กานต์สินีของข้า
เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่! จู่ๆร่างก็ร่วงลงมาจากท้องฟ้า ปะทะเข้ากับอ้อมแขนของชายคนหนึ่ง แต่ที่พีคยิ่งกว่า พระเจ้า กรี๊ด! นี่เธอกับชายแปลกหน้ากำลังร่วงลงสู่หุบเหวอยู่น่ะสิ เกิดบ้าไรขึ้นเนี้ย
ผู้เข้าชมรวม
20,395
ผู้เข้าชมเดือนนี้
25
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
คำโปรย
นี่ตัวกูกำลังอยู่ที่ใด
ตามเนื้อตัวมีแต่กลิ่นคาวคละคลุ้ง
ได้ยินเสียงสตรีหลายนางส่งเสียงเซ็งแซ่กันให้วุ่นไปทุกทิศ ฟังแล้วมิเป็นภาษา
นี่มันภาษากระไรกัน?
หาใช่ภาษาชาวอยุธยาเราแม้นแต่น้อย? อึดอัดนักนี่มันที่ใด ไยถึงเมือกๆ
เหนียวๆ เช่นนี้
หนังตาพยายามถางให้เปิดแต่ไร้สามารถ
ก่อนท้ายทอยจะถูกมือปริศนาจับศีรษะดึงไปสู่แสงสว่างภายนอก
แสงที่แยงเข้ามาทำให้ไอ้หินหลับตาแน่น
นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้นหัวกูกำลังจักถูกบั่นออกจากคอมิใช่หรือ
ไยที่จักเป็นดาบสับเข้าปลิดชีพกลับกลายเป็นมือปริศนานี่ได้?
เกิดเหตุกระไรขึ้นกันแน่?
มือเล็กป้อมพยายามยกขึ้นเปะปะเมื่อเริ่มชินกับแสงอันรำไร
ดวงตาน้อยจึงค่อยๆ เปิดออกก่อนต้องตกใจกับสิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า
ไยมือกูถึงย่อส่วนจนเล็กจ้อยปานนี้
คุณพระศรีฯ เกิดสิ่งใดขึ้นกับไอ้หิน?
ปากน้อยพยายามร้องถามแต่สิ่งที่ออกมากลับยิ่งทำได้ชายฉกรรจ์ในร่างทารกแทบลมจับ
หวาดหวั่นยิ่งกว่ากาลก่อนที่ตนกำลังถูกบั่นหัวเสียอีก
“แอ้ ๆ”
ก็ด้วยเสียงที่ตนเปล่งออกมา ราวกับลิ้นจุกคอหอยอย่างไรอย่างนั้น
เกิดเหตุวิปริตใดกับกูกัน?
*********************************
ตัวอย่าง
ปาก หญิงสาวอดดัดเสียงล้อเลียนอยู่คนเดียวไม่ได้“อาบน้ำ”
น้ำก็อยู่แค่นี้นายเป็นง่อยรึไงถึงต้องเรียกใช้แต่คนอื่น ค่าตอบแทนก็ไม่ได้ซักแดง
“ฉันย่างปลา” ปฏิเสธเสียงหวาน
แต่คนด้านในไม่คิดนำพาซ้ำเสียงยังเข้มกว่าเดิมหลายส่วน “ข้าจะอาบน้ำ”
“ได้!” คำแรกเปล่งออกมาอย่างหวานหยด “เจ้าข้าๆบ่าวจะรีบไปเดี๋ยวนี้แล้ว”แต่ประโยคภาษาไทยด้านหลังกลับเต็มไปด้วยความประชดประชัน
วางปลาเสียบไม้ลง เดินถือถังใบน้อยไปตักน้ำก่อนหยิบหวีกับผ้าสะอาดเข้าไปด้านใน
ใจอยากบีบคอเเข็งๆให้หักคามือ แต่ใบหน้ากลับยิ้มระรื่น
ลงมือปลดเสื้อเนื้อหนาเรียบลื่นแต่ละชั้นออกจนเผยกล้ามเนื้อหนั่นแน่นเรียบเนียน
สีจางกว่านอกร่มผ้าเล็กน้อย
ทุกครั้งที่เห็นร่างเปลือยเปล่าของเขาแม้เป็นแค่ท่อนบน
ลมหายใจของเธอมักติดขัด แน่นอกจนสูดอากาศลำบาก ใบหน้าและร่างกายสะบัดร้อนสะบัดหนาวราวจะจับไข้ทุกที
โชคดีมีผ้าปิดหน้าไว้ไม่อย่างนั้นเธอต้องอับอายแทบแทรกแผ่นดินหนีแน่
หากเขารู้ว่าหัวใจดวงน้อยๆแอบตื่นเต้นสะเทิ้นอายไปกับแผ่นอกเต็มตึง
ซิกแพคเรียงสวยตรงหน้า
หญิงสาวไม่อยากมัวเสียเวลา กลัวอาการของสาวน้อยพึ่งเคยแตะต้องร่างกายผู้ชายจะหลุดออกมาให้อับอายเล่น
