คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #182 : Another ห้อง 3-3 อาถรรพ์แห่งจิตใจของคน
ปล. บทความนี้สปอยแบบไม่ไว้หน้า ใครไม่ได้ดูอนิเมะนี้ไม่ควรจะอ่าน
Another เป็นอนิเมะที่ได้รับขนานนามว่าเป็นอนิเมะที่โอตากุไม่ควรดู เพราะหัวใจวายตายได้ ไม่ว่าจะเป็นความโมเอะเต็มพิกัดของตัวละคร และอาการเป็นลมเมื่อเห็นตัวละครที่เรารักตาย
Another เป็นอนิเมะที่ผมชอบในปีนี้เรื่องแรก (ติดหนึ่งในอนิเมะในดวงใจเป็นที่เรียบร้อย) แม้ว่าเนื้อหาจะบ้าพลังใน 2 ตอนสุดท้ายบ้าง แต่กระนั้นด้วยเนื้อหาที่เข้มข้น น่าติดตาม ประเด็นหลายๆ เรื่องล้วนเคลียร์หมดไม่ติดค้างแต่อย่างใด (และที่สำคัญพระเอก, นาง และทวินเทลน่ารักมากๆ)
Another
ลึกลับ, สยองขวัญ
Another เป็นอนิเมะแนวลึกลับสยองขวัญที่สร้างมาจากนิยายของยูกิโกะ อายาสึจิ ที่นิยายตีพิมพ์เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2009 และดัดแปลงเป็นมังงะผลงานของ Hiro Kiyohara ตีพิมพ์ในปี 2010 (4 เล่มจบ) และอนิเมะ 2012 (รวมทั้งสิ้น 12) และล่าสุดได้ถูกนำสร้างเป็นภาพยนตร์ภาคคนแสดงที่กำลังจะฉายในวันที่ 4 สิงหาคม 2012 ซึ่งทั้งอนิเมะ, มังงะ, ภาพยนตร์, นิยาย รายละเอียดของเนื้อหาการดำเนินเรื่องจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้ว่าธีมเรื่องจะเหมือนกัน
เรื่องราวของ Another เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1972 นักเรียนชายคนหนึ่งในห้อง 3-3 โรงเรียนมัธยมโยมิยามะ ฝั่งเหนือ ชื่อมิซากิ โยมิยามะ เป็นเด็กเรียนดีมีเสน่ห์เก่งทั้งวิชาการและกีฬา ทำให้ทุกคนในชั้นรวมทั้งครูต่างชื่นชอบเขามาก อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเขาก็เสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุ (ส่วนสาเหตุเสียชีวิตไม่ระบุแน่ชัด บางคนบอกว่าเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินหรือไม่ก็ไฟครอบทั้งครอบครัว) หลังจากเกิดเหตุการณ์เพื่อนและครูในชั้นไม่ยอมรับการจากไปของมิซากิ เลยตัดสินใจทำเหมือนกับว่าเขามีชีวิตอยู่ (พูดคุยกับเขาเสมือนเขามีตัวตนอยู่ตรงนั้น, โต๊ะปล่อยให้ว่างเหมือนเขานั่งอยู่กับเพื่อนร่วมห้อง และกลับบ้านพร้อมกับเขา) แม้แต่การจบศึกษาก็มีโต๊ะว่างสำหรับมิซากิ และแล้วหลังจากจบการศึกษานี้เองก็เกิดเรื่องน่ากลัวขึ้น เมื่อรูปถ่ายที่ระลึกคนในชั้นปรากฏร่างของมิซากิที่ตายแล้วอยู่ร่วมกับคนในชั้นเวลาทุกคนนั้นด้วย เขามีใบหน้าขาวซีด และยิ้มเหมือนคนอื่น ซึ่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของอาถรรพ์แช่งของความตาย ห้อง 3-3
ต่อมาในปี 1973 เรื่องแปลกๆ ได้เกิดขึ้นเมื่อทุกคนในห้อง 3-3 พบว่าจู่ๆ มีนักเรียนพิเศษเพิ่มขึ้นหนึ่งคนโดยไม่มีที่มาที่ไป และมีโต๊ะเพิ่มอีกตัวหนึ่งซึ่งความจริงโต๊ะต้องเท่ากับจำนวนคนในห้อง ตอนแรกพวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องผิดพลาดและไม่สนใจมัน แต่ปรากฏว่าในปีนั้นเองก็มีนักเรียนและครอบครัวของพวกเขาเสียชีวิตในปีนั้นจำนวนมากผิดปกติ และหลังจากนั้นพวกเขาก็พบว่าสาเหตุเกิดจากมีบุคคลที่เรียกว่า “คนตาย” เข้ามาเรียนในห้องเรียน โดยคนตายนั้นเป็นบุคคลที่อดีตเคยเป็นคนมีชื่อเสียงในห้อง 3-3 ที่เสียชิวีตในปีหรือสองสามปีก่อน หากแต่ด้วยเหตุใดไม่ทราบพวกเขาได้คืนชีพและกลับมาเรียนห้อง 3-3 อีกครั้ง (คนที่ตายสามารถเป็นนักเรียนหรือครูได้) โดยคนตายมีความสามารถพิเศษคือสามารถเปลี่ยนความทรงจำคนรอบข้างคิดว่าคนตายเป็นคนที่มีชีวิตอยู่ และคนตายเองก็ไม่มีคนที่ไม่รู้ตัวว่าตนเองตายนานแล้ว และเมื่อคนตายอยู่ร่วมกับคนเป็นก็จะเกิดอาถรรพ์คือในหนึ่งเดือนจะมีนักเรียนห้อง 3-3 และสมาชิกในครอบครัวของนักเรียน 3-3 คนใดคนหนึ่งอย่างน้อยหนึ่งคนจะเสียชีวิตแบบปัจจุบันทันด่วน ซึ่งถือว่าเป็นอาถรรพ์ที่สยองขวัญและอันตรายมาก ดังนั้นในหลายปีที่ผ่านมาจึงมีหลายฝ่ายพยายามแก้ไขอาถรรพ์ดังกล่าว ลองผิดลองถูกมาก็มาก ไม่ว่าจะเป็นเปลี่ยนชื่อห้อง 3-3 ย้ายนักเรียน ทุบอาคารทิ้ง ฯลฯ แต่สุดท้ายก็ไม่มีวิธีใดหยุดอาถรรพ์เหล่านี้ได้เลย จนกระทั้ง 10 ปีที่ผ่านมา พวกเขาก็พบวิธีป้องกันอาถรรพ์(ที่มีผลเพียง 50 เปอร์เซ็นต์) ก็คือต้องเลือกคนในห้อง 3-3 มาหนึ่งคน (ซึ่งคนนั้นจะเป็นคนเป็นหรือคนตายก็ได้) เพื่อรับบทเป็น "คนไร้ตัวตน" และคนทั้งห้องต้องทำเหมือนกับว่าเขาไม่มีชีวิตอยู่ และต้องรักษากฎอย่างเคร่งครัด หากละเลยเพียงน้อยนิด คำสาปจะเกิดขึ้น ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมาห้อง 3-3 ได้ใช้วิธีดังกล่าวจึงเอาตัวรอดจากอาถรรพ์และทุกคนได้จบการศึกษาได้สำเร็จลุล่วง
จนกระทั่งถึงปี 1998 ห้อง 3-3 ปีดังกล่าวได้เลือกนักเรียนหญิงคนหนึ่งคือ มิซากิ เมย์รับบทเป็นคนไร้ตัวตน และคนทั้งชั้นต้องปฏิบัติต่อเธอเหมือนไม่มีเธออยู่ วิธีนี้เหมือนจะสำเร็จลุล่วง หลายคนคิดอย่างงั้น หากแต่ในเดือนเมษายนอาถรรพ์ก็เกิดขึ้นเมื่อแฝดเมย์ได้เสียชีวิตอย่างปัจจุบันทางด่วน หากแต่คนในห้อง 3-3 ไม่รู้เรื่องดังกล่าวเลย ต่อมาในเดือนพฤษภาคมนักเรียนชายคนหนึ่งชื่อซากากิบาระ โคอิจิ นักเรียนย้ายเข้ามาใหม่ที่ไม่รู้อาถรรพ์ห้อง 3-3 มาก่อนได้ทักเมย์และทำเหมือนกับเธอมีชีวิตอยู่เข้า จนทำให้พวกเขาเชื่อว่าทั้งโคอิจิและเมย์เป็นต้นเหตุของอาถรรพ์ จนทำให้นักเรียนสองคนและสามสมาชิกครอบครัวเสียชีวิตลง หลังจากนั้นทั้งห้องเลยใช้วิธีให้เมย์และโคอิจิรับบทคนไร้ตัวตนทำเหมือนกับพวกเขาไม่มีชีวิตอยู่ แต่วิธีนี้มีโอกาสเพียงร้อยละ 50 ที่จะประสบผลสำเร็จเท่านั้น และผลสุดท้ายในเดือนต่อมาก็มีผู้เสียชีวิตอยู่ดี
หลังจากนั้นทางห้อง 3-3 ก็พยายามหยุดหายนะนี้ จนกระทั้งมาพบวิธีหยุดหายนะในปีนี้ ก็คือ “การส่งคนตายกลับไปสู่ความตายอีกครั้ง” ความหมายก็คือต้องฆ่าคนตาย เพื่อหยุดหยุดอาถรรพ์ เมื่อฆ่าคนตายได้เขาจะหายไป และไม่มีคนจดจำคนตายนี้ได้ ส่วนผู้ฆ่าก็จะลืมคนตายในเวลาต่อมา ซึ่งวิธีดังกล่าวจะต้องรู้ตัวคนตายตัวจริงก่อนว่าเป็นใคร และหากรู้แล้วต้องปรึกษาคนทั้งชั้นก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อ หากแต่ห้อง 3-3 ได้ละเลยเรื่องดังกล่าว โดยต่างคนต่างตัดสินสุ่มเอาเองว่าใครคือคนตาย จนเกิดหายนะอย่างน่าสยดสยองในเวลาต่อมา ทำให้สมาชิกในห้อง 3-3 ปี 1998 มีคนตายมากที่สุด ยิ่งกว่าตอนเกิดอาถรรพ์ธรรมดาเสียอีก
ต่อไปนี้คือรายชื่อสมาชิกห้อง 3-3 ทั้งนักเรียนและอาจารย์ ห้อง 3-3 โยมิยามะ ฝั่งเหนือ ในปี 1998 ในอนิเมะ ซึ่งนักเรียนบางคนไม่เคยปรากฏในมังงะหรือในนิยาย ในขณะที่บทตัวละครบางตัวไม่เหมือนนิยายหรือมังงะ เป็นเหตุทำให้ตอนแรกผู้ดูไม่รู้เลยว่านักเรียนเขาและเธอคนไหนจะตายบ้าง บางคนคิดหนักกลัวพระเอกและนางเอกตายก็มี (เรียงจากการนั่งโต๊ะจากซ้ายไปขวา)
อาคาซาวะ อิซูมิ (Akazawa Izumi) (ตาย) สาวทวินเทลผมแดงซ้ำรัก อายุ 15 ปี หัวหน้าฝ่ายป้องกันห้อง 3-3 (หรือพูดง่ายๆ คือผู้นำห้อง 3-3 นั่นเอง) โดยในมังงะเธอมีพี่ชายคนหนึ่งที่มีอาการทางจิตและมักล็อกตัวเองอยู่กับห้องก่อนที่จะฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอ ส่วนในอนิเมะพี่ชายของเธอไม่ปรากฏตัวแต่หลายคนเชื่อว่าเขาเป็นคนฆ่าริงโกะป้าของพระเอกตาย
