ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Snape The last prince สเนป เจ้าชายองค์สุดท้าย

    ลำดับตอนที่ #30 : 23(100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 559
      63
      12 ก.พ. 62

    2 พค 2004
    วันนี้ที่กระท่อมเปลือกหอยวุ่นวายจริงๆ เพราะเป็นวันเกิดของวิกตัวร์ วีสลีย์ ลูกสาวคนโตของบิลกับเฟลอร์ วิกตัวร์อายุได้5ขวบ ด้วยความที่เธอมีสายเลือดวีล่าจึงมีเสน่ห์แต่ยังเล็ก โดมินิค น้องสาววัย2ขวบของเธอก็หน้าตาน่าเอ็นดู ตอนนี้เฟลอร์กำลังตั้งครรภ์ลูกอีกคนหนึ่ง บิลตั้งใจให้ลูกคนนี้เป็นคนสุดท้อง ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย บิลส่งจดหมายเชิญล่วงหน้าให้ทุกคนไปเกือบเดือน ทั้งยังอนุญาตให้กระจายข่าว คนยิ่งเยอะ ยิ่งสนุก ครอบครัววีสลีย์ทุกคนมากันพร้อมหน้า อาร์เธอร์และมอลลี่ย่อมไม่พลาดมาอวยพรวันเกิดหลานสาวคนแรก น้องๆของบิล ทั้งน้องตามสายเลือดและน้องสะใภ้น้องเขยก็มากันพร้อมหน้า บิลแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเขาได้เป็นคุณลุงของเด็กชายหญิงถึง5คน แม้ชาลีกับเฟร็ดจะไม่แต่งงาน บิลไม่แปลกใจนักที่น้องชายคนรองจะไม่แต่งงาน ชาลีไม่เคยสนใจอะไรนอกจากมังกร เพอร์ซี่ทำให้บิลแปลกใจมาก คิดว่าน้องชายคนนี้จะแต่งกับงานเสียแล้ว  แต่เขาก็แต่งงานกับออเดรย์ มีลูกสาวถึง2คน คนโตได้ชื่อว่ามอลลี่ สร้างความปลาบปลื้มให้กับย่ามอลลี่ยิ่ง มอลลี่น้อยอายุห่างจากวิกตัวร์เพียงปีเดียวเท่านั้น ส่วนอีกคนคือลูซี่ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับโดมินิค จอร์จ น้องอีกคนก็ใช่ย่อย แม้จะประสบอุบัติเหตุจนหูขาด แต่ก็สามารถคว้าแอนเจลินา  นักกีฬาควิชดิชประจำทีมกริฟฟินดอร์มาเป็นภรรยา ตอนแรกบิลก็กลัวว่าแอนเจลินาจะเป็นชนวนให้เฟร็ดและจอร์จทะเลาะกัน แต่ทั้งคู่ก็ยังรักใคร่ปรองดองกันดี ลูกคนโตของจอร์จชื่อว่าเฟร็ด อายุเท่ามอลลี่น้อย แม้จะอายุเพียง4ขวบ แต่ก็สืบทอดความเป็นตัวแสบจากคุณพ่อและคุณลุงเฟร็ด ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นลูกสาวชื่อร็อกแซน  อายุใกล้เคียงกับลูซี่และโดมินิค แม้ว่าร็อกแซนอายุเพียง2ขวบ แต่ก็บินฉวัดเฉวียนได้เก่งมาก จอร์จเคยเขียนจดหมายมาอวดให้บิลฟังด้วยความภูมิใจ แต่ตอนนี้เขากับแอนเจลินายังถกเถียงอยู่ว่าเธอจะเป็นบีตเตอร์ตามพ่อหรือเชสเซอร์ตามแม่กันแน่ คงมีแต่กาลเวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ น้องชายคนสุดท้องที่ขี้ใจน้อยของเขาก็คว้าเพื่อนสนิทสาวสวยลูกมักเกิ้ลมาเป็นภรรยาได้สำเร็จ นับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของรอนที่สามารถเอาชนะfriendzoneได้  แต่เฮอร์ไมโอนี่ยังเป็นผู้หญิงหัวสมัยใหม่ เธอไม่ยอมเปลี่ยนนามสกุลตามสามี  แม้กระทั่งลูกที่จะเกิดมาก็ต้องมีนามสกุลของเธออยู่ในชื่อด้วย คือต้องใช้นามสกุลเกรนเจอร์-วีสลีย์ รอนผู้ซึ่งกลัวเอ๊ยเกรงใจเมียก็ยอมแต่โดยดี ส่วนน้องสาวคนเล็กที่บิลเฝ้าถนอม ก็ได้เจ้าชายในฝันมาครอบครอง  ตอนนี้เธอเป็นคุณนายพอตเตอร์ ได้แต่งงานกับแฮร์รี่ เด็กชายผู้รอดชีวิต วีรบุรุษในใจและกำลังตั้งครรภ์  ลูกของเธอจะชื่อเจมส์ ซิเรียส ตามชื่อพ่อและพ่อทูนหัวของแฮร์รี่ ถ้าเป็นผู้ชาย และจะชื่อลิลี่ ลูน่า ตามชื่อแม่ของแฮร์รี่และเพื่อนรักของทั้งสองถ้าเป็นผู้หญิง เธอยังบอกอีกด้วยว่าลูกอีกคนหนึ่งของเธอจะชื่อว่าอัลบัส เซเวอร์รัสตามชื่ออดีตอาจารย์ใหญ่ที่มีส่วนช่วยให้แฮร์รี่ชนะสงคราม ความจริงแล้วเรื่องที่เซเวอร์รัส สเนปเป็นสายลับและไม่ใช่มนุษย์นั้นก็ทำให้บิลตกใจอยู่ไม่น้อย แต่เซเวอร์รัสเริ่มทำตัวดีขึ้นและเป็นมิตรมากขึ้น  วันนี้เขาก็มางานเลี้ยงพร้อมกับโกเมศเจ้าชายนาคอีกเมืองหนึ่งที่ควบตำแหน่งสามี และลูกชายวัยหนุ่ม เซไวลิน รวมทั้งคนรักของลูกชาย สจ็วต ลูกของมือปราบมารอักเคอร์ลีย์   นอกจากคนที่บิลรู้จักอยู่แล้ว ยังมีชายรุ่นราวคราวเดียวกับเซเวอร์รัส แม้ว่าจะอายุมากแล้ว แต่ก็ยังหน้าตาดี ด้วยผมสีน้ำตาลหยักศกและดวงตาสีเขียวเป็นประกาย เซเวอร์รัสแนะนำว่าเป็นเบนจามิน น้องชายต่างแม่ของเขา  ทุกคนต่างตกใจที่ไม่เพียงเซเวอร์รัสจะมีน้องเป็นมักเกิ้ล แต่เป็นญาติห่างๆของรีมัส ลูปินอีกต่างหาก ครอบครัวลูปินก็มางานเลี้ยงด้วย เจ้าหนูเท็ดดี้ท่าทางเจ้าชู้ไม่เบา อายุแค่6ขวบก็รู้จักหอมแก้มสาวน้อยวิกตัวร์เสียแล้ว ส่วนซิเรียสก็ย่อมไม่พลาดงานนี้อย่างแน่นอน
