คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #165 : Dansai Bunri no Crime Edge แอ็คชั่นปรุงยังไงให้น่าสนใจ
ที่จริงอยากเขียนการ์ตูนเรื่องนี้มานานแล้วครับ แต่ตั้งใจจะรอถึงเล่ม 3 ค่อยเขียนเขียนถึง อืมจะพูดอะไรดีล่ะ? ตั้งแต่ผมแรกเห็นการ์ตูนเรื่อง Dansai Bunri no Crime Edge ก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอก แบบว่ามันเบื่อๆ เลยซื้อมา เปิดมาตอนแรกก็คุ้นๆ ลายเส้นว่าเคยเห็นที่ไหน ที่แท้คนเขียน Tatsuhiko Hikagi จากผลงาน Karakasa no Saien ซึ่งเนื้อหาก็ออกแนวแอ็คชั่นโรคจิตหน่อยๆ นี้เอง และ Dansai Bunri no Crime Edge ก็เป็นผลงานเรื่องยาวเรื่องที่สอง(อย่างเป็นทางการ) และยังคงแอ็คชั่นโรคจิตเหมือนกัน
Dansai Bunri no Crime Edge
แอ็คชั่น แฟนตาซี โรแมนติก
Dansai Bunri no Crime Edge เป็นการ์ตูนแอ็คชั่นโรคจิต(นิดๆ) ลงต่อเนื่องใน Comic Alive (Media Factory โดยเป็นผลงานของคนเขียน Tatsuhiko Hikagi จากผลงาน Karakasa no Saien(2008) ซึ่งก่อนหน้าเคยวาดโดจิน (โป๊) มาแล้ว และการ์ตูนดังกล่าวได้รับการแปลเป็นภาษาไทยโดยรักพิมพ์ในชื่อ “สายเลือดล่าสังหาร”
Dansai Bunri no Crime Edge เป็นเรื่องราวของพระเอกคนหนึ่งชื่อไฮมุระ คิริ เด็กหนุ่มที่เหมือนคนธรรมดาคนหนึ่ง แต่เขากลับมีนิสัยไม่ธรรมดาคือเป็นคนโรคจิตลุ่มหลงในการตัดผมของเด็กผู้หญิง แบบไม่มีเหตุผล หากเจอผู้หญิงที่ผมสวยอยู่ตรงหน้าละก็เขาจะวิ่งเข้ามาตัดผมโดยใช้กรรไกรเก่าๆ ที่เขาพกติดตัวอยู่เสมอแบบไม่มีสติซะทุกที ทำให้พฤติกรรมเหมือนฆาตกรโรคจิตชอบกล จนบางครั้งเขายังเคยคิดว่าหากใครที่ก่อกวนความต้องการของเขาล่ะก็ เขาจะฆ่าให้หมด
จนกระทั้งวันหนึ่งขากลับจากโรงเรียนเขาก็พบกับเด็กสาวคนหนึ่งชื่อมุชาโนะโคจิ อิวาอิสาวผมยาวสลวย ที่เอาแต่เก็บตัวอยู่ในบ้านคนเดียว เพราะเธอมีคำสาปติดตัวที่ไม่มีกรรไกรตัดผมเธอขาดได้ (จนเป็นสาเหตุทำให้เธอต้องออกจากโรงเรียนเพราะเธอกลายเป็นตัวประหลาด) แฃะเมื่อคิริได้เห็นอิวาอิแรกพบ เขาก็แสดงความเป็นโรคจิต(หลงรักอิวาอิ)ทันที เลยขอตัดผมเธอ แต่ปรากฏว่าเป็นอย่างที่อิวาอิพูดเพราะไม่มีกรรไกรใดตัดผมของเธอได้ และหลังจากนั้นพวกเขาก็พบเรื่องแปลกประหลาดมากมาย