คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #150 : Steins; Gate ข้ามเวลาเพื่อเธอ
เชื่อว่าหลายคนที่ดูการ์ตูนเรื่องนี้ตอนแรกหลายคนอาจไม่ชอบล้มเลิกที่จะดูไปเลยก็มี ซึ่งก็นั้นจริงๆ เพราะตอนแรกเนื้อหาการ์ตูนจะ งง และช่วงกลางเรื่องเนื้อหาเหมือนจะง่ายสบายๆ ไร้แก่นสาร แต่กระนั้นเมื่อ ถึงตอนที่ 12 ขึ้นไป เนื้อหาการ์ตูนก็เริ่มน่าติดตามขึ้น จนลุ้นตั้งแต่จนจบ และนี้คือการ์ตูนที่ดำเนินเรื่องที่แปลกและน่าติดตาม ไม่ยึดแนวตลาดจ๋า ที่น่าสนใจเรื่องหนึ่ง
Steins; Gate
ตื่นเต้น, ไซไฟ
Steins; Gate เป็นอนิเมชั่นที่สร้างจากนิยายภาพที่พัฒนาโดย 5pb และ Nitroplus และถูกวางจำหน่ายเมื่อ 15 ตุลาคม 2009 โดยเครื่อง Xbox 360 ซึ่งเป็นครั้งที่สองที่วของบริษัทร่วมมือกันทำเกม Chaos;Head
เรื่องราว Steins;Gate เป็นเนื้อหาที่เหมือนจะเป็นเรื่องกู้โลก แต่ความจริงแล้วเนื้อหากลับอยู่ในวงแคบๆ คือสถานที่เกิดเหตุคือย่านการค้าอากิฮาบาร่าเท่านั้น และเป็นเรื่องราวของกลุ่มคนที่เรียกว่า “ห้องทดลองแห่งอนาคต” ที่ได้สร้างอุปกรณ์ที่เรียกว่าเตาไมโครเวฟโทรศัพท์ที่เป็นอุปกรณ์สามารถส่งข้อความไปยังอดีตได้ จนองค์กรที่เรียกว่า SERN ที่กำลังวิจัยเรื่องการข้ามเวลาเกิดความสนใจเข้าเลยพยายามขัดขวางและจับกุมสมาชิกกลุ่มดังกล่าว จนเป็นเหตุทำให้เกิดเรื่องราววุ่นวายตามมา โดยเกมดังกล่าวถูกสร้างเป็นการ์ตูนมังงะ และอนิเมชั่นไล่เลี่ยกัน โดยอนิเมชั่น Takuya Sato กำกับโดย Takuya Sato(ผลงาน Seitokai no Ichizon 2009) ออกฉาย 6 เมษายน 14 กันยายน 2011 มีทั้งหมด 24 ตอน
สำหรับตัวละคร Steins;Gate นั้นมีไม่กี่ตัว หากจะคัดตัวหลักจะมีเพียง 9 คนเท่านั้น(อีกทั้งอนิเมชั่นยังตัดเนื้อเรื่องตัวละครอีกตัวไปอีก ซึ่งแต่ละตัวต่างมีสเน่ห์และความประทับใจแตกต่างกัน (และเชื่อหรือไม่ว่าตัวละครที่ผมชอบมากที่สุดในเรื่องนี้คือเฟริค)
รินทาโร่ โอคาเบะ (Rintaro Okabe) ตัวเอกของเรื่อง และในเกมเราต้องสวมบทบาทเป็นเขา โดยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยโตเกียวเด็งกิ(เป็นมหาลัยเอกชน) อายุ 18 ปี ที่ประกาศตนเองว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง ที่มักเรียกตนเองว่า “โฮวโอวอิน เคียวมะ” โดยเขากับเพื่อนๆ (ที่ตอนแรกมีเพียงสองคนคือดารุและมายูริ)ได้ก่อตั้งกลุ่ม(ชมรม)ที่เรียกว่า “ห้องปฏิบัติแกดเจ็ตแห่งในอนาคต” (Future Gadget Laboratory) ภายนอกเหมือนคนบ้าๆ บอๆ ไม่แตกต่างจากพระเอก Chaos;Head คือ เหมือนมีอาการประสาทหลอน หวาดละแวงตลอดเวลาโดยบอกว่าโดนองค์กรหมายหัวอยู่ อีกทั้งยังชอบพูดโทรศัพท์มือถือ(ทั้งที่ปลายสายไม่มีใคร) และชอบตะโกนโหวกเหวกไม่เกรงใจใครและชอบหัวเราะบ้าคลั่ง เวลาไปไหนเขาก็สวมเสื้อห้องแล็บจนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทั้งหมดที่ทำแบบนี้เนื่องมาจากเหตุผลในอดีต ความจริงแล้วเนื้อแท้ของเขานั้นเป็นคนจริงใจ มีความรับผิดชอบ เป็นห่วงคนรอบข้างเสมอ ทำให้คนรอบข้างหลายคนรักเขา นอกจากนี้เขายังมีพลังที่สามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงเมื่อเขาข้ามอดีต
(Makise Kurisu) ตัวเอกหญิงตัวหลักของเรื่อง เธอเป็นสาวน้อยอัจฉริยะอายุ 18 ปี จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา เชี่ยวชาญเรื่องประสาทวิทยาและสามารถพูดอ่านภาษาอังกฤษได้ดี เคยมีงานวิจัยของเธอตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการมาแล้ว แม้ว่าเธอจะมีความสามารถมาก แต่กระนั้นเธอก็มีปัญหาเรื่องครอบครัวโดยเฉพาะความสัมพันธ์กับพ่อที่ไม่ได้คุยกันมาหลายปีแล้ว และเมื่อพบกับโอคาเบะ ครั้งแรกก็โดนหยอกแกล้งหลายครั้งจนเสียเส้นเด็กอัจฉริยะไปเลยก็มี แถมโอคาเบะยังชอบตั้งชื่อเล่นเธอแปลกๆ มากมาย เช่น “ยัยซอมบี้”, “ผู้ช่วย”, “คริสตินา” ฯลฯ จนธอทะเลาะกับเขาบ่อยๆ นอกจากนั้นเธอยังเป็นชาวบอร์ด @ch แบบแอบๆ จนมีหลายครั้งหลุดปากศัพท์ชาวบอร์ดหลายครั้ง จนกลายเป็นคาแร็คเตอร์ซึนเดเระโดยบริยาย