    “ ฉันขอทวนอีกที” ซิเรียสว่า “ นายบอกว่านายเป็นญาติฝ่ายไหนกับรีมัสนะ”
    เบนจามินถอนใจ เขาอธิบายเรื่องนี้ไปหลายรอบแล้ว “ คุณลุงเจฟ พ่อทูนหัวและพ่อของเจเดน คนรักของฉันเป็นคุณลุงทางฝ่ายแม่ของรีมัส และลูกพี่ลูกน้องของเจเดน ลูกสาวของอาเจเน็ตกับอาอโดนิสที่ชื่อแอบบิเกล แต่งงานกับลูคัส ลูกพี่ลูกน้องทางฝ่ายแม่ของฉัน พูดง่ายๆคือฉันเป็นลูกสะใภ้ของลุงฝ่ายแม่รีมัส และลูกพี่ลูกน้องของฉันกับรีมัสก็แต่งงานกัน”
    “ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรมี่จะเป็นญาติกับสเนป” ซิเรียสพึมพำ
    เซเวอร์รัสพูดแทรกขึ้นมาว่า “ ฉันก็เป็นญาตินายนะแบล็ค พ่อเลี้ยงฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องกับแม่นาย”
    “ คุณมีพ่อเลี้ยงด้วยหรือครับ” แฮร์รี่ถามอย่างสนใจ “ เขาชื่ออะไรครับ”
    “ไซรัส พอตเตอร์” สเนปคนพี่ตอบ
    “ นามสกุลอะไรครับ” แฮร์รี่ยังซักต่อ เข้าใจไปว่าคำว่าพอตเตอร์นั้นเซเวอร์รัสเรียกเขา
    “ ฉันก็บอกไปแล้วไง” เซเวอร์รัสพูดอย่างไม่สบอารมณ์
    แฮร์รี่เริ่มเข้าใจ “ เขาเป็นอะไรกับผมครับ”
    “ พ่อของเขา ชาร์ลัส เป็นน้องชายคนเล็กของเฮ็นรี พ่อของปู่เธอ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับปู่เธอ แต่อายุห่างกันโข”
    แฮร์รี่พยักหน้าเข้าใจ “ผมไม่ยักเชื่อว่าผมเป็นญาติคุณด้วย”
    “รู้สึกยังไงที่มีญาติเป็นผู้เสพความตาย” สเนปลองเชิง
    “ คุณไม่ใช่ผู้เสพความตายสักหน่อย” แฮร์รี่ร้องเสียงหลง “ ผมหมายความว่าคุณเคย แต่คุณก็เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อ..”
    “ ฉันไม่ได้พูดถึงตัวเอง” สเนปขัด “ ไซรัส พอตเตอร์เคยแต่งงานก่อนหน้านี้กับแอนน์ เอเวอร์รี่ และมีพยานรักฝาแฝดชื่ออีริคกับอเล็กซ์”
    “ เอเวอร์รี่” แฮร์รี่ทวนคำ นามสกุลคุ้นๆบอกไม่ถูก
    “ เธอเป็นน้องสาวของอเดน และเป็นอาสาวของรอย หนึ่งในผู้เสพความตาย เพื่อนร่วมรุ่นของฉัน” เซเวอร์รัสอธิบาย ชำเลืองมองปฏิกิริยาของแฮร์รี่
    “ ตระกูลพ่อมดแม่มดก็เป็นญาติกันทั้งนั้น” ซิเรียสปลอบ เมื่อเห็นสีหน้าไม่สบายใจของลูกทูนหัว “ อย่าคิดมากเลย”
    “ เธอมีเรื่องจะขอร้องฉันไม่ใช่หรือ” เฮอร์ไมโอนี่ถามแทรกขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศน่าอึดอัด
    “ อ๋อ ใช่แล้ว” แฮร์รี่ว่า “ คือฉันอยากให้เธอกับรอนมาเป็นพ่อแม่ทูนหัวให้ลูกฉันหน่อย”
    ทั้งรอนและเฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกว้าง ก่อนจะตอบพร้อมกัน “ ยินดีอย่างยิ่ง แฮร์รี่”
    “ ไม้กายสิทธิ์นายแน่กว่าฉันเสียอีก” รอนหยอก “ เสกคาถาครั้งเดียวก็เข้าเป้า ฉันนี่ยังไม่มีวี่แวว”
    “ ก็พี่มันห่วยนี่รอน” จินนี่ว่าเข้าให้
    หลายคนในโต๊ะหัวเราะ ขณะที่รอนหน้าแดงก่ำ
    Talk ข้อมูลน้องเขยน้องสะใภ้และลูกหลานของบิลเป็นความจริงค่ะ แต่ปีเกิดเราคิดขึ้นเอง ลูกที่อยู่ในท้องเฟลอร์ ตอนนี้คือหลุยส์ค่ะ เป็นผู้ชายคนเดียว
    วิกตัวร์เกิด2 พค จริงค่ะ เกิดวันที่ชนะสงครามพอดี เลยได้ชื่อว่าวิกตัวร์แปลว่าชัยชนะ
    ไซรัส(ชื่อนี้เราคิดขึ้นเอง) เป็นลูกพี่ลูกน้องกับแม่ซิเรียสจริง คือโดเรีย แบล็ค แม่ของไซรัสเป็นน้องสาวของพอลลักซ์ พ่อของวัลเบอร์กา 
    เฮ็นรีเป็นพ่อของปู่แฮร์รี่จริง แต่ว่าเรื่องที่ชาร์ลัสเป็นน้องชายเขาเป็นเรื่องแต่ง
    ชาร์ลัสกับโดเรียแต่งงานกันจริง มีลูกชาย1คน แต่ไม่ได้บอกชื่อ
    Talk 2 เราเอาเรื่องนี้ไปแต่งเป็นกลอนดูค่ะ ฝากตามด้วย  คลิก