จนรู้ว่าตนเองก็มีพลังวิเศษที่เรียกขานว่า “คิลลิ่งกู๊ดส์(หรือมรดกสังหาร”) ซึ่งเขาแตกต่างจากคนธรรมดาตรงที่เขาเป็นคือทายาทของฆาตกรชื่อดังในอดีต “ฝันร้ายแห่งแห่งใต้ดิน นอร์มา เกรย์แมน” ซึ่งสายเลือดดังกล่าวได้ถ่ายทอดมาอยู่ที่เขาทำให้เขามีสามารถพิเศษผ่านอุปกรณ์ต้องสาปที่ครั้งหนึ่งเป็นเครื่องมือของบรรพบุรุษใช้ก่อคดีฆาตกรรม ซึ่งกรณีของเขาก็คือกรรไกรพกส่วนตัวนั่นเอง
พลังของคิริคือสามารถตัดทุกสิ่งทุกอย่างได้โดยใช้กรรไกรพกส่วนตัวของเขาเท่านั่น และด้วยเหตุนี้เองทำให้เขาสามารถตัดผมอิวาอิได้อย่างง่ายดาย หากแต่เรื่องไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะในวันรุ่งขึ้นเส้นผมของอิวาอิก็จะยาวเหมือนเดิม พร้อมกันนั้นเขาก็ได้รู้ความจริงอีกว่าอิวาอิคือราชินีเส้นผมซึ่งเป็นเหยื่ออุดมคติที่เป็นที่หมายตาจากกลุ่มคนที่มีพลังคิลลิ่งกู๊ดส์เช่นเดียวกับเขา โดยกลุ่มคนเหล่านั้นจะเคลื่อนไหวโดยมีองค์กรลึกลับองค์กรหนึ่งชื่อกอสชิป (ข่าวอื้อฉาว) ที่พยายามหลอกล่อหรือสร้างสถานการณ์(ปล่อยข่าวลือ) ล่อให้ฆาตกรเหล่านี้มาเล่นเกมฆ่าอิวาอิให้ได้ (จุดประสงค์เพื่ออยากเห็นคิลลิ่งกูดส์ฆ่ากันเอง) โดยเชื่อกันว่าหากคิลลิ่งกูดส์คนไหนฆ่าราชินีเส้นผมได้จะได้รับสิ่งปรารถนาตามที่เจ้าตัวต้องการ และเมื่อคิริรู้เรื่องเขาก็ต้องใช้พลังของเขาปกป้องอิวาอิจากเหล่าคิลลิ่งกู๊ดส์ให้ได้ และเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้นก็ติดตามต่อไป
ไฮมุระ คิริ ฉายา “ไครม์เอดจ์ ผู้ตัดผ่าแยกส่วน” พระเอกผมขาว ภายนอกเหมือนคนธรรมดา แต่ความจริงแล้วเป็นโรคจิตชอบตัดผมผู้หญิงเอามากๆ แบบไม่มีเหตุผล ความจริงแล้วเขาคือคิลลิ่งกู๊ดส์ ที่สืบเชื้อสายจากไครม์เอดจ์ผู้ตัดผ่าแยกส่วน ฆาตกรโหดในอดีตที่ฆ่าคนด้วยการแยกชิ้นส่วนมากมาย โดยมีความสามารถเพิ่มพลังการตัดผ่านกรรไกรพกที่เป็นอุปกรณ์ที่บรรพบุรุษเคยนำไปก่อคดีมาก่อน ความจริงหากตัดนิสัยโรคจิตออกเขาก็มีคนดีคนหนึ่ง หากตั้งใจทำอะไรเขาก็จะทำถึงที่สุด
มุชาโนะโคจิ อิวาอิ สาวผมยาว ร่างเล็กที่คิริพบตอนกลับจากโรงเรียน นิสัยขี้กลัวและขี้แย และอ่อนต่อโลก ไม่ได้ไปโรงเรียนนามแล้วเนื่องจากโดนคำสาปของราชินีแห่งเส้นผม ทำให้ผมตัดไม่ขาดและถึงแม้ถูกตัดผมก็จะยาวขึ้นต่อไปเรื่อยๆ โดยคิริได้ปกป้องเธอจากคิลลิ่งกู๊ดส์คนอื่นๆ ที่จ้องจะฆ่า เพราะเชื่อว่าหากฆ่าราชินีแห่งเส้นผมได้จะได้รับความปรารถนาที่ตนต้องการ
