สะเนก ๆ ฟิช ๆ อังกฤษกะหล่งป๊งกะเจ๊กอล์ฟ - สะเนก ๆ ฟิช ๆ อังกฤษกะหล่งป๊งกะเจ๊กอล์ฟ นิยาย สะเนก ๆ ฟิช ๆ อังกฤษกะหล่งป๊งกะเจ๊กอล์ฟ : Dek-D.com - Writer

    สะเนก ๆ ฟิช ๆ อังกฤษกะหล่งป๊งกะเจ๊กอล์ฟ

    บทความสอนภาษาอังกฤษแบบงู ๆ ปลา ๆ ของคนสอนความรู้เท่าหางอึ่ง ตั้งแต่พื้นฐาน

    ผู้เข้าชมรวม

    636

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    636

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 พ.ย. 49 / 12:30 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

      สวัสดีค่ะ บทความนี้เป็นบทความแรกของดั๊นนะคะที่เขียนขึ้นมาเพื่อนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ แม้จะเป็นสิ่งที่มิค่อยถนัดสักเท่าไหร่ แต่ก้อพอรู้บ้าง งู ๆ ปลา ๆ ตามชื่อบทความล่ะค่ะ

                      สิ่งแรกที่อยากจะนำเสนอก็คือ หน่วยต่าง ๆ ของภาษาที่มีตั้งแต่หน่วยที่เล็กที่สุด ไปจนถึงหน่วยที่ใหญ่ที่สุดน่ะค่ะ เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจในตัวโครงสร้างภาษาให้มากขึ้น ลองดูรูปภาพประกอบแล้วกันนะคะจะได้ไม่งง


       


       (ที่มา: อารีลักษณ์ หาญมนตรี. ระบบไวยากรณ์อังกฤษ (English Syntax). ชลบุรี : คณมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. 2548)

               เจ๊จะเม้าท์ตั้งแต่ Phoneme หรือ หน่วยเสียงก่อนนะคะ อ่ะสมมุติว่าเจ๊ให้คำว่า dog  มาให้เป็นตัวอย่าง แล้วถามว่าคำนี้มีกี่หน่วยเสียง  ตอบกันได้ไหมว่าเท่าไหร่ บางคนจะต้องตอบว่า 1 หน่วยเสียง แต่จริง ๆ แล้วผิดนะคะ ถ้าบอกว่า 1 พยางค์น่ะถูกต้อง แต่ถามว่ากี่ phoneme เราก็ต้องมานั่งสะกดกันทีละตัวเลยค่ะหรือไม่ก็ถอดเสียงออกมาเป็นสัทธอักษร (Phonetic Alphabet) ซึ่งก็จะได้เป็น /dg/ ก็จะมีทั้งหมด 3 หน่วยเสียง คือ เสียง /d/, // และ /g/

      คำถามที่ 1 คำว่า
      clean มีทั้งหมดกี่หน่วยเสียงคะ (ตอบทางช่อง comment ก็ได้ค่ะ ใครตอบถูกจะหอมแก้มเหี่ยว ๆ 1 ฟอด)

                      หน่วยต่อไปเป็นหน่วยความหมายหรือ Morpheme ขอเอาคำเดิมมาช่วยทำมาหากินอีกครั้งละกันนะคะ คือเจ้า dog เนี่ยล่ะค่ะ น้อง ๆ ว่าเจ้าคำนี้มันมีกี่หน่วยความหมายคะ ... อะไรนะคะ ... ถะถะ.... ถูกต้องแล้วค่ะ มีแค่ 1 หน่วยความหมายเองค่ะ คือ หมายถึงสุนัข แต่ถ้าหากเจ๊เติม -s ไปท้ายคำ (dogs) ล่ะคะจะมีกี่หน่วยความหมาย ใช่แล้วค่ะ มันจะเพิ่มความหมายขึ้นมาอีก 1 หน่วยค่ะ คือตัวบอกพจน์ ในที่นี้ก็คือ พหูพจน์ (dog + PLURAL)
        

      คำถามที่ 2 คำว่า spoke ที่แปลว่าพูด มีกี่ morpheme คะ?

                      เมื่อหน่วยเสียงหลาย ๆ หน่วยเสียงมารวมกันเยอะ ๆ ก็จะครบองค์ประกอบเป็นหน่วยความหมาย  ส่วนหน่วยความหมายหลาย ๆ หน่วยความหมายมารวมกันก็จะเกิดเป็น "หน่วยคำ" ไงคะ ในส่วนของหน่วยคำคงไม่มีปัญหาเท่าไรนักนอกเสียจากปัญหาเดียวที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่ คือ ปัญหาเรื่องการบอกชนิดของคำ เพราะไม่รู้ความหมายของคำ พอไม่รู้ความหมายก็เลยระบุไม่ได้ว่าคำนั้นเป็นคำชนิดอะไร เจ๊เข้าใจถูกชิมิคะ สรุปก็คือ คราวหน้าเจ๊จะมาพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง


      คำถามที่ 3
      ประโยค She sells seashells on the seashore.  มีกี่หน่วยคำคะ


                     
      เมื่อคำหลาย ๆ คำมารวมกันก็จะเกิดกลุ่มคำ หรือภาษาไวยากรณ์เรียกว่าวลี
      (Phrase) แต่วลีจะต่างจากอนุประโยคและประโยคตรงที่ว่า วลีจะไม่สามารถบอกได้ว่าใครทำอะไร กล่าวง่าย ๆ ก็คือ มันไม่มีกริยาเป็นตัวแสดงอาการค่ะ ตรงนี้จะมีคนงงกันมาก ถ้างงก็จิกถามมาได้นะคะ อ่ะ! เจ๊จะลองยกตัวอย่างนะคะ อาทิ

