ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #166 : Kamisama no Iutoori เกมมรณะโหด มัน ฮ่า

    • อัปเดตล่าสุด 23 ม.ค. 55


                  

    Kamisama no Iutoori (Fujimura  Akeji) เป็นการ์ตูนมังงะที่ผมชอบแห่งปีครับ แม้ว่าจะเป็นแนวเซอร์ไววัลเกมแห่งความตาย แต่มุกและลูกเล่นนี้เพียบ เรียกได้ว่ารวมมุกต่างๆ มากมายจนเรียกได้ว่ารวมมุกจากการ์ตูนเซอร์ไววัลเรื่องต่างๆ เข้าด้วยกันเลยทีเดียว



    Kamisama no Iutoori (Fujimura  Akeji)

      

    Kamisama no Iutoori หรือชื่อไทยเท่ๆ ก็ พระเจ้าสั่งตาย เป็นการ์ตูนแนวเซอร์ไวรัสต้องรอด (เกมแห่งความตาย) เป็นผลงานของ Fujimura  Akeji ที่พึ่งออกในปี 2011 ลงต่อเนื่องในนิตยสาร Bessatsu Shounen Magazine (Kodansha)

    Kamisama no Iutoori เป็นเรื่องของพระเอกทาคาฮาตะ ชุน อายุ 16 ปี นักเรียนมัธยมปลายแสนธรรมดา ที่วันหนึ่งเขาก็มาโรงเรียนตามปกติ ปกติจนเขารู้สึกน่าเบื่อหน่าย แต่แล้วชีวิตที่น่าเบื่อหน่ายของก็กลายเป็นตื่นเต้นสยดสยองทันทีทันใด เมื่อคุณครูได้เข้าห้องเรียน หัวของครูก็เกิดระเบิดขึ้น และมีเจ้าตุ๊กตาดารุมะออกมาจากหัวของครู และมันไม่พูดพร่ำทำเพลง มันก็ฆ่าเพื่อนร่วมชั้นของชุนตายเกือบหมดห้อง กว่าที่ชุนและเพื่อนจะรู้ตัวเขาว่ามันคือเกมจับตัวดารุมะตามเวลาที่กำหนด โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าใครอยู่เบื้องหลังเกมนี้ แต่สิ่งที่รู้คือเขา(และเพื่อน)จะต้องชนะเพื่อมีชีวิตรอดให้ได้

     

    หากพูดไม่เกินความจริง Kamisama no Iutoori (Fujimura  Akeji) เป็นการ์ตูนมังงะที่ผมชอบแห่งปี ด้วยเนื้อโหด มัน ฮ่า ที่น่าติดตาม ชนิดดูตอนต่อตอน ไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป (แต่ผมขอให้ตัวละครผู้หญิงรอด)  แม้เนื้อหาจะเป็นแนวเซอร์ไววัลเกมแห่งความตาย มีมุก และองค์ประกอบจะเหมือนการ์ตูนมังงะเรื่องอื่นๆ แต่สิ่งที่เหนือคือคนเขียนฉลาดมากในใช้องค์ประกอบน้ำเน่าเหล่านั้นมาใช้ในสถานการณ์ในการดำเนินเรื่องเหมาะเหม็ง หักมุม และสนุกทุกตอน

    Kamisama no Iutoori (Fujimura  Akeji) เปิดฉากออกมาพร้อมคำโปรยว่า การ์ตูนเรื่องนี้จะแสดงให้เห็นถึงรูปแบบใหม่ของความหายนะในการเอาตัวรอด!!” โดยตอนแรกเปิดฉากออกมาน้ำเน่ามากๆ พระเอกมาโรงเรียนด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย (เชื่อเถอะแนวเซอร์ไววัลเรื่องไหนพระเอกคิดแบบนี้เป็นอันต้องงานเข้าทุกที) เมื่อมาถึงโรงเรียน เข้าห้องเรียน เนื้อเรื่องก็ทยอยเปิดตัวละครอื่นๆ เป็นต้นว่า เพื่อนพระเอกจอมหื่น สาวป๊อบประจำห้อง น้ำเน่าจริงๆ บางทีคนอ่านหลายคนอาจเลิกอ่านด้วยซ้ำเพราะลายเส้นการ์ตูนไม่ค่อยสวยงามหรือน่าอ่านมากนัก สัดส่วนก็ผิดเพี้ยน หน้าตาตัวละครแต่ละตัวบิดเบี้ยว การออกแบบก็เชยๆ  (เพราะคนเขียนยังมือใหม่อยู่)  เรียกได้ว่าสาม-หกหน้าของการ์ตูนไม่น่าสนใจแม้แต่น้อยเพราะดำเนินเรื่องสูตรสำเร็จจริงๆ

