุนากะที่หลายคนรู้จักจะเป็นช่วงดวงขึ้นถึงขีดสุดไปจนถึงช่วงที่หลายคนเรียกจอมมาร) หากแต่มาดูการ์ตูนเรื่องนี้ก็นึกอยากเปิดวิพิมีเดียเปิดดูสักหน่อยว่าโนบุนากะสมัยยังไม่ได้ตั้งตัวเป็นอย่างไงบ้าง
ยุคเซ็นโกคุไม่เหมือนกับสามก๊ก ซึ่งสามก๊กนั้นเป็นวรรณกรรมที่หลายคนรู้จักไปทั่วโลก หากแต่ซันโกคุไม่ใช่เรื่องสากลที่คุ้นหูของชาวไทยมากนัก ดังนั้นหลายคนไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวของเซ็นโกคุสักเท่าไหร่ ยิ่งเป็นพวกบุคคลในประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในยุคซันโกคุยิ่งจดจำไม่ค่อยได้ หากไม่นับพวกดังๆ อย่างโนบุนากะ โตกุกาว่า ฮิเดโยชิ ส่วนโกเอม่อนนี้น่ารักน่ะผมว่า
จุดประสงค์การสลับเพศในการ์ตูนคือ การสร้างตัวละครผู้หญิงให้มีแต่นิสัยดี ไม่ชั่วร้าย ในขณะผู้ชายในเรื่องเลวกว่าหมา (แต่ยังดีที่ผู้ชายบางคนในเรื่องนิสัยดี อย่างพระเอก เป็นต้น)
ตอนแรกนึกว่าฮาเร็มกุ๊กกิ๊กธรรมดา ตามประสาการ์ตูนสลับเพศ แต่กลายเป็นว่าเป็นการ์ตูนโรแมนติกที่มีฉากหลังของสงคราม ที่ตัวหลักคือโนบุนากะ ซึ่งตามประวัติศาสตร์ที่หลายคนรู้มักด่าว่าโนบุนากะเป็นจอมมาร โหดร้าย อำมหิต จอมหักหลัง เลดี้กาก้า (เกี่ยว?) แต่เมื่อสลับเพศแล้วตาลุงจอมมารกลับเป็นเจ้าหญิงตัวเล็กๆ ซึน ที่นิสัยดีน่ารัก โกรธไม่ลง และมีเรื่องหนักอกหนักใจที่ต้องตัดสินใจ โดยเฉพาะการสู้รบที่เดิมพันกับชีวิตตนเอง ซึ่งพระเอกจำเป็นต้องช่วยเหลือโนบุนากะเพื่อให้ครองแผ่นดิน เพื่อความใฝ่ฝันของเธอ ซึ่งพระเอกบอกจะสร้างฮาเร็ม แต่ปรากฏว่าหลายตอนที่ผ่านมามันไม่เห็นปักธงใครเลยหว่า สรุปคือไม่ใช่แนวฮาเร็มหรอกเหรอ?
อนิเมะเรื่องนี้ภาพสวยมาก มีเล่นสี ทุ่งหญ้าในสนามรบ ฉากป่าเขา ทำได้สมจริง สวยงดงาม อลังการงานสร้าง สมกับเป็นผู้กำกับ Yuuji Kumazawa (ผลงาน Highschool of the Dead และ Welcome to the NHK!)
ไม่รู้ว่าอนิเมะเรื่องนี้ตัดทอนจากต้นฉบับมังงะมากขนาดไหน หากแต่เมื่อพิจารณาแล้วเชื่อว่าตัดไปเยอะพอสมควร เพราะบทมุกตลกตัดไปเยอะ เหลือแต่ฉากสำคัญของเรื่องเท่านั้น ทำให้บทตัวละครแต่ล่ะตัวยกเว้นโนบุนากะและพระเอกเบาบาง ไม่มีอารมณ์ร่วม อย่างโกเอม่อนนั้นตอนแรกยังไม่รู้จักพวกโนบุนากะแท้ๆ มาตอนที่สองรู้จักซะแล้ว ไม่รู้ไปรู้จักกันตอนไหน
ทางด้านพระเอกนั้นดูเป็นคนจริงจัง มีเล่นบ้าง ตลกบ้าง แต่บางสถานการณ์เมพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ (จากประสบการณ์ของผม) ไม่สามารถทำให้ผมซาบซึ้งในความเมพพระเอกได้ แต่สิ่งที่ชอบคือพระเอกมีส่วนร่วมวางแผนการรบ (เพราะเป็นคนจากโลกอนาคต) ทำให้คนธรรมดาอย่างผมขนลุกซู่ เพราะมันเหมือนคนธรรมดาที่ได้มีส่วนร่วมกับประวัติศาสตร์ เปลี่ยนประวัติศาสตร์ด้วยมือของเราเอง ไม่งั้นเกมแนววางแผนการรบยุคโบราณคงไม่ฮิตจนถึงปัจจุบันหรอก
ที่น่าสนใจคือโนบุนากะเรื่องนี้จะกลายเป็นคนอย่างไร เธอจะกลายเป็นจอมมารหรือไม่ และจุดจบเธอจะเป็นเช่นไร (แต่เชื่อว่าอนิเมะไม่น่าจะถึงฉากดังกล่าวเพราะไลท์โนเวลยังไม่จบ) อย่างไรก็ตาม ตามประวัติศาสตร์จริงๆ โนบุนากะฆ่าน้องชายของตนเอง ยังดีที่พระเอกช่วยหยุดเอาไว้ แสดงให้เห็นว่าประวัติศาสตร์ได้เปลี่ยนไปแล้ว โนบุนากะจอมมารไม่มีอยู่บนโลกคู่ขนานใบนี้แล้ว (หรือเหตุการณ์อนาคตอาจเกิดขึ้นก็ไม่รู้) เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ประวัติศาสตร์ใดบ้างที่จะเปลี่ยนบ้าง ตรงจุดนี้แหละที่ผมติดตามอยู่
Koi to Senkyo to Chocolate (ฉายเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2012)
(ขอบอกว่าผมอวยทวินเทล เพราะผมอยู่ชมรมคนอวยนิมพ์ บูชาทวินเทลดุจดั่งเทพเจ้า รักเพื่อนสมัยเด็กยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด)
Koi to Senkyo to Chocolate หรือชื่อไทยว่าความรัก เลือกตั้ง และช็อกโกแลต (คำว่าช็อกโกแลตนั้นมาจากอดีตความทรงจำที่ไม่อยากคิดถึงของทวินเทลครับ เท่ากับว่าเป็นการล็อกนางเอกหลักของเรื่องเอาไว้แล้วนั้นเอง)
