คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #168 : มองอย่างแมวๆ อนิเมชั่นฤดูหนาว 2011 หลายเรื่องที่ต้องอดทนดู
กระทู้ที่ผมบ่นไว้
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2364904
ขอพูดตามตรงน่ะครับ อย่าว่าคนแก่วัยจะใกล้ 30 เลย อนิเมะซีซั่นนี้เกือบทั้งหมดผมทนดู ทนดูจริงๆ ครับ ไม่ได้ดูเพื่อคลายเครียดหรือเกิดความจำเริญเพลิดเพลินใจแต่อย่างใด บางเรื่องดูแล้วเครียดหนักกว่าเก่าด้วยซ้ำ ดูเพราะว่าเผื่อมีเรื่องอะไรน่าสนใจ น่าเขียนบ้าง หรือพวกเพชรในตม แนะนำแก่สนใจตามหาการ์ตูนดีแต่ไม่ดัง โอเคครับภาพสวย ลงทุน แต่ว่ามันสนุกหรือไม่สนุกก็เป็นอีกเรื่องครับ
อย่างที่ผมบอกเอาไว้ว่า ผมไม่สนหรอกว่าการ์ตูนไหนมีเนื้อหาสุดยอด สนุกมากเพียงใด ผมสนว่ามันจะทำให้หัวใจผมซาบซ่าในการทำงาน หากไม่ ผมก็ไม่สนแล้วล่ะ ดังนั้นสิ่งที่ผมเขียนต่อไปนี้อาจจะรุนแรงไปสักนิด แตจ่มันมาจากใจผมจริงๆ (แต่มีเรื่องเดียวที่ผมอคติ) เอาเป็นว่าอ่านอย่างมีสติล่ะกันนะครับ ผมเป็นนักอ่านมังงะ ไม่ใช่นักดูอนิเมะ ไม่รู้หรอกว่าอันไหนเผา อันไหนคือพากย์ดี พากย์ห่วย สิ่งที่ผมรู้คือมันสนุกสำหรับผมหรือเปล่า
ตารางอนิเมะปีนี้ครับ
http://countdown.mandragon.info/
Amagami SS+
ทนดูและเอาชมรมคนไร้เพื่อนของผมคืนมา ภาค 2 ของ Amagami SS ที่ฉายต่อการ์ตูนชมรมไร้เพื่อนที่จบไป โดยการ์ตูนเป็นเรื่องราวหลังจากพระเอกหน้ามน ทาจิบานะ จุนอิจิ ได้ปักธงสาวๆ แต่ละคนได้เรียบร้อยแล้ว แต่แน่นอนว่าแค่มันไม่จบเพียงเท่านั้น ชีวิตยังต้องดิ้นกันต่อไป เพราะหลังจากถึงเปิดเทอม เขาและสาวๆ ก็พบปัญหาครั้งใหม่ ที่แตกต่างกันไป โดยบทแรกเป็นหัวหน้าห้อง (ทั้งที่ตอนที่แล้วมีลูกมีผัวกันแล้ว มันย้อนกลับไปเป็นนักเรียนมัธยมปลายเฉยเลย) ซึ่งเป็นตอนโรงเรียนกำลังมีการเลือกตั้งประธานนักเรียน และฝ่ายที่ไม่ชอบหัวหน้าห้องได้วางแผนร้ายอย่างหนึ่ง คือการทำให้หัวหน้าห้องเข้าใจผิดว่าพระเอกมีกิ๊กคนอื่น (มุกน้ำเน่าชิบหาย )
การ์ตูนเรื่องนี้จะเรียกฮาเร็มก็ไม่เชิงนัก เพราะไม่ได้มาแนวการดำเนินเรื่องฮาเร็ม ที่ตัวละครสาวๆ ต่างหลงรักพระเอก แต่จะเป็นบทๆ เหมือนเกมจีบสาวมากกว่า ว่าจะอวยสาวคนไหน จบบทและกลับมาสู่เริ่มต้น เปลี่ยนอารมณ์ใหม่หมด ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการดำเนินเรื่องไม่ค่อยถูกใจนักในสายตาผม
ภาคที่แล้วดำเนินเรื่อง 25 ตอน(ไม่รวมตอนพิเศษ) ซึ่งถือว่าเยอะ แต่คะแนนที่ได้เพียง 7/10 และบทบาทการดำเนินเรื่องของสาวแต่ละคนออกจะน่าเบื่อ ไม่สนุกด้วยซ้ำ มางวดนี้ลดลงเหลือเพียง 12 ตอน(คาดเดา) ซึ่งคงเป็นจะเป็นการนำเนื้อเรื่องใหม่ จากเกมภาคใหม่มาเสริมเข้าไป พูดตามตรงหลังจากที่ผมดูช่วงแรกผมตะโกนว่า “เอาชมรมไร้เพื่อนของกรูคืนมา” พูดง่ายๆ คือเป็นการ์ตูนเจ็บไม่ยอมจำ อารมณ์ยังเหมือนเดิม คือรักเรียบๆ ไม่หวือหว่า อวยสาวแต่ละตอน (พูดตามตรง อวยไม่ค่อยดีนัก) และไม่ต่อเนื่องกัน เนื้อหาธรรมดา(เพราะมันไม่มีเรื่องเหนือธรรมชาติอะไรมาเกี่ยวข้อง) ทำให้ขาดการติดตาม ส่วนมากคนที่ดูการ์ตูนเรื่องนี้จะดูเฉพาะตอนที่เราชอบ เห็นได้ชัดเลยว่าตอนแรกเอาตัวละครฮิต(แต่ผมไม่อวย เพราะมีลูกมีผัวแล้ว ขาดความบริสุทธิ์) อย่างหัวหน้าห้องมาออกคนแรกเพื่อดึงเรตติ้ง (ที่ภาคก่อนออกตอนท้าย แถมมาตอนตลาดวายไปแล้ว) แสดงให้เห็นเลยว่าการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ได้ผลตอบรับที่ดีนักในตอนแรก เพราะไม่ค่อยประทับใจ ดราม่าเท่าไหร่ คราวนี้เลยจัดดราม่าเต็มๆ แต่ผมว่าเฉยๆ ส่วนตัวหมั่นไส้พระเอกเรื่องนี้ แคะงี่เง่า ไม่มีจุดเด่น เมพแพ้โทมิกิและริโตะ เอาเป็นว่ารอดูตอน “ไอจัง” หนึ่งในฮาเร็มผมอย่างเดียว ว่าจะน่ารักขนาดไหน เพราะอั๊วรักไอจัง
Another
อนิเมะสร้างจากนิยายของยูกิโกะ อายาสึจิ และเคยถูกสร้างเป็นมังงะ โดยเป็นเรื่องราวตำนานของโรงเรียนหนึ่งเมื่อ 26 ปีก่อนเมื่อนักเรียนชั้น 3 ห้อง 3 มิซากิ ผู้เป็นขวัญใจของเพื่อนๆ ชั้นมัธยม ได้เสียชีวิตลง และด้วยความเสียใจ พวกเพื่อนๆ ของเธอเลยทำราวกับเธอมีชิวตอยู่ โดยหาว่านี่คือจุดเริ่มต้นของคำสาป
หลายปีต่อมา พระเอกของเราซาคิคาบะ โคอิจิ เด็กหนุ่มที่ร่างกายอ่อนแอ ได้ย้ายโรงเรียนบ้านนอกและเขาก็ได้พบเด็กหญิงเพื่อนร่วมห้องคนหนื่งชื่อ มิซากิ เมย์ และเขาก็พบว่าห้องเรียนที่เขาเรียนมันน่าอึดอัดสิ้นดี ราวกับเพื่อนในห้องปกปิดอะไรบางอย่าง และแล้วคำสาปก็ได้เริ่มต้นขึ้น
คุ้มค่าที่ได้ดู บ้านนอก คำสาป บรรยากาศไม่น่าไว้วางใจ การ์ตูนเรื่องนี้สอบผ่านเป็นที่เรียบร้อย ภาพสวย ตัวละครน่ารัก พระเอกและนางเอกน่ารักกว่าที่คิด โดยเฉพาะนางเอกน่ารักเว่อร์ ขนาดเพื่อนพระเอกก็น่ารัก(สาวทวินเทลน่ารักอ่ะ) หลังจากที่ได้ดู อย่างแรกเคยหากใครที่อ่านมังงะต้องปรับตัวพอสมควร เพราะคาแร็คเตอร์ไม่ได้ถอดแบบจากมังงะ อย่างอาของพระเอกที่คาแร็คเตอร์แตกต่างจากมังงะโดยสิ้นเชิง ส่วนตัวอ่านมังงะมาบ้างเลยพอรู้ว่าเรื่องราวต่อไปนี้จะเป็นอย่างไร โชคดีที่เลิกอ่านกลางคัน เพราะว่าแนวการ์ตูนดังกล่าวไม่ควรอ่านสปอยเป็นดีที่สุด
ก่อนอื่นจะบอกว่าใครที่คิดว่าเป็นการ์ตูนสยองขวัญแบบบ้าเลือดล่ะก็ ขอให้เปลี่ยนความคิดใหม่เลย การ์ตูนมันออกแนวลึกลับ สร้างบรรยากาศน่ากลัวเรียบๆมากกว่า (แม้ตอนท้ายจะบ้าพลังก็เถอะ) ในขณะเดียวกันก็น่าค้นหา ตามล่าหาความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น การ์ตูนจะเล่นกับจิตวิทยาของมนุษย์ สร้างคำสาปภายในจิตใจของผู้ดู และกลวิธีดำเนินเรื่องทำได้ฉลาดด้วย รู้ว่าช่วงไหนใช้เสียงประกอบ ไม่ใช่เสียงประกอบ เช่นฉากตอนพระเอกแนะนำตัวกับเพื่อนร่วมชั้นเลียน การ์ตูนได้ปิดเสียงประกอบ ทำให้เงียบกริบ เพื่อนในห้องอย่างกลับตุ๊กตา ไม่พูดอะไรสักคำ น่ากลัวชิบ อีกทั้งยังมีลูกเล่นเปลี่ยนฉาก มากมายและแต่ละภาพสวยบาดใจ บวกกับหลอน เช่น เปลี่ยนฉากก็เอาตุ๊กตาชำรุดมาให้ดูให้หลอนนิดๆ หน่อยๆ