    ต่อ

    เสียงเคาะประตูดังขึ้น และนาร์ซิสซ่ากับเดรโกเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับผู้หญิงที่ดูสาวสวย เสียงเอะอะโวยโวยวายดังขึ้น

    “ใครเชิญไอ้เฟอเรทมาวะ“รอนโวยวาย

    “ ฉันเชิญมาเองแหละ” บิลบอกน้องชาย

    “ เป็นยังไงบ้างคะ คุณนายมัลฟอย” มอลลี่ทัก

    “ ยินดีที่ได้เจอเธออีกนะ เดรโก” เซเวอร์รัสว่า

    “ สวัสดีทุกๆคน” นาร์ซิสซ่าทักทาย “ ซิเรียส ยินดีด้วยที่ได้เป็นผู้นำตระกูลแบล็คอย่างเป็นทางการ ฉันหวังว่าเธอจะสามารถกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูลได้”

    ซิเรียสยิ้มค้าง ถึงแม้เขากับนาร์ซิสซ่าจะเป็นญาติกัน แต่ก็อยู่คนละฝ่าย ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็เติบโตมาด้วยกันเหมือนเป็นพี่น้อง ในสายตาของซิเรียสนาร์ซิสซ่าก็ยังดีกว่าเบลลาทริกซ์อยู่มากโข อย่างน้อยๆเธอก็ไม่บ้าเลือดเหมือนพี่สาวคนโต ลักษณะนิสัยค่อนข้างหัวอ่อนและผ่อนตามมากกว่า เธอจึงยอมอยู่ในอำนาจของพ่อแม่และพี่สาวคนโตเพราะไม่กล้าพอจะต่อต้าน นิสัยเช่นนี้ทำให้ซิเรียสคิดถึงเรกูลัส น้องชายเขาอยู่ไม่ใช่น้อย เรกูลัสก็เป็นเด็กดีของพ่อแม่เสมอ ไม่กล้าทำอะไรออกนอกกฎตระกูล สิ่งนี้เองที่ทำให้เรกูลัสต้องประสบชะตาชีวิตที่น่าสลดใจ แฮร์รี่เล่าเรื่องวีรกรรมของเรกูลัสให้ซิเรียสฟัง ซิเรียสทั้งดีใจที่น้องชายได้ทำความดียิ่งใหญ่และเสียใจที่ไม่มีโอกาสใกล้ชิดสนิทสนมกับน้องชายคนเดียวมากกว่านี้

