ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Snape The last prince สเนป เจ้าชายองค์สุดท้าย

    ลำดับตอนที่ #33 : 26 (จบแล้ว)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 432
      32
      11 เม.ย. 62

    งานเลี้ยงที่คฤหาสน์สคาร์มันเดอร์
    ลูน่า สคาร์มันเดอร์ ยังคงสดใสเหมือนที่เธอเป็นสมัยนักเรียน เธอแต่งชุดกระโปรงสีม่วงแปลกตาและใส่ต่างหูรูปกะหล่ำปลี ลูกชายฝาแฝดของเธอลอร์แกนกับไลแซนเดอร์ แต่งตัวด้วยเสื้อคลุมสีฟ้า ใส่ต่างหูรูปสตอเบอรี่คนละข้าง รอล์ฟ สคาร์มันเดอร์ยืนต้อนรับแขกอยู่หน้าบ้าน
    “ เชิญเลยครับ เชิญเลย ทำตัวตามสบายนะครับ”
    แขกต่างทยอยกันเข้ามาบ้าน ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกกองทัพดัมเบิลดอร์และภาคีนกฟีนิกซ์ งานเลี้ยงคืนนี้จึงเหมือนเป็นงานสู่เหย้ากลายๆของพวกเขา
    สกอร์เปียสแต่งตัวด้วยเสื้อคลุมอย่างดี ผมของเขาถูกหวีจนเรียบแปล้กว่าเดิม ถ้านั่นจะเป็นไปได้ เขากวาดสายตาหาคนที่ต้องการและก็พบพอดี โรสยืนอยู่ตรงนั้นกับน้องชายของเธอและสามพี่น้องตระกูลพอตเตอร์ รวมทั้งลีโอ แบล็ค
    “ ผมไปหาโรสก่อนนะครับ” สกอร์เปียสขออนุญาตผู้เป็นพ่อ
    เดรโกพยักหน้า ท่าทางลูกชายเขาจะชอบเด็กสาวเลือดผสมคนนั้นจริงๆ เห็นทีว่าตระกูลมัลฟอยที่เป็นหนึ่งในตระกูลเลือดบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์จะต้องมาจบสิ้นที่รุ่นนี้เสียแล้วกระมัง แต่เดรโกก็ไม่คิดว่าความสุขของลูกชายจะแลกกับอะไรได้แม้จะเป็นชื่อเสียงของตระกูลมัลฟอยก็ตามที ขึ้นอยู่กับวีสลีย์และเกรนเจอร์แล้วล่ะ ว่าจะรับลูกชายเขาได้ไหม
    “ สวัสดีทุกๆคน” สกอร์เปียสทักทาย “ สบายดีกันไหม”
    “ สบายดี แล้วว่าที่น้องเขยเป็นยังไง สบายดีไหม” เจมส์ล้อ
    “ เราเป็นแค่เพื่อนกันเฉยๆนะ เจมส์” อัลบัสว่า ใบหน้าแดงก่ำ ไม่รู้เพราะเขินหรือโกรธกันแน่
    เจมส์เลิกคิ้ว “ ฉันหมายถึงกับโรสต่างหาก ถึงจะไม่ใช่น้องสาวแต่ฉันก็รักเหมือนน้องสาวแท้ๆ ทำไมนายต้องคิดมากด้วยล่ะ อัล”
    โรสทุบหลังญาติผู้พี่ “ อย่าพูดจาไร้สาระน่า เจมส์ ตอนนี้ฉันกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย”
    “แต่อีกเดี๋ยวก็เป็นใช่ไหมฮะ” ฮิวโก้ถาม มองดูพี่สาวและสกอร์เปียสสลับกันไปมาอย่างมีความหวัง จะหาพี่เขยดีขนาดนี้ได้ที่ไหนอีก ทั้งหล่อ รวย ชาติตระกูลดี แถมยังเข้ากับครอบครัวเขาได้อีก
    โรสจ้องน้องชายเขม็ง “ เป็นเด็กเป็นเล็ก ยุ่งแต่เรื่องของตัวเองเถอะ กับซีเนนไปถึงไหนแล้วล่ะ”
    “ ก็แค่รุ่นพี่คนละบ้านเอง” ฮิวโก้ตอบโดยไม่สบตา
    เจมส์ตบไหล่ญาติผู้น้องเบาๆ “ เขาจีบก็บอกมาว่าเขาจีบ ดูอย่างลีโอสิ”
    ลีโอสะดุ้ง “ เกี่ยวอะไรกับฉัน”
    “ ซีวัลด์จีบนายอยู่ใช่ไหมล่ะ” เจมส์ว่า
    “ ไม่ใช่” ลีโอปฏิเสธแข็งขัน แต่ก่อนที่ใครจะพูดอะไร เขาก็พูดต่อว่า “ เราคบกันแล้ว ไม่ใช่แค่จีบ”