(Mayuri Shiina) เพื่อนสมัยเด็กของโอคาเบะ อายุ 16 ปี และเป็นหนึ่งคนที่โอคาเบะรักยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด(ไม่ใช่แฟน แต่เป็นคนสำคัญ) เห็นได้จากพฤติกรรมบ้าๆ บอๆ ของโอคาเบะก็มาจากอิทธิพลของเธอบางส่วน นอกจากนี้เธอยังคนร่าเริงเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ชอบพูดประโยค “ตุ๊ดตู่รู” (tutturu) แทนคำกล่าวทักทายต่อหน้าคนอื่น เป็นคนชอบปักชุดคอสเพลย์ และมีงานพิเศษเป็นเมดคาเฟ่แม่บ้าน และเป็นสมาชิกชมรม “ห้องแล็บแห่งในอนาคต” ยุคบุกเบิกอีกด้วย และเธอเป็นเหตุที่ทำให้โอคาเบะต้องข้ามเวลาหลายครั้งเพื่อช่วยเธอ
(Itaru "Daru" Hashida) เพื่อนสนิทของโอคาเบะ อายุ 19 ปี รู้จักกับโอคาเบะตั้งแต่มัธยม(และเรียนอยู่มหาลัยที่เดียว ห้องเดียวกันอีก) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแฮ็คเกอร์ การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ทั้งเก่าและใหม่(ทำให้ชีวิตส่วนใหญ่มักอยู่แต่หน้าจอคอม) นอกจากนี้ยังรอบรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมโอตากุ(และเป็นโอตากุด้วย) ซึ่งโอคาเบะมักตั้งฉายาว่าซุปเปอร์ แอ็คเกอร์ (Super Hacker) รูปร่างเหมือนหน้าตาไม่น่าคบ แต่กระนั้นก็มีจิตใจดีงาม ชอบปล่อยมุกตลก แต่ว่ามุกแต่ละมุกจะส่อเรื่องเพศส่วนมากก็เถอะ
(Moeka Kiryu) สาวแว่น เงียบ ตัวสูง สุดน่ารัก(ส่วนตัวผมชอบอ่ะ) อายุ 20 ปี ที่โอคาเบะพบเธอโดยบังเอิญในขณะที่เธอตามหาคอมพิวเตอร์ IBN 5100 มีนิสัยไม่ชอบพูดจา(ถ้าจะพูดนี้เสียงเบามาก)เนื่องจากเป็นคนขี้อาย อีกทั้งยังชอบกดโทรศัพท์ไปมา เวลาสื่อสารกับใครก็ส่งข้อความไปหา(ทั้งที่คนที่พูดอยู่ตรงหน้าก็ตาม) และจะโกรธมากหามีใครก็ตามพยายามเอามืดถือออกจากมือของเธอ ต่อมาก็ได้เป็นสมาชิกแล็บหมายเลข 5 และโอคาบะตั้งชื่อเธอว่า ไซนิ่ง ฟิงเกอร์ “Shining Finger”
(ปล. ความจริงในเกม บทบาทของเธอค่อนข้างเยอะและบีบอารมณ์พอสมควร แต่ไม่รู้ทำไมในอนิเมชั่น บทของเธอน้อยไม่ถึงอารมณ์ตามความรู้สึกของผม)
(Ruka Urushibara) เป็นเพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมชั้นของมายูริ หน้าตาเหมือนผู้หญิงน่ารักแต่ความจริงแล้วเป็นผู้ชาย โอคาเบะมักเจอเธอในชุดมิโกะศาลเจ้าประจำ (ด้วยประโยคเปิดตัวที่แสนจะฮ่าที่ว่า “เธอเป็นผู้ชาย” ซ้ำไปซ้ำมา) มีนิสัยขี้อายและแอบชอบโอคาเบะจนมีความคิดอยากกลายเป็นผู้หญิง(พูดตรงๆ ช่วงที่เป็นผู้หญิงเล่นเอาผมตะลึง!!) ต่อมาก็ได้เป็นสมาชิกแล็บหมายเลข 6 เป็นสาวดุ้นที่น่ารักที่สุดในสามโลกและกลายเป็นหนึ่งในสาวดุ้นที่ได้รับความนิยมในอนิเมชั่นเป็นที่เรียบร้อย ปัจจุบันโดจินโป๊เองก็เริ่มมีผลงานเธอที่เป็นตัวเอกมาให้พวกคลั่งดุ้นได้เสพบ้างแล้ว
(Feyris Nyannyan) หนึ่งในตัวละครที่ผมชอบที่สุดในเรื่อง (สาเหตุที่ชอบเนื่องจากทรงผมทวินเทล และตอนนั้นผมได้ดูอนิเมชั่นเรื่องหนึ่ง เรื่อง Baby Princess 2D Paradise อิ่มกับสาวทวินเทล เต็มๆ และด้วยความโรคจิตผมบทของเฟริคดู 10 รอบ!!) เป็นพนักงานเสิร์ฟเมดคาเฟ่ อายุ 17 ที่โอคาเบะกับดารุไปบ่อยๆ (คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้านด้วย) และเป็นเพื่อนร่วมงานของมายูมิที่ได้รับความนิยมมาก โอคาบะมักเจอเธอในชุดเมดและหูแมวและพูดลงท้ายว่า “เนี๊ยว” ทุกครั้ง ชื่อจริงของคือ Rumiho Akiha ซึ่งครอบครัวรวยมากและเป็นเจ้าของอากิบาระทั้งหมด และเธอก็เป็นผู้นำวัฒนธรรมโมเอะมาเผยแพร่(น่าจะเป็นบุคคลสำคัญของประเทศญี่ปุ่นเลยน่ะนั้น) เป็นสมาชิกแล็บหมายเลข 7
(Suzuha Amane) สาวหุ่นนักกีฬาลึกลับ อายุ 18 ปี พนักงานพิเศษร้านร้านซ่อมโทรทัศน์ที่ตั้งอยู่ชั้นล่างของแล็บโอคาเบะ เธอชอบขี่จักรยาน มีความประสงค์ที่จะตามหาพ่อ และเป็นสมาชิกแลปหมายเลข 8 ตัวจริงของเธอก็คือสาวน้อยข้ามกาลเวลา ที่ตามหาเครื่อง IBN 5100 เพื่อมอบแก่โอคาเบะเพื่อไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 และตัวเธอนั้นแม้ว่าเป็นตัวละครรอง แต่กระนั้นก็มีตัวละครที่มีความสำคัญที่สุดในเรื่อง จนหลายคนอวยและกลายเป็นตัวละครหลักในการ์ตูนเรื่อง Steins;Gate: Bokan no Rebellion (ซึ่งเป็นการตอบคำถามที่ว่าเกิดอะไรกับเส้นแบ่งโลกที่ทำให้เธอต้องย้อนเวลามา)
(Yugo Tennoji) เจ้าของร้านซ่อมโทรทัศน์และอพาร์เม้นเช่าแล็บของโอคาเบะอยู่ อาศัยกับลูกสาวตัวน้อยกันสองคน เป็นคนหัวล้านตัวใหญ่กล้ามบึกแลดูน่ากลัว แต่กระนั้นก็มีการปล่อยมุกตลกเป็นบางครั้ง โอคาเบะเรียกเขาว่า มิสเตอร์บลัน (มาจากนักวิชาการชื่อ Fyodor Braun) ส่วนตัวจริงของเขาก็คือ........
