คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #155 : 5 ตัวร้ายในความทรงจำ (ที่แสนจะสิ้นหวัง)
(รีวิวอย่างแมวๆ ) คินดะจิกับคดีฆาตกรรมปริศนาฉบับนิยาย
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2291186
นอกเหนือจากพระเอกและนางเอกแล้ว ตัวละครที่เป็นตัวร้ายอาจจำเป็นไม่แพ้กัน เพราะบางเรื่องไม่จำเป็นต้องมีตัวร้าย แต่ก็นั้นสำหรับการ์ตูนแนวแอ็คชั่นต่อสู้แล้วตัวร้ายหรือว่าเป็นสิ่งจำเป็น แน่นอนว่าอดีตและปัจจุบันมีตัวร้ายมากมายที่ปรากฏตัวในการ์ตูน แน่นนอนว่ามีการ์ตูนหลายเรื่องที่สร้างตัวร้ายที่ไม่ได้เรื่องมากนัก ส่วนมากมาแบบซ้ำๆ ซากๆ ธรรมดา น่าเบื่อ จำพวกอยากครองโลก ไอ้แก่จอมมาร มองออกง่าย ตามตอนเดี๋ยวจอด ชอบดูถูกตัวเอก จตุเทพ ในขณะที่การ์ตูนบางเรื่องแย่กว่านั้นคือการสร้างตัวร้ายที่ไม่สมเหตุสมผล หรือไม่ควรใส่เข้ามาในเรื่อง สิ่งเหล่านี้ไม่มีความแปลกใหม่เลย อีกทั้งทำให้แฟนการ์ตูนรุ่นหลังๆ เบื่อยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ตัวร้ายทั้ง 5 ตัวที่จะพูดถึงนั้น จะว่าไปก็ไม่ใช่ตัวร้ายที่เกลียดหรือมีความรู้สึกจับยัดแต่อย่างใด เพราะปกติแล้วหากผมเห็นตัวละครไหนที่ไม่ได้เรื่อง ผมมักปิดและไม่ดูการ์ตูนเรื่องนั้นทันที(อย่างกรณีพวกจัมป์) แต่ตัวร้ายทั้ง 5 นี้ผมยังติดตามดูการ์ตูนเรื่องนั้นอยู่ ซึ่งสาเหตุที่ติดตามก็อธิบายไม่ค่อยจะได้ แม้ความรู้สึกในใจจะบอกว่า “ตัวร้ายตัวนี้ไม่น่าจะมีเลยอ่ะ” ก็ตาม
อันดับ 5 ประมุขซุงามิมาเอ็น จาก Corpse Princess
Corpse Princess เป็นการ์ตูนที่แปลกคือ เนื้อหาการ์ตูนเต็มไปด้วยดำเนินเรื่องที่แสนจะขัดใจ แต่กระนั้นผมก็สามารถติดตามได้จนถึงเล่มล่าสุดไม่ได้คิดจะเลิกอ่านเลย
Shikabane Hime เป็นเรื่องราวของสาวน้อยคนหนึ่งชื่อโฮชิมูระ มาคินะ ที่ถูกกลุ่มผีดิบกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า “กลุ่ม 7 ดาว” ฆ่าตายทั้งครอบครัว เธอเลยกลายเป็นเจ้าหญิงผีดิบ ผู้ซึ่งได้ทำสัญญาว่าจะต้องตามฆ่าปีศาจให้ได้ 108 ตน และตามล้างแค้นกลุ่ม 7 ดาว โดยมีปืนพกคู่ก็เป็นอาวุธ
ตอนแรกพระที่ทำสัญญามากินะ โฮชิโนะเป็นพระชื่อทาคามิ เคย์เซย์ ซึ่งหลายคนคิดว่าเขาคือพระเอกอีกทั้งมาคินะหลงรักเขา แต่ตอนหลังเขาก็ถูกผีดิบฆ่าตายเนื่องจากเขาปกป้องเด็กชายคนหนึ่งชื่อ คางามิ โอริ ทำให้สัญญาณผีดิบส่งต่อไปให้คางามิ โอริแทน และกลายเป็นว่าโอริเป็นพระเอกของการ์ตูนเรื่องนี้ไป(เป็นพระเอกที่แปลกประหลาดเพราะว่ากว่าที่จะปรากฏตัวก็ปาไปตอนที่ 3 ในมังงะ)
การดำเนินเรื่อง Shikabane Hime นั้นจะมีความแตกต่างกันมากทั้ง 2 เวอร์ชั่นคือภาคมังงะและอนิเมชั่น ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่ถูกใส่เข้ามา หรือแม้กระทั้งบทบาทของตัวละคร เนื่องจากในมังงะมันไม่จบทำให้คนทำอนิเมชั่นจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเนื้อหาใหม่จึงออกมาอย่างที่เห็น และหากถามผมว่าชอบเวอร์ชั่นไหน ผมก็คงตอบว่าชอบเวอร์ชั่นอนิเมชั่นเนื่องจากเนื้อหามันครบถ้วนของมันแล้ว เพราะสิ่งที่ต้องการเสนอคือการต่อสู้กับมาคินะกับกลุ่ม 7 ดาว ซึ่งเป็นวงแคบๆ เท่านั้น อีกทั้งผมชอบการดำเนินเรื่องโดยใช้มุมมองของโอนิที่ตามล่าหาประวัติมาคิเนะ แต่มังงะมุมมองตัวละครค่อนข้างสลับไปมา (บางตัวที่ไม่น่าจะย้อนอดีตก็ย้อนซะยาว) แต่กระนั้นก็มีข้อเสียก็คือเนื้อหาค่อนข้างรวบรัด อีกทั้งอดีตประวัติของพระเอกโอรินั้นน่าจะยิ่งใหญ่กว่านี้เสียหน่อย(น่าจะเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่องเลย) แต่ในอนิเมชั่นกลับทำได้ไม่ถึงใจเท่าใดนัก
