คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : 23(100%)
ต่อ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น และนาร์ซิสซ่ากับเดรโกเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับผู้หญิงที่ดูสาวสวย เสียงเอะอะโวยโวยวายดังขึ้น
“ใครเชิญไอ้เฟอเรทมาวะ“รอนโวยวาย
“ ฉันเชิญมาเองแหละ” บิลบอกน้องชาย
“ เป็นยังไงบ้างคะ คุณนายมัลฟอย” มอลลี่ทัก
“ ยินดีที่ได้เจอเธออีกนะ เดรโก” เซเวอร์รัสว่า
“ สวัสดีทุกๆคน” นาร์ซิสซ่าทักทาย “ ซิเรียส ยินดีด้วยที่ได้เป็นผู้นำตระกูลแบล็คอย่างเป็นทางการ ฉันหวังว่าเธอจะสามารถกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูลได้”
ซิเรียสยิ้มค้าง ถึงแม้เขากับนาร์ซิสซ่าจะเป็นญาติกัน แต่ก็อยู่คนละฝ่าย ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็เติบโตมาด้วยกันเหมือนเป็นพี่น้อง ในสายตาของซิเรียสนาร์ซิสซ่าก็ยังดีกว่าเบลลาทริกซ์อยู่มากโข อย่างน้อยๆเธอก็ไม่บ้าเลือดเหมือนพี่สาวคนโต ลักษณะนิสัยค่อนข้างหัวอ่อนและผ่อนตามมากกว่า เธอจึงยอมอยู่ในอำนาจของพ่อแม่และพี่สาวคนโตเพราะไม่กล้าพอจะต่อต้าน นิสัยเช่นนี้ทำให้ซิเรียสคิดถึงเรกูลัส น้องชายเขาอยู่ไม่ใช่น้อย เรกูลัสก็เป็นเด็กดีของพ่อแม่เสมอ ไม่กล้าทำอะไรออกนอกกฎตระกูล สิ่งนี้เองที่ทำให้เรกูลัสต้องประสบชะตาชีวิตที่น่าสลดใจ แฮร์รี่เล่าเรื่องวีรกรรมของเรกูลัสให้ซิเรียสฟัง ซิเรียสทั้งดีใจที่น้องชายได้ทำความดียิ่งใหญ่และเสียใจที่ไม่มีโอกาสใกล้ชิดสนิทสนมกับน้องชายคนเดียวมากกว่านี้
“ ผมจะพยายามทำเต็มที่” ซิเรียสว่า “แต่ผมร้างไปนาน คงจะลำบากอยู่สักหน่อย”
“ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมช่วยคุณได้นะครับ” เดรโกเสนอตัว “ เพื่อตอบแทนที่คุณมีส่วนช่วยให้อิสระแก่ผม” เขาลูบแขนข้างซ้าย แขนที่มีรอยแผลเป็นจากอดีต รอยแผลที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าตรามาร
“ ฉันพาเดรโกและคู่หมั้นของเขา แอสโทเรีย กรีนกราสมาเพื่อขอโทษและขอบคุณทุกคน” นาร์ซิสซ่าพูดด้วยท่าทีสง่า
ทุกคนในโต๊ะตกตะลึง “ ฉันคิดว่ามัลฟอยจะคบกับพาร์กินสันเสียอีก” หลายเสียงพึมพำ
เดรโกแค่นเสียง “ ฉันไม่เคยชอบยัยนั่นเลย เกาะติดฉันแจจนน่ารำคาญ”
“ แล้วคุณจะมาขอโทษและขอบคุณเรื่องอะไรหรือ คุณนายมัลฟอย” รีมัสถามอย่างไว้ตัว