    “ ผมจะพยายามทำเต็มที่” ซิเรียสว่า “แต่ผมร้างไปนาน คงจะลำบากอยู่สักหน่อย”

    “ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมช่วยคุณได้นะครับ” เดรโกเสนอตัว “ เพื่อตอบแทนที่คุณมีส่วนช่วยให้อิสระแก่ผม” เขาลูบแขนข้างซ้าย แขนที่มีรอยแผลเป็นจากอดีต รอยแผลที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าตรามาร

    “ ฉันพาเดรโกและคู่หมั้นของเขา แอสโทเรีย กรีนกราสมาเพื่อขอโทษและขอบคุณทุกคน” นาร์ซิสซ่าพูดด้วยท่าทีสง่า

    ทุกคนในโต๊ะตกตะลึง “ ฉันคิดว่ามัลฟอยจะคบกับพาร์กินสันเสียอีก” หลายเสียงพึมพำ

    เดรโกแค่นเสียง “ ฉันไม่เคยชอบยัยนั่นเลย เกาะติดฉันแจจนน่ารำคาญ”

    “ แล้วคุณจะมาขอโทษและขอบคุณเรื่องอะไรหรือ คุณนายมัลฟอย” รีมัสถามอย่างไว้ตัว

    “ เรียกฉันว่านาร์ซิสซ่าเถอะ เธอเป็นเพื่อนสนิทกับซิเรียส ญาติของฉัน และตอนนี้เธอยังเป็นหลานเขยของฉันอีก จะพูดจาทางการกันทำไม”

    นิมฟาดอร่าแค่นเสียง “ ฉันไม่เคยคิดเลยนะว่าคุณคิดจะรับฉันเป็นหลาน ฉันไม่ใช่พวกเลือดบริสุทธิ์นะ รีมัสก็ไม่ใช่”

    นาร์ซิสซ่ายิ้มเศร้าๆ “ เธอเข้าใจผิด ฉันไม่ได้คลั่งสายเลือดบริสุทธิ์ขนาดเบลล่า ฉันแต่งงานกับลูเซียสเพราะความรักเช่นเดียวกับเธอ แค่เพียงเพราะคนที่ฉันรักเป็นเลือดบริสุทธิ์ ไม่ได้หมายความว่าฉันจะคลั่งสายเลือด ยอมรับว่าลูเซียสกับเดรโกมีอคติกับพวกมักเกิ้ล แต่พวกเขาถูกอบรมสั่งสอนมาแบบนี้ มันเป็นข้อเสียของพวกเขา ข้อเสียที่ทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตกับพวกเขา” เธอบีบบ่าลูกชาย “ สามีและลูกชายฉันก็ได้ชดใช้ความผิดแล้ว” เธอก้มหน้าลง “ ฉันอยากจะมาขอโทษพวกเธอ เราจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้โดยไม่มีอะไรติดค้างในใจอีก”

    “ พวกคุณก็มีส่วนช่วยให้ผมชนะสงคราม” แฮร์รี่ว่า “ ถ้าผมไม่ได้เดรโกโกหกว่าคนที่ผู้เสพความตายจับตัวได้ไม่ใช่ผม ผมก็คงสิ้นชื่อไปแล้ว” แฮร์รี่ยิ้ม “ ผมยกโทษให้พวกคุณ”

    “ ขอบใจจ้ะ” นาร์ซิสซ่าว่า เธอหันไปทางสามีภรรยาลูปิน “ ฉันขอแสดงความยินดีต่อการแต่งงานของพวกเธอด้วย แม้จะช้าไปหน่อยก็ตาม พวกเธอเหมาะสมกันจริงๆ เป็นความแตกต่างที่ลงตัว”

    “ ผมรักดอร่ายิ่งกว่าชีวิตของผมอีก” รีมัสพูดพร้อมคว้ามือภรรยามากุมไว้ “ เธอเป็นผู้หญิงที่วิเศษที่สุดของผม ผมไม่เคยรักใครเท่าเธอเลย”

    ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าซิเรียสกำก้านแก้วไวน์เสียแน่น เขาคิดว่าเขาทำใจได้แล้ว แต่การได้ยินคนที่เขาแอบรักพูดถึงคนอื่นแบบนี้ก็ทำให้เขาเจ็บปวดไม่น้อย

    “ อย่ามาพูดอะไรเลี่ยนๆน่ะ เรมี่” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามร่าเริง “ วันนี้เรามาฉลองกัน หมดแก้ว” เขายกแก้วไวน์ขึ้นมาและดื่มจนหมด เขาชวนคนโน้นคนนี้ชนแก้ว แอลกอฮอล์จะช่วยให้เขาลืมทุกอย่าง ซิเรียสไม่รู้จะทำยังไง คนหนึ่งก็เป็นเพื่อนที่เขาแอบรัก อีกคนก็เป็นลูกสาวของญาติที่เขารัก เขาคงต้องเก็บความลับนี้ไว้ในใจชั่วชีวิต แต่เขาลืมไปว่าเมื่อแอลกอฮอล์เข้าปากก็ยากที่จะควบคุมสติไว้ได้

