ลำดับตอนที่ #19
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : [Tokyo Ghoul] Arima Kishou x Reader : Secret [Request]
Pairing : Arima Kishou x Reader
Theme : รักต่างเผ่าพันธ์กับความสัมพันธ์ซ่อนเร้น
Summary : จะเป็นอย่างไรเมื่อความลับที่พยายามปกปิดมานานได้ถูกเปิดเผยขึ้นท่ามกลางบรรยากาศยามค่ำคืนของวันแสนสุข
...................................................................................................................................................................................................................
ถ้าพูดถึงสถานที่ที่เปรียบเหมือนกับสรวงสวรรค์สำหรับคนทุกเพศทุกวัยก็คงหลีกไม่พ้นร้านกาแฟ แหล่งรวมผู้คนทุกเวลาทั้งยามพักผ่อนและยามเร่งรีบ อากาศที่มีกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟคั่วกับใบชาหลากชนิด กลิ่นหวานๆของขนมกระจุบกระจิบและกลิ่นยั่วยวนชวนน้ำลายสอของอาหารว่างอบอวลไปทั่ว พนักงานแต่ละคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใส่ท่าทางเป็นมิตรยิ่งขับให้บรรยากาศดีขึ้นไปอีก แต่กับร้านกาแฟอันเทย์คุไม่ใช่เพียงแค่นั้น ภาพอันสวยงามทุกๆอย่างจะถูกลบล้างสลายไปทันที่ถ้าพูดถึงประวัติความเป็นมาน่าขนลุกเบื้องหลังที่พนักงานแต่ละคนล้วนเป็นกูลและที่ชั้นใต้ดินของร้านคือพื้นที่สำหรับเก็บเนื้อมนุษย์ซึ่งเป็นเสบียงอาหารหลักของเหล่าพนักงาน ถึงจะเป็นกูลที่ใช้ชีวิตร่วมกับสังคมปกติได้ก็เถอะ แต่แค่คำว่าไม่ใช่มนุษย์นี่ก็มีพลังมากพอทำให้คนฟังขนพองสยองเกล้าได้
คุณทอดสายตามองออกไปข้างนอกขณะก้มตัวเช็ดโต๊ะตัวหนึ่งที่อยู่ติดริมหน้าต่างก่อนจะเม้มริมฝีปากเพื่อกลั้นรอยยิ้ม ตอนนี้เป็นเวลาสี่โมงเย็นแล้ว นั่นก็หมายความว่าใกล้เวลาที่คุณจะได้เลิกงาน ถ้าเป็นวันปกติคุณก็คงจะรู้สึกเฉยชา เพราะต่อให้กลับถึงบ้านเร็วมันก็ไม่มีอะไรให้คุณทำมากมายนอกจากนั่งดูทีวีกับอ่านการ์ตูนให้เวลาหมดไปวันๆ แต่วันนี้คุณมีนัดก้บแฟนหนุ่มหลังเลิกงาน เพราะฉะนั้นคุณบอกได้เลยว่าวันนี้จะต้องสนุกและสุขมากแน่ๆ
.
.
.
.
.
