คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : ตอนที่ 21++ชายพเนจร++
หลังกินมื้อเช้าเสร็จ ไหมซีขอกลับไปดูพ่อที่บ้าน เวียงพิงค์ก็ขอแยกย้ายกลับห้องมาเช็กอีเมลเรื่องงานไปพลาง ๆ เสร็จงานแล้วก็ลองเข้าเว็บพิมพ์หาชื่อ ‘หมอชล’ กับ ชื่อ ‘เน้ง’ ที่ได้ยินมาเมื่อคืน โดยใส่คีย์เวิร์ด ‘สมรภูมิเขาค้อ’ รวมเข้าไปด้วย แต่ก็ไม่มีข้อมูลอะไรน่าสนใจขึ้นมา
เมื่ออินเตอร์เน็ตไม่สามารถตอบคำถามอะไรหล่อนได้ เวียงพิงค์จึงคิดว่าคงจะต้องกลับไปที่ต้นเรื่อง หล่อนยื่นหน้าออกมาดูที่ระเบียง ดูลาดเลาเสียก่อน เห็นอวัศย์ใส่เสื้อกล้ามออกมายืนคุมคนงานก่อสร้างกลางแดดเปรี้ยง และไม่ได้คุมอย่างเดียว บางทีเขาก็ลงมือทำด้วย หล่อนดุนลิ้นครุ่นคิด เขากำลังวุ่นกับงานคงไม่มีเวลามาจับผิดหล่อน เวลานี้ละเป็นเวลาดีที่สุด
เวียงพิงค์กลับเข้าไปเอาหมวกแล้วย่องออกมาจากบ้านพัก ใครมาเห็นตอนนี้ก็อาจคิดว่าหล่อนเป็นขโมย เพราะทำท่าลับ ๆ ล่อ ๆ ร่างโปร่งบางเดินลัดเลาะ ใช้บ้านพักแต่ละหลังเป็นกำบัง พยายามไม่ให้ใครเห็น จนเลาะไปถึงชายป่าได้ในที่สุด
“เน้ง เธออยู่แถวนี้หรือเปล่า” หล่อนร้องเรียกแต่ไม่กล้าทำเสียงดังนัก ดวงตาก็คอยสอดส่องมองหาชายชุดเขียวไปด้วย
“ว้าย !” เวียงพิงค์ตะครุบปากกั้นเสียงร้องไว้ไม่ทัน เมื่อหันหลังกลับมาพบชายคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังของหล่อนอยู่ก่อนแล้ว และไม่ใช่คนที่หล่อนตามหาด้วย
เวียงพิงค์จำได้ เขาคือชายพเนจรที่หล่อนเจอเมื่อวันแรกนั่นเอง วันนี้เขาอยู่ในสภาพซอมซ่อกว่าครั้งแรกที่พบ เขาย่างสามขุมเข้ามาทำให้เวียงพิงค์ต้องย่างเท้าถอยอย่างระแวง
“อย่าเข้ามานะ” เมื่อหล่อนขู่เสียงฟ่อชายผู้นั้นก็ไม่ได้รุกคืบเข้ามาอีก แต่กลับทำสิ่งที่เวียงพิงค์ไม่ได้คาดฝัน
“หิว...ขอข้าว” เขานั่งยอง ๆ ยกมือไหว้ปลก ๆ
หญิงสาวอ้าปากค้าง มองภาพตรงนั้นด้วยอาการงงงัน
เมื่อตั้งสติได้แล้วหล่อนจึงถาม “คุณลุงหิวเหรอคะ”
เวียงพิงค์กล้าจะก้าวเข้าไปใกล้อีกก้าวหนึ่ง แต่ยังทิ้งระยะห่างพอให้วิ่งหนีได้ทันหากเกิดอะไรขึ้น เมื่อชายพเนจรหยักหน้าหงึก ๆ หล่อนจึงรีบบอกว่า
“คุณลุงรออยู่ตรงนี้แป๊บนึงนะคะ เดี๋ยวหนูมา”