    และหลังจากหน้าที่เจ็ดเป็นต้นไปมีอันต้อง งง กริ๊ดแตก!!

    โพล้ะ!!

    หัวครูประจำชั้นพระเอกจู่ๆ ก็แตกดังโพล้ะ เลือดสาดกระจายห้อง อย่างกับหนังสยองเกรดบี ที่จู่ๆ ก็เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผล ไม่ปูเนื้อเรื่องเลยว่าทำไมถึงเกิดขึ้น เนื้อหาการ์ตูนดำเนินเรื่องประมาณว่ามันเกิดขึ้นทันทีทันใด ตายแบบไม่รู้ตัว

    หลังจากนั้นจู่ๆ ก็มีตุ๊กตาดารุมะออกมาจากร่างของครู ตั้งอยู่โต๊ะอาจารย์และขยับไปขยับมา หมุนไปหมุนมา และคุณดารุมะได้เอง  ดูแล้วโครตปัญญาอ่อน เป็นคุณเห็นแล้วจะทำยังไงเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติอยู่ตรงหน้า แน่นอนว่าร้อยทั้งร้อยก็ต้องหนีออกจากห้องเรียนสิ หรือไม่ก็ลนลาน(ในเมื่อมีคนตาย เลือดสาดกระจายห้อง ใครจะมีสติว่ะ)

    แน่นอนว่าใครที่คิดแบบแรกมีอันต้องตายทันที เพราะหลังจากนั้นหัวคนที่พยายามหนีก็แตกดังโพล้ะเลือดสาดกระจาย ตายแบบ งง ว่ากรูตายเพราะอะไรว่ะเนี้ย!? และเมื่อหลายคนตาย คนอื่นก็ลนลานส่งผลทำให้หัวแตกดังโพล้ะจนเกือบหมดชั้น

    ในระหว่างสถานการณ์กำลังคับคัน หัวหน้าห้องก็เตือนสติ ให้อยู่ในความสงบ อย่าขยับ และแล้วทุกคนในห้องก็รู้ตัวว่านี้เป็นเกมมรณะ Daruma GA Koronda ที่มีกติกาว่าให้กดปุ่มที่หลังดารุมะก่อนเวลาที่จะหมด เกมก็จะหยุด(และเชื่อว่าทุกคนจะรอด) ซึ่งกติกาคล้ายกับเกมรูปปั้น โดยเป็นเกมละเล่นของเด็กๆ ที่มีกติกาว่าจะเลือกผู้เล่นคนหนึ่งเป็นภัณฑารักษ์(ดารุมะ) และจะต้องอยู่สุดเขตแดนและหันตัวตรงข้ามผู้เล่นคนอื่นซึ่งอยู่ท้ายเขตแดนกับภัณฑารักษ์(เขตแดนกำหนดระยะทางเอาไว้ยังไงก็ได้) และเป้าหมายของเกมคือคนอื่นจะต้องเดินเข้ามาแท็กตัวภัณฑารักษ์ให้ได้ โดยภัณฑทารักษ์จะพยายามไม่ให้ผู้เล่นคนอื่นเข้าใกล้ตัวโดยการหันหลัง หากผู้เล่นคนไหนขยับในระหว่างนั้นจะต้องออกจากเกม และผู้เล่นคนอื่นสามารถเคลื่อนที่ได้อีกเมื่อภัณฑ์รักษ์หันกลับไป (ส่วนจังหวะหันของภัณฑารักษ์แล้วแต่ความชอบของเจ้าตัว)

