คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #160 : Infinite Blade หุ่นยนต์โมเอะภาคกุโระ!!
เคยมีคนบอกว่าการ์ตูนนี้เหมือนกินขนมเคลือบยาพิษนี้เห็นท่าจะจริง ยกตัวอย่างการ์ตูน Infinite Blade ที่เห็นต่อไปนี้เท่าที่ดูจากปกคุณคิดว่ามันเป็นการ์ตูนแนวไหน? แน่นอนร้อยทั้งร้อยหลายคนต้องตอบว่า สาวน้อย โมเอะ ชุดจักรกล แฟนตาซี ตลกเฮฮ่า เพราะดูปกมันบ่บอกอย่างนี้ แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลยสักนิด แม้เนื้อหาของการ์ตูนจะเป็นแนวต่อสู้กันของสาวน้อยจักรกลก็เถอะ แต่เนื้อหากลับสอดแทรกสิ่งหลายคนเรียกมันว่า “กุโระ” เข้าไปด้วย ส่งผลทำให้การ์ตูนเรื่องนี้กลายเป็นการ์ตูนวิปริตโหดโรคจิตโดยบัดดล
Infinite Blade
ดาร์กแฟนตาซีและกุโระ
(กรุณาอย่าจำผิดกับ IS Infinite Stratos) ตอนผมเห็นการ์ตูนเรื่องนี้ก็นึกว่าเซกิ หุ่นยนต์โมเอะ การ์ตูนแนวหุ่นยนต์โมเอะจำพวก Strike Witches ที่กำลังฮิตเงียบๆ ในหมู่โอตากุ แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ แม้เนื้อหาจะคล้ายๆ กันก็เถอะแต่ประเด็นของมันคือมันมีความรุนแรงค่อนข้างสูง และไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็กแน่นอน
Infinite Blade หรือแปลไทยเท่ๆ ก็ “ใบมีดแห่งการล้างแค้นที่ไม่สิ้นสุด” เป็นการ์ตูนแนวดาร์กแฟนตาซีและกุโระ ผลงานของเคน+( KEN+) ที่มีผลงานวาด Asuka Hybrid (2008 และมีแปลไทยในอินเทอร์เน็ตบ้างแล้ว แต่คนแปลดอง!!) โดยการ์ตูนดังกล่าวมี 3 เล่มตบคือเริ่มวางแผง 25 กรกฎาคม 2006 และวางเล่มจบในวันที่ 27 มีนาคม (จำนวนตอน 17 ตอน บวกอีกสองตอนพิเศษ ) ซึ่งตอนแรกลงในนิตยสาร Comic Valkyrie (เป็นนิตยสารการ์ตูนประเภทเน้นตัวละครผู้หญิงที่มีฉากเซอร์วิสค่อนข้างมาก) ลงสองเดือนต่อครั้ง ดังนั้นจึงเป็นจุดอ่อนของการ์ตูนเรื่องนี้คือทิ้งช่วงไปนานทำให้เนื้อหาไม่ค่อยต่อเนื่องกัน รายละเอียดตกไปเรื่อยตามทาง
Infinite Blade เป็นการ์ตูนแฟนตาซีที่กล่าวถึงดาบ, เวทมนต์ ปืนไฟ และอาวุธสำคัญคือเหล่าสาวน้อยน่ารักจักรกลที่ไม่ใช่มนุษย์ที่พลังอำนาจทำลายล้างสูง และเรื่องเป็นเรื่องราวของนักรบหญิงลูลู่ (ชื่อจริง (Lucius Lucent) นักรบหญิงที่จิตใจเย็นชาที่สวมชุดเกราะที่....... และทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในอาณาจักรที่เป็นศัตรูกับเธอเพื่อแก้แค้นอะไรบางอย่าง จนเธอมีฉายาว่า “นักรบอมตะ” แต่มีหรือว่าศัตรูจะยอมง่ายๆ เพราะพวกเขาก็มีสาวน้อยจักรกลที่เก่งไม่แพ้เธอเหมือนกัน สงครามครั้งนี้จะเป็นยังไงต่อนั้นก็ติดตามต่อไป (ปล. เนื้อเรื่องเดาภาพเอาเพราะผมอ่านภาษาอังกฤษไม่ค่อยออก)
