คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 20++Sleeptalking Sleepwalking++
ภาค 2 หมดโพรโมชันคืนนี้ (11 กันยา 64) แล้วนะคะ
อย่าพลาดราคาพิเศษน้า จะไม่ได้เห็นราคานี้อีกหลายปีเลยค่ะ
+++++
เวียงพิงค์หน้าร้อนฉ่า ไม่รู้ว่าเขาได้ยินหล่อนคุยกับเน้งด้วย โธ่ !... ก็เขามาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ไม่ให้ซุ่มให้เสียงสักนิด
“ได้สิคะ คนนอนพูดละเมอมีเยอะแยะไป พี่วัศย์ไม่เคยเห็นเหรอคะ” หล่อนแก้ตัวเกือบจะลื่นไหล แต่ก็ยังฟังติดขัดในความรู้สึกของชายหนุ่ม
เขาหรี่ตามองหล่อนอย่างจับพิรุธ...ใช่ เขาเห็นหล่อนมาตั้งแต่ต้น เพราะตอนที่เวียงพิงค์เดินลงจากระเบียงห้องพัก เขากำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงบ้านตัวเอง บ้านสองหลังมองเห็นถึงกันได้ เมื่อเห็นหล่อนแล้วเขาก็ตัดสินใจเดินตามออกมาดูว่าหล่อนจะไปไหนกันแน่ คราวนี้ไม่ทำให้รู้ตัวก่อนแต่จับดูอาการของหล่อนตั้งแต่ต้นจนจบ
“สรุปว่า คุณมีทั้งอาการ Sleeptalking และ Sleepwalking เลยเหรอ”
“ค่ะ” เวียงพิงค์พยักหน้าหงึก ๆ
“คุณไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกมาเลย” ชายหนุ่มซักต่อ
“ไม่รู้เลยค่ะ พี่วัศย์ได้ยินพิ้งค์พูดเหรอคะ พิ้งค์พูดว่าอะไรบ้าง”
อวัศย์หรี่ตา สีหน้าซื่อ ๆ กับดวงตาวาวใสนั้นถ้าไม่ตั้งสมาธิให้ดีเขาก็คงคล้อยตามหล่อนได้ง่าย
“ได้ยินแว่ว ๆ จับความได้ไม่ค่อยชัด”
เวียงพิงค์เกือบจะเป่าปากออกมาแล้วเพราะความโล่งใจ ดีที่ยั้งไว้ทันไม่อย่างนั้นเขาต้องเห็นแน่
“คนละเมอก็อย่างนี้ละค่ะ แม่เคยได้ยินพิ้งค์ละเมอพูดก็บอกว่าฟังไม่ได้ศัพท์ พึมพำงึมงำอะไรก็ไม่รู้” หล่อนยกเหตุผลขึ้นมา
แต่อวัศย์ไม่คล้อยตามนัก เพราะท่าทางของหล่อนตอนยืนพูดอยู่คนเดียวในป่า ไม่เหมือนคนไม่มีสติเลย อวัศย์จับจุดผิดสังเกตเก็บความสงสัยไว้เต็มหัว แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีหลักฐานอื่นใดจะต้อนให้จำเลยจนมุมได้ จึงต้องเอ่ยออกมาว่า
“ถ้ามันเป็นอาการละเมอจริง ๆ ผมว่าคุณควรไปหาหมออีกครั้งนะ ปล่อยไว้แบบนี้อันตรายมาก”
“ค่ะ กลับบ้านเมื่อไหร่ พิ้งค์จะรีบไปตรวจ” หญิงสาวรับคำแข็งขัน โล่งใจที่เขาทำท่าเหมือนจะเชื่อหล่อนแล้ว เมื่ออวัศย์ไม่พูดอะไรต่อ หล่อนยืนบิดมืออยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยถามอ้อมแอ้มว่า
“เอ่อ พิ้งค์ไปได้หรือยังคะ”
“ยัง” เขาตอบมาห้วน ๆ แล้วก็เดินเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้เวียงพิงค์ยืนงงอยู่ตรงนั้น จะกลับก็ไม่กล้าเพราะเขาบอกว่ายังไปไม่ได้
รออย่างไม่เป็นสุขอยู่พักหนึ่งเขาก็กลับออกมา ถืออะไรอย่างหนึ่งมายื่นให้หล่อนด้วย
“ก่อนเข้านอนคุณได้ใส่โซ่คล้องประตูหรือเปล่า” เขาถามก่อน
“ใส่ค่ะ” เวียงพิงค์ตอบไปตามจริง
“แสดงว่าตอนละเมอนี่สามารถปลดโซ่คล้องเองได้ด้วย”
เวียงพิงค์ไม่กล้าตอบคำถามนี้ กลัวเขาจับพิรุธได้
อวัศย์จึงพูดต่อว่า “ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องแก้ปัญหา จะปล่อยให้คุณออกมาเดินเพ่นพ่านกลางดึกไม่ได้อีกแล้ว
พรุ่งนี้ผมจะสั่งให้ช่างไปติดกลอนที่ประตูเพิ่มแต่เช้า แล้วตอนเข้านอนคุณเอากุญแจชุดนี้ล็อกให้เรียบร้อย ลูกกุญแจก็เก็บใส่ลิ้นชักไว้ให้มิดชิด ถ้ามีอาการละเมอลุกขึ้นมาอย่างน้อยก็จะได้เปิดประตูออกจากห้องไม่ได้ เพราะคนละเมอจริงคงไม่มีสตินึกรู้ว่าต้องไปเปิดลิ้นชักเอากุญแจที่ไหนหรอก จริงไหม”
เวียงพิงค์สะอึก แล้วก็ตอบว่า “ค่ะ”
หล่อนเอื้อมมือออกไปรับกุญแจอย่างเกร็งๆ รู้สึกเหมือนถูกเขาดักทางด้วยน้ำเสียงแปร่งๆ ในตอนท้าย รับของมาแล้วหล่อนก็ไม่กล้าขยับ ได้แต่ยืนงุดหน้ามองพื้น
“ไปได้แล้ว” ในที่สุดอวัศย์ก็เอ่ยออกมา
“ขอบคุณค่ะ” เวียงพิงค์ยกมือไหว้ลาแล้วหมุนตัวเดินดุ่มๆ กลับบ้านพัก ไม่เหลียวหลังกลับมามองเลย
++++++++++++++++++++++++++
|
|
ความคิดเห็น