ตอนแรกก็ไม่มีอะไรมาก พระเอกมาบ้านนอกก็พบอะไรที่ไม่ไว้วางใจ ไม่ว่าจะเป็นการปรากฏตัวของนางเอกที่ลึกลับ (ที่น่ารัก) น่าฉงน บรรยากาศห้องเรียนเหมือนเป็นมิตรแต่มีเรื่องปกปิดอะไรบางอย่าง และก็ยังไม่มีฉากน่ากลัว หลอนแต่อย่างใด เพราะเนื้อหาจะเริ่มเข้มข้นขึ้นในตอนต่อๆ ไป ส่วนตัวผมชอบฉากที่ปรากฏตัวเพื่อนร่วมชั้นพระเอกไปเรื่อยๆ ชอบกล สาวน่ารักในห้องเพียบ สาวแว่นผมยุ่ง, หนุ่มแคะ ไม่มีนักเลงหรือคนอ้วนเลยสักคน สงสัยทีมงานคัดแต่พวกสวยๆ หล่อๆ เท่านั้นมาออก น่าจะไปเป็นดารา มากกว่าเป็นนักเรียนบ้านนอกน่ะ (ฮ่า) โรงเรียนไหนนี้เดี๋ยวขอไปเรียนด้วย
น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งครับ
Nisemonogatari
Nisemonogatari ภาคต่อของอนิเมะ bakemonogatari ที่พระเอกอารารากิมีเชื้อแวมไพร์นิดๆ และต้องช่วยสาวๆ จากสิ่งเหนือธรรมชาติคราวนี้เป็นตาของน้องสาวตนเองคือน้องนกและน้องผึ้ง หากแต่จะเอายังไงดีละในเมื่อตอนนี้คุณลุงหมอผี คนที่พึ่งพระเอกเสมอมาได้ออกไปจากเมืองแล้ว
ทนดู สั้นๆ เลยตอนแรก เปิดฉากมาพระเอกโดนน้องปูแกล้ง(แบบซาดิสต์) ต่อด้วยพระเอกไปบ้านน้องงู ก่อนไป ถามน้องนก ว่าน้องผึ้ง(จะตัวต่อหรือผึ้งก็ไม่รู้ แต่ผมขอเอาผึ้งดีกว่า) ไปไหน พูดราวๆ ครึ่งชั่วโมงมั้ง ก่อนที่น้องนกจะตอบว่าไปข้างนอก(ตอบแค่นี้ก็จบไปนานแล้ว) ไปข้างนอกเจอน้องหอย(ไม่ใช่เสนาหอย)แล้วก็แกล้งและเล่นและพูดจนจบตอน
สิ่งที่ผมเขียนต่อไปนี้มันจะออกรุนแรงไปสักนิด แต่ผมเชื่อว่าคงมีบางคนเห็นด้วยกับผมไม่มากก็ไม่น้อย ก่อนอื่นก็ขอพูดตามตรงผมไม่ใช้สาวกหรือแฟนอวยการ์ตูนเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ปกติผมไม่ทนดูการ์ตูนเรื่องนี้ครบทุกตอนด้วยซ้ำ มันไม่เหมือนมนุษย์ต่างดาวคลื่นไฟฟ้า ที่ติดอนิเมะที่ชอบแห่งปีในดวงใจผม รายนั้นดูอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ น่ารัก สาวๆ พูดคุยกันเล่นกัน เพี้ยนๆ ใส่กัน สื่อถึงชีวิตวัยรุ่นซาบซ่า พระเอกเมพ
แล้วมันต่างกันตรงไหน เพราะเรื่องนี้มีองค์ประกอบที่ผมว่าไว้ทุกประการ สาวเพี้ยน น่ารัก สื่อถึงชีวิตวัยรุ่น โอเคมันมีที่ว่าหมด แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือกลวิธีการนำเสนอของเรื่องที่เลวร้ายมากในสายตาของผม มัฯยังคงเป็นเอกลักษณ์เหมือนภาคแรกเอาไว้ คือเปลี่ยนฉากมุมมองเร็วและเยอะโครต เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา (จะเปลี่ยนอะไรหนักหนาว้า) ดูแล้วเมา จุดที่ผมง่วงสุดๆ คือบทพูดที่แสนจะยืดยาวแค่ฉากพระเอกถามน้องสาวว่าน้องสาวอีกคนไปไหนมันพูดทะเลไปไกลลิบกว่าจะเข้าเรื่อง ไม่เหมือนเกม RPG กดข้ามก็ไม่ได้ พูดง่ายสุภาษิตบ้านเราคือพูดท่วมทุ่งผักบุ้งโหวงเหวง พูดไร้สาระยังไม่พอ ยังพูดเร็ว สิ่งที่ผมไม่ค่อยชอบต่อมาก็คือไม่มีบทตัวละครสาวๆอยู่ด้วยกันเลย อยากเห็นน้องงูปะทะน้องปูพูดแซวกัน แขวะใส่กันอะไรแบบนี้ มีแต่ฉากพระเอกอยู่กับสาวสองต่อสอง จำเจว่ะ มีอะไรแปลกๆ ใหม่บ้างไหม สอดแทรกมุมมองสาวคนอื่นบ้างสิ ขนาดมนุษย์ต่างดาวเพี้ยนยังมีเลย (ที่จริงมนุษย์ต่างดาวเพี้ยนก็ใช้การเปลี่ยนฉากเร็ว และบทสนทนาพระเอกกับสาวๆ แต่ละคน มากเหมือนกัน แต่ไม่มากเท่าเรื่องดังกล่าว และดูแล้วชุ่มหัวใจมากกว่า)
เป็นการ์ตูน หลายคนคาดหวัง หลังจากที่ภาคแรกดังแบบสามล้อถูกหวย สาเหตุคงเป็นเพราะความตกใจในการ์ตูนเรื่องนี้มานำเสนอ แบบว่าภาคก่อนหนูปูบอกกว่า “มาฆ่ากันเถอะ” ก็นึกว่าแนวสู้กัน แต่ต่อมากลายเป็นการ์ตูนพูดอย่างเดียวซะงั้น นอกจากนั้นยังมีฉากเด็ดดวง เช่น เปิดกางเกงใน หรือฉากหนูปูเซอร์วิสแหละที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ดัง มาคราวนี้คงยากที่จะทำให้คนอ่านติดตามเหมือนภาคก่อน และเป็นการ์ตูนที่หลายคนอวยมากๆ ในขณะเดียวกันก็มีบางคนเกลียดชนิดไม่เผาผีเหมือนกัน อันเนื่องจากไม่ชอบกลวิธีดำเนินเรื่องแหละ อย่างไรก็ตาม หากมองเนื้อในเนื้อเรื่องก็แทบไม่มีอะไรแปลกใหม่อะไรเลย เนื้อหาหลักๆ คือพระเอกช่วยสาวๆ จากสิ่งเหนือธรรมชาติเท่านั้น ส่วนตัวก็ดูไปอยากรู้นักว่าคราวนี้มันจะเอาอะไรมาเล่น มีฉากเด็ดดวงขนาดไหน เอาเป็นว่าใครไม่ได้ดูภาคแรก หรือดูแล้วไม่ชอบก็ข้ามไปเถอะ
Recorder to Randoseru
เรื่องราวแนวชีวิตประจำวันปนคอมมาดี้ของเด็กชายอายุ 11 ปี นาม อัตสึชิ มิยาก ว่า ผู้มีความสูงถึง 180 เซนติเมตรและหน้าตาดูมีอายุกว่าที่ควรจะเป็น ในขณะเดียวกัน พี่สาวอายุ 17 ปีของเขากลับมีความสูงแค่ 137 เซนติเมตรและดูอ่อนกว่าวัยกว่าวัยรุ่นคนอื่น เธอยังต้องมาดูแลเขาในฐานะพี่สาว ซึ่งทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายหลายอย่างตามมา
สนุกกว่าที่คิดแต่เสียดายสั้นไปหน่อย ตอนแรกที่เห็นก็นึกว่าเป็นแนวโลลิคอน แหม เห็นพระเอกตัวโตๆ กับสาวน้อยร่างเล็ก ใครๆ ก็คิดแบบนี้แหละ แต่ปรากฏว่าผิดหมดเลยครับ(ฮ่า) แม้ว่าจะเป็นแนวโลลิคอนเหมือนกันก็เถอะ แต่กลับกันเท่านั้นเอง เพราะผู้ชายตัวโตๆ หล่อๆ เห็นโตเป็นผู้ใหญ่ ความจริงเป็นเด็กประถมครับ (หรือพูดง่ายๆ เด็กโข่ง) ซึ่งมีจิตใจดีงาม รักสนุกสนาน ร่าเริง เหมือนเด็กประถมทั่วไป หากแต่เวลาเขาทำอะไร มักทำให้คนรอบข้างเข้าใจผิดเสมอนึกว่าโรคจิตชอบกินตับเด็ก เป็นต้นว่าเป่าขลุ่ย, เล่นกับเด็ก(โดยเฉพาะเด็กหญิง) ฯลฯ จนกลายเป็นมุกตลกหลักของการ์ตูนเรื่องนี้ไป อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีพี่สาว(ที่แสนจะตัวเล็กจนนึกว่าเด็กประถม)คอยช่วยเหลืออยู่บ่อยๆ เรียกได้ว่าเป็นการ์ตูนแฝงไปด้วยความอบอุ่น ไร้มลพิษ(แต่มุกเหมือนโรคจิต ฮ่า) เสียดายการ์ตูนสั้นไปหน่อยครับ (3 นาที) สั้นกว่าเรื่องสาวตาปลาตายอีก แต่ผมชอบมุกการ์ตูนเรื่องนี้ดีนะครับสนุกกว่า แปลกใหม่กว่า เอาเป็นว่าติดตามจนจบละกัน