    แม้ว่าจะรู้กติกา แต่ก็เป็นเรื่องยากอยู่ดีที่จะไปกดปุ่มดารุมะ เพราะว่าหลายคนกลัวตาย ไม่กล้าที่จะไปถึงตัวดารุมะ อย่างไรก็ตามในระหว่างนั้นสาวป๊อปประจำห้อง (นึกว่านางเอก) ก็อาสาไปกด อย่างกล้าหาญและตายอย่างอนาถในเวลาต่อมา หลังจากนั้นคนอื่นก็สติแตก ลนลาม พยายามวิ่งไปถึงตัวดารุมะ ทั้งๆ ที่ดารุมะยังจ้องหน้า ทำให้คนในชั้นที่เหลือน้อยนิดหัวแตกดังโพล้ะตายเกือบหมด รวมไปถึงเพื่อนสนิทของชุนด้วย (ตรงฉากนี้ผมไม่หัวเราะ แต่อึ้งมาก การ์ตูนนำเสนออารมณ์เลือด ความตาย ได้เต็มเปี่ยมใช่ได้ทีเดียว)

                    มีแต่ชุนและหัวหน้าห้องเท่านั้นที่ยังมีสติอยู่ และระหว่างที่เกมแห่งความตายดำเนินมาถึงใกล้จะหมดเวลาจับตัวอารุมะ แทนที่ชุนจะลนลาม สิ้นหวัง เขากลับใจเย็นขึ้น มีสติมากขึ้น รอบคอบมากขึ้น รอจังหวะมากขึ้น เนื่องจากมีความคิดว่าตนต้องรอด และไม่อยากให้คนอื่นตาย จนในที่สุดเขาก็ชนะเกมดังกล่าว กดปุ่มดารุมะตามเวลาที่กำหนด

    ระหว่างทุนและหัวหน้าห้องกำลังดีใจอยู่นั่นเอง การ์ตูนก็น่าจะจบตอนแบบแฮปปี้ แต่ปรากฏว่าหัวหน้าห้องหัวแตกดังโพล้ะตายอนาถอีกคน (คนกดปุ่มคนเดียวเท่านั้นที่รอด) ส่งผลทำให้ชุนเป็นคนเดียวในชั้นที่มีชีวิตรอด

    และก็จบตอนที่หนึ่ง

    หลังจากอ่านจบ ผมก็ชอบการ์ตูนเรื่องนี้ขึ้นมาทันที อ่านหลายรอบมาก พยายามที่จะเข้าใจเนื้อหาของมัน การ์ตูนดำเนินเรื่องได้แปลกใหม่ หักมุม ชนิดเรียกว่าเห็นหน้าเจ้าดารุมะน่ากลัวชิบหาย ใครจะเกมแบบนี้เข้าจริงๆ ขอตายดีกว่าที่รอดรอด(และก็เป็นความคิดที่ถูกต้องซะด้วยสิ)

      

    แน่นอนว่าจบตอนที่ 1 หลายคนบอกว่า งง แน่นอน สาเหตุที่หลายคนคิดแบบนี้เพราะการ์ตูนไม่ได้ปูเรื่องราวเลยว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น เกิดเพราะอะไร? พระเอกเป็นคนยังไง? จู่ๆ ก็เกิดโดยไม่ปี่มีขลุ่ย แน่นอนว่าตอนเดียวไม่สามารถหาคำตอบได้แน่นอน ซึ่งส่งผลทำให้หลายคนติดตามการ์ตูนเรื่องนี้อีกว่าเรื่องราวต่อไปนี้จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ซึ่งขอชมคนเขียนเลยว่าเข้าใจหลักการเซอร์ไววัสได้ดี ไม่จำเป็นต้องอธิบายกติกายืดยาด มาถึงเอาความรุนแรง ความโหด เลือดสาด ใส่เข้าไปไม่ยั้ง ตามด้วยความสงสัย งง งวย

    จบตอนที่ 1 ผมก็นึกไม่ออกว่าการ์ตูนจะดำเนินเรื่องยังไงต่อ เพราะตัวละครตายเกือบหมดชั้นเหลือแต่ชุนรอดมาคนเดียว พอมาตอนที่ 2 ก็ย้อนอดีตชุนสักนิด เพื่อแสดงให้เห็นว่าพระเอกเรื่องนี้เป็นคนธรรมดาจริงๆ ไม่ได้วิเศษวิโสมาจากไหน จะมีนิสัยแปลกๆ ตรงชอบเสี่ยงเท่านั้น แต่ก็เป็นปกติสำหรับมนุษย์ที่อยากแสวงหาความตื่นเต้นในชีวิตบ้าง แต่จะไปเสี่ยงตายนี้คงไม่มีใครอยากจะทำหรอก