    “ ว่ายังไงนะ” เสียงอย่างฟ้าร้องดังขึ้น แต่ไม่ใช่เสียงจากพวกเด็กๆ
    ซิเรียสนั่นเอง เขามายืนฟังอยู่นานแล้ว ตอนแรกที่เขารู้ว่าสกอร์เปียสจะจีบโรสก็ไม่พอใจนิดหน่อย แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะโรสไม่ใช่ลูกเขา แต่นี่ลีโอ ลูกชายของเขากำลังถูกลูกสเนปล่อลวง เขายอมไม่ได้เด็ดขาด เป็นเพื่อนกันก็เรื่องหนึ่ง แต่เป็นแฟน
    “ อ้าว พ่อซิเรียส” ลีโอร้องอย่างยินดี “ ผมกะจะบอกพ่อคืนนี้นะเนี่ย ไหนๆก็รู้แล้ว ผมบอกเลยละกัน ผมกับซีวัลด์คบกันแล้วนะครับ จะครบเดือนแล้ว”
    ซิเรียสพยายามสะกดกลั้นโทสะ เดือน 1 เดือนหนึ่งที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย
    “ สเนป!” ซิเรียสตะโกนเรียก “ มานี่หน่อย ฉันมีเรื่องจะเคลียร์กับแก”
    เซเวอร์รัสเดินสะบัดเสื้อคลุมมา สีหน้าไม่สบอารมณ์นัก
    “ โหวกเหวกโวยวายเป็นหมาบ้าไปได้ แบล็ค” เซเวอร์รัสว่า “ มีเรื่องอะไร”
    “ แกรู้ไหมว่าลูกแกกับลูกฉันคบกัน” ซิเรียสรุก
    เซเวอร์รัสไม่ได้มีทีท่าประหลาดใจ “ ซีวัลด์บอกฉันแล้ว เขาบอกว่าลูกนายขอเขาเป็นแฟน ผมไม่แน่ใจว่าจะตกลงดีไหมเพราะเห็นว่าฉันกับนายไม่ถูกกัน”
    “ โกหก!” ซิเรียสตะโกน “ ลูกฉันหรือจะไปขอลูกแก ลูกแกต่างหากที่จะมาตามตื๊อลูกฉัน เหมือนที่แกทำกับลิลี่ ตื๊อจนน่ารำคาญ”
    เซเวอร์รัสกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ริมฝีปากเม้มบาง เริ่มมีพังพานแผ่เหนือศีรษะ
    โกเมศวิ่งเข้ามาทันที เขากอดเอวเซเวอร์รัสไว้แน่น “ ใจเย็นๆก่อนครับ เซวี่ จะพ่นพิษตรงนี้ไม่ได้นะ”
    เซเวอร์รัสหลับตา เขาพยายามควบคุมโทสะ
    “ เซเวอร์รัสพูดเรื่องจริงครับพ่อ” ลีโอเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ “ ผมเป็นคนตามจีบเขา แล้วก็ขอเขาเป็นแฟนด้วย ที่ผมบอกว่าไม่ได้วิชาปรุงยาน่ะ โกหกทั้งเพ ผมแค่อยากหาเรื่องใกล้ชิดเขา ผมไม่รู้ว่าพ่อกับเซเวอร์รัสไม่ถูกกัน ผมเลยกะจะไม่บอกจนมั่นใจว่าเราคบกันได้นานพอ”
    ซิเรียสยกมือขึ้นลูบหน้าผาก เขาจับไหล่ทั้งสองข้างของลูกชาย ก่อนจะสบตาสีเทาของลีโอ
    “ ลูกไม่ได้โดนยาเสน่ห์ใช่ไหม” เขาถาม ตวัดสายตาไปที่เซเวอร์รัสอย่างมีความหมาย
    เซเวอร์รัสกำลังจะเถียง แต่โกเมศขัดขึ้นก่อน
    “ พวกเราเหล่านาคไม่เคยใช้วิธีสกปรกๆแบบนั้นผูกใจคนอื่น” เขาพูดด้วยเสียงเย็นชา “ ถ้านายไม่เชื่อจะให้นักปรุงยาทั่วสารทิศมาตรวจดูก็ได้ ซีวัลด์ไม่ใช้ยาเสน่ห์ และไม่จำเป็นต้องใช้”
    “ ลีโอไม่ได้ถูกยาเสน่ห์หรอกค่ะ ลุงซิเรียส” โรสว่าอย่างมีเหตุมีผล “ คนถูกยาเสน่ห์จะไม่เป็นตัวของตัวเอง จะเพ้อถึงคนคนนั้นตลอดเวลา แต่ลีโอยังเป็นปกติ เข้าเรียนได้ หยอกล้อกับเพื่อนได้ ใช่ไหม เจมส์” ตอนท้ายเธอหันไปหาเจมส์เพื่อขอเสียงสนับสนุน
