ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Snape The last prince สเนป เจ้าชายองค์สุดท้าย

    ลำดับตอนที่ #24 : 17 (จบตอน)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 831
      98
      24 ม.ค. 62

    20 ธค 1998
    ห้องทำงานของเซเวอร์รัส
    “ ศาสตราจารย์สเนป” มักกอนนากัลเรียกจากข้างนอก “ให้ฉันเข้าไปได้หรือเปล่า”
    เซเวอร์รัสเลื่อนหัวตัวเองลงมาจากตักโกเมศ เขากำลังนอนหนุนตักโกเมศ นาคหนุ่มลูบหัวเขา เขายันตัวลุกขึ้นนั่ง จัดแจงแต่งเสื้อผ้าให้เรียบร้อยและตะโกนออกไป “ เข้ามาได้เลยครับ”
    มักกอนนากัลเปิดประตูเข้ามา “ฉันคงไม่ได้มารบกวนหรอกนะ” เธอพูดยิ้มๆ ชายตามองร่องรอยบางอย่างบนคอของลูกน้อง
    เซเวอร์รัสเห็นสายตาที่มองมาก็หน้าแดง ส่งสายตาตำหนิไปให้โกเมศ 'ฉันบอกแล้วว่าอย่าทำรอย” ส่วนโกเมศก็ทำท่าเหมือนตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดเสียอย่างนั้น
    “คุณมีความสุขดีก็ดีแล้ว” มักกอนนากัลพูด “ฉันจะมาชวนคุณไปงานเลี้ยงคริสต์มาสที่กริมโมลด์เพลซน่ะ คุณน่าจะออกไปฉลองหน่อยนะ อย่าอุดอู้อยู่แต่ใต้ดิน”
    “ใต้ดิน ใต้น้ำเป็นบ้านของผม” เซเวอร์รัสตอบเสียงเรียบ “และผมไม่อยากไปทำลายบรรยากาศรื่นเริงให้เสียไปหรอก พวกเขาไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่”
    “ เซเวอร์รัส” อาจารย์ใหญ่พูดเสียงอ่อน “ คุณคิดแต่อย่างนี้ แน่ล่ะฉันไม่ได้บอกว่าทุกคนจะชอบคุณแบบรักดูดดื่มหรืออะไรอย่างนั้น แต่หลังจากที่ทุกคนรู้วีรกรรมของคุณ ฉันมั่นใจว่าอย่างน้อยๆพวกเขาก็ต้องชื่นชมคุณบ้างแหละ”
    เซเวอร์รัสพ่นลมหายใจออกจากจมูก “ ผมไม่เห็นว่าผมจะทำวีรกรรมอะไรเลย และผมก็ทำเพราะเห็นแก่ลิลี่ เพื่อนคนเดียวของผม ผมเห็นแก่ตัวอย่างน่ารังเกียจที่สุด คุณลองคิดดูถ้าจอมมารไม่ตัดสินใจตามล่าครอบครัวพอตเตอร์ก่อน แต่ไปตามล่าครอบครัวลองบัตท่อม คุณคิดว่าผมจะยอมเป็นสายลับให้ดัมเบิลดอร์หรือ ผมไม่สนใจด้วยซ้ำว่าจะมีเด็กเล็กๆคนหนึ่งต้องตาย ตอนที่ผมเอาคำทำนายไปบอกจอมมาร ผมคิดแต่เกียรติยศที่ผมจะได้รับ ถ้าจอมมารยอมไว้ชีวิตลิลี่ ผมก็อาจเป็นสายให้จอมมารก็ได้” เขาไม่สมควรจะได้รับการยกย่องอะไรทั้งนั้น เขาเบื่อกับการที่ทุกคนมองเขาเหมือนเป็นวีรบุรุษผู้เสียสละทั้งๆที่เขารู้ตัวดีว่าเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น เขาอาจทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายให้ภาคีแต่ก็มีพื้นฐานมาจากความเห็นแก่ตัวไม่ใช่ความเสียสละ
    โกเมศเดินเข้ามากุมมือเขาไว้ “ เขามีไมตรีมาจะปฎิเสธก็เสียมารยาท อีกอย่างไร้ประโยชน์ที่จะมาพูดว่าถ้า ถ้าอย่างนั้น ถ้าอย่างนี้ เรื่องมันไม่ได้เกิดขึ้นจะมาพูดทำลายกำลังใจตัวเองทำไม สิ่งมีชีวิตทุกชนิดก็เคยทำผิดทั้งนั้น ขนาดองคุลีมาลเกิดเป็นมนุษย์ เป็นสัตว์ประเสริฐ อยู่ในตระกูลดี ได้รับการอบรมสั่งสอนอย่างดี ยังฆ่าคนไปเกือบพันคน พอพระพุทธเจ้ามาโปรดก็ได้บรรลุอรหันต์ นายเองเป็นนาค จัดเป็นเทพเดรัจฉาน อยู่กับครอบครัวที่พ่อแม่ทะเลาะกันทุกวัน จะเลือกทางเดินผิดไปบ้างก็เป็นเรื่องเข้าใจได้”