    ชุนตื่นขึ้นมาในห้องเรียนและดารุมะบอกให้ไปโรงยิม และชุนออกจากห้อง เขาก็พบคนออกจากห้องเรียนข้างๆ เป็นผู้หญิงชื่อ อากิโมโตะ” (นางเอก?) ซึ่งตอนนี้การ์ตูนไม่บอกสถานะเธอกับชุนเป็นยังไง แต่ดูเหมือนทั้งสองรู้จักกันดี และอากิโมโตะก็มีใจให้กับชุนด้วย (เชื่อว่าหากมีย้อนอดีตอากิโมโตะ เธอตายชัวร์) แต่ถ้าเป็นนางเอกถือว่าแปลกพอสมควร เพราะหน้าอกเธอไม่ใหญ่นัก เพราะนางเอกในการ์ตูนแนวเซอร์ไววัสจะอกใหญ่ทั้งนั้น(ฮ่า)

    จากนั้นชุนกับอิกิโมโตะและคนที่รอดชีวิตที่เหลือแต่ล่ะชั้นในโรงเรียนก็เล่นเกมโยนกระดิ่ง(ขนาดเท่าลูกบาส)เข้าห่วงแมวยักษ์  ซึ่งเหมือนกับเกมดารุมะ ตรงที่คำสั่งไม่บอกรายละเอียดเช่นเดิน(อย่างกับกันซึ) แถมยังไล่เหยียบคนอย่างกับเหยียบมดปลวก สถานการณ์สิ้นหวังดีแท้ ทำให้หลายคนคิดว่าเกมนี้คงจะมีคนเดียวที่รอด หลายคนเกิดความกังวล กลัวโน่นกลัวนี้ กลัวหักมุม อย่างไรก็ตามในช่วงตอนที่ 2-30 ความฮ่ายิ่งทวีคูณมากกว่า ตอนที่ 1  ที่ทำให้หลายคนหัวเราะท่ามกลางความตายและความหลอน เพราะเอามุกเซอร์ไววัสใส่อย่างเมามัน หักมุมอย่างมีกึ๋น เป็นต้นว่า  มีอยู่ฉากหนึ่งที่เพื่อนพระเอกชู๊ตกระดิ่งเข้าห่วงแมวอย่างมาด พร้อมมีการย้อนอดีตซะดิบดี แต่กลายเป็นการ์ตูนมันหักมุม แมวยักษ์รับกระดิ่งได้ซะงั้น แถมยังโยนกระดิ่งใส่เพื่อนพระเอกตายสยองดับอนาถ โหยอุตส่าห์มีความหวัง แต่การ์ตูนหักมุมให้สิ้นหวังซะงั้น

      

    อย่างไรก็ตาม ด้วยกฎเซอร์ไววัสคือพระเอกเท่านั้นที่รอด ในช่วงท้ายของเวลาของเกม  ชุนได้ความเป็นมหาเมพดั๊งค์กระดิ่งเข้าในห่วงแมวได้ทันเวลา ทำให้ชุนกับเพื่อนรอด หากแต่การ์ตูนก็หักมุมอีกครั้ง เมื่อจู่ๆ ก็มีตัวละครใหม่ (คาแร็คเตอร์รองพระเอก) ชื่อ อามายะ”(พี่เทพโรคจิต) เพื่อนรุ่นเดียวกับชุน หากแต่มีคว่าคิดแตกต่างกันสุดขั้วเพราะเป็นคนที่ชอบเลือดและการต่อสู้ บู๊ระห่ำโดยไม่สนจิตใจของคนอื่น ได้ออกมาฆ่าผู้เล่นที่รอดชีวิตคนอื่นๆ จนเหลือเพียง ชุนกับอากิโมโตะเท่านั่น และระหว่างเรื่องราววุ่นวายสับสนอยู่นั่นเอง ตำรวจคอมมาโดก็เข้ามาระงับเหตุการณ์และชุนก็สลบไป