ภายนอก อิซูมิ (ต่อไปขอเรียกว่าทวินเทิลเพื่อความสะดวก) เหมือนเป็นคนเย็นชา เข้มแข็งและตรงไปตรงมา จนดูเหมือนห่าม แต่ความจริงแล้วเธอเป็นคนเก่ง รับผิดชอบต่อหน้าที่ และมักตำหนิตัวเธอทุกครั้งเวลาเพื่อนในห้องตายเพราะในตอนที่ 1 ตอนที่เธอไปเยี่ยมพระเอกกับเพื่อนๆ เธอน่าจะบอกอาถรรพ์ห้อง 3-3 แก่พระเอกให้เข้าใจ แต่ปรากฏว่าไม่ได้บอก และวันแรกพระเอกเข้าเรียน พอดีอิซูมิไม่ได้มาโรงเรียน ส่งผลพระเอกคุยกับเมย์ ส่งผลทำให้คำสาปห้อง 3-3 เกิดขึ้น หลังจากนั้นอิซูมิพยายามหาวิธีมากมายในการหยุดคำสาปห้อง 3-3
ในด้านความสัมพันธ์ของโคอิจิ นั้นอิซูมิรู้สึกชอบโคอิจิ เล็กน้อย เพราะเหมือนกับเธอเคยเห็นโคอิจิ มาก่อน (ปีครึ่งก่อน หลังจากที่น้าเรย์โกะตาย แต่เพราะคนตายมีสามารถเปลี่ยนความทรงจำของคนอื่นได้ เป็นเหตุทำให้อิซูมิและโคอิจิ จำไม่ได้มาเคยพบกัน) อย่างไรก็ตามเพราะอาถรรพ์ห้อง 3-3 และตอนแรกเธอเชื่อว่าพระเอกคือคนตายทำให้เธอกับพระเอกไม่ได้พูดแบบเพื่อนสนิทบ่อยครั้งนัก นอกจากนี้เธอยังเป็นคู่กัดกับเทชิกาวาระ ซึ่งในมังงะแล้ว ทชิกาวาระแบบชอบอาคาซาวะ แต่อนิเมะไม่ได้เน้นเรื่องนี้นัก โดยอาคาซาวะมองว่าเขาเป็นคนน่ารำคาญมากกว่า
ในฉากสุดท้าย 12 อิซูมิได้คิดว่าเมย์เป็นคนตาย จึงพยายามฆ่าเมย์ด้วยการใช้ด้ามเหล็กเพื่อยุติความหายนะและปกป้องทุกคน หากแต่โคอิจิ ได้มาขัดขวางและขอร้องให้เธอหยุดเพราะเมย์ไม่ใช่คนตาย หากแต่อาคาซาวะไม่ฟังเลยพยายามฆ่าทั้งคู่ แต่ในขณะนั้นได้เกิดฟ้าผ่า และฟ้าผ่าได้ทำกระจกแตก และเศษแก้วก็ปักตามร่างกายของอาคาซาวะไปทั่วจนเธอล้มไปกับพื้นเลือดอาบทั่วตัว (ก่อนที่ความทรงจำปีครึ่งกลับมาอีกครั้ง) เธอได้ตายอ้อมแขนพระเอก ก่อนที่เธอจะตายเธอได้ถามพระเอกว่าครึ่งปีมานี้เราเคยพบกันจำได้หรือเปล่า หากแต่โคอิจิ ส่ายศีรษะจำไม่ได้ สุดท้ายอิซูมิจึงเอ่ยประโยคหวานแห่งปีว่า “ใจร้ายจัง นายควรโกหกว่าจำได้สิ” ก่อนที่จะสิ้นลม หลังจากนั้นเพดานคฤหาสน์ก็หล่นลงมาทับร่างกายของเธอฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง เป็นอันปิดฉากตัวละครนางรองที่หลายคนไม่อยากให้ตายแห่งปีในที่สุด (ในมังงะอิซูมิพยายามฆ่าเมย์ด้วยการแทงตาซ้ายของเมย์ แต่โดนตาปลอมทำให้เมย์รอด แต่ในอนิเมะไม่มีฉากดังกล่าว และในมังงะอิซูมิรอด ส่วนในนิยายอิซูมิเป็นเพียงตัวประกอบที่โผล่แล้วก็ตายอย่างไม่น่าจดจำเท่าใดนัก)
มาเอะจิมะ มานาบุ (Maejima Manabu ) (รอด) นักเรียนชายห้อง 3-3 ในปี 1998 ภายนอกไม่ค่อยมีจุดเด่นเท่าใดนัก ผมดำ ตาสีเทา แต่ดูเหมือนหัวดี อีกทั้งยังเป็นสมาชิกชมรมเคนโด้ ในภาคมังงะและนิยายนั้นเขาเป็นเหยื่อที่เสียชีวิตในเดือนสิงหาคม แม้ในภาคอนิเมะเขาปรากฏตัวไม่บ่อยนัก แต่ฉากที่โดดเด่นคือตอนที่ 11 ที่พระเอกเดินไปยังห้องอาหารในห้องโถงเขาก็ถูกมาเอะจิมะใช้มือคว้าขาพระเอกเอาได้ (เล่นเอาหลายคนสะดุ้งเลยฉากนี้) และเมื่อพระเอกหันมาก็พบว่าเขามีบาดเจ็บมีเลือดเต็มตัว เพราะเขาถูกแทงโดยเคโกะป้าโรคจิตจากด้านหลัง หากแต่เพราะความช่วยเหลือของทชิกาวาระที่พาเขาออกข้างนอก ทำให้เขารอดชีวิต และฉากสุดท้ายเขาก็ยังคงพักฟื้นที่โรงพยาบาล (สงสัยพี่แกมีพระดีคุ้มภัย)
ซากุรางิ ยูคาริ (Sakuragi Yukari ) (ตาย) นักเรียนหญิงประจำห้อง 3-3 ผมหยิกแว่น หนึ่งในเจ้าหน้าที่ห้อง ในช่วงที่เธอยังไม่ตายนั้นเธอปรากฏตัวบ่อยมาก (ขนาดในช่วงเพลงจบเธอยังปรากฏตัวเลย) โดยเธอมักพูดคุยกับพระเอกและเป็นเพื่อนกับทวินเทล นิสัยขี้อาย ขี้กลัวเธอเป็นเหยื่อรายแรกที่ตายต่อหน้าต่อตาพระเอก ในอนิเมะตอนที่ 3 เธอถูกเรียกขณะสอบ เพราะได้ข่าวแม่และป้าของเธอได้รับอุบัติเหตุรถชน ตอนออกจากห้องเธอเห็นพระเอกคุยกับเมย์ ทำให้เธอตกใจและวิ่งหนี และไม่รู้ว่าติดนิสัยแว่นซุ่มซ่ามหรืออาถรรพ์หรือเปล่า เพราะเธอได้ลื่นตกบันใดและถูกร่มปลายแหลมที่ถือมาด้วยปักที่คอจนเสียชีวิต และต่อมาแม่ของเธอก็เสียชีวิตในโรงบาล ส่วนป้าบาดเจ็บสาหัส อย่างไรก็ตามหลังเธอเสียชีวิตเธอยังปรากฏในความฝันของพระเอกในสภาพถือร่มเปื้อนเลือดสาดอยู่บ่อยๆ
ซากุรางิเป็นตัวละครอีกคนที่หลายคนอวยเธอมาก เพราะเป็นสาวแว่นสมบูรณ์แบบ โดนเธอเสียชีวิตนั้นเล่นเอาหลายคนใจหายไปพักใหญ่ทีเดียว และเริ่มตะหนักว่าการ์ตูนเรื่องนี้ตัวละครใส่แว่นจะตายเยอะเป็นพิเศษ
โทโมฮิโกะ คาซามิ (Tomohiko Kazami ) (ตาย) หนุ่มแว่นโมเอะผมสีน้ำเงินตาสีฟ้า ประจำห้อง 3-3 และหนึ่งในเจ้าหน้าที่ห้อง เป็นเพื่อนสมัยเด็กของทชิกาวาระ แต่นิสัยจริงจัง ฉลาด และเป็นเด็กเรียบร้อยกว่า (อย่างไรก็ตามในตอนที่ 3 แว่นโมเอะโครตๆ) ในอนิเมะแม้บทบาทไม่ค่อยมากแต่ถูกใจหลายคน (รวมทั้งผม) โดยออกมาตอนแรกตอนที่ 1 ไปเยี่ยมพระเอกในโรงพยาบาลด้วยท่าที่ต่อพระเอกแปลกๆ หลังจากนั้นก็รับบทตัวประกอบมาโดยตลอด จนกระทั้งมาถึงตอนที่ 10 เขาทะเลาะกับทชิกาวาระ เพราะทชิกาวาระคิดว่าเขาคือคนตาย เพราะมีท่าที่แปลกไป ส่งผลทำให้ทชิกาวาระผลักเขาตกจากเนินสูงด้านนอกคฤหาสน์จนเลือดไหล ทำให้ทชิกาวาระเข้าใจผิดว่าเขาตายไปแล้ว หากแต่ความจริงเขายังไม่ตาย ก่อนที่จะโผล่มาอีกทีต่อหน้าพระเอก ในสภาพแว่นโรคจิต ที่ก่อนหน้านั้นฆ่าผู้หญิงสองคนคืออันสึและอากิด้วยมีด และคิดจะฆ่าพระเอกเพราะเชื่อว่าพระเอกคือคนตาย และโทษพระเอกเป็นต้นเหตุที่ทำให้ยูคาริผู้หญิงที่เขาแอบชอบตาย หากแต่สุดท้ายยังไม่ทันได้ฆ่าพระเอกเขาก็เสียชีวิตเพราะถูกทวินเทลตีหัวจนตายอนาถ (ในมังงะและนิยาย คาซามิรอดชีวิตจากการตกหน้าผา เพียงแค่ขาหักเฉยๆ)
ฟุจิมากิ นาโอมิ ( Fujimaki Naomi ) (รอด) นักเรียนหญิงประจำห้อง 3-3 ผมสีน้ำตาลอ่อนไม่โดดเด่น นิสัยดูเหมือนจะเป็นคนง่ายๆ แต่ไม่มีบท ตอนเข้าค่ายก็ไม่ไป เลยรอดตายแบบจืดๆ
วาตานาเบ้ ซานะ (Watanabe San) (รอด) นักเรียนหญิงประจำห้อง 3-3 ผมม่วง ตาสีเทา นิสัยจริงจัง ตัวประกอบตามน้ำ ที่หลังจากเกิดคำสาปสีหน้าเธออมทุกข์มาโดยตลอด ตอนที่ 11 เธอกับเพื่อนๆ พยายามจะฆ่าเมย์ในตอนเข้าค่าย (พักร่วมกับยัยสะพานโค้ง) หากแต่เมย์ถูกพระเอกช่วยให้หนีเสียก่อนที่จะทำเธอกับพรรคพวกจะทำอะไรมากกว่านี้ ต่อมาคฤหาสน์เกิดไฟไหม้เธอเลยหนีมาพร้อมเพื่อน 3 คนลงบันไดด้วยกัน หากแต่โดนโคมไฟระย้าตกใส่พอดี ทำให้ตัวเธอกับเพื่อนติดอยู่ใต้โคมไฟ หากแต่เธอก็ยังปลอดภัย และถูกช่วยเหลือในตอนหลัง
จุนตะ นากาโอะ (Junta Nakao) (ตาย) นักเรียนชายประจำชั้น 3-3 เป็นสาวกของทวินเทล (จนเรียกทวินเทลว่าราชินีเลยแหละ) มักปรากฏตัวมาพร้อมกับทวินเทลเสมอ เขาเลยมักอิจฉาพระเอกที่พูดคุยกับทวินเทลอย่างสนิทสนม ในตอนที่ 8 ได้ตามทวินเทลกับเพื่อนไปชายหาดที่เมืองใกล้เคียง หากแต่ตอนออกจากบ้านเขาตกบันใดทำให้ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่ศีรษะ หากแต่เขาไม่สนใจอาการดังกล่าวจึงรีบออกจากบ้านเพื่อรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ออกเดินทาง (คงอยากเห็นทวินเทลในชุดว่ายน้ำมั้ง) หากแต่ในระหว่างเดินทางเขาเกิดอาการเมารถตลอดทาง ทำให้เมื่อมาถึงชายหาดเขาเอาแต่นอนแก้เมา ก่อนที่จะเล่นบอลชายหาดกับเพื่อนๆ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีลมกระโชกแรงทำให้บอลตกลงไปทะเลไกลออกไป นากาโอะเลยอาสาว่ายน้ำไปเก็บ หากแต่ปรากฏว่าบอลไปไกลกว่าที่คิด และระหว่างที่ที่เขาว่ายน้ำจู่ๆ อาการศีรษะบาดเจ็บสาหัสตอนตกบันไดก็ได้เกิดอาการ ส่งผลทำให้เขาหมดสติ และค่อยๆ จมน้ำ และพอดีเวลานั้นก็มีเรือ (ที่ไม่รู้เป็นเรือลำเดียวในตอนจบ School Day หรือเปล่า) แล่นเข้ามาชนร่างเขาพอดี ส่งผลทำให้ร่างของเขาถูกหางเสือแยกเป็นชิ้นๆ ตายอนาถ ซึ่งการตายของนากาโอะทำให้สมาชิกบางคนในห้อง 3-3 ไม่ไปทัศนศึกษา และมีความคิดหมกตัวอยู่กับบ้านดีกว่า (ซึ่งปรากฏว่าเป็นความคิดที่ถูกต้อง)