ตอนต้นเรื่องมีแขกพิเศษสาวตาปลาตายมาออกด้วยเน้อ
Rinne no Lagrange
เป็นเรื่องราวในเมืองธรรมดาริมทะเลแห่งหนึ่ง โดยตัวเอกคือ “มาโดกะ” เด็กสาวมัธยมที่มีนิสัยร่าเริง ชอบช่วยเหลือผู้คน และวันหนึ่งเธอก็ได้พบเด็กสาวลึกลับในชุดลีโอนาร์ด(แสนโมเอะ)คนหนึ่ง “รัน” ที่ได้ขอร้องเธอให้ไปขับหุ่นยนตร์เพื่อปกป้องโลกจากมนุษย์ต่างดาวหนุ่มหล่อ? เรื่องราวจะเป็นไงต่อนี้
รันน่ารัก!? ก่อนอื่นก็ขอบอกว่าผมเป็นคนหนึ่งครับที่เป็นแฟนเกมซูปเปอร์โรบอด เล่มเกมซูปเปอร์โรบอดประจำ อ่านเนื้อเรื่องไม่รู้เรื่องหรอก แต่ตรูจินตนาการพากย์เอา ความจริงหากมองเนื้อหาโดยรวมเหมือนการ์ตูนซูเปอร์โรบอตแหละครับ (เชื่อว่าไม่นานหากเกมซูเปอร์โรบอตคงเอาหุ่นยนต์การ์ตูนเรื่องนี้มาออกเป็นที่แน่แท้) ที่ตัวเอกเป็นคนธรรมดา จู่ๆ ได้รับเลือกให้ขับหุ่นยนต์ ปกป้องโลกจากมะนาวต่างนุด มนุษย์ต่างดาว ที่หมายจะครองโลก พล็อตสูตรสำเร็จแนวซูปเปอร์โรบอตที่ทำกี่ครั้งก็ไม่เลิกทำสักที
แต่เพราะสูตรสำเร็จที่แหละ มันถึงได้สนุก อย่างที่ผมบอกไว้ว่าความสนุกของการ์ตูนไม่จำเป็นต้องให้มันแปลกใหม่ หวือหวา ดูไม่รู้เรื่อง หากแต่อยู่ที่การทำอย่างไงให้คนดูเกิดความรู้สึกร่วม ดูแล้วได้คิดตาม ไม่ใช้เอาเซอร์วิสเข้าว่า เอานมโตเข้ามาล่อ หรือทำให้เรื่อง งง ไม่รู้เรื่อง การจะทำการ์ตูนให้สนุกคือการเริ่มจาก 0 ที่เริ่มต้นพระเอกไม่ได้เก่งอะไรเลย เสมือนคนธรรมดา หากแต่ได้รับภารกิจที่ยิ่งใหญ่ ได้รับความผิดชอบใหญ่ยิ่ง และจะต้องฝึกการขับหุ่นยนตร์ พร้อมกับสร้างความสัมพันธ์กับคน การต่อสู้หุ่นยนตร์เป็นเรื่องรอง
ในด้านการพัฒนาจิตใจตัวเอกนั้น คราวนี้การ์ตูนไม่ได้เน้นไปที่ตัวเอก เพราะตัวเอกเป็นคนดีอยู่แล้ว หากจะพัฒนาจิตใจ คงจะเป็นคนรอบข้างมากกว่า เช่นรันที่แสดงไม่พอใจที่เห็นมาโดกะขับหุ่นยนตร์แบบลึกๆ (เดาว่าความจริงแล้วเธออาจเป็นคนรับเลือกขับหุ่นยนตร์ขับตอนแรก หากแต่โดนมาโกดะแย่งเสียก่อน) และพี่สาวที่แสดงอาการไม่อยากให้เธอขับหุ่นยนตร์เด่นชัด และตอนต่อๆ มาก็คงมีตัวเอกหญิงอีกตัวที่ออกโรง อันนี้น่าสนุกเหมือนกัน
ส่วนตัวละครน่ารักกว่าที่คิดไว้ “รัน” มนุษย์ต่างดาวในชุดลีโอนาร์ดสุโมเอะ(แม้คาแร็คเตอร์จะเรียยบๆ ก็เถอะ แต่เธอคือคาแร็คเตอร์ที่ผมชอบครับ) แม้ว่าการ์ตูนแนวซูปเปอร์โรบอตมักจะมีเรื่องดราม่า จริงจังเข้ามาบ้าง แต่การ์ตูนเรื่องนี้ได้สอดแทรกความโมเอะ เรื่องสบายๆ ลงไปด้วย ซึ่งไม่รู้จะเข้ากันหรือเปล่า แต่ก็กระนั้นผมชอบครับ ขอเป็นแฟนอวยเดนตายล่ะกัน
Ano natsu de matteru
ผลงานผู้กำกับ Tatsuyuki Nagai (Ano Hana, Toaru Kagaku no Railgun, Toradora!, Honey and Clover I&II)
เป็นเรื่องราวของพระเอกแว่นคิริชิมะ ไคโตะที่ชื่นชอบถ่ายทำภาพยนตร์เป็นชีวิตจิตใจ หากแต่วันหนึ่งในขณะที่เขากำลังอยู่คนเดียวตอนกลางคืน ก็ได้รับอุบัติเหตุ (จานบินร่องลง??) และเช้าวันต่อมาเขาก็พบว่าไม่เป็นไร และเมื่อไปโรงเรียนเขาก็พบรุ่นพี่ที่ย้ายมาใหม่เป็นเด็กสาวผู้นั้นชื่อว่า ทาคัทสึกิ อิจิกะและแล้วความรักหัวใจชื่นบานของเขาก็เริ่มขึ้น
ไม่น่าฮาเร็ม ตอนแรกเปิดออกมาเห็นสาวแว่นผมแดง(ไม่ซ้ำรัก)และสาวทวินเทล ก็นึกว่าฮาเร็ม แต่ปรากฏว่าไม่ฮาเร็ม เพราะล็อกไว้แล้ว(เซ็งว่ะ) หลังจากดูตอนแรก เออนี้ผมกำลังดูคุณครูผมแดงหรือเปล่า? ไม่รู้ทำไมดูการ์ตูนเรื่องนี้แล้วนึกถึงการ์ตูน Onegai Teacher! (ก็คนเขียนบทคนเดียวกันนี้) เพราะองค์ประกอบเหมือนทุกประการ(ก็คนเขียนบทกันนี้) ไม่ว่าจะเป็น บ้านนอก พระเอกเกือบตาย(หรือตายมาแล้ว) สาวแว่นมนุษย์ต่างดาว(ผมแดงด้วย) โอบาค่อน(??) เพื่อนพระเอกขี้หลี(หมั่นไส้ด้วยซ้ำ) สาวน้อยอีกคนแอบหลงรักพระเอก สาวทวินเทลเพื่อนพระเอกเป็นเจ้าแม่ในห้อง(และเตี้ยแต่อายุมากกว่าพระเอก) ฉากจบตอนก็เหมือนกันคือคนอื่นเข้าใจผิดเมื่อมาเห็นนางเอกกอดพระเอก ฯลฯ
หลังจากดูตอนแรกจบ มานั่งเกาหัว เห็นเขาบอกว่าการ์ตูนเรื่องนี้ผู้ผลิตหวังค่อนข้างมากว่าจะประสบผลสำเร็จ แต่ผมว่าคงจะยากหน่อยล่ะ แหมไม่พูดให้กำลังใจเลย ฟังเหตุผลผมก่อน ก็อย่างที่ผมบอกไว้การ์ตูนจะประสบผลสำเร็จ คุณจะต้องสร้างการ์ตูนที่ต้องฉีกแนว ยิ่งถ้าเป็นคอมมาดี้โรแมนติกนั้นคุณจะต้องสร้างตัวละครให้อวยเด็ดดวง การออกแบบคาแร็คเตอร์ให้น่ารัก แต่หลังจากที่ดูการ์ตูนเริ่มผิดพลาดเล็กๆ แล้วละ ตรงที่การใช้สูตรสำเร็จมาใช้มากพอสมควร(มาตอนแรกพระเอกตายก็เกือบครึ่งแล้วเพ่)งพล็อตคล้าย Onegai Teacher! นับลอง เดี๋ยวมีคนเปรียบเทียบแน่ ขนาดมงกุฎบาปน่ะโดนเป็นที่เรียบร้อย และการ์ตูนเรื่องนี้อวยสาวกแว่นด้วยสิ (ขอโทษ พอดีผมสาวกทวินเทล สาวซึน ไม่ก็เพื่อนสมัยเด็ก) พระเอกแว่น นางเอกก็แว่น เรียกสาวกแว่นมาชัดๆ
เอาล่ะ ที่นี่มาดูความรู้สึกผมบ้าง ผมว่าอืม.........มันไม่ฮาเร็มอ่ะนะ(เอ๋งก็สนใจแต่เรื่องแบบนี้ท่าเดียว) ถ้าผมจะติดตามใหม่ ก็ติด แต่จะดูแบบเหลือบๆ ไม่ถึงขั้นจริงจังมาก เพราะมันไม่ฮาเร็ม ชีวิตนี้ผมสนใจแต่ฮาเร็มอย่างเดียว
สู้ครับเพื่อนสมัยเด็ก จงเป็นคำสาปผมแดงซ้ำรักซะ!!~
Zero no Tsukaima F