    “ นายแค่พยายามพูดปลอบใจฉันเท่านั้นแหละ” เซเวอร์รัสว่า “ ฉันคิดว่ายังไงฉันก็สมควรตายอยู่ดี นายไม่น่าให้ชลไปช่วยฉันเลย” และเขาก็ร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะอดกลั้น
    โกเมศลูบหัวเขาปลอบใจและดึงตัวเข้ามาไว้แน่น “ ใจเย็นๆก่อน เซเวอร์รัส”
    “ ฉันไปก่อนดีกว่า” มักกอนนากัลพูดอย่างอิหลักอิเหลื่อ เธอไม่เคยเห็นเซเวอร์รัสร้องไห้ต่อหน้ามาก่อน เขาเป็นผู้ชายที่เข้มแข็งและไม่ยอมเสียน้ำตาให้ใครเห็นง่ายๆ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ต่อหน้า เธอก็รู้สึกอึดอัดใจไม่น้อย
    “ ผมจะไปงานเลี้ยง” เซเวอร์รัสพูด หลังจากที่ตั้งสติแล้ว และก็รู้สึกละอายใจนิดหน่อยที่ร้องไห้ บางทีไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็ดีเหมือนกัน ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอารมณ์แปรปรวนขนาดนี้ ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงเป็นวันนั้นของเดือนแล้ว
    “ แน่ใจนะ” โกเมศถาม “ ถ้านายไม่เต็มใจก็ไม่มีใครบังคับหรอก”
    “ ฉันเต็มใจ” เซเวอร์รัสพูดอย่างหงุดหงิด “ ไม่ต้องคิดแทนฉันทุกเรื่องก็ได้”
    โกเมศไม่ได้โกรธ เขาแค่คลี่ยิ้มบางๆ “ช่วงนี้นายคันเนื้อคันตัวใช่ไหม ตอนกลางคืนก็ตื่นบ่อยด้วยใช่หรือเปล่า”
    เซเวอร์รัสพยักหน้า นึกสงสัยว่าโกเมศรู้ได้ยังไง
    “ นายคงใกล้ลอกคราบแล้วแหละ พอนาคใกล้ลอกคราบก็อารมณ์แปรปรวนอย่างนี้แหละ แล้วก็คันเนื้อคันตัว ตอนชลลอกคราบก็เป็นแบบนี้แหละ ตวาดฉันด้วย โชคดีที่ไม่มีใครได้ยินไม่งั้นเขาคงไม่รอด” โกเมศอธิบาย
    เซเวอร์รัสรู้สึกหวั่นใจขึ้นมา เขาเคยได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการลอกคราบจากนทีมามากพอดู มนุษย์อาจคิดว่าการลอกคราบของนาคไม่ต่างจากการเปลี่ยนเสื้อผ้าซึ่งเป็นความคิดที่ผิดอย่างมาก การลอกคราบของนาคทรมานเท่ากับมนุษย์คลอดลูก เซเวอร์รัสเป็นผู้ชาย เขาย่อมไม่เคยคลอด แต่ใครๆก็บอกว่าเป็นเรื่องทรมานที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิงคนหนึ่ง เขาสงสัยว่ามันจะทรมานกว่าคำสาปกรีดแทงหรือเปล่า ความกังวลใจของเขาคงแสดงออกให้เห็นทางสีหน้าเพราะโกเมศเอื้อมมือมาลูบหัวเขาเบาๆ
    “ นายจะผ่านไปได้ เซเวอร์รัส” เขาดึงชายผู้เป็นที่รักเข้ามาจูบ
    มักกอนนากัลกระแอม ดูเหมือนนาค2ตนนี้จะลืมเสียแล้วว่าเธอก็อยู่ที่นี่ด้วย เธอไม่พร้อมจะดูหนังสารคดีสัตว์โลกตอนนี้หรอกนะ
    ทั้งคู่ผละออกจากกัน เซเวอร์รัสหน้าแดงก่ำ ขณะที่โกเมศดูลำพองใจยิ่ง
    “ ฉันไปก่อนนะ” มักกอนนากัลพูด “ ทำอะไรก็เบาๆกันด้วยล่ะ คุณยังต้องสอนหนังสืออยู่นะ เซเวอร์รัส” และเธอก็เดินจากไป
    เซเวอร์รัสหันมามองโกเมศที่ยิ้มกริ่มให้เขา “เริ่มกันเลยมั้ยล่ะ” โกเมศถาม
    “ อือ” เซเวอร์รัสตอบโดยไม่สบตา ถ้าพรุ่งนี้เขาไปสอนไม่ไหว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเพราะใคร
    Talk น่าจะหมดปมปัญหาแล้ว ใกล้จะจบแล้ว ช่วงหลังๆจะมีแต่ฉากหวานๆ ไม่น่าจะมีดราม่าอะไรแล้วค่ะ