Infinite Blade แน่นอนว่ามันไม่ใช่การ์ตูนขายความโมเอะ แม้ตัวละครในเรื่องจะมีแต่โมเอะก็เถอะ และก็ไม่ได้ขายเนื้อเรื่องด้วยเพราะเนื้อหาพูดตรงๆ หากดูผ่านๆ ผมดูไม่รู้เรื่องเลยว่ามันเกี่ยวกับอะไร ต้องการจะสอนอะไร ตัวละครหน้าเหมือนๆ กันจนจำไม่ได้ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน ดังนั้นจากการวิเคราะห์คือการ์ตูนเรื่องนี้ขายความรุนแรงโดยมีตัวละครโมเอะมารับเคราะห์ ตอนที่การ์ตูนเรื่องนี้ตีพิมพ์ใหม่ๆ ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักเหมือนกันว่ามีแต่ความรุนแรง เอาตัวละครโมเอะมาบู้ยี้บูยำจนหลายคนรับไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความรุนแรงวิปริตในลงที่ตัวละครโมเอะ ไม่ว่าจะเป็นการตัดแขนขา ข่มขื่น ทรมาน ทำลายร่างกาย ผ่าท้องจนเห็นอวัยวะภายใน ผ่าตัดโดยไม่ใช้ยาสลบ ฯลฯฯ ตัวละครมีสีหน้าเจ็บปวด ฯลฯ เรียกได้ว่าขายซาดิสต์สำหรับคนอยากเสี้ยนเห็นสาวๆ โมเอะน่ารักอยู่ในสภาพแขนขาขาด ตาย โหด วิปริต ทำให้พวกที่ชอบโมเอะบางคนอาจเกิดอาการของขึ้นเป็นแน่หากเห็นตัวละครน่ารักตาย (หรือบางคนสะใจ??)
หากไม่นับฉากรุนแรงและฉากโหดกุโระแล้ว การ์ตูนเรื่องนี้มีจุดที่ควรตำหนิมากมาย แม้ว่าเรื่องราวเนื้อเรื่องจะดูจริงจัง แต่การ์ตูนเรื่องนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก การดำเนินเนื้อเรื่องที่เร็วเกินไป และเนื้อหาไม่ต่อเนื่องต่อเนื่อง เดี๋ยวสลับโน่นเดี๋ยวสลับนี้ การแบ่งช่องที่ไม่คุ้นเคยเพราะเน้นสรีระตัวละครมากเกินไป(ตามหลักการการ์ตูนโมเอะ) แทนที่จะแบ่งช่องแบบดำเนินเนื้อเรื่อง และการใช้ตัวละครสิ้นเปลืองหรือมีตัวละครออกมากเกินไปทำให้หลายตัวมีบทไม่ค่อยโดดเด่นมากนัก เหมือนกับคนเขียนออกแบบตัวละครหลายตัวแล้วอยากเอามาใส่ในเรื่องให้หมด ทั้งๆ ที่การ์ตูนเรื่องนี้มีแค่ 3 เล่มจบ ส่งผลทำให้ความรู้สึกผูกพันไม่ค่อยมี แถมตัวละครบางตัวผมยังอุทานว่า “มันจะออกมาทำหอยลายทำไม?”
ส่วนเรื่องตัวเอกนั่นออกมาทำได้ดี ออกแบบได้โมเอะน่ารักใช้ได้ (แต่กระนั่นการออกแบบตัวเอกดังกล่าวดันไปซ้ำตัวศัตรูตัวหนึ่งที่ปรากฏตอนแรกเข้า ทำให้ผมสับสนพอสมควร) หลักการสร้างตัวละครก็ทำค่อนข้างสำเร็จรูปไปนิด ไม่ว่าจะเป็น ที่มาที่ไป มีอดีต จุดมุ่งหมาย ความซับซ้อน การเปลี่ยนแปลง การขยายเรื่องเกิดขึ้นกับตัวละครให้ยิ่งใหญ่ ไม่แตกต่างอะไรจากตัวเองในการ์ตูนอื่นๆ มากนัก ดังนั้นใครที่คิดจะดูการ์ตูนเรื่องนี้มีจุดประสงค์เดียวเท่านั้นคือเสพความโมเอะของตัวละครและฉากโหดๆ โรคจิตเท่านั้น....