“ เรียกฉันว่านาร์ซิสซ่าเถอะ เธอเป็นเพื่อนสนิทกับซิเรียส ญาติของฉัน และตอนนี้เธอยังเป็นหลานเขยของฉันอีก จะพูดจาทางการกันทำไม”
นิมฟาดอร่าแค่นเสียง “ ฉันไม่เคยคิดเลยนะว่าคุณคิดจะรับฉันเป็นหลาน ฉันไม่ใช่พวกเลือดบริสุทธิ์นะ รีมัสก็ไม่ใช่”
นาร์ซิสซ่ายิ้มเศร้าๆ “ เธอเข้าใจผิด ฉันไม่ได้คลั่งสายเลือดบริสุทธิ์ขนาดเบลล่า ฉันแต่งงานกับลูเซียสเพราะความรักเช่นเดียวกับเธอ แค่เพียงเพราะคนที่ฉันรักเป็นเลือดบริสุทธิ์ ไม่ได้หมายความว่าฉันจะคลั่งสายเลือด ยอมรับว่าลูเซียสกับเดรโกมีอคติกับพวกมักเกิ้ล แต่พวกเขาถูกอบรมสั่งสอนมาแบบนี้ มันเป็นข้อเสียของพวกเขา ข้อเสียที่ทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตกับพวกเขา” เธอบีบบ่าลูกชาย “ สามีและลูกชายฉันก็ได้ชดใช้ความผิดแล้ว” เธอก้มหน้าลง “ ฉันอยากจะมาขอโทษพวกเธอ เราจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้โดยไม่มีอะไรติดค้างในใจอีก”
“ พวกคุณก็มีส่วนช่วยให้ผมชนะสงคราม” แฮร์รี่ว่า “ ถ้าผมไม่ได้เดรโกโกหกว่าคนที่ผู้เสพความตายจับตัวได้ไม่ใช่ผม ผมก็คงสิ้นชื่อไปแล้ว” แฮร์รี่ยิ้ม “ ผมยกโทษให้พวกคุณ”
“ ขอบใจจ้ะ” นาร์ซิสซ่าว่า เธอหันไปทางสามีภรรยาลูปิน “ ฉันขอแสดงความยินดีต่อการแต่งงานของพวกเธอด้วย แม้จะช้าไปหน่อยก็ตาม พวกเธอเหมาะสมกันจริงๆ เป็นความแตกต่างที่ลงตัว”
“ ผมรักดอร่ายิ่งกว่าชีวิตของผมอีก” รีมัสพูดพร้อมคว้ามือภรรยามากุมไว้ “ เธอเป็นผู้หญิงที่วิเศษที่สุดของผม ผมไม่เคยรักใครเท่าเธอเลย”
ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าซิเรียสกำก้านแก้วไวน์เสียแน่น เขาคิดว่าเขาทำใจได้แล้ว แต่การได้ยินคนที่เขาแอบรักพูดถึงคนอื่นแบบนี้ก็ทำให้เขาเจ็บปวดไม่น้อย
“ อย่ามาพูดอะไรเลี่ยนๆน่ะ เรมี่” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามร่าเริง “ วันนี้เรามาฉลองกัน หมดแก้ว” เขายกแก้วไวน์ขึ้นมาและดื่มจนหมด เขาชวนคนโน้นคนนี้ชนแก้ว แอลกอฮอล์จะช่วยให้เขาลืมทุกอย่าง ซิเรียสไม่รู้จะทำยังไง คนหนึ่งก็เป็นเพื่อนที่เขาแอบรัก อีกคนก็เป็นลูกสาวของญาติที่เขารัก เขาคงต้องเก็บความลับนี้ไว้ในใจชั่วชีวิต แต่เขาลืมไปว่าเมื่อแอลกอฮอล์เข้าปากก็ยากที่จะควบคุมสติไว้ได้
“ ฉันรักนายนะเรมี่” ซิเรียสตะโกน “ ฉันอยากอยู่กับนายตลอดไป”