    ต่อ

    21 ธค 1998

    “ จะไปงานฉลองที่บ้านคุณแบล็คเหรอฮะ” เซไวลินถาม ท่าทีผิดหวัง

    เซเวอร์รัสเลิกคิ้วสูง “ พ่อก็ไม่อยากไปหรอก แต่อาจารย์ใหญ่มาเชิญด้วยตัวเอง ไม่ไปก็เสียมารยาท”

    เซไวลินขยับเท้าไปมาอย่างกระสับกระส่าย “ คือผมมีนัดแล้วอะครับ จ็วตตี้จะพาผมไปฉลองที่บ้านเขา”

    เซเวอร์รัสพ่นลมหายใจออกทางจมูก ขณะที่โกเมศพยายามกลั้นหัวเราะแต่ไม่สำเร็จ

    “ นี่ลูกสนิทกับเขา ถึงขนาดเรียกเขาว่าจ็วตตี้เชียวหรือ และยังไปฉลองคริสต์มาสกับเขาอีก”

    เซไวลินหน้าแดง “ ความจริงแล้วเขาเคยขอผมคบ แต่ตอนนั้นผมปฏิเสธไป ผมเห็นว่าสงครามยังไม่จบ แต่ตอนนี้..”

    เซเวอร์รัสรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ลูกชายเขาเพิ่งอายุแค่13ปีเท่านั้น ลูกเขาโตเร็วไปหรือเปล่า

    “ ก็พาสจ็วตมาฉลองกับเราด้วยเลย” โกเมศเสนอ

    เซเวอร์รัสหันขวับไปมอง แสดงท่าทีไม่พอใจ

    “ ให้อยู่ในสายตาเราดีกว่า” โกเมศกระซิบ “ อย่างน้อยๆหมอนั่นก็ต้องเกรงใจเราบ้าง”

    “ งั้นก็ได้” เซเวอร์รัสกัดฟันพูด “ ลูกพาเขามาฉลองกับเรา พ่อจะดูเขาว่าดีพอจะคบกับลูกพ่อได้หรือเปล่า”

    เซไวลินสดใสขึ้นทันตา “ พ่อต้องชอบเขาแน่” เขาพูดอย่างมั่นใจ

    ' เอาเถอะ' เซเวอร์รัสคิด ' เดี๋ยวจะได้เห็นกัน'

    25 ธค 1998

    ที่โรงเรียนฮอกวอตส์เกือบเรียกได้ว่าร้าง นอกจากศาสตราจารย์เวกเตอร์ อาจารย์วิชาตัวเลขมหัศจรรย์ที่คอยอยู่ดูแลนักเรียนไม่กี่คนแล้ว ก็แทบไม่มีใครเลย เพราะทุกคนก็ล้วนไปรวมตัวกันที่บ้านของซิเรียส