เมื่อเข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาห้าโมง คุณไม่รอช้ารีบถอดผ้ากันเปื้อนแขวนไว้บนราวเก็บเหมือนเดิม เดินอ้อมไปล็อกเกอร์เก็บของด้านหลังเอาสัมภาระ ทักทายเหล่าเพื่อนพนักงานด้วยท่าทางชื่นมื่นอย่างปิดไม่อยู่จนโดนพวกเขาแซวเข้าให้
"วันนี้มีนัดล่ะสิท่า ไม่บอกก็รู้"
" ดูมีความสุขเชียวนะเธอ "
" หน้าเธอแทบจะกลั้นยิ้มไม่อยู่แล้วนะ "
คุณหัวเราะเขินๆกับถ้อยคำของพวกเขา แล้วก็คงจะเป็นอย่างนั้นต่ออีกสักพักถ้าคาเนกิ เพื่อนพนักงานคนสนิทของคุณไม่ถามคำถามจี้จุดนั่นขึ้นมาซะก่อน
" จะว่าไป...พวกเรายังไม่เคยเห็นเลยสักครั้งนี่นา ทั้งที่เธอเองก็คบมาตั้งนานแล้วแท้ๆเชียว "
ประโยคนั้นไม่ต่างอะไรกับการโยนก้อนเนื้ออันโอชะลงในบ่อปิรันยาที่ทุกๆคนพากันหันมาให้ความสนใจจุดๆเดียวพร้อมเพรียงกัน
" นั่นน่ะสิ กูลหน้าตาแบบไหนกันนะที่ชนะใจเธอได้น่ะ"
" เขาต้องวิเศษมากแน่ๆเลย "
" คงเป็นประเภทแบบพวกเราใช่ไหม ไม่งั้นคงอยู่กับเธอไม่ได้หรอกถ้าเป็นพวกคลั่งเลือดหิวจัด "
คุณรู้สึกว่าเหงื่อเริ่มผุดพรายขึ้นมาตามแนวหน้าผากและรูเส้นผม
" อ่า..เอาไว้มีโอกาสแล้วจะพาเขามานะ... "
คุณตอบ มือถูท้ายทอยด้วยความประหม่าแล้วรีบโบกมือลาพวกเขาขอตัวออกมาโดยไวก่อนจะมีใครซักถามอะไรลึกไปกว่านี้อีก
.
.
.
.
.
ทันทีที่คุณเดินออกมาพ้นจากบริเวณที่สังเกตได้แล้ว คุณก็ถอนลมหายใจยาวนานออกมาชุดใหญ่แบบที่ไม่เคยทำมาก่อนด้วยความโล่งอก จะให้บอกพวกเขาได้ยังไงกันในเมื่อแฟนของคุณคือนักล่ากูล แถมยังเก่งติดอันดับต้นๆในองค์กรccgอีกต่างหาก พอคิดถึงตรงนั้นแล้วคุณก็ถอนหายใจออกมาอีกระลอกเมื่อระลึกได้ว่าตัวเองดวงดีแค่ไหนที่ยังปิดเรื่องนี้กับเขามาได้นานจนถึงป่านนี้ ที่จริงคุณก็ไม่เชิงเป็นกูลซะทีเดียวหรอก คุณเป็นแค่ครึ่งเดียวเหมือนกับคาเนกินั่นแหละ ถึงกรณีของคุณจะโชคดีกว่าเขาเล็กน้อยตรงที่มีกลิ่นกูลที่เบาบางจนแทบจับไม่ได้กับความสามารถที่ยังคงกินอาหารมนุษย์ได้ปกติ แต่มันก็หมดความหมายในเมื่อคุณไม่สามารถรับรู้รสชาติใดๆของอาหารพวกนั้นได้เลย...แล้วที่คุณต้องมาขออาศัยร้านอันเทย์คุก็เพราะคุณมีปัญหาในการยับยั้งชั่งใจเมื่อเจอมนุษย์ที่ท่าทางน่าอร่อย
.
.
.
.
.