นาคาจิมะ ซาชิโกะ (Nakajima Sachiko) (รอด) นักเรียนหญิงประจำห้อง 3-3 มีนิสัยเข้ากับคนได้ง่ายและเป็นมิตรกับทุกคน หน้าตาคล้ายยัยสะพานโค้ง ฉากเด่นที่ปรากฏคือฉากตอนที่ 7 ที่เห็นอาจารย์ประจำชั้นฆ่าตัวตายสยองเต็มตากว่าคนอื่นๆ อีกทั้งเลือดยังกระเซ็นมาโดนตัวเธอด้วย ตอนเข้าค่ายก็ไม่ไป เลยไม่มีบท รอดตายแบบจืดๆ (คงช็อกกับอาจารย์ตายต่อหน้าต่อตาไม่หายมั้ง)
ซารูตะ โนโบรุ (Saruta Noboru) (รอด) นักเรียนชายประจำชั้น 3-3 ที่เกือบตายในตอนที่ 11 ซึ่งตอนนั้นเขาพักร่วมกับมาโกโตะเพื่อนสนิทของเขา แล้วพระเอกก็บอกว่ามีคนตายและคฤหาสน์กำลังไฟไหม้ที่ห้องอาหร ทำให้เขาและมาโกโตะลงมาข้างล่าง และระหว่างที่รอสถาการณ์จู่ๆ พวกเขาก็ได้กลิ่นเผาไหม้ที่ห้องอาหาร โอจิเลยไปเปิดประตูห้องอาหาร แต่แล้วตอนที่เปิดเปลวไฟก็โหมกระหน่ำเผาร่างโอจิตายต่อหน้าต่อตาเขา ก่อนที่คฤหาสน์จะเกิดการระเบิดขึ้น แต่กระนั้นซารูตะก็รอดชีวิตและปรากฏตัวอีกทีที่โรงพยาบาลในช่วงตอนสุดท้าย
ทาทาระ เมกูมิ (Tatara Megumi) (รอด) นักเรียนหญิงประจำห้อง 3-3ผมดำยาว นิสัยเจียมเนื้อเจียมตัว จนไม่ค่อยมีบท ตอนเข้าค่ายก็ไม่ไป
โยเนมุระ ชิเงกิ ( Yonemura Shigeki) (รอด) นักเรียนชายประจำห้อง 3-3 แม้ว่าน่าตาค่อนข้างหล่อ แต่ไม่โดดเด่น ตอนเข้าค่ายก็ไม่ไป เลยไม่มีใครใส่ใจตัวตนของเขามากนัก
อายาโนะ อายะ (Ayano Aya) (ตาย) นักเรียนหญิงประจำห้อง 3-3 ตัวละครที่ปรากฏตัวอนิเมะโดยเฉพาะ เป็นเด็กสาวน่ารักผมสีน้ำตาลสั้น นิสัยร่าเริง เป็นสมาชิกชมรมละครร่วมกับทวินเทลและยัยสะพานโค้ง แม้เป็นตัวออจินอลแต่ปรากฏออกมาหลายฉาก โดยเฉพาะการพูดคุยกับพระเอกที่เป็นกันเองอยู่เสมอ แต่ความจริงแล้วเธอหวาดกลัวคำสาปห้อง 3-3 เป็นมาก แม้ว่าพระเอกจะเคยปกป้องเธอรอดพ้นจากความตายจากกระจกใหญ่หล่นแตกมาครั้งหนึ่ง หากแต่สุดท้ายในตอนที่ 9 เธอก็ไม่รอดพ้นอาถรรพ์ เมื่อเธออยู่ในรถกับพ่อแม่ของเธอ ในกำลังจะขับออกนอกเมือง หากแต่จู่ๆ ก็มีหินภูเขาจกลงมากระจกรถ ส่งผลทำให้รถเสียการควบคุมจนรถออกนอกเส้นทาง ตกหน้าผาตายทั้งครอบครัวในที่สุด การตายของอายาโนะแสดงให้เห็นว่าต่อให้พยายามหนีไปเมืองอื่นก็ไม่รอดพ้นต่ออาถรรพ์อยู่ดี อีกทั้งทำให้นักเรียนบางคนตัดสินใจเข้าค่ายเพราะเชื่อว่ามันจะต้องมีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงบ้าง
วากุอิ ไดสุเกะ (Wakui Daisuke) (รอด) นักเรียนชายประจำห้อง 3-3 ที่หน้าตาแสนธรรมดา เหมือนคนอมโรค นิสัยชอบทำตัวเงียบๆ ในที่นั่งชั้นเรียนมากกว่าจะเข้าหาคนอื่น โดยฉากโดดเด่นคือในตอนที่ 10 ที่เขาเข้าค่าย ในระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำจู่ๆ เขาก็เกิดโรคหอบหืดและไม่มียาสูตพ่นอะไหล่พกติดตัวไปด้วย และเวลานั้นมือถือนักเรียนทุกคนก็ไม่มีสัญญาณ ทำให้ชิบิกิครูประจำห้องสมุดต้องพาเขาออกจากกลุ่มเพื่อส่งไปโรงพยาบาล ตอนแรกคนดูก็นึกว่าเขาจะตายเพราะอาถรรพ์ แต่ปรากฏว่าเขารอดซะงั้น (ในมังงะความจริงแล้วบทที่เขาอาการกำเริบ ต้องเป็นบทของพระเอกที่พยายามปกป้องเมย์จากโดนทวินเทลตำหนิ ก่อนที่พระเอกจะทรุดตัวล้มลง)
มัตสึอิ อากิ (Matsui Aki) (ตาย) นักเรียนหญิงประจำห้อง 3-3 นิสัยสงบเสงียม และเป็นเพื่อนสนิทกับอันสึ คานากิ (จนหลายคนจิ้นยูริ) ในตอนที่ 11 แม้เธอจะได้ยินเทปประกาศวิธีแก้คำสาปห้อง 3-3 เพื่อฆ่าเมย์ หากแต่เธอก็แค่ขวางทางพระเอกพาเมย์หนี แล้วยืนดูเฉยๆ ไม่ได้คิดจะทำอะไร ในตอนที่ 12 เธอก็พยายามหนีคฤหาสน์ที่กำลังไฟไหม้พร้อมกับคานากิ หากแต่ระหว่างทางเจอคาซามิ แว่นโรคจิตเสียก่อน โดยแว่นฆ่าคาซามิเพื่อนของเธอเป็นคนแรก จากนั้นเธอก็วิ่งหนี จนกระทั้งระหว่างทางพบพระเอกโดยบังเอิญ เธอพยายามข้อร้องพระเอกช่วยเหลือเธอ หากแต่เธอก็โดนมีดของแว่นโรคจิตที่พุ่งเข้าไปปักคอเธอเสียก่อน จนเธอตายอนาถอย่างน่าสงสาร
อาริตะ มัตสึโกะ (Arita Matsuko) (รอด) นักเรียนหญิงประจำห้อง 3-3 เป็นคนหน้าตาดี ร่าเริง เข้ากับคนได้ง่าย หากแต่เมื่อเกิดคำสาปเธอก็กลายเป็นคนที่ไม่ค่อยยิ้มและรู้สึกกังวลตลอดเวลา ตอนที่ 11 เมื่อเธอได้ยินประกาศเทปคนตายเธอก็ตามน้ำกับเพื่อนคนอื่นเพื่อฆ่าเมย์ หากแต่เธอยืนอยู่เฉยๆ และไม่มีความคิดที่จะอะไรอีก ฉากเด่นสำหรับเธออยู่ในตอนที่ 12 ที่เธอหนีออกจากคฤหาสน์ที่ลุกไหม้และกำลังระเบิดด้วยความกลัว ราวกับเธอเป็นนางเอกหนังแอ็คชั่นเสี่ยงตายไม่มีผิด (แบบเดินซิวๆ ไม่ได้วิ่งหนีตาย) สุดท้ายเธอก็รอดออกมานอกคฤหาสน์และรวมกลุ่มกับเพื่อนที่รอดชีวิต และหลังฉากจบเธอกลับมาเป็นเด็กสาวร่าเริงปกติในที่สุด
มิซูโนะ ทาเครุ (Mizuno Takeru) (รอด) นักเรียนชายประจำห้อง 3-3 และเป็นสมาชิกชมรมบาสเกตบอลของโรงเรียน เขาเป็นน้องชายของซานาโอะซึ่งเคยเป็นนางพยาบาลที่ดูแลพระเอกในขณะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ในมังงะหลังจากที่พี่สาวของเขาเสียชีวิต เขาก็ไม่พอใจพระเอกมาตลอดที่เป็นต้นเหตุทำให้พี่สาวของเขาตาย และเขาเป็นนักเรียนอีกคนที่ไม่ไปทัศนศึกษาภาคฤดูร้อนร่วมกับเพื่อนร่วมชั้น บทเลยจืดสนิท
โมจิซึกิ ยูยะ (Mochizuki Yuuya) (รอด) หนึ่งในตัวละครหลักของเรื่อง ที่ได้รับความนิยมพอสมควร หลายคนรู้จักเขาในนาม “สาวดุ้น” (เนื่องจากในนิยายบรรยายว่าลักษณะและหน้าตาเหมือนผู้หญิง อีกทั้งเกรดความน่ารัก ตัวอักษรอังกฤษดันเป็นสีชมพู แตกต่างจากตัวละครชายคนอื่นๆ) เป็นนักเรียนชายประจำห้อง 3-3 และยังเป็นสมาชิกชมรมศิลปะ มีพี่สาวชื่อโทโมกะซึ่งเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านกาแฟที่พระเอกมักไปประชุมร่วมกับเพื่อนๆ ร่างกายอ่อนแอ และมักจะทำตัวเงียบๆ เมื่ออยู่กับคนแปลกหน้า ความจริงแล้วมีนิสัยร่าเริงเข้ากับคนง่าย เป็นเพื่อนสนิทกับทชิกาวาระ จนหลายคนจิ้นยาโอยอย่างเมามัน อีกทั้งยังเป็นเพื่อนกับพระเอก ร่วมกันปรึกษาพระเอกวางแผนที่จะหยุดคำสาป 3-3 โดยฉากโดดเด่นที่สุดคือ ตอนที่ 11 ที่เขาเอาเทปวิธีแก้อาถรรพ์ไปเปิดให้ทวินเทลและยัยแว่นซากุระโรคจิตฟังจนเกิดปัญหาและเรื่องราวสยดสยองตามมา และฉากโดดเด่นที่สุดคือฉากที่เขาแสดงความกล้าหาญพยุงทชิกาวาระที่ได้รับบาดเจ็บที่ขาหนีจากป้าเจ้าของโรงแรมไล่ฆ่า ฉากนี้หลายคนลุ้นชนิดไม่อยากลุกจากที่นั่ง เพราะไม่อยากให้ทั้งสองตาย พอทั้งสองรอดตายเพราะครูประจำห้องสมุดเข้ามาช่วยไว้ทัน หลายคนจึงจิ้นยาโอยอย่างสบายใจ ในฉากสุดท้ายของการ์ตูนเรื่องนี้เขากับทชิกาวาระก็นำเทปวิธีแก้อาถรรพ์คนตายห้อง 3-3 เอาไปซ่อนไว้ที่เดินของมัน เพื่อให้รุ่นน้องถัดมาตามหาวิธีแก้อาถรรพ์ต่อไป
ซากากิบาระ โคอิจิ (Sakakibara Koichi) (รอด) หนึ่งในตัวละครหลักของเรื่อง หรือก็คือพระเอกของเรื่องนั้นเอง โดยทั้งการ์ตูนดำเนินเรื่องในมุมมองของเขาเกือบทั้งหมด โดยเขาเป็นนักเรียนชายจากกรุงโตเกียวที่ย้ายมาเรียนโรงเรียนโยมิยามะเขตเหนือ โดยพักร่วมกับปู่กับย่าและน้าเรโกะ ในเดือนพฤษภาคม (ซึ่งคำสาปเริ่มเดือนเมษายนแล้ว) อายุ 15 ปีเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวซากากิบาระ แม่ของเขาเคยเป็นเด็กห้องเดียวกับมิซากิ และเขาเสียแม่ไปตั้งแต่วันที่เขาเกิด ส่วนพ่อทำงานอยู่ที่อินเดีย
