ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #17 : Doubt ฆ่ายกเกาะ

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ย. 63



    จุดประสงค์ที่ผมเขียนบทความนี้ก็หวังจะนำเสนอการ์ตูนที่ชอบให้ทุกคนได้อ่านกัน กับหาคนมาคุยในเอ็มเพื่อแลกเปลี่ยนขอคิดเห็นการ์ตูนโหดบ้าง ซึ่งหลังจากที่ผมลงเรื่องไประยะหนึ่งปรากฏว่าคนออนเอ็มใหม่ๆ แต่ละคนดันไม่มีใครชอบการ์ตูนสักคนอ่ะ(ไหนว่าประเทศไทยมีคนอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นมีเยอะไง) บางคนมาถามเว็บไซต์โดจินโป๊(ไม่น่าเผยตนเป็นคนหื่นเลย เหอๆ) จะคุยกับคนที่ไม่อ่านการ์ตูนมันก็ไม่มัน  บางคนยังไม่รู้จักอักษรศีลธรรมเลย...........เอาเถอะสักวันคงมีสักคนน่าที่ชอบแนวๆ เดียวกับผมแล้วออนเอ็มแลกเปลี่ยนด้วยกันนะครับ

     

    ..........................................................

     

                    คนแปลกหน้า 10 คนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนและไม่เคยพบกันมาก่อน กำลังมุ่งหน้าไปที่แห่งหนึ่งโดยไม่นึกสงสัย...

                    คน 10 คนต่างถูกนัดหมายให้ไปรวมยังสถานที่เดียว  มีทั้งหญิง ชาย แก่ หนุ่ม  ต่างเพศต่างวัย ไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแม้แต่น้อย

                    แต่จุดที่เหมือนกันคือ ทั้งหมดเคยมีอดีตบาป ทุกคนล้วนเคยทำให้ใครคนใดคนหนึ่งต้องตาย ทว่ากฎหมายตัดสินให้พวกเขาบริสุทธิ์ พวกเขาพ้นโทษ...

                    และเมื่อถึงสถานที่นัด พวกเขาก็พบว่าสถานนี้เป็นคฤหาสน์ลี้ลับเกาะเล็กๆ ลึกลับ โดดเดี่ยวกลางทะเล มันถูกปิดตายจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง

                    จากนั้นพวกเขาค่อยก็ๆ หายไปจากโลกทีละคน......10 9 8 7 6 5 4 3 2...แล้วก็ 1

                    จนกระทั่งไม่เหลือใครเลยสักคนเดียว ทั้งๆ ที่นอกจากพวกเขา 10 คนแล้ว...ก็ไม่มีคนอื่นอีกบนเกาะนั้น...

                    นี้คือคำโปรยหลังปกของนิยายของอกาธาคริสตี้ ผลงานอันดับที่ 26 เรื่อง And Then There Were None ชื่อไทยก็มีหลายชื่อนะครับ มีทั้งฆ่ายกเกาะ, ตายยกเกาะ, ตุ๊กตาคำสาป ฯลฯ

                    อ่านเนื้อเรื่องคุ้นๆ ไหมครับว่าเคยเห็นที่ไหน ก็เรื่องนี้เป็นนิยายสืบสวนสอบสวน,สยองขวัญ ที่คลาสสิกที่ถูกนำไปขยายความ ดัดแปลงในการ์ตูนหนังหลายๆ เรื่องนี้น่า ปัจจุบันผมเอามันมาอ่านอีกรอบก็ไม่น่าเบื่อแต่อย่างใด แม้เรื่องจะเขียนนานแล้ว(เขียนเมื่อปี 1939) แต่เนื้อเรื่อง พล็อต กลวิธีเล่าเรื่อง ยังทันสมัยอยู่เลยนะครับ ดีกว่านิยายแปลเล่มหนาๆ ราคา 200 บาท บางเรื่องสักอีก (นิยายเล่มนี้ราคาเพียง 100 บาทเท่านั้น)