    “ เป็นอาจารย์ใหญ่เป็นยังไงบ้างคะ” มอลลี่ถาม “ ลำบากกว่าเดิมไหม”

    “ ก็นิดหน่อย” มักกอนนากัลตอบ “ ลำบากตรงที่จะหาอาจารย์มาแทนนั่นแหละ ตอนนี้ยังหาอาจารย์ประจำบ้านกริฟฟินดอร์ไม่ได้เลย ไหนจะวิชาแปลงร่างและป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ตอนนี้ฉันลงไปสอนแปลงร่าง และเซเวอร์รัสก็ช่วยสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด” เธอถอนหายใจ “ ยังไงก็ต้องหาคนมาแทนเร็วๆแล้วแหละ”

    “ ฉันก็อยากเกษียณเหมือนกัน” สเปราต์ว่า “ ฉันอยากมีชีวิตบั้นปลายที่สงบสุข ไม่ต้องปวดหัวกับพวกสมองนิ่ม” เธอเหลือบมองเซเวอร์รัสนิดหนึ่ง

    “ จริงหรือครับ” เนวิลล์ว่า เขาแทบจะปกปิดความยินดีไว้ในน้ำเสียงไม่ได้

    “ ไม่เห็นต้องดีใจขนาดนี้เลยนี่” สเปราต์ว่า

    “ ไม่ใช่ครับ” เนวิลล์รีบอธิบาย “ ผมแค่ชอบวิชาสมุนไพรมาก ผมยินดีที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ผมมีให้กับเด็กรุ่นหลัง” เขาเหลือบมองคุณย่าอย่างไม่แน่ใจนัก คุณย่าจะผิดหวังหรือไม่หนอที่เขาตัดสินใจเป็นอาจารย์แทนที่จะเป็นมือปราบมารตามรอยพ่อแม่

    “ ทำตามที่หลานสบายใจเถอะ เนวิลล์” คุณนายลองบัตท่อมว่า “ ย่าบังคับหลานมาตลอดชีวิตแล้ว ชีวิตหลังจากนี้หลานเลือกเองเถอะ”

    เนวิลล์ยิ้มสดใส เขาหันไปทางศาสตราจารย์มักกอนนากัล “ ผมขอสมัครเข้าสอนนะครับ ได้ไหมครับ”

    “ เธอสอนแค่ปี1-3ละกัน” มักกอนนากัลตัดสิน และหันไปทางสเปราต์ “ คุณคงไม่เกษียณทันทีหรอกนะ เนวิลล์มีความสามารถมาก แต่ก็เพิ่ง18 คุมเด็กโตไม่ได้หรอก”

    สเปราต์พยักหน้า “ ฉันจะสอนต่ออีกสัก2-3ปี แต่มีคนมาช่วยก็ดีเหมือนกัน”

    “ แล้วเรื่องวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดล่ะ” สเนปถามขึ้นมาบ้าง “ ผมสอน2วิชาไม่ไหวหรอกนะ”

    ทุกคนหันไปมองรีมัสที่มีท่าทีไม่สบายใจ

    “ ผมก็อยากอยู่หรอก” รีมัสว่า “ แต่ตอนนี้ผมมีเท็ดดี้แล้ว มันยากที่จะ..”

    “ แอ้!” เจ้าหนูร้องอย่างอารมณ์ดี พลางหัวเราะเอิ๊กอ๊าก

    “ ว่าไงเจ้าหมาป่าน้อย” นิมฟาดอร่าหยอกล้อลูกชาย

    “ เขาน่าร้ากจางเลยน่าค้า” เฟลอร์ว่าพลางลูบท้องที่โป่งนูนเล็กน้อยของเธอ “ฉานอยากให้ลูกฉานน่ารักแบบเขาจาง”

    ซิเรียสหัวเราะ “ ไม่มีใครจะน่ารักได้เท่าจันทร์เจ้าน้อยอีกแล้ว ฉันมีแฮร์รี่ มีเท็ดดี้ ฉันไม่จำเป็นต้องมีลูกของตัวเองก็ได้”