    “ ฉันรักนายนะเรมี่” ซิเรียสตะโกน “ ฉันอยากอยู่กับนายตลอดไป”

    รีมัสยิ้ม “ ฉันก็รักนาย ซิริ นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน”

    ซิเรียสคว้าตัวเพื่อนเข้ามากอดไว้แน่น รีมัสเริ่มรู้สึกอึดอัด ไม่ใช่เพราะเพื่อนกอดแน่นจนเกินไป แต่เพราะเขาเริ่มมีลางสังหรณ์ว่าซิเรียสไม่ได้กอดเขาด้วยไมตรีอันบริสุทธิ์ เขายอมรับว่าเขาเคยเพ้อฝันถึงซิเรียส แต่พ่อมดเลือดผสม อีกทั้งเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารังเกียจอย่างมนุษย์หมาป่า แค่ซิเรียสหยิบยื่นไมตรีมาให้ก็ถือเป็นบุญโขแล้ว ไม่ต้องเพ้อฝันถึงการเป็นคนรักเลย ซิเรียสก็เที่ยวควงสาวคนโน้นคนนี้เสมอ เจ้าชู้เป็นที่หนึ่ง บางทีก็ใช้รีมัสเป็นพ่อสื่อให้ด้วย พอเจอแบบนี้บ่อยๆเข้า เขาก็ตัดใจจากซิเรียสได้ในที่สุด สิ่งที่รีมัสไม่รู้คือซิเรียสไม่เคยคิดจริงจังกับเด็กสาวพวกนั้น เขาแค่อยากยั่วให้รีมัสหึง ถ้ารีมัสแสดงท่าทีต่อต้านแม้เพียงน้อย เขาก็จะหยุดพฤติกรรมทั้งหมดทันที แต่รีมัสก็ไม่แสดงท่าทางต่อต้านทั้งยังคอยช่วยเหลือทุกอย่าง ให้เอาดอกไม้ เอาของขวัญไปให้สาวคนไหนก็ทำตามโดยไม่ปริปากบ่น ซิเรียสคิดว่าเป็นเพราะรีมัสไม่เคยคิดกับเขาเกินกว่าเพื่อน ทั้งคู่มีใจให้แก่กัน แต่ไม่อาจอยู่เคียงกันได้เพราะจังหวะเวลาชีวิตที่ไม่ลงตัว

    เฟร็ดทนเห็นคนที่เขารักเป็นแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว รีมัสยังมีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ ซิเรียสก็ควรมีเหมือนกัน เขาค่อยๆแกะตัวซิเรียสออกจากรีมัส ซิเรียสเมา คอพับคออ่อน

    “ พวกเราขอตัวก่อนนะครับ” เฟร็ดพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ต่างจากน้ำเสียงล้อเล่นตามปกติของเขา เขาอุ้มซิเรียสพาดบ่าและเดินขึ้นบันไดไป

    “ ฉันว่าจะได้พี่สะใภ้ไม่ก็พี่เขยเร็วๆนี้แล้วแหละ” จอร์จว่าพลางยิ้มกริ่ม แอนเจลิน่าตีแขนเขาเบาๆ

    Talk ตอนนี้เอาใจแฟนsb/rl หรือwolfstarหน่อย อาจจะมีตอนพิเศษของคู่นี้ด้วย

    ซิเรียสเมาจนหลับไปแล้ว เฟร็ดวางเขาไว้บนเตียง เขามองซิเรียสด้วยอารมณ์ความรู้สึกหลากหลาย

    “ เช็ดตัวให้หน่อยดีกว่า” เฟร็ดคิด “ จะได้นอนสบายๆ” เขาใช้ไม้กายสิทธิ์โยกเอาผ้าเช็ดตัวมา เขาร่ายคาถาอากัวเมนตีชุบน้ำให้ผ้า ปลดกระดุมเสื้อคลุมของซิเรียสออกและเริ่มเช็ดตัว

    “ คุณดูดีมากเลย” เฟร็ดพึมพำแผ่วเบา เขาใช้ผ้าเช็ดไปทั่วแผ่นอกของซิเรียส “ เมื่อไหร่คุณจะตัดใจจากเขาได้เสียทีนะ” เฟร็ดทนไม่ไหวแล้ว เขาจุมพิตที่ปากของซิเรียสเบาๆ “ ผมจะรอทำกับคุณ ตอนคุณสติครบถ้วนนะครับ”

    “ ทำอะไรเหรอ” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากหน้าประตู เฟร็ดหันขวับไปมอง นี่เป็นครั้งหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เฟร็ดรู้สึกรำคาญฝาแฝดของตัวเอง

    “ เรื่องของฉันน่าจอร์จ” เฟร็ดพูดอย่างรำคาญใจ “ นายไม่มีอะไรทำหรือไง”