โคอิจิ ซากากิบาระเป็นพระเอกที่มีนิสัยอยากรู้อยากเห็นและมีความมุ่งมั่นในการตามหาความจริงของเรื่องลึกลับที่เขาเห็น ตอนแรกเขาพยายามตามหาตัวจริงของเมย์ที่ท่าที่ของเพื่อนร่วมห้องปฏิบัติต่อเมย์แบบแปลกๆ เมื่อเขารู้คำสาปห้อง 3-3 ก็พยายามหาวิธีแก้คำอาถรรพ์แทน ภายนอกเป็นหนุ่มน้อยน่ารัก (เกรด A+) แม้ร่างกายจะอ่อนแอเพราะป่วยเป็นโรคภาวะโพรงเยื่อหุ้มปอดมีอากาศ (pneumothorax) ทำให้ต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆ แต่กระนั้นเขาก็มีความเป็นมิตรและเข้ากับคนได้ง่ายจึงทำให้เขามีเพื่อนใหม่ตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้ามาเรียนในโรงเรียนโยมิยามะเขตเหนือ ในตอนจบเขาได้พูดคุยกับเมย์
หลายคนชอบตัวละครโคอิจิ เพราะว่าเป็นพระเอกที่น่าตาน่ารัก นิสัยจริงจัง เห็นคนอื่นเดือดร้อนก็พร้อมจะเข้าไปช่วยเหลือ โดยฉากที่ผมชอบที่สุดคือฉากที่พระเอกได้เป็นเพื่อนกับเมย์ (ซึ่งเริ่มชอบเมย์) ในตอนที่ 6 ที่เสมือนว่าโลกนี้เขาอยู่กับเมย์สองต่อสอง อีกทั้งยังมีสกิลจิ้มเมย์เวอร์ชั่นร่าเริง (หลายคนอวยฉากนี้สุดๆ) ถึงแม้ว่าร่างกายจะอ่อนแอแต่กระนั้นเขาก็มีความกล้าหาญ เห็นได้จากการที่เขาเอาพยายามปกป้องเมย์มาโดยตลอด และพาเมย์หนีจากการตอนคนอื่นไล่ฆ่าในตอนที่ 11 และ 12 แต่น่าเสียดายความรู้สึกชอบเมย์ทำให้เขาไม่เห็นความรู้สึกของทวินเทลที่มีต่อพระเอก และนอกจากนี้เขายังเป็นคนชอบคิดอะไรมาก เคยกังวลว่าตนเป็นต้นเหตุทำให้คนหลายคนในห้อง 3-3 ตายเพราะอาถรรพ์ (จนถึงขั้นเก็บไปฝัน) หากแต่เมื่อได้ฟังเมย์เล่าว่าคำสาปแท้จริงเกิดก่อนหน้าเขามาทักเมย์นานแล้ว เป็นเหตุทำให้เขาก็สบายใจมากขึ้น และเขายังมีสกิลพระเอกในการ์ตูนสยองขวัญที่รอดพ้นความตายอย่างสบายหายห่วง แถมยังมีอารมณ์สบายใจหาคลื่นมือถือท่าสมกลางเปลวไฟลุกอีกด้วย แม้ว่าในตอนจบระหว่างเขากับเมย์จะยังไม่ได้คบกันเป็นแฟนอย่างเป็นทางการ แต่กระนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็แน่นแฟ้นขึ้น จนเรียกว่ามากกว่าคู่รักก็ว่าได้
(ปล. เรื่องนี้มีคนจิ้นพระเอกคู่กับผู้หญิงคนอื่นเยอะ จนเรียกว่าฮาเร็มขนาดย่อมๆ ไม่ว่าจะเป็นคู่กับเมย์ คู่กับทวินเทล คู่กับคุณน้า แต่อนิจจาสุดท้ายฮาเร็มพระเอกไม่ยั่งยืน เมื่อคุณที่แอบชอบพระเอกตายเกือบหมด เหลือแต่เมย์)
(ปล. โคอิจิ เป็นพระเอกในการ์ตูนไม่กี่เรื่องที่นั่งกลางห้อง แทนที่จะนั่งริมหน้าต่างเหมือนตัวละครพระเอกคนอื่นๆ)
(ปล. ในนิยายต้นฉบับ ซากากิบาระเคยถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียนเก่าในโตเกียว เนื่องจากชื่อนามสกุล “ซากากิบาระ” นั้นเป็นชื่อเดียวกับชื่อของคดีเด็กหญิงบาดคอเพื่อนที่โตเกียว (เป็นคดีที่เกิดขึ้นจริง) ทำให้ช่วงรับบทเป็นคนไร้ตัวตนเขาเลยรับมือได้แบบสบายๆ อย่างไรก็ตามในโรงเรียนใหม่แห่งนี้เขามีความสุขกว่าโรงเรียนเดิมมาก ขอแค่อยู่กับเมย์ก็ไม่ต้องเอาอะไรอีกแล้ว)
คานากิ อันสึ (Kanaki Anzu ) (ตาย) เป็นคนจริงจังเข้ากับคนได้ง่าย เป็นเพื่อนสนิทกับอากิ มัตสึอิ ในตอนที่ 11 แม้เธอจะได้ยินเทปประกาศคนตายเพื่อฆ่าเมย์ หากแต่เธอก็กับมัตสึอิก็ได้แค่ขวางทางพระเอกพาเมย์หนีเฉยๆ โดยไม่ทำอะไร พอมาถึงตอนที่ 12 เขาก็ถูกคาซามิแทงจากด้านหลังขณะพยายามหนีออกจากคฤหาสน์ที่ไฟไหม้พร้อมกับมัตสึอิ
ซาโต้ คาซูเอะ (Satou Kazue) (รอด) เป็นนักเรียนหญิงประจำห้อง 3-3 เธอนั่งโต๊ะด้านหน้าของเมย์ เป็นคนเงียบๆ เลยไม่มีบท ทัศนศึกษาฤดูร้อนก็ไม่ไป
ทซึจิ ยูกิโตะ (Tsujii Yukito) (รอด) หนุ่มแว่นประจำห้อง 3-3เท่าที่ดูคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนชอบอ่านหนังสือ (เห็นได้จากฉากตอนที่ 1 ที่เขาแนะนำหนังสือโศกนาฏกรรมของ X ให้ซายูระแว่นจืด) ในตอนที่ 11 หลังจากเขาได้ยินเสียงประกาศเทปวิธีแก้อาถรรพ์ห้อง 3-3 เขาก็คิดเหมือนคนอื่นๆ ว่าเมย์คือคนตาย เขาเลยพยายามใช้ไม้ถูพื้นตีเมย์ หากแต่อาจารย์มิคามิเขามาปกป้องเมย์เสียก่อน เลยถูกลูกหลงโดนไม้ถูพื้นหวดศีรษะจนล้มลง เป็นเหตุทำให้พระเอกโกรธ หากแต่เมย์ห้ามเอาไว้ ก่อนที่พระเอกจะหนีพร้อมกับเมย์ ทิ้งยูกิโตะที่กำลังตกตะลึงพร้อมกับเพื่อนอยู่เบื้องหลัง ตอนที่ 12 เขาหนีกับเพื่อน 3 คน (ซานะ, ซายูระ และเคนโซว) ก่อนที่จะโดนโคมไฟระย้าหลงทับเขาและเพื่อนพร้อมกัน หากแต่เขาก็รอดมาภายหลัง
อีโต้ ฮารูกะ (Etou Haruka) (รอด) นักเรียนหญิงประจำห้อง 3-3 เข้ากับคนอื่นได้ง่าย แม้ว่าเธอจะน่ารัก (เกรด A+) หากแต่บทไม่ค่อยมี (แต่เธอยังอุตส่าห์ปรากฏในฝันร้ายพระเอกตอนที่ 9 ด้วยน่ะ) และตอนเข้าทัศนศึกษาฤดูร้อนก็ไม่ไป
โอจิ มาโกโตะ (Ouji Makoto ) (ตาย) หนุ่มหน้าตาดีประจำห้อง 3-3 ที่ตายสวยงาม (หรือเปล่า?) ไม่แพ้ตัวละครคนอื่น เป็นตัวละครออจินอลไม่มีในนิยายต้นฉบับ นิสัยร่าเริง เป็นเพื่อนสนิทกับซารูตะ โนโบรุซึ่งทั้งคู่เป็นสมาชิกกลุ่มวงดนตรี และเขาเป็นมิตรกับพระเอก ในตอนที่ 11 หลังจากที่เขาและโนโบรุได้ยินเสียงประกาศวิธีแก้อาถรรพ์ห้อง 3-3 เขาก็ยังรอดูสถานการณ์ จนกระทั้งได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่ห้องรับประทาน และเมื่อเขาเปิดประตูเขาก็ตกใจเมื่อเปลวไฟที่พลุ่งพล่านทำให้เกิดระเบิดแล้วไฟก็โหมกระหน่ำมาทางเขา และเขาก็ตายท่ามกลางเปลวเพลิงในที่สุด (ฉากตายสวยงามมากน่ะ)
ซากุระ ทากาโกะ (Sugiura Takako) (ตาย) ยัยแว่นหน้าบูดประจำห้อง 3-3 ซึ่งเป็นมือขวาของทวินเทล เทิดทูนทวินเทลคือทุกสิ่งทุกอย่าง (ปานนั้น?) หลังจากที่นากาโอะตายต่อหน้าต่อเธอในช่วงไปชายหาดเมืองข้างเคียง ยิ่งอารมณ์บูดเข้าไปใหญ่และพยายามหาวิธีหยุดอาถรรพ์ห้อง 3-3 และเมื่อได้ฟังเทปวิธีแก้อาถรรพ์ห้อง 3-3 เธอก็เริ่มเปลี่ยนไป ในตอนที่ 11 เธอได้บอกทวินเทลว่าเธอเริ่มสงสัยเมย์ว่าเป็น “คนตาย” ตัวจริง เพราะตอนเธอเรียนอยู่ประถมศึกษาเธอได้เรียนร่วมกับผู้หญิงคนที่ชื่อ “มิซากิ” (แฝดเมย์) ที่หน้าตาคล้ายเมย์ หากแต่มิซากิคนนั้นไม่ใส่ผ้าปิดตา และตัวเมย์เองเป็นลูกคนเดียว (อันเนื่องจากสถานะครอบครัวซับซ้อน) ทำให้ทากาโกะหลงเชื่อว่าเมย์เป็นคนตายโดยสนิทใจ เมื่อทวินเทลได้ฟังก็ได้ออกมาข้างนอกไปที่ห้องโถงเพื่อพบพวกพระเอกที่กำลังช่วยเหลือมานาบุอยู่ หลงจากนั้นทวินเทลก็ได้ยินเสียงทากาโอะ และเมื่อวิ่งไปที่ห้องก็พบหน้าห้องมีเลือดสาดกระจาย จากนั้นพวกพระเอกก็ออกตามหา ก็พบทากาโอะในร่างโชกเลือด (คาดว่าเป็นเลือดของตนเองตอนหนีป้าโรคจิตมั้ง?) และพยายามใช้มีดเหล็กแหลมพยายามฆ่าเมย์ แต่พระเอกเข้ามาช่วยปกป้องไว้ทัน (ยัยแว่นทำร้ายพระเอกด้วยล่ะ) แต่ฤทธิ์ยัยแว่นบูดยังไม่หยุดเพียงแค่นี้เธอหนีไปที่ห้องและเอาเทปวิธีแก้อาถรรพ์ห้อง 3-3 มาเปิดออกอากาศพร้อมบอกว่าเมย์คือคนตายตัวจริงและให้เพื่อนทุกคนในห้องช่วยกันฆ่าเมย์ก่อนที่อาถรรพ์จะมาเล่นงานเราทุกคน จนเป็นเหตุทำให้พระเอกต้องพาเมย์นี้จนวุ่น จนกระทั้งพบยัยแว่นหน้าบูดอีกครั้งพร้อมแทงเหล็กแหลมไปที่ไหล่ของพระเอก อย่างไรก็ตามหนูเมย์ก็ยังนิ่งทุกงาน หลบเหล็กแหลมของยัยแว่นหมด และระหว่างที่อุรุงตุงนังอยู่นั้นเอง ด้วยความเป็นแว่นซุ่มซ่าม คอเธอเกิดไปคล้องกับลวดแขวนอยู่รอบๆ เข้า เมื่อแว่นบูดพยายามแกะออก ปรากฏว่าลวดกลับถูกดึงไปข้างบนและรัดคอแว่นบูดจนถึงแก่ความตาย
มาซากิ เมย์ (Misaki Mei) (รอด) หรือ “เมย์นิ่งทุกงาน” นางเอกที่เป็นที่นิยมหลายคน อันเป็นที่รักของโอตากุทั่วโลก (ปานนั้นเชียว?) สาวเงียบคนใหม่แห่งวงการ โดยปรากฏครั้งแรกต่อหน้าพระเอกราวกับวิญญาณลึกลับที่กำลังมุ่งหน้าไปห้องดับจิตของโรงพยาบาล ทำให้พระเอกสนใจตัวตนของเธอและพยายามที่จะสืบหาว่าเธอมีใครกันแน่ ทำไมเพื่อนในห้องถึงปฏิเสธตัวตนของเธอ