                    And Then There Were None ถือได้ว่าเป็นพล็อตที่การ์ตูนแนวสืบสวนสอบสวน นำไปใช้มากที่สุด ทุกวันนี้เวลาเราอ่านการ์ตูนแนวจำพวก คนกลุ่มหนึ่งสัก 8-10 ถูกนัดโดยคนลึกลับคนหนึ่งให้มาสถานที่ปิดตายจากโลกภายนอกจากนั้นก็มีคดีฆาตกรรมคนตายที่ละคน ทีละคน โดยคนที่ตายมีจุดร่วมกันคือเกี่ยวข้องกับคดีบาปในอดีต ที่ทำให้คนอื่นต้องตาย และสุดท้ายก็หักมุกชนิดเลยว่าคนอ่านคาดไม่ถึง เมื่อฆาตกรคือหนึ่งในกลุ่มที่เชิญมาและเป็นญาติหรือคนรู้จักผู้ตายในอดีต นั้นแหละครับพล็อตต้นตำรับแนวนี้มาจาก And Then There Were None นั้นแหละ

                    คุณคงจะนึกถึงการ์ตูนที่มีพล็อตแบบนี้คือ คินดะอิจิ กับโคนัน ใช่เปล่าครับ ผมมีการ์ตูนอีกเรื่องจะนำมาเสนอเหมือนกัน ซึ่งหลายๆ คนบอกว่าไม่สนุก ซึ่งจะไม่สนุกอย่างที่ว่าไหม คุณเท่านั้นที่จะตัดสิน(อย่าไปเชื่อผมมาก)

     

     

    Doubt ลวง หลอก ฆ่า
    แนวจิตวิทยา สยองขวัญ คิลเลอร์

    (สามารถหาอ่านได้ที่ http://www.onemanga.com/Doubt/)

     

                    ผมเห็นปกการ์ตูนนี้ครั้งแรกในสมัยการ์ตูนเล่มนี้เป็นสำนักพิมพ์ CN เป็นรูปคนใส่หัวกระต่ายแขวนคอดูแล้วสยองขวัญไงชอบกล ตอนแรกก็คิดว่าเป็นการ์ตูนจำพวกลัทธิหัวกระต่ายหรือเปล่าหว่า หรือเป็นจะเป็นแนวปรากฏการณ์ฆ่าตัวตายหมู่ของญี่ปุ่น(ว่ะ ดูไม่ออก....คำโปรยปกหลังก็ไม่มี....ไม่รู้พระเอกไม่น่ารักหรือเปล่า.......กลัวนางเอกไม่สวย............ว่าแล้วซื้อมาดูเลยดีกว่า)

                    แต่กว่าจะซื้อนี้ ต้องรอเรื่องนี้ได้ลิขสิทธิ์จากสำนักพิมพ์สยามเลยละครับ ปกก็สวย น่าซื้อเก็บ เปิดออกมา เป็นนิทาน อืม.....

                    กาลครั้งหนึ่ง ยังมีหมาป่าแฝงตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มกระต่ายซึ่งรักใคร่กลมเกลียวกัน

                    ในยามที่เหล่ากระต่ายหลับไหล หมาป่าก็จะเปิดเผยตัวจริงออกมา และคอยจับกินกระต่ายไปวันละตัวๆ

                    เหล่ากระต่ายไม่รู้ว่าใครคือหมาป่ากันแน่ จึงได้เปิดประชุมกัน และ..........

                    ทุกตัวก็ได้ตัดสินลงโทษกระต่ายที่คิดว่าเป็นหมาป่าไปทีละตัว

                    ซึ่งหากว่านั่นคือหมาป่าตัวจริงละก็พวกกระต่ายก็จะเป็นฝ่ายชนะ แต่หากมันไม่ใช้แล้วละก็....

                    เหล่ากระต่ายจะต้องถูกจับกินจนหมด!!!