    จอร์จหัวเราะ “ ก็แค่จะมาดูว่าที่พี่สะใภ้ เอ๊ะ หรือพี่เขย”

    เฟร็ดหน้าแดง เขาใช้มือทั้งสองข้างดันจอร์จให้ออกไป “ ไปให้พ้นเลย” เขาตะโกน

    “ ก็ได้ ก็ได้” จอร์จยกมือขึ้นเป็นการยอมแพ้ “ ไม่เห็นต้องโกรธขนาดนี้เลยนี่” เขาค่อยๆถอยหลังออกจากห้องไป แต่ก็ไม่ลืมหันมาบอก “ ค่อยเป็นค่อยไปล่ะ เฟร็ดดี้”

    เฟร็ดได้แต่ทึ้งหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด

    “ ขอน้ำหน่อย” เสียงแหบห้าวดังขึ้น เฟร็ดมุ่งความสนใจไปที่ซิเรียส เขาโบกไม้กายสิทธิ์ และถ้วยที่มีน้ำเต็มเปี่ยมก็ปรากฏขึ้น เฟร็ดยื่นให้ซิเรียส และเขาก็ดื่มอย่างกระหาย

    “ ขอบใจ” ซิเรียสยันตัวลุกขึ้นนั่ง เขารู้สึกมึนหัวนิดหน่อย แต่ก็ดีขึ้นแล้ว เขาก้มลงมองร่างกายที่เปลือยท่อนบนของตัวเอง “ เฟร็ด” เขาร้องเสียงหลง “ นายทำอะไรฉัน” เขาดึงผ้าห่มมาปิดร่างของตัวเอง ถึงจะสายไปแล้วก็เถอะ

    “ ผมแค่เช็ดตัวให้คุณเท่านั้นเอง” เฟร็ดว่า “ คุณจะได้นอนสบายๆ”

    ซิเรียสหรี่ตามอง “ นายไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้นใช่ไหม”

    “ ผมจูบคุณ” เฟร็ดพูด เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงบอกซิเรียส แต่เขาคิดว่านโยบายที่ดีที่สุดตอนนี้คือความซื่อสัตย์

    “ นายทำแบบนั้นทำไม” ซิเรียสถาม แปลกที่เขาไม่รู้สึกโกรธ แต่เป็นความรู้สึกประหลาดที่บอกไม่ได้ว่าดีหรือแย่

    “ ผมจะจีบคุณ” เฟร็ดพูดอย่างจริงจัง ดวงตาสีน้ำตาลของเขาสบกับดวงตาสีเทาของซิเรียส

    ซิเรียสหลบตา “ อย่ามาล้อเล่นนะ ฉันไม่ตลกด้วย”

    เฟร็ดจับมือซิเรียสขึ้นมากุมไว้ “ สบตาผมสิครับ ซิเรียส ผมไม่ได้ล้อเล่นกับคุณ ผมอาจล้อเล่นกับหลายๆเรื่อง แต่ไม่ใช่เรื่องของคุณแน่'

    ซิเรียสพยายามชักมือออก แต่เฟร็ดกุมมือเขาไว้แน่น “ นายอย่าเอาชีวิตมาผูกติดกับฉันเลย นายมีโอกาสได้เจอคนดีๆอีกเยอะ”

    “ แต่ผมต้องการคุณ” เฟร็ดพูดอย่างจริงจัง “ และคนที่สมบูรณ์พร้อมก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไปหรอกนะ คุณดูบิลสิ เขาเคยเป็นหนุ่มหล่อ เกรย์แบ็คทำร้ายเขาจนไม่เหลือเค้าเดิม แต่เฟลอร์ก็ยังรักเขาตอนนี้พวกเขามีหลานให้ผมอุ้มตั้งเกือบ3คนแล้ว”

    “ ฉันยังไม่ลืมเขา” ซิเรียสว่า ดวงตาสีเทาของเขาฉายแววระลึกถึงอดีต

    “ ผมไม่ได้ให้คุณลืมเขา เขามีที่ทางพิเศษในใจคุณได้เสมอ” เฟร็ดว่า “ ผมแค่ขอพื้นที่เล็กๆดูแลคุณได้ไหมครับ” เฟร็ดไม่เคยจริงจังกับอะไรเท่านี้มาก่อน แม้แต่ตอนที่เขากับจอร์จตัดสินใจเปิดร้านของเล่นตลกก็เถอะ

    “ ก็ตามใจ” ซิเรียสตอบ “ คงจะอีกนานกว่าฉันจะลืมเขาได้”

    “ นานแค่ไหนผมก็จะรอครับ” เฟร็ดว่า “ ผมรอเก่งนะ”

    ซิเรียสแค่นเสียง “ ทำให้ได้อย่างที่พูดแล้วกัน”

    “ ผมพูดจริงทำจริงเสมอแหละ” เฟร็ดตอบ

    ทั้งคู่สบตากันอยู่นาน ในที่สุดซิเรียสก็พูดขึ้นมาว่า “ วันอาทิตย์นี้ฉันว่าง ความจริงก็ว่างทุกวันแหละ”