    ถึงเจมส์จะเป็นพวกชอบล้อเล่น ไม่ผิดอะไรกับคนที่ให้ชื่อต้นและชื่อกลางแก่เขา แต่เขาก็มีมุมจริงจังบ้างเหมือนกัน เขาจึงตอบไปว่า “ โรสพูดถูกนะครับ ลุงซิเรียส ลีโอไม่ได้ถูกยาเสน่ห์แน่นอน ผมเอาตำแหน่งกัปตันทีมควิชดิชเป็นประกันเลย” สำหรับเจมส์ ตำแหน่งกัปตันทีมสำคัญยิ่งกว่าชีวิตเสียอีก เขาจึงเอามันมาเป็นประกัน
    ซิเรียสทำท่าฮึดฮัด เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่พอใจอยู่แต่ก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาเถียง
    “ ถ้าแกรังแกลูกชายฉัน” เซเวอร์รัสพูดเสียงเหี้ยมเกรียม “ นาคทั้งสองตระกูลจะเป็นปฏิปักษ์กับนาย”
    “ ใช่” โกเมศสนับสนุน “ อย่าแม้แต่จะคิด”
    “ ถ้าพ่อซิเรียสแกล้งเขา ผมจะพาซีวัลด์หนีไปให้ไกลและจะไม่กลับมาหาพ่ออีกเลย” ลีโอขู่ เขาไม่รู้ว่าพ่อซิเรียสกับเซเวอร์รัสมีเรื่องอะไรกันสมัยเป็นนักเรียนและไม่อยากจะรับรู้ด้วย เขาแค่ไม่คิดว่าความรักของเขาควรจะมีอุปสรรคเพราะผู้ใหญ่ไม่ถูกกัน
    “ เธอมาบ้านฉันได้เสมอ ลีโอ” เซเวอร์รัสพูด ตั้งใจแกล้งยั่วให้ซิเรียสโกรธ “ บางทีลูกไม้ก็หล่นไกลต้นได้ จริงไหม”
    “ พอกันที” ซิเรียสตะโกน “ จะคบก็คบ เวลาเลิกกันขึ้นมา อย่ามาร้องไห้น้ำตาเช็ดหัวเข่าให้ฉันเห็นแล้วกัน”
    “ โมโหอะไรเนี่ย ซิริ” เฟร็ดเดินเข้ามาร่วมวง ในมือถือแก้วแชมเปญมาด้วย
    ด้วยความดีใจที่จะได้พวก .ซิเรียสรีบฟ้องทันที “ ลูกเราไปคบกับลูกสเนป นายคิดยังไงบ้าง เฟร็ด”
    ปฏิกิริยาของเฟร็ดต่างจากที่ซิเรียสคาดหวัง “ ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ เด็กจะรักกัน นายก็อย่าไปขัดขวางเลย”
    ซิเรียสเดินกระทืบเท้าออกจากวง ปากก็บ่นพึมพำ “ ไม่มีใครเข้าข้างฉันเลย”
    ลีโอทำท่าคิดหนัก “ ผมทำให้พ่อซิเรียสงอนอีกแล้ว จะทำยังไงดีเนี่ย”
    “ เดี๋ยวพ่อไปง้อเอง” เฟร็ดบอกลูกชาย เขารีบวิ่งไปง้อคนรัก
    เสียงเพลงเปิดงานดังขึ้น คู่รักหลายคู่ต่างเต้นรำด้วยกัน บ้างก็เต้นรำอย่างสง่างามเข้ากับจังหวะดนตรี บ้างก็เต้นผิดจังหวะ โดยเฉพาะคู่เนวิลล์กับเเฮนนาห์ เขาเหยียบเท้าเธออยู่บ่อยๆ ดูเหมือนทักษะการเต้นรำของเขาจะไม่พัฒนาไปกว่าตอนปี 4 สักเท่าไหร่
    สกอร์เปียสโค้งคำนับให้โรส เขายื่นมือออกไปข้างหน้า “ ให้เกียรติเต้นรำกับผมนะครับ”
    โรสลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ ก็เอาสิ” เธอให้เขาจูงไปที่ฟลอร์เต้นรำ
    ทั้งคู่เต้นรำกันอย่างสง่างาม สกอร์เปียสฝึกทักษะการเต้นรำมาตั้งแต่เด็ก เขาเป็นผู้นำในการเต้นรำ ทั้งคู่เต้นเข้าจังหวะกันได้ดี ไม่มีติดขัด ผู้คนต่างชื่นชม
    “ นั่นลูกของเดรโก มัลฟอยใช่ไหม เต้นรำสวยดีนะ”
    “ เด็กสาวที่เขาเต้นรำด้วยเป็นพวกเลือดผสมนี่นา”
    “ อย่างนี้แสดงว่าไม่บ้าคลั่งเลือดบริสุทธิ์แล้ว”
    “ เหมาะสมกันดีจริงๆนะ ผู้ชายก็หล่อ ผู้หญิงก็สวย”