                    นี่คือเรื่องราวของเกมซาดิสสุดระทึก Rabbit Doubt !!!

                    คือคำโปลยต้นเรื่องก็อร่อยเหาะแล้วครับ เมื่ออ่านต่ออีกอืมๆ

                    อ่านแล้วค้นๆ ไหมครับ.............ก็มุกส่วนหนึ่งมาจาก “ฆ่ายกเกาะ”ของอกาธาคริตตี้นี้น่า

                    เรื่องเริ่มขึ้นโดยผ่านมุมมองพระเอกของเรื่องคือไอคาว่าอยู่(ดำเนินเรื่องแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่ง) ซึ่งกำลังจะไปมิตติ้งนัดพบระหว่างผู้เล่น Rabbit doubt ทั้ง 5 คน ระหว่างทางก็มีนางเอกโฮยามะ มิสึกิที่เจอโดยบังเอิญเข้าร่วมด้วย รวมเป็น 6 คน

                     และเมื่อสมาชิกในเกมส์มารวมตัวกัน งานปาร์ตี้ก็เริ่มต้นขึ้น แต่แทนที่งานปาร์ตี้นั้นจะสนุกสนามกลับตึงเคลียด เพราะดูเหมือนว่าสมาชิกทั้ง 5 ในเกมส์จะมีความลับอะไรสักอย่างที่บอกใครไม่ได้ บวกกับหนึ่งในสมาชิกที่ชื่อชิ เอจิ ที่เป็นนักเลงชอบทำให้งานกร่อย แต่สุดท้ายเรื่องราวก็ผ่านไปด้วยดี มีฉากซึ้งระหว่างพระเอกกับอาซามะ เรย์หนึ่งในสมาชิกในเกมส์ที่อดีตเคยเป็นสาวน้อยพลังจิต(น่ารักจังวุ้ย) แต่แล้วจากเหตุการณ์ซึ้งๆ เรื่องก็กลายเป็นสยองถนัดตา เมื่อสมาชิกทั้งหมดถูกวางยาสลบ(ผมยังสงสัยว่าฆาตกรทำได้ไงว่ะ ที่ลากสมาชิกทั้งหมดออกมางานปาร์ตี้ได้โดยไม่มีใครในร้านสงสัย..แถมแต่ละคนหนักไม่ใช้เล่นๆ นะเนี้ย....ลากไหวเรอะ..หรือว่า)

                    และเมื่อพระเอกลืมตาตื่นขึ้น(มาถึงช่วงนี้เหมือนเรื่อง SAW เลยครับ) ก็พบว่าตนเองอยู่ตึกร้างแห่งหนึ่งกับสมาชิกในเกมส์ทั้งหมด และด้านหน้ามีศพของอาซามะ เรย์ถูกตรึงด้วยหมุดขนาดใหญ่และที่กลางหน้าอกถูกปักด้วยหมุดแบบเดียวกัน เลือดสาดท่วมบริเวณ และมีประโยคบนกำแพงเขียนว่า “The Liar must dis(คนโกหกต้องตาย)” และมีบาร์โค้ดปริศนาที่ปรากฏบนร่างกายของ"ผู้เล่น" ทุกคนยกเว้นพระเอก ซึ่งบาร์โค้ดนี้จะสามารถใช้ปลดล็อกประตูเหล็กได้ทุกบานในตึกแต่สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวต่อหนึ่งบาร์โค้ดที่ติดอยู่แต่ละคน

                    แล้วทำไมฆาตกรต้องทำให้ยุ่งยากแบบนี้ด้วย ทำไมไม่ฆ่ารวดเดียวจบ ทำไมต้องให้เหยื่อแต่ละคนระแวงซึ่งกันและกัน นี้เป็นเกมส์เหรอ และจุดประสงค์ของเกมส์นี้คืออะไร ทำไมต้องเจาะจงเลือกพวกเขา และขณะที่เรื่องเต็มไปด้วยปริศนาหมู่ สมาชิกทั้ง 5 คนก็เริ่มรู้ตัวว่าคนใดคนหนึ่งในกลุ่มพวกเขาเป็นหมาป่าหรือ “ฆาตกร” และฆาตกรคนนี้สามารถใช้บาร์โค๊ตเปิดประตูทุกบานได้.......