      §       the girl in that sweet blouse (ชะนีน้อยที่ใส่เสื้อสีหวาน ๆ นางนั้นน่ะ) หรือไม่ก็

      §       on the corner of that street (ตรงมุมถนนสายนั้น)

      จากตัวอย่างที่เจ๊ให้มาจะเห็นได้ว่ามันไม่ได้บอกว่าใครทำอะไร บอกแค่ "ชะนี้น้อยกับส่วนขยายว่าใส่เสื้อสีหวาน"  กับบอกว่า "ตรงมุมถนน"


      คำถามที่ 4
      บอกเจ๊ซิคะ ว่าข้อไหนเป็นแค่วลี

      1)      After the period of little rain

      2)      The surface of the sun is yellow

      3)      A famous novelist in the white car

      4)      His classical music and arts

      5)      Once the major city of Thailand

      6)       The death of Apichart Puapimon is now topical in Thailand.

      สองหน่วยต่อไปนี้เป็นหน่วยที่สร้างปัญหาให้กับเรา ๆ ท่าน ๆ อยู่มิชิน้อยนะคะเนี่ย คือ อีนัง Clause หรืออนุประโยคนี่แหละ เพราะมันมีโครงสร้างที่คล้ายกับประโยคมาก ๆ ก็เลยทำให้ใครหลาย ๆ คน งงจนเจ๊ต้องไปไล่นกเอี้ยงที่เกาะอยู่บนหลังให้ สรุปให้ง่าย ๆ ก็ คือ เจ้า clause นี่นะคะมีโครงสร้างเหมือนประโยคทุกประการ คือ มีภาคประธานและภาคแสดง (S[ubject] – V[erb]) นั่นเอง เพียงแต่เจ้า clause มันจะมีติ่งเกาะอยู่ด้วย ติ่งที่ว่านี้เจ๊เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า "marker" แล้วกันนะคะ เช่น

      §       although J'Golf is pretty (แม้ว่าเจ๊กอล์ฟจะสวยน่ารัก)  

      §       whom you met last night (คนที่เธอเจอเมื่อคนไง)

      §       what we should do now (สิ่งที่เราควรจะทำในตอนนี้) 

      เป็นไงคะ พออ่านclause พวกนี้แล้ว เราจะรู้สึกค้างคาใจยังไงก้อไม่รู้ ฟังแล้วรู้สึกว่ามันไม่ครบถ้วนกระบวนความเอาเสียเลย เช่น although J'Golf is pretty (แม้ว่าเจ๊กอล์ฟจะสวยน่ารัก [แล้วไงต่อล่ะยะ]), whom you met last night (คนที่เธอเจอเมื่อคนไง [แล้วไงเหรอ]), what we should do now (สิ่งที่เราควรจะทำในตอนนี้ [แล้วมึงจะให้กูทำไรล่ะ]) เห็นมะคะเจ้าคำที่เจ๊ขีดเส้นใต้เค้าเรียกว่า marker มันเป็นตัวที่ทำให้อนุประโยคใจความไม่สมบูรณ์ ถ้าเราลองตัดมันออกมันก้อจะสมบูรณ์ เช่น J'Golf is pretty. (เจ๊กอล์ฟสวยน่ารัก) แค่นี้เราก้Hได้ประโยคที่ได้ใจความสมบูรณ์  หรือในอีกกรณีหนึ่งก็คือ เราสามารถนำประโยคมาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปได้ เช่น

      §       Although J'Golf is pretty, she is very naughty

      (แม้ว่าเจ๊กอล์จะสวยน่ารัก แต่คุณเธอก้อสุดแสนจะแก่นแก้ว)

      §       I don't like the girl whom you met last night.

      (ฉันไม่ชอบหนังหน้านังชะนีที่เธอมันเมื่อคืนเลยอ่ะ)

      §       What we should do now is to stay silent.

      (สิ่งที่เราควรจะทำในยามนี้คืออยู่เงียบ)

      คำถามที่ 5 ข้อไหนเป็น Clause และข้อไหนไม่เป็น เพราะอะไรถึงไม่เป็น

      1)      "Mona Lisa" was painted by Leonardo da Vinci.

      2)      Birds are not the only animals that fly

      3)      When the sun is in the stage of white dwarf star

      4)      What did you do last night

      5)      As soon as the bullets hit her

      6)      since Tyke had previously been violent

      สรุปอย่างง่าย ๆ ก็คือ อนุประโยค (Clause) อยู่แบบโดดเดี่ยวผู้น่ารักไม่ได้ ต้องเอามารวมกับประโยคและจะได้เป็นประโยคที่มีใจความสมบูรณ์อย่างลงตัว (ถ้าเขียนถูกนะคะ อิอิ)

      สำหรับหน่วยอนุเฉท หรือย่อหน้านั้นมันก็เกิดจากการที่เอาประโยคมาเขียนหลาย ๆ ประโยค จนรวมกันได้เป็นย่อหน้านั่นแหละค่ะ ส่วนวจนะหรือ Discourse เป็นข้อความต่อเนื่องที่เขียนรวมกันเป็นขนาดใหญ่ที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ เช่น หนังสือ สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์นั่นเอง

      เป็นไงคะ ถ้าอะฮั้นเขียนแล้วงง ๆ ก็อย่าว่ากันนะคะ เพราะตัวเองยังพูดไม่ค่อยจะรู้เรื่องกับเค้าเลย อิอิ ใครสงสัยในส่วนไหนก็ถามเข้ามานะคะ (จะมีไหมเนี่ย?) วันนี้พอแค่นี้ละกันนะคะ ไปนอนก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ จุ๊บ ๆๆๆๆ ....

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×