ตอนที่ผมดู Steins;Gate สิ่งที่ผมกังวลครั้งแรกก็คือมันจะออกมาแบบ Chaos;Head หรือเปล่า? ประมาณว่าดำเนินเรื่องอยู่ดีๆ มากลายเป็นแอ็คชั่นปล่อยพลังใส่กันไปข้าง ดูแล้วเหนื่อยใจ หนักใจ ประมาณนั้น แต่หลังจากที่ดูตั้งแต่ต้นจนจบ ผมก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะการ์ตูนดำเนินเรื่องถูกใจผมโดยไม่มีการเปลี่ยนแนวกะทันหันแต่อย่างใด
ตอนที่การ์ตูน Steins;Gate ฉายออกมาครั้งแรก หลายคนออกมาด่ากันยกใหญ่ เพราะเนื้อหาไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ อะไรก็ไม่รู้ ต้องการสื่ออะไรกันแน่ พระเอกไปฟังสนทนา แล้วไปเจอนางเอกถูกฆ่าตาย กดโทรศัพท์แล้วจู่ๆมิติบิดเบี้ยว กลายเป็นเหตุการณ์ไม่เกิดขึ้น จากนั้นก็แนะนำตัวละครบางส่วนแล้วก็ทดลองไมโครเวฟและกล้วยเจลเขียว ก่อนที่จะจบตอนคือนางเอกที่พระเอกคิดว่าตายมีชีวิตอยู่ มันอะไรกันเนี้ย งง เต็กเลยพับผ่า
หลังจากนั้นโทนเรื่องการ์ตูนตั้งแต่ 10-11 ก็ดำเนินเรื่องเรื่อยๆ เฉื่อยๆ ไปวันๆ ประมาณว่าแนะนำตัวละครทั้งหมดในเรื่องก่อน โอคาเบะไปเจอตัวละครต่างๆ เล่นมุกกันหยอกกัน และทำการสร้างไทม์แมชชีน และศัพท์ต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นวิชาการหรือโอตากุถูกนำมาใส่แบบไม่ยั้ง ดูแล้วไม่เห็นมีสาระเท่าไหร่ หรือไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของเรื่องมันอยู่ตรงไหน จนหลายคนรู้สึกว่า 24 ตอนนี้มันเยอะเกินไปไหม? กับการ์ตูนที่ดำเนินเรื่องเฉื่อยๆ รวย งง แบบนี้
ก็อย่างที่ผมบอกตอนแรกแหละครับ ช่วงแรกของการ์ตูนมีแต่คนติกัน ญี่ปุ่นเอาการ์ตูนเรื่องนี้ติดอนิเมชั่นผิดหวังซีซั่นนี้ด้วยซ้ำ(รู้สึกจะเป็นอันดับ 4 นี้แหละ) ส่วนในไทยนั้นก็ออกมาตั้งกระทู้วิจารณ์สนุกสนาน ติไปติมา บางคนก็เลืกดูด้วยซ้ำไป
จนกระทั้งตอนที่ 12-24 ขึ้นไปแหละครับ หลายคนก็เริ่มที่จะเข้าใจจุดมุ่งหมายการ์ตูนเรื่องนี้ เพราะว่าสิ่งที่โปรยตั้งแต่ 1-11 ขึ้นมาก็คือสิ่งที่จะถูกนำมาต่อยอดอธิบายเรื่องราวทั้งหมด
สิ่งที่ผมกังวลต่อมากับ Steins;Gate ก็คือมันเป็นอนิเมชั่นที่ค่าย Nitroplus มีเอี่ยวด้วย ซึ่งผลงานที่แล้วมามีแต่เจ๊งและไม่รุ่ง ถ้าจะให้ไล่ที่ดังๆ นี้ก็มี Demonbane, Phantom, Chaos;HEAD ทั้งสามเรื่องไม่ได้บรรยายก็รู้ว่ามันสนุกหรือไม่สนุก แม้ผมไม่ได้ดูทั้งสองเรื่องแรกก็จริงแต่กระนั้นก็พอเดาได้ว่าไม่ประสบผลสำเร็จ สาเหตุหลักๆ ก็คือการสร้างตัวเอกให้เก่งเกินไป บ้าพลังมากเกินไป จนผู้ดูผู้อ่านไม่สามารถเข้าถึงตัวละครดังกล่าวได้
Steins;Gate ถือว่าเป็นอนิเมชั่นที่ผู้ทำคิดใหม่ทำใหม่อีกครั้ง จากที่แล้วมามีแต่สร้างพระเอกเก่งมีพลังเวอร์มากมาย คราวนี้ลองสร้างพระเอกคนธรรมดาบ้าง ส่วนเรื่องเขียนบทหรือการกำกับผมไม่ได้สนมากนัก เพราะสิ่งที่ผมสนใจการ์ตูนเรื่องนี้คือ “ทำอย่างไรให้เข้าถึงคนดู” และดูเหมือนว่าการ์ตูนเรื่องนี้สอบผ่านเสียด้วย
จริงอยู่ Steins;Gate อาจไม่ใช่การ์ตูนที่สมบูรณ์ของหลายๆ คน(ปัจจุบันผมถอดการ์ตูนเรื่องนี้จาก 10 อนิเมชั่นที่ผมชอบแล้ว) ในแง่ของฮาเร็ม(ตามความคิดเห็นผม) คือว่าเรื่องนี้ดีแบบครึ่งทาง(สาเหตุคือบทตัวละครบางตัวทำได้ไม่ทำให้ผมรู้สึกอินหรืออิ่มใจมากนัก ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปคนเดียวหรือเปล่า บวกกับฉากจบที่ทำให้คนอื่นเกิดความคิดว่าสาวผมแดงสมหวังในรัก ซึ่งมันผิดหลักการฮาเร็มโดยสิ้นเชิง)
สิ่งที่ Steins;Gate ไม่มีความสมบูรณ์ตามความรู้สึกของผมต่อมาก็คือการมีศัพท์แสลงและศัพท์วิชาการในเรื่องค่อนข้างมาก ที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจพอสมควร ส่วนอุปสรรค์ต่อมาที่ผมลำบากก็คือลำดับเวลาการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างวกวนสับสนตอนโอคาเบะย้อนเวลาไปมา(ขนาดเจ้าโอคาเบะยังสับสนเลย) และสุดท้ายคือภาพในเรื่องซึ่งผมไม่รู้เป็นที่เครื่องหรือความรายละเอียดของภาพหรือเปล่าคือภาพค่อนข้างมืดมาก เวลาตัวละครอยู่ในฉากมืดๆ ผมแทบไม่เห็นหน้าตาตัวละครเลย หน้าจอดำมืดหมดหากดูอยู่ห่างๆ หน้าจอ ซึ่งถ้ามีฉากดังกล่าวผมต้องเพ่งใกล้ดูถึงจะเห็นชัด แต่กระนั้นปัญหาทั้งหมดก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับคนที่อยากจะดูการ์ตูนเรื่องนี้แต่อย่างใด