Zero no Tsukaima F เป็นซีรีย์ภาคที่ 4 ซึ่งเป็นเรื่องคอมมาดี้แฟนตาซีที่เป็นเรื่องของ “ไซโตะ” ที่ถูกดึงจากโลกปัจจุบันมายังโลกแฟนตาซีเพื่อมาเป็นอสูรรับใช้ของแม่มดเตี้ยแบนซึน “หลุยส์” ซึ่งมาภาคนี้ฮาเร็มริโตะจะเก็บครบหรือไม่ก็ติดตามต่อไป
Zero no Tsukaima F การ์ตูนฮาเร็มแต่ผมเลิกอวยไปนานแล้ว คุณภาพยังเหมือนภาคเก่าทุกประการ พูดง่ายๆ คือมันไม่พัฒนาเลย ภาพยังคงเหมือนเดิม อารมณ์ยังเหมือนเดิม (รวบรัดเหมือนเดิม) เนื้อหาผมก็ยังสงสัยว่าเจ้าเซโตะมันจะไม่กลับบ้านเลยเหรอ อยู่ที่โลกนี้ดีกว่ามีฮาเร็ม เป็นใหญ่เป็นโต
ไม่รู้ทำไมมาคราวนี้หลงรักเสียงหลุยส์ยังไงไม่รู้ ทุกทีไม่ได้หลงรักอะไรเลย (สงสัยชอบริเสะ เพอร์โซน่า 4 มั้ง) เปิดฉากมาฮาเร็มจ๋าเลย แต่ขอโทษ มันมาเมื่อสายแล้ว เพราะตอนนี้ผมเบื่ออนิเมะซีรีย์นี้พอดี อีกทั้งในใจผมมีการ์ตูนเรื่อง Sora no Otoshimono มันเข้าไปอยู่หัวใจผมนานแล้ว ดูอะไรไม่ค่อยเท่าไหร่ว่างั้นเถอะ ฉากผัวเมียทะเลาะก่อนมาคืนดีตามสูตรทุกครั้ง ฉากเอลฟ์หึ่ง ฉากนอนด้วยกัน ก็พอทำให้ผมกระชุ่มกระชวยบ้าง แต่ไม่มากนัก (อย่างที่บอกดูอิคารอส นิมพ์หึ่งน่ารักกว่า) อาจเป็นเพราะธีมของเรื่องดำเนินเรื่องเร็ว ตัวละครมาก รวบรัด ทำให้ผมไม่มีอารมณ์ร่วมมากนัก สิ่งที่ผมดูแล้วเหนื่อยคือการเพิ่มตัวละครเข้ามาอีก ของเก่าตัวละครเก่ายังแสดงบทไม่คุ้มค่าตัวเลย เพิ่มอีกล่ะ เนื้อหา 12 ตอนจะทำยังไงให้มันคุ้มค่าเนี้ย ไม่ต้องทำตรงตรงต้นฉบับก็ได้ ไหนๆ ก็แตกต่างจากต้นฉบับอยู่แล้ว ที่เหลือทำยังไงให้มันคุ้มค่ามากกว่า (ปล. ฉากขัดใจที่สุดคือฉากที่ริโตะสู้กับชายลึกลับช่วงท้าย ทำไมมันกิ๊กก๊อกชอบกล ในเมื่อภาค 2 แกสามารถเอาชนะทหารทั้งกองทัพได้ แต่ไฉนมาสู้พวกมาเดี๋ยวๆ กลอุบายตื้นๆ ไม่ได้ว่ะ)
Danshi Koukousei Nichijou
Danshi Koukousei Nichijou เป็นเรื่องราวชีวิตประจำวันของสามนักเรียนหนุ่ม กำกับโดย Takamatsu Shinji (ผู้กำกับเรื่องกินทามะ)
สนุกใช้ได้ แต่........... เอาล่ะขอพูดแบบไม่ตั้งแง่อะไร แม้ว่าตอนแรกผมดูการ์ตูนเรื่องนี้แบบแง่ลบเต็มพิกัดก็ตาม ประมาณว่าเห็นกลุ่มหนุ่มๆ แหวะไปกว่าครึ่ง (ถ้ากลุ่มสาวๆ ตรูชอบเว้ย) และเห็นหลายคนวิจารณ์ว่ามุกแป๊ก แต่หลังจากที่ดูก็สนุกกว่าที่คิดเอาไว้ แต่ไม่ถึงขั้นว่าฉันอยากจะติดตามสักเท่าไหร่(ก็บอกแล้วผมตั้งแง่เอาไว้) อย่างที่บอกไว้ว่าผมชอบฮาเร็ม (เหตุผลควายมากๆ) โชคดีที่การ์ตูนเรื่องนี้ไม่ได้อวยแต่เหล่าหนุ่มๆ อย่างที่คิด ยังมีตัวละครผู้หญิงบ้างให้ได้ชื่นใจ อย่างสาวน้อยนักกวีน่ารักอ่ะ (แต่น้องสาวพระเอกไม่ได้เห็นหน้าเต็มๆ หรอก) ไม่มียาโอย (ความจริงก็มี แต่มันเสื่อม) อารมณ์ก็เหมือนการ์ตูนกลุ่มเพื่อนหญิงแหละ ประมาณว่าพวกผู้ชายทำบ้าๆ อะไรด้วยกัน รวมหัวกันในบ้านคุยกันเรื่อยเปื่อย (แต่เพื่อนผมรวมตัวกินเหล้า เบียร์ เจริญ)
ส่วนมุกที่ตอนแรกผมตั้งแง่ชัดว่าแป๊กสนิท และก็แป็กจริงแหละ แต่ใช้ว่าไม่ขำเลยก็เกินไป ความจริงก็มีมุกที่พอขำบ้าง พอดีผมมันพวกศาสตร์แห่งตลก หรือพวกตรงข้าม หลายคนบอกว่าฮ่าแต่ทำไมไม่รู้ผมเฉยๆ อย่างช่วงแรกหลายคนขำล้อเลียนกัมดั้ม ดราก้อนเควส แต่ทำไมผมเดาทางมันได้ว่ามันต้องแบบนี้แบบโน่น แต่อย่างว่าแหละ เดาทางง่ายเกินไป (สงสัยผมจะตั้งแง่มากไป) เช่นมุกพระเอกแต่งหญิง ผมคิดเดี๋ยวน้องสาวพระเอกมาเห็นชัวร์และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ไม่ได้หักมุกแบบกินทะมะสักเท่าไหร่ ส่วนคาแร็คเตอร์กลุ่มตัวเอกก็แสนธรรมดาเรียบง่าย ตามสไตล์ตลกญี่ปุ่น ที่จะมีคนหยอดมุก(นายแว่น) ขยี้มุก(นายหัวทอง) และคนตัดมุก(พระเอก??) ถือได้ว่าเล่นเป็นระบบได้อย่างลงตัว สอบผ่านในการเป็นการ์ตูนตลก แต่ระดับความตลกก็เป็นอีกเรื่องนะ เอาเป็นว่าเป็นการ์ตูนแก๊กตลกที่ดีที่สุดในช่วงเวลานี้แล้วมั้ง
Kill Me Baby
Kill Me Baby การ์ตูนชื่อโหด “นักฆ่าเด็ก” แต่เนื้อหากลับสวนทางกับชื่อโดยสิ้นเชิง เพราะเป็นการ์ตูนแนวโมเอะ ที่สร้างจากมังงะสี่ช่องจบ ของ Kadzuho ที่ได้รับความนิยม ทั้งที่ออกมาแค่ 3 เล่ม (ยังไม่จบ) แต่ก็ถูกนำมาสร้างเป็นอนิเมะแล้ว ในปี 1012 โดยสตูดิโอที่หลายคนขนหัวลุกคือ JCStaff ที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำการ์ตูนอะนิเมะที่ผิดหวัง (ทั้งเผา การดำเนินเรื่อง)
Kill Me Baby เป็นเรื่องราวของยาซึนะเด็กสาวแสนธรรมดา ร่าเริง ชอบเอาแต่เล่น ที่มักสร้างปัญหากับเพื่อนร่วมชั้นคือสาวทวินเทน “โซเนีย” ซึ่งความจริงแล้วเธอคือนักฆ่ามืออาชีพที่เก่งกาจ ไม่เว้นแต่ละวัน
แน่นอนว่ามังงะแนวโมเอะมาทำเป็นอนิเมะก็มีเสียงวิจารณ์หรือดุด่าบ้าง ยิ่งแนว 4 ช่องยิ่งทำยาก เพราะว่าเนื้อหาการดำเนินเรื่องไม่เชื่อมต่อกันดูแล้วขัดอารมณ์ ซึ่งที่แล้วผมก็ไม่ค่อยได้ติดตามเท่าไหร่ แต่ไม่รู้ มาเรื่อง “นักฆ่าเด็ก” นี้ผมชอบอย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะชอบมังงะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอทำดูก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด เพราะโซเนียน่ารักมากๆ ทั้งเก่ง ทั้งซึน ฯลฯ และเสียงน่ารักดี แต่ทำไมไม่รู้หลายคนบอกว่าโซเนียจังเสียงแหบ ทั้งๆ ที่ผมถือว่าเสียงโซเนียคือเสียงทอมบอย (อย่างโยโซระยังเสียงทอมบอยเลย) ซึ่งแปลกดีเพราะที่แล้วมาสาวทวินเทลไม่มีใครมีเสียงทอมบอยมาก่อน ซึ่งการใช้เสียงแบบนี้ก็เพื่อสื่อว่าคุณเธอโหด นักฆ่า อะไรประมาณนี้แหละ ส่วนตัวละครในเรื่องผมก็ชอบหมดน่ะ ไม่ว่าจะเป็นยาชินะ คุณเธออึดจริงๆ แถมขยันหาเรื่องให้โซเนียปวดหัวเล่นๆ อีก แต่ลึกๆ แล้วโซเนียเองก็คงชอบนาชินะแหละ เพราะถ้าเกลียดกันจริงทั้งสองคงไม่อยู่ด้วยกันหรอก นอกจากนี้เสียงพากย์อากิริอีหนูนินจาเพื่อนของโซเนียก็ใช้ได้เข้ากับเจ้าตัวดี ในด้านการดำเนินเนื้อเรื่อง ผมว่าใช้ได้น่ะ อารมณ์เข้าท่าดี แม้ว่าจะเป็น 4 ช่อง แต่ถ้าเทียบกับการ์ตูนแนวเดียวกันที่ผ่านมา ผมว่าเรื่องนี้สอบผ่านนะ ดำเนินเรื่องลื่นไหลดี บางช่วงผมมองไม่ออกเลยว่ามาจากคนล่ะตอนกัน แถมทำได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้
