ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

ลำดับตอนที่ #451 : เล่าเรื่องการ์ตูนกับคนบ้าเรื่องฆาตกร – ฆ่ายกครัว

                การสังหารหมู่ หรือว่าเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของการกระทำของมนุษย์ชาติ  แต่บทความนี้เราจะไม่ได้พูดถึงเรื่องเหล่านี้  เพราะเราจะพูดเรื่องที่เล็กกว่า นั่นคือ “ฆ่ายกครัว”

                แม้จะไม่เทียบเท่าสังหารหมู่ แต่การฆ่ายกครัวมันก็เลวร้ายพอๆ กัน หรือบางทีมันอาจจะหดหู่  และน่าจดจำ ในขณะทัสังหารหมู่เป็นการสังหารเหยื่อจำนวนมากเราคงจำชื่อเหยื่อไม่หมด และอาจเป็นเรื่องไกลตัวเราบ้าง เพราะส่วนใหญ่เกิดในประเทศที่มีภาวะสงคราม หรือผู้นำที่โหดร้ายที่พยายามปกปิด แต่การฆ่ายกครัวมันเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นใกล้ตัวเรา มันเป็นการฆาตกรรม คนที่ตายคือครอบครัวหนึ่ง ที่อาจประกอบได้ด้วย พ่อ แม่ ลูก คนลงมือนั้นอาจคนเดียวหรือเป็นกลุ่มที่มีจิตใจเหี้ยมโหด

 

                ก็มีการ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่องที่นำเสนอฉากสังหารหมู่ อย่างเรื่องเจ้าหญิงล่าผีดิบ (Shikabane Hime) มังงะ ตอนที่ 2 ที่มีฉากสังหารยกครัวแขวนคอคนทั้งครอบครัว ซึ่งดูแล้วเป็นฉากที่น่าสยดสยอง น่าหดหู่ไม่เบา

อีกฉากฆ่ายกครัวล่าสุดก็เรื่อง 18if  ในอนิเมะ ชื่อตอน"Time Stopped at Age 12" ซึ่งเป็นตอนที่ 2 ซึ่งเป็นเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุ 12 ปี วันหนึ่งมีชายวัยรุ่นสามคนบุกเข้าไปสังหารครอบครัวของเธอที่ประกอบไปด้วยพ่อ แม่ พี่สาว อย่างทารุณ แล้วเด็กสาวได้แอบซ่อนตัวจนรอดชีวิตมาได้ ก็ได้เห็นภาพสยดสยองนี้ แล้วมันทำให้เธอช็อกหลบไม่ตื่น จนมีสภาพผัก ฝันแต่เรื่องเดิมๆ คือฉากฆาตกรรมของเธอในห้องนั่งเล่น ที่เต็มไปด้วยเลือด ไม่สามารถออกไปไหนได้

                แล้วมุกสุดอำมหิตที่โหดร้ายของญี่ปุ่น ก็คือแม้เยาวชนทำผิดร้ายแรง ฆ่าคนยังไง ก็ไม่ติดคุก ได้แค่โทษเบาๆ พออายุบรรลุนิภาวะก็ถูกปล่อยตัวเข้าสู่สังคมโดยไม่ได้รับผลกรรมใดๆ ต่อมาผู้หญิงที่รอดชีวิต อายุถูกหยุดไว้ที่ 12 แล้วเธอก็มีพลังวิเศษก็คือ สามารถลากให้ฆาตกรสามคนมายังโลกแห่งความฝัน แล้วก็ฆ่าในความฝันนั้น ซึ่งการตายในความฝันก็ส่งต่อชีวิตจริงๆ ของคนนั้นด้วย เรียกได้ว่าความสามารถนี้ยืมมาจากเฟรดดี้ นิ้วเขมือบชัดๆ