    ต่อมาชุนก็ได้สติ และพบว่าตอนนี้เขาอยู่ในโรงพยาบาล และทราบข่าวว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นทั่วโลก ที่เด็กมัธยม(ทั้งต้นและปลาย)ต่างเล่นเกมแบบเดียวกับเขาและรอดชีวิตมาได้ และเขาก็รู้อีกว่าในโรงพยาบาลเขาอยู่เป็นที่รวมเด็กมัธยมจากทุกเขตมาอยู่ทีเดียวกัน ซึ่งเขาคิดว่าเขารอด เกมจบลงแล้ว แต่หารู้ไม่ว่านี่คือจุดเริ่มต้นเกมมรณะครั้งใหม่ที่กฎกติกายากและอันตรายมากกว่าเดิม

     หลังจากที่จบตอนที่ 4 ผมก็สามารถบอกมุกการ์ตูนคราวๆ ได้แล้วว่า เป็นการ์ตูนแนวเซอร์ไววัสประเภทเกมแห่งความตาย โดยเกมที่เล่นจะเป็นเกมที่เด็กๆ เล่นกัน(ไม่ว่าจะเป็น ชักกะเย่อ, เกมคาโงเมะ คาโงเมะ, กระโดดเชือก)  โดยเพิ่มความโหด ตาย ทำให้ลุ่นหน้าตื่นเต้น มีเพียงพระเอกเท่านั้นที่รอด ส่วนตัวละครอื่นๆ ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะรอดหรือตาย เพราะตายง่ายเหลือเกิน โดยเฉพาะพวกตัวละครตายเกลื่อน ใช้แล้วทิ้ง บางตัวคิดว่าจะเป็นตัวหลักกับตายอย่างอนาถ

    แน่นอนว่าการ์ตูนเรื่องอาจไม่ดีที่สุดในใจหลายๆ คน บางคนเปรียบเทียบกับเรื่อง Bakuman ซึ่งมีตอนหนึ่งที่เอามีเนื้อหาคล้ายๆ กัน และคิดว่า  Kamisama no Iutoori เอามุกการ์ตูนเรื่องนี้ไปใช้ ทำให้หลายคนตั้งแง่ด้วยว่าก็อปไอเดียมาทั้งดุ้น อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อยากให้เปิดใจสักนิดดูตอนต่อๆ ไปดีกว่าว่ามันจะเอามุกอะไรใส่เข้าไปบ้าง ผมว่าช่วงหลังๆ นี้ สนุกและแปลกใหม่ใช่ได้เลย

    ส่วนหลายคนบอกว่าการเอามุก(แก๊ก)ใส่เข้าไปในการ์ตูนเลือดสาดดูแล้วไม่ค่อยเข้ากัน อันนี้ผมไม่เห็นด้วย เพราะการ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนมุกตลกร้าย เซอร์ไววัสใช่ว่าจะมีแต่เครียดปวดตับเสมอไป มุกตลกที่สอดแทรกเข้ามาไม่ได้มาแบบจับยัด หรือไร้เหตุผล หากแต่เป็นมุกที่สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง มีแบบแผน มีแบบกึ๋น มีแบบหักมุม รู้ว่าตรงไหนควรใส่ ไม่ควรใส่ แม้ว่ามุกอาจสำเร็จรูป แต่กระนั้นมันก็อดไม่ได้ที่จะขำออกมา

      

    ช่วงนี้รู้สึกว่าการ์ตูนแนวเซอร์ไววัสและเซอร์ไวเวอร์ค่อนข้างออกมาเยอะ แต่ส่วนใหญ่เซอร์ไววัสที่ออกมาจะเป็นแนวเอาตัวรอดวิ่งหนีสัตว์ประหลาด ส่วนแนวเกมแห่งความตายไม่ค่อยมีเท่าไหร่ (เช่น Enigma) เพราะเป็นแนวเขียนยาก ต้องการหักมุมสูง ตัวละครต้องเน้นได้อารมณ์ ความตื่นเต้นต้องมาก่อน แต่ Kamisama no Iutoori กลับทำตรงข้าม