Koi to Senkyo to Chocolate เป็นอนิเมะสร้างจากเกมจีบสาว (+18) ที่พึ่งวางจำหน่ายในปี 2010 ไม่นานมานี้เอง ก่อนหน้านั้นก็ถือนำมาสร้างเป็นมังงะ ตัวเกมก็เหมือนเกมนิยายภาพทั่วไปโดยมีนางเอกทั้งหมด 5 คน ให้จีบ (ส่วนตัวละครลับนั้นไม่รู้)ตัวเกมบอกว่าเป็นแนวดราม่า โรแมนติก ฮาเร็ม ซึ่งผมไม่อยากให้จำกัดความฮาเร็มสักเท่าไหร่ น่าจะว่าเกมจีบสาวมากกว่า เพราะแบ่งเป็นหลายเส้นทาง ว่าคุณจะอวยใคร พร้อมฉากจบประจำตัวของแต่ละคน (อย่างหากเลือกเส้นทางเนื้อเรื่องของนางเอกทวินเทลตอนจบได้แต่งงานกัน เป็นต้น) แต่ในอนิเมะนั้นฮาเร็มแน่นอน
Koi to Senkyo to Chocolate เป็นเรื่องราวของพระเอกคนหนึ่งชื่อโอจิมะ ยูกิพระเอกที่แสนธรรมดา เป็นนักเรียนปีสองของ "โรงเรียนเอกชนทาคาฟุจิ" ซึ่งเป็นโรงเรียนชั้นนำที่ขนาดใหญ่มีนักเรียนถึง 6,000 คน (ค่าเรียนแสนแพงและเด็กมีคุณภาพ) โดยพระเอกเป็นสมาชิกในชมรมวิจัยอาหาร (ชื่อเรียกทั่วไปคือช็อคเก้น "Shokken") ที่มีสมาชิกอยู่เพียง 8 คน (ชาย 2 และหญิง 5 รวมพระเอก) โดยหนึ่งในกลุ่มนั้นมี สุมิโยชิ จิซาโตะ ทวินเทลเพื่อนสมัยเด็ก (ผู้เป็นที่รักของผม) อย่างไรก็ตามกิจกรรมชมรมแห่งนี้ไม่ทำอะไรมากนักแม้ว่าวิจัยอาหาร แต่วันๆ สมาชิกในชมรมก็เอาแต่มานั่งกินขนมบนโต๊ะเพื่อวิจารณ์รสชาติเท่านั้น แต่สำหรับพระเอกแล้วชมรมแห่งนี้เป็นชมรมที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยมิตรภาพ(และฮาเร็ม) หากจนกระทั่งวันหนึ่งถึงวันเลือกตั้งสภานักเรียน ชิโนโนเมะ นัตสึกิ (ผู้เป็นที่ชื่นชอบคนทั่วไปในสายประธานนักเรียน) ผู้ทรงอิทธิพลลงสมัครเลือกตั้งประธานนักเรียนในภาคเรียนถัดไปได้ใช้นโยบายที่ว่าด้วยการจัดการกับชมรมที่ไร้ผลงาน ซึ่งหากเธอได้รับเลือกตั้งจริงๆ อาจทำให้ชมรมช็อกเก้นโดนยุบได้ และเพื่อป้องกันเรื่องดังกล่าวเหล่าสมาชิกชมรมช็อกเกนคิดว่าควรแต่งตั้งให้พระเอกเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานสถานักเรียนเพื่อป้องกันชมรมเล็กๆ เหล่านั้นไม่ให้ถูกยุบ ซึ่งพระเอกต้องเผชิญปัญหาและความรัก (ฮาเร็ม) ของเขาไปพร้อมๆ กัน เพื่อก้าวเป็นผู้สมัครเป็นประธานนักเรียน
Koi to Senkyo to Chocolate เป็นการ์ตูนนี้ผมกังวลมากที่สุดในซีซั่นนี้ สาเหตุเป็นเพราะที่แล้วมาการ์ตูนที่สร้างจากเกมจีบหญิงนั้นไม่ค่อยได้รับผลตอบรับที่ดีมากนัก (ไม่รู้โซระฟ้าสวยเข้าข่ายหรือเปล่า แต่ผมไม่ได้ดู ) มีแต่ทรงกับทรุด สาเหตุเพราะมีปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน
ฮาเร็มของพระเอกประกอบไปด้วย ตัวละครหลักหญิงสาวที่สวยน่ารัก 5 แบบ 5 สไตล์ คนแรกคือ “สุมิโยชิ จิซาโตะ” เพื่อนสมัยเด็กทิวนเทลที่มีความทรงจำไม่ดีกับช็อกโกแลตเพราะมันทำให้เธอคิดถึงการจากไปของน้องชายของเธอ ทำให้มองพระเอกเป็นเหมือนตัวแทนของน้องชายเธอจึงรักพระเอกมาก (แต่ไม่แสดงออก) และประกาศไปเลยว่าพระเอกเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว ใครอย่ามาแหยม (อันเป็นจุดเริ่มต้นของดราม่า) คนที่สอง “ชิโนโนเมะ ซัตสึกิ” คู่แข่งแย่งตำแหน่งประธานสภานักเรียนที่เป็นคนสวยและเป็นตรง แต่ตอนหลังกลายเป็นว่าชอบพระเอกซะงั้น (พูดง่ายๆ มีความเป็นคาแร็คเตอร์ประธาน) คนที่สาม “คิบะ มิฟุยู” สมาชิกของชมรมวิจัยขนมหวาน ซึ่งที่จริงเป็นรุ่นพี่ของพระเอกหากแต่ร่างกายอ่อนแอจำเป็นต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลจนซ้ำซั้นหนึ่งปีเป็นเพื่อนรักกับจิซาโตะและพระเอกชนิดไปโรงเรียนด้วยกัน แอบชอบพระเอกแต่เป็นเพราะเกรงใจจิซาโตะทำให้ไม่กล้าไปสอดแทรกความรักจิซาโตะ คนที่สี่คือ “โมริชิตะ มิจิรุ” สาวเยือกเย็นลึกลับสมาชิกใหม่ของชมรมวิจัยขนมหวานที่พึ่งเข้าชมรมไม่นาน พฤติกรรมแปลกๆ (หลายคนอวยเธอว่า “น้องแมว”) และ “อาโออิ อิซาระ” นักเรียนโควตาพิเศษ ยากจนที่ต้องเลี้ยงดูครอบครัว ที่ภายหลังรู้จักพระเอกและเริ่มช่วยเหลือพระเอกในการเลือกตั้ง
Koi to Senkyo to Chocolate เปิดฉากออกมาด้วยความตกตะลึง ด้วยฉากนักข่าวสาวกำลังแอบถ่ายการคดโกงอะไรบางอย่าง ก่อนที่เธอจะโดนรถชนโดยมีสาวลึกลับเป็นคนขับรถดังกล่าว (เชื่อว่าน่ะสาวลึกลับคนนั้นจะเป็นหนึ่งในคนที่พระเอกรู้จัก) ซึ่งแตกต่างจากอนิเมะแนวโรแมนติกเรื่องอื่นๆ โดยสิ้นเชิง เพราะฉากแรกส่วนมากมักขึ้นต้นด้วยฉากของพระเอกหรือเหล่าสาวๆ มากกว่า (เช่นพระเอกฝัน, พระเอกอยู่บนรถไฟไปบ้านนอก ฯลฯ) เรียกได้ว่าใครเห็นฉากชิบหายเปิดเรื่องแล้ว มันเหมือนดึงดูดให้ติดตามการ์ตูนเรื่องต่อว่ามันเกิดอะไรขึ้น?