                แล้วที่นี้ การ์ตูนก็มาสูตรแบบว่าเจ้าพระเอกได้ทราบเรื่อง แล้วอยากจะช่วยสาวในเรื่อง แต่ถ้าเป็นแนวๆ การ์ตูนทั่วๆ ไปก็คือพระเอกจะหยุดสาวไม่ให้ฆ่าฆาตกรใช่หรือเปล่า แต่ปรากฏว่า พระเอกไม่ได้หยุดเธอเลย ซ้ำยังมองดูเธอฆ่าฆาตกร ซ้ำยังช่วยเธอฆ่าฆาตกรอีกคนด้วย ถือว่าเป็นรูทที่แนวมาก และเป็นหนึ่งในฉากอนิเมะที่โครตดีแห่งปี 2017 เลยทีเดียว

                แต่ที่ระดับโหดที่สุด จนต้องติดหัวจนถึงบัดนี้ ก็คืออดีตของลูซี่ จาก Elfen Lied   (อนิเมะ) การสังหารครอบครัว  หลายครอบครัว ด้วยพลังจิต บาดคอเลือดสาด ตายยกครัวทั้งพ่อ แม่ ลูก  เพียงเพื่อใช้บ้านของผู้ตายนั้นเป็นผู้อยู่ชั่วคราว ทั้งดิ่ม กิน ดูทีวี ราวกับบ้านของตนเอง

 

                พูดถึงฆาตกรที่ฆ่ายกครัว แต่ไม่หนีทันที แล้วอาศัยอยู่ในบ้านเหยื่อ ราวกับเป็นบ้านของตนเอง ก็มีมังงะเรื่องหนึ่งที่นำเสนอฉากนี้อย่างน่าขนลุก นั่นคือ Deathtopia ซึ่งเป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่ประสบอุบัติเหตุ แล้วได้ดวงตาที่สามารถมองเห็นแยกมนุษย์ได้ว่า คนไหนเป็นคนปกติ กับเป็นฆาตกรที่โหดร้าย

                มีอยู่ตอนหนึ่งที่พระเอกไม่เข้าใจความสามารถของตนเอง เลยทดสอบสิ่งที่เห็น ด้วยการติดตามชายวัยทำงานคนหนึ่งที่ดวงตาของเขามองเห็นว่าเป็นฆาตกร ในตอนแรกๆ เขาก็ไม่เชื่อ ว่าชายที่คนนี้จะอำมหิต ดูยังไงก็เป็นชายธรรมดา จนกระทั่งชายคนนั้นได้เข้าไปบ้านหลังหนึ่ง แล้วเจ้าพระเอกก็ตามเข้าไปในบ้าน และสิ่งที่เขาเห็นก็คือ “นรก”

Deathtopia  เป็นการ์ตูนของ  Yoshinobu Yamada หลายคนคงคุ้นเคยนักเขียนการ์ตูนคนนี้จากผลงานอย่าง Eden no Ori, EX - Shounen Hyouryuu และCharon ทั้งสามเรื่องมีลิขสิทธิ์ของวิบูลย์กิจ

อย่างไรก็ตาม ผลงานทุกผลงานของคนเขียนการ์ตูนนี้ค่อนข้างน่าเศร้า เพราะทุกเรื่องเริ่มต้นด้วยความตื่นเต้น เร้าใจ น่าติดตาม แต่เมื่อถึงกลางเรื่อง เนื้อเรื่องก็เริ่มอืด เริ่มไม่สนุก จากนั้นก็เริ่มออกทะเล แล้วตัดจบ ที่โหดที่สุดคือเรื่อง  Charon ที่เนื้อหาเต็มไปด้วยเรื่องราวประเด็นมากมายที่น่าสนใจ แต่ตัดจบในสองเล่ม อย่างน่าเสียดาย  

แน่นอนว่า Deathtopia เป็นอีกแนวที่เริ่มต้นด้วย การพยายามสร้างความโหดร้าย เลือดสาด ความสยองขวัญ รวมไปถึงการเสริมเรื่องของฆาตกรต่อเนื่องเข้าไปได้น่าสนใจ แต่พอกลางเรื่องไป กลายเป็นการต่อสู้ด้วยพลังวิเศษ เนื้อหาเริ่มออกทะเล กลายเป็นแนวอะไรไม่รู้