แต่กระนั้นถ้าพูดถึงการลำดับเรื่องราวและการดำเนินเรื่องแล้วการ์ตูนเรื่องนี้สอบผ่านและทำได้ดีเสียด้วยเพราะมันทำให้ผมสามารถติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ(และถึงกับเก็บไปฝันด้วย) มีความรู้สึกตั้งหน้าตั้งตารอว่าตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร(แม้ว่าจะเมื่อดูแล้วจะผิดหวังบางบทตัวละครไปบ้างก็ตาม) นอกจากบทแล้วสิ่งสำคัญที่ทำให้ผมติดตามก็คือตัวละครในเรื่องที่ตัวละครหลักในเรื่องมีไม่กี่ตัวแต่กระนั้นก็สามารถสร้างเป็นเรื่องเป็นราวทำได้อย่างน่าชื่นชม การออกแบบตัวละครทำได้น่ารักไม่เหมือนใคร นิสัยชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นคาเบะบ้าๆ บอๆ รูคาโกะดุ้นน่ารักได้ใจ ซึสึฮะ(เรียกป๋าสิลูก) รวมไปถึงตัวละครที่ผมชอบเรื่องนี้เฟริสแม้ว่าบทของเธอจะน้อยกว่าตัวละครอื่นๆ แต่สำหรับผมที่รักฮาเร็มถือว่าเฟริคเป็นสาวทวินเทลที่น่ารักไม่แพ้ตัวละครทวินเทลที่ผมรู้จักมา เพราะน่ารัก สดใส เล่นมุก บทตลกก็ทำได้ บทดราม่าก็ดี เรียกว่าไม่มีอะไรติเลย
ส่วนสิ่งที่ทำให้การ์ตูนน่าติดตาม ก็เช่นการหยอกล้อของพระเอกกับตัวละครทั้งหลายในเรื่อง ที่สื่อออกมาน่ารักดีเหมือนคอมมาดี้ดีๆ เรื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นฉากโอคาเบะกับคุริสึช่วยกันยกเครื่องคอม IBN 5100 กลับมาที่ห้องแล็บ การสื่ออารมณ์ของตัวละครที่โอคาเบะต้องการเปลี่ยนอนาคต จดหมายซึสึฮะ การเผชิญหน้ากับโมเอเกะ (ฉากสวีทหวานจูบคุรึสึผมข้ามไม่ได้ดู) ทุกฉากล้วนทำให้ผมอยากกลับมาดูซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบไม่เบื่อหน่าย (โดยเฉพาะตอนเฟริค)
ถ้าจะถามว่าการ์ตูน Steins;Gate เป็นการ์ตูนเกี่ยวกับเนื้อหาอะไร อันนี้ตอบยาก แต่ผมก็อยากสรุปก็คือเป็นการ์ตูนไซไฟที่เนื้อหาเหมือนจะยิ่งใหญ่กอบกู้โลก แต่กระนั้นจุดประสงค์ของเรื่องไม่ใช่กอบกู้โลกอะไรเลย หากแต่เป็นเพียงการสร้างความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัว การช่วยบุคคลที่เป็นที่รัก และการเอาใจใส่คนรอบข้างเท่านั้นเอง
ปล. เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2011 ผมได้ฝันว่าผมเป็นแฟนกับคุริสุ ในฝันได้อวดเพื่อน เพื่อนอิจฉากันยกใหญ่
ในตอนที่ 1 ของเรื่อง หลายคนบ่นว่าดูไม่เรื่อง แต่สำหรับผมแล้วไม่เป็นอย่างงั้นเลย กลับกันมันกลับเป็นการเพิ่มความสงสัยว่า “เกิดอะไรขึ้นในวันนั้น?” ทำให้ผมต้องติดตามตั้งแต่ต้นจนถึงบทสรุปในตอนสุดท้าย
(ตอนที่ 1,2,3) เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 28 กรกฎาคม 2010 โอคาเบะกับมายูมิได้เข้าร่วมงานสัมมนาเรื่องไทม์แมชชีน ที่นั้นเขาได้รู้จักสาวน้อยอัจฉริยะคุริสุ เธอพูดว่าเธอเห็นเขาและพูดอะไรแปลกๆ กับเธอก่อนที่จะเริ่มสัมมนา ทั้งๆ ที่โอคาเบะพึ่งพบเธอครั้งแรก ต่อมาเขาก็พบคุริสึถูกฆ่าตายในห้อง และเมื่อเขาส่งข้อความไปยังเพื่อนของเขา(ดารุ) เขาก็พบว่าตนเองรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง บรรยากาศรอบข้างเปลี่ยนไป ก่อนที่จะรู้สึกตัวอีกทีว่าอยู่บนถนนอากิบะ และพบว่าตึกสัมมนาไปดาวเทียมได้ตกลงมา
วันต่อมาโอคาเบะและดารุได้ไปเข้าร่วมการบรรยายที่มหาลัย และเขาได้พบคุริสุยังมีชีวิตอยู่แบบไร้บาดแผล และเมื่อโอคาเบะถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอตอบว่าไม่รู้เรื่อง(ผมชอบฉากโอคาเบะจับผมคุริสุมากน่ารักดี) ส่วนงานสัมมนาดังกล่าวก็ถูกยกเลิก(เพราะดาวเทียมตกใส่) และเมื่อทั้งสองพบกันครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตากรรมอย่างแรกเพราะโอคาเบะเชื่อว่าไทม์แมชชีน(หรือการเดินข้ามกาลเวลา)สามารถเกิดขึ้นได้ ส่วนคุริสึตอบว่ามันเป็นไปไม่ได้
หลังจากนั้นโอคาเบะก็เดินทางไปห้องแล็บของเขา ระหว่างนั้นก็พูดคุยกับเพื่อนๆ ในอากิบะ ไม่ว่าจะเป็น รูคาโกะสาวดุ้นในศาลเจ้าอากิบะ, เฟริสสาวทวินเทลหูแมวแห่งเมดคาเฟ่, ซึสึฮะสาวลึกลับที่ยิ้มแย้มแจ่มใส และโมเอโกะที่ตามหาคอมพิวเตอร์ IBN 5100 อย่างเอาเป็นเอาตาย
โอคาเบะกลับมาถึงห้องแล็บเวลาเที่ยงวัน และเขาเริ่มทำการทดลองสิ่งประดิษฐ์ “โทรศัพท์ไมโครเวฟ” ของเขากับดารุ แต่สิ่งที่ได้เขากลับพบว่ามันได้กลายเป็นเครื่องไทม์แมนชีนอย่างไม่ได้ตั้งใจ หากแต่เครื่องดังกล่าวยังไม่สมบูรณ์เพราะใส่อะไรไปมันก็ออกมาเป็นเจลสีเขียวหมด แม้มันจะสามารถย้อนเวลาได้ก็ตาม
(ตอนที่ 2,4,5)ในเวลาที่โอคาเบะและดารุอึ้งอยู่นั้นเอง คุริสุได้มาที่ห้องแล็บทันที และเกิดความสนใจผลการทดลองของโอคาเบะ และโอคาเบะก็ได้ชวนเธอเป็นสมาชิกแล็บ และหลังจากทดลองอีกครั้งก็พบว่ามือถือไมโครเวฟดังกล่าวสามารถส่งข้อความ(เมล์)ไปยังอดีตได้ ซึ่งคุริสุตกใจเป็นอย่างมากเพราะที่ผ่านมาเธอปฏิเสธเรื่องของไทม์แมนชีนมาโดยตลอด จึงขอลากลับโรงแรม ทางด้านโอคาเบะพยายามศึกษาเพิ่มเติมและเขาก็พบบุคคลหนึ่งในเว็บกระดาน @Channel ที่ใช้นามแฝงว่า “จอห์น ไตเตอร์” เขาอ้างว่าตอนนี้องค์กร SERN พยายามทดลองเรื่องการข้ามการเวลา และอนาคตก็ทำสำเร็จส่งผลทำให้องค์กรดังกล่าวปกครองโลกอย่างโหดร้าย โดยเขาเองก็เป็นทหารจากอนาคตที่พยายามต่อต้านองค์กรดังกล่าว โดยการย้อนเวลาด้วยเครื่องย้อนกาลเวลา เพื่อตามหาเครื่องคอมพิวเตอร์ IBM 5100 เพื่อถอดรหัสโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของปี 2036 เพื่อยับยั้งหายนะที่เกิดขึ้นอนาคต เมื่อโอคาเบะได้อ่านเรื่องของจอห์น ไตเตอร์จึงเกิดความสนใจจึงขอให้ดารุทำการแฮ็คเกอร์สู่เชิร์ฟเวอร์ขององค์กร SERN และเมื่อแฮ็คได้ก็พบว่าเรื่องของจอห์น ไตเตอร์เป็นเรื่องจริงและในขณะที่องค์กรดังกล่าวกำลังสร้างหลุมดำเพื่อใช้ข้ามเวลาอยู่
