ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    100 อันดับ โลกต้องจารึก

    ลำดับตอนที่ #112 : (ปริศนาโลกตะลึง) เหตุประหลาดที่แมททูน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.91K
      2
      4 มี.ค. 50



    เหตุประหลาดที่แมททูน


                   
    จนกระทั้งบัดนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่แมนทูนเมืองเล็กๆ ในรัฐอัลลิมอยส์ที่มีพลเมืองประมาณ
    16,000 คน นั้นคืออะไร? และทำไมมันถึงเกิดขึ้น? แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ก็ส่งผลให้เมืองแทนทูนได้รับเกียรติมีชื่อปรากฏอยู่ในบันทึกโลกของเรื่องปริศนาที่หาคำตอบไม่ได้ตลอดกาล

                    และต่อไปนี้คือเรื่องราวเหตุการณ์ที่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแมททูน?

                    ปลายฤดูร้อนในปี ค.ศ. 1944 เริ่มจากในคืนวันที่ 30 สิงหาคม ชายชาวเมืองแมททูนคนหนึ่งรู้สึกตัวไม่สบาย เขาตื่นนอนขึ้นตอนเช้ามืดพร้อมกับรู้สึกไม่ค่อยสบายจนลุกขึ้นมาด้วยความลำบาก เขาลุกไปอาเจียนในห้องน้ำ เขาสงสัยว่าเขาไม่สบายเพราะภรรยาลืมเปิดแก๊สทิ้งเอาไว้ จึงได้สอบถาม เธอว่าเธอเองก็สงสัยอยู่เหมือนกันและจะลุกไปตรวจดู แต่แล้วเธอก็ไม่สามารถเอาอะไรได้ เพราะจู่ๆ ร่างกายเธอเกิดอ่อนเปลี้ยไม่มีแรงเหมือนเป็นอัมพาตขึ้นมาเฉยๆ

                    ในเวลาไล่เลี่ยกัน อีกด้านหนึ่งของเมือง มารดาผู้หนึ่งตื่นขึ้นมาเนื่องจากได้ยินเสียงบุตรสาวคนเล็กของเธอกำลังสำลักอยู่ในห้องติดกัน เธอพยายามจะลุกไปดู แต่ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เหมือนในกรณีแรก

                    ในคืนถัดมา เหตุการณ์เช่นคืนนี้ก็เกิดขึ้นอีก โดยเกิดเมื่อเวลา 5 ทุ่ม เมื่อนางเบิร์ท เคียร์นีย์ ตื่นขึ้นที่ห้องนอน เนื่องจากได้กลิ่นอะไรสักอย่างที่ เอียนและคลื่นไส้ เวลาผ่านไปกลิ่นนี้ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในไม่ช้าเธอเริ่มไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายท่อนล่างได้ ด้วยความตกใจเธอจึงส่งเสียงร้องให้เพื่อนบ้านช่วยเหลือ แต่เมื่อเพื่อนบ้านมาช่วยและตรวจหากลับไม่พบสิ่งปกติใดๆ ในบริเวณใกล้เคียง และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบก็ไม่พบสิ่งปกติเช่นกัน และในเช้าวันต่อมานางเบิร์น จู่เกิดริมฝีปากไหม้ปากและลำคอแห้งผาก คาดว่าเกิดจากก๊าซลึกลับที่เธอสูดดมในคืนที่ผ่านมานั้นเอง

                    อย่างไรก็ตาม คืนต่อมา ก็เกิดขึ้นกับ เบิร์ท เคียร์นีย์ อีกครั้ง คราวนี้เกิดขึ้นพร้อมกับภรรยาของตัวเอง โดยเกิดขึ้นเมื่อเวลาเที่ยงคืนครึ่ง เขาเห็นบุรษผู้หนึ่งรูปร่างผอมสูงกำลังยืนลับๆ ล่อๆ อยู่ภายนอกบ้านตรงหน้าต่างห้องนอน พอเห็นเบิร์ทก็ผละหนี และหายไปอย่างไร้ร่องรอย

                    ถึงตอนนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็กลายเป็นข่าวใหญ่ หนังสือพิมพ์แมททูนเจอร์นัล กาเซ็ตต์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์หท้องถิ่นได้ประโคมหัวข่าวอย่างตื่นเต้นว่า "เกิดเหตุคนบ้าอาละวาดพ่นก๊าซ"