หลังจากจบฉากชิบหายดังกล่าว การ์ตูนก็ดำเนินเรื่องทั่วไป ทวินเทลเพื่อนสมัยเด็กบุกห้อง นั่งคร่อมพระเอกบนเตียงนอนและได้เจอเจ้าหนูตั้งโด่แต่เช้า ตบพระเอกตามระเบียบ (มุกเชยมาก) ไปโรงเรียนด้วยกัน จากนั้นเนื้อเรื่องก็มีฉากแนะนำตัวละครแต่ละตัว ทั้งตัวละครหลัก (นางเอกทั้ง 5) ตัวละครรอง (พวกคุณครูหรือสาวนักวิทย์โลลิ) ตัวประกอบ (ที่มีพวกแปลกประหลาดเหนือธรรมชาติรวมอยู่ด้วย) หรือแม้แต่ตัวละครลับ (เพื่อนชายพระเอกที่อยากวายกับพระเอก ตัวละครลับเลยน่ะเนี้ย) ก่อนที่จะเข้าเนื้อหาหลักคือการเลือกตั้งประธานนักเรียน ที่พระเอกต้องใช้ทุกวิธีในการหาคะแนนเสียงจากคนทั้งโรงเรียน ทั้งๆ ที่พระเอกเป็นคนธรรมดาโลกขี้เกียจจำ ไม่ได้โดดเด่นอะไรทั้งสิ้น เก่งก็ไม่เก่ง ฉลาดก็ไม่ฉลาด มีดีอย่างเดียวคือเป็นคนมุ่งมั่นและสาวๆ ในฮาเร็มเยอะเท่านั้น (ส่วนจะจบแบบเข้าวินหรือฮาเร็มนั้นก็แล้วแต่)
หลังจากดูหลายตอน สิ่งที่ตอบได้ว่าอนิเมะเรื่องนี้มีปัญหา เพราะแตกต่างจากอนิเมะที่สร้างจากเกมจีบสาวเรื่องก่อนๆ (ขี้เกียจยกตัวอย่าง เอาเป็นโซระฟ้าสวยละกัน) กล่าวคืออนนิเมะเรื่องนี้ไม่เน้นความสวยงามของภาพที่ออกมามากนัก เห็นจุดเผาชัดเจน (หน้าตัวละครผิดเพี้ยน) ภาพสีจางๆ ไม่โดดเด่น ลายเส้นก็ไม่ค่อยเหมือนตัวเกมมากนัก (ดีกว่าอนิเมะสายมืดเล็กน้อย) ทำให้ภาพดูดร็อปผิดหวังพอสมควร (หากเปรียบเทียบจากภาพเกม) ไม่รู้เห็นอนิเมะสร้างจากเกมจีบสาวเรื่องที่ผ่านมาภาพสวยแต่ดันไม่ได้รับความนิยมมากนัก เลยทำอนิเมะเรื่องนี้แบบไม่มุ่งหวังอะไรมากหรือเปล่า ภาพถึงเป็นแบบนี้
ส่วนสาเหตุที่ผมกังวลกับอนิเมะเรื่องนี้ก็คือ ที่ผ่านมาการ์ตูนอนิเมะที่สร้างจากเกมนั้นมีแต่ทรงกับทรุด สาเหตุเป็นเพราะอนิเมะไม่สามารถเรียงร้อยเนื้อหาจากเกมให้ประทับใจคนดูได้นั้นเอง เพราะในเกมจีบสาวนั้นมีหลายรูทในแต่ละตัวละคร พร้อมฉากจบหลายแบบ ซึ่งเกมจีบสาวส่วนใหญ่เราจะเล่นตามรูทของสาวนั้นๆ ซึ่งไม่มีฉากจบฮาเร็ม ที่นี้ก็เป็นปัญหา เพราะว่าเราจะทำรูท หลายเส้นทางเหล่านั้นอย่างไรให้เป็นเนื้อหาเดียวกันในอนิเมะ ยิ่งเกมจีบสาวที่มีตัวละครผู้หญิงมากยิ่งยากเป็นทวีคุณว่าเอ็งจะทำอย่างไงให้สาวเหล่านี้อวยเท่าเทียมกัน และจะจบอย่างไรให้หลายคนรับได้ ซึ่งขอตอบว่าควรจบแบบฮาเร็ม เพราะเข้าวินก็เหมือนหักหลักคนดู คนที่เราอวยไม่สมหวังรักคุดร้องไห้ รับไม่ได้อย่างยิ่ง ซึ่งตรงจุดฉากจบนี้แหละคือตัววัดเลยว่าอนิเมะสร้างจากเกมจีบสาวมักดับ ตายตอนจบหลายต่อหลายเรื่อง โดยผู้ผลิตไม่เข้าใจเสียทีว่าเป็นเพราะเหตุใด (ส่วนตัวผมก็ไม่รู้เรื่องราวของเกม Koi to Senkyo to Chocolate นักหรอกว่าเป็นอย่างไร อนิเมะเอาความเป็นเกมใส่มากขนาดไหน สามารถรับได้หรือเปล่า)
อย่างไรก็ตาม พอผมเห็นผู้กำกับอนิเมะนี้ผมก็พอใจพอสมควร เพราะผู้กำกับอนิเมะนี้ กำกับโดย Toru Kitahata (ผลงานที่ผ่านมา Ore no Imouto ga Konnani Kawaii Wake ga Nai, Ookami Kakushi และ Boku wa Tomodachi ga Sukunai) ซึ่งอนิเมะที่ผ่านมาจบฮาเร็มทั้งสิ้น (ผมอวย Ookami Kakushi เป็นพิเศษ) อีกทั้งวางบทได้ดีระดับหนึ่ง หลังจากที่ได้ดูการ์ตูนไปสามตอน ผมก็พบว่าการ์ตูนเรื่องนี้ดำเนินเรื่องได้น่าติดตามมาก เพราะดำเนินเรื่องโดยมีการเลือกตั้งเป็นเรื่องหลัก ที่เป็นการเลือกตั้งแบบจริงๆ จังๆ สาเหตุเพราะโรงเรียนที่พระเอกอยู่เป็นโรงเรียนใหญ่ ระบบสภานักเรียนต้องควบคุมเงินจำนวนมหาศาล ต้องดูแลกิจกรรมทุกอย่างในโรงเรียน ถือว่าการเป็นประธานสภานักเรียนก็เหมือนกับผู้ทรงอิทธิพลอย่างหนึ่ง ทำให้การเลือกตั้งในเรื่องนี้ก็เหมือนการเมืองดีๆ นี้เอง มีทั้งวิธีขี้โกง เล่นเส้น การหาเสียง ฯลฯ ให้ได้เรียนรู้ว่าสังคมไหนๆ หากมีเรื่องผลประโยคเข้าเกี่ยวข้อง มนุษย์ก็จะหาทุกวิธีการได้มาผลประโยชน์นั้น นอกจากนี้เนื้อหายังเน้นผมจิตใจของตัวละครและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครสาวๆ กับพระเอกให้ได้ตกใจเหมือนกัน ที่ตัวละครผู้หญิงเหล่านี้มีปมจิตใจแตกต่างกัน อย่างเช่น ทวินเทลจิซาโตะนั้นมีความหลังไม่ดีกับช็อกโกแลตที่มันทำให้เธอนึกถึงวันที่น้องชายของเธอตาย, ซัตสึกิสาวผมยาวมาดตัวเต็งประธานนักเรียนที่เนี๊ยบทุกอย่างหากแต่เธอไม่ถูกกับพี่สาวและต้องการเอาชนะพี่สาวของเธอ แต่ที่น่าตกใจที่สุดความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกกับคุณครูที่ปรึกษาพระเอกในตอนท้ายตอนที่ 3 ที่พระเอกซบอกครูแบบให้ผมตกตะลึง ซึ่งผมต้องแว่บไปหาข้อมูลก็พบว่าคุณครูแอบชอบพระเอก เรียกได้ว่าอนิเมะนี้ต้องเอาข้อมูลในเกมไปประกอบเพราะเราต้องรู้นิสัยตัวละครเหล่านั้นให้ถ่องแท้เสียก่อน ว่าสาวๆ เหล่านั้นมองพระเอกเป็นคนแบบไหน
ข้อเสียอนิเมะเรื่องนี้มีจุดหนึ่งให้ได้ติ คือมันไม่ค่อยมีฉากเซอร์วิสเท่าไหร่ หากมีมันจะมีแสงศีลธรรมมาบังอย่างโอเวอร์ อย่างฉากกางเกงในน้องแมวนี้แสงแสบตามาก แค่กางเกงในจะบังเซ็นเซอร์อะไรหนักหนา ขนาดการ์ตูนบางเรื่องจุกหัวนมยังเห็นเต็มๆ เลย
สุดท้ายนี้ผมอยากให้อนิเมะเรื่องนี้จบอย่างฮาเร็ม (ซึ่งผมวาดตอนจบเอาไว้แล้ว) เหลือแต่ผู้กำกับเท่านั้นว่าจะทำอนิเมะเรื่องนี้ตรงใจผมหรือเปล่า?
Kono Naka ni Hitori, Imoto ga Iru!
Kono Naka ni Hitori, Imoto ga Iru! แปลอังกฤษว่า My Little Sister is among them! หรือ “น้องสาวตัวน้อยของฉันอยู่ในหมู่พวกเขา!” เป็นอนิเมะดัดแปลงจากไลท์โนเวลของ Hajime Taguchi. เป็นเรื่องราวของพระเอกชื่อ “โชงะ” พระเอกหน้าตากากๆ (แต่ในเรื่องกำหนดว่าหล่อ) ที่พ่อเป็นถึงประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ต่อมาพ่อของเขาก็เสียชีวิตลง เพื่อตามประสงค์ของพ่อ พระเอกต้องเข้าไปเรียนโรงเรียนริวอิน โรงเรียนคุณหนูเพื่อที่จะฝึกฝนเพื่อเป็นประธานของมิคาโดโนะกรุ๊ปต่อจากพ่อ และตามพินัยกรรมก็ได้ระบุไว้ว่าภายในเวลาสามปีที่อยู่ในโรงเรียนนี้ จะต้องหาคู่แต่งงานให้ได้ (น่าจะระบุด้วยว่าจะมีกี่คนก็ได้) หากแต่มันก็เกิดปัญหาขึ้นมีเค้กวันเกิดและโทรศัพท์ลึกลับที่มาประกาศตัวว่าตนคือน้องสาว (แปลกหน้า?) และจะแต่งงานกับพระเอกให้ได้ซะนี่สิ แล้วพ่อพระเอกของเราจะทำยังไงต่อไป ในเมื่อตัวเองไปทำตัวเป็นพระเอกเกมส์จีบสาวที่ปักธงเค้าไปทั่ว แต่ดันไม่รู้ว่าใครจะเป็นแทรป"ค้ำคอร์"ซะงั้น
สำหรับกรุนางเอกในอนิเมะนั้นมีถึง 5 คน (รู้สึกมีคนบอกว่ามีตอนหลังๆ เพิ่มอีกเป็น 9 คน รวมสาวมิสเตอร์ X ด้วย) (ไม่รู้ว่าอาจารย์โลลิเป็นบอสลับหรือเปล่า?) คนแรกตัวหลัก “สึรุมิ โคโนเอะ” สาวผมยาวที่ชอบของหวานโดยเฉพาะชูครีม(จนหลายคนเรียกเธอว่าหนูชูครีม) อยู่ห้องเดียวกับพระเอกและรักพระเอกตั้งแต่แรกเห็น (ดูเหมือนรู้จักพระเอกมานานแล้ว) พยายามจะยั่วพระเอกทุกอย่าง คนที่สองก็เป็นตัวหลักเช่นกันคือ “คันนางิ มิยาบิ” สาวทวินเทลที่ตอนแรกซึน (แต่ไม่นานก็แตก) ที่ดูเหมือนรู้จักพระเอกมานานและทำทุกอย่างให้พระเอกหลงรักเธอแข่งกับโคโนเอะ (พระเอกเองก็ควบไปเถอะ สาวๆ ลงทุนซะขนาดนั้นแล้ว) คนที่ 3 “คุนิทาจิ รินกะ” สาวผมยาวสีทอง รองประธานนักเรียนที่อารมณ์คล้ายๆ ยุย จาก To Love Ru เป็นลูกคุณหนู, คนที่ 4 “เทนโด มานะ” ประธานนักเรียนที่นิสัยโอบอ้อมอารี และคนที่ 5 “ซาการะ เมย์” รุ่นพี่สาวแว่น (เด็ก ม.6) ชอบแต่งชุดเมด ทำงานร้านเมดคาเฟ่น้องสาว (ตัวละครลับน่าจะเป็นคุณครูโลลิ!!) และขอบอกว่าฮาเร็มมันไม่หยุดเพียงเท่านี้ด้วย โดยอยากมีภาคสอง ขึ้นอยู่กับกระแสว่าจะมีภาคสองด้วยว่าจะมีหรือเปล่า