    สังเกตว่าสูตรการ์ตูนแนวเซอร์ไววัสหรือเซอร์ไวเวอร์จำเป็นต้องมี ก็คือพระเอกแนวดังกล่าวจะต้องดูธรรมดา ไม่โดดเด่น อ่อนแอ ดูแคะๆ แต่มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีความตั้งใจที่จะมีชีวิตรอด และห่วงใยผู้อื่น เป็นที่พึ่งได้  แม้ว่าจะไม่ค่อยฉลาด หากแต่เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน ก็จะเกิดปัญญาสามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่อันตรายได้

                    หากถามว่าทำไมพระเอกแนวเซอร์ไววัสหรือเซอร์ไวเวอร์ต้องทำให้ดูอ่อนแอ ก็เนื่องจาก คนอ่านสามารถได้ลุ้นและตื่นเต้นมากกว่าพระเอกหน้าหล่อและเก่งกาจ อีกทั้งหากพระเอกเก่งหรือหล่อเกินไปคนอ่านอาจรู้สึกหมั่นไส้ด้วยซ้ำ  อีกอย่างคือการเข้าถึงบทบาทที่พระเอกอ่อนแอคนอ่านจะเข้าถึงได้ง่ายกว่า

                    อย่างไรก็ตามพระเอกหล่อ และมีความเก่งกาจ มักจะเป็นแนวพระรองมากกว่า แม้ว่าจะมีความเป็นผู้นำสูง และมีความเทพทุกอย่าง แต่ทัศนคติกลับตรงกันข้ามพระเอก เห็นคนเป็นผักปลา มีด้านมืดมากกว่า อย่างไรก็ตามคนบางส่วนก็ชอบตัวละครลักษณะดังกล่าว  เพราะความโรคจิต ความเท่ได้ใจ

                    
                 
    แม้เกมมรณะในการ์ตูนดูเหมือนจะเป็นเกมง่ายๆ บ้าบอ เพราะเป็นเกมเด็กเล่น แต่กระนั้นเนื่องจากมีความตายเข้ามาเกี่ยวข้อง แพ้คนเดียวไม่มีโอกาสแก้ตัว มันจึงกลายเป็นเกมแห่งความตายที่ยากขึ้นทันที อย่างไรก็ตามทุกเกมไม่ใช่เกมที่เน้นโชคลางหรือดวงแต่อย่างใด แต่เต็มไปด้วยการวางแผนและเทคนิคการเอาชนะแฝงอยู่

                    เช่นตอนแรกจับดารุมะ คนที่ตายในเกมนี่ส่วนใหญ่เพราะลนลาม บ้าระห่ำเกินไป และไม่ปฏิบัติตามกฎของเกม ส่วนพระเอกรอดเนื่องจากดูสถานการณ์อย่างเงียบๆ รอดูสถานการณ์ สังเกตไปด้วยว่าสาเหตุที่หลายคนตายเพราะอะไร ผิดกฎตรงไหน และเมื่อถึงโอกาส พระเอกก็ใช่โอกาสเพียงครั้งเดียวเพื่อจบเกม แม้ว่าจะฉิวเฉียดเกือบไม่รอดก็ตาม

                    พอมาถึงเกมชู๊ตกระดิ่งเข้าห่วงแมวนางกวัก พระเอกก็วิ่งไปมาพร้อมกับดูสถานการณ์ไปด้วย สังเกตว่าแมวนางกวักวิ่งอย่างไร จุดอ่อนมีอะไรบ้าง แตกต่างจากคนอื่นที่เอาแต่วิ่งหนีความตายลูกเดียว และเมื่อพระเอกจับจุดอ่อนหรือวิธีเอาชนะได้  จนสามารถจบเกมได้