    “ ก็แปลกดีนะที่ลูปินไม่เลือกนายเป็นพ่อทูนหัวให้ลูกเขา” สเนปพูดเสียดสี

    “ ที่ฉันไม่เลือกซิเรียสเป็นพ่อทูนหัวเพราะว่าเขาเป็นผู้ปกครองที่ดีไม่ได้ เขาน่ะเหมือนเด็กตัวโต แฮร์รี่เป็นผู้ใหญ่มากกว่าเขา”

    เซเวอร์รัสหัวเราะดังลั่น ทั้งโต๊ะก็หัวเราะด้วย ยกเว้นซิเรียสที่หน้าแดง

    “ เรมี่” ซิเรียสร้อง “ พูดอะไรให้เกียรติฉันบ้าง”

    “ ว่าแต่ลูกศาสตราจารย์สเนปเงียบจังเลย” จอร์จว่า “ ยังไม่เห็นพูดอะไรสักคำ”

    ฝาแฝดเขาตีเข้าที่ต้นแขน “ เขาจะพูดได้ยังไงล่ะจอร์จ ก็ปากเขาไม่ว่างนี่”

    “ อาหารมันอร่อยจนกินไม่หยุดปากเลยเหรอเฟรด”

    “ เปล๊า จูบกันไม่หยุดต่างหาก” เฟรดว่า

    เซเวอร์รัสหันไปมองลูกชายและจริงๆเสียด้วย ลูกเขากำลังจูบกับเด็กอักเคอร์ลีย์ “ หยุดเดี๋ยวนี้” เซเวอร์รัสร้อง “ อายเขาบ้าง คนอยู่เยอะแยะ”

    ทั้งคู่ถอนริมฝีปากออกจากกัน เซไวลินแก้มเป็นสีชมพูจางๆ ส่วนสจ็วตท่าทีลำพองใจ

    “ งั้นเราไปหาห้องก็ได้ครับ” สจ็วตพูดอย่างเจ้าเล่ห์ จับมือเซไวลินไว้ “ ไปกันเถอะ วิลลี่”

    “ ไม่ได้” เซเวอร์รัสตะโกน “ เธอจะเอาลูกฉันไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”

    “ งั้นพ่อตาก็อนุญาตให้ผมคบกับเซไวลินสิครับ” สจ็วตว่า “ ผมจะอยู่ในสายตาของคุณตลอดเลย”

    เซเวอร์รัสกัดฟัน เขาไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง แต่โกเมศกลับมีความเห็นอีกอย่าง

    “ ฉันอนุญาต” โกเมศว่า “ แต่ถ้าเธอทำลูกของเราเสียใจเมื่อไหร่..” เขาหรี่ตามอง “ เธอจะได้พบกับความทรมานยิ่งกว่าความตาย”

    “ โกเมศศ” สเนปร้องอย่างตกใจ “ เซไวลินจะคบกับเขาไม่ได้ เขาไม่เหมือนเรา ต่างจากเรามากนัก”

    “ ผมรู้เรื่องที่เซไวลินเป็นนาค” สจ็วตพูดอย่างหนักแน่น “ เขาบอกผมแล้ว ผมรักเซไวลิน และความเป็นนาคของเขา”

    “ เธอยังเด็ก” เซเวอร์รัสพูด “ เธอเป็นมนุษย์ สักวันหนึ่งเธอก็ต้องแก่ ต้องตาย และต้องตายก่อนเรา ฉันไม่อยากให้ลูกฉัน..”

    “ ทุกคนก็ต้องตายทั้งนั้นแหละครับ” เซไวลินพูด “ ขอแค่ตอนนี้เรามีความสุขก็พอ ทำไมต้องไปคิดถึงอนาคตล่ะครับ อะไรก็ไม่แน่นอน ผมอาจตายก่อนจ็วตตี้ก็ได้”

    “ แต่เขาจะแก่ก่อนลูก ลูกจะอยากคบกับเขาจริงๆหรือ สักวันเขาจะเป็นชายแก่ ขณะที่ลูกยังเป็นเด็กหนุ่ม” เซเวอร์รัสว่า “ ถึงตอนนั้นคนที่เสียใจก็คือพวกลูก”