(ปล. เรื่องของจอห์น ไตเตอร์เป็นเรื่องที่มีอยู่จริง เป็นนามแฝงที่ใช้ในกระดานข่าวในช่วงปี 2000 และ2001 แต่อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นเรื่องโกหกเสียมากกว่า)
อย่างไรก็ตามยังมีข้อมูลบางส่วนในระบบขององค์กร SERN บางส่วนที่ดารุทำการแปลไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องหาเครื่อง IBM 5100 ในการถอดรหัสดังกล่าว หากแต่สิ่งที่โอคาเบะพอจะรู้ก็คือมันอยู่ที่อกิฮาบาระแต่ไม่รู้มันอยู่ตรงไหน
โอคาเบะใช้เวลาทั้งวันในการตามหาเบาะแสเครื่อง IBM 5100 ในระหว่างนั้นเองเขาก็พบเบาะแสว่ามันอยู่ศาลเจ้า และเมื่อโอคาเบะไปก็พบเครื่องดังกล่าว ซึ่งเจ้าของศาลเจ้ายินดีให้เครื่องดังกล่าวให้โอคาเบะพร้อมกับประโยคแปลกๆ ว่ามีคนหนึ่งฝากเครื่องดังกล่าวนี้ไว้เมื่อนานมาแล้วโดยบอกให้มอบกับเด็กหนุ่มในอนาคตหากเขาตามหามัน หากแต่เครื่องดังกล่าวมีน้ำหนักมาก(25 กิโล) แต่โชคดีที่คุริสุซึ่งตอนนี้เธออยากรู้อยากเห็นไทม์แมนชีนได้มาพร้อมกับโอคาเบะพอดี ทั้งสองเลยช่วยกันแบกเครื่องดังกล่าวเดินทางกลับ และที่หน้าห้องแล็บนั้นเองคุริสุได้เจอกับซึสึฮะครั้งแรก และซึสึฮะก็แสดงอาการเกลียดชังคุริสึอย่างชัดเจน โดยไม่มีเหตุผล
(ตอนที่ 5, 6, 7) หลังจากที่พวกโอคาบะใช้เครื่อง IBN 5100 ถอดรหัสขององค์กร SERN ก็พบว่าองค์กรดังกล่าวได้ทำการทดลองท่องเวลาด้วยการใช้มนุษย์ทั้งเป็นในการทดลองหลายราย แต่ทั้งหมดล้มเหลวหมด เนื่องจากร่างกายมนุษย์ไม่สามารถทนต่อผลกระทบจากการท่องเวลาได้ ทำให้กลายเป็นมนุษย์เจลเขียวหมด
เมื่อโอคาเบะรู้เรื่องดังกล่าวเขาก็มีความคิดอยากสร้างไทม์แมนชีสขึ้นมาจริงๆ โดยเขาเรียกสมาชิกทั้งหมดมารวมตัวและเรียกเมล์ที่ส่งไปยังอดีตว่า ดี-เมล์ และพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะทำการวิจัยหารายละเอียดเพิ่มเติม
วันต่อมาโมเอกะได้มาที่แล็บของโอคาเบะเพราะอยากเห็น IBN 5100 และพยายามขอยืมจากโอคาเบะ แต่โอคาเบะปฏิเสธ และระหว่างนั้นเองเธอได้ยินเรื่องดีเมล์ และเห็นโอคาเบะทดลองส่งดีเมล์เป็นข้อความไปยังอดีต(เป็นข้อความสลากรางวัลที่ 3) และเมื่อโอคาเบะส่งดีเมล์ไปเขาก็พบว่าเขาปวดหัวอย่างรุนแรง และบรรยากาศรอบข้างเปลี่ยนไป เหมือนกรณีที่เขาส่งเมล์ไปหาดารุตอนต้นเรื่อง และเมื่อเขาสอบถามเรื่องนี้กับจอห์น ไตเตอร์ทางเมล์เขาก็พบว่าตนมีพลังวิเศษที่ความทรงจำของเขายังคงหลงเหลืออยู่แม้ว่าเส้นโลก(โลกอีกมิติ)จะถูกเปลี่ยนไปก็ตาม
(ทฤษฏีอนาคตของ Steins; Gate ง่ายๆ ประมาณว่า เส้นทางอนาคตแบ่งเป็นหลายเส้นทาง(เส้นโลก) เหมือนทางเลือกเกมจีบสาว ที่มีหลายเส้นทางให้เลือก ซึ่งเราเลือกเส้นทางแล้วเราจะไม่สามารถเลือกอีกเลย และต้องมุ่งสู่อนาคตข้างหน้าอย่างเดียว หากแต่โอคาเบะสามารถกลับไปเส้นโลกอื่นๆ ได้โดยความจำของเส้นโลกเดิมยังคงอยู่ในสมอง
(ตอนที่ 8, 9, 10 ) วันต่อมาโมเอกะมาหาโอคาเบะโดยขอส่งดีเมล์ไปให้เธอในอดีต โดยข้อความที่ส่งไปคือบอกให้เธอในอดีตเปลี่ยนมือถือใหม่ และเมื่อโอคาเบะส่งไปก็พบว่าตนเองไปอยู่ตนเองถูกตนเองอยู่เส้นโลกอีกเส้นหนึ่ง ซึ่งโมเอกะได้หายจากแล็บ และเมื่อถามสมาชิกคนอื่นก็ไม่มีใครรู้จักโมเอกะ ตอนแรกโอคาเบะกังวลว่าโลกนี้ไม่มีโมเอกะเขาเลยส่งข้อความไปยังเธอ และเขาก็โล่งใจเมื่อโมเอกะตอบกลับว่าเธอกำลังยุ่ง
วันถัดมา ริกะมาขอให้โอคาเบะส่งดีเมล์ไปหาแม่ของเขาในอดีต ซึ่งช่วงที่กำลังตั้งครรภ์เขา โดยบอกให้แม่ทานผักเยอะๆ เพื่อที่เขาจะได้เกิดเป็นผู้หญิง แม้ความคิดดังกล่าวค่อนข้างบ้าบอ แต่โอคาเบะยินดีที่จะส่งดีเมล์ดังกล่าว และเมื่อส่งไปโอคาเบะก็เกิดอาการปวดหัวอีกครั้งและเขาก็พบว่าตนเองอยู่อีกเส้นโลกหนึ่งที่ริกะเป็นผู้หญิง
วัดต่อมาโอคาเบะพบว่าเครื่อง IBN 5100 ได้หายไป(สาเหตุคือโมเอกะได้ส่งข้อความไปยังตัวเธอในอดีตให้ไปขโมยเครื่องดังกล่าวที่ศาลเจ้าตัดหน้าโอคาเบะ) โอคาเบะพยายามตามหาเครื่องดังกล่าวอีกครั้ง และเวลานั้นเองเฟริสก็ได้รู้เรื่องดีเมล์และได้บอกให้โอคาเบะมาหาเธอที่บ้าน เพื่อที่จะขอส่งดีเมล์ไปยังอดีตเพื่อแลกกับข้อมูลที่อยู่ของเครื่อง IBN 5100 และเมื่อเขาส่งดีเมล์ไป เขาก็พบว่าเส้นโลกเปลี่ยนไปอีกครั้ง คราวนี้เขาพบว่าร้านกาแฟสาวเมดที่มายูมิทำงานและทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับโอตากุได้หายไปจากอากิบะหมด