                    พอเกมที่ 3 เป็นเกมคาโงเมะ คาโงเมะ (เกมเด็กเล่นประเภทหนึ่งของญี่ปุ่น) ที่พระเอกจะต้องหลับตาและทายว่าตัวไหนอยู่ด้านหลัง (มีให้เลือก 3 ตัว) ตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นเกมที่ต้องเดา ต้องสุ่ม แต่ความจริงแล้วเกมดังกล่าวซ่อนเทคนิคการเอาชนะเอาไว้ โดยพระเอกหาวิธีนี้ได้ จากการเห็นตัวอย่างผิดพลาด 2 ครั้ง ครั้งแรกเจ้ารูบิคทำเป็นโชว์เท่จนหมั่นไส้เลยตายเป็นคนแรก ส่วนครั้งที่สองนักเลงลนลามนั่งเดามั่วจนตายอนาถ แต่ชุนสังเกตความผิดพลาดทั้ง 2 ครั้งเปลี่ยนเป็นวิธีการเอาชนะอย่างแยบยล ด้วยความจำและการตั้งใจฟัง จนสามารถเอาชนะเกมแห่งความตายนี้เป็นครั้งที่ 3

                    มาถึงเกมที่ 4 จะเป็นเกมกระโดดเชือก 4 คนซึ่งเกมดังกล่าวจำเป็นต้องใช้ความสามัคคี สติ สมาธิ จังหวะ แรงกายและแรงใจเป็นหลักพอมาถึงเกมที่ 5 เป็นเกมชักกะเย่อก็เน้นจังหวัด ความสามัคคี และแรงกายซึ่งแต่ละเกมไม่ได้อาศัยโชคอะไรเลย หากแต่เป็นการเน้นการสังเกตและการใช้ทักษะผสมกับความกล้าที่อยากจะมีชีวิตก็จะทำให้รอดเกมมาได้

                    อย่างไรก็ตาม การ์ตูนเรื่องนี้ช่างหักหลังคนอ่านเสียเหลือเกิน ในเรื่องการการสร้างสถานการณ์สิ้นหวัง โดยเฉพาะในเรื่องการดำเนินเรื่องที่บังคับให้คนอื่นเล่นเกมเพื่อเอาชีวิตรอด สร้างความหวังว่ารอดแล้วแต่สุดท้ายก็ตายอย่างอนาถสิ้นหวัง และถึงแม้จะสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ ก็กลับต้องเล่นเกมใหม่ที่ยากและหินกว่าเดิมจนไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เกมจะสิ้นสุด จิตใจผู้เล่นก็เริ่มถ้อถอย เหมือนตกอยู่ในนรกทั้งเป็น คนตายสบาย แต่คนเป็นกับทุกข์จิตตกถึงขีดสุด

                    ในทางศาสนาพุทธสอนให้เรานึกถึงความตายไว้บ่อยๆ มนุษย์หลายคนกลัวตายเพราะความตายคือสิ่งที่เราไม่รู้ ไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหน ระหว่างสวรรค์กับนรก ดังนั้นศาสนาพุทธจึงสอนอยู่บ่อยๆ ว่าจงตั้งสติอย่าได้ประมาท ประมาทจะนำมาซึ่งความตาย อีกทั้งยังสอนให้ใจเรารู้สึกเป็นมิตรกับความตายมากขึ้น ปลงกับชีวิต ซึ่งหากเราสามารถเอาชนะความตายนี้ได้ การดำเนินชีวิตของเราก็จะมีแต่ความสุข

    จะว่าไปคนที่ตายส่วนใหญ่นั้นล้วนแต่เป็นคนนิสัยเสียทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เห็นแก่ตัว โลภ ไม่มีสมาธิ ก็สอนๆ เราแหละว่าจงมีสติในการดำเนินชีวิตประจำวัน อย่าประมาท การประมาทนำมาซึ่งความตายโดยไม่รู้ตัว จงทำดีเข้าไว้ ทำดีต่อคนรอบข้าง และอนาคตเขาก็มาตอบแทนคุณ  (จะมีแต่เจ้าระลึกชาติชู๊ตบาสแหละที่เป็นคนดีแต่ตายอนาถซะงั้น)

                    