Kono Naka ni Hitori, Imoto ga Iru! น่าจะเป็นการ์ตูนสำหรับคอฮาเร็มโลกชมสีชมพูของแท้ (ส่งผลทำให้เกิดสองเสียงคือ คนที่ชอบก็จะชอบมาก คนที่เกลียดฮาเร็มก็จะเกลียดมาก) เอาแบบนี้ขอเล่าความชอบก่อน คือดูการ์ตูนเรื่องนี้แล้วโครตน่าอิจฉาพระเอกจริงๆ ชีวิตดั่งหนุ่มเจ้าสำราญ หรือสุลต่านในวังที่ไหนสักแห่ง แบบว่าชีวิตของพระเอกนี้มันเป็นชีวิตใฝ่ฝันของหนุ่มโสดที่อยากหนีโลกมากๆ ไม่ว่าจะเป็น พระเอกเป็นฉลาด หน้าตาดี (แต่ในเรื่องหน้าตาออกจะกากๆ) ร่ำรวย นิสัยดี นี่คือตัวตนของพระเอกที่คนหนีโลกชีวิตโสดสนิทอยากจะเป็น เรียนในโรงเรียนคุณหนู สร้างความสัมพันธ์กับสาวไปทั่ว เข้าหาสาวนิดหน่อยสาวหลง (โคโนเอะและมิยาบิทั้งคู่แอบชอบพระเอกมานานแล้ว เลยตกหลุมรักง่ายดาย) ใช้ชิวิตกับสาวๆ ชนิดอยู่ด้วยกันอย่างใกล้ชิด (ที่เหลือไม่อยากพูด ต้องดูเอาเอง) แต่ไม่มีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง ชีวิตแบบนี้มันช่างเป็นราชามหาฮาเร็มจริงๆ ว่ะ
สำหรับภาพนั้นก็พอรับได้ระดับหนึ่ง ผมว่าการทำมุมกล้องทำได้ดีเลย สัดส่วนตัวละครเย้ายวน (แต่ติตรงมันเซ็นเซอร์กางเกงในน่าเกลียดมาก ดำทมิฬ ที่เปลือยตัวนี้ดันไม่เซ็นเซอร์ ลำเอียงสุดๆ) การดำเนินเรื่องแตกต่างจากนิยายไลท์โนเวลมากน้อยเพียงไหนผมไม่รู้ แต่ทำออกมาได้น่าติดตามดี อาจมีจุดที่ตัดรายละเอียดไปบ้าง แต่เด่นที่สุดคือฉากเซอร์วิสนี้สิ โดดเด่นน่าอิจฉามาก ตัวละครก็น่ารัก แถมยังเพิ่มความน่าติดตามอีกว่า “ใครคือน้องสาวของพระเอกกันแน่?” ดูไปอาจมีหลอนเป็นบางช่วง แต่ส่วนใหญ่แล้วอิจฉาพระเอกมากกว่า โหยชีวิตเอ็งอะไรจะโชคดีขนาดนี้ว่ะ ฉากที่เมพที่สุดในเรื่องคือโคโนเอะกับมิยาบิเปลือยกายนอนบนเตียงนอนกับพระเอก จนพระเอกไม่นอนทั้งคืน!! ถ้าเป็นมาโกโตะนี้หวานคอแร้งชัวร์
ดูไปอิจฉาพระเอกไป ถูกใจคอฮาเร็มผมจริงๆ (แต่อยากให้พระเอกกากไม่ได้เรื่องสักนิด จะเมพมากขอบอก) ส่วนผู้กำกับเรื่องคือ Munenori Nawa (ผลงาน Kiss x Sis, R-15} Otome wa Boku ni Koishiteru) แค่ผลงานก็การันตีว่าเน้นฉากเซอร์วิสอละฮาเร็มแน่นอน พูดง่ายๆ เป็นการ์ตูนถูกใจคอฮาเร็มและค้ำคอร์ (ที่อยากหนีโลกเพราะโลกแห่งความจริงน้องสาวตรูมันช่างน่ากลัวเหมือนสัตว์ประหลาดเหลือเกิน) แต่เป็นที่รังเกียจสำหรับคนไม่ชอบฮาเร็มไม่เข้าใจโลกสีชมพูของคนโสดอยากหนีโลก (ส่วนไลท์โนเวล ลิขสิทธิโดยรักพิมพ์ซึ่งจะออกวางแผงเร็วๆ นี้และผมซื้อเก็บแน่นอน
Dakara Boku wa, H ga Dekinai
Dakara Boku wa, H ga Dekinai เป็นการ์ตูนที่สร้างจากนิยาย ผลงานของ Pan Tachibana และได้ดัดแปลงเป็นมังงะ และทำเป็นอนิเมะในปี 2012
Dakara Boku wa, H ga Dekinai เป็นเรื่องของ “คางะ เรียวสึกะ” นักเรียนมัธยมปลายที่มีนิสัยหื่น และถือคติว่า “ผู้หญิงบนโลกคือสมบัติของเขา” จนเป็นที่รังเกียจของคนเกือบทั้งโรงเรียน (ยกเว้นคนกลุ่มหนึ่งที่เห็นคุณค่าของพระเอเ) จนกระทั่งวันหนึ่งในขณะที่เขากำลังเดินกางร่มท่ามกลางฝนตก ที่หน้าบ้านเขาก็ได้เห็นสาวสวยนัยน์ตาสีแดง ผมแดงกำลังยืนเปียกอยู่กลางสายฝนคนเดียว ด้วยความที่นิสัยไม่อยากให้ผู้หญิงเสียใจ เรียวสึกะเลยไปช่วยเหลือเธอ ระหว่างที่เขาพาเธอเข้าบ้านเพื่อตากเสื้อให้แห้ง แต่เขากลับถูกเธอแทงด้วยดาบกลางอกซะงั้น และเมื่อตื่นอีกทีก็พบว่าผู้หญิงคนนั้นคือเทพธาแห่งความตายระดับท็อปคลาส ที่มีภารกิจตามหาชิ้นส่วนพิเศษบนโลกมนุษย์ ที่อาจซ่อนอยู่ในตัวของผู้มีพรสวรรค์พิเศษ หากแต่สาวผมแดงไม่สามารถอยู่บนโลกนี้ได้หากไม่มีพลังงานของมนุษย์ เธอเลยเลือกพระเอกเป็นแหล่งพลังงาน โดยทำพันธะสัญญาแล้วดูดพลังหื่นของพระเอกมาใช้ ซึ่งเธอก็พบว่าพลังหื่นของพระเอกนี้มันเทพเวอร์จริงๆ และพระเอกก็ต้องช่วยเหลือสาวผมแดงตามหาชิ้นส่วนพิเศษโดยมีใครบางคนที่จ้องที่จะขัดขวาง
ตอบตามตรงว่านี่เป็นอนิเมะที่ผมรอที่สุดในซีซั่นนี้ก็ว่าได้ สาเหตุเนื่องมาจากอ่านมังงะ (แต่ไม่ได้อ่านไลท์โนเวลหรอก) แล้วรู้สึกชอบ พระเอกเมพดี เนื้อหาอาจงงๆ อยู่บ้าง (ตรงคำศัพท์เข้าใจยากไปนิด) แต่ถ้าคิดแบบง่ายๆ เนื้อหาก็สูตรสำเร็จแหละ แนวพวกพระเอกตามหาอะไรสักอย่าง แล้วก็ไปเจอศัตรูทำการต่อสู้ ผสมกับฉากเซอร์วิสฮาเร็มก็น่าจะทำให้คออย่างผมดูแล้วกระชุมกระชวยบ้าง