เช้าวันต่อมาโอคาบะได้พบว่าโทรทัศน์ในร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์ด้านล่างเป็นกุญแจสำคัญในการส่งดีเมล์ และนั้นเองคุริสุได้พัฒนาไทน์แมนชีนโดยเป็นเครื่องมือที่สามารถส่งความจำจากอนาคตไปยังอดีตได้ และเวลานั้นเองโอคาเบะก็เริ่มรู้สึกตึงเครียดเมื่อเขาพบอีเมล์ลึกลับในโทรศัพท์ที่เตือนเชิงข่มขู่ว่าว่าเขาถูกจับตามอง
(ตอนที่ 12, 13) วันที่ 13 สิงหาคม (วันแม่ของไทย) วันนั้นเครื่องส่งความจำที่ไปยังอดีตของคุริสุเสร็จพอดี เหล่าสมาชิกกำลังตื่นเต้นกับการทดลอง หากแต่ไม่มีใครกล้าทดลอง และในตอนค่ำระหว่างที่โอคาเบะกับฉลองงานเลี้ยงร่วมกับสมาชิกแล็บอยู่นั้นเอง พวกเขาก็ถูกกลุ่มบุคคลลึกลับติดอาวุธบุกเข้าห้องแล็บ โดยมีโมเอกะเป็นผู้นำกลุ่มและเธอก็เผยตัวว่าเป็นสายลับขององค์กร SERN และเธอก็สั่งดารุ โอคาเบะ คุริสุ ส่งเครื่องไทม์แมนชีนมาและไปกับพวกเธอ ส่วนมายูริไม่จำเป็น โมเอกะจึงฆ่ามายูมิทิ้งต่อหน้าโอคาบะ
หลังจากที่โมเอกะฆ่ามายูมิ ซึสึฮะได้บุกเข้ามาที่แล็บและทำการต่อสู้คนขององค์กร SERN ทำให้โอคาเบะมีโอกาสใช้เครื่องส่งความจำทรงไปยังอดีตเป็นครั้งแรก ซึ่งปรากฏว่ามันได้ผล โอคาบะก็สามารถย้อนอดีตกลับมาเมื่อเวลา 17:00 ในวันเดียวกันได้สำเร็จ และโอคาบะใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้มายูริปลอดภัย หากแต่สุดท้ายโอคาบะก็ไม่สำเร็จเพราะเมื่อถึงเวลามายูมิก็ถูกฆ่าอยู่ดี และทุกครั้งเมื่อมายูริถูกฆ่า โอคาบะจะกลับไปใช้เครื่องย้อนเวลาซ้ำแล้วซ้ำเล่า พยายามที่จะเปลี่ยนอนาคต ไม่ว่าจะต่อรองโมเอเกะ พาเธอไปนั่งแท็กซี่เพื่อหนีจากที่เกิดเหตุ หรือพาเธอหนีขึ้นรถไฟ แต่เมื่อถึงเวลามายูมิก็ตายทุกครั้ง ไม่ว่าจะตายเพราะอุบัติเหตุหรือถูกฆ่า
นี้คือสรุปคราวๆ ของเนื้อเรื่องส่วนแรก ซึ่งจะเห็นได้ว่าการ์ตูนดังกล่าว งง เฉพาะตอนแรก อันเนื่องจากการดำเนินเรื่องช่วงแรกของการ์ตูนไม่ได้บอกสาเหตุเอาไว้ ว่าเกิดจากอะไร? เป็นเพราะอะไร? ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? จู่ๆ ก็โดดข้ามมิติไปเฉยๆ เลย จนคนดู งง แต่เมื่อเนื้อเรื่องออกมาเรื่อยๆ ก็เริ่มเข้าใจเนื้อเรื่อง ปริศนาต่างๆ ก็เริ่มคลี่คลายที่ละชิ้นทีละชิ้น ก่อนที่จะมาสรุปตอนสุดท้าย ที่มาของตอนแรกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตอนที่ 1
สำหรับเนื้อหาช่วงครึ่งหลัง ผมก็ไม่ขอลงรายละเอียดมาก แต่ขอบยอกว่าผมดูแล้วกินใจเกือบทุกตอน เริ่มจากคุริสุได้สังเกตปฏิกริยาของโอคาบะที่เปลี่ยนไปอย่างผิดสังเกตหลังจากสอบถามไปมาก็พบว่าเขาย้อนเวลาเพื่อช่วยเหลือมายูริหลายครั้งแต่พลาดหมด จนจิตใจเริ่มท้อถอย มืดมน คุริสุเลยเสนอความคิดให้กลับไปแก้ไขอีเมล์ที่โอคาเบะทำการเปลี่ยนเส้นโลกของแต่ละคนเพื่อตามหาเครื่อง IBN 5100 จะได้ใช้แก้รหัสเพื่อไม่ให้องค์กร SERN ตามรอยไทม์แมนชีนพบ เวลานั้นเองซึสึฮะก็เผยตนว่าเป็นจอห์น ไตเตอร์ ที่เป็นคนจากอนาคต ปี 2036 ที่ย้อนอดีตปี 1975 หากแต่หยุในปี 2010 เพราะอยากเห็นพ่อตอนเป็นหนุ่ม อีกทั้งเธอเล่าว่าในอนาคตองค์กร SERN เป็นผู้ปกครองโลกด้วยไทม์แมนชีน โดยมีคุริสุเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่สร้างเครื่องดังกล่าว ให้องค์กร ส่วนโอคาเบะและพ่อของนั้นเป็นหัวหน้ากลุ่มต่อต้าน และเธอก็เป็นทหารที่พยายามต่อสู้องค์กร SERN และเธอได้ย้อนอดีตมาเพื่อนำเครื่อง IBN 5100 ไปให้โอคาเบะในยุคปัจจุบันมาเพื่อไขรหัสดังกล่าว
ซึสึฮะพาโอคาบะและคุริสุพาไปที่เก็บไทม์แมนชีนหากแต่ปรากฏว่าไทม์แมนชีนเสีย เนื่องจากช็อตในคืนที่มีพายุซึ่งเป็นตอนที่โอคาเบะส่งดีเมล์ให้ตนเองในอดีตเพื่อตามซึสึฮะ ซึ่งตอนนั้นซึสึฮะกำลังนั่งไทม์แมนชีนไปยังอดีตพอดี โอคาเบะเลยเรียกดารุมาซ่อม ส่วนมายูมิขออาสาตามหาพ่อยุคปัจจุบัน โดยมีเข็มกลัดองค์กรต่อต้านเป็นเบาะแส(สังเกตว่าชื่อของเข็มขัดหายไปสามตัวอักษร ซึ่งแต่ละตัวอักษรเป็นชื่อย่อของสมาชิกแล็บ ซึ่งตอนสุดท้ายเพิ่มเป็นสามตัวอักษร ได้แก่ โมเอกะ เฟริส และริกะ) แต่สุดท้ายความจริงก็เผยเมื่อพ่อของซึสึฮะอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนั้นก็คือดารุนั้นเอง และไทม์แมนชีนซ่อมเสร็จ ซึสึฮะก็ใช้เครื่องเพื่อย้อนอดีตอีกครั้ง พร้อมโบกมือลาครั้งสุดท้ายพวกโอคาเบะเนื่องจากเครื่องไทม์แมนชีนดังกล่าวย้อนอดีตได้อย่างเดียว