นัยน์ตาสี(...)สอดส่ายมองหาบุคคลที่ต้องการเมื่อเลี้ยวเข้ามาในร้านคาเฟ่ยามดึกแห่งหนึ่งึ เพราะพิกัดของร้านอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟใต้ดินจึงทำให้เป็นการยากที่จะมองหาคนเพียงคนเดียวท่ามกลางฝูงชนที่นั่งกันหนาแน่นตามโต๊ะต่างๆในร้าน แต่ไม่ยากเลยในการหาชายหนุ่มที่มีผมสีแปลกตาใส่เสื้อผ้าสีเข้มตัดกัน...และแล้วคุณก็เจอเขา ชายที่นั่งโต๊ะมุมด้านในของร้าน ผมสีหิมะของเขาสะท้อนแสงสว่างจากดวงไฟในร้านจนเป็นประกายตัดกับเสื้อสูทสีน้ำเงินเข้ม นัยน์ตาสีเทากำลังจดจ่อกับอะไรบางอย่างบนโทรศัพท์มือถือแบบพับได้ ซึ่งเขาจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอาริมะ คิโชว
คิโชวเงยหน้าขึ้นมาเมื่อคุณเดินเข้าไปใกล้ ริมฝีปากได้รูปของเขาหยักยิ้มทักทาย เขาพับปิดฝาโทรศัพท์ลงใส่กระเป๋าเสื้อ
" คิดว่าเธอจะมาเย็นกว่านี้ซะอีก เห็นเมื่อวานบอกว่าช่วงนี้ที่ร้านยุ่งๆ "
คุณแค่นหัวเราะขณะวางกระเป๋าเก็บไว้ด้านหลัง
" พอดีทุกคนมาช่วยกันเยอะน่ะ...แล้วนี่นายสั่งอะไรรึยัง? "
เขาส่ายหัว มือเลื่อนเมนูอีกเล่มมาให้
" รอสั่งพร้อมเธอน่ะ เอ้า วันนี้จะกินอะไรล่ะ? "
คุณยิ้มแหยๆด้วยสีหน้าคล้ายมีอะไรติดคอก่อนจะกวาดตาดูเมนูอย่างลวกๆ เพราะยังไงซะ...อาหารมนุษย์ทุกอย่างมันก็รสชาติเหมือนกันหมดสำหรับคุณ
" กินอะไรก็ได้ นายแนะนำมาเลย ฉันไม่เคยมาร้านแถวนี้เลยเลือกไม่ถูก "
นัยน์ตาสีเทาหลังกรอบแว่นมีประกายขำขันพาดผ่าน
" เอาจริงเหรอ...งั้นฉันสั่งข้าวราดแกงกะหรี่นะ มันติดอันดับแนะนำด้วย "
คุณพยักหน้า
.
.
.
.
.
" นี่ น้ำซอสที่นี่เข้มข้นมากเลยนะเธอว่าไหม ฉันไม่ต้องปรุงเพิ่มเลย "
คิโชวบอก ตักแกงเข้าปากคำแล้วคำเล่าอย่างเอร็ดอร่อย
คุณยิ้มแห้งๆแทนการออกความเห็น แกงกะหรี่ในปากคุณนั้นมีรสชาติไม่ต่างกับกระดาษวาดเขียนที่มีหลายผิวสัมผัส...
" หืม? ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ ไม่อร่อยเหรอ? "
เขาถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็นว่าคุณขมวดคิ้วและเคี้ยวช้าๆดูท่าทางไม่อร่อย
คุณรีบส่ายหัว กลืนก้อนกระดาษรสจืดชืดลื่นๆนั่นลงไป
" เปล่าๆ แค่กำลังคิดอะไรเพลินๆน่ะ"
เขาหัวเราะน้อยๆก่อนจะก้มหน้าจัดการอาหารของตนเองต่อ
.
.
.
.
.
คุณเงยหน้าสบนัยน์ตาสีเทาขณะที่เขากำลังเล่าเรื่องที่ทำงานให้คุณฟังอย่างออกรส มือของคุณประสานกับมืออุ่นๆของเขาระหว่างเดินบนทางเท้าไปยังบ้านของคุณ
" เจ้ากูลนั่นน่ะ ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็เคลียร์ได้แล้วล่ะ "
สายตาที่เคยจับบนหน้าของเขาเปลี่ยนมาจ้องพื้นตรงหน้าแทน เพียงครู่เดียว คุณก็รู้สึกถึงฝ่ามือใหญ่ที่เลื่อนมาโอบบริเวณหัวไหล่กับต้นแขน
" นี่ ยิ้มหน่อยสิ เดี๋ยวพรุ่งนี้หลังเลิกงานเราก็ได้เจอกัน "
เขาว่า กระชับอ้อมแขนให้คุณเข้ามาใกล้ชิดขึ้น
" ฮื่อ.."
คุณพยักหน้าตอบรับเงียบๆ ในใจสับสนว้าวุ่นด้วยความคิดไม่ตก กังวลถึงความลับนั้นที่คุณได้แต่ภาวนาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่าขออย่าให้คนข้างๆรู้ความจริงเลย
.
.
.
.
.
ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกไปตลอดทางจนถึงบ้านของคุณ เขาปล่อยคุณให้เป็นอิสระพลางจุ๊บเบาๆบนเส้นผมสี(...)