ส่วนในมังงะนี้ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะเนื้อหาเริ่มเปิดกว้างมากขึ้น ตัวละครหลายตัวเพิ่มเข้ามา บางตัวผมก็ไม่รู้จะใส่มาทำไม? แต่สิ่งที่ผมไม่ชอบใจคือการเพิ่มเหล่าศัตรูที่นอกเหนือจากกลุ่ม 7 ดาว ซึ่งเป็นกลุ่มที่เรียกว่า “กลุ่มมหันตสมาพันธ์” เข้าไปทำให้เรื่องยืดขึ้นไปอีก
กลุ่มมหันตสมาพันธ์เป็นกลุ่มที่ไม่ปรากฏในอนิเมชั่น เนื่องจากอาจเป็นเพราะความยุ่งยากหรือจะทำให้เรื่องยืดไปเลยไม่ได้ใส่เข้าไป โดยกลุ่มมหันตสมาพันธ์เป็นกลุ่มของผีดิบขนาดใหญ่ที่รวบรวมผีดิบจากลัทธิต่างประเทศเข้าด้วยกันไม่ว่าจะเป็นผีดิบจากจีน, ผีดิบจากอินเดีย, ผีดิบจากยุโรป และกลุ่ม 7 ดาว ที่ผีดิบเหล่านั้นต่างเข้าร่วมเพราะสนใจประมุขของกลุ่มมหันตสมาพันธ์ที่ลือกันว่าเก่งหนักหนา นามว่าประมุขซุงามิมาเอ็น
ประมุขซุงามิมาเอ็นซึ่งเป็นตัวร้ายประเภทบิ๊กใหญ่ ที่พบเห็นได้ตามการ์ตูนแอ็คชั่นทั่วไป เป็นจำพวกจอมมารร้าย คือมีอดีตชั่วร้าย (รู้สึกว่าจะเป็นชีวประวัติจะดัดแปลงจากบุคคลในตำนานของประเทศญี่ปุ่น นามจักรพรรดิ ซูโดกุ “Emperor Sutoku” 1119 -- 1164 ที่ถูกสละราชสมบัติและถูกเนรเทศให้ใช้ชีวิตสงค์ และทำการคัดลอกพระคัมภีร์จำนวนมากเพราะกลัวถูกสาปแช่ง ก่อนที่จะกลายเป็นปีศาจ) มีพลังเวทมนต์มหาศาล ฆ่ายังไม่ก็ไม่ได้ มีความคิดจะครองโลก(อีกล่ะ) และทำลายสำนักโคกอน (องค์กรที่เจ้าหญิงผีดิบสังกัดอยู่) มีนิสัยโหดเหี้ยมชั่วร้าย แม้ว่าจะถือคติ “ข้าให้อภัย” ก็ตาม ทำให้รูปแบบเหมือนตัวร้ายแบบสำเร็จรูปที่ชอบใช้อำนาจรุนแรง ต้องการอำนาจในทุกๆ อย่างเพื่อรับชัยชนะโดยปราศจากความเมตตา ไม่ได้คิดอะไรเลยนอกจากทำลายล้าง
การสร้างตัวร้ายให้ได้ผลดีนั้นจะต้องสร้างปมขัดแย้งระหว่างตัวร้ายและพระเอกกับนางเอก ว่าทั้งหมดมีความสัมพันธ์กับอะไรในอดีตหรือเปล่า เช่นไปสร้างความแค้นฆ่าพ่อฆ่าแม่ ฆ่าเพื่อน หรือมีความสัมพันธ์เป็นพ่อเป็นญาติอะไรก็ว่าไป เพื่อให้เรื่องมีความซับซ้อนยุ่งเหยิงน่าติดตามขึ้น หากปราศจากความสัมพันธ์ความขัดแย้งนี้ จะทำให้ตัวละครขาดความลึกซึ้ง แต่เจ้าประมุขดังกล่าวไม่ได้สร้างความแค้นอะไรกับตัวเอกใดๆ เลย นอกเหนือจากความดาษๆ สู้กันไปก็ไม่ก็ได้อะไร คนอ่านก็ไม่มีความรู้สึกเกี่ยวกับตัวร้ายดังกล่าวจะเกลียดจะชอบก็ไม่มี ดังนั้นผมดูตัวละครนี้แล้วอย่างกับเป็นตัวละครอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเจ้าหญิงล่าผีดิบเลย
ทำไมสกายมาสเตอร์จากเรื่อง Sora no Otoshimono ถึงทำให้ผมเกลียดก็เพราะไปทำร้ายตัวละครที่คนอื่นรักอย่างนิพท์หรือทำให้นางฟ้าคนอื่นๆ มีความทุกข์ ทำไมเจ้าแว่นการ์เมนท์ จากเรื่อง Cloth Road คนอื่นเหม็นขี้หน้าเพราะว่าเป็นคนหลงตัวเองสุดๆ และการกระทำทำร้ายจิตใจลูกสองคนซึ่งเป็นตัวเอก นี้แหละครับตัวละครทั้งหมดล้วนมีความสัมพันธ์กับตัวเอกทั้งสิ้น ทำให้เรื่องลึกซึ้ง คนดูตามติดว่าสุดท้ายแล้วเรื่องจะเป็นอย่าไรต่อ และตัวร้ายจะพบจุดจบสาสมกับสิ่งที่ตนทำได้หรือไม่
ดังนั้นการมีตัวตนของประมุข(และตัวละครจากกลุ่มมหันตสมาพันธ์) ผมดูแล้วไม่เหมาะสมกับการ์ตูนเรื่องนี้(ทำให้ช่วงหลังๆ คนเขียนจะคิดได้เลยเน้นฆ่าตัวละครที่เป็นกลุ่มมหันตสมาพันธ์จะเกือบหมด) เพราะการมีอยู่ตัวละครดังกล่าวทำให้สแกลของเรื่องใขยายวงกว้างขึ้น ทำให้บทบาทของพระเอกไม่ค่อยโดดเด่น และไม่ใช่จุดศูนย์กลางของเรื่องโดยบริยาย อีกทั้งทำให้เนื้อหายืดยาวเพิ่มขึ้นไปอีก
อันดับ 4 กรีฟีส จาก Berserk
กรีฟีสจาก Berserk เป็นหนึ่งตัวร้ายที่สุดแสนจะสิ้นหวังในหลายๆ ความหมายสำหรับผม
ก่อนอื่นก็ขอบอกไว้ในที่นี้ว่าผมไม่ได้ดู ภาคอนิเมชั่นนะครับ ไม่รู้ว่ามันจบดีหรือไม่ดี เพราะอนิเมชั่นมีการดำเนินเรื่องไม่เหมือนมังงะโดยสิ้นเชิง ดังนั้นสิ่งที่พูดต่อไปนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับมังงะล้วน ๆ