ความน่าติดตามไม่ต้องพูดถึง เพราะเรื่องค่อนข้างสับสน หรือขาดอารมณ์ร่วมในการติดตาม(หากไม่มีฉากโหดมาช่วยเรียกอารมณ์เรื่องนี้อาจแย่ก็ได้) อีกทั้งช่วงหลังๆ ค่อนข้างจบแบบลวกๆ เนื่องจากการ์ตูนเรื่องนี้ถูกตัดจบหรือไม่ก็คนเขียนหมดมุกก็ไม่ทราบได้
สิ่งที่น่าสนใจในการ์ตูนเรื่องนี้คือฉากรุนแรงของเรื่องของข้างโหดเอาเรื่อง อีกทั้งยัง ไม่ใช้รุนแรงแบบธรรมดา หากแต่มีความเป็นกุโระมาช่วยเสริมเข้าไป
ทำไมมนุษย์ถึงชอบความรุนแรง ตามหลักจิตวิทยาแล้ว ความรุนแรงมีอยู่ในตัวมนุษย์เราทุกคนตั้งแต่เกิด เพราะอดีตเราต้องดิ้นรนต่อสู้เอาตัวรอด ซึ่งกลายเป็นสัญชาตญาณที่ถ่ายทอดมายังสายเลือดของเรา และเก็บซ่อนในจิตไร้สำนึกของงเรา เราสามารถปลดปล่อยความรุนแรงได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา ซึ่งหากโลกเรา ปราศจากกฎหมาย กฎจริยธรรม มนุษย์เราคงกลายเป็นสัตว์ป่ายุคหินไปนานแล้ว
อย่างไรก็ตามมนุษย์บางคนอยากปลดปล่อยความรุนแรงที่เก็บกดมานานให้ได้ โดยใช้วิธีแตกต่างกัน บางคนทำเรื่องผิดกฎหมาย ในขณะที่บางคนทำเรื่องถูกกฎหมายและสร้างสรรค์ เช่น ใช้งานอดิเรก เล่นกีฬา หรือดูสื่อบันเทิงระบายอารมณ์ เช่นเวลาดูข่าวหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งเรามักอ่านข่าวเกี่ยวกับความรุนแรงและความตายประจำ เวลาดูการ์ตูนก็ชอบดูเรื่องเกี่ยวกับเพศหรือความรุนแรง
ด้วยเหตุนี้เองทำให้การ์ตูนญี่ปุ่นมักมีเรื่องความรุนแรงเข้ามาเกี่ยวข้องสอดแทรกมากเพื่อให้ผู้ดูเกิดความสนใจนั่นเอง
มีหลายคนบอกว่าการ์ตูนญี่ปุ่นสมัยนี้ชักจะมีแต่ความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน อันนี้ก็ถูกส่วนหนึ่ง เพราะการ์ตูนหลายเรื่องมักมีความรุนแรงมาเป็นพื้นฐานการดำเนินเรื่อง เลือดสาดกระเด็น การตายของตัวละคร การต่อยตีทะเลาะวิวาท ถือว่าเป็นสิ่งที่พบเห็นการ์ตูนญี่ปุ่นเกือบทุกแนว อย่างซีซั่นการ์ตูนใหม่(เดือนตุลาคม 2011) ปีนี้ มีการ์ตูนเกินครึ่งที่มีเนื้อหารุนแรง เพียงแต่ความรุนแรงที่ออกมานั้นเป็นระดับไหน ระดับที่เด็กดูได้(ประเภทปล่อยพลัง แอ็คชั่นหอมปากหอมคอ) หรือจะเป็นระดับผู้ใหญ่ดู(สมจริง เลือดสาดกระจาย แขนขาขาด)
หลายคนมักเข้าใจความหมายของมังงะกุโระ(Manga Guro) ว่า มังงะกุโระคือการ์ตูนที่มีแนวเลือดสาดแบบรุนแรง ชนิดที่ว่าเป็นตับไตไส้พุงเครื่องในสมองอย่างสยดสยองสมจริง แต่นั้นก็คือส่วนหนึ่งเพราะยังมีองค์ปรระกอบสำคัญที่มากมายที่จะอธิบายความเป็นกุโระในมังงะ