เมื่อพวกโอคาเบะกลับมาที่แล็บพวกเขาก็ได้พบจดหมายของซึสึฮะในอดีตที่เนื้อหาเขียนเนื้อหาชวนหดหู่ว่าภารกิจของเธอล้มเหลวไทม์แมนชีนดังกล่าวไม่สมบูรณ์พอที่จะทำให้เธอย้อนกลับอดีตในปีที่ต้องการได้ ทำให้ไม่สามารถตามหาเครื่อง เครื่อง IBN 5100มาให้โอคาเบะได้ เธอเลยจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย และนั้นเองทำให้พวกโอคาเบะเสียใจมาก ก่อนที่โอคาบะจะตัดสินใจส่งดีเมล์ให้ตัวเองในอดีตยกเลิกพาซึสึฮะกลับ ส่งผลทำให้เส้นโลกเปลี่ยนอีกครั้ง คราวนี้โอคาบะก็พบว่าซึสึฮะสามารถย้อนอดีตได้สำเร็จ และเปลี่ยนการตายมาเป็นป่วยตายแทน
หลังจากนั้นโอคาบะก็พยายามแก้ไขดีเมล์อันอื่นที่พวกเขาส่งไปในอดีตเพื่อแก้ไขซะตากรรมของมายูริ โดยเริ่มจากเฟริสที่เธอส่งดีเมล์ไปในอดีตก็เพื่อไม่ให้พ่อเธอตาย ซึ่งเฟริสยอมยกเลิกดีเมล์ดังกล่าว เนื่องจากเธอยอมรับความจริง ส่งผลทำให้โอคาเบะไปอยู่เส้นโลกที่อากิบาระกลายเป็นศูนย์รวมของความโมเอะอีกครั้ง
ต่อมาก็ทำการแก้ไขดีเมล์ของริกะที่ต้องการทำให้เธอเป็นผู้หญิงเพื่อจะทำให้โอคาเบะชอบเธอขึ้นมาบ้าง หากแต่สุดท้ายโอคาเบะก็พูดว่าจะเป็นหญิงหรือชายริกะก็คือริกะ(พูดง่ายๆ กรูชอบดุ้น) ทำให้โอคาบะกลับไปเส้นโลกที่เป็นผู้หญิงอีกครั้ง
ส่วนดีเมล์ของโมเอกะนั้นค่อนข้างยากพอสมควร เนื่องจากตัวตนของเธอค่อนข้างลึกลับมากกว่าคนอื่นๆ ตอนแรกโอคาบะตามหาเธอที่แมนชั่น แต่ปรากฏว่าเธอฆ่าตัวตาย เมื่อย้อนอดีตอีกครั้งคราวนี้เขาไปก่อนหน้าวันที่เธอฆ่าตัวตาย และพบว่าโมเอกะกำลังเป็นโรคประสาทเนื่องจากไม่ได้รับการติดต่อจากคนที่เธอเรียกว่า “FB” ซึ่งบุคคลดังกล่าวอยู่เบื้องหลังทั้งหมด ตอนแรกโอคาบะแย่งมือทือโมเอะ(ด้วยการใช้กำลัง) และเมื่อดูข้อความที่ส่งไปก็ได้รู้ว่าโมเอกะคือคนที่ขโมย IBN 5100 ไป โดยข้อความดีเมล์ที่ได้รับคือเป็นการบอกตัวเธอในอดีตเพื่อไปขโมย IBN 5100 ที่ศาลเจ้าตัดหน้าพวกโอคาบะ เมื่อโอคาเบะแก้ไขปรากฏว่าเส้นโลกไม่ได้เปลี่ยน เนื่องจากโทรศัพท์ดังกล่าวไม่ใช่ของ “FB” ซึ่งเป็นเครื่องสั่งการ หากไม่มีเครื่องดังกล่าวตัวในอดีตจะไม่เชื่อใครทั้งสิ้น
หลังจากนั้นโมเอกะยอมบอกสถานที่ซ่อนของเครื่อง IBN 5100 หากแต่นั้นยังไม่เพียงพอต่อการเปลี่ยนเส้นโลก เพราะเขายังต้องตามใช้มันตามหา “FB” ซึ่งเป็นตัวการของเรื่องเสียก่อน และเมื่อโอคาบะและโมเอกะได้ตามรอยพวกเขาก็พบตัวการที่แท้จริงนั้นคือมิสเตอร์บลัท และเมื่อโอคาบะ โมเอกะ และคุริสุเผชิญหน้ากับมิสเตอร์บลัท เขาก็เผยความจริงว่าเขาคือคนขององค์กร SERN ที่ไม่สามารถทรยศองค์กรดังกล่าวได้ และเขาจำเป็นต้องทำ หลังจากที่มิสเตอร์บลัทพูดจบของก็เอาปืนฆ่าโมเอกะตายก่อนที่จะฆ่าตัวตายตาม แต่กระนั้นโอคาบะสามารถเอาโทรศัพท์ของมิสเตอร์บลัทและแก้ไขดีเมล์จนสามารถเปลี่ยนเส้นโลกไปที่เส้นโลกที่โมเอกะและมิสเตอร์บลัทไม่ตายได้ และเขาก็ได้เครื่อง IBN 5100 ที่สามารถแก้ไขไม่ให้องค์กร SERN ตามรอยและสามารถทำให้มายูริไม่ตายได้ หากแต่ระหว่างที่ดารุทำการเปลี่ยนแก้ไขรหัสอยู่นั้นเอง โอคาบะเกิดจำได้ว่าเขายังมีดีเมล์อีกข้อความที่ต้องแก้ไข นั้นคือดีเมล์ที่เขาแจ้งให้ดารุทราบว่าคุริสุตายในตอนเรื่อง หากแต่โอคาบะไม่กล้าที่จะทำเพราะหากแก้เขาจะต้องไปอยู่เส้นโลกที่คุริสุตายแทน แต่ผลสุดท้ายเมื่อคุริสุทราบเรื่องเธอก็บอกให้โอคาบะทำ เนื่องจากไม่อยากให้เขาทรมานกับการตายของมายูริ อีกทั้งแม้เส้นโลกดังกล่าวเธอจะตาย แต่เธอก็จะอยู่ในใจเขาต่อไป และแล้วคุริสุก็สารภาพรักกับโอคาบะ และจากกับโอคาบะอย่างเงียบๆ
วัดถัดมาโอคาบะบอกให้ดารุทำการแก้รหัสลบข้อมูลของพวกเขาออกจากเครือข่ายองค์กร IBN 5100 และทำการเปลี่ยนดีเมล์ และเวลานั้นเองคุริสุได้เข้ามาในห้องแล็บและบอกว่าเธอรักเขา หากแต่เส้นโลกก็ได้เปลี่ยน และโอคาบะก็กลับไปอยู่เส้นโลกที่มายูริไม่ตาย หากแต่คุริสุตายแทน
แต่เรื่องก็ยังไม่จบ ในขณะที่โอคาบะทิ้งเครื่องไมโครเวฟมือถือ เขาก็ได้โทรศัพท์จากซึสึฮะ(คนใหม่)ที่ขอให้โอคาบะย้อนอดีตกับเธอเพื่อช่วยคุริสุจากความตายและป้องกันไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 โอคาบะได้ยินก็ยินยอมเพราะคุริสุเป็นคนสำคัญของเขาไม่แพ้มายูริเหมือนกัน เขาจึงทำการย้อนเวลาด้วยไทม์แมนชีนกับซึสึฮะ ในวันที่สัมมนาของศาสตราจารย์ตอนที่ 1 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเรื่องก็เป็นการเฉลยเนื้อเรื่องทั้งหมดในตอนที่ 1 ก็ว่าได้ว่าเกิดขึ้นอะไรในวันนั้น เมื่อความจริงเปิดเผยศาสตราจารย์นาคาบาชิคือพ่อของคุริสุที่พยายามขโมยทฤษฏีการเดินทางเข้ากาลเวลาของลูกสาวตนเอง และในระหว่างที่ทั้งสองกำลังวุ่นวายกันอยู่นั้นเอง ซึ่งโอคาบะได้พยายามเข้ามาช่วย หากแต่เขากลับพลันมือฆ่าเธอดังกล่าว จนเป็นเหตุทำให้โศกนาฏกรรมในวันนั้น และเวลานั้นเองศาสตราจารย์นาคาบาชิได้ขโมยเอกสารทฤษฏีข้ามเวลาของลูกสาวและหนีไปรัสเซียจนสามารถสร้างเครื่องไทม์แมนชีนจนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3