Berserk เป็นการ์ตูนดาร์คแฟนตาซี ที่ครั้งหนึ่งที่โด่งดังมาก ที่ทำให้เหล่าสาวกการ์ตูนไทยติดกันเป็นแว เนื่องจากการดำเนินเรื่อง ฉีกแนวแฟนตาซียุคกลางไปจนเสียสิ้น เพราะแฟนตาซีนั้นส่วนใหญ่สมัยก่อนจะเน้นตลกและความสดใสไร้มลพิษ แต่ภาพของเบอร์เซิร์กนั้นเต็มไปด้วยความรุนแรง บ้าคลั่ง เซ็กส์ พร้อมปรัชญาของคำถนมว่าอะไรคือความดีและความชั่ว และธรรมชาติพื้นฐานของมนุษย์คืออะไร
เบอร์เซิร์ธเป็นผลงานของเคนทาโร่ มิอุระ วาดเมื่อ 1990 และยังไม่จบ ซึ่งสมัยก่อนผลงานนี้มียอดขายถล่มทลายมาก จนพิมพ์ออกมาหลายเล่ม โดยมีเนื้อหาที่น่าติดตาม ซึ่งเป็นเรื่องของกัซนักรบที่มีดาบมหึมา เดินทางไปกับเอลฟ์(ต๊อง)ที่ไม่รู้เป็นเพศหญิงหรือชาย ชื่อแพ็ค โดยกั๊ซจะออกเดินทางเพื่อฆ่าสาวก(หรือพวกสัตว์ประหลาด)ที่เป็นลุกน้องของ “เทวทูตทั้ง 5” ซึ่งระหว่างกั๊ชกับพวกนั้นมีความแค้นที่ต้องชำระ โดยเฉพาะเทวทูตที่ 5 นั้นกั๋ซแค้นเป็นพิเศษเพราะอดีตเคยเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดชื่อ “กรีฟีส”
ในสมัยที่กรีฟิสเคยเป็นคน เขาเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลา ผมยาวสีขาว สวมชุดเกราะสีขาว อีกทั้งยังผู้นำหน่วยทหารรับจ้างที่รู้จักกันในชื่อ “กองทัพเหยื่ยว” ที่เก่งกาจที่สุดในมิดแลนด์(แคว้นแห่งหนึ่ง) ส่วนกรีฟินที่เป็นผู้นำนั้นเป็นคนฉลาด เก่งเรื่องดาบ การวางแผลกลยุทธ์ และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อได้ชื่อเสียงโดยกรีฟิสยินดีเสียสละทุกอย่างเพื่อความฝันของเขา โดยความฝันเขาคือการสร้างอาณาจักรของตนเอง
ในตอนที่กรีฟิสรู้จักกั๊ซสมัยตอนเป็นวัยรุ่นนั้น ทั้งคู่ไม่ค่อยเป็นมิตรนักเพราะทั้งคู่นิสัยและรูปร่างลักษณะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เนื่องจากกัซไม่สนเรื่องยศศักดิ์หรือเพื่อนพ้อง หากแต่กรีฟิสใช้กำลังบังคับให้กัซเข้าร่วมกองทัพ และผลคือกัซเป็นฝ่ายแพ้ และทั้งคู่ก็สร้างความสำเร็จด้วยกันจนถึงขั้นรู้จักกันและกัน หากแต่ในขณะเดียวกันความเก่งกาจด้านฝีมือของกัซเพิ่มสูงขึ้น ส่วนกรีฟินนั้นย่ำอยู่กับที่ ในช่วงสงครามมิดแลนด์สงบนั้นฐานะของกรีฟินก็พุ่งสูงขึ้นเนื่องจากเป็นที่ชื่นชอบของพระราชามิดแลนด์ จนทำให้ความฝันหรีฟินใกล้จริง และในเวลานั้นเองกัซกลับขอออกแยกออกจากกลุ่มเพื่อไปฝึกฝนตนเองตามลำพัง แต่กรีฟิสไม่ยอมเลยใช้กำลังบังคับอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้กรีฟินแพ้กัซ เป็นเหตุทำให้กรีฟินสูญเสียความมั่นใจลง และคืนเดียวกันนั้นเองกรีฟินก็บุกเข้าห้องนอนเจ้าหญิงมิดแลนด์และนอนกลับเธอ จนทำให้พระราชามิดแลนด์โกรธมาก และสั่งให้ทหารจับกรีฟินจำคุกและทรมานอย่างหนักหนาสาหัสจนกลายเป็นคนพิกลพิการไป
หลังจากหนีมาได้ ทั้งกัซและแคสก้าต้องใช้ชีวิตอยู่ระหว่างความเป็นและความตายเพราะรอยตีตราจะเรียกปีศาจมา นั่นหมายถึงกัซจะไม่ได้หลับยามค่ำคืนอีกต่อไป กัซต้องปรับตัวในการใช้ชีวิตดังกล่าว พยายามฝึกฝนร่างกายและหาอาวุธจนสามาระเตรียมพร้อมที่จะออกตามล่าปีศาจและตามหาก็อตแฮนด้วยความแค้น แม้ว่าโอกาสชนะนั้นมีต่ำ แต่กระนั้นกัซก็มีความคิดว่าอย่างน้อยขอด้วยกรีฟีนสักหมัดก็ยังดี