    “ อิจฉาเด็กสาวคนนั้นจัง ได้เป็นแฟนคุณชายมัลฟอยสบายไปทั้งชาติ”
    “ เธอคงจะไม่คิดแย่งหรอกนะ”
    “ ใครจะไปกล้าแย่ง ดูสายตาที่ 2 คนนั้นส่งให้กันสิ แพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มลงแข่งแล้ว”
    จริงอย่างที่พวกเขาว่า ทั้งสองส่งสายตาลึกซึ้งให้แก่กัน อัลบัสทนดูภาพบาดใจอย่างนี้ไม่ไหวแล้ว เขาเดินออกจากบริเวณที่จัดงานเลี้ยงและเดินเตร่ไปถึงสวนหลังบ้าน ฝาแฝดตะกูลสคามันเดอร์คนหนึ่งอยู่ที่นั่น อัลบัสไม่แน่ใจว่าเป็นลอร์แกนหรือไลแซนเดอร์ เขาใส่ต่างหูข้างซ้าย
    “ นาร์เกิ้ลนายดูไม่ค่อยมีความสุขนะ” เขาทักทาย “ ถ้านายสงสัยว่าฉันเป็นใคร ฉันคือลอร์แกน”
    อัลบัสรู้สึกประหลาดใจกับคำทักทายที่แปลกหูนี้ “อะไรคือนาร์เกิ้ล”
    “ มันเป็นหัวขโมยเล็กๆที่ซุกซน มันอยู่กับพ่อมดแม่มดทุกคน แต่ว่ามันล่องหนได้เลยไม่มีใครเห็นมัน มันจะช่วยบอกอารมณ์ของพ่อมดแม่มดได้” ลอร์แกนอธิบายด้วยสีหน้าจริงจัง
    อัลบัสนั่งลงข้างๆเขา เขาไม่เคยได้ยินเรื่องนาร์เกิ้ลมาก่อนเลย ในตำราสัตว์วิเศษของเขาก็ไม่เคยพูดถึงพวกมัน แต่ลอร์แกนเป็นเหลนชายของนักสัตววิทยาที่มีชื่อเสียง อาจจะรู้อะไรมากกว่าเขาก็ได้ เขาอยากมีเพื่อนคุยด้วย คุยเรื่องอะไรก็ได้ที่ทำให้เขาเลิกคิดถึงสกอร์เปียส
    “ นาร์เกิ้ลนายไม่มีความสุข” ลอร์แกนพูดต่อ “ ก็แสดงว่านายไม่มีความสุข เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุมและหยิบขนมสีสันสดใสออกมา “ กินสักหน่อย จะได้อารมณ์ดี”
    อัลบัสรับไปกิน รสชาติหวานอร่อย ทั้งคู่นั่งกันอยู่ในความเงียบที่น่าพึงพอใจ ลอร์แกนไม่ถามเขาว่าทำไมเขาถึงมาที่สวนหลังบ้าน แทนที่จะอยู่ในงานเลี้ยง ทำไมเขาถึงอารมณ์ไม่ดี เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกขอบคุณ เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมน้าลูน่าถึงเป็นเพื่อนรักของพ่อแม่เขา คงจะเป็นเพราะทักษะการรับฟังของเธอนั่นเอง และลอร์แกน ลูกชายของเธอก็ดูเหมือนจะได้ทักษะนี้มาเต็มเปี่ยม
    “ คนที่ฉันแอบชอบจะไปคบกับคนอื่นแล้ว” อัลบัสว่า
    ลอร์แกนฟังเงียบๆ เขาไม่ออกความเห็นใดๆ
    “ ฉันน่าจะสารภาพรักกับเขาก่อน” อัลบัสพูดเศร้าๆ “ ตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว”
    เขาพูดเพ้อไปเรื่อยๆ เหมือนกับพูดกับตนเองมากกว่าพูดกับคนที่นั่งข้างๆ
    “ ทำไมฉันถึงโง่แบบนี้นะ ขี้ขลาดตาขาว ไม่กล้าแม้แต่จะบอกเขาว่าตัวเองรู้สึกยังไง” เขาใช้มือทุบหัวตัวเองแรงๆ
    ลอร์แกนจับมือเขาไว้แน่น “ ไม่ทำร้ายตัวเอง” เขาพูดอย่างหนักแน่น “ นายอาจเป็นแค่คนตัวเล็กๆบนโลกนี้ แต่นายอาจเป็นโลกทั้งใบของใครบางคน”
    “ ใครล่ะ” อัลบัสถาม
    “ เหา” ลอร์แกนตอบอย่างจริงจัง
    อัลบัสหัวเราะทั้งน้ำตาอย่างไม่เต็มใจนัก เป็นไปไม่ได้เลยที่จะพูดเรื่องเครียด ถ้ามีเจ้าหมอนี่อยู่ด้วย