    เฟร็ดเลิกคิ้ว ซิเรียสมีท่าทีกระสับกระส่าย “ คือ ฉัน หมายความ มีหนังที่น่าสนใจอยู่ ถ้าเกิดนาย มักเกิ้ลน่ะ ชอบ” เขาเริ่มพูดไม่ปะติดปะต่อกัน

    เฟร็ดหัวเราะ “ คุณจะชวนผมไปออกเดทหรือ”

    ซิเรียสรีบปฏิเสธ “ ไม่ใช่สักหน่อย แค่ดูหนังเอง เรื่องEternal Sunshine of the Spotless Mindน่ะ ฉันว่าน่าสนุกดี”

    “ ก็ได้ครับ ผมว่างเสมอสำหรับคุณ คุณว่าดี ผมก็ว่าดี” เฟร็ดว่า

    ซิเรียสมีท่าทีผ่อนคลายขึ้น “ งั้นเจอกันที่บ้านฉันนะ เราไปกินข้าวและตอนเย็นก็ไปดูหนัง”

    เฟร็ดยิ้มกว้าง “ จะนับวันรอเลยครับ”

    ซิเรียสก็จะนับวันรอเหมือนกัน แต่เรื่องนี้เขาไม่บอกเฟร็ดหรอก

    เรื่องEternal Sunshine of the Spotless Mind เป็นหนังที่ฉายในปี2004จริงค่ะ เป็นหนังรักโรแมนติก มีแง่คิด

    ต่อ

    วันอาทิตย์ ณ กริมโมลด์เพลซ

    ตอนนี้เป็นเวลาบ่าย4 โมง ซิเรียสยืนอยู่หน้ากระจก สำรวจดูเงาของตัวเอง เขาใส่เสื้อเชิ้ตลายตาราง และกางเกงยีนส์ รองเท้าหนัง

    “ หล่อพอหรือยังนะ” เขาคิด ขณะที่พยายามใช้หวีหวีผม เฟร็ดจะมารับเขาตอน5โมงเย็น เขาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดประตูตู้ ดึงเสื้อหลายๆตัวออกมาสำรวจ เขาลองยกเสื้อหลายตัวเทียบกับตัวเอง “ แบบไหนดีกว่ากันนะ” ซิเรียสไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาต้องจริงจังขนาดนี้ด้วยก็แค่ไปเที่ยวเท่านั้นเอง แต่เขาก็อยากแต่งตัวให้ดูดีที่สุด เขามองสำรวจตัวเองในกระจกอีกครั้งและรู้สึกพอใจ “ ใช้ได้แล้ว” เขาคิด

    เฟร็ดโผล่มาจากเตาผิง เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์

    “ พร้อมหรือยังครับ ซิเรียส” เขาถามอย่างร่าเริง “ โอ้โห คุณแต่งตัวหล่อจัง”

    ซิเรียสเริ่มรู้สึกมั่นใจขึ้น “ เราจะไปกันเลยไหม”

    เฟร็ดยิ้มกว้าง “ คุณพร้อม ผมก็พร้อม” ทั้งสองเดินไปที่จุดหายตัวและหายตัวไปแถวๆภัตตาคารแห่งหนึ่ง

    “ เต็มที่เลยครับ” เฟร็ดตบกระเป๋าเสื้อตัวเอง “ วันนี้ผมเลี้ยง”

    ทั้งคู่เดินเข้าไปในภัตตาคารที่หรูหรา พนักงานปรี่เข้ามาต้อนรับ

    “ เชิญค่ะ โต๊ะด้านในว่าง” เธอพูดเสียงหวาน

    ทั้งคู่เดินไปนั่งที่โต๊ะ พนักงานเสิร์ฟนำเมนูมาให้ ทั้งคู่สั่งอาหารสองสามอย่าง ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ ทั้งสองกินอาหารกันท่ามกลางความเงียบ เก้อเขินเกินกว่าจะพูดอะไร

    “ ขอฉันนั่งด้วยคนได้ไหมคะ” หญิงสาวผมบลอนด์ ตาฟ้าพูดเสียงหวาน ก่อนที่ซิเรียสหรือเฟร็ดจะทันได้ปฏิเสธ เธอก็นั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่ ไร้มารยาทอะไรอย่างนี้

    “ ฉันนัดเดทน่ะค่ะ” เธอว่า ส่งสายตามีจริตก้านมาที่เฟร็ด “ แต่คนที่ฉันนัดไว้ดันไม่มาเสียนี่” เธอแกล้งทำเป็นถอนใจ “ น่าเสียดายจังเลยนะคะ”

    “ เสียใจด้วยนะครับ” เฟร็ดว่า พลางนึกสงสัยว่าเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเขา

    “ ถ้าไม่รังเกียจ” เธอทอดเสียง “ ไปดูหนังกับฉันไหมคะ”

    เฟร็ดเหลือบมองซิเรียส และรู้สึกดีที่ซิเรียสมีทีท่าไม่พอใจ

    “ คงไม่ได้หรอกครับ” เฟร็ดปฏิเสธ “ คุณคงเห็นว่าผมมีนัดแล้ว”