ก่อนจะเล่าถึงเรื่องกรีฟีน ก็ขอเล่าความประทับใจครั้งแรกการ์ตูนเรื่องนี้เสียก่อน การ์ตูนเรื่องนี้ผมประทับใจไม่ใช่กริฟีน หรือชอบกรีฟีนเลยสักนิดครับ สิ่งที่ผมชอบคือบรรดาพวกตัวร้ายหรือพวกสาวกที่ปรากฏในเรื่องนี้มากกว่า ที่ออกแบบได้อย่างน่ากลัว โหดเหี้ยม เต็มไปด้วยความดำมืดของมนุษย์ดี เช่น เจ้าเมืองทาก(หรือหนอนก็ไม่รู้) หรือเอลฟ์ปีศาจคลั่งจะหาเพื่อน, อัศวินหมาป่าหน้าลิงหื่น ลุงคลั่งศาสนากับลูกศิษย์โรคจิต ฯลฯ ตัวร้ายทั้งหมดนี้ล้วนติดอยู่ในความจำของผมทั้งสิ้น ด้วยการออกแบบภาพลักษณ์ที่น่าสยดสยอง แถมด้วยปมความเป็นมนุษย์ ที่ถึงแม้จะชั่วร้ายเลวทราม แต่กระนั้นก็มีความดีหลงเหลืออยู่บ้าง เช่น ลุงทากยังรักลูกสาวขนาดจะตายก็ไม่ขอเอาลูกสาวมาสังเวยเทวทูต, เอลฟ์ที่โหดเหี้ยมแต่ในใจลึกๆ ยังโหยหาความรักจากครอบครัว (แต่เจ้าอัศวินหมาดำหน้าลิงหื่นนี้เลวตั้งแต่ต้นจนจบ)
สิ่งหนึ่งที่ผมชอบในการ์ตูนเรื่องนี้ก็คือฉากต่อสู้ที่ทำได้ดุเดือดเลือดพล่าน ฉากที่กัซคนธรรมดา(แต่มากประสบการณ์)สู้กับสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่เต็มไปด้วยฤทธิ์เดชคนธรรมดาเห็นแล้วมีแต่กลัวและสิ้นหวังเป็นอะไรที่มันมาก แถมสู้แบบบ้าคลั่ง(มีใช้สมองเล็กน้อย) เลือดสาด เครื่องในทะลัก และสุดท้ายกัซก็เอาชนะได้ แต่กระนั้นคนอ่านกลับไม่รู้สึกสะใจหรือสมน้ำหน้าสาวกที่ถูกฆ่า เพราะว่าก่อนตายสาวกกลับแสดงความรู้สึกความเป็นมนุษย์ย้อนความหลังดราม่าจะผมแอบร้องไห้ไปเลยก็มี
และอย่างที่หลายคนที่อ่านการ์ตูนเรื่องรู้กันว่าปัจจุบันเนื้อหาการ์ตูนออกทะเลไปมาก มากจนไม่รู้ว่าจะยืดยาวไปถึงไหน ตั้งแต่กัซเจอแม่มดน้อย (นางเอก??) แนวของเรื่องก็เปลี่ยนไป และเริ่มเบี่ยงประเด็นไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์กัซจากนักรบที่บ้าคลั่งที่ไม่สนใจผู้อื่นกลายเป็นนักรบที่หมดสภาพที่ดูคุณลุงใจดีเยือกเย็นไม่แกว่งดาบบ้าเลือดอีกแล้ว แถมไม่สนใจจะแก้แค้น “เทพทูต” มุ่งหวังจะหาที่สงบๆ นอนตายตาหลับลูกเดียว บทบาทของเอลฟ์ก็น้อยลง เพื่อนกัซมีบทบาทมากขึ้น และที่สะเทือนใจกว่านั้นหนังสือเล่มต่อๆ มาของเบอร์เซิร์กก็เริ่มออกมาวางแผงนานขึ้น นานขึ้น จาก 3 เดือน ไป 1 ปี บางเล่มทิ้งช่วง จนหลายคนลืมไปแล้วว่ายังมีการ์ตูนเรื่องนี้วางแผงในไทย
จะว่าไปกริฟฟีนก็ไม่น่าจะเรียกตัวร้าย อย่างมากก็สังเวยเพื่อนพ้องและข่มขืนเคสก้าต่อหน้ากัซ) แต่กระนั้นผมก็อยากจะเห็นฉากกัซต่อยกรีฟินให้ได้สักฉาก สาเหตุคือกรีฟีนมีความเย่อหยิ่งเห็นคนเป็นแค่หมาก ขนาดเพื่อนรักกัซยังไม่เห็นหัวเลยสักนิดทั้งทีร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา แต่ปัจจุบันผมก็สิ้นหวังไปที่เรียบร้อยที่จะเห็นฉากดังกล่าว เนื่องจากทั้งสองคงไม่มีโอกาสพบหน้ากันแล้ว เพราะแยกไปคนละทางเพราะมีอุดมการณ์ต่างกัน กัซเดินทางผจญภัยท่องทะเลมหาสมุทร ส่วนกรีฟินตั้งกองทัพเหยี่ยวขึ้นมาใหม่(เป็นกองทัพที่เวอร์สุดๆ ไม่เห็นหัวกัซเลยสักนิด)สู้กับพวกตะวันออกกลาง(เปอร์เซีย?) และสร้างอาณาจักรใหม่อีกครั้ง(เหมือนมันจักฉากยังไงชอบกล) และเข้าเมืองไปพร้องกับเจ้าหญิงมิดแลนด์(ซึ่งเนื้อหายังไม่จบ แต่นึกไม่ออกว่ากริฟินจะเจอกัซในอนาคตอีกไหม)
อันดับ 3 นาโรเซะ เจนิชิ จาก Chaos;Head
ตัวร้าย(กาก)จากการ์ตูน Chaos;Head ที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้จืดอย่างสนิทใจ ในเรื่องเป็นประธานของโนโซมิที่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่น เขามีวัตถุประสงค์จะสร้างอะไรบางอย่างที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกเพื่อตอบสนองต่อกิเลสของตนเองเท่านั้นโดยไม่สนว่าเขาต้องสังเวยชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปมากสักเพียงใดก็ตาม