เบียวอิงชากะ ยามาเนะ ฉายา อินเจ็คชั่นแห่งนิทราสู่สวรรค์ สาวแว่นมืดมน(แต่น่ารักน่ะ) และเป็นลิ่งกู๊ดส์ ที่สืบเชื้อสายจาก “นางฟ้าจิตชั่วร้าย ไนติงเกล” ที่เป็นนางพยาบาลฆ่าคน(แต่จำนวนเหยื่อถือว่าน้อย ทำให้พลังอำนาจอาจต่ำกว่าอินเจ็คชั่นคนอื่นๆ) มีความสามารถคือเพิ่มพูนฤทธิ์ของยาที่ฉีดเข้าไปได้หลายสิบเท่า เช่น ยาพิษ, ยาชา, ยาสลบ และสามารถโด๊บให้กับตนเองก็ได้ โดยเธอมีอายุเท่ากับคิริและอยู่โรงเรียนด้วยกันด้วย หากแต่มีมนุษย์สัมพันธ์ค่อนข้างแยกและอดีตที่มืดมน จนคิดว่าตนมีพี่สาวคนเดียวที่เป็นที่พึ่ง (และพี่สาวก็เป็นคิดว่าน้องสาวเป็นคนเดียวที่พึ่งตนได้) ตอนแรกมองคิริเป็นศัตรู หากแต่ตอนหลังกลายเป็นเพื่อน(??) และในอนาคตอาจเป็นอะไรมากกว่านั้น.......
ชิโฮโด ลูกะ ฉายา “เพ็ทวิป ผู้เฆี่ยนฆ่ากำราบ” รองประธานนักเรียนในโรงเรียนที่คิระอยู่ เป็นคิลลิ่งกู๊ดส์ที่สืบเชื้อสายจาก “คนเลี้ยงหมู คุณหญิงชิโฮโด” ขุนนางที่เคยทรมานเหยื่อตายมากมายในสมัยก่อน มีพลังพิเศษผ่านหวดแส้ที่สามารถตีเป้าหมายซึ่งเป็นเพศชายเพื่อกำจัดสติสัมปชัญญะและควบคุมเป้าหมายได้ แต่สามารถออกคำสั่งง่ายๆ เท่านั้น และหากเป้าหมายถูกตีระยะเวลานานจะได้พลังมหาศาล ตอนแรกมีความต้องการฆ่าอิวาอิเพื่อต้องการเป็นเจ้าหญิง(ปมในอดีต) แต่เมื่อพ่ายแพ้แต่คิริก็เลิกล้มความตั้งใจไป ภายนอกเหมือนเจ้าแม่ ซาดิสต์ แต่ความจริงเป็นคนขี้แยและขี้อ้อนมากๆ
แม้ว่าการ์ตูน Dansai Bunri no Crime Edge จะเป็นเรื่องของฆาตกรทั้งหลาย ซึ่งเนื้อหาน่าจะโหดเหี้ยม เลือดสาดเป็นแน่แท้ แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย เพราะอารมณ์ของการ์ตูนจะประมาณเหมือนการ์ตูนแอ็คชั่นเซเน็น (seinen) ที่คนอ่านเน้นผู้ชายอายุ 18-25 ปี อยากโหดก็ไม่เท่าไหร่ ส่วนมากจะเป็นฉากต่อสู้ที่ค่อนข้างน่าหวาดเสียวพอสมควร แต่ความรุนแรงอาจน้อยกว่าการ์ตูนเซเน็นเรื่องอื่นๆ เช่น เช่น เอากรรไกรตัดเฉือนร่างกาย (แต่ไม่ถึงขั้นหั่นแขนหั่นขาหรอก) เอาเข็มฉีดยาฉีดเส้นเลือด เชือกแขวนคอ ฯลฯ แต่กระนั้นยังคงสไตล์การ์ตูนแอ็คชั่นคือเน้นมุมกล้องให้พระเอกเท่ๆ ฉากเลือดสาดกระจาย (แต่ไม่มาก) แต่และเรื่องนี้มีคนตายน้อยกว่าที่คิดไว้(แม้ว่าจะเป็นเรื่องของฆาตกรก็เถอะ)