คำว่ากุโระ(การ์ตูน)นั้นคนไทยไม่ค่อยคุ้นหูมากนัก และหลายคนค่อนข้างเข้าใจผิดค่อนข้างมาก เนื่องจากความคลุมเครือของคำและไม่มีบทบัญญัติเป็นสารานุกรมเป็นเช่นเป็นอันในบ้านเรา (เพราะถูกปกปิด) ทำให้ต้องมีคนอ้างอิงและคิดเอาเอง และมักจะจัดการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ว่าเป็นแนวกุโระ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่
เช่น เรื่อง C3(Cube x Cursed x Curious) ที่มีฉากรุนแรงหลายฉาก ที่เช่น แขนขาด เลือดสาด แทง ผ่าท้อง และตัวละครทำหน้าตาโหดโรคจิต ฯลฯ จนหลายคนเรียกการ์ตูนเรื่องนี้ว่าแนวกุโระ ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่ เพราะการ์ตูนเรื่องนี้ขาดส่วนประกอบสำคัญของกุโระหลายอย่าง
ความจริงแล้วกุโระมีหลายสาย แยกย่อยมากมาย ในรูปแบบแตกต่างกัน แต่หลักๆ คือแบบมีฉากที่เกี่ยวข้องกับเพศสัมพันธ์เข้าไปเกี่ยวข้องและฉากที่ไม่มีเพศสัมพันธ์เข้าเกี่ยวข้อง แต่ทุกสายมีวัตถุประสงค์เดียวกันคือ ต้องการให้คนอ่านเห็นความโหดแบบโรคจิตที่สมจริงจนเกิดอารมณ์ที่ได้เห็นความตาย ยิ่งแปลกและพิสดารยิ่งชอบ สะใจกับเพื่อนมนุษย์ตายอย่างเลือดสาดกระจาย โดยมีเรื่องความทรมาน วิปริต สะอิดสะเอียน เป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่ง
จิตวิทยาของของกุโระนั้นก็คล้ายกับความคิดของฆาตกรต่อเนื่องโรคจิต ที่ครั้งหนึ่งเคยมีฆาตกรต่อเนื่องบางรายให้การกับตำรวจถึงมูลเหตุที่พวกเขาฆ่าคนทั้งๆ ที่ไม่ความแค้นว่า พวกเขาฆ่าเหยื่อเพราะพวกเขาเกิดอารมณ์ความรู้สึกทางเพศเมื่อเห็นเหยื่อกำลังใกล้ตายขอร้องชีวิต ยกตัวอย่างเช่น เจน ท็อปพิน (1857--1938) ฆาตกรต่อเนื่องหญิงชาวสหรัฐอเมริกา ที่ที่สังหารเหยื่อถึง 35 ราย โดยใช้อาชีพการเป็นนางพยาบาลบังหน้าแล้วฉีดยาเสพติดเกินขนาดเข้าไปร่างกายของผู้ป่วยที่เธอดูแลรักษา เธออ้างว่าเธอมีความตื่นเต้นทางเพศจากผู้ป่วยที่มีสีหน้าทุกข์ทรมานก่อนที่จะตาย เวลาเหยื่อเกิดอาการทุกข์ทรมานจากฤทธิ์ยาเธอจะทำเป็นดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อดูสีหน้าเหยื่อเก็บไว้ในความทรงจำให้ได้มากที่สุด