เนื้อเรื่องของ Chaos;Head ถูกสมมุติว่าเกิดขึ้นในปี 2008 โดยเป็นเรื่องราวประสบการณ์หลอนในมุมมองของนักเรียนชายชั้นมัธยมปลายในโรงเรียนแห่งหนึ่งชื่อ นิชิโจ ทาคุมิ ที่มีนิสัยชอบเก็บตัว(แยกกับครอบครัว และอาศัยอยู่คนเดียวในตู้คอนเทนเนอร์) ไม่ชอบไปโรงเรียน(ไปบ้างไม่บ้างแล้วแต่อารมณ์) ไม่คบหาสมาคมกับใคร เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการหมกมุ่นอยู่แต่ดูอนิเมชั่น สะสมฟิกเกอร์ เล่นเกมออนไลน์ เล่นเน็ต และดูเหมือนว่าจะอยู่กับโลกส่วนตัวมากเกินไป จนถึงขนาดมีความสามารถจินตนาการสาวสองมิติที่เขาชอบออกมาเป็นตัวเป็นตน พูดง่ายๆ ว่าเป็นคนโหล่ยโท่ยด้วยสมบูรณ์ หากแต่เขาพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่แบบนี้จึงไม่คิดที่จะปรับปรุงตัวแต่อย่างใด
จนกระทั้งวันหนึ่งในขณะเขากำลังเล่นเน็ตในห้องสนทนาอยู่นั้น หัวข้อห้องสนทนาได้เปิดประเด็นเรื่อง “คดีนิวเจน” ที่เป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสองรายที่โด่งดังที่สุดในชิบุยะในเวลานี้ ความจริงคดีดังกล่าวเขาไม่สนใจเท่าไหร่นักเพราะมันไม่เกี่ยวกับเขา จนกระทั้งมีคนเข้าห้องสนทนาคนใหม่ที่ใช้นามแฝงว่า “โชกุน” เข้ามาร่วมสนทนา โชกุนได้ส่งไฟล์ภาพโดยอ้างว่าเป็นรูปเกิดเหตุในคดีฆาตกรรมที่ 3 เมื่อคลิกดูก็พบว่าเป็นภาพชายคนหนึ่งที่ถูกฆาตกรรมโดยโดนลิ่มรูปไม้กางเขนตอกทั่วร่าง และเมื่อสังเกตดีๆ ก็พบว่ารูปถ่ายนั้นได้ลงวันที่ถ่ายเป็นวันที่ถัดไปจากวันที่เขาอยู่ อีกทั้งคดีที่สามมันยังไม่เกิด แล้วเขาถ่ายรูปนี้ได้อย่างไร?
ด้วยความสยดสยองของรูป บวกกับการก่อกวนทางเน็ตของโชกุน ทำให้ทาคุมิสติแตก ต้องไปเล่นในร้านเน็ตในชิบุยะแทน เขาใช้เวลาในร้านเน็ตนั้นทั้งวันทั้งคืนไม่รู้วันไม่รู้เวลา จนกระทั้งเขาเลิกและกำลังกลับบ้าน ระหว่างทางเขาได้ผ่านตรอกที่เป็นสถานที่เดียวกับภาพที่โชกุนส่งมา และที่นั้นเขาก็ได้พบศพชายที่ถูกตอกด้วยลิ่มเหมือนในภาพดังกล่าวไม่มีผิด และยิ่งกว่านั้นเขาก็ได้พบเด็กสาวลึกลับคนหนึ่งผมสีชมพูร่างชุ่มไปด้วยเลือด มือถือลิ่ม ทาคุมิตกใจจนสติแตก เขารีบวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิต เมื่อถึงบ้านเขาต้องปลอบตัวเองหลายหน พร้อมกับคิดในใจว่า “มันเป็นแค่ภาพลวงตา มันเป็นแค่ภาพลวงตา”
แต่แล้วเช้าวันถัดมา ในขณะที่ทาคุมิไปโรงเรียนแห่งนั้นเขาก็ได้พบเด็กสาวที่โชกเลือดคนนั้นอีกครั้ง เธอแสดงตนเป็นนักเรียนแห่งนี้ แถมนั่งเก้าอี้ติดกับเขาอีก แถมไม่ใช้เพื่อนร่วมชั้นธรรมดา เพราะเธอบอกว่าเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยมตอนต้น แถมดูเหมือนจะสนิทกับเขามากทีเดียว มันเป็นไปได้ยังไง หากสนิทกันจริง ทำไมเขาถึงจำเธอไม่ได้ เธอกำลังเล่นตลกอะไรกับเขาอยู่
และนี้คือจุดเริ่มต้นของทาคุมิที่เขาต้องผจญกับปรากฏการณ์แปลกประหลาดมากมายจนกระทั้งเขาพบว่าตนมีพลังวิเศษสามารถเปลี่ยนจินตนาการ(ภาพลวงตา)ให้เป็นจริงได้อีกทั้งยังเข้าไปเกี่ยวข้องแผนการครองโลกของนาโรเซะ เจนิชิที่พยายามใช้พลังพิเศษเปลี่ยนจินตนาการให้เป็นเรื่องจริงมาใช้ให้เป็นประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นตัวการที่ทำให้สาวๆ ในฮาเร็มของเขาต้องน้ำตาตกหลายคน จนทำให้ทาคุมิเดือดดานและต้องหาทางหยุดแผนการดังกล่าวให้ได้(ผลสุดท้ายก็จบแอปปี้ฮาเร็ม)
Chaos;Head เป็นการ์ตูนที่ตอนต้นสนุกมากๆ เพราะการนำเสนอแบบเนวสืบสวนสอบสวน ลึกลับ พระเอกหลอนประสาทที่ไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริง หากแต่แล้วเมื่อเจ้านาโรเซะ เจนิชิปรากฏตัวออกมากลางเรื่องและพระเอกได้รู้ความลับเรื่องพลังเปลี่ยนจินตนาการเป็นความจริง เรื่องกร่อยทันทีและเป็นการ์ตูนเปลี่ยนแนวกะทันหันที่ผิดพลาดอย่างสุดซึ้งอีกเรื่องหนึ่ง(ตกม้าตายสุดๆ เลยการ์ตูนเรื่องนี้) จากเรื่องสืบสวนลึกลับอยู่ดีๆ ก็กลายเป็นแอ็คชั่นแฟนตาซีเต็มตัว ทั้งๆ ที่องค์ประกอบตอนต้นออกมาดีแล้ว ทำได้น่าติดตามและหลอนน่ากลัว แต่แล้วไม่รู้ว่าผู้ผลิตคิดอะไรก็ไม่ทราบไปเพิ่มสิ่งที่ไม่ควรมีเข้ามาไว้ว่าจะเป็นองค์กรชั่ว หรือหัวหน้า(กาก)อย่างเจ้านาโรเซะ เจนิชิ ส่วนประเด็นฆาตกรและเรื่องพระเอกโดนใส่ร้ายที่อุตส่าห์ปูเอาไว้ตอนต้นเรื่องหายไปอย่างสมบูรณ์แบบ เรื่องราวสยองขวัญและโรคจิตถูกลบไปอย่างถวาร ยิ่งช่วงเฉลยฆาตกรตัวจริงผมยังอุทานว่า “เหรอ” แบบไม่มีอารมณ์ร่วมเลย น่าเสียดายตรงประเด็นนี้