ตอนแรกเมย์เป็นเด็กสาวที่ดูลึกลับมีบุคลิกเงียบเยือกเย็นและโดดเดี่ยว ผมสั้น ผิวพรรณขาวจนน่ากลัว ตาซ้ายผูกผ้าปิดตาเพื่อซ้อนตาสีเขียวที่เป็นตาเทียมตุ๊กตาเอาไว้แทนดวงตาเดิมที่ถูกควักออกเพราะเป็นโรคร้ายแรงสมัยยังเด็ก เป็นผลทำให้เมย์มีความสามารถพิเศษคือสามารถมองเห็นสิ่งที่ไม่ควรที่จะเห็นได้ เป็นต้นว่าสีของคนตาย ในตอนแรกเธอได้บอกพระเอกให้อยู่ห่างจากตัวเธอ หากแต่เมื่อพระเอกพยายามเข้าหาเธอก็บอกให้เขาระมัดระวังตัวด้วยประโยคว่า “มัน (อาถรรพ์) อาจเริ่มขึ้นแล้วก็ได้”
เมื่อพระเอกคบกับเมย์นานวัน เขาก็พบว่าเมย์เป็นเด็กหญิงธรรมดาที่ชอบวาดภาพและเป็นสมาชิกชมรมศิลปะ อีกทั้งยังมีนิสัยและพฤติกรรมบางส่วนเหมือนเด็ก ตัวอย่างเช่น ในตอนที่ 8 ที่เมย์ไปทะเลเห็นได้ชัดว่าเมย์มีมุมน่ารักเยอะมาก โดยเฉพาะที่ที่ปลาหมึกเกาะแขนเมย์ เธอตกใจกลัว เพราะนึกว่าปลาหมึกจะกินเธอ (แหมที่โดนคนไล่ฆ่าไม่ตกใจกลัวน่ะ) ซี่งยังมีหลายฉากอีกมากมายที่เมย์แสดงออกถึงความน่ารัก น่าเอ็นดู ซึ่งฉากเหล่านี้ไม่มีในนิยายต้นฉบับ
ในด้านประวัติของเมย์นั้นค่อนข้างซับซ้อน เมื่อหลายปีก่อนแม่บุญธรรมของเมย์คือ “ยูกิโยะ” ได้เกิดมาพร้อมกับคู่แฝดคนหนึ่งน้องสาว “มิสึโกะ” ต่อมาทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน โดยน้องสาวฝาแฝดได้เกิดเมย์และ “มิซากิ คิริกะ” หากแต่แฝดคนพี่ยูกิโยะนั้นล้มเหลวจากการตั้งครรภ์ ทำให้เธอเสียใจมาก และเพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้น มิสึโกะจึงให้เมย์แก่ยูกิโยะเพื่อเลี้ยงดู (พร้อมลดปัญหาการใช้จ่ายเลี้ยงดูไปด้วย) ซึ่งกว่าที่เมย์จะรู้เรื่องดังกล่าวก็ตอนอยู่ ป.5 จนทำให้เมย์มีความคิดอยากเจอแม่ที่แท้จริง หากแต่แม่บุญธรรมไม่อยากให้เมย์พบแม่ที่แท้จริง นอกจากนั้นยูกิโยะยังหวาดระแวงเมย์จึงซื้อโทรศัพท์มือถือให้เมย์จะได้ติดต่อได้สะดวก ต่อมาเมย์แอบไปพบแฝดเมย์คนน้อง และทั้งคู่ก็สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นเมย์ยิ้มเหมือนเด็กสาวธรรมดาทั่วไป หากแต่เมื่อถึงเดือนเมษายน 1998 แฝดเมย์ก็เสียชีวิตเพราะอาถรรพ์ห้อง 3-3 เดือนเมษายน ทำให้โลกของเมย์พังทลายทันที จนเมย์กลายเป็นเด็กเงียบเยือกเย็นไป และไม่สนเรื่องความตายสักเท่าไหร่ จนกระทั้งการมาของพระเอก ที่ตอนแรกได้เข้าหาเธอ เมย์พยายามลองใจพระเอกหลายครั้ง จนกระทั้งเธอก็พบคนที่สามารถทำให้เธอเปิดใจครั้งแรกหลังจากแฝดเมย์ตาย
ส่วนฉายาเมย์นิ่งทุกงาน ก็เนื่องมาจากเมย์เป็นตัวละครสาวเงียบ (ไม่เงียบซะทีเดียว บางครั้งก็มียิ้มบ้าง) ก็เนื่องมาจากไม่ว่าสถานการณ์ใดๆ เมย์จะทำตัวนิ่ง สงบเยือกเย็นทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นฉากเลือดสาดครูประจำชั้นฆ่าตัวตาย เห็นเพื่อนตายตาหน้าตาต่อ หรือฉากนักเรียนในค่ายไล่ฆ่าเมย์ เมย์ยังใจเย็นเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แม้จะมีบางฉากที่เมย์ตกใจ แต่ไม่ถึงกริ๊ดลั่นบ้านแต่อย่างใด ทำให้ถูกอกถูกใจหลายคน ส่วนสาเหตุที่เมย์รอดบางที่อาจเป็นคำสาปโอตากุที่ร่ายเอาไว้ปกป้องเมย์ก็ได้ ใครที่กล้าทำร้ายเมย์ต้องมีอันเป็นไปทุกคน (มั่วแล้วฉัน)
(ปล. สาเหตุที่มิซากิได้ S ก็เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีที่สุดในเรื่อง หากแต่ในภาพยนตร์ภาคคนแสดงทำไมเมย์ไม่โมเอะเลยว่ะ)
(ปล. ตอนที่ 9 มีฉากพระเอกปกป้องเมย์จากการโดนกระจกบาดแตก เท่ากับว่าพระเอกได้ช่วยตัวละครหญิงจากอุบัติเหตุกระจกแตกถึงสองครั้ง หากแต่กรณีทวินเทล พระเอกป้องกันไม่ได้ซะงั้น)
คาวาโฮริ เคนโซว (Kawahori Kenzou) (ตาย) นักเรียนชายประจำห้อง 3-3 ที่ตายอย่างอนาถ โดยในตอนที่ 11 หลังจากที่เขาได้ยินเทปประกาศวิธีแก้อาถรรพ์ห้อง 3-3 เพื่อฆ่าเมย์ เขาก็พยายามฆ่าเธอ หากแต่เขาก็ถูกพระเอกเข้ามาปกป้องเมย์และพยายามที่จะชกเขา หากแต่เมย์ห้ามไว้เสียก่อน ในตอนที่ 12 เขาพยายามหนีออกจากคฤหาสน์ที่ไฟกำลังลุกไหม้พร้อมกับเพื่อนอีก 3 คน (ชานะ, ซายูระ และยูกิโตะ) และเขาก็โดนไฟระย้าหล่นใส่ แต่เขายังสามารถลุกออกจากโคมระย้ำได้ เขาพยายามรีบวิ่งตรงไปทางออกโดยทิ้งเพื่อนไว้เบื้องหลัง หากแต่สุดท้ายเขาก็ถูกเสาล้มมาทับจนตายอนาถ
คากินูมะ ซายูระ (Kakinuma Sayuri) (รอด) แว่นจืดประจำห้อง 3-3 เป็นคนเงียบๆ ชอบอ่านหนังสือประจำโต๊ะของตนเองหรือไม่ก็ในห้องสมุด หลังจากที่อาจารย์ประจำห้องฆ่าตัวตาย เขาก็ไม่มาโรงเรียนอีกเลย หากแต่ในวันเข้าค่ายทัศนศึกษาเธอมา หลังจากที่เธอได้ยินเทปประกาศวิธีแก้อาถรรพ์ห้อง 3-3 เพื่อฆ่าเมย์ แม้เธอไปตามน้ำกับเหล่าเพื่อน แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรกับเมย์ ในตอนที่ 12 เธอหนีออกจากคฤหาสน์ที่ไฟกำลังลุกไหม้พร้อมกับเพื่อนอีก 3 คน (ซานะ,ยูกิโตะ และเคนโซว) และเขาก็โดนไฟระย้าหล่นใส่ แต่สุดท้ายก็รอดมาได้
ทชิกาวาระ นาโตยะ (Teshigawara Naoya) (รอด) หนึ่งในตัวละครหลักของเรื่อง ในขณะที่พระเอกหลายคนจิ้นคู่ผู้หญิงหลายคน หากแต่สำหรับทชิกาวาระนั้นหลายคนจิ้นยาโอยแทน ไม่ว่าจะเป็นจิ้นแว่นโมเอะ หรือจิ้นหนุ่มหน้าสวย บางคนก็ตั้งฉายาว่า “เจ้าหน้าหล่อ” เพราะชื่อจำยาก
ทชิกาวาระเป็นนักเรียนชายประจำห้อง 3-3 ที่เป็นคนจริงใจ ง่ายๆ ร่าเริงและรักกีฬา เห็นอกเห็นใจผู้อื่น เป็นคู่กัดกับทวินเทล (ในมังงะแอบชอบทวินเทล) เป็นเพื่อนสมัยเด็กของคาซามิแว่นโมเอะและยูยะเลยจิ้นวายซะเลย เป็นมิตรกับพระเอกและเป็นคนแรกที่ทักพระเอกที่ห้องเรียน และเป็นห่วงพระเอกเรื่องอาถรรพ์ จนมีหลายฉากที่เขาพยายามเตือนพระเอกหลายรอบ แต่มักถูกขัดจังหวะทุกครั้ง (และเขาเป็นคนเดียวที่ไม่ได้โทษพระเอกและเมย์ในการละเมิดกฎข้อห้ามคนไร้ตัวตน และเป็นตัวละครตัวเดียวนอกเหนือพระเอกที่หยอกล้อเมย์) และเมื่อพระเอกถูกยกเลิกการเป็นคนไร้ตัวตน เขาก็ร่วมมือกับพระเอกหาวิธีหยุดคำสาปห้อง 3-3 จนรู้วิธีแก้อาถรรพ์คือการส่งคนตายกับคืนสู่ความตายอีกครั้ง จนเป็นเหตุทำให้เขาทะเลาะกับคาซามิจนปิดทำให้เขาทำร้ายคาซามิบาดเจ็บสาหัส ในตอนที่ 11 ระหว่างที่ทชิกาวาระสำรวจห้องในคฤหาสน์ร่วมกับยูยะอยู่นั้นเขาก็พบป้าโรคจิตถือมีดกะจะฆ่าให้ตาย และป้าโรคจิตก็ใช้มีดแทงที่ขา เป็นเหตุทำให้ยูยะต้องพยุงเขาไปตามทางอย่างทุลักทุเล สุดท้ายก็รอดตายเพราะครูประจำห้องสมุดเข้ามาช่วยไว้ทัน ในฉากสุดท้ายของการ์ตูนเรื่องนี้เขากับทชิกาวาระก็นำเทปวิธีแก้คำสาปคนตายห้อง 3-3 เอาไปซ่อนไว้ที่เดินของมัน เพื่อให้รุ่นน้องถัดมาตามหาวิธีแก้คำสาปต่อไป
ทาคาบายาชิ อิคุโอะ (Takabayashi Ikuo) (ตาย) นักเรียนประจำห้อง 3-3 ร่างกายอ่อนแอเพราะมีปัญหาเรื่องโรคหัวใจตั้งแต่เกิด ทำให้เขามีบุคลิกเงียบๆ แต่ความจริงแล้วเขามีความคิดอยากเป็นปกติเหมือนเด็กคนอื่นๆ อีกทั้งยังมีความกล้าหาญที่พยายามบอกความจริงกับพระเอกเรื่องอาถรรพ์ห้อง 3-3 หากแต่เขาก็ได้กลายเป็นเหยื่อของคำสาปห้องง 3-3 ประจำเดือนมิถุนายน เมื่อเขาหัวใจหายตายต่อหน้าพระเอก ในขณะกลับบ้านด้วยกัน การตายของเขาทำให้ปู่และย่าที่เป็นเจ้าของโรงแรมที่นักเรียนห้อง 3-3 ไปพัก มีอาการทางจิตและเป็นบ้าขึ้นมา
คูโบเดระ โชจิ (Kubodera Shoji) (ตาย) ครูประจำชั้นห้อง 3-3 ที่ย้ำบ่อยครั้งว่ากฎเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ภายใต้บุคลิกสงบเสงี่ยมนั้นภายใน เขาได้รับแรงกดดันทั้งภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะต้องเลี้ยงดูแม่ที่ป่วยเป็นอัมพาตและต้องดูแลห้อง 3-3 ส่งผลทำให้เขาตัดสินใจฆ่าแม่ของเขาเอง และฆ่าตัวตายด้วยการเอามีดปักตอปักคอตนเองต่อหน้าต่อตานักเรียนห้อง 3-3 และก่อนที่เขาตายได้จ้องมาที่พระเอกด้วยความโกรธ ซึ่งฉากดังกล่าวขนลุกเป็นอย่างมาก ทำให้เขากับแม่เป็นผู้ตายในเดือนกรกฏาคม และเคยปรากฏต่อหน้าพระเอกในความฝันโดยบอกว่าเป็นความผิดของเขา และการตายของเขาส่งผลทำให้นักเรียนในห้อง 3-3 หลายคนไม่มาโรงเรียนเพราะหวาดกลัวจนขึ้นสมอง