รีมัสยิ้ม “ ฉันก็รักนาย ซิริ นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน”
ซิเรียสคว้าตัวเพื่อนเข้ามากอดไว้แน่น รีมัสเริ่มรู้สึกอึดอัด ไม่ใช่เพราะเพื่อนกอดแน่นจนเกินไป แต่เพราะเขาเริ่มมีลางสังหรณ์ว่าซิเรียสไม่ได้กอดเขาด้วยไมตรีอันบริสุทธิ์ เขายอมรับว่าเขาเคยเพ้อฝันถึงซิเรียส แต่พ่อมดเลือดผสม อีกทั้งเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารังเกียจอย่างมนุษย์หมาป่า แค่ซิเรียสหยิบยื่นไมตรีมาให้ก็ถือเป็นบุญโขแล้ว ไม่ต้องเพ้อฝันถึงการเป็นคนรักเลย ซิเรียสก็เที่ยวควงสาวคนโน้นคนนี้เสมอ เจ้าชู้เป็นที่หนึ่ง บางทีก็ใช้รีมัสเป็นพ่อสื่อให้ด้วย พอเจอแบบนี้บ่อยๆเข้า เขาก็ตัดใจจากซิเรียสได้ในที่สุด สิ่งที่รีมัสไม่รู้คือซิเรียสไม่เคยคิดจริงจังกับเด็กสาวพวกนั้น เขาแค่อยากยั่วให้รีมัสหึง ถ้ารีมัสแสดงท่าทีต่อต้านแม้เพียงน้อย เขาก็จะหยุดพฤติกรรมทั้งหมดทันที แต่รีมัสก็ไม่แสดงท่าทางต่อต้านทั้งยังคอยช่วยเหลือทุกอย่าง ให้เอาดอกไม้ เอาของขวัญไปให้สาวคนไหนก็ทำตามโดยไม่ปริปากบ่น ซิเรียสคิดว่าเป็นเพราะรีมัสไม่เคยคิดกับเขาเกินกว่าเพื่อน ทั้งคู่มีใจให้แก่กัน แต่ไม่อาจอยู่เคียงกันได้เพราะจังหวะเวลาชีวิตที่ไม่ลงตัว
เฟร็ดทนเห็นคนที่เขารักเป็นแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว รีมัสยังมีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ ซิเรียสก็ควรมีเหมือนกัน เขาค่อยๆแกะตัวซิเรียสออกจากรีมัส ซิเรียสเมา คอพับคออ่อน
“ พวกเราขอตัวก่อนนะครับ” เฟร็ดพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ต่างจากน้ำเสียงล้อเล่นตามปกติของเขา เขาอุ้มซิเรียสพาดบ่าและเดินขึ้นบันไดไป
“ ฉันว่าจะได้พี่สะใภ้ไม่ก็พี่เขยเร็วๆนี้แล้วแหละ” จอร์จว่าพลางยิ้มกริ่ม แอนเจลิน่าตีแขนเขาเบาๆ
Talk ตอนนี้เอาใจแฟนsb/rl หรือwolfstarหน่อย อาจจะมีตอนพิเศษของคู่นี้ด้วย
ซิเรียสเมาจนหลับไปแล้ว เฟร็ดวางเขาไว้บนเตียง เขามองซิเรียสด้วยอารมณ์ความรู้สึกหลากหลาย
“ เช็ดตัวให้หน่อยดีกว่า” เฟร็ดคิด “ จะได้นอนสบายๆ” เขาใช้ไม้กายสิทธิ์โยกเอาผ้าเช็ดตัวมา เขาร่ายคาถาอากัวเมนตีชุบน้ำให้ผ้า ปลดกระดุมเสื้อคลุมของซิเรียสออกและเริ่มเช็ดตัว