ส่วนเจ้านาโรเซะ เจนิชิผมสามารถพูดได้เต็มปากว่า เป็นตัวร้ายที่ “กาก” ที่สุดเท่าที่ดูมาไม่ว่าจะเป็นความโหลสุด ประเภทอยากครองโลก ละโมบ เห็นแก่ตัว จองหอง โอหัง ซึ่งนิสัยแบบนี้มีอยู่ในตัวหัวหน้าใหญ่ทุกประเภท สิ่งดีมีอย่างเดียวคือความรู้สึกกวนทีนของเจ้าตัวละครที่ผมดูแล้วอยากเอาเท้าลูกหน้า โดยส่วนตัวสำหรับผมแล้วถือว่าตัวละครนี้ไม่ควรมาอยู่ในการ์ตูนเรื่องนี้มากที่สุด ไม่มีซะยังจะดีกว่าเสียอีก
Chaos;Head จึงเป็นการ์ตูน(เกม) อีกเรื่องที่เป็นความผิดพลาดของ 5pb , Nitroplus ก่อนที่จะแก้ตัวกับการ์ตูนเรื่อง Steins;Gate เรียกศรัทธากลับมาได้สำเร็จในเวลาต่อมา
อันดับ 2 คุณยายขายาวจาก Higanjima
ดู(อ่าน)การ์ตูนแอ็คชั่นสู้กันให้ตายไปข้างนี้ต้องทำใจนิดหนึ่ง ตรงที่เหตุผลรองรับไม่ค่อยมี มุกพวกจตุเทพ จับคู่สู้กัน เซอร์ไวเวอร์เกมกำจัดจุดอ่อน เห็นมานักต่อนัก สัมยก่อนฟรีสเซอร์มี 3 ร่าง(กาณื๖นหลายเรื่องเลยเอาแบบอย่างบ้างเจริญพร) แต่ที่เซ็งจิตคือตัดจบไปดื้อๆ หากไม่ดังหรือมีเรตติ้ลพอ (อย่างการ์ตูนจัมป์เป็นต้น) เออ....ที่พูดนี้ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่จะพูดต่อไปนี้หรอกแค่บ่นเฉยๆ ผมก็แค่อยากเห็นตัวร้ายแบบใหม่ๆ บ้าง
Higanjima เป็นหนึ่งในการ์ตูนแอ็คชั่นเลือดสาดที่ดูแล้วขัดใจที่สุดเท่าที่ดูการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ดูเอามัน เหตุผลรองรับอย่าไปพูดถึง โอเคผมไม่บ่นเรื่องหัวหน้าใหญ่มิยาบิ เพราะไม่มีอะไรจะพูดถึง แต่ที่อยากบ่นคืออสูรกายตัวหนึ่งที่พวกอากิระสู้ นั้นคือ “คุณยายขายาว” หนึ่งในตัวละครที่ผมกลับไปนอนคิด นั่งคิด ตีลังกาคิด ก็ยังมีความคิดว่าเป็นตัวละครตัวร้ายที่คนเขียนไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลย
สั้นๆ เป็นเรื่องของพวกอากิระได้ไปเกาะ เพื่อไปหาพี่ชายแต่สิ่งที่รอพวกเขาคือกองทัพผีดดูดเลือดและสัตว์ประหลาดนับพัน ทำให้พวกอากิระต้องสู้เพื่อเอาชีวิตรอด(เหรอ?) ส่วนคุณยายขายาว เป็นอสูรกายที่ปรากฏในการ์ตูนเกาะกระหายเลือด หรือ Higanjima ในเล่ม 20 ตอนที่อากิระสู้กับอสูรชื่อ “คุณยายขายาว” รูปร่างครึ่งบนเป็นผู้หญิงแก่อีกครึ่งเป็นแมงมุมมีเขี้ยวพิษหากโดนกัดจะชา และมีพฤติกรรมล่าเหมือนแมงมุม โดยพระเอกอากิระเจอมันในขณะบุกหมู่บ้านผีดูดเลือด หากแต่โดนอสูรที่ว่าเล่นงานและลักพาตัวเพื่อนไปเข้าไปในรังของมันซึ่งเป็นโรงพยาบาล ทำให้อากิระต้องบุกไปช่วย ที่นั้นเขาได้พบชายคนหนึ่งชื่อ “ลุงทานากะ” ที่พึ่งหนีคุณยายขายาวมามาดๆ และช่วยอากิระในการช่วยเหลือเพื่อนจากคุณยายขายาวอย่างหวุดหวิด และอากิระก็ต่อสู้กับคุณยายขายาวจนสามารถเอาชนะมาได้ ในขณะที่อากิระกำลัง แต่ชจะฆ่าคุณยายขายาวนั้น ลุงทานากะก็เผยตนว่าเป็นผู้บงการอสูรกาย ซึ่งคุณยายขายาวจะทำตามลุงทนานากะทุกอย่าง พร้อมกันนั้นลุงทานากะยังเล่าเรื่องดราม่าชวนหดหู่ว่าครั้งหนึ่งคุณยายขาวยาวเคยเป็นแม่ของเขา แต่ได้รับเชื้อผีดูดเลือดมา และกลายสถาพเป็นอสูรกาย แต่กระนั้นจิตใจยังคงรักลูกอยู่เช่นเคยทำให้ลุงอานากะจำเป็นต้องหักหลังพวกมนุษย์แล้วเข้าร่วมกองทัพของมิยาบิ ดูเผินๆ เหมือนประทับใจ แต่ว่ามาดูอีกทีมันช่างไร้สาระอย่างบอกไม่ถูกเพราะถ้าลุงทานากะเป็นพวกคุณยายขายาวจริง ลุงทานากะน่าจะขัดขวางพวกอากิระไม่ให้ฆ่าพวกคุณยายขายาวได้ แต่ในการ์ตูนลุงทานกะดันไปช่วยพวกอากิระซะงั้น(แล้วตอนหลังกลับโวยวาย)