จึงเร่งมือ เช็ดหน้าเช็ดตา ก่อนตามมาด้วยแขนได้ทรงสวยมีหมัดกล้ามสมส่วน
มือหยาบสองข้าง
แผ่นหลังกว้างเหยียดตรงปีกบ่าสองข้างหนาอย่างคนออกกำลังกายหนักอยู่เป็นประจำ
ตบท้ายด้วยแผงอกที่ทำให้พวงแก้มน้อยสุกปลั่งแทบมอดไหม้ เธออยากเขกกะโหลกตัวเองนัก
เพราะความคิดกับร่างกายมักทำงานส่วนทางกันตลอด ท่องไว้ยัยสิตานี่เป็นคนถ่อยไร้ความเป็นสุภาพบุรุษ
จะมาหน้าแดงเพียงเพราะร่างกายของเขาไม่ได้!
ครู่เดียวก็เช็ดตัวเสร็จกำลังดึงเสื้อสวมกลับที่เดิม
เสียงเข้มก็เอ่ยสั่งออกมาอีกครั้ง“อาบให้หมด”
“อาบ?” เอ่ยทวนอย่างไม่ค่อยเข้าใจ
มองตามดวงตาสีเข้มที่เลื่อนไปหยุดอยู่ท่อนล่าง “หา!พูดบ้าๆ”
กานต์สินีอุทานลั่นหน้าเหวอ กระถดตัวถอยหนีแทบไม่ทัน
หานหลิงจ้องนางนิ่งไร้แววหยอกเอินอย่างเห็นได้ชัด
ดวงตาเงียบขรึมหรี่ลงเล็กน้อย รอบกายแผ่ไอความกดดันทำสตรีด้านข้างตัวสั่นเยือก
แต่ยังคงสะบัดหน้าระรัวยืนยันปฏิเสธอย่างแข็งขืน
“ชายหญิง ไม่ เข้าใกล้”อยากพูดว่าชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน
ก็ได้แค่ดัดมาเป็นคำ ๆให้พอเข้าใจ ความอึดอัดเล่นขึ้นหน้าเมื่อไม่สามารถสื่อสารอย่างที่ใจต้องการได้
พูดกันไม่รู้เรื่องแบบนี้หนีก่อนดีกว่า
ร่างน้อยผละจากชายหนุ่มจะพุ่งออกจากกระโจม
กลับถูกมือหยาบจับต้นเเขนเล็กดึงเข้าหาจนเกือบล้มซบอกเปลือย
ยังดีที่เธอขืนตัวไว้ได้ทัน แม้ใจจะเริ่มมีโทสะขึ้นมาหน่อยๆก็ยังต้องคุมน้ำเสียง
ให้รื่นหูคนตรงหน้าเท่าที่จะทำได้ “ส้าวเหยี่ยปล่อย!”พยายามขืนตัวออก
“อาบให้หมด” หานหลิงยังคงย้ำคำเดิม
ยิ้มเย้ยในใจกับประโยคที่นางต้องการบอกว่า
‘ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน’ถึงอย่างนั้นก็อดชมเชยไม่ได้
คงเพื่อความอยู่รอดจึงได้ตั้งใจปรับตัวและเรียนรู้คำพูดของโลกนี้
กระทั่งตอบโต้ปฏิเสธเขาได้เป็นวรรคเป็นเวร
ไอ้บ้า!ที่บ้านสอนให้พูดอยู่คำเดียวรึไง
ได้ยินแล้วควันแทบออกหู ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งบวกลบแล้วหากขัดใจเขาผลเสียคงมากกว่าดี
จึงแย้มยิ้มเหือดแห้งส่งให้ เอ่อบอกเสียงประนีประนอม“ได้ ส้าวเหยี่ย
นั่งก่อน”มือน้อยนุ่มนิ่มค่อยๆแกะมือใหญ่ออกจากแขน
จากนั้นปลดผ้าคลุมผืนใหญ่ออกนำมามัดไว้รอบเอวสอบ
คลี่ผ้าให้คลุมลำตัวท่อนล่างปิดบังสิ่งไม่พึงประสงค์
ซึ่งอาจติดตาเป็นฝันร้ายจนตายหากบังเอิญเห็นเข้า
ดวงตาซื่อใสทอประกายน้อยๆ
พร้อมเอ่ยเสียงหวานสรรเสริญถึงร่างกายอันองอาจสมชาย มือก็ล้วงเข้าไปปลดเชือกกางเกงแต่ละชิ้นออกมา
“ไอ้โรคจิตจอมสั่ง รู้หรือเปล่าที่บ้านฉันเขาเรียกว่าเผด็จการ สั่ง ๆ ๆ
สั่งอยู่นั่น ในอนาคตนายจะต้องเป็นง่อยสักวัน สุภาพบุรุษสะกดเป็นไหม
โขกสับผู้หญิงงกๆแบบนี้ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่รึเปล่า!”