พูดถึงการ์ตูนแอ็คชั่น รู้สึกสมัยนี้จะเริ่มเพิ่มความรุนแรงค่อนข้าง(อย่าว่าสมัยนี้เลย สมัยก่อนยิ่งกว่านี้อีก) โดยบ้านเราเรียกความรุนแรงในนิยายหรือในการ์ตูนว่าแนวเลือดสาด ซึ่งนอกเหนือจากความรุนแรงต่อยตีแล้วจะมีการเพิ่มเลือดเข้ามา กล่าวคือ มีเลือดกระฉูด เลือดไหลปริมาณมาก เช่นเรื่อง Deadman Wonderland พื้นฐานแล้วการ์ตูนก็พล็อตธรรมดาแต่เมื่อมีเลือดสาดเพิ่มเข้ามาในความรุนแรง มีการตายของตัวละคร ก็ช่วยให้มีความน่าใจมากขึ้น
ทำไมมนุษย์ถึงแนวเลือดสาดนัก โดยพื้นฐานของมนุษย์นั้นมีความรุนแรงซ่อนอยู่ในสัญชาติอยู่แล้ว การใช้เลือดสาดในความรุนแรงก็ทำให้เราชอบสะใจมากขึ้นเหมือนระบายสิ่งที่อัดอั้นในใจออกมา ยิ่งเด็กไทยแล้วยิ่งชอบเป็นพิเศษเพราะส่วนใหญ่เยาวชนไทยชอบแนวต่อสู้กันมากกว่าจะเน้นการดูการ์ตูนที่มีเนื้อหายากๆ จะไม่แปลกแต่อย่างใดที่แนวเลือดสาดนิยมในบ้านเรา
หลังจากที่ผมอ่านการ์ตูนเรื่องนี้ เล่มแรกจบ สิ่งที่ผมคิดคือหากการ์ตูนเรื่องนี้ เอาหลักวิชาการว่าด้วยเรื่องฆาตกรศาสตร์มาใช้ประกอบให้สมจริงหน่อยนี้จะน่าสนใจขึ้นเยอะ เช่น เปลี่ยนจากชื่อฆาตกรแฟนตาซีมาลองใช้ชื่อฆาตกรในตำนานที่หลายคนรู้จักกันดีดู น่าจะน่าสนใจขึ้นเยอะ เช่น ลองสร้างตัวละครที่เป็นลูกหลานฆาตกรต่อเนื่องในตำนาน เช่น แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์, อลิซาเบธ โบโลรี่, เอ็ด กีน ฯลฯ แล้วเอามาสู้กันโดยใช้พลังพิเศษ ซึ่งฆาตกรแต่ละตัวก็มีความสามารถตามชื่ออยู่แล้ว เห็นไหมแค่นี้น่าสนใจแล้ว
Dansai Bunri no Crime Edge เป็นการ์ตูนแอ็คชั่นที่เนื้อหาหลักๆ ธรรมดา พระเอกมีพลังวิเศษ ปกป้องนางเอก องค์กรร้าย เหล่าผู้มีพลังวิเศษ ฉากต่อสู้เลือดสาด แม้จะมีเรื่องตลก โรแมนติกบ้างเล็กน้อย เรื่องนี้พิเศษหน่อยตรงที่มีการเพิ่มจิตวิปริตและจิตวิทยาเข้าไปทำให้เรื่องน่าสนใจ