เรย์โกะ (Reiko) (ตาย) น้องสาวของแม่พระเอก (หรือก็คือคุณน้าของพระเอกนั้นเอง) เป็นผู้ปกครองของพระเอกในช่วงที่พระเอกย้ายมาโรงเรียนโยมิยามะ เขตเหนือ แม้อายุจะ 30 แล้วแต่ยังสาวสวยเหมือนเดิม อีกทั้งยังเป็นคนแนะนำในการใช้ชีวิตในโรงเรียน อีกทั้งยังเคยเรียนในโรงเรียนโยมิยามะ เขตเหนือ เป็นคนดังของห้อง แม้ภายนอกจะเป็นคนดีและรักพระเอก แต่ก็มีพฤติกรรมแปลกๆ เป็นต้นว่าเกลียดนกขุนทองสัตว์เลี้ยงประจำบ้านของพระเอก อีกทั้งจะอารมณ์เสียอย่างมากหากพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 15 ปีก่อน และเธอไม่เชื่อเรื่องคำสาปห้อง 3-3 ซึ่งความจริงแล้วคุณน้าของพระเอกก็คือ “คนตาย” ที่เป็นต้นเหตุอาถรรพ์ห้อง 3-3 ตัวจริงเสียงจริง ที่คืนชีพเมื่อครึ่งปีก่อน ที่ตอนนั้นเธอถูกชายลึกลับฆ่าและจมน้ำตาย หากแต่เป็นเพราะพลังของคนตายทำให้ความทรงจำคนรอบข้างเปลี่ยนหมดจนคิดว่าเธอมีชีวิตอยู่ หากแต่หลังจากที่พระเอกฆ่าคุณน้าตาย คำสาปห้อง 3-3 ปี 1998 ก็หยุดลงสิ้นเชิง พร้อมกับความลืมเลือนคนรอบข้างว่าเธอมีชีวิตอยู่
นอกจากนี้อีกหน้าหนึ่งของคุณน้าก็คือการเป็นอาจารย์มิคาอิ ครูผู้ช่วยประจำห้อง 3-3 (ช่วงกลางเรื่องก็ได้เป็นครูประจำชั้นห้อง 3-3 แทนครูคนเก่าที่ตายไป) และควบตำแหน่งเป็นอาจารย์สอนศิลปะในโรงเรียนและอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมศิลปะ หากแต่คุณน้าไม่อยากให้พระเอกเรียกเรย์โกะแต่ให้เรียกอาจารย์มิคามิแทน
ที่แปลกคือเมื่อคุณน้าพระเอกแปลงร่างเป็นอาจารย์มิคาอิ รูปร่าง โครงหน้า ทรงผม หรือแม้แต่สีผมจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งบุคลิกยังแตกต่างอีก (ใครที่ไม่ได้อ่านนิยายหรือมังงะมาก่อนจะคิดเหรอครับว่าน้าพระเอกและอาจารย์มิคามิจะเป็นคนเดียวกัน) เพราะในโรงเรียนคุณน้าจะสวยมาก เป็นที่หลงใหลของนักเรียนทั้งโรงเรียน (ถึงว่าทำไมพระเอกสนิทกับอาจารย์มิคาอิแบบแปลกๆ)
(ในนิยาย น้าของพระเอกไม่ได้ถูกฆาตกรรม แม้ว่าศพของเธอจะถูกพบในแม่น้ำ แต่มีการสรุปว่าเป็นอุบัติเหตุ อีกทั้งเมย์ไม่ได้เป็นสักขีพยานกับการตายของน้าพระเอก)
Another เป็นอนิเมะผลงานกำกับของTsutomu Mizushima ซึ่งผลงานก่อนหน้านั้นคือเรื่อง Blood-C พึ่งล้มเหลวมาหมาดๆ ครับ แม้จะไม่ได้เลวร้าย แต่กระนั้นคะแนนเฉลี่ยในเว็บต่างประเทศเขาให้ 6/10 ยอดขายและการตอบรับก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิดเสียเครดิตพอสมควร
จนกระทั้งปี 2012 ผู้กำกับท่านนี้ก็ได้เข็นอนิเมะเรื่องใหม่ ที่สร้างจากนิยายของยูกิโตะ อายะซึจิ (Yukito Ayatsuji) ที่ตีพิมพ์ในปี 2009 ซึ่งนักเขียนนิยายท่านนี้เคยมีผลงานวางแผงนิยายบ้านเราหลายเรื่องเหมือนกัน เช่นเรื่อง กระซิบสีเลือด . กระซิบจากสนธยา (Tasogare no sasayaki) และกระซิบแห่งเงามืด (Kurayami No Sasayaki) ทั้งหมดเป็นนิยายระทึกขวัญที่ได้รับความนิยมของญี่ปุ่นทั้งสิ้น
ตอนที่ผมเห็นอนิเมะครั้งแรก สิ่งที่ผมโล่งอกก็คือ อนิเมะเรื่องนี้ไม่ได้ใช้ทีม CLAMP มาออกแบบละครเหมือนเรื่อง Blood-C ผลงานก่อนหน้า ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบ CLAMP แต่เป็นความรู้สึกของผมว่าทีมนักวาดการ์ตูนรายนี้ไม่น่าจะถนัดการออกแบบตัวละครแนวการ์ตูนสยองขวัญเลือดสาดสักเท่าไหร่ หลายคนยังติดตากับภาพแฟนตาซี โรแมนติกที่โดดเด่นของทีม CLAMP เสียมากกว่า ซึ่งผลงานก่อนหน้าก็คือ Blood-C ก็เป็นตัวอย่างชัดเจนอยู่แล้ว
Another เปิดฉากออกมาด้วยความประทับใจต่อใครหลายคน ด้วยภาพงามหยดย้อย ราวกับศิลปะ การใช้ลูกเล่นสลับฉากไปมา ภาพมากมายต่างๆ ตัดไปตัดมาในช่วงต้นเรื่อง เริ่มจากบรรยากาศของเมืองที่พระเอกอาศัยอยู่ สถานที่มากมายไม่ว่าจะเป็นสวนสนุก บ้านเรือน ถนนไร้คนตอนฝนตก บันไดไม้ในโรงเรียน คฤหาสน์กลางป่า ฯลฯ หรือแม้แต่สิ่งของ จำพวกเทปวิทยุ ตุ๊กตา เรือและลิฟท์ ฯลฯ ซึ่งหากเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ คุณจะพบว่าสถานที่ปรากฏและสิ่งของตอนต้นเรื่องนั้นล้วนเกี่ยวพันกับเนื้อเรื่องทั้งสิ้น และภาพแต่ละภาพล้วนมีบรรยากาศเหมือนภาพยนตร์สยองขวัญของญี่ปุ่น ยิ่งในช่วงสลับฉากไปมาก็มีการอารัณบทด้วยเสียงเล่าลือของอาถรรพ์ห้อง 3-3 ยิ่งได้อารมณ์สยองขวัญเข้าไปใหญ่ ก่อนที่จะขึ้นด้วยเพลงเปิดที่สุดยอดในชื่อเพลง “Kyoumu Densen” ขับร้องโดย ALI Project ที่แสนประทับใจ เพราะเต็มไปด้วยอารมณ์ตื่นเต้น พิพากษา อารมณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ฟังแล้วยิ่งอยากติดตามเข้าไปใหญ่
เมื่อเปิดมาเท่านั้นแหละครับที่ผมกริ๊ดบ้านแทบแตก
“พระเอกและนางเอกน่ารักโครตๆๆ”
จะไม่ให้น่ารักได้อย่างไรครับ เปิดฉากก็เผยหน้าพระเอก กระหน่ำด้วยทวินเทล หนุ่มแว่น สาวแว่นโครตโมเอะ นอกจากน่ารักแล้ว พฤติกรรมและการแสดงก็น่ารักอีก เขียนไปก็ไม่เห็นภาพ ต้องไปดูเอาเอง จนไม่เชื่อเลยว่าตัวละครน่ารักแบบนี้จะอยู่ในเรื่องสยองขวัญสาดกระจาย
ตอนผมดูคาแรคเตอร์ตัวละครในอนิเมะครั้งแรกตกใจสิครับ เพราะก่อนหน้านั้นผมได้ดูมังงะผลงานของ ซึ่งลายเส้นตัวละครจะดูออกมามืดๆ ทึมๆ หน้าจริงจัง พอมาดูอนิเมะคนละเรื่องเลย
มีคนหลายคนบอกว่าตัวละครโมเอะแบบนี้เข้ากับเรื่องสยองขวัญหรือเปล่า บัดโธ่เข้ากันจะตาย เพราะดุแล้วเอาใจช่วย มีอารมณ์ร่วม อีกทั้งยุคนี้เป็นยุคขายคาแร็คเตอร์และงานภาพครับ ผมพูดได้เต็มปากเลย สมัยนี้ การที่คนจะดูการ์ตูนเรื่องหนึ่งสิ่งแรกที่เขาจะดูคือคาแร็คเตอร์และงานภาพว่าออกแบบถูกใจและสวยงามหรือเปล่า และต่อจากนั้นค่อยมาดูเนื้อหาอีกที ซึ่งดูเหมือนว่า Another จะรู้จุดนี้ดี เลยสร้างตัวละครได้น่ารักโครต (คนออกแบบตัวละครนี้ผลงานก่อนหน้าก็มี Phantom: Requiem for the Phantom และ Canaan)
เรียกได้ว่าตอนแรกอิ่มตัวละครห้อง 3-3 เต็มๆ ครับ ห้องอะไรก็ไม่รู้สวยๆ หล่อๆ น่ารักทุกคน (ดุ้นก็มี) พวกนักเลง หรือเจ้าอ้วนแทบไม่มีเลย คนออกแบบนี้คัดแต่พวกเกรดเอมารวมห้อง 3-3 หรือเปล่าเนี้ย
โดยเฉพาะฉากหนูเมย์ปรากฏนี้แหละโมเอะเป็นบ้า!! น่ารักจริงๆ ครับ เจอสาวเงียบมาเยอะแล้ว แต่พอมาเจอเมย์ในอนิเมะเรื่องนี้ แทบหัวใจหยุดเต้น ออกแบบได้น่ารักสุดๆ ไม่ว่าเสียง ท่าทาง รูปร่างที่บอบบาง น่าปกป้อง อีกทั้งยังตาสองสี ผ้าปิดตา อะไรก็แสนจะลงตัวสุดๆ ใครว่าสาวเงียบเริ่มเสื่อมในวงการการ์ตูน ไม่ได้เป็นนางเอกขอบอกให้กลับคำพูดแล้วมาดูเรื่องนี้เลยว่า “หนูเมย์น่ารักจริงๆ”
การดำเนินเรื่องล้วนน่าติดตามและลงตัว ไม่มีขัดใจหรืออารมณ์ขาดๆ เกินๆ แม้แต่น้อย ทุก 12 ตอน (ไม่นับตอนที่ 0 จะออกมาในเดือนเมษายนนี้) ล้วนทำได้ดีหมด มีการหักมุม มีการทำตกใจ มีลุ้น มีการสร้างอารมณ์หลากหลาย คนดูสามารถเข้าถึงตัวพระเอก คนธรรมดาที่ไม่รู้เรื่องราวอะไร ได้ย้ายเข้ามาห้องต้องคำสาป โดยไม่รู้กฎเกณฑ์อะไรเลยแม้แต่น้อย ตอนแรกเขาสงสัยตัวตนของเมย์ ว่าเธอเป็นใคร ทำไมหลายคนไม่สนใจเธอ ด้วยความสนใจพระเอก (ที่เสมือนหนึ่งตัวแทนของผู้ดู) ได้พยายามตามหาตัวจริงของเมย์ แต่ยิ่งสืบยิ่งทำให้พระเอก (และคนดู) คิดว่าเมย์เป็นผีวิญญาณหรือสิ่งแปลกประหลาดในห้อง 3-3 เพราะ บรรยากาศปฏิกิริยาของเพื่อนร่วมชั้นที่แสนอึดอัดที่พยายามปฏิเสธตัวตนของเมย์ (ตตอนนั้นทั้งรพะเอกและผู้ดูไม่รู้กฎคนไร้ตัวตน) อีกทั้งพระเอกรับข่าวสารสับสนเพราะในเรื่องมีคนชื่อ “มิซากิ” ถึงสามคนแถมต่างช่วง ต่างเวลา ต่างเรื่องราว (มิซากิผู้ชาย มิซากิแฝดเมย์ และมิซากิ เมย์) หากแต่ด้วยข้อมูลที่พระเอกได้รับกลับทำให้พระเอก (และคนดู) เชื่อว่ามิซากิทั้งสามคนคือคนเดียวนั้นคือ “เมย์” และเป็นคนที่ตายไปแล้ว