    เซไวลินยิ้ม “ ผมรู้ครับพ่อ แต่ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ ผมก็จะรักเขา ผมไม่สนหรอกครับว่าเขาจะหลังโกง ฟันหักหรืออะไร ผมจะรักเขา”

    สจ็วตคว้ามือเซไวลินไปกุมไว้ “ ผมจะอยู่เคียงข้างเขา ต่อให้ผมต้องคลานก็ตาม”

    “ มันมีวิธีหนึ่งที่ช่วยให้สจ็วตอายุยืนขึ้นได้” โกเมศว่า “ ยายืดชีวิตของวิทยาธรจะทำให้อายุยืนขึ้น แต่มีข้อแม้อยู่ข้อเดียวเท่านั้น”

    “ อะไรครับ” สจ็วตถาม เขากระตือรือร้นอยากใช้เวลาอยู่กับเซไวลินให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้

    “ เธอต้องรักษาศีล5 ในวันธรรมดา และศีล8ทุกวันพระ” โกเมศว่า “ คือห้ามฆ่า ห้ามขโมย ห้ามผิดลูกผิดเมีย ห้ามโกหก และห้ามยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด วันพระคือวันที่พระจันทร์เต็มดวงและครึ่งดวงพอดีวันนั้นนอกจาก5 ข้อแล้ว ยังห้ามกินอาหารหลังเที่ยง ห้ามดูการแสดง ตกแต่งร่างกายหรือนอนบนเตียงแล้วต้องประพฤติพรหมจรรย์”

    “ ประพฤติพรหมจรรย์คืออะไรครับ” สจ็วตถามอย่างสงสัย

    “ เว้นจากการเสพกาม” โกเมศอธิบาย “ แม้กระทั่งกับคู่ของตนเอง”

    “ ยากเหมือนกันนะครับ” สจ็วตว่า “ แต่ผมจะพยายามทำ”

    “ เธอจะพยายามไม่ได้ เธอต้องทำให้ได้” โกเมศพูดอย่างหนักแน่น “ ยาของวิทยาธร มีคุณอนันต์และโทษมหันต์ ถ้าเธอทำผิดแม้แต่ข้อเดียว อายุของเธอก็จะลดน้อยลง อาจจะตายเร็วขึ้นกว่าเดิม”

    “ ถ้าอย่างนี้ แค่เหยียบมดตายก็ซวยแล้วสิ” รอนว่า “ น่ากลัว อักเคอร์ลีย์ อย่าเลย”

    “ ทางศีลของเรา ไม่มีเจตนาถือว่าไม่บาป” โกเมศว่า “ ศีลไม่ได้ขาดง่ายขนาดนั้น”

    “ นายน่าจะลองรักษาศีล8บ้างนะ” เซเวอร์รัสว่า “ โดยเฉพาะไอ้ข้อประพฤติพรหมจรรย์น่ะ”

    โกเมศหัวเราะเสียงใส “ ทำปากเก่งไปเถอะ กลัวว่าฉันรักษาจริงๆและจะมีนาคบางตนทนไม่ไหวเอา”

    “ พอ” ซิเรียสขัด “ ทั้งพ่อทั้งลูก อยากหวานก็ไปที่อื่น ไม่ใช่บ้านฉัน รำคาญโว้ยย”

    ทุกคนหัวเราะ เซเวอร์รัสไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่เขาได้หัวเราะจากใจจริงๆ ไม่ได้แค่ฝืนยิ้มไปวันๆ ตอนนี้เขามีโกเมศ มีเซไวลินและยังไม่อยากจะยอมรับนัก คือมีสจ็วต สจ็วตเป็นเด็กปี5 กำลังจะสอบว.พ.ร.ส. และต้องยอมรับว่าแม้ในมาตรฐานของเขา โอกาสที่เด็กคนนี้จะเรียนต่อในระดับ ส.พ.บ.ส.ได้มีสูงทีเดียว อย่างน้อยๆเด็กคนนี้ก็เป็นคนที่เขาจะฝากเซไวลินไว้ได้ แต่ถ้ากล้าทำลูกเขาเสียใจ คำสาปกรีดแทงจะกลายเป็นกิจกรรมนันทนาการไปเลย