ตามหลักจิตวิทยาแล้วมนุษย์เราก็มีอาการทางจิตแบบนี้เกือบทุกคน ซึ่งจะมีมากน้อยก็แล้วแต่ปัจจัยต่างๆ ที่จะช่วยเราเก็บซ่อนอาการทางจิตแบบนี้ไว้มากน้อยแค่ไหน หลายคนอดกั้นมากเกินจนอยากระบายมันออก แต่ทำไม่ได้ ดังนั้นการ์ตูนแนวกุโระจึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อให้คนอ่านได้เสพเพื่อระบายอารมณ์โรคจิต หลายคนยอมรับด้วยซ้ำว่าเมื่อเห็นตัวละครที่น่ารักแขนขาฉีกขาด สีหน้าหวาดกลัว ร้องโหยหวน เลือดไหลสาดกระจาย แทนที่จะเกิดอารมณ์สงสาร กลับมีอารมณ์ทางเพศด้วยซ้ำไป
การ์ตูนกุโระแบบของแท้ดังเดิมส่วนมากมักเป็นมังงะ โดยนักวาดที่เรารู้จักกันดีคือWaita Uziga (นามปากกา แปลได้ว่า maggot หรือ เน่าหนอน) ที่ได้เขียนการ์ตูนการตายที่น่าสยดสยองที่หลายคนได้อ่านกันบ้างแล้ว และเขายังเป็นเป็นต้นแบบการใช้ตัวละครผู้หญิงน่ารักที่ไม่ใช้มนุษย์ ในเรื่อง “Mai Chan’s daily life” ซึ่งนำเสนอตัวละครตัวหนึ่งชื่อไมจังที่เป็นสิ่งมีชีวิตไม่ใช่คนและเป็นอมตะที่ฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่ตาย ทำให้การ์ตูนทุกบททุกตอนจะมีบทที่เธอจะถูกทรมานอย่างน่าสยดสยองแขนขาขาดอย่างเลือดเย็น แต่เธอไม่มีวันไม่ตายแต่เธอจะต้องได้รับทรมานวิปริตแบบนี้ไม่มีวันจบสิ้นตลอดกาล ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ทำบาปหรือความผิดแม้แต่น้อย ซึ่งมุกดังกล่าวที่กลายเป็นต้นแบบการ์ตูนหลายเรื่องที่นำตัวละครโมเอะที่ไม่ใช่มนุษย์มาทรมานโหดๆ แบบนี้บ้าง
ฉากที่ยอดฮิตที่ของของกุโระก็คือ ตัวละครหญิงถูกทารุณกรรมอย่างโหดเหี้ยม ไม่ว่าจะเป็นการตัดแขนตัดขาทั้งเป็น ถูกผ่าตัดโดยไม่ใช้ยาสลบ เห็นไส้ไหลอย่างน่าสยดสยอง มีดหรือของมีคมแทง การใช้อุปกรณ์วิปริตทรมาน นอกเหนือฆาตกรฆ่าคนแล้ว และบางอันอาจสอดแทรกแฟนตาซีเข้าไป เช่นฉากสัตว์ประหลาดกินเหยื่อ(แน่นอนเหยื่อต้องเป็นผู้หญิง) เช่น มนุษย์หมาป่ากินเหยื่อ(คงนึกภาพออก) หรือไดโนเสาร์หรือพวกลึกครึ่งมนุษย์สัตว์เลี้ยงคลาน ที่ตัวละครหญิงได้รับจุดจบอย่างสยดสยองโดยไม่มีใครช่วยเหลือพวกเธอได้ และเหยื่อที่ถูกกระทำต้องเป็นผู้หญิง(เป็นผู้ชายนี้ไม่เคยเห็น) โดยไม่จำเป็นต้องเป็นมนุษย์เสมอไป อาจจะเป็น อมมนุษย์, หูแมว, หูหมา, หุ่นยนตร์ ฯลฯ
สิ่งที่น่าคิดก็คือกุโระคือ การ์ตูนกุโระหลายเรื่องได้พยายามนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับความรักว่า ความรักและความตายนั้นมีความเกี่ยวข้องกัน ผสมผสานกลมกลืนเข้าด้วยกันจนไม่สามารถแยกออก อย่างกรณีของ มังงะ Mai Chan’s daily life ที่ไมจังถูกทรมานอย่างโหดเหี้ยมสยดสยอง แต่ไมจังกลับไม่เคียดแค้นกับผู้ที่ลงมือทรมานตน เธอกับหลงรัก(มาโซ)กับมันเสียด้วยซ้ำ ทำให้เรื่องกลายเป็นผสานเอาความรัก ความรัก ตันหาและความตายเข้าด้วยกัน จนไม่รู้ว่าฆาตกรหรือเหยื่อใครกันแน่ที่เป็นโรคจิต