                    และหลังจากหนังสือพิมพ์หลังข่าวนี้ เหตุการณ์ประหลาดในแทททูนเกิดขึ้นมากมายเป็นระลอกคลื่น ดังนี้

                    ในคืนวันที่ 5 กันยายน นายและนางคาร์ล คอร์เดส ได้กลับถึงบ้าน เวลาประมาณ 22.30 น. ทั้ง 2 ข้างบ้านทางประตูหลัง จากนั้นนางคอร์เดสจึงเดินไปเปิดล็อคประตูหน้า ขณะที่กำลังเปิดประตู นางสังเกตเห็นเศษผ้าชื้นๆ สีขาวชิ้นหนึ่งตกอยู่ที่ประตู จึงได้หยิบขึ้นมาดูโบกไปมาบริเวณใบหน้าตนเอง และทันที่ที่สูดกลิ่นจากผ้าชิ้นนี้เข้าไปนางก็เกิดความรู้สึกเหมือนถูกดูดด้วยกระแสไฟฟ้าแรงสูง ความรู้สึกนี้แล่นไปจากร่างส่วนบนสู่ปลายเท้าและย้อนกลับขึ้นหยุดอยู่ที่หัวเข่าทั้ง 2 ข้างทำให้เกิดอาการอัมพาต รวมทั้งอาเจียนออกมาในทันที จากนั้นเวลาเพียงไม่กี่นาทีใบหน้าและริมฝีปากไหม้และมีเลือดไหลออกปาก จนในที่สุดนางก็ไม่สามารถพูดได้ชั่วขณะ

                    อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าแปลกอย่างยิ่งที่แม้ว่าอาการทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและดูเหมือนจะหนักสาหัสเข้าขั้น แต่ทว่าการลกลับนี้กลับหายไปเองจนสู่สถาวะปกติในเวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น

                    เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงบ้านของนางและนายคอร์เดส ร่องรอยที่พบมีเพียงกุญแจผีดอกหนึ่งกับปลอกลิปสติคเปล่าอันหนึ่งเท่านั้นเอง ส่วนเศษผ้าที่เป็นต้นเหตุได้ถูกส่งไปวิเคราะห์ที่มหาวิทยาลัยแห่งอิลลินอยส์และที่สำนักอาชญากรรมแห่งรัฐ แต่ทั้งสองหน่วยงานไม่สามารถบอกได้ว่าสารลึกลับที่อยู่บนชิ้นผ้านี้คืออะไร

                    ในช่วงเวลา 2-3 วันต่อมาได้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นอีกหลายครั้ง ทั้งหมดล้วนมีรูปแบบเดิม ๆ คือผู้ประสบเหตุมักถูกปลุกให้ตื่นขึ้นโดยเสียงจากภายนอกหน้าต่างนอน หรือไม่ก็กลิ่นก๊าซ เสียงได้ยินก็เป็นเสียงแปลกๆ เช่นเครื่องพ่นก๊าซ แต่มีบางรายก็ได้ยินเสียงจากการทุบกระจกหน้าต่าง หรือตัด ส่วนตัวก๊าซผู้ประสบเหตุหลายคนยืนยัน นอนยันเลยว่าเป็นควันสีฟ้า อาการเกิดขึ้นได้แก่อาเจียน เป็นอัมพาตชั่วคราว ริมฝีปากบวมหรือไหม้ ใบหน้าบวม โดยระยะเวลาที่แสดงอาการจะอยู่ในช่วงระหว่าง 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมง สุดท้ายคือเจ้าก๊าซลึกลับนี้ก็ไม่ทิ้งรอยคราบหรือเศษผงใดๆ ไว้ในที่เกิดเหตุแม้แต่นิดเดียว นอกจากนี้ชายที่พ่นสารลึกลับนี้หลายคนก็ให้การตรงกันว่าเป็นชายรูปร่างผอมสูงใส่เสื้อผ้าสีออกมืดๆ ดำ ใส่หมวกแก๊ป และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

                    
                   
    การปรากฏเหตุการณ์ประหลาดในแทนทูนยังเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ทำให้ชาวเมืองเริ่มจัดตั้งกลุ่มระวังภัยออกตรวจตราตามถนนสายต่างๆ ยามค่ำคืนมากขึ้น แต่กระนั้นเหตุการณ์ประหลาดนี้ยังเกิดเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง โดยไม่สามารถจับผู้ก่อเหตุไม่ได้ จนมีหลายคนสงสัยว่าแท้จริงแล้วเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริงหรือเกิดจากสถาวะผิดปกติของคนกันแน่
    ?