    “ เธอผ่านด่านฉันไม่ได้ง่ายๆหรอกนะ” เซเวอร์รัสขู่ฟ่อ “ ฉันจะจับตาเธออยู่ตลอด ถ้าเธอล้ำเส้นล่ะก็..ฉันจะเอาเซไวลินกลับเมืองบาดาลและเธอก็จะไม่ได้เจอหน้าเขาอีกเลย”

    สจ็วตกลืนน้ำลาย ไม่ว่าสเนปคนพ่อจะเป็นคนหรือเป็นงูก็น่ากลัวพอๆกัน แต่เอาเถอะรักลูกเขาแล้วก็ต้องอดทนหน่อย ไม่เข้าถ้ำเสือก็ไม่ได้ลูกเสือ ถึงในกรณีนี้ต้องเปลี่ยนจากเสือเป็นงูก็เถอะ

    “ ครับ ศาสตราจารย์สเนป ผมจะทำดีที่สุดครับ” สจ็วตตอบ

    “ ฉันจะคอยดู” เซเวอร์รัสว่าอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อนัก “ จำไว้ แม้แต่นิดเดียว”

    อยู่ๆเขาก็เริ่มคัน เหมือนมีมดคันไฟทั้งรังรุมกัดเขาอย่างนั้นแหละ เขาก้มลงมองมือตัวเองและก็เห็นว่ามันกลายเป็นเกล็ดงู แทนที่จะเป็นผิวหนังเหมือนมนุษย์

    “ โกเมศศ” เซเวอร์รัสร้องเสียงหลง “ ฉันจะลอกคราบแล้ว”

    “ ที่นี่มีห้องว่างไหม” โกเมศหันไปถามซิเรียส แอนิเมจัสพยักหน้าแล้วชี้นิ้วบอกทางให้

    โกเมศคว้าตัวเซเวอร์รัสขึ้นมาอุ้ม “ อดทนหน่อยนะ เซเวอร์รัส” เขาปลอบ “ ไม่นานหรอก เชื่อฉัน ฉันจะอยู่ข้างๆนายนะ” เขาเดินไปในห้องห้องหนึ่งที่มีป้ายติดหน้าห้องว่า "ห้ามเข้า หากไม่ได้รับอนุญาตด้วยถ้อยคำอันแจ่มแจ้ง จากเรกูลัส อาร์กทูลัส แบล็ค" 

    สจ็วตรู้สึกว่าลายมือเรกูลัสคล้ายๆกับลายมอของเขาอยู่ไม่น้อย แต่เขาไม่มีเวลาสังเกตละเอียด เขาพาชายคนรักที่ตอนนี้กลายเป็นงูไปครึ่งตัวแล้วเข้าไปในห้องและวางลงอย่างเบามือ เซเวอร์รัสร้องคราง ทั้งเจ็บทั้งคัน

    “ ไม่เป็นไร” โกเมศพยายามปลอบ “ เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป”

    วันนี้จะเป็นวันที่ยาวนานของพวกเขาจริงๆ

    ***********************************

    “ จะว่าไปแล้ว ฉันก็ยังหาอาจารย์คนใหม่ไม่ได้อยู่ดี” อาจารย์ใหญ่ว่า “ แต่ช่างเถอะ ค่อยเครียดหลังวันคริสต์มาสก็ได้ มาฉลองกันก่อน”

    ทั้งบ้านมีแต่เสียงแห่งความร่าเริงสนุกสนาน ยกเว้นในห้องของเรกูลัส

    ‘ทำไมฉันต้องลอกคราบวันนี้ด้วยนะ’ เซเวอร์รัสคิดอย่างอารมณ์เสีย ' เจ้าอักลี่จะทำอะไรลูกฉันหรือเปล่า' ใจหนึ่งเขาอยากให้โกเมศไปดูให้ แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวที่ต้องลอกคราบตนเดียว เขาได้แต่สับสน ' เอาเถอะ เจ้านั่นคงไม่กล้าทำอะไรลูกฉันหรอก ฉันต้องไว้ใจเซไวลิน' วันนี้ยังอีกยาวไกลทีเดียว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×