                    
                    
    ผมลองไปหาความคิดเห็นของคนที่เคยอ่านการ์ตูนเล่มนี้ดูจากเว็บต่างๆ ส่วนใหญ่แล้วมีแต่เสียงตอบรับไม่ค่อยดีเลยครับ ประมาณว่า “สิ่งหนึ่งที่รู้สึกขัดใจก็คือ ถ้าเปรียบตัวการ์ตูนในเรื่องเป็นนักแสดง...แต่ละคนเล่นได้แข็งทื่อสุด ๆ คือการแสดงอารมณ์และท่าทางมันดูเกร็ง ๆ ดูแล้วรู้สึกเหมือนมันไม่เต็มที่ มันน่าจะได้มากกว่านั้นอีก พยายามคิดว่าคนเขียนอยากสื่อให้เหมือนคนจริง ๆ ไม่โอเวอร์แอคติ้งแบบการ์ตูนญี่ปุ่นทั่วไป แต่มันก็ดูแข็งไปอยู่ดี เช่นเดียวกับฉากต่อเนื่องที่ดูไม่ไหลลื่นเท่าที่ควร มุมภาพซ้ำบ่อย ๆ เหมือนคนเขียนยังไม่เชี่ยวชาญการนำเสนอภาพเลยเขียนแบบเลี่ยง ๆ เอา อย่างตอนที่นางเอกโดนผลักเนี่ย...มันกระเด็นเวอร์ไปหรือเปล่า ตอนพระเอกโดนชกก็ดูแล้วมันไม่น่าแรงพอที่จะสลบได้เลย  ข้อเสียเรื่องนี้คนตัวละครน้อยไปหน่อยเลยมีฉากถูกฆ่าน้อยมาก(โห....ทำไมผมอ่านแล้วไม่คิดแบบนี้หว่า)”

                    ผมก็ย้ำอีกครั้งดีกว่า เราอย่าอ่านแบบจับผิดหรือดูลายเส้นเลยครับ เรามาดูสิ่งที่การ์ตูนเรื่องนี้จะให้เราดีกว่า สำหรับความคิดเห็นสำหรับการ์ตูนเรื่องนี้ อย่างแรกคือ มันสนุกมากครับเดี๋ยวนี้การ์ตูนแนวๆ ลึกลับ สยองขวัญ เริ่มๆ มีน้อยแล้ว หลังจากที่นารูโต๊ะ, บลิซ อาละวาดแผงหนังสือ บวกกับหลายๆ คนยังยึดติดกับโคนันอยู่ และราคาหนังสือการ์ตูนแพงมากขึ้น ทำให้เด็กๆ เริ่มงกเงิน และเริ่มเรื่องมากในการอ่านการ์ตูนมากขึ้น(หันมาดูเน็ตแทน) เลยทำให้การอ่านการ์ตูนเรื่องนี้กลายเป็นไม่สนุกไป

                    
                   สิ่งที่ผมชอบคือตัวละครน้อย แปลกใหม่ละ คนอื่นชอบตัวละครเยอะๆ แต่ทำไมผมชอบตัวละครน้อยๆ เพราะถ้าตัวละครมากไปบทมันก็กระจัดกระจายสิครับ อย่างการ์ตูนบางเล่มนะ(ไม่ขอบอกว่าเรื่องอะไร) คุณเห็นหน้าพระเอก นางเอกออกโรงกี่หน้า บางเล่มนะออกมาแทบนับช่องได้ นอกนั้นตัวละครประกอบวิ่งชนกันวุ่น สู้กันทั้งเล่ม แล้วเราได้อะไรนอกจากความมัน อ๊ะจ๊าก