หลังจากนั้นจากการ์ตูนแนวลึกลับมีฉากสะดุ้งเล็กน้อยก็ได้กลายเป็นการ์ตูนที่กระหน่ำไปด้วยฉากเลือดสาด ฉากความตายปัจจุบันทันด่วน และฉากน่าสะพรึงกลัว ซึ่งเริ่มในตอนที่ 3 เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็นฉาก น้องแว่นโดนร่มปัก ฉากพยาบาลสาวลิฟท์ตก ฉากกระจกแตก โทนเสียงประกอบที่ตื่นเต้น ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ส่งเสริมทำให้การ์ตูนกลายเป็นแนวสยองขวัญสะดุ้งตกใจอย่างน่าชื่นชม แม้ว่าคุณจะอ่านนิยายหรือมังงะจนรู้เนื้อเรื่องก็อดไม่ได้ที่จะตกใจฉากเหล่านี้ไม่มากก็ไม่น้อย (บางฉากก็มีเพิ่มเติมจากของเดิม)
อย่างไรก็ตาม หลังจากตอนที่ 6 เป็นต้นไป เป้าหมายของตัวเอกก็ได้เปลี่ยนไป เมื่อเขาได้รู้ว่าห้อง 3-3 เป็นห้องพิเศษที่มีกฎข้อบังคับที่ไม่เหมือนห้องเรียนไหนในโลก และทุกคนต้องปฏิบัติตามทั้งหมด หากไม่ปฏิบัติตามความตายและหายนะจะมาเยือนเดือนละครั้ง พร้อมกันนั้นพระเอกก็ได้รับบทบาทในห้องใหม่คือการเป็น “คนไร้ตัวตน” แต่สิ่งที่พระเอกได้ก็คือการได้รู้เรื่องราวของเมย์มากขึ้น
หากเราดูการ์ตูนเรื่องนี้หลายๆ ตอน เราก็จะเริ่มสังเกตว่าตัวละครในเรื่องนั้นมีพฤติกรรมที่หลากหลาย ไม่ได้แบนราบ หรือขายคาแร็คเตอร์สักนิด โดยเฉพาะเมย์นี้ถือว่าเป็นตัวละครที่มีความหลากหลายอารมณ์ ภายใต้สาวน้อยเงียบ ดูบอบบาง เยือกเย็น เหมือนไม่มีความรู้สึกรู้สมนั้น ความจริงแล้วเมย์ก็เป็นเด็กสาวธรรมดาทั่วๆ ไป มียิ้ม มีเศร้า มีเสียใจ อีกทั้งยังคิดถึงจิตใจของคนอื่นด้วย สังเกตดีๆ ในตอนที่ 6 ผมว่าเป็นตอนที่อวยเมย์อย่างแท้จริง เมื่อพระเอกโดนกฎใหม่ทำให้กลายเป็นคนไร้ตัวตนของชั้น อย่างไรก็ตามพระเอกก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เมื่อในตอนนี้เขาได้กลายเป็นเพื่อนกับเมย์อย่างเป็นทางการ พร้อมกับฉากเผยรอยยิ้มของเมย์ เรียกได้ว่าฉากนี้เรียกเสียงเรตติ้งสูงสุด ชนิดเรียกว่า ต่อให้เราถูกโลกทอดทิ้ง หากแต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของเมย์โลกก็กลับสดใสก็ว่าได้
อย่างไรก็ตามความสุขของพระเอกและนางเอกแสนสั้น เมื่อทั้งห้องพบว่าวิธีกำหนด “คนไร้ตัวตน” สองคนไม่ได้ผล เมื่อถึงเดือนใหม่ก็มีคนตายอยู่ดี มาถึงตรงนี้ทั้งห้อง 3-3 เริ่มประสาทเสีย บรรยากาศไม่เป็นมิตร หวาดระแวง ความหวาดกลังที่คนในชั้นต่างไม่รู้เลยว่าใครจะตายในเดือนถัดมา อาจเป็นเรา, เพื่อน หรือครอบครัวเรา (หรือเพื่อน) คนที่พึ่งสูญเสียครอบครัวตายเพราะคำสาปและคนกลายเป็นโรคจิตเรียบร้อยแล้วพยายามหาวิธีระบายความอึดอั้นใส่ใครสักคน ซึ่งคนนั้นก็คือ “เมย์” สิ่งเหล่านี้ล้วนนำไปสู่โศกนาฏกรรมในตอนที่ 10-12
ผมดูการ์ตูนเรื่องนี้อย่างกับติดยาเสพติดจนกระทั้งมาถึงในช่วงตอนที่ 10-12 ซึ่งระหว่างนั้นเราก็เพิ่งมาสังเกตอะไรมากมายในอนิเมะเรื่องนี้ว่ามีรายละเอียดเนื้อหาแตกต่างจากต้นฉบับโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็น หน้าตัวละครที่โมเอะเกินพิกัดที่แทนจะเป็นแบบจริงจังเหมือนในมังงะ หรือว่าจะเป็นการเพิ่มตัวละคร การตายของตัวละครที่ไม่มีต้นฉบับ จนกระทั้งมาถึงตอนที่ 11-12 จากการ์ตูนลึกลับและสยองขวัญแบบเรียบๆ ก็ได้กลายเป็นการ์ตูน “มาฆ่ากันเถอะ” เลือดสาด เมื่อตัวละครหลายคนตั้งใจที่จะฆ่าเมียเพราะมีความเชื่อว่าเมย์คือ “คนตาย” ที่ต้องฆ่าเพื่อหยุดหายนะห้อง 3-3 หากแต่กลายเป็นว่าเรื่องราวเริ่มปานปลาย กลายเป็นเหตุวุ่นวายที่สายเกินแก้ ตัวละครตายราวกับใบไม้ร่วง (แถมที่ตายตัวละครหลักๆ ทั้งนั้น) อีกทั้งหลายตัวยังตายในลักษณะที่แปลกประหลาด ผิดกฎฟิสิกซ์โดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็น ยัยสะพานโค้ง หรือ หนุ่มเสาหล่นมาทับ หรือฉากที่พระเอกคุยโทรศัพท์ท่ามกลางเปลวไฟโดยไม่สำลักควันไฟแม้แต่น้อย ตรงส่วนนี้ทำให้หลายคนหงุดหงิดสำหรับการเปลี่ยนอารมณ์ของการ์ตูน แต่สำหรับผมแล้วกลับมีความเห็นว่าการ์ตูนเรื่องนี้คงมีดำเนินเรื่อง "มาฆ่ากันเถอะ" แน่นอน เพราะบรรยากาศมันส่งเสริมให้เกิดอารมณ์ "มาฆ่ากันเถอะ" มาโดยตลอด ไม่เกิดสิแปลก แถมผมยังมีคิดว่า “น่าจะมีตัวละครตายเยอะๆ หน่อย” ด้วยซ้ำไป
ปกติแล้วผมไม่ชอบอนิเมะที่ทำไม่ตรงกับต้นฉบับ แต่ยกเว้นการ์ตูนเรื่องนี้ เพราะการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการตายของตัวละคร ทำให้ผู้ดูไม่สามารถคาดเดาว่าตัวละครที่เราชอบจะตายหรือเปล่า เชื่อเลยใครที่ติดตามการ์ตูนเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ต่างลุ้นว่าพระเอกและนางเอก หรือทวินเทลนางรอง จะรอดจนถึงตอนจบหรือเปล่า แม้ว่าในต้นฉบับและมังงะทั้งคู่จะไม่ตาย (ทวินเทลในมังงะไม่ตาย) แต่หลายคนอดคาดเดากับเนื้อหาอนิเมะไม่ได้ เพราะว่าตัวละครมากมายตายฟลายตัว แถมเนื้อหาไม่มีในต้นฉบับเติมด้วย ทำให้คนดูได้ลุ้นจนถึงตอนสุดท้ายว่าตัวละครเหล่านี้จะรอดชีวิตหรือเปล่า
หากเราไม่คิดมากเรื่องผู้กำกับมันเขี้ยวไม่หายจาก Blood-C ความจริงแล้วประเด็นข้อคิด 11-12 มีข้อคิดมากกว่า “มาฆ่ากันเถอะ” ในการ์ตูนเลือดสาดหลายเรื่องๆ เพราะการ์ตูนไม่ได้เน้นฆ่าคนอื่นเพื่อให้ตนเองเป็นผู้ชนะแต่เพียงผู้เดียว ไม่ฆ่าเขาเราก็ตาย หากแต่ในการ์ตูนเรื่องนี้กลับเป็นแนวคิดการฆ่าคนอื่นเพราะมีความเชื่อว่าสิ่งที่ตนเองคิดเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสียมากกว่า
การ์ตูนเรื่องนี้ใช้คีย์เวิร์ดสามคำในการดำเนินเรื่องคือ “ความเชื่อ”, “กฎ” และ “ความตาย” มากำหนดโครงสร้างสังคมห้อง 3-3
- สร้าง “คนไร้ตัวตน” ขึ้นมา และเลือกคนในชั้นคนหนึ่งมาเป็น
- และทุกคนในห้องต้องปฏิบัติ “คนไร้ตัวตน” เสมือนไม่มีชีวิตอยู่
- ฯลฯ
กฎห้อง 3-3 นี้ดูเหมือนบ้าบอคอแตก มันไม่ใช้กฎที่ตั้งขึ้นตามแบบระเบียบสังคมให้เราปฏิบัติเพื่อสังคมส่วนรวม หากแต่กฎดังกล่าวมาจากความเชื่อในสิ่งลึกลับที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ เป็นสิ่งที่สืบทอดมาจนกลายเป็นประเพณี และเป็นความเชื่อของสังคมกลุ่มน้อย แม้ว่ากฎดังกล่าวจะแปลกๆ ขาดความน่าเชื่อถือ ทำแล้วก็ไม่เห็นจะได้อะไรขึ้นมา แต่หลายคนก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามกับกฎดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีความกลัวมาเป็นตัวบังคับให้ปฏิบัติตามกฎ หากไม่ทำตาม ความตายปัจจุบันทันด่วนอาจมาเยือนเราและครอบครัวในไม่ช้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อการมาของพระเอกมาถึง ก็ได้ทำลายกฎดังกล่าวโดยสิ้นเชิง ซึ่งความจริงกฎดังกล่าวมันไม่ได้ผลก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากแฝดเมย์ตาย แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญ เพราะพวกเขาเลือกที่จะเชื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้ามากกว่าเบื้องหลัง พวกเขาต้องให้ใครสักคนมาผิดชอบเรื่องนี้มากกว่า
และเมื่อกฎถูกทำลาย ความตายก็มาเยือน หลายคนตึงเครียดกับเรื่องเหล่านี้ ปกติแล้วพวกเขายิ่งเครียดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนว่าจบการศึกษาพวกเขาจะเลือกทางไหน อนาคตยังเป็นสิ่งไม่แน่ไม่นอน มาเจออาถรรพ์ยิ่งเพิ่มความเครียดไปอีก