“ คุณดูดีมากเลย” เฟร็ดพึมพำแผ่วเบา เขาใช้ผ้าเช็ดไปทั่วแผ่นอกของซิเรียส “ เมื่อไหร่คุณจะตัดใจจากเขาได้เสียทีนะ” เฟร็ดทนไม่ไหวแล้ว เขาจุมพิตที่ปากของซิเรียสเบาๆ “ ผมจะรอทำกับคุณ ตอนคุณสติครบถ้วนนะครับ”
“ ทำอะไรเหรอ” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากหน้าประตู เฟร็ดหันขวับไปมอง นี่เป็นครั้งหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เฟร็ดรู้สึกรำคาญฝาแฝดของตัวเอง
“ เรื่องของฉันน่าจอร์จ” เฟร็ดพูดอย่างรำคาญใจ “ นายไม่มีอะไรทำหรือไง”
จอร์จหัวเราะ “ ก็แค่จะมาดูว่าที่พี่สะใภ้ เอ๊ะ หรือพี่เขย”
เฟร็ดหน้าแดง เขาใช้มือทั้งสองข้างดันจอร์จให้ออกไป “ ไปให้พ้นเลย” เขาตะโกน
“ ก็ได้ ก็ได้” จอร์จยกมือขึ้นเป็นการยอมแพ้ “ ไม่เห็นต้องโกรธขนาดนี้เลยนี่” เขาค่อยๆถอยหลังออกจากห้องไป แต่ก็ไม่ลืมหันมาบอก “ ค่อยเป็นค่อยไปล่ะ เฟร็ดดี้”
เฟร็ดได้แต่ทึ้งหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด
“ ขอน้ำหน่อย” เสียงแหบห้าวดังขึ้น เฟร็ดมุ่งความสนใจไปที่ซิเรียส เขาโบกไม้กายสิทธิ์ และถ้วยที่มีน้ำเต็มเปี่ยมก็ปรากฏขึ้น เฟร็ดยื่นให้ซิเรียส และเขาก็ดื่มอย่างกระหาย
“ ขอบใจ” ซิเรียสยันตัวลุกขึ้นนั่ง เขารู้สึกมึนหัวนิดหน่อย แต่ก็ดีขึ้นแล้ว เขาก้มลงมองร่างกายที่เปลือยท่อนบนของตัวเอง “ เฟร็ด” เขาร้องเสียงหลง “ นายทำอะไรฉัน” เขาดึงผ้าห่มมาปิดร่างของตัวเอง ถึงจะสายไปแล้วก็เถอะ
“ ผมแค่เช็ดตัวให้คุณเท่านั้นเอง” เฟร็ดว่า “ คุณจะได้นอนสบายๆ”
ซิเรียสหรี่ตามอง “ นายไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้นใช่ไหม”
“ ผมจูบคุณ” เฟร็ดพูด เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงบอกซิเรียส แต่เขาคิดว่านโยบายที่ดีที่สุดตอนนี้คือความซื่อสัตย์
“ นายทำแบบนั้นทำไม” ซิเรียสถาม แปลกที่เขาไม่รู้สึกโกรธ แต่เป็นความรู้สึกประหลาดที่บอกไม่ได้ว่าดีหรือแย่
“ ผมจะจีบคุณ” เฟร็ดพูดอย่างจริงจัง ดวงตาสีน้ำตาลของเขาสบกับดวงตาสีเทาของซิเรียส
ซิเรียสหลบตา “ อย่ามาล้อเล่นนะ ฉันไม่ตลกด้วย”
เฟร็ดจับมือซิเรียสขึ้นมากุมไว้ “ สบตาผมสิครับ ซิเรียส ผมไม่ได้ล้อเล่นกับคุณ ผมอาจล้อเล่นกับหลายๆเรื่อง แต่ไม่ใช่เรื่องของคุณแน่'
ซิเรียสพยายามชักมือออก แต่เฟร็ดกุมมือเขาไว้แน่น “ นายอย่าเอาชีวิตมาผูกติดกับฉันเลย นายมีโอกาสได้เจอคนดีๆอีกเยอะ”