สรุปคือเป็นอนิเมะที่ผมติดตามตลอดทุกสัปดาห์ครับ ด้วยความโรคจิต ชอบโซเนียจัง และดูให้หายคิดถึงที่มังงะเล่มใหม่ไม่ออกซะที
Thermae Romae
Thermae Romae เป็นอนิเมะการ์ตูนสร้างจากมังงะซึ่งเป็นเรื่องของลูเชียส สถาปนิกของอาณาจักรโรมันที่กำลังมีปัญหาเรื่องไอเดียการสร้างโรงบ่อน้ำร้อนของเขา จนกระทั้งวันหนึ่งเขาค้นพบอุโมงค์ที่ซ่อนอยู่ในใต้อ่างน้ำและมันก็นำเขาไปสู่อ่างอาบน้ำในญี่ปุ่นปัจจุบัน และกลายเป็นแรงบันดาลใจ(ก็อป)ให้ลูเชียสเอาไปใช้ปรับปรุงโรนงอาบย้ำในยุคสมัยของตนเอง
การ์ตูนจากค่าย DLE Inc. ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี ในความเป็นเอกลักษณ์ จากผลงานก่อนหน้าไม่ว่าจะเป็น Double-J หรือและ Haiyoru! Nyaru-ani: Remember My Mr. Lovecraft ที่จงใจทำแบบไม่ลงทุน ภาพเหมือนตัดปะ แข็งๆ ไม่เคลื่อนไหว ขยับแค่ปาก และเดินเรื่องแสนจะสั้น 3 นาที เรียกว่าใครที่รับไม่ได้ถึงขั้นไม่เผาผีเลยทีเดียว
อย่างไรมาตาม คราวนี้อนิเมะ Thermae Romae ดูเหมือนจะยาวกว่าขึ้นกว่าผลงานก่อนๆ คือประมาณ 9 นาทีครึ่ง (รวมเพลงปิดตอนด้วย) ส่วนเนื้อหาตัดทอนจากมังงะลงทำให้ขาดอารมณ์ตรงต้นฉบับค่อนข้างมาก นอกจากนี้ยังสอดแทรกมุกตลก ล้อเลียน อันเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ลงไปด้วย(ซึ่งในมังงะไม่มี) ขนาดในกรุงโรมยังมีตัวละครที่ไม่เข้ากันอย่างรุนแรงให้ฮ่าเล่นๆ ที่ฮ่าสุดๆ ตอนที่ 2 ที่เมียใหม่ของกงสุล มีลูกที่ดูยังไงก็ไม่ใช่ลูกกงสุลเพราะหน้าเหมือนคนรับใช้ชัดๆ สงสัยทั้งคู่แอบเล่นชู้กัน (ฮ่า) เอาเป็นว่าเป็นการ์ตูนที่ไม่ได้ทำออกมาจริงจังสักเท่าไหร่ อย่าคาดหวังกับมันมากนัก ดูเอาขำๆ คาดว่าจะเป็นการโปรโมตภาพยนตร์จากการ์ตูนที่ฉายเวลานี้มากกว่า
(ปล. เมื่อไหร่รักพิมพ์จะแปลนิยายไลน์โนเวล Haiyoru! Nyaru-ani: Remember My Mr. Lovecraft เสร็จสักทีว่ะ รอจนจะลงแดงแล้วน่ะ)
High Score
High Score เป็นอนิเมะที่ดัดแปลงจากมังงะตลกสี่ช่องของนักเขียนการ์ตูนผู้หญิงจินามิ ทสึยามะ ซึ่งแน่นอนว่าลายเส้นการ์ตูนก็จะเป็นแบบการ์ตูนผู้หญิงด้วย โดยเป็นเรื่องของฟูจิวาร่า เมกุมิ สาวน้อยตาและผมสีชมพู ที่เป็นไอดอทของโรงเรียน แต่นิสัยเห็นแก่ตัวและความรุนแรง แม้ว่าเธอจะมีแฟนหนุ่มหน้าต่อเหลา แต่เธอมักจะเข้าหาเหล่าหนุ่มคนอื่นๆ ซึ่งเธอมองหนุ่มเหล่านี้เพื่อใช้ประโยชน์แก่ความเห็นแก่ตัวของเธอมาก
เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่เป็นของค่าย DLE Inc. ที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ในเรื่องภาพและการเคลื่อนไหว การสอดแทรกมุกต่างๆ (ที่นอกเหนือจากมังงะต้นฉบับเดิม) และยังคงสั้นเหมือนเดิม หากแต่เรื่องนี้ผมปิดเรื่องทันทีที่เห็นหน้าพระเอกหน้าหล่อ สายรุก เหมือนพระเอกในการ์ตูนตาหวาน ซึ่งผมไม่ชอบพระเอกสายนี้เท่าไหร่ เอาเป็นว่าเป็นการ์ตูนสั้น แต่จะสนุกหรือรับได้กับภาพหรือไม่นั้นก็แล้วแต่คนดูล่ะกันว่าจะเอายังไง
Poyopoyo Kansatsu Nikki
อนิเมะการ์ตูนแนวอวยสัตว์เลี้ยงที่สร้างจากมังงะ 4 ช่อง และถูกสร้างเป็นวีดิโอเกมสำหรับเครื่อง 3DS เป็นเรื่องราวแมวอ้วนกลมตัวหนึงชื่อ “โปโยะ” ที่เป็นแมวจรจัด จนกระทั้งวัหนหนึ่งซาโต้ โมเอะ สาววัยทำงานลูกสาวของชาวนาคนหนึ่งได้เมามายตอนกลับบ้านตอนกลางคืน แล้วล้มลงนอนทับโปโยนึกว่าหมอน จนตื่นเช้ามาก็พบว่าหมอนดังกล่าวเป็นแมว และเธอถูกชะตาเลยเก็บมันเลี้ยงไว้ที่บ้าน ที่ประกอบไปด้วยน้องชายที่ไม่ลงรอยกับโปโยะสักเท่าไหร่และคุณพ่อที่หน้าโหดแต่รักโปโยะ
Poyopoyo Kansatsu Nikki เป็นการ์ตูนสั้น 3 นาทีหลังข่าว ที่ดูแล้วไม่อิ่มใจนัก (เพราะความสั้นของมัน และความเร็วในการดำเนินเรื่องเร็วมาก) ในแง่ความคุ้มค่าแล้วยังสู้เรื่องลูกแมวจากเรื่อง Chii's Sweet Home
Highschool DxD
Highschool DxD อนิเมะสร้างจากนิยายไลน์โนเวล เป็นเรื่องราวพระเอก (หื่น) เฮียวโด อิซเซย์ ที่กำลังออกเดทกับผู้หญิงสาวสวยคนหนึ่ง แต่เขากลับถูกเธอฆ่าซะงั้น ซึ่งตัวจริงของแฟนของคือนางฟ้าตกสวรรค์ผู้ถูกส่งลงมายังโลกเพื่อทำลาย "อาวุธศักดิ์สิทธิ์" และเขาคืนชีพใหม่อีกครั้งในฐานะปีศาจด้วยฝีมือของรุ่นพี่ชื่อริอัส เกรโมรี่ที่เป็นจอมปีศาจจากขุมนรก และเขาเป็นผู้รับใช้เพื่อต่อสู้กับเหล่านางฟ้า
ทนดู พูดตามตรงส่วนตัวผมแล้วการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ประทับใจเท่าใดนัก เพราะผมชอบแนวฮาเร็มประเภทผู้ชายถูกปกป้องจากเหล่าสาวๆ มากกว่าที่จะเป็นพระเอกจะเป็นฝ่ายปกป้องสาวๆ มีคนบอกว่าพระเอกหื่นกว่าโทโมกิแห่ง Sora no Otoshimono การ์ตูนฮาเร็มที่ผมอวย แต่ผมบอกว่าการ์ตูนปีศาจนมโตไม่ถึงครึ่งของเรื่องที่ผมอวยเลย เพราะการ์ตูนสามนางฟ้านั้นมีข้อคิด ความซาบซ่าของฮาเร็ม ความเมพของพระเอกเหนือกว่ามาก จะมีพระเอกกี่คนสามารถเมพเท่าโทโมกิ พูดประโยคเดียวสยบเหล่าสาวๆ ได้ นอกจากนี้ตัวละครยังออกแบบน่าเบื่อ พล็อตน่าเบื่อ บ้านๆ สูตรสำเร็จ พระเอกตายแล้วคืนชีพนี้เห็นมากี่เรื่องแล้วเพ่ มังงะผมอ่านแล้วก็ธรรมดาใช่ว่าสนุกสนานอะไรเท่าไหร่ พอเป็นอนิเมะผมก็ออกอาการเออ เมานมอีกต่างหาก (พอดีผมไม่ใช่สาวกสาวผมแดง นมโตด้วย) สรุปคืออนิเมชั่นฮาเร็มซีซั่นนี้ผมไม่ชอบสักเรื่อง
Papa no Iukoto wo Kikinasai!
