ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bel Ami คุณคือที่รัก

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 9 ล่องลอย...หลงใหล 20%

    • อัปเดตล่าสุด 28 มิ.ย. 63


       บทที่ 9
    ล่องลอย...หลงใหล



            แมกซ์ไม่แน่ใจว่าหัวหน้าเขาไปเผลอกินอาหารบูดหรือโดนใครแอบวางยาใส่แก้วเบียร์ที่ไหนเข้าหรือเปล่าถึงได้ออกอาการเซื่องซึมมาตลอดสองสามวันที่ผ่านมาผิดกับบุคลิกปกติซึ่งฮอพชตวมฟือเรอร์ฮอฟฟ์ครีคมักจะคงความสุขุมมาดนิ่งแสดงถึงความเป็นผู้นำ เพราะฉะนั้น การที่เขานั่งถอนหายใจยาวนับครั้งไม่ถ้วนกับสายตาที่ล่องลอยไปไหนไม่ทราบเช่นนั้นไม่ใช่เรื่องปกติของเจ้าตัวเลย ในใจลึกๆของแมกซ์นั้นนึกอยากเอ่ยถามออกไปเผื่อจะสามารถช่วยบรรเทาอะไรหัวหน้าตนเองได้บ้าง แต่สุดท้ายเขาก็ปิดปากเงียบจนกระทั่งถึงเวลาแยกย้ายปฏิติบัติงาน เขาหมายถึง...ทุกคนก็มีบางช่วงเวลาที่อยากคิดอะไรอยู่คนเดียวกับตัวเองถูกไหม

            เดือนมิถุนายนดำเนินผ่านมาเข้าช่วงกลางของเดือนแล้ว และดูเหมือนว่าฤดูร้อนปีนี้จะร้อนกว่าปีก่อนๆ อย่างเช่นวันนี้ที่อากาศอบอ้าวจากแดดจัดทั้งที่ยังเป็นเวลาเพียงแปดโมงเช้าเท่านั้น แต่ทั้งใบหน้าและเนื้อตัวใต้เครื่องแบบสีเขียวของแมกซ์นั้นได้ชื้นชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อเรียบร้อยแล้ว เขายกหลังมือขึ้นปาดเหงื่อจากหน้าผากก่อนจะเปลี่ยนมาจับปืนในท่าเตรียมพร้อมดังเดิม ภารกิจวันนี้ของเขาก็คือยืนประจำการอยู่ที่เส้นแบ่งเขตแดนคอยตรวจเอกสารอนุญาตการเดินทางพิเศษจากผู้คนที่ประสงค์จะสัญจรข้ามไปยังอีกฝั่งของฝรั่งเศสซึ่งเป็นเขตอิสระไม่ได้อยู่ในการปกครองของกองทัพเยอรมัน อย่างน้อยก็ยังในวันนี้น่ะนะ

            ตลอดเวลาหลายชั่วโมงหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวามากนักในวันนี้ที่แมกซ์ได้แต่ทอดสายตามองดูถนนซึ่งมีรถยนต์วิ่งผ่านมาน้อยคันและเป็นรถของพวกทหารเยอรมันซะส่วนมาก ไม่ได้มีอะไรผิดวิส้ยจากปกติเหมือนว้นก่อนๆที่มีเหตุจลาจลบ้างเป็นครั้งคราวอย่างเช่นรถของผู้อพยพแออัดกันจนแน่นเต็มถนนรอเดินทางข้ามไปอีกฝั่งหรือเหตุการ์ณ์บ้าๆที่ชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งพยายามฝ่าด่านพวกทหารไปด้วยเอกสารปลอมจนเกิดชุลมุนกันเล็กน้อย ถ้าวันนี้จะมีอะไรที่ไม่ปกติก็คงจะเป็นอากาศที่ร้อนนี่แหละ แมกซ์นึกหงุดหงิดในใจว่าแค่เดือนแรกของฤดูร้อนมันจะต้องร้อนขนาดนี้เลยหรือ เม็ดเหงื่อที่ซึมเป็นระยะๆทำให้ศีรษะของเขาเริ่มรู้สึกคันยุบยิบ บางส่วนที่ย้อยลงมาจากเรือนผมใต้หมวกเหล็กก่อนจะหยดลงใส่ปกเสื้อที่ปักอินทรธนูบ่งบอกถึงอุณหภูมิของร่างกายและความย่ำแย่ของสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี เขาแอบคิดเงียบๆในใจ ถ้าไม่ติดว่ากำลังอยู่ในหน้าที่ล่ะก็เขาคงจะโยนปืนที่ถืออยู่ทิ้งลงพื้นไปพร้อมกับหมวกเหล็กแข็งๆใบนี้แล้วพุ่งเข้าไปหาเครื่องดื่มเย็นๆในร้านคาเฟ่ที่ใกล้ที่สุดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