    “ ให้คุณพ่อคุณไปกับเราด้วยก็ได้นี่คะ” เธอยังคงตื๊อต่อไป ใช้มือลูบไล้ไปตามต้นแขนของเฟร็ด

    ซิเรียสรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับมีสัตว์ประหลาดเกิดขึ้นที่หัวใจของเขา มันใช้เล็บข่วนตะกุยเขา ความรู้สึกนี้ต่างจากความรู้สึกเจ็บแปลบที่มีต่อรีมัส เป็นอารมณ์ที่รุนแรงจนกระทั่งเขาอยากจะร่ายคำสาปกรีดแทงใส่ทุกคนที่ขวางหน้า เขากระชากแขนเฟร็ดออกจากมือผู้หญิงคนนั้น

    “ ขอโทษนะครับ” ซิเรียสพูดเสียงเย็น “ เขาเป็นแฟนของผม” เขาก้มลงมองผู้หญิงคนนั้นอย่างดูถูก “ กรุณาอย่ามายุ่งกับแฟนของชาวบ้านครับ”

    หญิงสาวอ้าปากค้าง เธอทั้งตกใจและเสียหน้า “ ฉะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ” และโดยไม่รอคำตอบ เธอลุกออกไปทันที

    “ ทำไมนายไม่ดึงแขนออก” ซิเรียสตั้งคำถาม “ ทำไมนายไม่บอกว่าฉันไม่ใช่พ่อนาย”

    เฟร็ดยิ้ม “ ถ้าผมไม่ทำแบบนั้นจะเห็นคนหึงหรือครับ”

    ซิเรียสหน้าแดง “ ฉันไม่ได้หึง นายมาเที่ยวกับฉันก็ควรเห็นฉันสำคัญกว่าคนอื่น”

    “ นั่นแหละครับที่เรียกว่าหึง” เฟร็ดพูด เขาสบตาซิเรียส “ ความหึงเป็นสัญลักษณ์ของความรัก คุณเริ่มรักผมแล้วใช่ไหมครับ”

    “ อย่าหลงตัวเอง” ซิเรียสว่า “ ฉันแค่..” เขาไม่ได้พูดต่อ เขาไม่รู้ว่าเขาแค่อะไร เขายังรักรีมัสอยู่ไม่ใช่หรือ

    “ งั้นผมก็ไปออกเดทกับคนอื่นได้ใช่ไหมครับ” เฟร็ดถามพลางเอียงคอ “ ในเมื่อคุณไม่ได้รักผม ผมก็ไม่ควรปิดกั้นโอกาสตัวเอง

    ความคิดที่เฟร็ดจะไปออกเดทกับคนอื่นทำให้ซิเรียสรู้สึกปวดมวนในท้อง เขาไม่อยากให้เฟร็ดไปเที่ยวกับคนอื่น ไปกินข้าวดูหนังกับคนอื่น

    “ ไม่ได้” ซิเรียสว่า “ ฉัน.” เขาต้องพูด ก่อนจะไม่มีโอกาสได้พูดอีก “ ฉันว่าฉันหึงนาย” เสียงเขาแผ่วลงในตอนท้าย เขานึกสงสัยว่าเฟร็ดจะได้ยินไหมหนอ เขากึ่งๆหวังว่าจะไม่

    เฟร็ดยิ้มกว้าง “ ดีใจที่ได้ยินอย่างนี้นะครับ มีกำลังใจขึ้นเยอะเลย เราไปดูหนังกันเถอะครับ”

    ทั้งคู่เรียกพนักงานมาเก็บเงินและเดินไปที่โรงภาพยนตร์ที่อยู่ใกล้ๆ หนังที่ซิเรียสเลือกเป็นหนังโรแมนติกเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ใช้บริการลบความทรงจำเพื่อให้ลืมคนรักเก่า เธอมีโอกาสได้เจอเขาโดยบังเอิญอีกครั้งและเขาก็แปลกใจที่เธอจำเขาไม่ได้ เรื่องนี้ค่อนข้างจะมีแง่คิดที่ดี ซิเรียสสงสัยว่าเขาจะยอมลบความทรงจําเหมือนนางเอกไหม เขาตัดสินใจว่าคงไม่ ทั้งสองเดินออกมาจากโรงหนังในอีก2ชั่วโมงต่อมา

    “ สนุกดีนะครับ” เฟร็ดว่า “ ให้ข้อคิดดี”

    ซิเรียสพยักหน้า “ ถ้านายอกหักจะลบความทรงจำหรือเปล่า”

    “ คุณคงไม่ใจร้ายขนาดหักอกผมหรอกครับ” เฟร็ดกระเซ้า แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของซิเรียส เขาก็เปลี่ยนท่าที “ ไม่หรอกครับ อย่างน้อยๆมันก็ต้องมีเรื่องดีอยู่ระหว่างทางบ้างแหละ คุณว่าจริงไหมครับ”

    “ ฉันก็ว่างั้น” ซิเรียสเห็นด้วย “ เรากลับบ้านกันเถอะ”

    ทั้งคู่เดินต่อไปท่ามกลางแสงดาว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×