หลายคนสงสัยว่าโครโมโซมันคืออะไร เกี่ยวอะไรกับฆาตกร ความจริงแล้วเรื่องราวของโครโมโซชนิดนี้มีการศึกษากันมาอย่างยาวนานแล้ว โครโมโซมนั้นหมายถึงหน่วยพันธุกรรม(ยีน) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมและถ่ายทอดข้อมูล เกี่ยวกับ ลักษณะทางพันธุกรรมต่างๆ ของสิ่งมีชีวิต เช่น ลักษณะของเส้นผม ลักษณะดวงตา เพศ และผิว โดยปกติแล้วโครโมโซมที่แสดงเพศชายคือ XY ส่วนโครโมโซมที่แสดงเพศหญิงคือ XX หากแต่บุคคลใดที่มีโครโมโซมผิดปกติคือ XYY ซึ่งหาก Y เกินมานั้นแสดงว่าบุคคลนี้มีความผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ที่น่าสนใจคือโครโมโซม XYY นั้นมีอยู่ในอาชญากรรมหลายคน แสดงให้เห็นว่าหากกลุ่มบุคคลนี้มีโครโมโซมชนิดนี้จะมีโอกาสที่จะก่ออาชญากรรมมากกว่าคนปกติทั่วไป โดยพบว่าบุคคลที่มีโครโมโซมชนิดนี้จะเป็นคนตัวสูง(เฉลี่ย 6 ฟุต) ชอบเก็บความรู้สึก ไม่ค่อยชอบคบหาสมาคมกับใคร มีแนวโน้มไปในการรักร่วมเพศ หรือมีความก้าวร้าวเพิ่มขึ้น แต่กระนั้นแม้จะมีตัวอย่าง หากแต่ก็ยังไม่มีผลการวิจัยที่แน่ชัดว่าโครโมโซม XYY มีความสัมพันธ์กับการทำให้บุคคลนั้นเป็นอาชญากรได้อย่างไร
อย่างไรก็ตามการ์ตูนดังกล่าวก็บอกเป็นเนาๆ แล้วว่าสาเหตุที่ทำให้คนธรรมดากลายเป็นฆาตกรนั้นเรื่องสายเลือดเป็นเรื่องรอง หากแต่สิ่งสำคัญคือการความหลังที่ข่มขืน ที่เกิดจากการเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมที่ฆาตกรถูกทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง ซึ่งแรงจูงใจในการก่อคดีของฆาตกรต่อเนื่องหลายคน ส่วนมากเกิดจากการถูกทารุณกรรม ถูกกดดัน ถูกทำให้อับอายในวัยเด็ก และมีฐานะสังคมที่ต้อยต่ำเมื่อโตขึ้น และได้ใช้การฆ่าเหยื่อเพื่อระบายความแค้นส่วนตัว
นอกเหนือจากฉากต่อสู้ จุดเด่นของการ์ตูนเรื่องนี้ก็คือฉากโรแมนติกของเหล่าตัวละคร ที่นอกจากฉากโรแมนติกของพระเอกและนางเอกแล้ว ยังมีคู่ชายหญิงในเรื่องที่มีฉากโรแมนติกแตกต่างกันไป ภายนอกเหมือนจะเป็นความรักความห่วงใย หากแต่เมื่อมองลึกๆ แล้วกลับแฝงด้วยความโรคจิตวิปริตไม่น้อย
ยกตัวอย่างเด่นๆ เลยคือคิริกับอิวาอิ ภายนอกเหมือนคู่รักโรแมนติก ที่คิริเป็นคนรักเดียวใจเดียว แต่คำถามคือคิริหลงรักอิวาอิในฐานะอะไรกันแน่ระหว่างผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งหรือในฐานะเหยื่อคนหนึ่ง