    talk ขอแสดงความเสียใจกับคนที่เชียร์คู่สกอร์บัสด้วยค่ะ พระเอกของอัลบัสตัวจริงมาแล้ว ฝากลอร์แกนด้วยค่ะ //โค้ง

    Talk2 นาร์เกิ้ลเป็นสัตว์ที่ลูน่าพูดถึงค่ะ จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่รู้ว่ามีจริงหรือเปล่า

    ลอร์แกน สคาร์มันเดอร์

    ไลแซนเดอร์  สคาร์มันเดอร์

    แก้เนื้อหา

    นี่ช่างไม่ยุติธรรมสำหรับเจมส์ พอตเตอร์จริงๆ ทำไมเขาต้องอยู่ในงานเลี้ยง เมื่อน้องชายสุดรักของเขาออกไปข้างนอกได้ อัลชอบเด็กมัลฟอย มองจากชั้น7ลงมาก็ยังรู้ แต่เด็กนั่นไม่ได้ชอบอัล โชคดีของมัลฟอยที่หมอนั่นไม่เคยให้ความหวังน้องเขา ถ้าใครก็ทำให้น้องเขาเสียใจล่ะก็ เจมส์คนนี้จะฉีกมันออกเป็นชิ้นๆ เขาว่าจะไปตามหาอัลสักหน่อยดีกว่า ไม่ใช่เสียใจมากจนคิดฆ่าตัวตายหรอกนะ

    *********************************"

    ภาพที่ปรากฏแก่สายตาทำให้เจมส์เบ้ปาก น้องชายที่เขาคิดว่าต้องร้องไห้ฟูมฟายแน่ๆ กลับกำลังคุยกับเด็กสคาร์มันเดอร์อย่างสนิทสนม หัวร่อต่อกระซิกกัน นั่นๆมีจับแก้มกันด้วย จะมากไปแล้วนะ สัญชาตญาณหวงน้องของคนเป็นพี่พุ่งขึ้น เขาขยับตัวออกจากที่ซ่อน แต่มีมือนึงกระชากเขากลับไป

    “ อย่าไปกวนคนเขาคุยกันเลย นาร์เกิ้ลเขาดูมีความสุข” เจ้าของมือนั้นพูดฝันๆ “ ฉันไลแซนเดอร์นะ” เขาเสริม

    “ มันกล้าแตะต้องน้องฉัน” เจมส์พูดเสียงลอดไรฟัน “ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะจัดการมัน”

    ไลแซนเดอร์ถือว่าแข็งแรงทีเดียวเมื่อเทียบกับรูปร่างของเขา เขาพูดเสียงหนักแน่น “ไม่ได้”

    “ เจ้าบ้านี่” เจมส์ขู่ฟ่อ พยายามสะบัดตัวออก

    “ได้ยินเสียงโวยวายอะไรไหม ลอร์ก” อัลบัสว่า ช่วงเวลาที่ถูกรังแกในฮอกวอสต์ทำให้หูของเขาดีขึ้นมาก เซเวอร์รัส เจ้าของชื่อกลางของเขาเคยพูดว่า “ คนชื่อเซเวอร์รัสโชคร้ายทุกคน”

    ลอร์แกนที่กำลังพูดถึงสนอร์แคกเขาย่นหยุดกระทันหัน พออัลบัสพูดขึ้นมาก็จริงเสียด้วย ทั้งคู่ลุกขึ้นและเดินไปทางต้นเสียง

    “ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ สคาร์มันเดอร์” เจมส์โวยวาย พยายามดิ้น ทั้งสองกลิ้งหลุนๆออกมาจากที่ซ่อน ทั้งทุบทั้งต่อยกันอุตลุด เจมส์ขึ้นคร่อมไลแซนเดอร์ โกรธเสียจนไม่รู้ว่าตัวเองออกมาจากที่ซ่อนแล้ว “ กล้าดียังไง กล้ามาขวางไม่ให้ฉันช่วยอัล เจ้านั่นกำลังลวนลามน้องฉันนะ”

    “ แต่ที่นายกำลังทำ” ลอร์แกนพูดเสียงเย็น ผิดกับบุคลิกของเขาอย่างยิ่ง “ ยิ่งกว่าลวนลามอีกนะ”

    เจมส์ได้สติคืนมา เขาลุกออกจากตัวของไลแซนเดอร์ ปัดฝุ่นออก อัลบัสกับลอร์แกนจ้องเขม็งมาที่เขา ขณะที่ไลแซนเดอร์ยังนั่งงงๆอยู่บนพื้น ลอร์แกนปรี่ไปหาฝาแฝด “เขาทำอะไรนาย ไล บอกฉันสิ” เขาพยุงน้องชายขึ้น “ ไป ไล เข้าบ้านกัน” ทั้งคู่เดินหายลับไป

    “ ฉันรู้ว่านายชอบล้อเล่น” อัลบัสพูดอย่างเย็นชา “ แต่ไม่คิดเลยนะว่านายเป็นพวกโรคจิตด้วย”