หลังจากที่ได้ดูตอนแรก (และตอนหลังๆ ) ก็พบว่าค่อนข้างน่าผิดหวัง เพราะเห็นได้ชัดเลยว่ามีการเปลี่ยนเนื้อหาแตกต่างจากไลท์โนเวลชัดเจน (ไม่ได้อ่านไลท์โนเวลหรอก แต่เทียบกับมังงะเห็นได้ชัดเจน) เนื้อหาดำเนินเรื่องเร็วมาก ขาดการละเมียดละไม เปลี่ยนเนื้อหาไปเยอะจนน่าใจหาย ความน่าติดตามไม่มี เนื้อหามั่วๆ จึงไม่แปลกหากคุณไปอ่านรีวิวเรื่องนี้ที่ไหนมีแต่คนมาด่า เลิกดูกลางคันด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม แม้มีคนด่าว่าเพียงใดก็ตาม สำหรับผมแล้ว อนิเมะเรื่องนี้กลายเป็นอนิเมะที่ต้องติดตามต่อสัปดาห์มากที่สุด โอเคเนื้อหาคล้ายๆ Highschool D×D แต่ดูเหมือนว่ากอนิเมะเรื่องนี้แย่กว่า แต่ผมไม่สน เพราะความอคติที่ผมดู Highschool D×D ไม่สนุก เลยอยากอวยเรื่องนี้แข่งซะเลย
ใครที่ดู Highschool D×D เรื่องนี้มีอารมณ์ที่คล้ายกัน หากแต่เรื่องนี้วางพระเอกให้เป็นหนุ่มลามกกากๆ ยิ่งกว่าพระเอก Highschool D×D เสียอีก พระเอกเรื่องนี้ไม่มีพลังต่อสู้สักนิด แต่เป็นเบ๊ฝ่ายสนับสนุนนางเอกให้เก่งเทพ โดยต้องถ่ายทอดพลังให้แก่เธอ แต่การให้ได้พลังนั้นพระเอกต้องหื่นก่อน ซึ่งตรงหื่นนี้แหละคือความขำ เพราะผมขำมุกหื่นของมันครับ มุกมันเทพจริงๆ พับผ่า ชนิดตอนแรก ทุ่งหญ้าสีแดงลึกลับ ทำเอาผมหัวเราะลั่นบ้านราวกับคนเป็นบ้า ตอนที่ 4 โครตขำตรงพระเอกเอาหน้านางเอกซุกไปที่หนึ่ง แล้วก็...... โห คิดได้ไงว่ะ เจ้าพระเอกของตรู แถมตอนประโยคที่พระเอกพูดเมพฟังเหมือนสุภาพบุรุษที่ปกป้องผู้หญิงแต่การกระทำของเอ็งนี้ศัตรูของผู้หญิงชัดๆ สวนทางกับคำพูดของเอ็งชิบ (เช่นจับหน้าอก, พูดหื่นๆ แต่ฮ่าที่สุดตรงประโยคที่ว่าดูนมลิซ่าแล้วมีอารมณ์ ตอนแรกนางเอกเขินหน้าแดง แต่ตอนหลังมาคิดได้ว่ามันพูดเมพตรงไหนว่ะเนี้ย ลวนลามตรูชัดๆ) สำหรับคนธรรมดาอาจไม่ขำ แต่พวกที่ชอบตลกลามกหื่นสองแง่สองง่ามแล้วเยี่ยมจริงๆ พูดง่ายๆ ผมติดตามเรื่องนี้ เพื่อจะรอดูว่าเจ้าพระเอกมันจะมีมุกหื่นยังไงอีก ดูแล้วเพื่อศึกษาเอามาใช้ (ใช้เพื่ออะไร?) ก็ได้ พระเอกกากแบบนี้ดีแล้วละ ใครที่เบื่อพระเอกเก่ง มาดูพระเอกกากเรื่องนี้เลย
ส่วนนางเอก “ลิซาร่า เรสทอล” สาวผมแดงเรื่องนี้เป็นฝ่ายข่มพระเอก และเป็นนางเอกการ์ตูนเรื่องนี้ช่างน่าสงสาร เพราะชุดคุณเธอขาดได้ง่ายมาก นิสัยออกจะซึนๆ ชอบด่าว่าพระเอก แต่พอพระเอกปล่อยหื่นนี้ลิซาร่าใจอ่อนซะงั้น แถมความหื่นของพระเอกทำให้สาวๆ ตัวหลักของเรื่องต้องสยบ “โอคุระ มินา” เพื่อนสมัยเด็กของพระเอก แถมยังเป็นสาวแว่นหน้าอกใหญ่ที่แอบชอบพระเอก ที่มีพลังแฝงระดับท็อป “เคียวลู” ญาติของลิซาร่า เจอพระเอกเมพ ปักธงทันใด และ “อีริยา” คู่ปรับลิซาร่าเป็นไอดอท อย่างไรก็ตามนางเอกหลักลิซาร่าหวงพระเอกสุดๆ แถมเน้นบทลิซาร่าอีก ไม่รู้จะได้เห็นบทอวยฮาเร็มหรือเปล่า
สิ่งที่ตกใจการ์ตูนเรื่องหนึ่งมีอย่างหนึ่งคือการ์ตูนไม่เซ็นเซอร์จุกนมแม้แต่น้อย ทำให้เราได้เห็นนมของบรรดาสาวตัวหลักๆ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นหลัก กลาง หรือใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามถึงขั้นเมานมมากนัก โดยส่วนตัวผมชอบเสียงพากย์พระเอกที่ใช้คนพากย์ Hiro Shimono คนพากย์ที่ผมชอบส่วนตัวเพราะพากย์พระเอกฮาเร็มได้ลื่นดี การ์ตูนกำกับโดย Takeo Takahashi
Sword Art Online
Sword Art Online เป็นนวนิยาย แบบญี่ปุ่น light novel โดยผู้เขียน Reki Kawahara เป็นคนเขียนคนเดียวที่แต่ง Accel World ที่ผมขอประกาศอย่างชัดเจนว่า “มิ่งเอาจิยุเพื่อนสมัยเด็กของกรูคืนมาและกรูไม่เอารุ่นพี่ผมดำ”