Papa no Iukoto wo Kikinasai! หรือแปลเป็นไทย "ฟังฉันนะ ฉันฉันคือป่าป๊าของพวกเธอ" โดยเรื่องนี้ถูกดัดแปลงมาจากนิยายขายดีของ อ.มาซึ โทโมฮิโร่ ผู้วาดเรื่องแมวหลง (ก็ใช่ว่ามันจะสนุกนัก) และได้ อ.ยูกะ นากาจิม่า มาเป็นผู้ร่างลายเส้นให้ โดยอนิเมะเรื่องนี้เตรียมฉายในเดือนมกราคม 2012 อย่างที่เห็น
เซกาว่า ยูตะ เด็กหนุ่มวิทยาลัย เนื่องจากพ่อแม่เสียไปตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้ต้องใช้ชีวิตกับพี่สาวที่ชื่อ "ยูริ" เพียงสองคน แต่ไม่นานยูตะก็ต้องอยู่เพียงลำพังเพราะ พี่สาวของเธอได้แต่งงานและแยกตัวไป แต่อยู่มาวันนึงพี่สาวของเธอมาหา ยูตะ ที่อพาร์ทเมนต์และฝากลูกๆของเธอให้ยูตะดูแลในช่วงที่เธอไปเที่ยวกับสามี แต่กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เนื่องจากเครื่องบินที่ยูริกับสามีขึ้นไปนั้นเกิดอุบัติเหตุเครื่องตก นั้นเป็นเหตุทำให้เครือญาติของ ยูตะ ต้องประชุมกันว่าจะทำอย่างไรกับเหล่าลูกสาวที่ยูริทิ้งไว้ ? โดยตกลงให้แยกกันไปเลี้ยงดู แต่เนื่องจากยูตะไม่ต้องการให้มีการแยกพี่น้องเหล่านี้ จึงเสนอที่จะรับเลี้ยง 3 สาวที่เป็นลูกของยูริพี่สาวของเขา เรื่องราวที่แสนอลมานจึงเริ่มขึ้น
ตอนที่ 1 ก็เริ่มจากพระเอกไปมหาลัย เจอกิ๊กสาวมหาลัย(โชวโกะ??) ก่อนที่จะมาบ้านของพี่สาวเพื่อช่วยเลื้ยงลูก(แท้และไม่แท้)ของพี่สาว และมีฉากเซอร์วิส(สูตรสำเร็จ) ก่อนที่จะจบตอน
ทนดู พูดตามตรง ส่วนตัวผมดูตอนแรกพอเป็นพิธีเท่านั้นแหละ และไม่คิดจะดูต่อ เพราะมันไม่ใช่แนวผมสักเท่าไหร่ เพราะมันไม่แปลกใหม่ (เจอมาเยอะแล้วแนวแบบนี้) หรือชุ่มชื่นหัวใจผมพอ อีกทั้งเข็ดกับแนวเลี้ยงต้อย แม้จะการ์ตูนแนวฮาเร็มแต่ผมไม่ถูกใจเท่าไหร่ จะบอกว่าค้ำคอร์ก็ไม่ถูกนัก เพราะไม่ได้รักใคร่ๆ แบบหน้ามืดตามัว แต่เป็นรักแบบอบอุ่นแบบครอบครัว และมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง คาแร็คเตอร์การออกแบบก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไรนัก(สำหรับผม) ขนาดมังงะผมก็ไม่ได้ดูแล้วเกิดความซาบซึ้งของความเป็นฮาเร็มสักเท่าไหร่ เพราะมุกกลวิธีนำเสนอยังอ่อนไป อย่างไรก็ตามใครที่ชอบๆ แนวแบบๆ นี้ยังกระดูกอ่อนอยู่ ดูการ์ตูนเรื่องนี้อาจสนุกก็แต่สำหรับผมไม่ล่ะ ขอผ่านล่ะกัน
Inu X Boku Secret Service
นางเอกน่ารักก็จริง แต่!! อนิเมะมังงะ (ลิขสิทธิ์โดยสยามอินเตอร์คอมมิค) เป็นเรื่องราวของเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ คนหนึ่งชื่อชิราคิอิน ริริจิโยะที่เกิดมาในตระกูลร่ำรวยและมากอิทธิพล แต่ไม่มีเพื่อนเท่าใดนัก ทำให้กลายเป็นคนปากไม่ตรงกับใจ และชอบทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา และเมื่อเขามาเธอก็ได้รู้จักบอดี้การ์ดคนหนึ่งมาคุ้มครองเธอ โดยตัวจริงของเขาคือหมาจิ้งจอกที่เคยที่รู้จักเธอตั้งแต่เด็ก
ตอนแรกมาแบบเปิดฉากแนวผู้หญิงปกป้องผู้ชาย คือนางเอกย้ายไปอยู่หอที่มีแต่เหล่าคุณหนู แถมมีพ่อบ้าน(บอดี้การ์ด) ประจำตัวอีกต่างหาก และได้รู้จักพระเอก ไม่ชอบหน้าพระเอกตอนแรก ตอนหลังโจรบุกตึก (โจรงี่เง่าปล้นหอพักนักเรียน) เลยโดนพวกพระเอกสั่นสอน จบ!!
พ่อแม่พี่น้อยครับการ์ตูนเรื่องนี้นางเอกน่ารักโฮก ฉากเซอร์วิสน้ำลายไหล ซึนก็น่ารัก พระเอกก็หล่อขี้อ้อนด้วย (มุกจีบสาวพี่แก่โครต) แต่สำหรับผมแล้วการ์ตูนเรื่องนี้ขอผ่านครับ สาเหตุคือการ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนอารมณ์แบบการ์ตูนผู้หญิง ซึ่งปกติแล้วผมไม่ค่อยได้เข้าถึงเท่าใดนัก ยิ่งฉากหลังเป็นโรงเรียนไฮโซ คุณหนู พ่อบ้าน ยิ่งผ่านใหญ่ และยิ่งผ่านอีกหากการ์ตูนเป็นแนวโลลิ ผู้ชายปกป้องผู้หญิงพระเอกไม่แคะ (แน่นอนว่าใครชอบพระเอกหล่อ เก่ง ฉลาด ต้องชอบเรื่องนี้แน่) เห็นว่าเนื้อหาจะหักมุมพอสมควรในตอนหลังๆ แต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่าหักมุมยังไง แต่ผมขอผ่านครับ (เนื้อหาอนิเมะตรงกับมังงะทุกประการ) แต่เรื่องนางเอกนี้ น่ารักชิบหายวายวอด เอาไปอยู่แนวการ์ตูนผู้ชายนี้โอตากุกริ๊ดระเบิดส้วมแตกแน่นอน เชื่อผมสิ
Black Rock Shooter
Black Rock Shooter เป็นการ์ตูนที่ค่อนข้างจะอาภัพ ทั้งที่มีวัตถุดิบดีๆ อยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็นฉาก บรรยากาศ ตัวละครที่แสนจะมีเสน่ห์ แต่การปรุงออกมาไม่ดีนัก ทำให้ล้มเหลวทั้งภาคอนิเมะ(OVA) และมังงะ (แต่โดจินโป๊ไม่นับน่ะ)
Black Rock Shooter คืออะไร? ยิงหินสีดำ(แปลแบบตรงตัว) คือชื่อภาพวาดภาพหนึ่ง เป็นงานออริจิ นอล ต่อมาก็กลายเป็นเพลง(ใช้เสียงโวคาลอยด์) ต่อมาก็เป็นโดจินจนโด่งดัง เนื่องจากคาแร็คเตอร์ชื่อ Black Rock Shooter (หรือร็อก) ซึ่งเป็นสาวผอมบางโลลิ นมแบน ทวินเทล หน้าตาเรียบเฉย สวมชุดอวดเนื้อหนังมังสา บิกีนีสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ ทอมบอยเล็กน้อย น่ารัก เหมือนยมทูต ซึ่งเป็นตัวละครนิยมมาก ถึงขนาดงานคอสที่ไหนจัดจะต้องมีคนแต่งตัวละครตัวนี้ทุกครั้ง ซึ่งต่อมาก็ทำเป็นมังงะและอนิเมะอย่างที่เห็นกัน ส่วนตัวแล้วผมก็ชอบเหมือนกันในคอมผมยังมีรูป Black Rock Shooter หลายภาพ (โดจินโป๊ไม่มีน่ะ)
เรื่องนี้พูดกันยาวเพราะมันเท้าความตั้งแต่ภาค OVA โดยภาคดังกล่าวได้รับการวิจารณ์ด้านลบกันทั่วหน้าว่าเป็นการ์ตูนที่ใช้ลูกเล่นไม่ถูกต้อง ดูเหมือนจะเป็นศิลปะ แต่การนำเสนอน่าเบื่อ ตัดไปตัดมา และฉากสลับบทบาทที่กลับไปกลับมานั้นแทบไม่มีความสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องเลย โดยการสลับบทบาทนั้นจะแบ่งเป็นระหว่างโลกแห่งความจริงและโลกลึกลับ(โลกคู่ขนาน)อะไรสักอย่าง โดยโลกแห่งความจริงบทบาทจะเป็นของเด็กหญิง "มาโต้" ที่ต้องการเป็นเพื่อนกับ "ทาคานาชิ" สาวแว่นเงียบๆ (ภาค OVA เธอไม่สวมแว่น) หากแต่นี้เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวลึกลับในเวลาต่อมา