อย่างที่รู้ว่าแรงจูงใจของฆาตกรต่อเนื่องก็คือการปลดปล่อยและระบายความอัดอั้นทางจิตใจ สำหรับคิริคือความเก็บกดที่อยากตัดผมผู้หญิง ซึ่งบางทีหากคิริไม่เจอเส้นผมไม่ต้องการเขาอาจเป็นฆาตกรต่อเนื่องล่าตัดเส้นผมของเหยื่อผู้หญิงด้วยซ้ำ ยังดีที่มีอิวาอิที่มีผมสวยยาวตัดแล้วขึ้นอย่างรวดเร็ว และไม่ปฏิเสธให้คิริตัดผม ทำให้เขาสามารถระบายความอัดอั้นในจิตใจได้
แม้ว่าตอนแรกคิริจะรู้สึกกับอิวาอิเหมือนผู้ชายหลงรักผู้หญิง หากแต่ช่วงหลังๆ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคิริยังหลงรักอิวาอิในฐานะอะไรกันแน่ เพราะเขายังไม่ทิ้งนิสัยเดิมคือการชอบผมยาว เห็นผมยาวสวยๆ วิ่งเข้าใส่และเอามาดมอย่างกับอดอยากที่ไหนมา (อ้างอิงมังงะเล่ม 3) ทำให้น่าคิดว่าในอดีตข้างหน้าคิริมันจะมืดมนแค่ไหน และเรื่องนี้ความรักของทั้งคู่จะสมหวังหรือเปล่า
นอกเหนือจากคือคิริกับอิวาอิ ก็มีคู่โรแมนติกแบบแปลกๆ ก็เช่นคู่สาวแว่นยามาเนะกับพี่สาวที่เป็นมากกว่าพี่น้องที่รักใคร่ ที่พี่สาวยอมเป็นตัวรองรับอารมณ์อัดอั้นให้ยามาเนะได้ระบายในฐานะเหยื่อเพราะคิดว่าตนเป็นที่พึ่งของน้องสาวเพียงคนเดียวที่ไม่หาใครสามารถมาทดแทนได้ จนหลายครั้งที่พี่สาวเห็นยามาเนะออกห่างจากคนอื่นต้องสติแตกทันที หรือจะเป็นคู่รองประธานลูกะกับประธานที่รักกันแบบซาดิสต์กับมาโซ ที่เป็นโรแมนติกแบบแปลกๆ น่าสนใจเลยเดียว จนไม่สามารถบอกได้ว่าระหว่างเหยื่อหรือฆาตกรคนไหนบ้างกันแน่ และแน่นอนว่าเล่มต่อๆ มาอาจมีคู่รักแบบแปลกๆ ปรากฏตัวออกมาแน่นอน
สมัยนี้การสร้างตัวละครในการ์ตูนและในนิยายไม่เหมือนแต่ก่อนแล้วนะครับ โดยเฉพาะพระเอก สมัยก่อนพระเอกจะเป็นพวกด้านสว่างที่เป็นคนดี ทำอะไรก็เฟอร์เฟ็คไปหมด หากแต่พระเอกเหล่านี้หลายคนน่าเบื่อแล้ว ดังนั้นจึงต้องสร้างให้พระเอกด้านมืดหน่อย หรือไม่ก็ให้เทาๆ ก่ำกึ่งดีกับชั่ว เพื่อให้เนื้อหาจะเป็นการพัฒนาการเติบโตในด้านจิตใจ ส่วนตัวละครก็ทำให้ดูจิตๆ มีประวัติเจ็บป่วยทางร่างกายและจิตใจ หน่อยเพื่อให้โดดเด่น น่าจดจำ และมีอารมณ์ร่วมกับตัวละครนั้น
Dansai Bunri no Crime Edge ยังคงเป็นสไตล์ของคนเขียน ที่เน้นตัวละครดูจิตๆ และฉากต่อสู้เลือดฉากนิดหน่อย และผมเชื่อว่าเนื้อหาอาจจะไม่มืดหรือจบแบบไม่แอปปี้ เพราะมันไม่ใช่สไตล์คนเขียนดังกล่าว
ความคิดเห็น