หากข้าหาใช่ลูกผู้ชาย เอ็งจักยังมีชีวิตมานั่งปากว่าตาขยิบอยู่ตรงหน้าได้เยี่ยงไร?
คิ้วเข้มทรงกระบี่กระตุกเร้าๆ
กรามขึ้นสันนูนอย่างอดทนอดกลั้น ดวงตาเรียบนิ่งไร้ระลอกคลื่นใดๆ
ทำเพียงมองใบหน้าครึ่งซีกของนาง ปากอิ่มพยับเผยิบชั่งสรรหาวาจาเชือดเฉือน
แม้ความหมายบางคำบุรุษชาวกรุงศรีฯอย่างเขามั่นใจว่าร่ำเรียนมาไม่น้อยยังจนปัญญาจะรู้ความนัย
แต่ใจความสำคัญที่นางจะบอกเขาก็ล้วนกระจ่างทั้งสิ้น
โรคจิต จอมสั่ง ต้องเป็นง่อย คือกระไรกัน?
บรรยากาศภายในอบอวลไปด้วยความอึดอัด
เย็นสันหลังจนกานต์สินีต้องถอนหายใจหนัก
เม็ดเหงื่อผุดพรายเต็มหน้าผากเอี้ยวตัวไปขยี้ผ้าในถัง
บิดหมาดๆจึงค่อยหันกลับมาทำตามเดิม
มือเล็กกำผ้าผืนน้อยไว้แน่น
มองไล่ไปตามท่อนขายาวในผ้าคลุมผืนใหญ่ ใจได้แต่ท่องพุทโธ ธัมโม สังโฆ
กลืนน้ำลายหนืดๆอย่างใจคอไม่ดี เวรกรรมอะไรของเธอต้องกลายมาเป็นเบ้ไม่พอ
ยังถูกบังคับให้ทำเรื่องบ้าๆแบบนี้อีก นี่มันเข้าข่ายล่วงละเมิดทางเพศนะ
เสียดายหากอยู่ในโลกของเธอแม่จะแจ้งจับเสียให้เข็ด ฮึย!ขัดใจ
หานหลิงมองสายตากระอักกระอ่วนกลืนไม่เข้าด่าไม่ออกของสตรีตรงหน้า
ตะกอนคุกรุ่นแปรเปลี่ยนเป็นความรื่นรมย์เอื้อมมือปลดผ้าปิดหน้าผืนน้อยออกมาอย่างต้องการกลั่นแกล้ง
“นี่ จะทำอะไรของนาย!”