บ่นไปก็เท่านั้น กลับมาดูฉากฆ่ายกครัวดีกว่า ขอบอกว่ามันเป็นฉากที่สะเทือนอารมณ์ที่สุดที่ผมดูการ์ตูนมาเลย ภาพครอบครัวที่ พ่อ แม่ ลูกสาวอายุยังน้อย ถูกฆ่าจมกองเลือด ถูกฆ่าในลักษณะที่โหดร้าย ซ้ำฆาตกรยังคงมีท่าทีที่เฉยเมย ไม่ได้หนีออกจากที่เกิดเหตุ ซ้ำทำตัวเหมือนอยู่กับบ้าน ดื่มเครื่องดื่มตู้เย็น ดูทีวีโดยมีศพเหล่านี้ข้างๆ

ที่น่าตกใจคือ ตอนแรกผมคิดว่าฉากฆ่ายกครัวที่น่าขนลุกนี้ เป็นเรื่องแต่งขึ้น ไม่เป็นความจริง แต่ปรากฏว่าไม่นานมานี้ ผมไปพบว่าฉากนี้มีแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงเกี่ยวกับคดีฆ่ายกครัวของญี่ปุ่น

 

คดีที่ว่าก็คือ คดีฆ่ายกครัวครอบครัวมิยาซาวะ(The Murder of the Miyazawas) ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นวันที่ 31 ธันวาคม 2000 ญาติของครอบครัวมิยาซาวะในเซะตะงะยะ ของโตเกียวได้พบว่าหัวหน้าครอบครัวมิกิโอะ (Mikio) อายุ 44 ปี , ภรรยายาสุโกะ (Yasuko) อายุ 41 ปี  พร้อมด้วยลูกสาวนิน่า (Niina) อายุ 8 ปี  และลูกชาย เรย์ (Rei) อายุ 6 ปี ถูกฆาตกรรมเสียชีวิตในบ้านทั้งหมด

                ฆาตกรได้บุกเข้ามาในบ้าน คาดว่าน่าจะเป็นหน้าต่างในห้องน้ำชั้นสองของบ้าน (เชื่อว่าการลงมือสังหารเกิดขึ้นเวลา 11.30 น.) ฆาตกรได้เดินไปที่ห้องนอนของลูกชายของบ้านและจัดการรัดคอขณะหลับ จากนั้นก็พบมิกิโอะที่กำลังขึ้นบันไดหลังจากได้ยินเสียงผู้บุกรุกขึ้นมา จากนั้นก็ไล่ฆ่าคนในบ้านทั้งหมดด้วยการแทง

                ที่ประหลาดคือหลังจากฆ่าคนเสร็จแล้ว ฆาตกรยังคงใจเย็น ทำการค้นข้าวของในบ้าน เดินไปห้องครัวแล้วกินไอศกรีม และอาหารอื่นๆ จากตู้เย็น ใช้ห้องน้ำ อีกทั้งยังใช้คอมพิวเตอร์ของครอบครัวมิยาซาวะอยู่พักหนึ่ง (ประมาณ 11 ชั่วโมง) จึงได้ออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ที่แปลกอีกคือเงินในบ้านไม่ได้ถูกแตะต้อง อีกทั้งยังทิ้ง มีดที่ใช้เกิดเหตุถูกทิ้งเอาไว้พร้อมกับเสื้อและกระเป๋า พร้อมกันนั้นยังพบเลือดในที่เกิดเหตุที่ไม่ใช่ของครอบครัวมิยาซาวะ