    เจมส์ตะลึง อ้าปากค้าง “ ฉันไม่ใช่โรคจิตนะ อัล”

    “ นายขึ้นคร่อมไลแซนเดอร์ยังงั้น” อัลบัสว่า “ จะให้คิดยังไง เขาตัวเล็กกว่านายตั้งเยอะ”

    “ เฮ้ย” เจมส์ท้วง “ ก็ฉันจะมาช่วยนาย แต่เจ้านั่นขวางฉัน มันเป็นอุบัติเหตุนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

    อัลบัสเลิกคิ้ว “ ทำไมนายต้องช่วยฉัน ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”

    “ ก็ เจ้าหมอนั่นลวนลามนายนี่” เจมส์ว่า

    อัลบัสยิ่งงงเข้าไปใหญ่ “ เขาลวนลามฉันตอนไหน เราแค่คุยกันเฉยๆเอง”

    “ มันจับแก้มนาย” เจมส์ตะโกน “ มันกล้าแตะต้องน้องฉัน”

    อัลบัสส่ายหัวอย่างเอือมระอา “ ฉันโตแล้วนะ เจมส์ ฉันจะคุยกับใคร ใครจะจับแก้มฉัน มันก็เรื่องของฉัน”

    เจมส์อ้าปากค้าง “ นายคงไม่ได้คิดจะคบกับหมอนั่นเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเด็กมัลฟอยหรอกนะ นี่เป็นยุทธวิธีของสลิธีรินหรือเปล่า”

    อัลบัสกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ เจมส์เคยล้อเล่นกับเขาหลายเรื่อง แต่นี่เกินเลยไปมากแล้ว เจมส์กำลังดูถูกเขาและดูถูกบ้านของเขาด้วย

    “ ฉันเกลียดนาย” อัลบัสพูดเสียงลอดไรฟัน เขาหันหลังและเดินจากไป ทิ้งให้เจมส์ยืนตะลึงงันอยู่คนเดียว

    “ ฉันทำเพื่อนายนะ ไอ้น้องโง่” เจมส์ตะโกนไล่หลังไป

    Talk 1 กลับมาตามสัญญาแล้วค่ะ ไม่ได้แต่งนานเลย

    Talk2 เจมส์ทำอะไรผิด แค่หวงน้องเฉยๆเอง


    ต่อ

    อัลบัสไม่เข้าใจเจมส์เอามากๆ เขารู้ว่าพูดแบบนั้นทำให้เจมส์ยิ่งอารมณ์เสีย ความจริงแล้วก็ใช่ว่าพวกเขาไม่รู้จักพี่น้องสคาร์มันเดอร์เสียหน่อย น้าลูน่าเป็นเพื่อนของแม่ ตอนเด็กๆพวกเขาก็เคยเล่นด้วยกันบ่อยจะตายไป ถึงเมื่อตอนที่ครอบครัวสคาร์มันเดอร์ย้ายบ้านไปเมื่อตอนที่อัลบัสอายุ6ขวบ และก็แทบไม่เจอหน้ากันอีกก็เถอะ แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาเป็นคนแปลกหน้าสักหน่อย จะเป็นคนแปลกหน้าได้อย่างไรเมื่อหนึ่งในฝาแฝดนั่นขอเจมส์แต่งงาน

    2014

    อัลบัสในวัย6ขวบกำลังเล่นกับลิลี่ผู้เป็นน้องสาวและเด็กชายฝาแฝดตระกูลสคาร์มันเดอร์ พวกผู้ใหญ่ปล่อยให้พวกเขาเล่นกันตามสบาย ส่วนเจมส์ พี่ชายวัย8ขวบของเขา พูดแต่เพียงว่า “ ไม่อยากเล่นกับพวกเด็กๆ”และก็ปลีกตัวไป กลุ่มผู้ใหญ่ที่เจมส์ตั้งประกอบด้วยตัวเขาเอง เฟร็ดและร็อกแซน พวกนั้นบินฉวัดเฉวียนบนไม้กวาดอย่างน่าหวาดเสียว

    “ เจมส์” เฟร็ดตะโกน “รับลูก”

    เจมส์สมกับเป็นลูกของแฮร์รี่ เขารับไม่พลาดเลยสักลูก เฟร็ดนึกสนุกเข้าไปใหญ่ แทนที่เขาจะโยนให้เจมส์แบบปกติ เขาโยนลูกลงไปข้างล่าง เจมส์หันหัวไม้กวาดลง ตั้งใจจะจับลูกนั้นให้ได้ก่อนถึงพื้น

    “ เจมส์ ซิเรียส พอตเตอร์” จินนี่ตะเบ็งเสียงกึกก้อง “ ลงมาเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวก็คอหักหรอก”