            แล้วก็เป็นช่วงขณะนั้นเองที่ความคิดอะไรบางอย่างก็ผุดขึ้นมา เมื่อนึกถึงเครื่องดื่มเย็นๆแล้วแมกซ์ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงรสชาติของเบียร์ในร้านอาหารคืนวันก่อน รสละมุนนุ่มลิ้นของเบียร์เย็นฉ่ำที่แก้ร้อนดับกระหายได้เป็นอย่างดีพร้อมถูกปรุงให้กลมกล่อมยิ่งขึ้นด้วยบรรยากาศจากเสียงร้องเพลงอันไพเราะของคาร์ไมล์ที่ยังตราตรึงอยู่ในหู...รสจุมพิตของเธอบนริมฝีปากของเขาก็เช่นเดียวกัน อา...นั่นสินะ...จะว่าไปแล้ว รสจุมพิตของเจ้าหล่อนช่างหวานนุ่มละมุนลงตัวกว่ารสชาติของเบียร์แก้วนั้นเสียอีก เล่นเอาคืนนั้นเขาเคลิบเคลิ้มฝันดีไปเลยทีเดียว

            เสียงเอะอะมะเทิ่งก่อนจะตามมาด้วยเสียงสะอื้นครวญของผู้หญิงเรียกความสนใจให้แมกซ์หันไปมอง ไม่ไกลจากเขามากนัก มีผู้หญิงชาวปารีเซียนคนหนึ่งกำลังอ้อนวอนขอร้องนายทหาร ข้างๆเธอมีเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงอายุไล่เลี่ยกันยืนอยู่ใกล้ๆซึ่งเขาเดาว่าคงเป็นลูกๆของหล่อน ดูจากท่าทางของมือเล็กๆสองคู่ที่กำชายกระโปรงแน่นไม่ยอมห่างจากผู้เป็นแม่พร้อมใบหน้าวิตกกังวลไม่สู้ดี เขาก็สัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวของเด็กทั้งสอง

    " ได้โปรดเถอะ! ครอบครัวที่เหลือของเราอยู่อีกฝั่ง อาหารก็ไม่มีแล้ว ให้พวกเราผ่านไปเถอะ ฉันขอร้อง "
    หญิงคนนั้นพูดทั้งดวงตาที่ชื้นแฉะและสีหน้าแสดงความวิตกกระวนกระวายชัดเจน เธอดูเหมือนพร้อมจะปล่อยโฮออกมาอยู่รอมร่อ
    " ตามกฏที่แจ้งไป ถ้าไม่มีเอกสารที่ถูกต้องก็ผ่านไม่ได้นะคุณผู้หญิง "

            นายทหารตอบห้วนเรียบด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถึงจะไม่ใช่ธุระกงการอะไรของแมกซ์เพราะตัวเขายืนอยู่คนละจุดจากตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงละสายตาจากสามแม่ลูกนั้นไม่ได้เลย

            หญิงคนนั้นอ้อนวอนนายทหารตรงจุดนั้นร่วมสิบนาทีได้ แล้วมันก็เป็นช่วงเวลาที่แมกซ์รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเป็นที่สุด น้ำเสียงของผู้เป็นแม่ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ดูน่าสงสารจับจิตจับใจ ภาพใบหน้าของคนทั้งสามที่ฉายความสิ้นหวังในการดิ้นรนเอาชีวิตรอดเต็มทีชวนให้น่าหดหู่ยิ่งขึ้นไปอีก เขาจึงแอบนึกภาวนาในใจว่าเมื่อไหร่จะถึงเวลาที่หัวหน้าเขาจะเดินมาตรวจแล้วสั่งเปลี่ยนเวรสักที เขาจะได้ไปเสียให้พ้นๆจากตรงนี้

            เหตุการณ์นั้นสิ้นสุดจบลงทั้งที่ฮอพชตวมฟือเรอร์ฮอฟฟ์ครีคไม่ได้มาตรวจเพราะยังไม่ถึงเวลาผลัดเวร สามแม่ลูกหอบร่างที่อ่อนเปลี้ยเพลียแรงกลับไปทางเดิมโดยมีนายทหารผู้ตรวจมองตามด้วยสายตาดุดันแข็งกร้าว และแมกซ์ที่จำต้องทนมองภาพดังกล่าวตั้งแต่ต้นจนถึงตอนจบ