                    ในที่สุด เหตุการณ์ประหลาดครั้งสุดท้ายก็เกิดขึ้นคืนวันที่ 13 กันยายน ที่บ้านของนางเบอร์ธา เบนซ์ แต่ครั้งนี้แปลกกว่าครั้งก่อนที่ คนปล่อยก๊าซเป็น "สตรีแต่งชุดของบุรุษ" กำลังฉีดก๊าซเข้าไปที่หน้าต่างห้องนอนของเธอ และวันรุ่งขึ้นนางเบอร์ธาพบรอยรองเท้าส้นสูงของสตรีปรากฏที่พื้นดินใต้หน้าต่างห้องนอน

                    ถึงแม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองแมททูนจะเป็นเรื่องแปลกและลึกลับ แต่ไม่ใช้ว่าเมืองแมททูนจะเกิดเหตุการณ์นี้ที่เดียว หากยังมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองอื่นเช่นกัน เช่นที่โบเททอร์ท เคาน์ตี ในรัฐเวอร์จีเนีย แต่เวลาที่เกิดขึ้นต้องย้อนไปถึง 10 ปี ในช่วงเวลา 2 อาทิตย์ ในฤดูหนาวระหว่างเดือนธันวาคม 1933 ถึง เดือนมกราคม 19334  ที่ชาวเมืองเคยประสบกับเหตุการณ์พ่นก๊าซลึกลับ (บางคนถูกพ่นถึง 3 ครั้งในคืนเดียว) ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยแบบที่ชาวเมืองแมททูนประสบมาแล้ว เช่น ปวดศีรษะ อาเจียน เป็นอัมพาตชั่วคราว ฯลฯ นอกจากนี้หลักฐานที่เกิดเหตุก็มีเช่น รอยเท้าของสตรีที่เดินไปเดินมาแล้วขาดชั่วอย่างลึกลับ และวัตถุที่มีความมันเหมือนน้ำมันกลิ่นออกเอียน ๆ อยู่ใกล้รอยเท้าสตรี


                   
    ไขปริศนาเหตุประหลาดที่แมททูน

                    

                    แน่นอนว่าเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นที่เมืองแมททูนและโบเทเทอร์ เคาน์ตี ได้ทิ้งปริศนาที่เป็นคำถามมากมายที่ไม่เคยมีใครตอบได้ จะว่าไปเหตุการณ์ทั้งหมดน้าจะเป็นผลมาจากภาวะจิตคิดไปเองของผู้คนที่เรียกว่าภาวะจิตคิดไปเองหรือโรคฮัททีเรียหมู่ (Mass hysteria) ซึ่งเชิงนักสุขภาพจิตเรียกอาการนี้ว่า โรคอุปทานหมู่ (Mass Histeria) เป็นการเชื่อมโยงการทำงานของกายกับจิต เมื่อผู้ใดได้รับรู้เรื่องราวที่มีความเชื่อในเรื่องนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประกอบกับได้ยินบรรยากาศหรือเสียงที่รู้สึกสะท้อนใจ มีความรู้สึกร่วมกัน ก็จะปลดปล่อยออกมา การเกิดโรคดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับคนใดคนหนึ่งที่จิตใจไม่เข้มแข็งก่อน จากนั้นผู้ที่ได้เห็นภาพ และมีจิตใจคล้ายคลึงกันก็จะเป็นตาม ถือเป็นโรคติดต่อทางใจอย่างหนึ่ง

                    เหตุที่สันนิษฐานว่าเรื่องนี้เป็นโรคอุปทานหมู่เพราะมีหลายเหตุการณ์ที่พยานเห็นคนเกิดเหตุจะๆ  แต่กลับไม่มีร่องรอยที่เกิดเหตุที่เป็นหลักฐาน

                    แต่ถ้าไม่ใช่โรคจิตล่ะ มันเกิดขึ้นเพราะใคร? พวกโรคจิต? สิ่งลึกลับนอกโลก? หรือมนุษย์ต่างดาว? ซึ่งตราบใดคำถามนี้ยังไม่มีคำตอบ เหตุประหลาดที่แมททูนก็ยังคงเป็นปริศนาลึกลับ เช่นนี้ตลอดไป

                 

                    เกิดอะไรขึ้นกับแมททูน


    + +
    ต่วยตูนพิเศษ ฉบับที่
    358 ธันวาคม 2547

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×