ส่วนอีกโลกคือโลกลึกลับที่เป็นไม่ทราบว่าเป็นโลกอะไร โดยมีอีสาวตาไฟต่อสู้กับอะไรบางอย่าง ซึ่งดูเหมือนยมทูตแต่เก่งกว่าตัวเธอมาก ไปมาจนจบเรื่อง โดยคุณเธอมีพลังเปลี่ยนมือเป็นปีนใหญ่ซึ่งไม่รู้ว่าเธอเป็นญาติอะไรกับร็อกแมนหรือเปล่า (แต่ในมังงะระบุว่าเป็นโลกวิญญาณ ที่ดวงวิญญาณที่มาคือดวงวิญญาณแค้นใจ โดยมียมทูตสีดำมาปลดปล่อยวิญญาณเหล่านั้น นั่นคือพวกอีสาวตาไฟนั้นเอง)
ส่วนสิ่งที่เชื่อมกันระหว่าง 2 เรื่องนั้นภาค OVA ไม่ได้เฉลยๆ ว่ามันคืออะไร มีความสัมพันธ์อะไร แต่เดาว่าภาค OVA นั้นทาคานาชิกลายเป็นด้านมืดที่อิจฉาริษยายูที่ได้รับความรักจากมาโต้มากกว่าตน และเธอก็หายไปในโลกแห่งนี้ และมาโต้กลายเป็นมิกุ (....) ตามเธอกลับมา ดังนั้นภาคทีวีจึงเป็นภาคที่จะขยายความเรื่องดังกล่าวนั่นเอง (แต่เนื้อหาใช่ว่าจะเอามาจาก OVA ทั้งหมดเพราะเปลี่ยนเนื้อเรื่องพอสมควร)
ภาค OVA นั้นไม่ประสบผลสำเร็จมากนัก เนื่องจากการสลับบทบาทไม่สัมพันธ์กับเนื้อเรื่องนั้นเอง อีกทั้งประเด็นรักยูริสามเศร้านั้นไม่ได้เจาะเข้าไปในหมู่กลุ่มแฟนแบบสากลเท่าไหร่ ทำให้เป็นอีกเรื่องที่เสียชื่อผู้กำกับยามะคันค่อนข้างมาก อนิเมชั่นยาว 50 ถูกวิจารณ์เละชนิดไม่เผาผี พูดตามตรงถือว่าผิดหวังพอสมคารกับอนิเมชั่น OVA ครั้งนี้ เพราะทุกคนอยากเห็นอีสาวตาไฟ ไม่ใช่อยากดูยูริรักสามเศร้าดราม่า
Black Rock Shooter อนิเมะภาคทีวียังคงเหมือนเดิมกับ OVA เพียงแต่คราวนี้มีการสาวให้เรื่องยาวขึ้นและเนื้อหาให้ละเอียดขึ้น ภาคทีวีผู้กำกับคงเป็น Shinobu Yoshioka เหมือนเดิม แต่ขอบอกว่าการ์ตูนเรื่องนี้ยังคงเน้นดราม่ายูริตามเคย (เท่าที่เห็นในตอนที่ 1) ดังนั้นใครไม่ชอบยูริก็ข้ามไปเถอะ โดยตอนที่ 1 ไม่มีอะไรมากนัก คาโต้ต้องการจะเป็นเพื่อนกับทาคานาชิ ในขณะที่โลกคู่ขนานแห่งหนึ่งเด็กสาวลึกลับ (หรือ Black Rock Shooter ) กำลังต่อสู้อะไรบางอย่างที่ไม่เฉลยว่ามันคืออะไร แต่กระนั้นก็มีการสอดแทรกให้เนื้อหาน่าติดตามมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นคนที่ทาคาชิพูดปลายสายนั้นคือใคร และหญิงสาวที่ไล่คาโต้นั้นคือใครกันแน่ อย่างไรก็ตามการดำเนินเรื่องสลับบทบาทไปมา โลกมนุษย์และโลกคู่ขนานยังคงเป็นการนำเสนอที่เลวร้ายค่อนข้างมากสำหรับผม (ซึ่งผมหวังว่าตอนหน้าการสลับบทบาทแบบนี้จะหายไปซะที)
คนเราก็แปลก ในเมื่อภาค OVA ก็เห็นได้ชัดว่าเหล่าแฟนๆ ต้องการดูสาวตาไฟ มากกว่าจะดูยูริรักสามเศร้า ดังนั้นธีมของเรื่องน่าจะเป็นแนวยมทูตล่าวิญญาณมากกว่า เหมือนของมังงะ แต่อนิเมะกลับต้องการเอาภาค OVA มาสานต่ออีกครั้ง ครั้งนี้ไม่รู้ออกหัวออกก้อย เพราะตอนที่ 1 ยังไม่สามารถบอกอะไรได้ แต่ที่แน่ๆ สำหรับผมแล้ว ผมคิดว่าเป็นการตัดสินใจผิดอีกครั้งของผู้กำกับเช่นเคย
Denpa Onna To Seishun Otoko 13
ถือว่าเป็นตอนจบซีซั่นหนึ่งอย่างแท้จริง (เห็นเขาว่าจะมีซีซั่นสอง แต่ไม่มียืนยัน) ซึ่งเป็นตอนช่วงหลังที่พระเอกแข่งเบสบอลเสร็จ และไปเที่ยวเทศกาลฤดูร้อน เปิดฉากออกมาเอริโอ้อยู่ในผ้านวมน่ารัก และ พระเอกก็ไปเที่ยวงานนัดริวโกะ(กิ๊ก) คุณเธอยังเพี้ยนน่ารักตามแบบฉบับเช่นเคย แต่เพี้ยนก็คือมาเอคาว่า (กิ๊ก) ที่คอสปลาไหลปิ๊งหมู (คุณเธออกร้าน) หลังจากเดทกิ๊กเสร็จแล้วก็ถึงตาเอริโอ้(เมียหลวง)ที่รออยู่หน้าศาลเจ้านัดดูดาวตกและดอกไม้ไฟด้วยกันแสนโรแมนติก ซะเมื่อไหร่ล่ะ....ยัยเพี้ยนผมขาวอีกคนยาชิโร โฮชิมิยะ (พึ่งรู้ว่าคนพากษย์คนเดียวกับที่พากษย์ มาเรีย ชมรมไร้เพื่อน) ก็มาขัดจังหวะ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีลำแสงประหลาดบนฟ้าพุ่งเข้าชนพระเอก จนบาดเจ็บ (ตะลึงเพ่ฉากนี้) และยัยเพี้ยนผมขาวก็หายตัวไปอย่างลึกลับ ทิ้งให้พระเอก งง งวยอยู่เบื้องหลัง ปิดท้ายด้วยการประกายแสงเอริโอ้ยามค่ำคืน ดูดาวพร้อมกันสองคน จบ........
คุ้มค่าในการรอคอยสำหรับผม แม้อาจไม่ปิดฉากสมบูรณ์แบบ เพราะ ก็ยังไม่คายปมทั้งหมด เพราะเก็บปริศนาเอาไว้ซีซั่นหน้า) ยังคงมาตรฐานเอาไว้เช่นเดิม ภาพสวย คืออวยสาวเด็ดดวง ประกายแสงแห่งเอริโอ้ พระเอกขี้บ่น โรแมนติก เอาเป็นว่าใครชอบอนิเมะเรื่องนี้ และบ่นว่าตอนที่ 12 จบค้างๆ คา ไม่สมบูรณ์ ก็ดู 13 ต่อล่ะกัน (แต่ไม่คลายปมทั้งหมดในเรื่องนะ กลับยิ่ง งง หนักกว่าเดิม ว่าตกลงยัยผมขาวหายไปไหน?)
Senki Zesshou Symphogear
หลังจากที่ดูไป 6 ตอน (ดูแบบกระโดดข้าม) ความคิดเห็นคือการ์ตูนเรื่องนี้เลี่ยนเป็นบ้า ถ้าพูดถึงนิยามมันก็คงจะเป็นการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่ฉาบยูริ
Senki Zesshou Symphogear เป็นเรื่องราวของโลกอนาคตที่ถูกสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่านอยด์รุกราน ซึ่งสิ่งมีชีวิตดังกล่าวรูปร่างเหมือนปัญญาอ่อนแต่ความจริงมันโหดเหี้ยมมากฆ่าคนอย่างกับหักปลาและไม่มีอาวุธใดๆ ทำอันตรายมันได้เลย ยกเว้นแต่ซิมโฟเกียร์ซึ่งเป็นชื่อชุดเกราะพลังที่ใช้เสียงเพลงในการขับร้องเพิ่มพลังเท่านั้นที่สามารถต่อกรพวกมันได้ และผู้ใช้พลังดังกล่าวเท่าที่เห็นมีเพียงไอดอทสาวสองคนแห่งวงเฌอไวซ์วิงเท่านั้นที่จะใช้พลังนี้ได้ โดยสมาชิกวงประกอบด้วยคานาเดะสาวแกร่งกับสึบาสะสาวเพียบพร้อมที่เป็นคู่หูร่วมกันต่อสู้กันมาอย่างยาวนาน และตัวตนของซิมโฟเกียร์เป็นความลับไม่ให้สาธารชนรับรู้
อย่างไรก็ตามเนื้อหาจุดศูนย์กลางของเรื่องกับไม่ใช่คานาเดะกับสึบาสะ หากแต่เป็นของเด็กสาวคนหนึ่งชื่อฮิบิกิ ที่เป็นเด็กธรรมดา แต่หลงใหลวงเฌอไวซ์วิงเป็นอย่างมาก วันหนึ่งเธอไปงานคอนเสิร์ต (ที่จริงนัดกับเพื่อนสนิทเอาไว้ แต่เพื่อนสนิทไม่ได้มาด้วย เลยต้องไปคนเดียว) และจู่ๆ เหล่านอยด์ก็บุกมากลางงาน ฆ่าคนตายหลายร้อยคน ส่วนฮิบิกิยืนขาแข็งก้าวขาไม่ออกและเหล่านอยด์ก็พยายามเข้ามาทำร้าย แต่ทันใดนั้นสีบาสะในชุดเกราะซิมโฟเกียร์ก็มาช่วยเธอเอาไว้ หากแต่ร่างของสึบาสะกด็ได้สลายไปเพราะใช้พลังมากในการปกป้องเธอ อย่างไรก็ตามฮิบิกิก็ถูกนอยด์ทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสและสลบในที่สุด
2 ปีต่อมา ฮิบิกิก็กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง และเข้าในเมืองเพื่อไปซื้อเพลงเฌอไวซ์วิง แต่แล้วเธอกับพบพวกนอด์อีกครั้ง และในขณะที่จนมุมอยู่นั้นเองร่างกายของเธอก็ได้รับการเปลี่ยนแปลง เมื่อเธอกลายเป็นซิมโฟเกียร์ และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
