คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 13++อนล พรหมมณี++
แจ้งข่าว
เรื่องเจ้าบ่าวมือสอง มีโพรโมชันราคาเบา ๆ ถึงวันที่ 8 กันยา 64 นี่้ค่า
สนใจคลิกที่รูปหรือลิงก์ด้านล่างตอนได้เลยนะคะ
+++++++++++++++
ไหมซีพาเพื่อนและพี่ชายก้าวเข้าไปในตัวอนุสรณ์สถาน อาคารใต้แท่งสามเหลี่ยม ทั้งหมดต้องถอดรองเท้า เมื่อฝ่าเท้าเปล่าเปลือยสัมผัสกับพื้นหินอ่อนเย็นเฉียบ เวียงพิงค์รู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่อากาศด้านนอกค่อนข้างอบอ้าว แต่บรรยากาศด้านในกลับให้ความรู้สึกเย็นยะเยือก
“นี่ไงรายชื่อผู้เสียชีวิต ยาวไปถึงนู่น”
เวียงพิงค์มองไปรอบทิศทาง มีป้ายหินอ่อนสลักติดกับผนังล้อมหล่อนไว้ทั้งสามด้าน ละลานตาไปหมด ไม่น่าเชื่อว่าทั้งหมดนี้คือรายชื่อผู้เสียชีวิตในสมรภูมิเขาค้อ
“เยอะมากจริง ๆ ด้วย” สาวชาวกรุงก้าวเข้าไปอ่านที่แผ่นหินอ่อนสลักแผ่นต้นๆ สลักหัวข้อว่า ‘รายนามผู้เสียชีวิต’ เรียงไปเป็นลำดับปีพุทธศักราช
“ตั้งแต่ พ.ศ.2511 เลยเหรอ” เวียงพิงค์ถามพลางแหงนหน้าอ่านอย่างตั้งใจ
“ก็ตายกันมาเรื่อย ๆ รบกันเป็นสิบ ๆ ปีนี่นะ นี่ไง ข้อมูลที่เราจำไม่ได้ ฐานอนุสรณ์กว้าง 11 เมตร ซึ่งมาจากปี พ.ศ.ที่เริ่มมีการปฏิบัติการรุนแรงของ ผกค.ในพื้นที่นี้”
เวียงพิงค์พยักหน้ารับฟัง พลางตั้งข้อสังเกตว่า “งั้นทางฝั่งนู้นก็คงสูญเสียไม่น้อยเหมือนกันเนอะ”
รายนามผู้เสียชีวิตที่เห็นนี้มีเฉพาะฝ่ายเดียว สำหรับทางฝ่ายผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์จะมีการจารึกรายชื่อไว้เป็นเรื่องเป็นราวอย่างนี้หรือไม่เวียงพิงค์ก็ไม่แน่ใจ
ทั้งสามแยกย้ายอ่านรายชื่อตามป้ายหินอ่อน ยืนกันคนละมุม เวียงพิงค์ไล่มาจนถึงแผ่นท้าย ๆ สะดุดตรงชื่อ ‘อส.ทพ.อนล พรหมมณี’
เวียงพิงค์เอียงคอคิด...เคยได้ยินที่ไหนนะ
“พิ้งค์ !”
เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงเรียก หันมาทำหน้าเหลอหลาจึงเห็นเพื่อนจ้องมองมาด้วยสีหน้าสงสัยอยู่ก่อนแล้ว
“เป็นอะไร เรียกตั้งนานไม่หัน” ไหมซีเรียกมาจากมุมหนึ่ง
เวียพิงค์ได้สติกลับมา และเมื่อมองไหมซีแล้วก็มองเลยไปยังอวัศย์ที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง เขาหันมามองตั้งแต่ตอนไหมซีเปล่งเสียงเรียกเพื่อนดังพอสมควร
เวียงพิงค์กลืนน้ำลาย จู่ ๆ ทำไมถึงขนลุกเกรียวขึ้นมาอีกแล้ว...
ราวกับเวลาหยุดหมุน หล่อนกับเขาสบตากัน ดูเหมือนเนิ่นนานในความรู้สึก แต่ในความเป็นจริงแล้วจะนานเท่าไหร่ก็ไม่ทราบ รู้ตัวอีกทีไหมซีก็ก้าวเข้ามาถึงตัว
“ดูอะไรอยู่ เจอชื่อคนรู้จักหรือไง” ไหมซีเห็นเพื่อนยืนจ้องป้ายหินอ่อนแผ่นนี้อยู่เป็นนาน เรียกตั้งหลายทีก็ไม่ขานรับ
เวียงพิงค์หันกลับไปอ่านชื่อนามสกุลนั้นอีกครั้งแล้วก็ยิ้มแห้ง ๆ
“เปล่าจ้ะ” ตอบทั้งที่ชื่อ ‘อนล พรหมมณี’ ยังคงก้องอยู่ในหัว นึกยังไงก็นึกไม่ออก แต่คุ้นมากจริง ๆ
“ในนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วละ ออกไปดูตรงฐานกรุงเทพกันไหม” เจ้าถิ่นชวน
เวียงพิงค์พยักหน้า ระหว่างเดินออกมาผ่านหน้าอวัศย์พอดี หล่อนกับเขาสบตากันและเป็นเวียงพิงค์ที่หลบตาก่อน นี่ไม่ใช่การสบตากันครั้งแรกแต่เวียงพิงค์รู้สึกถึงความแตกต่างกว่าทุกครั้ง เหมือนมีกระแสอะไรบางอย่างส่งถึงกัน หล่อนอธิบายไม่ได้ว่ามันคืออะไร
เดินออกมาจากอนุสรณ์สถาน เจอแดดช่วงสาย อาการหนาวยะเยือกของเวียงพิงค์เมื่อครู่นี้ก็ค่อยคลายลง สองสาวเดินคู่กันออกไปยังฐานกรุงเทพ โดยมีอวัศย์เดินตามมาห่าง ๆ ตรงนั้นเป็นจุดชมวิวด้วย มีหลุมหลบภัย กระสอบทรายบังเกอร์อย่างที่ทหารใช้ตอนรบ ประชาชนสามารถเยี่ยมชมและถ่ายรูปได้
“ฐานกรุงเทพ แล้วทำไมมาอยู่บนเขาค้อ” เวียงพิงค์ถามเพื่อนด้วยความสงสัย
ไหมซีถึงกับระเบิดหัวเราะ
“เฮ้ย เราก็เคยถามลุงยศแบบนี้ ลุงบอกว่าเป็นชื่อเรียกทางวิทยุ เป็นฐานที่มั่นของฝ่ายทหารรัฐบาลนี่แหละ ยังมีบรรยากาศจำลองให้เราดูอยู่ด้วย วิวสวยด้วยนะ ไปถ่ายรูปกัน”
“ไหมนี่รู้อะไรเยอะเหมือนกันนะ รู้มากกว่าลูกทหารอย่างพี่ด้วยซ้ำ” เสียงทุ้มห้าวแทรกขึ้นมา เรียกให้สองสาวหันไปมอง ก็นานทีเขาจะพูดออกมา ส่วนใหญ่แล้วเดินตามเงียบ ๆ เป็นผู้ร่วมคณะที่พูดน้อยเสียจนบางทีคนมาด้วยกันก็ลืมว่ามีเขาอยู่อีกคน
“แหม ก็ไหมอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดนี่คะ ถ้าไม่รู้จักบ้านเกิดเมืองนอนตัวเองแล้วจะให้ไปรู้จักที่ไหนล่ะ”
++++++++++++++++++++
|
|
ความคิดเห็น