“ แต่ผมต้องการคุณ” เฟร็ดพูดอย่างจริงจัง “ และคนที่สมบูรณ์พร้อมก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไปหรอกนะ คุณดูบิลสิ เขาเคยเป็นหนุ่มหล่อ เกรย์แบ็คทำร้ายเขาจนไม่เหลือเค้าเดิม แต่เฟลอร์ก็ยังรักเขาตอนนี้พวกเขามีหลานให้ผมอุ้มตั้งเกือบ3คนแล้ว”
“ ฉันยังไม่ลืมเขา” ซิเรียสว่า ดวงตาสีเทาของเขาฉายแววระลึกถึงอดีต
“ ผมไม่ได้ให้คุณลืมเขา เขามีที่ทางพิเศษในใจคุณได้เสมอ” เฟร็ดว่า “ ผมแค่ขอพื้นที่เล็กๆดูแลคุณได้ไหมครับ” เฟร็ดไม่เคยจริงจังกับอะไรเท่านี้มาก่อน แม้แต่ตอนที่เขากับจอร์จตัดสินใจเปิดร้านของเล่นตลกก็เถอะ
“ ก็ตามใจ” ซิเรียสตอบ “ คงจะอีกนานกว่าฉันจะลืมเขาได้”
“ นานแค่ไหนผมก็จะรอครับ” เฟร็ดว่า “ ผมรอเก่งนะ”
ซิเรียสแค่นเสียง “ ทำให้ได้อย่างที่พูดแล้วกัน”
“ ผมพูดจริงทำจริงเสมอแหละ” เฟร็ดตอบ
ทั้งคู่สบตากันอยู่นาน ในที่สุดซิเรียสก็พูดขึ้นมาว่า “ วันอาทิตย์นี้ฉันว่าง ความจริงก็ว่างทุกวันแหละ”
เฟร็ดเลิกคิ้ว ซิเรียสมีท่าทีกระสับกระส่าย “ คือ ฉัน หมายความ มีหนังที่น่าสนใจอยู่ ถ้าเกิดนาย มักเกิ้ลน่ะ ชอบ” เขาเริ่มพูดไม่ปะติดปะต่อกัน
เฟร็ดหัวเราะ “ คุณจะชวนผมไปออกเดทหรือ”
ซิเรียสรีบปฏิเสธ “ ไม่ใช่สักหน่อย แค่ดูหนังเอง เรื่องEternal Sunshine of the Spotless Mindน่ะ ฉันว่าน่าสนุกดี”
“ ก็ได้ครับ ผมว่างเสมอสำหรับคุณ คุณว่าดี ผมก็ว่าดี” เฟร็ดว่า
ซิเรียสมีท่าทีผ่อนคลายขึ้น “ งั้นเจอกันที่บ้านฉันนะ เราไปกินข้าวและตอนเย็นก็ไปดูหนัง”
เฟร็ดยิ้มกว้าง “ จะนับวันรอเลยครับ”
ซิเรียสก็จะนับวันรอเหมือนกัน แต่เรื่องนี้เขาไม่บอกเฟร็ดหรอก
เรื่องEternal Sunshine of the Spotless Mind เป็นหนังที่ฉายในปี2004จริงค่ะ เป็นหนังรักโรแมนติก มีแง่คิด
ต่อ
วันอาทิตย์ ณ กริมโมลด์เพลซ
ตอนนี้เป็นเวลาบ่าย4 โมง ซิเรียสยืนอยู่หน้ากระจก สำรวจดูเงาของตัวเอง เขาใส่เสื้อเชิ้ตลายตาราง และกางเกงยีนส์ รองเท้าหนัง
“ หล่อพอหรือยังนะ” เขาคิด ขณะที่พยายามใช้หวีหวีผม เฟร็ดจะมารับเขาตอน5โมงเย็น เขาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดประตูตู้ ดึงเสื้อหลายๆตัวออกมาสำรวจ เขาลองยกเสื้อหลายตัวเทียบกับตัวเอง “ แบบไหนดีกว่ากันนะ” ซิเรียสไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาต้องจริงจังขนาดนี้ด้วยก็แค่ไปเที่ยวเท่านั้นเอง แต่เขาก็อยากแต่งตัวให้ดูดีที่สุด เขามองสำรวจตัวเองในกระจกอีกครั้งและรู้สึกพอใจ “ ใช้ได้แล้ว” เขาคิด