Senki Zesshou Symphogear เป็นอาจเป็นการ์ตูนหักมุมเล็กๆ ในตอนแรกครับ แต่ขอโทษครับหลังจากนั้นดำเนินเรื่อง (โครต) น่าเบื่อเลย (สำหรับผม คนอื่นไม่รู้หรอก) สูตรสำเร็จไม่ว่าจะเป็นการฝึกวิชา การปรากฏออกมาของเหล่าศัตรูที่เป็นหัวหน้าใหญ่(มุกประจำ) เนื้อหาดูจริงจัง แต่ส่วนมากเน้นหนักยูริรักสามเศร้ามากกว่า แต่ก็เท่านั้น เพราะพอดีผมไม่ใช่พวกอวยยูริ สิ่งที่ผมคิดอีกอย่างคือการต่อสู้ไปร้องเพลงไปเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่านัก เพราะปกติคนเราเวลาจะทำงานไม่ควรทำไปพูดไป เพราะมันจะทำให้เหนื่อยจัดมาก ไม่เชื่อลองวิ่งแล้วร้องเพลงไปสิครับ ว่าจะเหนื่อยมากกว่าปกติขนาดไหน แสดงว่าตัวละครที่ใช้พลังเรื่องนี้ปอดคงใหญ่มากเลยทีเดียว
ส่วนประกอบอื่นๆ เช่นการออกแบบชุดเกราะซิมโฟเกียร์ของสีบาสะไม่ค่อยโดดเด่น(พูดง่ายๆ ไม่โมเอะ) อยากให้ออกแบบชุดให้มันโมเอะมากกว่านี้(เอาแบบกางเกงในบินได้ท่าจะดี) ส่วนงานภาพก็มีเผาบ้าง ส่วนเพลงประกอบในเรื่องทำได้ดีแต่ไม่ติดหูมากนัก ถ้าพูดตรงๆ คือสอบตกหมดยกเซ็ต ไม่ว่าการดำเนินเรื่อง ตัวละคร ภาพ หรือแม้แต่เพลง
สิ่งที่ไม่ชอบตั้งแต่แรกเลยคือการทำให้คานาอะตายตั้งแต่ตอนแรก ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดใหญ่หลวง เพราะว่าเราแทบไม่รู้จักคานาดะเลยว่าเธอเป็นคนยังไง เมื่อเธอตายแล้วก็เฉยๆ เพราะเราไม่ได้มีความผูกพันธ์กับตัวละครนั้น และใน 1 ตอนก็ยัดเยียดเต็มพิกัด แม้ว่าจะมีการหักมุมเข้ามาบ้างและอาจเตรียมใจว่ามันจะมีอะไรตกใจในตอนท้ายแน่นอน แต่สำหรับผมแล้วก็ดูไปงั้นๆ แหละ
Gokujyo
ยูริเสื่อม "Gokujyo. หรือ ~Gokurakuin Girl's High School Dorm Story~" ที่ดัดแปลงมาจากมังงะของ Miyazaki Maya มี 12 ตอนจบ (ตอนหนึ่งประมาณ 6 นาทีรวมเพลงเปิดและจบ)
เนื้อหาเป็นเรื่องของ “อายะ อากาเนะ “สาวไฮเปอร์ (โง่, บ้าบอ, บ้าพลัง) ที่ใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับเพื่อนๆ ในโรงเรียนที่แสนจะน่าอิจฉา (เพราะทุกคนรักเธอหมด บางคนถึงขั้นอยากวายด้วยซ้ำ) ส่วนใหญ่มักรวมตัวในห้องพยาบาล (ที่กลายเป็นสถานที่ซุ่มหัวไป) พร้อมกับปล่อยมุกกระจาย จนไม่เชื่อว่าคนเหล่านี้คือผู้หญิง
เรื่องนี้เสื่อมอย่างแรงชนิดที่เรียกว่ามาถึงตอนแรกถูกงดฉายออกอากาศมาแล้ว (มันเสื่อมจริงๆ) และตอนที่ 3 ก็เสื่อมไม่แพ้กันจนงดฉากเช่นกัน (มุกประมาณว่าอีบ้านี้มันคิดได้ไงว่ะ) เพราะเนื้อหาและเนื้อเรื่องไม่เหมาะสมแก่ผู้ดูบางกลุ่ม (เป็นอย่างไรก็ดูเอาเอง) เอาเป็นว่ารีวิวตอนแรกละกันนางเอกสุดสวย (แต่สมองอย่างกับเด็กประถม) แต่งตัวอย่างกับนางแบบ (ผิดกฎระเบียบโรงเรียนเต็มๆ) แล้วไปโรงเรียนวันแรก แต่มาถึงโรงเรียนก็พึ่งรู้ตัวว่าทำกางเกงในหลุดกลางทาง มันเลยต้องแย่งกางเกงในเพื่อนมาใส่แทน เพื่อนมันไม่ยอม มันเลยบังคับถอด แล้วก็แย่งกางเกงในแบบวิ่งพล่านทั่วโรงเรียน และทั้งสองก็แย่งกันจนล้ม เปิดเหวอให้คนผ่านไปผ่านมาให้ดูเต็มๆ อายชนิดอยากแทรกแผ่นดินหนี (เสื่อมเปล่า ไม่เชื่อไปดูกูเกิลได้ เต็มๆๆ)
อย่างไรก็ตาม ตอน ต่อๆ มาไม่เสื่อมหื่น ลดลงแล้วน่ะครับ ไม่ค่อยมีเท่าไหร่ มีแต่ยูริแทน แต่ยูริเป็นเสื่อม แถมมุกแปรงฟันก็เอามาใช้ (.......ใครเป็นต้นตำรับกันแน่มุกนี้) แซวโน้นแซวนี้ ให้ได้ฮ่าเป็นระยะ ข้อเสียคือภาพอาจไม่สวยเท่ามังงะครับ มีเผาหลายจุด ความยาว 6 นาทีถือว่าเต็มอิ่ม
ส่วนเรื่องที่ผมไม่ได้รีวิว ไปดูที่กระทู้นี้น่ะครับ (สรุปตอนจบเป็นที่เรียบร้อย)
http://www.dek-d.com/board/view.php?pno=1&id=2431490#comment
สรุปอนิเมะที่ดู (ส่วนสาเหตุที่อนเมะหลายเรื่องที่ไม่ดูก็เหตุผลควายๆ มากมาย แต่เหตุผลหลักคือ "ฒันไม่ฮาเร็ม")
Zero no Tsukaima F (ข้ามไปข้ามมา)
Amagami SS+ (ดูแต่บทไอจังคนเดียว)
Guilty Crown (ตอนฮาเระตายไม่ได้ดู มาดูอีกที ตอนบักชูแขนขาได้จีโนม)
Kill Me Baby (ดูทุกตอน ช่วยเยียวยาหัวใจดี)
Danshi Koukousei no Nichijou (ตั้งแต่ตอนที่ 8 เป็นต้นมา ดูแต่ชีวิตเถื่อนสาว ม. ปลาย)
Rinne no Lagrange (ดูข้ามไปข้ามมาบ้าง แต่หลังๆ ดูเต็มตอน)
Senki Zesshou Symphogea (ดูเกือบครบตอน)
Perusona 4 (ดูทุกตอน)
Another (ดูตอนที่ 3, 4 และ5 ไม่ได้ดู มาดูตอนพระเอกและนางเอกรับบทเป็นคนตายเป็นอะไรที่สุดยอดมาก)
ไม่รวม OVA แมวอ้วน กับเด็กโข่ง ที่ดูทุกตอน (แล้วแต่มีคนแปลไทยมา)
ตัวละครหญิงที่ผมชอบ
เมย์ (Another) นิ่งทุกงาน แค่รอยยิ้มเธอก็ทำให้โลกสดใสแล้ว
ทวินเทล (Another) แทบจำชื่อจริงคุณเธอไม่ได้เลย แปลกดี
ไอจัง (Amagami SS+) น่ารักจัง โดยเฉพาะตอนใส่ชุดว่ายน้ำ มาเป็นแฟนป๋าเถอะ
โซเนีย (Kill Me Baby) ทวินเทลทอมบอย
มาโอโตะ (Perusona 4) เท่และน่ารัก เวลาอายนี้น่ารักสุดๆ
ริสเสะ (Perusona 4) คุณเธอคือนางเอก???
รัน (Rinne no Lagrange) น่ารัก
อารุกะ (Guilty Crown) ตอนนี้ผมดูแต่ช่วงฮารุกะออก
ตัวละครชายที่ชอบ
นายแว่น (Another) บทไม่ค่อยมี ไล่แทงผู้หญิงโรคจิตสาด
บักยู (Perusona 4) เมพเทพสิ้นดี
พระเอก (Another) ขี้เกียจจำชื่อ แต่น่ารัก
อะดาจิ (Perusona 4) บอสใหญ่ (หรือเปล่า??) แห่งความริษยา
มุกชอบใจ
แปรงฟัน
ยัยสะพานโค้ง
สรุปความรู้สึกในการดูอนิเมะซีซั่นนี้ สำหรับผมน่ะ) ค่อนข้างมีเรื่องถูกใจผมน้อยมาก แถมบางเรื่องยังจบห่วยอีก บางเรื่องดูตอนจบแล้วไปดูการ์ตูนโป๊ฮาเร็มรอบหนึ่ง แทนที่จะไปแตะบอล บางเรื่องนี้เสียดายพล็อตนิดๆ ที่เน้นยูริไป หากมีเรื่องผู้ชายเข้ามาเกี่ยวข้องนี้ผมว่าเนื้อหาจะสนุกกว่านี้ เอาเป็นว่าอนิเมะซีซั่นหน้าน่ามีหลายเรื่องอยู่ในรายชื่อที่ผมอยากดูเป็นที่เรียบร้อย (แล้วแต่คนแปลจะกรุณาแปลมาให้ผมดู เพราะขี้เกียจดูซับอังกฤษ) สิ่งที่หวังอนิเมะซีซั่นหน้าคือตอนจบอนิเมะที่เป็นแนวดัดแปลงต้นฉบับมังงะ อย่ามาบ้าจี้นั่งเทียนเขียนตอนจบเอาเอง แถมจบไม่แอปปี้อีกต่างหาก เม่งจะด่าให้ทะลุจอ แบบยัย 0
ความคิดเห็น