หลังกฎถูกทำลาย ก็เหลือแต่ความเชื่อที่เข้ามาแทนที่ และเมื่อมีกฎใหม่เข้ามา แม้กฎใหม่นี้จะไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นจริงหรือไม่ แต่นั้นมันไม่สำคัญอีกแล้ว เพราะตอนนี้พวกเขาอยากระบายความอัดอั้นแก่ใครสักคน "เมย์" จึงเป็นตัวการที่ต้องรับผิดชอบอย่างช่วยไม่ได้ บางคนใช้กฎหมู่ในการตัดสินเมย์ หลายคนเชื่อคำพูดของยัยหน้าบูด หลายคนทำตามกฎโดยใช้ความเชื่อของตนที่เชื่อว่ามันถูกต้อง ต่อให้ความเชื่อนั้นเป็นสิ่งไม่ถูกต้องก็ตาม
-อาคาซาวะ อิซูมิ ทวินเทลหัวหน้าห้องที่เป็นคนจริงจังต่อหน้าที่และทุกอย่างเพื่อห้อง 3-3 หากแต่สิ่งที่เธอทำกลับกลายเป็นการเล่นพรรคพวก ใช้อำนาจกลุ่มให้คนหลายห้องปฏิบัติตาม ส่งผลทำให้คำพูดของเธอกลายเป็นสิ่งที่เด็ดขาด ใช้ความเป็นหัวหน้าห้องประจานความผิดเมย์ต่อหน้าคนอื่นทำให้หลายคนมองเมย์ในด้านลบ ส่งผลทำให้เหล่าลูกน้อง (ยัยแว่นหน้าบูด) ใช้ความน่าเชื่อถือว่าเป็นมือขวาทวินเทลถ่ายทอดวิธีแก้อาถรรพ์จนคนหลายคนเชื่อว่าเมย์คือคนตาย อีกทั้งทวินเทลเลือกเชื่อยัยหน้าบูดซึ่งเป็นเพื่อนสนิทยิ่งกว่าเชื่อพระเอก และต้องฆ่าเมย์เพื่อรอดพ้นหายนะ
-โทโมฮิโกะ คาซามิ หนุ่มแว่นที่แอบไม่ถูกกับพระเอก เพราะเป็นต้นเหตุทำให้สาวแว่นที่ตนแอบชอบตาย ไม่เชื่อว่าเมย์คือคนตาย แต่ใช้ความเชื่อของตนตัดสินเองว่าพระเอกคือคนตาย สมควรที่จะตาย สุดท้ายเขาก็พบหายนะ
-ทชิกาวาระ นาโตยะ ตอนแรกทำตัวน่าชื่นชม เป็นห่วงเป็นใยพระเอกและนางเอก ทำตัวร่าเริงเพื่อลดบรรยากาศความตึงเครียด หากแต่ช่วงหลังเขากลับมีความเชื่อว่าเพื่อนสนิทสมัยเด็กของเขาเป็นคนตาย เพราะมีพฤติกรรมผิดแปลกไป ทำให้มีเรื่องผิดใจกัน จนเรื่องปานปลายและทำให้เขาสูญเสียเพื่อนสนิทไปตลอดกาล
น่าสงสารเหล่านักเรียนห้อง 3-3 ที่ทุกคนล้วนเป็นคนดี มีนิสัยน่ารัก ไม่มีใครชั่ว เลวทราม ต่ำช้าสักคน หากแต่เป็นเพราะอาถรรพ์ห้อง 3-3 ทำให้บรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่กดดันตึงเครียดได้เปลี่ยนคนดีเหล่านั้นกลายเป็นบ้า ใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล คนอื่นๆ ที่เชื่อว่าเมย์คือคนตายและพยายามฆ่าเมย์ ผลสุดท้ายพวกเขาก็พบบทลงโทษสำหรับคนที่พยายามตัดสินคนอื่นด้วยกฎหมู่ก็คือ ผลก็คือพวกเขาได้รับบทเรียนด้วยการพบหายนะในลักษณะที่แตกต่างกัน
ท่ามกลางของคนหลงเชื่อ และคนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ยังมีคนที่ยึดมั่นความถูกต้อง และพร้อมที่จะทำตามความเชื่อนั้นอย่างมุ่งหมั่น นั่นก็คือ โคอิจิที่พยายามปกป้องเมย์ตั้งแต่ต้นจนจบ ดูแล้วพระเอกหล่อมาก ผลสุดท้ายด้วยความดีและความเสียสละทำให้พระเอกคนนี้ก็รอดตายท่ามกลางความบ้าคลั่ง ถูกใจหลายๆ คน (และตามสูตรพระเอกแนวต้องรอด รอดทุกงาน)
และแล้วก็มาถึงตอนที่ 12 เป็นอีกตอนที่แสนทำร้ายโอตากุอย่างแท้จริง เพราะว่าตัวละครที่อวยทั้งหลายต่างตายซะปวดตับ ไม่ว่าจะเป็น หนุ่มแว่นโมเอะ, ทวินเทล และคุณน้า ที่เป็นคนตาย ที่ฉากนี้พระเอกต้องอย่างไรก็ตัดสินใจสองทางว่าจะฆ่าหรือไม่ฆ่าคุณน้า ตรงจุดนี้ผมคิดว่าทำได้ดี บีบหัวใจ และสงสารพระเอกและคุณน้ามาก ตอนแรกพระเอกไม่เชื่อ หากแต่เมย์ได้พยายามอธิบายเหตุผล หลักฐานต่างๆ นาๆ สุดท้ายแล้วพระเอกได้ตัดสินใจฆ่าคุณน้า ผลก็คือคุณน้าคือคนตายตัวจริง เมื่อคุณน้ากลับคืนสู่ความตายอีกครั้ง ทำให้อาถรรพ์ห้อง 3-3 ปี 1998 สิ้นสุดลง ทุกอย่างกลับคืนสู่ความสงบ เหล่านักเรียนห้อง 3-3 กลับมายิ้มแย้มแจ่มใสอีกครั้ง
ในฉากสุดท้ายผมรู้สึกชอบ เมื่อพระเอกเดินคุยกับเมย์ถึงเรื่องราวเกิดขึ้น แม้หลายคนลืมเลือนสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนทัศนศึกษาฤดูร้อน แต่กระนั้นความรู้สึกผิดบาปของพระเอกที่ฆ่าคุณน้ายังคงอยู่ แม้ว่าเมื่อเวลาผ่านไปความทรงจำที่พระเอกอยู่กับคุณน้าจะถูกลืมเลือน
ในฉากสุดท้ายพระเอกได้เดินเคียงข้างกับเมย์ และทั้งสองก็พูดกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น และพูดถึงเรื่องน้าของพระเอกอีกครั้ง แม้ว่าคุณน้าจะเป็นคนตาย แต่กระนั้นพระเอกก็มีความรู้สึกผูกพัน และยังคงเศร้าใจที่ฆ่าคุณน้าตาย และที่เศร้าใจยิ่งกว่าคืออีกไม่นานเขาอาจจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ซึ่งเขาไม่อยากลืมเรื่องของคุณน้าของเขาเลย
เมย์จึงถามว่า “ไม่อยากลืมเรื่องพวกนั้นไปเหรอ?”
พระเอกได้แต่ยิ้ม และเขาก็ได้ถามเมย์ว่า “เรื่องจบแล้วแล้วสิน่ะ”
เมย์ได้แต่เพียงยิ้มตอบ และเรื่องก็จบลงอย่างบริบูรณ์...... (หรือเปล่า??)
สุดท้ายนี้ผมก็บอกว่า เป็นคนหนึ่งที่ชอบทวินเทลไม่แพ้ตัวละครอื่น (รักพระเอก, นางเอก และทวินเทล) ไม่อยากให้ทวินเทลตาย เพราะทวินเทลน่ารักมีซึน ชุดว่ายน้ำก็โมเอะ (เมย์ก็โมเอะ) และอยากให้ฮาเร็มกับพระเอก แม้บทบาทของเธอในเรื่องไม่ได้สวิทพระเอกมากนัก แต่ด้วยความซึน ความสวย ความโดดเด่น มีอารมณ์หลากหลาย (โดยเฉพาะตอนทวินเทลร้องไห้ อยากเข้าไปปลอบเป็นบ้า) แน่นอนผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รู้สึกเสียใจการตายทวินเทลไม่แพ้คนอื่นๆ แน่นอน อย่างไรก็ตามการตายของทวินเทลนั้นสวยงาม ไม่โหดร้าย ฉากที่ทวินเทลมองพระเอกและนางเอกดุจนางพญานั้นยังคงติดตามติดใจผมไม่รู้ลืม บทบาทของทวินเทลทำออกมาดีและคุ้มค่าตัวแล้วครับ (ในนิยายและมังงะบทยังน้อยเลย)
ไว้อาลัยแก่สาวทวินเทลสักครู่......
การ์ตูนเรื่องนี้จบลงตัวทุกอย่าง ไม่มีอะไรค้างคาใจ (แต่กระนั้นก็มีการทำตอน 0 ที่กลับมายังเนื้อเรื่องแฝดเมย์ตอนยังมีชีวิตอยู่ ที่ตอนนี้เรื่องยังปิดเงียบไว้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแฝดเมย์ ทำไมเธอถึงตาย และทำไมเมย์ถึงนิ่งทุกงาน) แม้ว่าพระเอกกับเมย์จะไม่ได้มีฉากกอดจูบกัน ผมกลับมองความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็แน่นแฟ้นยิ่งกว่าคู่รัก พระเอกได้พิสูจน์ตนเองให้เมย์เห็นว่าเป็นคนพึ่งพาได้ เขาเป็นคนเดียวที่เมย์เชื่อใจและปกป้องเธอมาโดยตลอด หนีตายด้วยกัน เป็นพยานแห่งความตายด้วยกัน ทั้งคู่ต่างร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ชีวิตนี้ยังอีกยาวไกล สู้ต่อไปซากิบาระคุง!!
สรุปคือ เป็นการ์ตูนที่ผมชอบของซีซั่นฤดูหนาวต้นเดือน 2012 ครับ อีกทั้งไม่ใช่การ์ตูนที่ดูจบแล้วจบเลย ตอนดูจบครั้งแรกผมยังกลับไปดูอีกหลายรอบ เพราะเก็บบรรยากาศ เก็บอารมณ์ และดูจุดบอกใบ้ว่าน้าพระเอกเป็นคนตาย เอาเป็นว่าแนะนำครับสำหรับใครชอบการ์ตูนสยองขวัญเลือดสาด เพราะนี่คือผลงานแก้ตัวของผู้กำกับ Blood-C ที่ทำออกมาได้ดีเกินคาด ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตัวละคร, บท, การตัดต่อภาพ และการดำเนินเรื่อง ทุกอย่างล้วนลงตัวและสนุกไปหมด ขอบคุณที่ทำอนิเมะชั่นเรื่องที่เต็มไปด้วยคุณภาพและความตั้งใจครับ
อย่างไรก็ตามหลังจากที่จบตอนที่ 12 มีหลายประเด็นที่หลายคนไม่เข้าใจหรือขัดใจบ้างเป็นบางครั้ง โดยผมได้รวบรวมหัวข้อเด่นๆ ดังต่อไปนี้
ใครเป็นคนฆ่าคุณน้าพระเอกตอนที่ยังมีชีวิตอยู่?
ทำไมเมย์นิ่งทุกงาน?
ทำไมเมย์ไม่บอกคนอื่นว่าคนตายเป็นใครตั้งแต่ตอนแรก
ความจริงเทชิกาวาระชอบสาวทวินเทล แต่ประเด็นนี้ในอนิเมะไม่เน้นมากนัก เน้นความเป็นคู่กัดมากกว่า แต่มังงะเน้นสุดๆ เป็นเหตุทำให้ทวินเทลรอดตายและคู่กับเทชิกาวาระแทน (แต่มังงะทวินเทลไม่ได้ทอดสะพานให้พระเอกน่ะ)
+ +
ความคิดเห็น