    " ไม่ไปด้วยกันเหรอฮะ? "

            แมกซ์เอ่ยปากถามหัวหน้าของตนซึ่งตอนนี้กำลังกวาดตาตรวจความเรียบร้อยของบริเวณพื้นที่รอบตัวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับที่พักของตนเอง ร้อยเอกฮอฟฟ์ครีคส่ายศีรษะก่อนเอ่ยตอบ

    " วันนี้ฉันมีเข้าเวรแทนหัวหน้าอีกหน่วยที่แลกไว้เมื่อวาน--ว่าแต่เธอเถอะ ไปเที่ยวเกือบทุกคืนน่ะไม่เบื่อหรอกรึ? "
    " ไม่เบื่อนะฮะ ที่นั่นสนุกเพลิดเพลินดี อาหารอร่อย เบียร์ก็ดี แล้วก็..."

            แมกซ์เงียบไปเพราะกำลังชั่งใจว่าจะเอ่ยถึงเจ้าหล่อนผู้นั้นดีหรือเปล่า โดยหาได้รู้ตัวไม่ว่าแนวแก้มนั้นได้มีสีชาดอ่อนๆโผล่แทรกเนื้อผิวขึ้นมาแล้ว ห้วงความคิดของเขาถึงกับว่างเปล่าพร่ามัวไปชั่วขณะเมื่อนึกถึงคาร์ไมล์ ผ้าพันคอสีครีมขนเฟอร์ฟูฟ่องที่เธอมอบให้ในคืนนั้นเขาเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีในกระเป๋าสัมภาระส่วนตัวจนถึงตอนนี้

    " ฉันว่าเพราะแม่นักร้องคนนั้นก็ด้วยล่ะมั้ง "
    ได้ยินคำบอกจี้จุดเช่นนั้น ริมฝีปากของแมกซ์ก็คลี่ยิ้มเจื่อนๆ เมื่อโดนดักคออย่างรู้ทัน กิริยานั้นจึงถือเป็นการตอบคำถามของร้อยเอกในทางอ้อมไปโดยปริยาย
    " ทำไมหัวหน้ารู้ล่ะครับ "
    ว่าแล้วก็จัดแจงเฉไฉไปเรื่อยแก้ความเขินอาย เขาได้ยินเสียงผู้อายุมากกว่าถอนหายใจก่อนจะตอบด้วยเสียงราบเรียบ
    " เพราะฉันเองก็ไม่ปฏิเสธว่าเธอสวยน่าชมใช้ได้ "
    แมกซ์เพียงแต่ผงกศีรษะเบาๆด้วยความเห็นดีเห็นงามเช่นเดียวกัน
    " แล้วถ้าเป็นวันพรุ่งนี้ล่ะครับ หัวหน้าจะไปด้วยกันไหม "

            เขาลองถามดูอีกครั้ง ซึ่งคำตอบที่พลทหารหนุ่มได้รับกลับมาคือความเงียบ ร้อยเอกฮอฟฟ์ครีคนิ่งเงียบกริบไม่พูดไม่จานานเสียจนแมกซ์อดสงสัยไม่ได้ว่าอะไรทำให้หัวหน้าของเขาตัดสินใจยากเย็นเช่นนั้นทั้งที่ทางเลือกมันก็มีแค่สองคำตอบคือ 'ไป' กับ 'ไม่ไป'

    "ขอคิดดูก่อนนะ ช่วงนี้ฉันค่อนข้างยุ่งน่ะ"
    อีกฝ่ายตอบขึ้นมาในที่สุด
    "ฮะ"

            เพียงแค่นั้น ร้อยเอกก็ยกมือขึ้นเสยผมเก็บให้เรียบร้อย ยกหมวกขึ้นสวมใส่แล้วเดินจากไปโดยมีแมกซ์ยืนทำความเคารพพร้อมกับทหารนายอื่นๆจากหน่วยเดียวกัน แต่ในใจก็ยังไม่หายสงสัยว่ามีอะไรรบกวนให้หัวหน้างานของตนไม่สบายใจหรือเปล่า