พูดตามตรง อย่าโกรธผมน่ะ Sword Art Online เป็นอนิเมะที่ผมดูแบบดูบ้างไม่ดูบ้างในซีซั่นนี้ พูดง่ายๆ คือไม่ดูก็ไม่เป็นไร ไม่ถึงขั้นติดตามกระหายอยาก ผิดจาก 6 เรื่องข้างต้น ผมติดตามชนิดเต็มตอน โอเค Sword Art Online เป็นการ์ตูนที่หลายคนติดตามมากที่สุดในซีซั่น แต่ผมส่ายหัวเพราะมีคำว่าออนไลน์ต่อท้าย สำหรับผมแล้วไม่ถูกกับออนไลน์กับแฟนตาซีแบบสุดๆ เพราะเต็มไปด้วยศัพท์ออนไลน์ และศัพท์แสลงที่แสนไม่คุ้นเคย บวกกับชอบแนวฮาเร็มโลกสีชมพู การดูอนิเมะนอกเหนือจากนี้เป็นสิ่งที่ทรมานสำหรับคนแก่อย่างผม แต่ผมก็ทนกระแสเรียกร้องให้ต้องมาดูแบบช่วยไม่ได้
Sword Art Online เนื้อเรื่องในปี 2022 ระบบโลกเสมือนจริง Virtual reality ได้ให้กำเนิดระบบเกมการเล่นด้วยคลื่นสมอง Massive Multiplayer Online Role-Playing Game (VRMMORPG) Sword Art Online (SAO) โดยใช้ Nerve-gear ได้เริ่มให้บริการหลังจากทดลองเล่นในวันที่ 22 พฤจิกายน 2022 เมือเข้าเล่นเกมไปได้ 6 ชั่วโมงหลังเปิดบริการ Kazuto Kirigaya พร้อมผู้เล่นอีก 10,000 คน ได้ติดอยู่ในเกมไม่สามารถออกจากเกมได้ และหากถอดNerve-gearออกก็จะปล่อยคลื่นไมโครเวฟแรงสูงออกมาทำลายสมองโดยตรง โดยผู้สร้างเกมส์ได้มอบ Item ให้ทำให้ปรากรฎร่างเสมือนแสดงรูปร่างที่แท้จริงแบบเดียวกับในโลกจริงออกมา และบอกว่าต้องขึ้นยัง หอคอย ชั้นที่ 100 เพื่อจบเกมส์ กลับไปที่โลกความจริง วิธีการผ่านแต่ละชั้นต้องทำลายบอสสูงสุดในแต่ละขั้น เพื่อเปิดประตู ขึ้นไปยังชั้นต่อไป (อย่างกับวาตารุ)
ตัวเอกในการ์ตูนเรื่องนี้คือ "คิริโตะ" เป็นเกมส์เมอร์อัจฉริยะโดยแนวเล่นเป็นแบบ Solo-Player(ผู้เล่นเดี่ยว) ซึ่งเป็นผู้ไม่เข้าร่วมกิลด์ใดๆเลยโดยปกติจะเก็บเลเวลและทำเควสคนเดียว คิริโตะเป็นหนึ่งในผู้เล่นแนวหน้า(ผู้ที่พิชิตบอสในแต่ละชั้น)ในSAO และคอยให้คำแนะนำผู้เล่นอื่น(แบบลับๆ ไม่เอาชื่อเสียง) แต่ ก็มีบุคคลหลายกลุ่มไม่ชอบเขาเนื่องจากเขาทำเควสและเก็บเลเวลในจุดที่ดีกว่าคนอื่น อย่างไรกฌ็ตามหลังจากที่คิริโตะได้เริ่มเกมมาพักหนึ่งเขาก็เริ่มพบเห็นสิ่งต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพ ความรัก และความกล้าหาญ
Sword Art Online เป็นการ์ตูนที่ดี และฮิตในเวลานี้ แต่อนิจจา มันดันเป็นการ์ตูนที่ผมไม่ได้ใส่ใจมากนัก ด้วยสาเหตุต่างๆ มากมาย โอเค เปิดมาตอนแรกมีภาพสวย ประทับใจ มุกเกมออนไลน์ แต่อนิจจาผมด้วยสาเหตุแรกคือ “ผมไม่ถูกกับเกมออนไลน์” ทำให้ศัพท์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับเกมออนไลน์ถือว่าเป็นยาขมก็ได้ (ต่อให้นิยายแนวเกมออนไลน์มันฮิตขนาดไหนก็ไม่สน) และนอกจากนั้นมันเป็นแฟนตาซีผจญภัยที่ผมแสนไม่ถูกเท่าไหร่นัก ทำให้หลังจากที่ผมดูตอนที่ 1 ก็ไม่ได้ดูอีกเลย
สาเหตุที่สุดสำคัญที่ผมไม่ได้ดูเรื่องนี้คือ “ไม่มีเวลาดู” เนื่องจากดูจากตารางการ์ตูนที่ผมชอบ (ที่ไล่มาตั้งแต่ต้น) มันดันฉายในช่วงศุกร์ เสาร์เกือบหมด (ไม่ว่าจะเป็น ทุ่งหญ้าสีแดง, น้องสาวค้ำคอร์) ทำให้ผมไม่มีเวลาให้กับ Sword Art Online มากนัก เพราะผมต้องเลือกดูการ์ตูนที่ชอบมาก่อน อย่างไรก็ตามหากมีเวลาสักนิด (หวังว่าจะไม่มีลิขสิทธิซะก่อน) มันอาจช้า แมลงวันตอนหึ่ง (เพราะมันเก่า) แต่ยังดีกว่าไม่ได้ดูเนอะ
มีข้อมูลนิดๆ หน่อย ตอนนี้ Sword Art Online ตอนที่ 16.5 ถูกวาดเป็นโดจินโป๊มากที่สุด ความหื่นไม่เข้าใครต่อใครจริงๆ
Kokoro Connect (ฉายวันที่ 8 กรกฎาคม 2012)
Kokoro Connect เป็นอนิเมะที่ดัดแปลงจากไลท์โนเวลผลงานของ Sadanatsu Anda ภาพประกอบโดย Shiromizakana (คนออกแบบลักกี้สตาร์และเคอง) ตีพิมพ์ในปี 2010 (ตอนที่เขียนออกมาแล้ว 8 เล่มยังไม่จบ) และถูกสร้างเป็นมังงะในปี 2012 ลิขสิทธิดยรักพิมพ์ในชื่อ "เชื่อมหัวใจ สลับร่างอลเวง" (ปล” ความจริงแล้วไม่ได้เน้นสลับร่างเลยครับเพราะ เมื่อจบตอนอิโอริออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็ไม่เกิดการสลับร่างอีกเลย หากแต่ยังมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นมาใหม่แทน)