                    ถ้าผมเอาการ์ตูนเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกับฆ่ายกเกาะของอกาธาคริตตี้ จะเห็นได้ว่าเนื้อเรื่องของมันเหมือนมาก(SAW ผมไม่ได้ดู) ตัวละครแต่ละตัวมีมิติ(จริงๆ ว่าผมมีมิติ) เมื่อเรื่องราวนำเสนอตัวละครในเรื่องทั้งหมดแล้ว  ความลื่นไหลของเนื้อเรื่องและความเข้มข้นของปริศนาจะทำให้คุณวางไม่ลงอย่างแน่นอน แม้เรื่องจะเหมือน SAW นิดๆ (ซึ่งไม่รู้ตอนจบเหมือนตอนจบหรือเปล่า ที่ว่าฆาตกรคือศพ.....เออเรื่องฆ่ายกเกาะฆาตกรก็ตายหลอกๆ นี้น่า)   แม้สถานที่เกิดเรื่องจะเป็นที่แคบๆ ตึกเล็กๆ อะไรสักอย่าง แต่ความตึงเครียดของตัวละคร บรรยากาศที่อึดอัดนั้นมีมากมายแน่นอน ตามประสามุกคนหวาดระแวงว่าฆาตกรอยู่ในกลุ่มตัวเอก

                    และเมื่อตัวละครในการ์ตูนเรื่องนี้จะตายทีละคนทีละคน แทนที่จะสบายใจหรือจำนวนผู้ต้องสงสัยว่าเป็นฆาตกรจะน้อยลง แต่กลับกันความหวาดระแวง, ความตึงเครียดและสะพรึงของคนรอดชีวิตเริ่มทวีมากยิ่งขึ้น(ขอแนะนำให้อ่านตอนค่ำๆ คนเดียวครับ จะสนุกมาก)

                    
                     การ์ตูนเรื่องลวง หลอก ฆ่า มันสอนเราอะไรหลายๆ อย่าง อย่างแรกคือภัยร้ายจากอินเตอร์เน็ต
    ซึ่งทุกคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งใดก็ตามที่ได้คุณประโยชน์ก็ย่อมจะมีโทษในตัวมันเอง สังคมมนุษย์ก็เช่นกันย่อมมีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกันไป อินเตอร์เน็ต,มือถือ ถือได้ว่าเป็นสังคมมนุษย์หนึ่งเนื่องจากเกิดขึ้นจากความพยายามที่จะติดต่อสื่อสารกันของมนุษย์โดยอาศัยเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต,มือถือเป็นสื่อกลางแทนที่จะเป็นคำพูด ท่าทาง ฯลฯ แต่อินเตอร์เน็ตเป็นสังคมของคนทั้งโลกที่ไร้พรมแดน (Globalization) ไม่แบ่งชั้นวรรณะย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีสิ่งไม่ดีสิ่งที่เป็นภัยแอบแฝงอยู่มาก รวมทั้งคนเลวซึ่งได้แก่บรรดามิจฉาชีพ อาชญากรรม (แบบไฮเทค) ได้อาศัยอินเตอร์เน็ตเป็นที่แฝงตัวและหากินบนความทุกข์ของผู้อื่น หรือหลอกมาข่มขืน หรือแม้แต่ฆาตกรโรคจิตที่ต้องการหาเหยื่อสาวน่ารักสักคนมาบำบัดอารมณ์วิปลาสของตน