            หลังร้อยเอกกลับไปไม่นานหลังจากนั้น เขาและเพื่อนทหารคนอื่นๆก็จัดการความเรียบร้อยที่เหลือให้เสร็จสิ้นแล้วแยกย้ายกันกลับเช่นเดียวกัน ซึ่ง...ถ้าให้ว่ากันตามตรงแล้วบางคนก็ไม่ได้กลับบ้านกลับที่พักซะทีเดียวหรอก ก็มีบ้างที่จะรักสนุกตามประสาหนุ่มๆ อย่างเช่นตัวของแมกซ์เองซึ่งเมื่อออกจากฐานทัพแห่งนั้นได้ก็เดินทางตรงไปยังภัตตาคารแห่งเดิมด้วยจิตใจเริงรื่นเบิกบานด้วยความหวังจะได้พบกับหญิงสาวคนงามดังปรารถนา

            เข็มนาฬิกาดำเนินเรื่อยไปแข่งกับเครื่องดื่มในแก้วของแมกซ์ที่พร่องน้อยลงไปทุกทีที่กาลเวลาผ่านไป เขาจ้องมองการแสดงอื่นๆบนเวทีสลับกับก้มมองดูนาฬิกาข้อมือเป็นระยะๆ รอคอยให้ถึงเวลาที่เจ้าหล่อนจะขึ้นเวที ค่ำคืนนี้ยังคราคร่ำไปด้วยนายทหารหนุ่มๆผู้มาหาความสนุกสนานเพลิดเพลินจรรโลงใจหลังเวลางานอันแสนเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้งวัน

            ในที่สุด ช่วงเวลาที่เขารอคอยก็มาถึง เสียงเพลงบรรเลงแปรเปลี่ยนเป็นเพลงขับร้องพร้อมร่างของคาร์ไมล์เดินเฉิดฉายมาจากเวที เธอยังสวยสะดุดตาน่าใจหายเหมือนเดิมด้วยเรือนผมสีดำสนิทที่คราวนี้ดัดเป็นลอนคลื่นแบบป้ายข้างบดบังใบหน้าไปครึ่งหนึ่งโผล่ให้เห็นนัยน์ตาสีเขียวน้ำทะเลที่แต่งแต้มเปลือกตาสวยงามเพียงข้างเดียวยิ่งทำให้เธอดูมีเสน่ห์น่าค้นหา ชุดราตรีผ้าซาตินสีฟ้าตุ่นที่เจ้าหล่อนสวมใส่อยู่นั้นรับกับแสงไฟส่องเงาประกายมันวาวของเนื้อผ้า รองเท้าส้นสูงที่ส่งเสียงดังก๊อกๆทุกก้าวที่เธอเยื้องย่างอย่างช้าๆนั้นเข้ากันกับจังหวะของบทเพลงลิลี่ มาร์ลีน*ที่เธอกำลังขับร้องได้ลงตัวอย่างน่าประหลาด วันนี้เธอไม่ได้สวมใส่เครื่องประดับที่ลำคออบ่างผ้าพันคอขนเฟอร์เมื่อคราวก่อน แต่ครั้งนี้เธอใส่กำไลเงินมีลวดลายเถาลูกไม้ที่ข้อมือข้างขวาแทน

            ร่างอรชรของคาร์ไมล์เยื้องย่างหายไปจากเวทีเมื่อบทเพลงสุดท้ายในช่วงการแสดงของเจ้าหล่อนจบลงท่ามกลางเสียงปรบมือดังกึกก้อง แมกซ์กระดกเบียร์อึกสุดท้ายของเขาเข้าปาก ขยี้บุหรี่ที่หมดแล้วลงกับจานรอง จ่ายเงินกับพนักงานแล้วลุกจากโต๊ะหมายจะไปเข้าห้องน้ำก่อนกลับ หลังทำธุระเสร็จ จังหวะที่เขาออกมาก็พอดีกับที่สายตาเหลือบไปเห็นเรือนร่างอันคุ้นตาเดินหายลับไปหลังประตูบานหนึ่งที่อยู่ในหลืบซึ่งถ้าไม่ได้ตั้งใจสังเกตดีๆก็คงจะไม่เห็นมัน เขายืนนิ่งอย่างครุ่นคิดพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเดินตามร่างนั้นไปด้วยความสงสัยใคร่รู้

    ประตูบานนั้นนำชายหนุ่มออกมาโผล่อยู่ที่ตรอกมืดสลัวแห่งหนึ่งซึ่งก็คือบริเวณด้านหลังของร้านนั่นเอง และในขณะที่เขากำลังหันมองซ้ายขวาอยู่นั้น..




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×