    เจมส์ชะงัก เขาค่อยๆร่อนลงจอดอย่างสง่างาม เฟร็ดกับร็อกแซนก็ลงมายืนข้างๆ

    “ ทำอะไรของลูก” จินนี่พูด “ เล่นอะไรบ้าๆ ลูกเพิ่ง8ขวบนะ แล้วมาเล่นอะไรตรงนี้ แม่บอกให้ดูแลน้องไม่ใช่หรือ”

    “ ผมจะเป็นนักควิชดิชที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” เจมส์พูดอย่างภาคภูมิ “ ผมไม่เล่นกับพวกเด็กๆ”

    จินนี่ดึงหูเจมส์ “ยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีก เป็นพี่อะไร ทิ้งน้องมาเล่น” เธอลากเจมส์ไปหากลุ่มน้อง

    “ อยู่ตรงนี้” เธอสั่งลูกชาย “ แล้วก็งดขี่ไม้กวาด3วัน”

    เจมส์อ้าปากจะประท้วง แต่แม่ของเขาเดินจากไปก่อน

    เขาจ้องน้องๆและคู่แฝดสคาร์มันเดอร์อย่างขุ่นเคือง เพราะพวกนี้แท้ๆทำให้เขาอดเล่นควิชดิช

    “ เจมส์หงุดหงิดอะไรเหรอ” อัลบัสถาม

    “ เพราะนายนั่นแหละ” เจมส์ตวาด

    อัลบัสหน้าเสีย “ ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” เขาพูดเสียงแผ่ว

    “ อย่าโกรธสิ” เสียงฝันๆดังขัดขึ้น เจมส์หันไปให้ความสนใจกับเด็กเจ้าของเสียง ดูยังไงหมอนี่ก็อายุไม่เกิน4ขวบ ดูยังดูดนิ้วอยู่เลย จะให้เขามาดูแลพวกนี้เนี่ยนะ

    “ เพราะพวกนายทำให้ฉันอดเล่นควิชดิช ถ้าฉันไม่มีแฟนนะก็เป็นความผิดของพวกนาย” เจมส์ว่า ด้วยความที่พ่อแม่เขาเป็นนักกีฬาควิชดิชทั้งคู่ เขาเลยฝังใจว่าถ้าเล่นกีฬาเก่งก็จะได้มีแฟนดีๆ

    “ ไม่ต้องห่วง” เสียงฝันๆจากคนเดิมดังขึ้น “โตขึ้นผมจะขอเจมส์เป็นแฟนเอง”

    เจมส์พ่นลมหายใจออกทางจมูกอย่างดูถูก “ ยังไงเขาก็ไม่เอาหมอนี่หรอก”

    วันนั้นเป็นวันสุดท้ายที่สามพี่น้องตระกูลพอตเตอร์ได้พบกับฝาแฝดตระกูลสคาร์มันเดอร์ ถ้าไม่นับการเดินสวนกันที่ฮอกวอตส์ ก่อนจะวนมาพบกันอีกครั้งในวันนี้

    ************”

    “ พวกลูกทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า” แฮร์รี่ถาม ตั้งแต่ขึ้นรถมา ลูกชายทั้งสองของเขาก็ครอบครองหน้าต่างสองด้านและไม่พูดอะไรกันเลย ส่วนลิลี่ก็เอาแต่ลูบต้นไม้กระถางอย่างรักใคร่ ต้นไม้ที่เธอได้มาจากแฟรงค์ ลูกของเนวิลล์

    “ ไม่ครับ” ทั้งสองตอบพร้อมกัน แต่ก็ยังคงเลี่ยงไม่สบตากัน

    “ ผมแค่ไปยุ่งเรื่องคนอื่นมากไปหน่อย” เจมส์พูด “ ความหวังดีที่ไม่มีใครต้องการ”

    แฮร์รี่กับจินนี่สบตากัน พวกเขาเริ่มรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร

    เมื่อถึงบ้าน เจมส์สาวเท้าเข้าห้องนอนทันที ก่อนที่พ่อแม่จะเรียกเขาทัน

    “ อัลบัส” แฮร์รี่เรียก “ พ่อขอคุยกับลูกหน่อย”

    อัลบัสที่กำลังจะก้าวขึ้นข้างบนชะงัก เขาหันกลับมาเผชิญหน้ากับพ่อ

    “ วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” แฮร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน “ ได้ข่าวว่าลูกจูบกับลอร์แกน”

    อัลบัสตะลึงอ้าปากค้าง ข่าวลือนี่อานุภาพร้ายกาจจริงๆ ลอร์แกนแค่จับแก้มเขาเท่านั้น พ่อไปเอาข่าวมาจากไหน

    “ เราแค่คุยกันเฉยๆครับ” อัลบัสว่า “ เขาเอื้อมมือมาจับแก้มผมนิดหน่อย แค่นั้นแหละครับ”