เฟร็ดโผล่มาจากเตาผิง เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์
“ พร้อมหรือยังครับ ซิเรียส” เขาถามอย่างร่าเริง “ โอ้โห คุณแต่งตัวหล่อจัง”
ซิเรียสเริ่มรู้สึกมั่นใจขึ้น “ เราจะไปกันเลยไหม”
เฟร็ดยิ้มกว้าง “ คุณพร้อม ผมก็พร้อม” ทั้งสองเดินไปที่จุดหายตัวและหายตัวไปแถวๆภัตตาคารแห่งหนึ่ง
“ เต็มที่เลยครับ” เฟร็ดตบกระเป๋าเสื้อตัวเอง “ วันนี้ผมเลี้ยง”
ทั้งคู่เดินเข้าไปในภัตตาคารที่หรูหรา พนักงานปรี่เข้ามาต้อนรับ
“ เชิญค่ะ โต๊ะด้านในว่าง” เธอพูดเสียงหวาน
ทั้งคู่เดินไปนั่งที่โต๊ะ พนักงานเสิร์ฟนำเมนูมาให้ ทั้งคู่สั่งอาหารสองสามอย่าง ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ ทั้งสองกินอาหารกันท่ามกลางความเงียบ เก้อเขินเกินกว่าจะพูดอะไร
“ ขอฉันนั่งด้วยคนได้ไหมคะ” หญิงสาวผมบลอนด์ ตาฟ้าพูดเสียงหวาน ก่อนที่ซิเรียสหรือเฟร็ดจะทันได้ปฏิเสธ เธอก็นั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่ ไร้มารยาทอะไรอย่างนี้
“ ฉันนัดเดทน่ะค่ะ” เธอว่า ส่งสายตามีจริตก้านมาที่เฟร็ด “ แต่คนที่ฉันนัดไว้ดันไม่มาเสียนี่” เธอแกล้งทำเป็นถอนใจ “ น่าเสียดายจังเลยนะคะ”
“ เสียใจด้วยนะครับ” เฟร็ดว่า พลางนึกสงสัยว่าเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเขา
“ ถ้าไม่รังเกียจ” เธอทอดเสียง “ ไปดูหนังกับฉันไหมคะ”
เฟร็ดเหลือบมองซิเรียส และรู้สึกดีที่ซิเรียสมีทีท่าไม่พอใจ
“ คงไม่ได้หรอกครับ” เฟร็ดปฏิเสธ “ คุณคงเห็นว่าผมมีนัดแล้ว”
“ ให้คุณพ่อคุณไปกับเราด้วยก็ได้นี่คะ” เธอยังคงตื๊อต่อไป ใช้มือลูบไล้ไปตามต้นแขนของเฟร็ด
ซิเรียสรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับมีสัตว์ประหลาดเกิดขึ้นที่หัวใจของเขา มันใช้เล็บข่วนตะกุยเขา ความรู้สึกนี้ต่างจากความรู้สึกเจ็บแปลบที่มีต่อรีมัส เป็นอารมณ์ที่รุนแรงจนกระทั่งเขาอยากจะร่ายคำสาปกรีดแทงใส่ทุกคนที่ขวางหน้า เขากระชากแขนเฟร็ดออกจากมือผู้หญิงคนนั้น
“ ขอโทษนะครับ” ซิเรียสพูดเสียงเย็น “ เขาเป็นแฟนของผม” เขาก้มลงมองผู้หญิงคนนั้นอย่างดูถูก “ กรุณาอย่ามายุ่งกับแฟนของชาวบ้านครับ”