                    ตัวอย่างคดีนี้ ในไทยเราก็มีเยอะ ขอยกตัวอย่างคดีหนึ่งละกัน เมื่อ 8 พ.ค. ปี 2009 เขตบางกะปิ กทม. เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ตำรวจพบชิ้นส่วนต่างๆ เกือบครบยกเว้นส่วนหัว ของหญิงสาวอายุประมาณ 25-30 ปี มีรอยสักรูปผีเสื้อบริเวณแผ่นหลัง ชิ้นส่วนเหล่านี้อยู่ในกระเป๋าเดินทางที่ฆาตกรนำมายัดและนำทิ้งบริเวณที่เกิดเหตุ จากการสอบสวนตำรวจสามารถจับฆาตกรตัวจริงได้ คือ นายโมฮัมหมัด อารีฟ อายุ 34 ปี ชาวปากีสถาน ซึ่งได้รับสภาพว่ารู้จักผู้ตายทางอินเตอร์เน็ต(เหยื่อชื่อ น.ส.ดิสนีย์ หรือปิยานัน) และส่งรูปเพื่อนที่หน้าตาดีไปให้ดู และพูดคุยกันจนเหยื่อหลงเชื่อเดินทางมาพบที่กรุงเทพฯ โดยนายโมฮัมหมัด เดินทางมารับอ้างว่าเพื่อนให้มารับแทนจากนั้นพาเข้าโรงแรมราชาพาเลซ น.ส.ดิสนีย์ ถึงรู้ความจริงว่าถูกหลอกจึงมีปากเสียงกัน และถูกนายโมฮัมหมัดทำร้าย โดยน.ส.ดิสนีย์พยายามโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากพ่อ แต่นายโมฮัมหมัด แย่งปิดโทรศัพท์เสียก่อน จากนั้นลงมือข่มขืนแต่เหยื่อต่อสู้หรือพยายามหนีจึงถูกฆ่าตาย ก่อนที่คนร้ายจะออกไปหาซื้อมีดและกระเป๋ามาลงมือฆ่าหั่นศพอำพรางคดีดังกล่าว

                    อย่างที่สองคือความสามัคคีในหมู่คณะ ผมสังเกตหลายเรื่องแล้วนะครับ หนังจากพวกฆาตกรไล่ฆ่าคนเนี้ย แทนที่ตัวละครทั้งหมดจะสามัคคีกันไม่เลย  ทุกคนมัวแต่โทษกันว่าคนนี้ผิดคนนี้ถูก แทนที่จะตั้งป้อมสู้ฆาตกร ต่างคนกลับหนีเอาตัวรอดซะงั้น อย่างงี้มันก็หวานหมู่ฆาตกรสิ ไล่ฆ่าง่ายเป็นบ้า และสุดท้ายไม่พระเอกหรือนางเอกมีชีวิตรอดคนเดียว...จบซึ่งผมว่าเราควรใช้สติ ตั้งตนอย่าให้เกิดความประมาทดีกว่านะครับ เวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ สามัคคีคือพลัง อย่าได้เหมือนประเทศบางประเทศที่ทะเลาะกันอะไรนักหนา

                    

                    

                    หลังจากที่อ่านจบ หลายคนสงสัยว่าเรื่องนี้มีภาคสองตามมาหรือเปล่า ผมไปหาวีพีมีเดียหรือตามเว็บอื่นๆ แล้วปรากฏว่ามันมีครับ!! แต่เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Judge คราวนี้เกมส์จะโหดขึ้นแน่นอน

                      สรุปคือ.....................ลองไปอ่านดูเถอะครับ แต่ผมแนะนำว่าอย่าอ่านจับผิดดีกว่าครับ แม้ตัวละครจะน้อย แต่เรื่องก็นำเสนอความน่ากลัว สยดสยอง และทำให้คนอ่านอย่างเราๆ รู้สึกอยากเอาใจช่วยพวกพระเอกให้รอดตายจากเกมบ้าๆ แบบนี้ และขออย่าให้ตัวละครในเรื่องตายเลย เห็นแล้วมันน่าสงสารจับใจ จะดีจะชั่วอย่างไรอย่าทำตั้งตัวเป็นศาลเตี้ยเลยครับ ปล่อยให้สังคมเป็นตัวตัดสินดีกว่า และที่สำคัญฮาซามะ เรย์น่ารักมากๆ ขวัญใจเฮียเลยแหละ(และกระต่ายในเรื่องก็น่ารัก)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×