ที่คิดต่อมาคือลุงทานากะนี้ใช้ชีวิตยังไงในเมื่อเป็นฝ่ายหักหลังมนุษย์ เพราะสำหรับผีดูดเลือดแล้วลุงแก่มีฐานะเป็นหัวหน้าหมู่บ้านของผีดูดเลือด ต้องคอยออกคำสั่ง ควบคุมอสูร และขณะเดียวกันต้องเข้ากลุ่มสมาชิกต่อต้านผีดูดเลือดของฝ่ายมนุษย์อีกเพื่อไม่ให้พวกมนุษย์สงสัย โอยวุ่นวาย ลุงแก่จะหารเวลายังไงไม่ให้ฝ่ายมนุษย์สงสัยลุงแกว่าเป็นฝ่ายของผีดูดเลือด อีกทั้งทำไมลุงไม่แจ้งข่าวให้มิยาบิรู้ว่าฝ่ายมนุษย์บุกหมูบ้านฃ คิดแล้วปวดหัวครับ สิ่งเหล่านี้เห็นได้ชัดเลยคนเขียนการ์ตูนไม่เขียนสคริป วางบท วางเนื้อเรื่องอะไรเลย อารมณ์ประมาณว่าเขียนอยู่ดีๆ เกิดเปลี่ยนใจ เปลี่ยนการดำเนินเรื่องกะทันหันดีกว่าประมาณนั้น นี้ถ้าเป็นนิยายในเว็บเด็กดีมีหวังโดนคนด่าชัวร์
การวางแผนเรียงลำดับเหตุการณ์ต่างๆ นั้นสำคัญมากน่ะครับ โดยองค์ประกอบประกอบด้วย ตัวละคร ฉากเหตุการณ์ เวลาสถานที่ ใจความสำคัญ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เนื้อหาของการ์ตูนสมเหตุสมผลมีความต่อเนื่องสัมพันธ์กัน ไม่ว่าเรื่องจะยุ่งยากซับซ้อนซ่อนเงื่อนอย่างไร ก็สามารถสร้างอารมณ์ต่อผู้อ่าน และสามารถให้คนอ่านไปยังจุดหมายปลายทางของเรื่องได้โดยไม่มีสะดุด มันก็เหมือนกับคนเขียนเป็นคนขับรถ การ์ตูนก็คือรถที่นำคนอ่านหรือก็คือผู้โดยสารไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างสันติภาพปลอดภัย แต่กระนั้นถ้าจะเปรียบเทียบการดำเนินเรื่องของการ์ตูนเกาะกระหายเลือดนี้มันเหมือนนั่งรถสะดุดไปมาทุกทาง ทั้งรถไม่ดี ถนนขรุขะ อีกทั้งถึงยังต้องแวะข้างทางอีก แถมจุดหมายปลายทางนี้ก็ห่างออกไปเรื่อยๆ ไม่มีวันสิ้นสุด หรือภาษาบ้านเราก็คือ “ออกทะเล” นั้นเอง คือมันมีจุดจับผิดเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นใจความสำคัญแต่ล่ะเล่มที่แทบไม่มีอะไรมาก การกระทำของตัวละครก็ขัดแย้ง ความซับซ้อนของเรื่องฉากเหตุการณ์ที่ไม่สมเหตุสมผลเลย แถมมีการเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่นๆ เรื่อยๆ
ดันดับ 1. เจ้าตุ๊กตานรก จาก Kindaichi Case Files
ขอบอกเอาไว้ที่นี้สำหรับคนที่ชอบตัวละครดังกล่าว (เชื่อเถอะหลายคนในที่นี้ยังชอบเจ้าตุ๊กตานรก) คือที่ผมสิ้นหวังตัวละครนี้เป็นว่าอันดับ 1 เพราะความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ ครับ นอกจากนี้ก็ยังมีตัวร้ายอีกหลายตัวที่เข้าข่ายเช่น แอปเปิ้ลตั้งเวลา จาก Psychometrer Eiji , 6 จาก Majin Tantei Nougami Neuro , ชายชุดดำ จาก Meitantei Conan พูดง่ายๆ การ์ตูนนักสืบเรื่องไหนมีฆาตกรหรือองค์กรอัจฉริยะที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายต่างๆ ผมนับหมดแหละ(นิวโรนี้ไม่แน่ใจ เอาเป็นว่านับเป็นการ์ตูนนักสืบล่ะกัน)
ส่วนสาเหตุที่ผมไม่ชอบบุคคล(องค์กรเหล่านี้ในการ์ตูนนักสืบ ก็เพราะว่ามันทำให้อรรถรสความเป็นนิยายนักสืบและสืบสวนสอบสวนที่ผมชอบหายไป (ส่วนกรณีแอปเปิ้ลตั้งเวลานี้มีความเหมือน ฮันนิบาล เล็กเตอร์ เกินไปจนน่าเกลียด)