ดังนั้นสรุปได้ว่าการ์ตูนกุโระคือการ์ตูนที่มีตัวละคร(เน้นผู้หญิงเป็นหลัก)ตายอย่างน่าสยดสยอง สมจริง และวิปริต ส่งผลทำให้ผู้ดู(อ่าน)เกิดอารมณ์ทางเพศเมื่อเห็นตัวละครเหล่านั้นทรมานหรือตาย ส่วนมากกุโระมักพบเห็นในมังงะ ส่วนอนิเมชั่นกุโระนั้นที่จำได้มีจำนวนค่อนข้างน้อย ส่วนมากเป็นแนวยูริ ส่วนการ์ตูนดังๆ หลายเรื่องที่หลายคนกล่าวอเงว่ากุโระก็ตอบเต็มปากว่าไม่ใช่การ์ตูนกุโระ แต่เป็นการ์ตูนที่เนื้อหารุนแรงเท่านั้น ต่อให้มีฉากผ่าท้อง แขนขาขาด ทำหน้าโรคจิต ก็ตาม เนื่องจากฉากดังกล่าวคนดูไม่เกิดอารมณ์ทางเพศกับความตายหรือทรมานของตัวละครที่ถูกกระทำนั่นเอง
Infinite Blade เป็นการ์ตูนมังงะขายความโมเอะ ผสมกับฉากต่อสู้ และกุโระแบบอ่อนๆ ที่หลายคนพอรับได้ สาเหตุที่ผมบอกว่าว่าการ์ตูนเรื่องนี้แนวกุโระได้เต็มปากก็เพราะมันมีองค์ประกอบอยู่ครบ ไม่ว่าจะเป็นฉากเลือดสาด ฉากทรมาน ซาดิสต์ มาโซ ฉากเครื่องใน ข่มขืน หนวกปลาหมึก พิการ แขนขาขาด วิปริตต่างๆ นาๆ แต่ที่แปลกคือโดยปกติแล้วการ์ตูนโมเอะจะไม่มีแนวกุโระเท่าไหร่ (แทบไม่มีก็ว่าได้ ส่วนมากเป็นภาพเดี๋ยวมากกว่า) ดังนั้นเวลาดูไปก็แปลกตาแปลกใจดีได้ให้สาวโมเอะสู้อย่างเลือดสาดกระจายกัน ตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย
สิ่งที่สอดแทรกก็เหมือนกับการ์ตูนแนวยูริและตัวเอกไม่ใช่มนุษย์(หรรืออมมนุษย์) เหมือนเรื่องอื่นๆ คือการ์ตูนเน้นตัวละครที่เป็นมนุษย์นิสัยไม่ดี มีจิตใจเลวยิ่งกว่าสัตว์ป่า ชอบทำร้ายอมมนุษย์ผู้หญิง ด้วยไม่แยกผิดและถูกนอกจากนั้นยังรวมไปถึงผู้ชาย(บางคน)ที่รับบทผู้ร้าย กดขี่เพศหญิง กลับกันอมมนุษย์กับมีความรู้สึกความเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐมากกว่าด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะมีคุณธรรม รู้จักผิดชอบชั่วดี ผลสุดท้ายเหล่ามนุษย์ชั่วร้ายก็ได้รับความพินาศ ส่วนอมมนุษย์ผู้หญิงก็จบอย่างมีความสุข (แม้คู่สุดท้ายจะจบแบบ ? ก็ตามเถอะ)
สุดท้าย Infinite Blade เป็นการ์ตูนไม่เหมาะสำหรับเด็กเพราะมีฉากเรตค่อนข้างมาก เอาเป็นว่ามือใหม่ที่อยากรู้ว่ากุโระคืออะไร มันประกอบด้วยอะไรบ้าง แต่อีกใจก็ไม่อยากดูอะไรที่มันโหดเกินมนุษย์มนาจนรับไม่ได้ การ์ตูนเรื่องนี้คือคำตอบ
ความคิดเห็น