                แม้คดีจะดูเหมือนจะคลี่คลายได้ แต่ปรากฏว่าเวลาผ่านไปนานกว่า 15 ปีตำรวจก็ไม่สามารถจับฆาตกรฆ่ายกครัวมิยาซาวะได้เลย สิ่งที่พอรู้เกี่ยวกับตัวฆาตกรก็มีเพียงว่าฆาตกรไม่น่าจะเป็นคนญี่ปุ่น พ่อของเขาอาจเป็นคนเอเชียตะวันออก และแม่น่าจะมีเชื้อสายยุโรป ซึ่งสอดคล้องกับพยานที่อ้างว่าเห็นคนน่าสงสัยสูงกว่า 1.70 เมตรในที่เกิดเหตุ หากแต่แม้จะมีการตั้งเงินรางวัล 20 ล้านเยนแก่ผู้มาให้เบาะแสก็ไม่ใครมาเสนอตัว ทำให้คดีนี้ยังคงเป็นปริศนา และกลายเป็นหนึ่งในคดีสะเทิอนขวัญของญี่ปุ่นไปแล้ว

ถ้าถามว่า คดีฆ่ายกครัวครอบครัวมิยาซาวะ เป็นต้นแบบของฉากฆ่ายกครัวฉากหนึ่งของ Deathtopia อันนี้ก็ตอบไม่ได้ แต่ลักษณะการฆ่า พฤติกรรมของตัวฆาตกร ที่ฆ่าเยกครัวโดยที่ไม่มีความแค้นเลยแม้แต่น้อย ก็คงเป็นแรงบันดาลใจไม่น้อยให้เกิดฉากนั้น รวมไปถึงการ Elfen Lied  ก็น่าจะมีแรงบันดาลใจเช่นกัน

                อย่างไรก็ตาม คดีฆ่ายกครัวครอบครัวมิยาซาวะอาจเป็นคดีฆาตกรรมฆ่ายกครัวสะเทือนของญี่ปุ่นก็จริง แต่มันยังไม่พิศวง ตำนานไม่พอ เมื่อเทียบกับคดีฆาตกรรมฮินเตอร์เคเฟก (Hinterkaifeck Murders)

 

คดีฆาตกรรมฮินเตอร์เคเฟกของประเทศเยอรมัน เป็นคดีฆาตกรรมสังหารหมู่ครอบครัวกรูเบอร์ 6 คน ประกอบไปด้วยอันเดรส กรูเบอร์ วัย 63 ปี, คาซิลเลีย ภรรยาวัย 72 ปี วิกตอเรีย เกเบรียล ลูกสาววัย 35 ปี และลูกของวิกตอเรีย 2 คนคือ คาซิลเลีย วัย 7 ขวบ และโยเซฟ วัย 2 ขวบ และแม่บ้านมาเรีย บอมการ์ตเนอร์ (ที่ทำงานเพียงหนึ่งวันก่อนฆ่าตัวตาย) พวกเขาอาศัยอยู่ในฟาร์มบนพื้นที่ห่างไกลจากตัวเมืองเล็กน้อย ซึ่งชาวบ้านเรียกมันว่าฮินเตอร์เคเฟก

              เรื่องราวแปลกประหลาดได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อในปลายปี 1921 เมื่อจู่ ๆ แม่บ้านก็เก็บข้าวเก็บของลาออกจากงานอย่างกะทันหันโดยให้เหตุผลว่าเธอเชื่อว่าบ้านที่เธอทำงานอยู่มีผีสิง เธอได้ยินเสียงแปลกประหลาดที่ไม่รู้ที่มาของเสียงหลายครั้ง ต่อมาอันเดรสก็พบรอยเท้าลึกลับบนหิมะซึ่งไม่ใช่ของสมาชิกในบ้าน และมีหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช่ของเขาปรากฏอยู่ในบ้าน

             วันที่ 4 เมษายน เพื่อนบ้านพบสิ่งผิดปกติของครอบครัวอันเดรสจึงเข้าไป เมื่อพวกเขาสำรวจโรงนาก็ภาพสยดสยอง ร่างของ อันเดรส คาซิลเลีย วิกตอเรีย และคาซิลเลีย ถูกนำมากองซ้อนทับกันโดยมีฟางคลุมร่างอยู่ภายในโรงนา