    แฮร์รี่ถอนหายใจ “ พ่อรู้ว่าลูกโตแล้ว จะคบกับใครก็เป็นสิทธิของลูก แต่ลูกไม่คิดหรือว่าลูกพูดกับเจมส์เกินไป พี่เขาแค่เป็นห่วงลูก”

    อัลบัสหน้าเสีย ตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยทะเลาะกับเจมส์แรงๆแบบนี้มาก่อน แต่ยังไงเขาก็คิดว่าเขาไม่ผิดอยู่ดี “ เจมส์ขึ้นคร่อมไลแซนเดอร์” เขาฟ้องพ่อบ้าง “ แล้วเขาก็หาว่าผมจะคบกับลอร์แกนเพื่อเรียกร้องความสนใจจากสกอร์เปียส เป็นยุทธวิธีของสลิธีริน ผมไม่ผิดสักหน่อย”

    แฮร์รี่ถอนใจ “วิธีของเจมส์อาจไม่ถูกนัก แต่เจตนาดี ความสัมพันธ์ทุกอย่างก็ต้องมีฝ่ายหนึ่งยอมถอย พ่อจะไม่บังคับลูก แต่อยากให้ลูกคิดว่าศักดิ์ศรีกับความสัมพันธ์อะไรสำคัญกว่ากัน”

    แฮร์รี่เดินจากไป ทิ้งให้อัลบัสยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นด้วยความรู้สึกปวดมวนในช่องท้องอย่างยิ่ง

    “ ถ้าฉันเป็นพี่นะ” ลิลี่พูด “ ฉันจะขอโทษเจมส์”

    อัลบัสไม่อยากพูดถึงเจมส์ตอนนี้ เขาตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุย “ ได้ต้นไม้มาจากไหนน่ะ ลิล สวยดีนะ”

    “ แฟรงค์ให้ฉัน” เธอตอบ ลูบคลำต้นไม้อย่างรักใคร่ “ เขาน่ารักนะ กริฟฟินดอร์กับฮัฟเฟิลพัฟเรียนวิชาสมุนไพรศาสตร์ด้วยกัน เขาเก่งมากเลย และไม่ใช่เพราะลุงเนวิลล์ลำเอียงด้วย, เขาน่ารักมาก”

    ความรู้สึกอย่างหนึ่งที่ต่างไปจากเดิมปรากฏขึ้นในใจของอัลบัส เป็นความรู้สึกที่อยากจะฉีกคนที่ชื่อแฟรงค์นั่นให้เป็นชิ้นๆ แม้ว่าแฟรงค์จะเป็นน้องทูนหัวของเขาก็เถอะ ตอนนี้อัลบัสเริ่มเข้าใจความรู้สึกของเจมส์แล้ว ขึ้นชื่อว่าคนเป็นพี่ก็ย่อมหวงน้อง ไม่อยากให้มีแฟนทั้งนั้น ขนาดแค่น้องสาวเขาพูดถึงแฟรงค์อย่างชื่นชม เขายังโมโหขนาดนี้ ทั้งๆที่เขาเองก็สนิทกับแฟรงค์ แล้วเขาที่ทำตัวสนิทสนมกับลอร์แกน ทั้งๆที่ไม่ได้เจอกันเป็นปีๆ เจมส์จะโมโหขนาดไหน เขาลุกพรวดขึ้นและเดินขึ้นบันไดไป

    “ พี่จะไปไหนน่ะ อัล” ลิลี่ถาม

    “ ไปง้อเจมส์” อัลบัสตอบโดยไม่หันกลับมามอง

    ลิลี่ฉีกยิ้มกว้าง ใครว่ามีแต่สลิธีรินที่เจ้าแผนการ กริฟฟินดอร์ก็เจ้าเล่ห์ได้เหมือนกัน มีแต่ต้องให้อัลบัสรู้สึกเป็นพี่ชายหวงน้องถึงจะเข้าใจความรู้สึกของเจมส์ แต่สิ่งที่เธอพูดก็ไม่ถือเป็นเรื่องโกหก แฟรงค์น่ะน่ารักจริงๆนี่

    Talk 1 เราแก้เนื้อหาของเมื่อวานนิดหน่อยนะคะ เพิ่มไว้ตอนต้นของเนื้อหาเมื่อวานเลย ที่เขียนตัวเอียง

    Talk น้องทูนหัว แปลจากภาษาอังกฤษว่าgodbrother ค่ะ หมายถึงคนที่พ่อแม่จริงๆของเราเป็นพ่อแม่ทูนหัวของเขาหรือพ่อแม่ทูนหัวของเขาเป็นพ่อแม่จริงๆของเราก็ได้เหมือนกัน ที่แฟรงค์เป็นน้องทูนหัวของอัลบัส เพราะว่าเนวิลล์ พ่อของแฟรงค์เป็นพ่อทูนหัวของอัลบัสค่ะ เรื่องที่เนวิลล์เป็นพ่อทูนหัวของอัลบัสเป็นข้อมูลจริงจากเจเค


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×