ไม่รู้ว่าเขารู้เรื่องและเข้าใจหรือไม่ หล่อนรีบวิ่งกลับไปที่บ้านพัก หยิบกระเป๋าสัมภาระมาค้นหาของกิน โชคดีที่เวียงพิงค์มักติดขนมของกินเล่นแก้วหิวไว้ในกระเป๋าเสมอ ค้นเจอสามชิ้นแล้วก็คว้าขวดน้ำที่หัวเตียงวิ่งกลับเข้าป่าไปอีกครั้ง หล่อนยิ้มเมื่อเห็นชายพเนจรนั่งอยู่ที่เดิม ท่าทางเขาอ่อนเปลี้ยมากจริง ๆ
“มาแล้วค่ะคุณลุง” หล่อนยื่นห่อขนมให้
“หนูไม่มีข้าวนะคะ มีแต่พวกขนมที่ติดกระเป๋า คุณลุงกินได้ไหม” ยังไม่ทันถามจบประโยค ชายพเนจรก็แกะซองเสร็จกัดกินเวเฟอร์ชิ้นแรกหมดไปครึ่งชิ้นแล้ว
เวียงพิงค์อมยิ้มกับท่าทางหิวโหย เห็นเขาเร่งกินเร่งกลืนแทบไม่เคี้ยวก็รีบส่งน้ำให้
“ดื่มน้ำค่ะ เดี๋ยวติดคอ”
ชายสูงวัยรับไปดื่มพรวด ๆ นอกจากหิวข้าวแล้วท่าทางจะกระหายน้ำมากอีกด้วย เวียงพิงค์สังเกตเขา อายุอานามก็น่าจะเกินหกสิบไปแล้ว เมื่อเติมหนวดเคราสีหงอกยาวรุงรังกับเสื้อผ้าสกปรกมอมแมมเข้าไปอีกยิ่งทำให้เขาดูชรามาก
“คุณลุงยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้าเหรอคะ” หล่อนถามเสียงอาทร ยกมือเท้าคางนั่งมองชายชรากินขนมหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว
ชายพเนจรเคี้ยวคำสุดท้ายตุ้ย ๆ พลางชูสองนิ้ว
“ขอสองอันเหรอคะ ไม่มีแล้วค่ะ หนูมีแค่นี้”
ชายพเนจรส่ายหน้าไหว ๆ เขย่ามือที่ยกสองนิ้วแรง ๆ
“กินข้าว สองวันที่แล้ว” เขาอธิบายเพิ่มเติมหลังจากกลืนขนมลงคอไปแล้ว
เวียงพิงค์จึงถึงบางอ้อ
“อ๋อ คุณลุงกินข้าวมื้อสุดท้ายเมื่อสองวันที่แล้ว”
เขาพยักหน้าหงึก ๆ หยิบซองเปล่าขึ้นมาเลียเศษขนมชนิดว่าสิ้นซาก
“คงจะหิวมากเลยใช่ไหมคะ” เวียงพิงค์นึกเวทนา หล่อนอดข้าวมือเดียวก็หิวไส้กิ่วแล้ว ยังไม่เคยอดข้าวข้ามวันเสียที
“แล้วจะอิ่มไหมคะเนี่ย เดี๋ยวหนูไปหาอะไรให้เพิ่มดีกว่า” หล่อนตั้งท่าจะลุก แต่ชายชราโบกมือไม่เอา หล่อนจึงนั่งลงตามเดิม
ดูเหมือนเขาจะพอใจกับสิ่งที่ได้รับแล้ว มานึกดูเวียงพิงค์ก็ไม่รู้ว่ากลัวอะไรเขา ถึงได้ร้องตกใจตั้งแต่เห็นครั้งแรก คงเป็นเพราะรูปลักษณ์ภายนอก
แม่เคยสอนว่าอย่ามองคนแต่เปลือก เวียงพิงค์เคยคิดว่าตนทำตามคำสอนของแม่มาตลอด แต่เอาเข้าจริงแล้ว เปลือกภายนอกของผู้คนก็คือสิ่งชักนำความรู้สึกนึกคิดของเราไปก่อนอย่างอื่น ลองว่าได้นั่งพูดคุยทำความรู้จักกันแล้ว ชายผู้นี้ก็ไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่คิด
+++++++++++++++++++++++++++
E-book พร้อมโหลดที่นี่ค่ะ
|
|
ความคิดเห็น