    ในด้านตัวละครนอกเหนือพระเอกไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเป็นจุดอ่อนหรือจุดแข็ง คือตัวละครตายง่ายมาก ออกมาไม่กี่ฉากก็ตาย เพราะตายง่าย ออกมากี่ช่องนี้เองทำให้ตัวละครอาจดูแบนๆ ความสัมพันธ์แบนๆ แม้บางตัว คาแร็คเตอร์แสนจะโดดเด่น จนนึกว่าจะเป็นตัวหลักด้วยซ้ำ แต่เนื้อเรื่องกลับทำตัวละครเหล่านั้นตายอย่างอนาถ หน้าตาหล่อสวย น่ารัก ความสามารถพิเศษไม่มีผลอะไรทั้งสิ้น (ผมยังเสียตายอาเจ๊ในชุดชั้นในสีดำเลย หากคุณเธอรอด บางทีอาจได้เห็นอะไรสนุกๆ มากกว่านี้ด้วยซ้ำ)  อย่างไรก็ตามเพราะตัวละครตายง่ายนี้เอง ก็ทำให้เกิดความรู้สึกลุ้นเวลามีฉากตัวละครใหม่ออกมา ว่ามันจะรอดหรือตาย(กาก) ยิ่งช่วงตอนที่ 11 นี้ผมสงสารตัวประกอบยังไงก็ไม่รู้ โดยเฉพาะกลุ่มที่เล่นกับชุนในชักกะเย่อ อุตส่าห์รอดแทบตายมาเจออามายะโรคจิตแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เล่น เลยตายอย่างอนาถ.......

    ส่วนตัวละครหลักๆ ที่ออกมาตอนนี้ อากิโมโตะแม้ตอนนี้บทคุณเธออาจแบนๆ ราบๆ แต่ผมว่าผมชอบนะครับ เวลาอยู่กับพระเอกนี้มันเหมือนยาใจยังไงไม่บอก ตอนแรกพระเอกก็ไม่ได้คิดอะไรกับตัวเธอเลยสักนิด หากแต่เมื่อสองคนเล่นเกมมรณะด้วยกัน รอดมาด้วยกัน พระเอกก็เริ่มเห็นเธอเป็นคนสำคัญขึ้นมาบ้าง และการที่อากิโมโตะรอดจากเกมหลายครั้งนี้แสดงว่าคุณเธอไม่ธรรมดาแน่ ซึ่งผมก็ขอเอาใจช่วยเธอคนนี้ให้รอดชีวิตครับ

    ส่วนคาแร็คเตอร์ตัวฮ่าของเรื่อง ก็น่าเหลือเชื่อเลยว่าเป็นเจ้าอายาเมะ ที่เทพกว่าพระเอกอีก ตอนปรากฏตัวแรกนึกว่าพระเอกการ์ตูนจัมป์ (มันเอาดาบซามูไรมาจากไหนว่ะ!!) มาอย่างเท่ อย่างหล่อ แต่พอมาตอนหลังๆ นี้มันเทพโรคจิตชัดๆ กระโดดเชือก 3,000 ครั้ง เวอร์ไปเปล่าเพ่ ใช้เวลาเท่าไหนเนี้ยที่โดด มีการโชว์กล้ามเบ่งอวดสาวอีก แถมโรคจิตสำเร็จความใคร่โชว์คนอื่นอีก โอ้ มันกู่ไม่กลับแล้ว แต่กระนั้นมีหมอนี้อยู่ในกลุ่มชุยสบายเป็นแปดอย่างเพราะสองเทพอยู่ด้วยกันต่อให้เกมมรณะแบบไหนมาก็ไม่กลัว ฮ่าๆ

     ในช่วงท้ายตอนที่ 11 ก็เริ่มเปิดตัวอยู่อยู่เบื้องหลัง เกมพระเจ้าสั่งตาย เป็นชายร่างผอม คาแร็คเตอร์เหมือนพวกโอตากุ หรือไม่ก็พวกเก็บตัว ไม่รู้จะสื่ออะไรในอนาคต ประมาณว่าแก้แค้นสังคมอะไรหรือเปล่า? หากแต่ชายที่อยู่เบื้องหลังดังกล่าวได้ขยายเกมมรณะดังกล่าวไปทั่วโลกพร้อมมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ไปด้วย ซึ่งก็ต้องติดตามดูว่าเนื้อเรื่องต่อไปจะดำเนินออกมาแบบไหน หักมุมเพียงใด หรือจะสิ้นหวังเพียงใด มาติดตามกันดูว่าสุดท้ายชุนจะได้ฮาเร็ม เฮ้ย!! จะรอดหรือเปล่าต่างหาก

    + +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×