Kokoro Connect เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มนักเรียนมัธยมปลายที่ประกอบไปด้วยยาเองาชิ ไทจิ, นางาเสะ อิโอริ, อินาบะ ฮิเมโกะ, คิริยามะ ยูอิ และอาโอกิ โยชิฟุมิ นักเรียนชั้นม.ปลายปี 1 แห่งโรงเรียนยามาโบชิ สังกัดชมรมวิจัยวัฒนธรรม (โดยมุมมองของการ์ตูนเน้นมุมมองของไทจิเป็นหลัก เพราะเขาเป็นพระเอกนั้นเอง) เด็กนักเรียนทั้ง 5 คนนั้นใช้ชีวิตนักเรียนอันแสนปกติเหมือนกับคนทั่วๆ ไป จนกระทั่งวันหนึ่งพวกเขาก็ได้เผชิญกับเรื่องเหนือธรรมชาติเมื่อพวกเขาโดนสุ่มสลับร่างในหมู่พวกเขาเอง ซึ่งจู่ๆก็สลับกันโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย โดยบุคคลที่เป็นตัวการก็คือสิ่งที่ลึกลับที่เรียกว่า “Heartseed” ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่ไม่แน่ชัด แต่สิ่งที่ 5 คนรู้ก็คือมันคือบททดสอบมิตรภาพของกลุ่ม ที่การสลับร่างนั้นทำให้ต่างฝ่ายได้รู้เรื่องส่วนตัวและบาดแผลทางใจของอีกฝ่ายที่ไม่อยากเปิดเผยให้ใครรู้ขึ้นมา
ความจริงแล้วผมไม่คิดที่จะดูการ์ตูนเรื่องนี้หรอกครับ ก็อย่างที่บอกแหละดูตอนแรกก็รู้เลยว่าการ์ตูนเรื่องนี้ไม่เหมาะกับผมแน่นอน อารมณ์ของการ์ตูนของจะเฉื่อยๆ และเหมือนจะไม่ฮาเร็ม (ตามคติประจำใจว่า ไม่ฮาเร็มอย่ามาคุยกับกรู) เลยไม่คิดจะดูด้วยซ้ำ ใครมาพูดเป่าหูตรูก็ไม่สนใจ เนื้อเรื่องมันจะดีเยี่ยมดีเลิศประเสริธศรีก็ไม่สน หากแต่แล้วจู่ๆ วันหนึ่งมีนอนเบอร์คนหนึ่งชื่อ “หนอน” (ส่วนจะเป็นหนอนอะไรนั้นก็ไม่รู้แหละ วันหนึ่งก็หนอนเดนตาย วันหนึ่งก็หนอนใส่แว่น หนอนยิ้มแฉ่ง) มาบอกว่าเรื่องนี้ฮาเร็ม ได้ยินดังนี้ใจสั่นเลยโลหดดูซับไทยทันทีไม่ต้องมากความ
หลังจากที่ผมดูตอนที่ 1-3 ผมเพราะสลับกัน งง มาก แถมชื่อตัวละครเรื่องนี้จำยากมาก จนผมสับสนหลายครั้งว่าตอนนั้นตัวละครคนนั้นสลับกับใคร? กว่าที่จะปรับตัวและชอบได้ต้องดูถึง 3 รอบเลยทีเดียว แต่เมื่อปรับตัวแล้วก็สนุกพอสมควร เพราะตัวละครน่ารัก โดยเฉพาะอินาบะนี้น่ารักสุดๆ และเท่าที่ผมรู้ อินาบะนั้นเป็นสาวทอมบอยแรกๆ เลยที่หลายคนอวย ว่าธอคือนางเอกการ์ตูนเรื่องนี้ (ที่แล้วว่าตัวละครที่เป็นสาวทอมบอยไม่ค่อยมีใครอวยเท่าไหร่) พูดตามตรงถ้าไม่มีอินาบะผมก็ไม่ดูเรื่องนี้หรอก (ที่จริงตัวละครในกลุ่มก็มีเสน่ห์หมด แต่พอดีผมชอบอินาบะเท่านั้นเอง)
เนื้อหาการดำเนินเรื่องชวนง่วงพอสมควร เพราะเน้นพูดกัน มีตลก ดราม่าซึ่งมีทั้งน้อยและจัดหนัก ดังนั้นใครที่ไม่ชอบการ์ตูนที่ดำเนินเรื่องเฉื่อยๆ ขอให้ข้ามไปได้เลย
ผมไม่เคยอ่านนิยาย ไม่รู้ว่ามันจะทำตรงต้นฉบับขนาดไหน แต่เท่าที่ดูจากอนิเมะผมก็พบว่าเนื้อไม่มีขาดช่วงเลย ดำเนินเรื่องได้ลื่นไหลมาก โชคดีที่การ์ตูนเรื่องนี้ดำเนินเรื่องโดยมุมมองของไทจิทำให้ไม่สับสนมากนัก และเมื่อจบบทสลับตัว เนื้อหาก็น่าติดตามและไม่สับสนอีกแล้ว
ก็จบแต่เพียงเท่านี้สำหรับการรีวิว (หรือเปล่า?) อนิเมะที่ดูในซีซั่นนี้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ถึงแม้จะดีเลิศประเสริฐศรี คนอื่นอวยขนาดไหนก็ตาม ผมก็ไม่ดู ไม่ตาม (เรื่องที่มีตัวอักษรแดงยังอยู่ในช่วงพิจารณา) อันนี้ขอให้เข้าใจจิตใจผมหน่อย ปกติแล้วผมดูอนิเมะเพื่อกระตุ้นในการทำงาน อยากให้สมองผ่อนคลาย อนิเมะส่วนใหญ่ที่ดูเป็นอนิเมะฮาเร็มสีชมพู (เน้นหื่นเป็นหลัก) ที่ทำให้ผู้ดูอิจฉาพระเอก ได้อยากซาบซ่าหัวใจ หากผมมาดูการ์ตูนดำเนินเรื่องอย่างมีความสุข เฉื่อยๆ ชีวิตผมก็คงเฉื่อยๆ ไปด้วย เอาเป็นว่าบททความนี้ผมรีวิวการ์ตูนฮาเร็มโลกสีชมพูว่ามันดีขนาดไหนก็แล้วกัน ส่วนฮาเร็มอีกหลายเรื่องที่ผมไม่รีวิว ก็เพราะผมไม่ดู เพราะมันไม่เข้าแก๊บๆ ผมจริงๆ บางเรื่องเน้นแอ็คชั่น บางเรื่องมันสงบสุขเกินไป ดังนั้นผมจึงขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยน่ะครับ
กระทู้สรุปอนิเมะประจำซีซั่น Anime of Summer 2012
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2590679
ความคิดเห็น