ลืมตัวแหวลั่นแยกเขี้ยวใส่เมื่อจู่ ๆ เขาก็ถือวิสาสะมายุ่มย่ามกับหน้าเธอ
พวงแก้มสุกปลั่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ทำหานหลิงหายใจสะดุดเล็กน้อยจนต้องควบคุมอากาศให้เข้าออกสม่ำเสมอ
โคจรกำลังภายในเพื่อควบคุมชีพจรให้เต้นเป็นปกติ
ไม่ให้จิตมารพลุ่งพล่านจนสร้างความอับอายให้แก่ตนเอง
บรรยากาศยิ่งชวนอึดอัดไม่น่าไว้ใจกว่าเดิมจนกานต์สินีต้องเร่งจัดการกับท่อนล่าง มือเล็กดึงผ้าจะปิดหน้าไว้เช่นเดิมกลับถูกเขาปัดมันออก
ขัดเคืองแต่ไม่สามารถทำอะไรได้จำใจต้องกัดฟันทนหน้านิ่วคิ้วขมวด
ไม่คิดต่อความยาวสาวความยืดมากกว่านี้
เร่งลากผ้าผืนน้อยไปตามท่อนขาเเข็งแน่นตึงไปทุกส่วน
โดยเว้นบริเวณที่ให้ตายยังไงเธอก็ไม่อาจขยับมือเข้าไปเฉียดใกล้ ใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นแทบหลุดออกมาจากอก ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นสีระเรื่ออย่างไม่รู้ตัว
พยายามทำหน้าให้เคร่งขรึมจริงจัง แต่ปลายจมูกโด่งรั้นแดงก่ำกลับทรยศเสียอย่างนั้น
ลำคอของหานหลิงแห้งผากจนต้องเลียริมฝีปากทุกครั้งที่ลากสายตาผ่าน
ราวกล้ามเนื้อทุกสัดส่วนตอบสนองต่อฝ่ามือน้อยที่ลากไล้ไปตามท่อนขา เปลวเพลิงวูบวาบลามเลียไปทั่วกายใหญ่
ดวงตาแฝงความเย็นชาวูบไหวราวระลอกคลื่นแต่เพียงครู่เดียวก็จางหาย
“กรี๊ด! ลามก ไปตายซะไอ้โรคจิต”
เสี้ยววินาทีที่หานหลิงตกอยู่ในภวังค์ จู่
ๆเสียงแหลมเล็กก็กรีดสนั่น ผ้าเปียกชื้นถูกปากระแทกหน้าเขาอย่างจัง
ก่อนนางจะผลุนผลันออกจากกระโจมราวหวาดผวากับบางอย่าง
มือหยาบหยิบผ้าบนหัวหมิ่นเหม่จะตกนั้นออก เลื่อนสายตาพินิจร่างกายตนอีกครั้ง
ก่อนลมหายใจจะพรั่งพรูออกมาหนักหน่วง กรามสองข้างบดเข้าหากันจนได้ยินเสียงกรอด
เกิดข้อกังขาขึ้นกับตนเอง
หรือเดี๋ยวนี้การโคจรควบคุมจังหวะชีพจรของตนถดถอยลง
บางอย่างถึงได้หักหลังตื่นเพริดขึ้นมาให้อับอายขายหน้าสตรีเช่นนี้!
*********************************
ชี้แจงค่ะ
มาเปิดเรื่องไว้ก่อน อีกไม่เกินอาทิตย์หนึ่งก็น่าจะได้อ่านกันแล้วค่ะ เนื่องจากทางผู้เขียน ทำงานประจำ,เรียนด้วย การอัพจึงแล้วแต่สถานการณ์ ไม่สามารถบอกได้ว่า จะอัพทุกวันหรือ เวลาไหนนะคะ
อีกหนึ่งเรื่องที่อยากชี้แจงค่ะ คือเรื่องนี้เป็นนิยายจีนเรื่องแรก คำพูดภาษาผิดเพี้ยนยังไงสามารถแนะนำกันได้นะคะ และนิยายเรื่องนี้ต้องขอความร่วมมือกับนักอ่าน โปรดใช้จิตนาการที่ฟ้าประทานมาคิดตาม และมโนไปเองด้วยนะคะ เพราะบางอย่างไรท์จะไม่เฉลยออกมาโต้งๆ จะให้เอาไปคิดเองค่ะ
และเหมือนเคย เเต่งให้อ่านฟรีจนถึงตอนจบ เว้นตอนพิเศษนะคะ ถ้าอ่านแล้วคิดว่าถูกใจและอยากให้กำลังใจผู้เขียนก็สามารถเข้าไปอุดหนุนกันได้น้า
ปล.เรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกันน้า
เล่มหนึ่งออกแล้วนะคะ มาอุดหนุนนักเขียนกันด้วยน้า
|
ผลงานอื่นๆ ของ สัตบงกช(อนาคตอาจเปลี่ยน) ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สัตบงกช(อนาคตอาจเปลี่ยน)
ความคิดเห็น