ซึสึฮะพาโอคาบะหนีกลับไปยังปัจจุบัน และขอร้องให้โอคาบะเปลี่ยนอนาคตอีกครั้ง หากแต่โอคาบะในเวลาดังกล่าวไม่มีจิตใจที่จะเปลี่ยนอนาคตอีกแล้ว ต่อให้เขาเปลี่ยนยังไงคุริสุก็ตายอยู่ดี อย่างไรก็ตามมายูริได้เตือกสติโอคาบะกลับคืน อีกทั้งซึสึฮะได้ให้วีดีโอที่มีดีเมล์ที่ส่งมาจากเขาในอนาคตปี 2025 ที่บอกกุญแจช่วยคุริสุเอาไว้ ซึ่งทำให้โอคาบะมีกำลังใจอีกครั้งและเขาก็กลับไปยังอดีตจนสามารถช่วยเหลือคุริสุและทำลายเอกสารทฤษฏีข้ามเวลาได้สำเร็จ ทำให้โอคาบะเปลี่ยนเส้นโลกที่คุริสุและสมาชิกแล็บทุกคนอยู่กันอย่างพร้อมหน้า
ในฉากจบสุดท้ายโอคาบะได้เดินทางไปเยี่ยมสมาชิกแล็บคนอื่นทั้งหมดเพื่อแจกเข็มกลัดสมาชิกแล็บไปด้วย ที่มาบัดนี้บนเข็มกลัดมีชื่อของสมาชิกทั้ง 8 อยู่ครบถ้วน และในขณะที่เขากำลังเดินข้ามถนนอยู่นั้นเองเขาก็ได้เจอคุริสุอีกครั้ง แม้ว่าเธอในเส้นโลกนี้จะลืมในช่วงเวลาที่เธออยู่กับโอคาบะตอนเป็นสมาชิกแล็บไปสิ้นเชิง แต่เมื่อโอคาบะได้พูดเย้าแหย่คุริสุก็จำเรื่องราวทั้งหมดได้ และแล้วความสัมพันธ์ของคนทั้งสองก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
Steins; Gate จบลงอย่างชื่นมื่นสมหวังต่อทุกฝ่าย ความทรงจำ ความผูกพัน มิตรภาพ ความรัก สายสัมพันธ์และความพยายามที่จะผ่าฟันของโอคาบะ แม้ทั้งเรื่องจะไม่มีฉากต่อสู้บ้าระห่ำหรือมีฉากปล่อยพลังบ้าคลั่งเหมือนการ์ตูนหลายเรื่อง แต่กระนั้นวีกรรมของโอคาบะได้ประทับใจใครต่อหลายคน
Steins; Gate นั้นมีข้อคิดแก่เรามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการค้นคว้า อย่างเช่น “ไทม์แมนชีน” ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะหากอยู่ในมือของคนไม่ดี โลกจะปั่นป่วนแน่นอน หากแต่กระนั้นหลายคนก็พยายามที่จะประดิษฐ์สิ่งดังกล่าว แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของวิทยาศาสตร์โดยไม่สนกับผลเสียในอนาคต ผลก็คือหายนะที่เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวเราหรือแม้แต่โ,กของเรา จะแก้ไขไปก็สายไปเสียแล้ว
ข้อคิดต่อมาคือการใช้ชีวิตอย่างรู้คุณค่า มีชีวิตอย่างมีสติ เวลาเราทำพลาดอะไรไปเราก็ๆไม่สามารถที่จะเปลี่ยนอนาคตได้ พลาดแล้วพลาดเลยและอาจเป็นตราบาปตลอดชีวิต อย่างเช่น เฟริคตอนเป็นแด็กนั้นได้พูดจาไม่ดีต่อพ่อส่งทำให้พ่อตายโดยที่เธอรู้สึกผิด แบะเมิ่อเธอเปลี่ยนอดีตสามารถทำให้พ่อของตนเองรอดตาย แต่กระนั้นความรู้สึกผิดในจิตใจของเฟริคก็ไม่ได้หายไป อีกทั้งการเปลี่ยนอดีตกลับทำให้เกิดเฟริคสูญเสียเพื่อนไปอีกคนหนึ่งนั้นคือมายูริไปด้วย
ส่วนฉากจบที่โอคาบะเจอกับคุริสุนั้นผมไม่อยากให้ผู้อื่นมองว่าสาวผมแดงสมหวังในรัก เพราะอย่างไรก็ตามมันยังคงเป็นเรื่องของอนาคต อนาคตในวันข้างหน้าอาจมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น อาจจะมีปัญหาใหม่ที่โอคาบะจะต้องปวดหัวอีก อย่างไรก็ตามหากโอคาบะมีความพยายามและเชื่อมั่นความผูกพันธ์ของเหล่าสมาชิกแล็บก็น่าจะผ่าฟันไปได้
รู้ไปก็เท่านั้น
-Steins; Gate จะออกเป็นภาคหนังโรง ซึ่งไม่รู้ว่าใช้เนื้อเรื่องของใครมาออก แต่คาดว่าน่าจะเป็นเนื้อเรื่องของซึสึฮะ เนื่องจากยังมีหลายอย่างที่ยังไม่ได้ตอบคำถามชัดเจนในภาคอนิเมชั่น ว่าเกิดขึ้นในอนาคตของซึสึฮะที่จำเป็นต้องใช้ไทม์แมนชีนย้อนเวลามา และสมาชิกแล็บในอนาคตเป็นอย่างไรบ้างในตอนนั้น
-คุริสุกลายเป็นหนึ่งตัวละครในเกมไฟติ้งในเกม Phantom Breaker ซึ่งแต่ละท่าของเธอนั้นช่างโอเวอร์สุดๆ เพราะในอนิเมชั่นไม่มีเลยสักนิด แถมเกมดังกล่าวก็ไม่ได้ผลตอบรับที่ดีนัก
-เรื่องของจอห์น ไตเตอร์เป็นเรื่องโกหก
-เรื่องของซึสึฮะมีการต่อยอดในมังงะ ภาค Steins;Gate: Bokan no Rebellion ซึ่งในนั้นเฉลยแฟนของดารุว่าเป็นสาวคอสจากงานโดจิน ซึ่งตอนนั้นดารุ(ผอมแล้ว)ได้พบรักเข้า(แบบตามตื้อ) และในอนาคตแฟนของดารุ(แม่ของซึสึฮะ)และซึสึฮะพอดีก็อยู่ในกลุ่มต่อต้าน องค์กร SERN หากแต่สุดท้ายแม่ของซึสึฮะก็ตายจากไปเนื่องจากต้องปกป้องไทม์แมนชีสที่โอคาบะและดารุช่วยกันสร้างไว้ และสามารถส่งซึสึฮะไปในอดีตได้สำเร็จ
-ส่วนภาคนั้น Steins;Gate: Bokan no Rebellion เท่าที่ดูแบบแมวๆ ก็คาดว่าเป็นภาคดัดแปลงเปลี่ยนบทอนิเมชั่นอีกที
-ในอนิเมชั่นตัดบทของเมเอะไป ทั้งที่บทของเมเอะนั้นสำคัญต่อเนื่องเรื่องเหมือนกัน เพราะในอนาคตเธอจะเป็นสมาชิกระดับสูงขององค์กร SERN และมีพลังความจำย้อนเวลาเหมือนโอคาเบะ หากแต่เนื่องบทจากค่อนข้างโหดและดราม่าพอสมควร(หรืออีกนัยหนึ่งไม่มีตอนพอที่จะใส่ก็ได้) จึงไม่มีบทดังกล่าว
ความคิดเห็น