" เอาล่ะ~เจอกันใหม่พรุ่งนี้นะ "
คุณยิ้มหวานออกมาก่นจะเขย่งตัวขึ้นไปหอมแก้มคนที่สูงกว่า เขาคลี่ยิ้มอ่อนโยน โบกมือลาคุณก่อนจะหันหลังเดินไปอีกทาง คุณยืนมองเขาเดินจากไปท่ามกลางแสงไฟส่องถนนสลัวๆ แต่แล้วคนที่ควรจะไปแล้วเมื่อสักครู่ก็กลับเดินตรงมาหาคุณอีกครั้ง
" มีอะไรเหรอ? "
เขาเอาสองมือล้วงกระเป๋าด้วยท่าทางสบายๆ โน้มใบหน้าก้มต่ำมาหาคุณแล้วพูดด้วยเสียงกระซิบเบาบาง
" ไม่ต้องกังวลหรอก...ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก..แล้วก็จะไม่ปริปากบอกใครด้วย..เรื่องที่เธอเป็นลูกครึ่งกูลน่ะ..."
นัยน์ตาสี(...)เบิกกว้างด้วยความตกใจ
" นายรู้ได้ยังไง...กลิ่นฉันมันจางจนแทบจะสัมผัสไม่ได้เลยนะ "
เขาแค่นหัวเราะ
" ฉันน่ะระดับแนวหน้านะ "
แววตาของคุณเริ่มสั่นเครือ หลากอารมณ์ปนเปกันอยู่ในนั้น
" รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน.."
เขายกมือข้างหนึ่งเกลี่ยแก้มของคุณแผ่วเบา
" ตั้งแต่แรก "
" แล้วทำไมถึง-"
"-รอว่าเธอจะบอกฉันเมื่อไหร่ แต่ดูท่าเธอไม่ยอมบอกซะทีฉันก็เลยเริ่มก่อน..รู้นะว่าเธออึดอัดเรื่องนี้มาตลอด"
คุณถอนหายใจพลางเอามือเสยผม
" ถ้าคุณจะไม่เอาต่อฉันก็เข้าใจนะ"
นัยน์ตาสีเทาของคนตรงหน้าหรี่ลงด้วยความสงสัย
" ทำไมล่ะ?"
คุณหันหน้าหนีไปทางอื่น
" ก็-คุณก็รู้ ฉันเป็นแบบนี้ ส่วนคุณก็เป็-อ๊ะ!"
ตัวของคุณถูกคว้าไปกอดโดยไม่ทันตั้งตัว ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามเส้นผมและแผ่นหลังด้วยหวังจะปลอบประโลมให้จิตใจสงบลง
" ฉันรักซะอย่าง...ไม่เลิกหรอก "
คุณเงยหน้ามองเขา
" แต่-ถ้าเกิดมีคนอื่นรู้ยิ่งกว่านี้- "
คุณพูดไม่จบประโยคเพราะนิ้วชี้ของคิโชวที่เอามาทาบบนริมฝีปากของคุณ
" ถ้าเธอไม่พูด ฉันไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้จริงไหม? "
คุณกระพริบตาปริบๆ ยังไม่ทันจะหายตกใจ เขาก็ยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้า
" สัญญานะ "
คุณสบตาสีเทานั้นครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มกว้าง
" อื้อ "
คุณตอบสั้นๆพลางเกี่ยวก้อยกับเขา เขาหยักยิ้มอีกครั้งก่อนจะขยี้ผมคุณเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยวแล้วขอตัวกลับ
ลางสังหรณ์คุณไม่ผิดเพี้ยนเลย...วันนี้เป็นวันที่คุณมีความสุขจริงๆ
...................................................................................................................................................................................................................
ป.ล.1 ในที่สุดไรต์ก็สามาถลวกจิ้มงานได้หมดไปซะที ดีใจ แต่ก็ยังเหลือด่านสอบในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า..
ป.ล.สุดท้าย คิวรีเควสจ้า
1. Aamuro Tooru [Conan]
2. Mafumafu [Utaite]
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น