ความสนุกในการดูแนวสืบสวนนั้นคือการทำให้คนอ่านเกิดความรู้สึกพิศวงในสิ่งที่น่ากลัว เกิดความระแวงรอบด้าน เมื่อเกิดคดีฆ่ากันตายและมีเรื่องเกี่ยวข้องกับเรื่องเหนือธรรมชาติ หรือเป็นคดีที่เป็นปริศนามืดมนจนไม่สามารถจับตัวฆาตกร ทำให้อารมณ์คนอ่านพุ่งถึงสุดขีด ผสมกับจิตใจดำมืดของมนุษย์ รัก โลภ โกรธ หลง ความขัดแย้งของตัวละครในสถานที่ตัดขาดจากภายนอกเสมือนกับละครโศกนาฏกรรมอย่างหนึ่ง และจุดสำคัญที่สุดเมื่อคลี่คลายเรื่องทั้งหมดจนเผยฆาตกรตัวจริงต่อมา ฆาตกรเริ่มเผยปมว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดคดีฆาตกรรมนี้ขึ้นมา ซึ่งจะต้องไม่มีส่วนผสมอะไรที่อยู่เบื้องหลัง อาจเกิดเพราะความโลภหรือความแค้นส่วนตัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นปมดังกล่าวต้องบริสุทธิ์ไม่มีจำพวกองค์กรชั่วร้ายอัจฉริยะ หรือจอมบงการอัจฉริยะอยู่เบื้องหลัง(ยุแย่ง เป็นคนคิดทริคให้) เพราะหากมีแล้วจะทำให้ทำให้คนอ่านเกิดรู้สึกขาดเหตุผลรองรับและเป็นการสานต่อเรื่องที่น่าเบื่อ
ทำไมหลายคนถึงชอบ Q.E.D และ C.M.B. มากกว่าการ์ตูนนักสืบทั่วไปทั้งทีในเรื่องไม่มีฆาตกรอัจฉริยะที่เป็คู่ปรับพระเอกอยู่เลย สาเหตก็เนื่องมาจากมาตรฐานการ์ตูนดังกล่าวนำเสนอในแง่ด้านมืดของมนุษย์ เล่นกับความรู้สึกของมนุษย์ มากกว่าจะนำเรื่องความเป็นอัจฉริยะมาเล่น ที่นี้ลองคิดดู หากเอาเรื่ององค์กรและฆาตกรอัจฉริยะมาใส่และให้บทบาทเป็นตัวอยู่เบื้องหลังฆาตกร โดยเป็นคนวางแผนทริคอะไรให้ สิ่งที่ออกมาคือ การ์ตูนจะเป็นการดวลระหว่างนักสืบและองค์กร(ฆาตกร)อัจฉริยะไป แทนที่จะเป็นเรื่องละครโศกนาฏกรรมในห้องปิดตายมากกว่า
เจ้าตุ๊กตานรกหรือทาคาโต้อาจเป็นฆาตกรในเรื่องคินดะอิจิคนเดียวที่ไม่มีความสำนึกผิดในสิ่งที่ตนก่ออะไรไว้เลย (หากคินดะอิจิพูดเตือนสติทาเคโต้ตั้งแต่เนิ่นๆ คงไม่มาเป็นคู่ปรับจนถึงปัจจุบันหรอก) ปรากฏตัวครั้งแรกใน "The Magical Express" ซึ่งตอนแรกทาคาโต้ไม่รู้จักคินดะอิจิด้วยซ้ำ ซึ่งตอนนั้นเขาแค่อยากทำการฆ่าคนที่ฆ่าแม่ของด้วยทริคที่สมบูรณ์แบบ(แต่ผมดูแล้วไม่เห็นสมบูรณ์สักเท่าไหร่เลยเพ่) เขาด้วยการส่งคำขู่ให้แก่ตำรวจเพื่อมาเป็นพยานฆาตกรรมห้องปิดตายและอ้างฐานที่อยู่ให้กับเขา แต่พอดีทางตำรวจขอให้คินดะอิจิตามไขคดีให้และเมื่อคินดะอิจิไขคดีจนกระจ่างและกระชากหน้ากากทาคาโต้แล้ว ทาเคโต้ก็บอกคินดะอิจิว่าตอนเป็นอัจฉริยะแห่งความชั่วร้าย และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเขาและคินดะอิติเอยู่เส้นขนาน(ตรงนี้คินดะอิจิน่าจะเถียงน่ะ) และนับจากนั้นเป็นต้นมาทาคาโต้ก็เป็นคนที่พยายามเอาชนะคินดะอิจิโดยการอยู่เบื้องหลังคินดะอิจิเข้าไปเกี่ยวข้องเกือบทุกครั้ง นิสัยคาแร็คเตอร์ทาคาโต้ก็มาแบบอัจฉริยะมืด ฉลาดหลักแหลม ชอบวางแผนร้ายๆ ให้คนอื่นทำตามแผนของเขา และชอบสนุกเวลาคนอื่นติดกับดักที่ตนเป็นคนวางไว้ และมักชอบคุยโวเรื่องเก่งกาจ และมุ่งเอาชนะ แต่หลังจากที่ดูหลายตอน สิ่งที่คิดได้คือเจ้าทาคาโต้เป็นคนสองมาตรฐาน ครั้งแรกที่คินดะอิจิไขทริคของทาเคโต้ได้นี้ไม่เห็นเจ้าตัวโทษตนเองเลย แต่พอเวลาที่ฆาตกรคนไหนที่มันวางแผนทริคให้ทำพลาดจนคินดะอิจิไขคดีได้มันกลับโวยวายและฆ่าฆาตกรคนนั้นตายอย่างอนาถ ทั้งๆที่ทริคของมันแต่ละอย่างนี้จะให้สมบูรณ์แบบนั้นทำได้ยากมันต้องมีอุบัติเหตุไม่คาดฝันบ้าง(อยากกลับตนเองไม่เคยทำพลาดอย่างงั้นแหละ บู่) หรือต่อให้สมบูรณ์แบบผมก็ว่าคินดะอิจิก็ไขได้อยู่ดี ฆาตกรคือคนธรรมดานะครับ มันต้องมีผิดพลาดบ้าง
ความรู้สึกที่ผมสิ้นหวังทาเคโต้เต็มๆ คือคินดะอิจิ “คดีฆาตกรรมของสารวัตรเคนโมจิ” ซึ่งเป็นช่วงในการ์ตูนคินดะออจิภาคมังงะ 3 (คดีที่ 27-จนถึงปัจจุบัน) ซึ่งเป็นตอนที่เกือบสนุกอยู่แล้วเพราะเอาเรื่องจริงของ คดีฆาตกรรมจุนโกะ ฟูรุตะมาดัดแปลงแม้จะลดความโหดของคดีลงแต่กระนั้นเนื้อหาก็รู้สึกทำให้อินกับเนื้อเรื่องขึ้นจมเลย ที่ตัวละครแต่ละตัวมีน้ำหนัก มีดราม่า เรียกรน้ำตา โศกนาฏกรรมดีมาก ซึ่งเกือบจะดีอยู่แล้วแต่ดันมาตายตอนจบที่เจ้าทาคาโต้ดันมีเกี่ยวด้วย ทำให้เรื่องจืดโดยบริยาย
ความคิดเห็น