หญิงสาวอ้าปากค้าง เธอทั้งตกใจและเสียหน้า “ ฉะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ” และโดยไม่รอคำตอบ เธอลุกออกไปทันที
“ ทำไมนายไม่ดึงแขนออก” ซิเรียสตั้งคำถาม “ ทำไมนายไม่บอกว่าฉันไม่ใช่พ่อนาย”
เฟร็ดยิ้ม “ ถ้าผมไม่ทำแบบนั้นจะเห็นคนหึงหรือครับ”
ซิเรียสหน้าแดง “ ฉันไม่ได้หึง นายมาเที่ยวกับฉันก็ควรเห็นฉันสำคัญกว่าคนอื่น”
“ นั่นแหละครับที่เรียกว่าหึง” เฟร็ดพูด เขาสบตาซิเรียส “ ความหึงเป็นสัญลักษณ์ของความรัก คุณเริ่มรักผมแล้วใช่ไหมครับ”
“ อย่าหลงตัวเอง” ซิเรียสว่า “ ฉันแค่..” เขาไม่ได้พูดต่อ เขาไม่รู้ว่าเขาแค่อะไร เขายังรักรีมัสอยู่ไม่ใช่หรือ
“ งั้นผมก็ไปออกเดทกับคนอื่นได้ใช่ไหมครับ” เฟร็ดถามพลางเอียงคอ “ ในเมื่อคุณไม่ได้รักผม ผมก็ไม่ควรปิดกั้นโอกาสตัวเอง
ความคิดที่เฟร็ดจะไปออกเดทกับคนอื่นทำให้ซิเรียสรู้สึกปวดมวนในท้อง เขาไม่อยากให้เฟร็ดไปเที่ยวกับคนอื่น ไปกินข้าวดูหนังกับคนอื่น
“ ไม่ได้” ซิเรียสว่า “ ฉัน.” เขาต้องพูด ก่อนจะไม่มีโอกาสได้พูดอีก “ ฉันว่าฉันหึงนาย” เสียงเขาแผ่วลงในตอนท้าย เขานึกสงสัยว่าเฟร็ดจะได้ยินไหมหนอ เขากึ่งๆหวังว่าจะไม่
เฟร็ดยิ้มกว้าง “ ดีใจที่ได้ยินอย่างนี้นะครับ มีกำลังใจขึ้นเยอะเลย เราไปดูหนังกันเถอะครับ”
ทั้งคู่เรียกพนักงานมาเก็บเงินและเดินไปที่โรงภาพยนตร์ที่อยู่ใกล้ๆ หนังที่ซิเรียสเลือกเป็นหนังโรแมนติกเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ใช้บริการลบความทรงจำเพื่อให้ลืมคนรักเก่า เธอมีโอกาสได้เจอเขาโดยบังเอิญอีกครั้งและเขาก็แปลกใจที่เธอจำเขาไม่ได้ เรื่องนี้ค่อนข้างจะมีแง่คิดที่ดี ซิเรียสสงสัยว่าเขาจะยอมลบความทรงจําเหมือนนางเอกไหม เขาตัดสินใจว่าคงไม่ ทั้งสองเดินออกมาจากโรงหนังในอีก2ชั่วโมงต่อมา
“ สนุกดีนะครับ” เฟร็ดว่า “ ให้ข้อคิดดี”
ซิเรียสพยักหน้า “ ถ้านายอกหักจะลบความทรงจำหรือเปล่า”
“ คุณคงไม่ใจร้ายขนาดหักอกผมหรอกครับ” เฟร็ดกระเซ้า แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของซิเรียส เขาก็เปลี่ยนท่าที “ ไม่หรอกครับ อย่างน้อยๆมันก็ต้องมีเรื่องดีอยู่ระหว่างทางบ้างแหละ คุณว่าจริงไหมครับ”
“ ฉันก็ว่างั้น” ซิเรียสเห็นด้วย “ เรากลับบ้านกันเถอะ”
ทั้งคู่เดินต่อไปท่ามกลางแสงดาว
ความคิดเห็น