             ชาวบ้านค้นหาสมาชิกที่เหลือก็พบร่างหนูน้อยโยเซฟนอนเสียชีวิตอยู่ในเปล และร่างของมาเรียสาวใช้คนใหม่นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องนอน พวกเขาทั้ง 6 คนถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม ผู้เคราะห์ร้ายมีบาดแผลถูกตีที่ศีรษะเพียงครั้งเดียว อาวุธน่าจะเป็นพลั่ว และไม่มีร่องรอยการต่อสู้  

 แต่ที่น่าประหลาด น่าขนลุก หลังลงมือสังหารหมู่ครอบครัวหมดแล้ว มีความเชื่อกันว่าคนร้ายยังคงอยู่ที่ฟาร์มหลายวัน แถมยังคงดูแลวัวให้ และรับประทานอาหารในห้องครัวอย่างใจเย็น เพราะมีพยานที่เป็นเพื่อนบ้านเห็นควันจากปล่องไฟในช่วงกรูเบอร์ถูกฆ่าไปหลายวันแล้ว

               กว่า 100 คนที่ถูกสัมภาษณ์ในคดีฆาตกรรม แต่ไม่มีใครเคยถูกจับกุมในข้อหา หรือแม้แต่หาไม่สามารถหาแรงจูงใจการฆ่าได้เลย ต่อมาฟาร์มของครอบครัวกรูเบอร์ก็ถูกรื้อถอนจนหายไปจากพื้นที่ เหลิอเพียงแค่ตำนาน  คดีฆาตกรรมฮินเตอร์เคเฟเป็นโหดเหี้ยม ประหลาด และลึกลับมากที่สุดของประเทศเยอรมันเท่านั้น

              อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นคดีฆาตกรรมฮินเตอร์เคเฟกจะน่าพิศวงเพียงไหน เคยมีการนำเรื่องราวทำภาพยนตร์ แต่งนิยาย (ส่วนมากเป็นของเยอรมัน) มากมายหลายเรื่องยังไง แต่เท่าที่ค้นมา คดีนี้ยังไม่เคยเอาไปอ้างอิงในการ์ตูนญี่ปุ่นสักเรื่อง หากใครคนไหนสนใจอยากแต่งนิยายแนวสยองขวัญ หรือเอาเรื่องนี้ไปแต่งนิยายก็ลองเอาเรื่องนี้ไปอ้างอิงดู ก็จะดูน่าสนใจขึ้นไม่มากไม่น้อย

                  จะเห็นได้ว่า เพียงแค่การนำเสนอฉากโหดร้ายทารุณ   นำเสนอภาพพ่อและแม่ที่ถูกฆ่าโหดเหี้ยม แม้แต่เด็กก็ไม่เว้น  ไม่จำเป็นต้องปูเรื่อง ปูอะไรมากมาย มันก้สื่ออะไรได้หลายอย่างแล้ว เกี่ยวกับการนำเสนอตัวฆาตกรที่ก่อคดี ว่ามีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตเพียงใด ผู้ชมก็เกิดอารมณ์ร่วม รู้สึกเกลียดตัวฆาตกร ทำให้อินกับเรนิ้อเรื่องไม่มากก็ไม่น้อย

                แม้ว่า Deathtopia จะน่าผิดหวัง (เพราะมันเละตอนกลางเรื่อง) แต่อย่างไรก็ตามคนแต่งก็ยังไม่พ้นเหนีฆาตกรต่อเนื่อง ด้วยการเข็นผลงานใหม่ ในชื่อเรื่อง ที่ให้พวกสาวๆ ก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ด้วยแต่ละคนมีพลัง (หรืออาจเป็นดีเอ็นเอ) จากฆาตกรที่ม่ชื่อเสียง (บางคนก็ไม่ใช่ฆาตกร ต่อเป็นอาชญากรสงคราม) ซึ่งก็ถือว่าน่าสนใจพอสมควร ในการนำเรื่องเหล่านี้มาอ้างอิง แต่มันจะเมากาว หรือเละหรือไปนั้น ก็ต้องติดตามต่อไป